ตอนที่ 2:
ประวัติสังเขป
คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง
บุกเบิกวัดในเขตเชียงใหม่
ปี ค.ศ 1930 คุณพ่อมิราแบล ขึ้นไปบุกเบิกที่เชียงใหม่และให้คุณพ่อนิโคลาส
ไปอยู่ที่ลำปาง คุณพ่อนิโคลาสได้สร้างวัดน้อยหลังแรกที่ลำปางปี ค.ศ 1930
" ที่ลำปางคุณพ่อนิโคลาสพยายามตามหาแกะที่หลงทางจำนวนหนึ่งเข้าคอก
เป็นงานที่ยากลำบาก และสำเร็จยาก แต่เป็นงานที่น่าสรรเสริญให้เราภาวนาขอ
เจ้าของนาเถิด เพราะการที่จะเก็บเกี่ยวได้มากนั้น ย่อมสุดแต่พระองค์ท่านจะโปรด.."
ในระหว่างอยู่ที่ลำปางคุณพ่อได้ไปสอนคำสอนตามบ้านและยังได้ส่งซินแสไป
สอนศาสนาที่เมืองพานและเชียงรายด้วย
คุณพ่อเป็นคนที่ใจร้อน ยอมเสียสละตนเองเพื่อการประกาศพระวรสารสามารถ
หรือสอนตลอดวันโดยไม่เหน็ดเหนื่อยเอาใจใส่งานอภิบาลเป็นอย่างดี เอาใจใส่
บุกเบิกวัดในเขตเชียงใหม่
ปี ค.ศ 1930 คุณพ่อมิราแบล ขึ้นไปบุกเบิกที่เชียงใหม่และให้คุณพ่อนิโคลาสไปอยู่ที่ลำปาง
คุณพ่อนิโคลาสได้สร้างวัดน้อยหลังแรกที่ลำปางปี ค.ศ 1930
" ที่ลำปางคุณพ่อนิโคลาสพยายามตามหาแกะที่หลงทางจำนวนหนึ่งเข้าคอกเป็นงานที่
ยากลำบาก และสำเร็จยาก แต่เป็นงานที่น่าสรรเสริญให้เราภาวนาขอเจ้าของนาเถิด
เพราะการที่จะเก็บเกี่ยวได้มากนั้น ย่อมสุดแต่พระองค์ท่านจะโปรด.."
ในระหว่างอยู่ที่ลำปางคุณพ่อได้ไปสอนคำสอนตามบ้านและยังได้ส่งซินแสไป
สอนศาสนา ที่เมืองพานและเชียงรายด้วย
คุณพ่อเป็นคนที่ใจร้อน ยอมเสียสละตนเองเพื่อการประกาศพระวรสารสามารถเทศน์
หรือสอนตลอดวันโดยไม่เหน็ดเหนื่อยเอาใจใส่งานอภิบาลเป็นอย่างดี
เอาใจใส่ทุกข์สุขของบรรดาคริสตชน
วันที่ 18 มกราคม ค.ศ 1931คุณพ่อได้เดินทางมาถึงเชียงใหม่อาศัยในบ้านพัก
พระสงฆ์ ที่สร้างขึ้นบนที่ดินของมิสซังที่ได้ซื้อไว้
ทันทีที่มิชชันนารีทั้งสองไปถึงท่านก็รีบดำเนินการสร้างวัดน้อยขึ้นหลังหนึ่ง
โดยได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวคริสตัง 2-3 ครอบครัว เป็นผู้ที่กลับใจมา
ขอเรียนคำสอนกับคุณพ่อทั้งสอง และคุณพ่อก็พยายามที่จะทำให้คนพุทธกลับใจ
และท่านก็ทำสำเร็จในบางครั้ง
ผู้ที่กลับใจในตอนแรกๆ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่ศาสนาคาทอลิก ความกระตือรือร้น
ของพวกเขาในบางครั้งรุนแรงและแข่งขันกัน พวกเขาเข้าใจในพระคัมภีร์และนำ
พระคัมภีร์มาใช้ในการโต้วาทีกับพวกผู้นำเก่าและเพื่อนๆของเขา
บรรดามิชชันนารีที่เดินทางมาถึงภาคเหนือของสยามพบว่ามีคนมากมายหลายเผ่าอยู่ที่นั่น
ซึ่งจะสามารถเพิ่มทวีความเชื่อ เป็นทั้งความโชคดีและความลำบากในการเผยแพร่พระวรสาร
แต่เดิมพวกเขาเคยเป็นกลุ่มเชื้อชาติที่มีเสียงข้างมากซึ่งเรียกตัวเองว่า "ประชากรของประเทศ"
ในลักษณะตรงข้ามกับคนไทยที่อยู่ทางภาคกลางและภาคใต้ เราเรียกพวกเขาว่าคนลาวอยู่เสมอๆ
เพราะในอดีตอาณาเขตศักดินานี้อยู่ในความปกครองของลาวตะวันตก...คุณพ่อมิราแบลและ
คุณพ่อนิโคลาสมีความเห็นเหมือนกันว่าการเผยแพร่พระวร สารจะต้องเริ่มต้นมาจากโรงเรียน
นี่คือเหตุผลว่าทำไมหนึ่งปีหลังจากการมาถึงของคุณพ่อทั้งสอง วิทยาลัยสำหรับเด็กหญิงแห่งหนึ่ง
ซึ่งดำเนินงานโดยซิสเตอร์คณะอูร์สุลิน และวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งสำหรับเด็กชายดำเนินงาน
โดยภราดาคณะเซนต์คาเบรียล วิทยาลัยทั้งสองแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นที่เชียงใหม่
ตั้งอยู่ข้างๆวัดในย่านที่พักอาศัย...
