ประวัติพระหฤทัยของพระเยซูและพระแม่มารีอา

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 12, 2021 6:42 pm

+ ประวัติพระหฤทัยของพระเยซูและวันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า

เชื่อว่าคงไม่มีชาวโรมันคาทอลิกคนไหนที่ไม่รู้จักกับคำว่า"พระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า"
(Most Sacred Heart of Jesus)อย่างแน่นอน ซึ่งพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นการอุทิศตนด้วยความศรัทธาของศาสนจักรโรมันคาทอลิกอย่างหนึ่ง โดยอุทิศมุ่งเน้นว่าพระหฤทัยนั้นเป็นสัญลักษณ์ความรักของพระองค์ที่ทรงมีต่อมนุษย์

วันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าจะมีขึ้นในวันที่ 19 หลังวันเพนเตคอสต์(วันสมโภชพระจิตเจ้า) ซึ่งตรงกับวันศุกร์นั่นเอง
เรื่องพระหฤทัยนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระวรสารในบทต่างๆและเริ่มมีเหล่าปิตาจารย์ยุคแรกๆหลายท่านกล่าวเรื่องความหมายของพระหฤทัยไว้อย่างชัดเจนดังเช่น นักบุญจัสตินมรณสักขี(St.Justin the Martyr ค.ศ.100-165)ได้กล่าวไว้ในเอกสารชื่อ"Dialogue with Trypho" ซึ่งเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับการสนทนาระหว่างนักบุญจัสตินกับชาวยิวเพื่อแสดงให้เห็นว่าคริสตศาสนานั้นเป็นพระบัญญัติใหม่สำหรับมนุษย์ทุกคนและยืนยันจากพระวรสารว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิอาห์ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 1-2

ท่านกล่าวว่า"เราชาวคริสเตียนเป็นอิสราเอลที่แท้จริงซึ่งกำเนิดมาจากพระคริสต์ เพราะเราสลักพระหฤทัยของท่านออกมาเฉกเช่นก้อนหิน"

เช่นเดียวกันกับนักบุญอิเรเนอุสแห่งลียง(St.Irenaeus of Lyons ค.ศ.130-202) ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า"ศาสนจักรเป็นธารน้ำพุแห่งน้ำของชีวิตที่ไหลมาสู่เราจากพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า" และมีปิตาจารย์ยุคแรกคนอื่นๆอีกหลายท่านที่กล่าวซึ่งรวมไปถึงนักบุญทางคาทอลิกหลายองค์ในยุคกลาง เช่นนักบุญเบอร์นาร์ดแห่งแกลร์โว(St.Bernard of Clairvaux ค.ศ.1090-1153) นักบุญแอนเซล์มแห่งแคนเทอร์เบอรี่(St.Anselm of Canterbury ค.ศ.1033-1109)

ช่วงยุคกลางนี้เองที่การอุทิศตนต่อพระหฤทัยนั้นเริ่มมีมากขึ้น มีนักบุญอย่างน้อยสององค์ที่ไม่กล่าวถึงคงจะไม่ได้คือนักบุญเมชทิลเดแห่งแฮคเกบอร์น(Saint Mechtilde of Hackeborn ค.ศ.1241-1299)และนักบุญเกอร์ทรูเดผู้ยิ่งใหญ่(St.Gertrude the Great ค.ศ.1256-1302) ทั้งคู่เป็นนักพรตหญิงคณะเบเนดิกตินซึ่งเป็นผู้อุทิศตนด้วยความศรัทธาต่อพระหฤทัยในช่วงยุคแรกๆเลยทีเดียว โดยแสดงออกมาผ่านงานเขียนของพวกท่านทั้งสอง

จนในปีค.ศ.1353 พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 6(Pope Innocent VI) ทรงได้ริเริ่มเพื่อเคารพพระธรรมอันล้ำลึกแห่งพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้า ช่วงยุคของการปฏิรูปโปรเตสแตนต์ การอุทิศตนแด่พระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าได้ปฏิบัติด้วยความหวังว่าจะเรียกคืนสันติภาพแก่โลกซึ่งแตกแยกจากการประหัตประหารกันด้วยเหตุข่มเหงทางการเมืองและศาสนา

การอุทิศตนต่อพระหฤทัยนั้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกและเป็นเหตุการณ์สำคัญของการอุทิศตนต่อพระหฤทัยพระเยซูคือการประจักษ์ของพระเยซูคริสตเจ้าที่มีแก่นักบุญมาร์กาเร็ต แมรี่ มาลาก็อก
(St.Margaret Mary Alacoque ค.ศ.1647-1690)นักพรตหญิงชาวฝรั่งเศส มีเรื่องเล่าว่าพระเยซูตรัสกับท่านว่าพระองค์ได้เลือกท่านเป็นผู้เผยแพร่การอุทิศตนต่อพระหฤทัยของพระเยซูความว่า

