น่ารู้ทั่วไป

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 27, 2021 9:48 pm

เพราะเลิกติดเหล้า แล้วหันมาติดกาแฟ คนยุโรปจึงได้เจริญและพัฒนา
.
คุณรู้หรือไม่ว่า เครื่องดื่มคาเฟอีน
ขวัญใจคนสมัยนี้ทั้งหลายเช่น “ชา” หรือ “กาแฟ” นั้นนอกจากจะอร่อยแล้ว
เครื่องดื่มนี้ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยนำพามนุษยชาติเข้าสู่ความก้าวหน้าทางปัญญา
หรือ “ฉลาด” ขึ้นอีกด้วย
.
เท้าความก่อนว่า ก่อนที่ชาหรือกาแฟจะได้รับความนิยมในยุโรป เนื่องจากน้ำเปล่า
ในยุคนั้นสกปรกเกินกว่าที่จะดื่มได้ เครื่องดื่มประจำที่ชาวยุโรปนิยมดื่มในชีวิตประจำวัน
เช้าเย็นนั้นไม่ใช่อะไรแต่คือ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ทั้งหลายนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเบียร์
หรือไวน์ หรือเหล้าอื่นๆ จึงทำให้มียุคหนึ่งที่คนยุโรปมีสถานะเมาหัวราน้ำอยู่แทบจะตลอดเวลา
.
แต่หลังจากที่มีการนำเข้ากาแฟจากตุรกีเข้าสู่ยุโรป โดยเข้ามาในอิตาลีก่อนเป็นที่แรก
ในปีค.ศ.1570 เครื่องดื่มคาเฟอีนชนิดนี้ก็เข้ามาแทนที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
และได้รับความนิยมอย่างสูงจนมีร้านกาแฟผุดขึ้นมามากมายเป็นดอกเห็ดในอิตาลีและ
ลามไปถึงที่อื่นๆ เช่น ยุโรปในที่สุด ร้านกาแฟบางร้านในยุคสมัยนั้นยังคงเปิดให้บริการ
ยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นร้านกาแฟที่เปิดทำการยาวนานที่สุดในโลก
เช่นร้าน Caffè Florian ในประเทศอิตาลี และร้าน Café Procope ในฝรั่งเศส
.
พอมนุษยชนเลิกเมาเหล้า แล้วหันมาเสพคาเฟอีนในร้านกาแฟแทน สิ่งมหัศจรรย์จึงถือกำเนิดขึ้น...
.
“ร้านกาแฟ” หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญแห่งยุคเรืองปัญญา (the Age of the Enlightenment)
.
“ยุคเรืองปัญญา” (Age of the Enlightenment) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “ยุคแห่งเหตุผล”
(Age of Reason) เป็นยุคหนึ่งของยุโรปที่มีการใช้สติปัญญาและเหตุผลในการมองโลก
ในมุมที่แตกต่างออกไปมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในมุมศาสนา ศิลปะ การเมืองการปกครอง
ปรัชญา หรือวิทยาศาสตร์ สามารถเรียกได้ว่ายุคนี้เป็นยุคสำคัญที่พลิกโฉมโลกทั้งใบ
.
ซึ่งการที่จะบอกว่าเครื่องดื่มกาแฟหรือ “ร้านกาแฟ” เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน
ยุคนี้ก็ไม่ผิดนัก
.
หลังจากที่ชาวยุโรปสร่างเมา เลิกดื่มแอลกอฮอล์ และหันมาดื่มกาแฟ ในที่สุดคนยุโรป
ก็มีสติมากพอที่จะใช้ความคิดและแลกเปลี่ยนบทสนทนาที่มีประโยชน์ ร้านกาแฟจึงเป็น
สถานที่ที่เป็นบ่อเกิดบทสนทนาและไอเดียสำคัญๆ มากมายในยุคแห่งการใช้เหตุผลนี้
.
แต่ไม่ใช่ทุกที่ ที่ชอบให้ประชาชนได้ถกเถียงพูดคุย
.
ในบางที่ ร้านกาแฟถูกมองว่าเป็นสถานที่ “สุ่มเสี่ยง” ที่อาจก่อให้เกิดการรวมตัวกันเพื่อ
เคลื่อนไหวทางการเมืองที่อาจเป็นภัยต่อเบื้องบนได้ จึงมีหลายที่ที่แบนไม่ให้มีการดื่มกาแฟ
เช่นในยุคสุลต่านมูราดที่สี่ (Murad IV) แห่งจักรวรรดิออตโตมัน ผู้ที่นอกจากจะแบนกาแฟแล้ว
เขายังหวั่นกลัวการก่อกบฏจนถึงขั้นปลอมตัวใส่เสื้อผ้าธรรมดาลงเดินในท้องถนนเพื่อดักจับ
คนที่ไปร้านกาแฟแล้วนำไปประหารเลยทีเดียว
.
เมื่อกาแฟได้เข้ามาสู่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (Oxford University) แห่งเมืองออกซฟอร์ด