ต่อมาไม่นาน คุณพ่อทั้งสองมีความต้องการจัดตั้งโรงเรียนของวัดขึ้น ด้วยความช่วยเหลือ
ของบรรดานักบวชพื้นเมืองคือ ภคินีคณะพระหฤทัยแห่งพระเยซูเจ้า คุณพ่อทั้งสองจึงได้ช่วยกัน
สร้างโรงเรียนขึ้นมาหลังหนึ่งรับเด็กนักเรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของคริสตัง
โรงเรียนนี้เป็นที่รู้จักกันดีอย่างกว้างขวางและในปัจจุบันนี้สามารถที่จะแข่งขันกับ
วิทยาลัยทั้งสองแห่งที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในสถานศึกษาทั้งสามแห่งนี้เต็มไปด้วยนักเรียน
ที่เป็นคนพุทธซึ่งทำให้เกิดความหวังที่จะชักจูงพวกนี้ให้มาเป็นคริสตังได้...
ในสามปีแรกของการก่อตั้งมิสซังเชียงใหม่ พวกโปรเตสตันท์ที่อยู่เมืองไทยและ
ในชนบทได้มาขอเรียนคำสอนกับมิชชันนารีและได้กลับใจมาเป็นคาทอลิกในที่สุด
มีครอบครัวชาวพุทธ 2-3 ครอบครัวที่นี่ได้กลับใจด้วย ตั้งแต่ปี ค.ศ 1933 ที่แม่ริม
และเวียงป่าเป้ามีการกลับใจเพิ่มมากขึ้น ต่อมามีการกลับใจที่พร้าว เมืองพานและเชียงดาว
นับตั้งแต่การเริ่มต้นในเวลานั้น มิชชันนารีทั้งสองได้พยายามไปเผยแพร่พระวรสารกับ
ชาวพุทธที่เวียงป่าเป้าเป็นพิเศษ
คุณพ่อมิราแบลและคุณพ่อนิโคลาสได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาเป็นอย่างดี
มีคนต่างศาสนามาฟังคำสอนของท่านทั้งสอง เป็นต้นคริสเตียนนิกายเปรสบิเตเรียน
ความจริงคุณพ่อทั้งสองอยากแพร่ธรรมท่ามกลางชาวพุทธมากกว่าแต่กระนั้นก็ตาม
เมื่อมีคริสเตียนมาขอเรียนคำสอนด้วยใจซื่อเพื่อจะกลับใจมาเป็นคาทอลิกท่านก็ยินดีต้อนรับ
ในปี ค.ศ.,1931 นั้นเองมีผู้ขอรับศีลล้างบาปบ้าง บางคนในภายหลังได้มีส่วนช่วย
คุณพ่อทั้งสองในการแพร่ศาสนาต่อไป
คุณพ่อทั้งสองได้ช่วยกันสร้างวัดหลังเล็กๆขึ้นหลังหนึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก
คาทอลิค 2-3 ครอบครัว วัดหลังนี้ทำพิธีเสกอย่างสง่าในวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ 1932
ได้รับชื่อว่า " วัดพระหฤทัย " พระสังฆราชแปร์รอสเขียนบันทึกไว้ว่าดังนี้
" ความหวังของเราที่เชียงใหม่สำเร็จเป็นจริง โบสถ์ได้รับการเสกอย่างสง่า
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ 1932 ในวันฉลองพระหฤทัยมีคนมาเต็มโบสถ์ แต่ส่วนใหญ่
เป็นคนต่างศาสนา และในวันนั้นมีคนรับศีลล้างบาป 12 คน ทำให้ฝูงแกะน้อย
ของเรามีจำนวนเพิ่มขึ้น.."