"พระหฤทัยของเรานั้นลุกเป็นไฟด้วยความรัก...ที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้ภายในตัวมันอีกต่อไป พระหฤทัยแห่งจิตกุศลอันร้อนแรง ต้องปล่อยมันให้เผยแพร่ออกไปในต่างแดนด้วยวิธีของลูก และแสดงให้เห็นด้วยตัวมันเองให้มนุษย์ได้เห็น ว่าพวกเขาจะเต็มไปด้วยสมบัติอันล้ำค่าที่เราได้เผยแก่ลูกและที่มีความศักดิ์สิทธิ์และพระหรรษทานอันเป็นประโยชน์ซึ่งจำเป็นนำพวกเขากลับมาจากก้นบึ้งแห่งความพินาศ"

พระองค์ยังได้ตรัสแก่เธอเรื่องของการกำหนดให้รับศีลมหาสนิททุกวันศุกร์ต้นเดือนและสวดทำวัตรศักดิ์สิทธิ์(จะรู้จักกันในนาม "the Nine Fridays and the Holy Hour" )และให้มีการตั้งวันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้า เป้นการทำให้การอุทิศตนต่อพระหฤทัยของพระเยซูนั้นยิ่งทวีมากขึ้น

แม้จะเริ่มมีการอุทิศตนต่อพระหฤทัยมาเรื่อยๆ แต่การฉลองพระหฤทัยนั้นมักเป็นรูปแบบอยู่ในที่ส่วนตัว วันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าจริงๆเริ่มเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.1670 วันที่มีการเฉลิมฉลองวันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าเป็นครั้งแรกที่เมืองแรน(Rennes) ประเทศฝรั่งเศสโดยคุณพ่อจอห์น ยูเดส
(John Eudes)ซึ่งได้รับอนุญาตจากพระสังฆราชแล้ว เป็นการฉลองพระหฤทัยในรูปแบบที่เป็นสาธารณะครั้งแรก

ปีค.ศ.1765 พระสันตะปาปา Clement ที่ 13 จึงอนุญาตให้พระสังฆราชชาวโปแลนด์และ คณะพระหฤทัยแห่งโรมันทำการฉลองพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าในปี ค.ศ. 1856 ตามคำร้องขอของเหล่าพระสังฆราชฝรั่งเศส พระสันตะปาปาปิอุสที่ 9(Pope Pius IX) ได้ประกาศให้ทำการฉลองนี้ในพระศาสนจักรสากล ในปี ค.ศ. 1899 พระสันตะปาปาลีโอที่ 13(Pope Leo XIII) ได้ยกระดับการฉลองนี้ให้สูงขึ้น ในปี ค.ศ. 1927 พระสันตะปาปาปีโอที่ 11 ได้ปรับปรุงพิธีกรรมของวันฉลองนี้ และยกระดับการฉลองนี้ให้อยู่ในระดับเดียวกับการสมโภชพระคริสตสมภพ แต่ไม่ได้ทรงกำหนดให้วันสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นวันฉลองบังคับ ในโอกาสครบรอบ 100 ปี (ค.ศ. 1956) ของการสมโภชพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าอย่างเป็นทางการในพระศาสนจักรสากล พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้ออกสมณสาสน์ Haurietis aquas ในโอกาสนี้ด้วย

ขอให้ชาวคริสตศาสนิกชนศาสนจักรโรมันคาทอลิกระลึกถึงความรักของพระเยซูคริสต์ที่มีต่อมนุษย์ทุกคนนะครับ

/AdminMichael

ข้อมูลอ้างอิง:http://www.catholiceducation.org/en/cul ... otion.html
http://catholicism.about.com/od/holyday ... _Heart.htm
http://www.shb.or.th/article/lokkhamson ... jesus.html
https://www.catholic.org/saints/saint.php?saint_id=443
http://www.newadvent.org/cathen/07163a.htm

ภาพ:ภาพพระหฤทัยของพระเยซูคริสตเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุด วาดโดยปอมปีโอ บาโตนี่

CR. : ประวัติศาสตร์คริสตศาสนา - ทั้งตะวันตกและตะวันออก
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มิ.ย. 12, 2021 6:43 pm

ประวัติดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์และวันฉลองดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์