ประเทศอังกฤษ เครื่องดื่มนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเช่นกัน และถึงแม้ว่าทางมหาลัย
จะพยายามแบนไม่ให้มีการดื่มกาแฟ แต่ในปี 1655 กลุ่มนักเรียนที่นิยมชมชอบในกาแฟและ
มีหัวคิดก้าวหน้าได้โน้มน้าวให้อาเธอร์ ทิลยาร์ด (Arthur Tillyard) เภสัชกรคนหนึ่งเปิด
ร้านกาแฟที่ชื่อว่า “Tillyard’ s Coffee House” ซึ่งภายหลังถูกเรียกกันว่าเป็น “Oxford Coffee Club”
.
ซึ่งร้านกาแฟดังกล่าวกลายเป็นสถานที่ที่นักศึกษาและบุคคลทั่วไปมานัดพบปะพูดคุยแลกเปลี่
ยนความคิดเห็นกันเป็นประจำ ไม่ว่าจะเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองข่าวต่างๆ หรือมีแม้แต่การถก
ความรู้ในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ ปรัชญา หรือการเมือง เป็นสถานที่ที่มีความรู้
มากมายให้เก็บเกี่ยว และนักคิดหัวใสมากมายก็มาขัดเกลาปัญญากันที่นี่
.
ขาประจำบางคนของร้านกาแฟแห่งนี้ก็เป็นคนที่คุ้นหูคุ้นตาเรากันมาบ้าง เช่น โรเบิร์ต บอยล์
(Robert Boyle) นักวิทย์ผู้ให้กำเนิด “กฎของบอยล์” (Boyle’ s law) เอ็ดมันด์ แฮลลีย์
(Edmund Halley) นักดาราศาสตร์ผู้เป็นเจ้าของชื่อ “ดาวหางแฮลลีย์” (Halley’ s comet)
หรือไอแซค นิวตัน (Isaac Newton) ผู้ค้นพบทฤษฎีแรงโน้มถ่วงผู้โด่งดังนั่นเอง
.
โดยร้านกาแฟแห่งนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นสถาบันความรู้อีกที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ และร้านกาแฟนี้
ยังได้ชื่อเล่นว่าเป็น “มหาลัยหนึ่งเพนนี” (Penny University) จากผู้คนในสมัยนั้น นั่นเป็น
เพราะว่าเพียงแค่คุณจ่ายค่าเข้าร้านในราคาเพียงแค่หนึ่งเพนนี ไม่ว่าคุณจะเป็นใครมา
จากไหน ชนชั้นอะไร จะรวยหรือจนก็ไม่มีความหมายที่นี่ คุณสามารถที่จะนั่งลงที่โต๊ะและ
แลกเปลี่ยนและถกความรู้กับใครก็ได้
.
จึงทำให้ร้านกาแฟนี้มีบรรยากาศการพูดคุยถกเถียงจ้อกแจ้กจอแจ และมีความรู้และ
ประสบการณ์จากผู้คนต่างชนชั้นและพื้นเพปลิวว่อนไปมาอยู่มากมาย ร้านกาแฟ
ดังกล่าวกลายเป็นต้นแบบโมเดลให้ร้านกาแฟอื่นๆ ทำให้ร้านกาแฟในสมัยนั้น
กลายเป็นสถานที่สำหรับเก็บเกี่ยวและขัดเกลาความรู้ที่สำคัญอีกที่หนึ่งไปโดยปริยาย
.
ด้วยการที่มีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาจิบกาแฟกลิ่นหอม พร้อมกับพูดคุยแลก
เปลี่ยนกันระหว่างนักคิดที่กระหายความรู้ ร้านกาแฟ หรือ Coffee House จึงเป็น
สถานที่ที่เอื้อให้ความคิดและไอเดียต่างๆ จากหลายที่มาผสมผสานรวมกันเป็น
ไอเดียใหม่ ไอเดียที่อาจไม่เกิดขึ้นถ้านั่งคิดอยู่ที่บ้านคนเดียว
.
ร้านกาแฟจึงไม่ใช่แค่ที่ไว้สั่งเครื่องดื่มเท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดไอเดียสำคัญ
ที่จุดประกายความคิดเปลี่ยนโลกมากมายทั้งในแง่วิทยาศาสตร์หรือการเมือง
.
จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมบางครั้งพอเอางานไปทำที่ร้านกาแฟแล้วคิดงานออกได้ดีกว่าเดิม
หรือใครๆ ก็ชอบทำงานที่ร้านกาแฟ
.
ปัจจุบันความนิยมในกาแฟและร้านกาแฟก็ยังไม่เสื่อมคลาย มีแต่จะนิยมมากขึ้นทั่วโลก
แม้ว่าร้านกาแฟจะไม่ใช่สถานที่เอาไว้ถกเถียงความรู้เหมือนในอดีตแล้ว แต่ว่าทุกครั้งที่
คุณยกกาแฟขึ้นดื่ม คุณก็รู้แล้วว่านอกจากรสชาติที่หอมอร่อย เครื่องดื่มรสเข้มในมือยัง
เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ทำให้โลกของเราพัฒนามาเป็นอย่างในทุกวันนี้อีกด้วย