นอกจากสร้างวัดแล้วท่านยังได้ช่วยกันสร้างโรงเรียนของวัด ใช้ชื่อว่า
" โรงเรียนพระหฤทัย " ได้เชิญภคินีคณะพระหฤทัยแห่งกรุงเทพฯมาดูแล
การขยายตัวของมิสซังในช่วง 3 ปีแรกนั้นได้ตั้งวัดเชียงใหม่ต่อจาก
วัดพระหฤทัยที่เชียงใหม่ วัดแรกที่เปิดต่อมาคือวัดแม่ริม มีคนกลุ่มหนึ่งสมัครมา
เป็นคาทอลิกต่อจากนั้นคุณพ่อทั้งสองได้เดินทางไปประกาศศาสนาบริเวณรอบนอกตัวเมือง
เช่น บ่อสร้าง เวียงป่าเป้า พร้าว เชียงดาว เมืองพาน ส่วนมากเป็นพวกคริสเตียน
ที่เชิญคุณพ่อไปอธิบายคำสอนคาทอลิกให้พวกเขาฟัง..
คุณพ่อนิโคลาสมักจะเขียนจดหมายมาปรึกษาพระสังฆราชแปร์รอสอยู่เสมอๆ
ถึงเรื่องการทำงานอภิบาล
ถึงพระสังฆราชแปร์รอส
"...ทุกวันนี้ลูกอยู่สบายดี ทุกวันไปแปลคำสอนตามบ้านมีอยู่ 7 -8 หลังจะได้การ
ทุกบ้านหรือเปล่ายังเอาแน่ไม่ได้ เวลานี้ได้ใช้ซินแสไปเทศนาที่เมืองพานและ
เชียงรายราว 2-3 อาทิตย์ จะกลับ ถ้าได้การ คราวหน้าจะใช้ไปอีก เพราะทางเหนือมีเจ๊กมาก
บางคนพูดกับลูกว่าอยากกลับใจตาม jurisdictio ที่พระคุณเจ้าให้ลูกไม่มี reservatio
สำหรับฟังแก้บาปลูกเข้าใจว่าแม่ชีอูรสุลินจะมาแก้บาปกับลูกในวัด ลูกก็โปรดบาปได้
แต่สงสัยอย่างหนึ่งคือถ้าเขาเชิญไปฟังบาปเขาที่ capella ของเขา ลูกจะโปรดบาปเขา
ที่นั่นได้หรือ นี่พูดเผื่อคุณพ่อมิราแบลไปเข้าเงียบถ้าเขามาเชิญลูกไปฟังบาปของเขา ถ้าตาม
Jurisdicto ที่ให้โปรดบาปไม่ได้ ถ้าพระคุณเจ้าเห็นควรก็ขอ Jurisdictio สำหรับ casu นี้ด้วย.."
คุณพ่อมิราแบล และคุณพ่อนิโคลาสตัดสินใจไปพม่าเพื่อสำรวจพื้นที่และความเป็นไปได้
ในการขยายมิสซังตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ 1933 โดยมีครูบัปติสตาเป็นครูสอนคำสอน
ให้กับพวกกะเหรี่ยงเป็นผู้นำทาง
คุณพ่อนิโคลาสได้เขียนจดหมายเล่าการเดินทางให้พระสังฆราชแปร์รอสฟังอย่างละเอียด
ถึง 4 ตอน ด้วยกัน ท่านใช้ชื่อบทความว่า " จุดหมายเหตุรายวันการเยี่ยมมิสซังพม่า "
นอกจากคุณพ่อนิโคลาสจะเป็นพระสงฆ์ที่เทศน์เก่งแล้ว ท่านยังเขียนหนังสือได้น่าอ่านอีกด้วย
ท่านเป็นคนละเอียด ช่างสังเกต ช่างจดจำโดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับศาสนา...
พระสังฆราชแปร์รอสเขียนถึงศูนย์กลางของคณะ M.E.P ที่กรุงปารีสว่า
"...คุณพ่อนิโคลาส และคุณพ่อมิราแบลได้บอกกับข้าพเจ้าว่าการเผยแพร่พระวรสารที่
เชียงใหม่ได้ผลเป็นที่น่ายินดีมีคนใหม่กลับใจมากขึ้นเรื่อยๆ..คุณพ่อทั้งสองเดินทางไปแพร่ธรรม
ที่พม่าซึ่งเป็นสถานที่ที่เคยมีมิชชันนารีองค์อื่นเดินทางไปแพร่ธรรมเมื่อปีที่แล้ว
แต่ไม่ประสบความสำเร็จเราเชื่อมั่นว่าการเดินทางในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จด้วยดี
และจะสามารถเปิดมิสซังใหม่ได้ที่นี่..."
จบตอนที่2