เช่นเดียวกันกับเมื่อวานซึ่งเป็นวันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าของทางศาสนจักรโรมันคาทอลิก แอดมินก็เชื่อเช่นกันว่าคงไม่มีชาวโรมันคาทอลิกคนไหนที่ไม่รู้จัก"ดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์"(The Immaculate Heart of Mary)แน่นอน โดยวันฉลองดวงหทัยนิรมลพระแม่มารีย์นั้นจะมีถัดจากวันสมโภชพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าซึ่งเป็นวันเสาร์นั่นเอง

จริงๆ ความเป็นมาทั้งดวงหทัยนิรมลพระแม่มารีย์และวันฉลองนั้นแทบจะเหมือนกับความเป็นมาของพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าเลยล่ะครับ ต่างกันไม่มากนัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีประวัติอันเดียวกันหรือไม่มีประวัติของตัวเองเลยเสียทีเดียวครับ มีประวัติที่น่าสนใจอยู่ไม่แพ้กัน

เหมือนกับเรื่องพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้า เรื่องดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์นั้นก็ได้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระวรสารในบทต่างๆเช่นข้อพระคัมภีร์สองข้อที่เขียนเอาไว้เกี่ยวกับดวงหทัยของแม่พระโดยนักบุญลูกาได้เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่าพระแม่มารีย์เก็บเรื่องราวทั้งหมดไว้ในใจของท่าน(ลูกา 2:19 ลูกา 2:51) เช่นเดียวกันเหล่าปิตาจารย์ในยุคแรกบางท่าน

ก่อนคริสตศตวรรษที่ 12-13 ไม่ค่อยมีหลักฐานที่พอจะชี้ชัดเรื่องการอุทิศตนต่อดวงหทัยของพระแม่มารีย์มากนัก การอุทิศตนต่อดวงหทัยแม่พระเริ่มปรากฏผ่านงานเขียนของนักบุญต่างๆซึ่งหลายองค์เกี่ยวข้องกับการอุทิศตนต่อพระหฤทัยพระเยซูเช่นนักบุญเมชทิลเดแห่งแฮคเกบอร์น(St. Mechtilde of Hackeborn ค.ศ.1241-1299) นักบุญเกอร์ทรูเดผู้ยิ่งใหญ่(St.Gertrude the Great ค.ศ.1256-1302) ส่วนนักบุญองค์อื่นๆก็มีเช่นนักบุญเบอร์นาดินแห่งซีเอนา(St.Bernardino of Siena ค.ศ.1380-1444) และโดยเฉพาะนักบุญฟร็องซัว เดอ ซาล(St.Francis de Sales ค.ศ.1567-1622)เป็นต้น

หนึ่งในบุคคลที่อุทิศตนอย่างยิ่งกับดวงหทัยนิรมลของแม่พระนั้นคือคุณพ่อหรือนักบุญจอห์น ยูเดส(St.John Eudes ค.ศ.1601-1680) ซึ่งท่านก็อุทิศตนกับพระหฤทัยพระเยซูคริสตเจ้าอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน ท่านเป็นผู้เผยแพร่ความอุทิศตนนี้ไปทั่วฝรั่งเศสและให้มีการฉลองดวงหทัยนิรมลของแม่พระอย่างเป็นสาธารณะโดยนักบุญจอห์น ยูเดสและผู้ติดตามจะยึดวันที่ 8 กุมภาพันธ์เป็นวันฉลองในช่วงต้นปีค.ศ.1643

ปีค.ศ.1799 ขณะที่พระสันตะปาปาปิอุสที่ 6 ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่ฟลอเรนซ์เนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนั้น ท่านได้อนุญาตให้พระสังฆราชแห่งปาร์เลอร์โมฉลอง"ดวงหทัยอันบริสุทธิ์ยิ่งของพระแม่มารีย์"(the feast of the Most Pure Heart of Mary)ในวัดบางวัดของสังฆมณฑล ปีค.ศ.1805 พระสันตะปาปาปิอุสครั้งที่ 7 ได้ขยายการเฉลิมฉลองแก่สังฆมณฑลหรือคณะนักบวชใดๆก็ตามที่ร้องขอ