#รากเหง้าเล่าอนาคต


https://m.facebook.com/story.php?story_ ... 9022389690
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 27, 2021 9:59 pm

ส่งเรื่องราวของมหาเศรษฐีจีนคนหนึ่ง อายุเพียงแค่ 38 ปี ร่ำรวยที่สุดของจีน แฟรงค์ หวัง ครับ
ผู้บุกเบิกตลาดโดรนพลเรือนรายแรกของโลก จนถูกเรียกว่า "แอปเปิ้ลแห่งโดรน" ภายในจีน



ดีเจไอ เป็นชื่อที่เกิดขึ้นภายในใจทุกครั้งที่เราคิดถึงโดรน พวกเขาอยู่ภายในอุตสาหกรรมนานกว่า 10 ปี และยึดครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกมากกว่า 70% ของอุตสาหกรรม และพวกเขาดูเหมือนจะไม่สูญเสียมงกุฏในไม่ช้านี้ด้วย
ในขณะนี้ดีเจไอมีบุคคลประมาณ 14,000 คน และสำนักงานสาขา 17 แห่งทั่วโลก บริษัทมีกระบวนการเสาะหาที่เข้มงวด และสถานที่ทำงานของพวกเขาค่อนข้างแข่งขัน บุคคลมากกว่า 3,000 คนเป็นวิศวกร ไม่น่าประหลาดใจที่ดึเจไอ ผลิตอิเล็คโทรนิคที่ทันสมัย สำนักงานใหญ่ใหม่ของดีเจไออยู่ภายในย่าน
หนานซัน ตะวันตกเฉียงใต้ของเซินเจิ้น ออกแบบโดยบริษัทที่ออกแบบสำนักงานใหญ่ของแอปเปิ้ลภายในแคลิฟอร์เนีย อาคารได้ถูกสร้างที่จะสนับสนุนประสิทธิภาพ ด้วยหอคอยสองหอ สำนักงานวิจัยและพัฒนาอยู่ภายในหอคอยตะวันออก ในขณะที่สำนักงานหน้าที่อยู่ภายในหอคอย
ตะวันตก เนื่องจากพวกเขาป้องกันเทคโนโลยีและกระบวนการออกแบบไว้
เข้มแข็งมาก ทางเข้าอยู่ที่หอคอยตะวันตก อาคารได้รวมเอาสวนเซ็น โรงกีฬา สวนลอยฟ้า และสะพานแก้วไว้ด้วย
โดรนตกลงบนสนามหญ้าของทำเนียบขาวเมื่อมกราคม 2015 หนึ่งเดือนต่อมาโดรนได้จัดส่งเเหวนเพชร 15 กะรัตแก่จาง จื่ออี่ นักแสดงหญิงจีน ภายในข้อเสนอแต่งงานโดยหวัง เฟิง ดาวรุ่งเพลงร็อคของจีน ภายหลังสองเดือน โดรน ได้ส่วขวดของเสียกัมมันตภาพรังสียบนหลังคาของสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เป็นการประท้วงต่อการใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายในประเทศ โดรนสามตัวผลิตโดยต้าเจียง อินโนเวชั่น - ดีเจไอ ก่อตั้งโดยแฟรงค์ หวัง เทา ผู้ประกอบการชาวจีน โดรนของดีเจยึดครองตลาดโดรนพลเรือนของโลก 70%
บริษัท ได้ถูกมองว่าเป็นผู้ผลิตโดรนรายแรกที่ประกอบชุดเบ็ดเสร็จ ผู้ใช้ทุกคนเพียงเอาโดรนออกจากกล่อง และมันพร้อมที่จะบินได้