การอุทิศตนต่อดวงหทัยของพระแม่มารีย์ยิ่งทวีมากขึ้นจากเหตุการณ์แม่พระประจักษ์แก่นักบุญแคทเธอรีน ลาบูเร(แม่พระแห่งเหรียญอัศจรรย์)ค.ศ.1830 แม่พระได้แสดงเหรียญอัศจรรย์แก่นักบุญแคทเธอรีน ด้านหนึ่งเขียนว่า"ข้าแต่พระแม่มารีย์ ผู้ปฏิสนธินิรมล โปรดภาวนาเพื่อข้าพเจ้าทั้งหลายที่มาขอพึ่งท่านด้วยเทอญ" อีกด้านหนึ่งมีอักษร M ข้างบนตัว M มีไม้กางเขนตั้งอยู่บนท่อนไม้ และข้างใต้มีหัวใจ 2 ดวง ดวงหนึ่งมีหนามล้อมรอบ อีกดวงหนึ่งมีดาบแทงทะลุ "ซึ่งแม่พระได้กล่าวว่า"บอกให้เขาทำเหรียญอันหนึ่งตามแบบนี้ ผู้ที่จะมีเหรียญดังกล่าวติดตัว โดยห้อยไว้ที่คอเป็นต้น จะได้รับพระหรรษทานใหญ่หลวง ผู้ที่มีความเชื่อจะได้รับพระหรรษทานมากมาย"

อีกเหตุการณ์หนึ่งคืออัครภราดรภาพแห่งดวงหทัยนิรมลของแม่พระได้ถูกจัดตั้งขึ้นที่วัดนอเทรอ-ดาม เดส วิคตออิเรส(Notre-Dame des Victoires)ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ค.ศ.1836 โดยคุณพ่อเดสเจเน็ตต์(Fr. Desgenettes)
มีตำนานว่าในวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ.1836 ในวันฉลองนักบุญฟรังซิสเซเวียร์ ระหว่างประกอบพิธีมิสซา คุณพ่อได้ยินเสียงภายในใจของคุณพ่อว่า"จงถวายวัดของลูกแด่ดวงหทัยอันศักดิ์สิทธิ์และนิรมลของพระแม่มารีย์" หลังลังเลใจอยู่นาน คุณพ่อจึงทำตามเสียงเรียกร้องนั้นและต่อมาก็ได้ตั้งภราดรภาพแห่งดวงหทัยนิรมลของแม่พระด้วย

และอีกเหตุการณ์ที่จะไม่กล่าวไม่ได้เลยคือเหตุการณ์แม่พระประจักษ์แห่งฟาติมา ค.ศ.1917 ซึ่งประจักษ์แก่เด็กทั้งสามที่ฟาติมา ประเทศโปรตุเกสหลายครั้งและแม่พระได้กล่าวไว้หลายเรื่องเช่นเรื่องสายประคำซึ่งโด่งดังที่สุด โดยครั้งหนึ่งในวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ.1917 แม่พระได้ตรัสแก่เด็กทั้งสามคนนั้นว่า “จงทำพลีกรรมเพื่อคนบาป และสวดบ่อยๆ ว่า ข้าแต่พระเยซูเจ้า พลีกรรมนี้เพื่อแสดงความรักต่อพระองค์ เพื่อคนบาปจะได้กลับใจ และเพื่อชดเชยการทำขัดเคืองดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีย์” ต่อมาการประจักษ์ที่ฟาติมานี้ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในภายหลัง

ปีค.ศ.1855 พระสันตะปาปาปิอุสที่ 9 ได้อนุมัติสำหรับตั้งสำนักงานและพิธีมิสซาฉลองดวงหทัยอันบริสุทธิ์ยิ่งของแม่พระ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ปฏิบัติกันเป็นสากล

และในที่สุด ปีค.ศ.1942 เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 25 ของเหตุการณ์แม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา พระสันตะปาปาปิอุสที่ 12(Pope Pius XII) ได้กล่าวถวายศาสนจักรคาทอลิกและสากลโลกแด่ดวงหทัยแม่พระและต่อมาพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ได้ยกระดับวันฉลองดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์ขึ้นให้เป็นสากลเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ.1944 ซึ่งชาวโรมันคาทอลิกทั่วโลกได้ฉลองในวันเสาร์ถัดมาจากวันสมโภชพระหฤทัยพระคริสตเจ้าและอุทิศตนต่อดวงหทัยแม่พระด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

/AdminMichael

ข้อมูลอ้างอิง: http://www.newadvent.org/cathen/07168a.htm
https://www.udayton.edu/imri/mary/i/imm ... votion.php
http://www.motherofallpeoples.com/2006/ ... t-of-mary/
http://www.catholictradition.org/Two-He ... heart1.htm
http://catholic.egat.co.th/people/medal.htm
http://haab.catholic.or.th/church/fatima_3.html

ภาพ:ภาพดวงหทัยนิรมลของแม่พระในวัดน้อยแห่งหนึ่งประเทศออสเตรีย วาดโดยลีโอโปลด์ คูเปลวีเซอร์ จิตรกรชาวออสเตรีย

เครดิตภาพ:https://commons.wikimedia.org/wiki/File ... f_Mary.jpg

CR. : ประวัติศาสตร์คริสตศาสนา - ทั้งตะวันตกและตะวันออก
ตอบกลับโพส