ดีเจไอ ได้เริ่มต้นยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับเป็นงานอดิเรก และในขณะนี้บุคคลทุกคนพยายามไล่ตาม
ดีเจไอ มีมูลค่ารายงาน ณ 10 พันล้านเหรียญ ทำให้บริษัทเป็น "เดคาคอร์น" ใหม่ที่สุดรายหนึ่ง หมายถึงยูนิคอร์นที่มูลค่าอย่างน้อยที่สุด 10 พันล้านเหรียญ สตาร์ทอัพยูนิคอร์นต้องมีมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ การเข้าร่วมลำดับของเสี่ยวหมี่ บริษัทเทคจีน และบริษัทเทคโลกอื่น เช่น อูเบอร์ และดรอปบอกซ์ ดีเจไอ เป็นบริษัทผลิตโดรนเป็นรากฐาน จนแฟนจำนวนมากเรียกพวกเขาเป็น
"แอปเปิ้ลแห่งโดรน"
แฟรงค์ หวัง เป็นมหาเศรษฐีโดรนคนแรก อายุ 38 ปี ชาวจีนร่ำรวยที่สุดด้วยความมั่งคั่งสุทธิ 3.6 พันล้านเหรียญ เขาเป็นคนขี้อาย ใส่แว่นวงกลม และหมวกกอล์ฟ กระจุกผมสั้นใต้คาง เขาได้ทำให้ดีเจไอเป็นตราสินค้าจีนลำดับสูงสุดเหมือนกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน เสี่ยวหมี่ และยักษ์ใหญ่อี คอมเมิรช อาลีบาบา การยึดครองอุตสาหกรรมของพวกเขาเปรียบเทียบได้กับ
แอปเปิ้ล
แฟรงค์ หวัง ได้กล่าวว่า เขาชื่นชมความคิดของสตีฟ จ้อป แต่ไม่มีใครเลยที่ผมชื่นชมอย่างเเท้จริง ทุกสิ่งที่เราต้องทำคือฉลาดกว่าบุคคลอื่น
เราต้องห่างไกลจากมวลชน ถ้าเราสามารถสร้างระยะห่างไกลนั้นได้ เราจะบรรลุความสำเร็จ ภายในสำนักงานของเขา ป้ายภาษาจีนบนประตูของเขาอ่านว่า ผู้ที่มาด้วยมันสมองเท่านั้น อย่านำอารมณ์เข้ามา เขาทำงานมากกว่า 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และวางเตียงไม้นอนคู่ใกล้โต๊ะของเขา
โดรนเป็นเครื่องบินไร้คนขับ ดำเนินการภายในขอบเขตที่กว้างของวงการ
เช่น การขนส่ง การประก้นภัย การจราจร การเกษตร เป็นต้น เทคโนโลยีลบล้างนี้ได้ทำให้บุคคลทุกคนประหลาดใจ หลายปีมาแล้วเราอาจจะคิดว่าสิ่งนี้เกี่ยวกับนิยายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีทหาร แต่กระนั้นปัจจุบันนี้มันเป็นความเกรียวกราวที่แม้แต่เรามีโดรนมือสมัครเล่นได้ถูกผลิตอยู่แล้ว การมีส่วนช่วยของโดรนต่อโลกธุรกิจคืออะไร โดรนได้ให้โอกาสหลายอย่างเพื่อธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อได้ถูกรวมกับเทคโนโลยีลบล้างอื่น เช่น คลาวด์ คอมพิวติ้ง อินเตอร์เน็ตคือทุกสิ่ง ปัญญาประดิษฐ์
เรากำลังเผชิญกับเทคโนโลยีลบล้างที่สามารถเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันภายในวงการหลายอย่าง อาชีพของแฟรงค์ หวัง ชื่อจีน หวัง เทา ภายในโดรน เทคโนโลยี เริ่มต้นด้วยโครงการโรงเรียน เขาประทับใจครูทางหุ่นยนต์ของเขาด้วยระบบการควบคุมทางอากาศของเฮลิคอปเตอร์ แฟรงค์ หวัง เกิดเมื่อ ค.ศ 1980 ภายในเมืองหาวโจว
บ้านเดียวกับเเจ็ค หม่า เขา แตกต่างจากผู้ก่อตั้งสตาร์ทมีชื่อเสียงหลายคน
ไมเคยเข้าศึกษามหาวิทยาลัยโด่งดังของโลก เช่น ฮาร์วาร์ด สแตนฟอร์ด หรือเอ็มไอที แม้แต่ไม่เคยไปซิลิคอน เเวลลี่ย์ ของอเมริกา
เมื่อแฟรงค์ หวัง ก่อตั้ง ดีเจไอ
ภายในหอพักนักศึกษาของเขาเมื่อ ค.ศ 2006 ตลาดเพื่อยานพาหนะไร้คนขับ รู้จักกันโดยทั่วไปว่าโดรน จำกัดอยู่ที่ผู้ชอบงานอดิเรกไม่กี่คนและสถาบันวิจัย ดีเจไอได้เริ่มต้นขายส่วนประกอบไปยังมหาวิทยาลัยวิจัยและผู้ชอบงานอดิเรกไม่กี่คนทั่วโลก เมื่อ ค.ศ 2012 ดีเจไอ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ชูธง แฟนทอม และมันเป็นโดรนก่อนประกอบพร้อมบินต่อตลาดโดรนบริโภค
การใช้ง่ายช่วยให้แฟนทอมค้นพบตลาดโดรนบริโภคที่ใหญ่ขึ้น เมื่อ ค.ศ 2018 ดีเจไอสร้าง 72% ของยอดขายโดรนรวม นับตั้งแต่การเปิดตัวแฟนทอมครั้งแรกของพวกเขา ดีเจไอ ได้วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่จะตอบสนองความต้องการของตลาดการถ่ายภาพและการถ่ายวืดีโอทางอากาศ วิวัฒนาการของผลิตภัณฑ์ กระบวนการนวัตกรรม และการกำหนดราคา ได้รวมกันอย่างแน่นหนารายรอบเเนวคิดของ "กล้องถ่ายรูปบินได้"
แฟรงค์ หวัง ได้วางตำแหน่งบริษัทเป็น ผู้นำโลกภายในอิทธิพลทางอากาศ
เป้าหมายของบริษัทคือ การทำให้ลูกค้าถ่ายภาพที่น่าทึ่งจากอากาศด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและใช้ง่าย เมื่อแฟรงค์ หวังได้รับรู้ศักยภาพเพื่อการถ่ายภาพทางอากาศแล้ว ปัจจุบันนี้บริษัทควบคุม 80% ของตลาดเพื่อโดรนบริโภค และผลิตภัณฑ์ได้ถูกขายภายใน 100 ประเทศ แฟรงค์ หวัง ไม่ต้องการแบ่งพื้นที่น่านฟ้าแก่ใครก็ตาม ยอดขายโดรนของดีเจไอ พุ่งทะยานปกคลุมท้องฟ้าทั่วโลก เขาไม่่ได้จบลงด้วยโดรนเพื่อการถ่ายภาพทางอากาศส่วนบุคคลเท่านั้น เขาได้รุกคืบเข้าไปสู่ธุรกิจภาพยนตร์ เช่น Star Wars และภาพยนตร์ชุดโด่งดัง Game of Thrones ได้ใช้โดรนของดีเจไอ
แฟรงค์ หวัง เป็นผู้ประกอบการจีนอายุ 38 ปี และบุคคลที่สร้างตัวเอง บริษัทของเขาไม่ได้ขายหุ้นแก่ประชาชน แต่ได้ถูกมองเป็น "ยูนิครอน" และแฟรงค์
หวังได้ถูกรู้จักกันเป็น "ลอร์ดแห่งโดรน" ภายในจีน บุคคลไม่กี่คนที่แฟรงค์ หวัง ชื่นชมอย่างแท้จริงคือ เหริน เจิงเฟ้ย ผู้ก่อตั้งหัวเหวย หัวเหวย ไม่ได้ขายหุ้นแก่ประชาชนด้วย
เมื่อเขาเป็นเด็ก การผจญภัยของเฮลิคอปเตอร์สีแดงจากชุดหนังสือการ์ตูนที่
เขาหลงใหลกลายเป็นตัวเร่งไปสู่ความฝันตลอดชีวิต การศึกษาของเขาไม่ได้ดีเด่นอะไรเลย เมื่อ ค.ศ 2003 แฟรงค์ หวัง ได้ออกจากการศึกษาของเขา ณ อีสท์ ไชนา นอร์มอล ยูนิเวอรซิตี้ เขาเป็นนักศึกษาธรรมดา เขาได้สมัคร มหาวิทยาลัยความฝันของเขา เอ็มไอที และสแตนฟอร์ด แต่ได้ถูกปฏิเสธ ในที่สุดเขาได้ถูกรับโดยมหาวิทยาลัยไซแอนซ์ แอนด์ เทคโนโลยีฮ่องกง และจบการศึกษาด้วยเกรดซี ภายหลังจากจบการศึกษา เขาได้ก่อตั้งดีเจไอด้วยเพื่อนร่วมชั้นสองคน พวกเขาได้ย้ายไปสูอพาร์ตเม้นท์สามห้องนอนภายในศูนย์การผลิตของเซินเจิ้น ซิลิคอน แวลลี่ย์ ของจีน
เมื่อบริษัทได้เริ่มต้น เงินทุนที่พวกเขามีและอยู่รอดได้ เป็นส่วนที่เหลืออยู่ของทุนการศึกษามหาวิทยาลัยของแฟรงค์ หวังเท่านั้น ตอนเป็นเด็กเขาได้ซ่อมแซมเฮลิคอปเตอร์ชำรุดของเขา และเมื่อเป็นนักศึกษาเขาได้สร้างระบบการควบคุมทางอากาศของเฮลิคอปเตอร์ภายในหอพักของเขา เขาทำงานทุกอย่างด้วยมือของเขา การสร้างผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเขาเองโดยความช่วยเหลือของเพื่อนร่วมชั้น
ในขณะที่ผู้ประกอบการที่บรรลุความสำเร็จส่วนใหญ่ เช่น เจฟฟ์ บีซอส หรือแจ็ค หม่า ย้ำทักษะความเป็นผู้นำเเละการบริหาร แฟรงค์ หวัง มุ่งวิสัยทัศน์ของเขาเองและผลิตภัณฑ์ก่อน แม้ว่าความสัมพันธ์ที่ถูกคอของเขากับบุคคลหลายคนที่ทำงานด้วยจะน้อย แฟรงค์ หวัง นั่งอยู่บนสุดของอุตสาหกรรมลบล้างครอบงำผู้มีอิทธิพล แฟรงค์ หวัง ได้กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้เทคโนโลยีกล้องถ่ายรูปบินได้ ถูกจำกัดอยู่ที่เทคโนโลยีทหาร แต่ในขณะนี้เราสามารถทำมันให้สามารถรับภาระได้เพียงพอต่อบุคคลธรรมดา" แฟรงค์ หวัง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของโดรนเจซีไอ ผู้ผลิตโดรนทางการค้าใหญ่ที่สุดทั่วโลก
การเริ่มต้นด้วยความฝันที่จะสร้างเครื่องบินที่สามารถบินได้อย่างอิสระ ในที่สุดนำไปสู่การเริ่มต้นยุคของโดรน ปัจจุบันนี้ดีเจไอเป็นผู้นำตลาดภายในตลาดโดรนเพื่อการค้า ความคิดของแฟรงค์ หวังของการนำโดรนไปสู่มวลชน ได้บันดาลใจนวัตกรรมทั่วทั้งโลก และมันไม่ยุติธรรมเลยถ้าเขาจะถูกยกย่องด้วยนักลอกเลียนแบบของยุคโดรน เมื่อไรการลบล้วงตลาดเป็นสิ่งที่ดี เมื่อมันสร้างโอกาสเลยพ้นตลาดสมัยเดิม จัดหาข้อแก้ปัญหาที่ไม่ใช่สมัยเดิม และทำให้กระบวนการประจำวันของเราเรียบง่ายลง ภายในวืถีทางนี้ โดรนต่อเราส่วนใหญ่่ในที่สุดเป็นเทคโนโลยีลบล้าง มันสามารถจัดส่งวัสดุทางการแพทย์ที่สำคัญไปสู่พื้นที่ห่างไกล และพื้นที่อันตราย ปรับปรุงกระบวนการรักษาพืชผล และเพิ่มการผลิตอาหาร และตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานหลายร้อยฟุตบนอากาศ
เมื่อตอนกลางคืนของฤดูหนาว 2015 หน่วยสืบราชการลับของอเมริกาได้เร่งด่วนตรวจสอบสิ่งผิดปรกติ ณ สนามหญ้าของทำเนียบขาว พวกเขาได้พบ
โดรน ระบุเป็นแฟนทอมเอฟซี 40 กระทำโดยผู้ชอบงานอดิเรก ผลิตจากบริษัทจีน ดีเจไอ พุ่งชนต้นไม้ เป็นเฮลิคอปเตอร์สี่ใบพัดควบคุมด้วยรีโมตกว้างสองฟุตที่ขายภายในร้านค้า เป็นเรื่องราวข่าวของโลกและเป็นปัญหาของการตรวจสอบของหน่วยสืบราชการลับ เมื่อโดรนตัวนั้นได้ลงสู่พื้นอย่างกระทันหันบนสนามหญ้าทำเนียบขาว และเกือบสร้างเหตุการณ์ระหว่างประเทศ แฟรงค์ หวัง สร้างโดรนตัวนั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และมิแชล โอบามา อยู่ที่อินเดีย เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น
ที่จริงแล้วเขาได้คิดค้นโดรนตัวนั้น และเป็นผู้ผลิตโดรนแนวหน้าภายในโลก เขาได้สร้างโดรนเป็นผู้ประท้วง ส่งขวดของเสียกัมมันตภาพรังสีลงบนหลังคาของสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุนด้วย
ก่อนที่โดรนหามาได้ทางการค้า การถ่ายภาพทางอากาศถูกจำกัดอยู่กับทหาร โดรน แฟนทอม ทำให้เกิดการลบล้างภายในตลาดการถ่ายภาพทางอากาศ ปัจจุบันนี้ ดีเจไอ เป็นบริษัทโดรนใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการเป็นเจ้าของเกือบ70%
ของอุตสหกรรมโดรนเมื่อ2017 แฟรงค์ หวัง กลายเป็นมหาเศรษฐีเทคโนโลยีหนุ่มที่สุด ของเอเซีย ดีเจไอ มีชื่อเสียง
กับยูเอวีของพวกเขา ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ค. 24, 2021 1:04 pm

ทฤษฎีแมลงสาบ (Cockroach Theory)

A speech by Sundar Pichai, CEO Google -

ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ขณะที่ นั่งจิบกาแฟอย่างสงบ

อยู่ๆก็มีแมลงสาบ บินจากไหนไม่รู้ บินเข้ามาเกาะผู้หญิง
โต๊ะข้างๆแบบไม่ทันตั้งตัว

ผู้หญิงคนนี้กรีดร้อง กระโดดโลดเต้น โหวกเหวก โวยวาย
สะบัดไม้ สะบัดมือหวังให้แมลงสาบบินออกไป

ในตอนนั้นท่าทางที่เธอแสดงออกมา ทำให้เพื่อนๆที่นั่งด้วยกัน รู้สึกตกใจและหัวเสียเป็นอย่างมาก

หลังจากเธอใช้ความพยายามสักครู่หนึ่งแมลงสาบก็บินออกไป

แต่เดี๋ยวนะ!!!

แมลงสาบมันไม่ได้ไปไหนไกลเลย มันแค่เปลี่ยนเป้าหมาย
ไปเกาะผู้หญิงข้างๆแทน

ทันทีที่แมลงสาบเริ่มเกาะอีกคนนึง เหตุการณ์ทุกอย่าง
เหมือนเดิมเป๊ะ

ผู้หญิงคนใหม่ร้องโหวกเหวกโวยวาย กระโดดโลดเต้น
พยายามทำทุกวิถีทางสลัดแมลงสาบให้หลุดออกไป
เหมือนคนก่อน

เด็กเสิร์ฟเห็นเข้า ก็ตกใจ
รีบวิ่งตรงดิ่งมาที่โต๊ะลูกค้าทันที

เหมือนแมลงสาบจะรู้ว่าเหยื่อรายใหม่กำลังมาแล้ว
มันเลยบินออกจากตัวผู้หญิงคนที่สองแล้วมาเกาะที่เด็กเสิร์ฟคนนั้นแทน

เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

แทนที่เด็กเสิร์ฟจะสะบัดแมลงสาบตัวนั้นทิ้งในทันที
เขากลับยืนมองนิ่งๆ
เฉกเช่นเพื่อนที่คุ้นเคยกัน
สังเกตุพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของแมลงสาบบนเสื้อเขา

เมื่อเด็กเสิร์ฟมั่นใจในทิศทางการเคลื่อนที่ของแมลงสาบแล้ว
เด็กเสิร์ฟ จึงค่อยเอามือคว้าแมลงสาบอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับนำออกไปโยนทิ้งนอกร้านในทันที

สิ่งที่ CEO Google คนนี้ตั้งคำถามคือ...
แมลงสาบคือต้นเหตุของความโกลาหลครั้งนี้รึป่าว?

ถ้าใช่...แล้วทำไมเด็กเสิร์ฟคนนี้ถึงยืนนึ่งๆ พร้อมกับรับมือกับเจ้าแมลงสาบตัวนี้ได้อย่างสบายๆ
ในขณะที่หญิงสาวสองคนนั้นถึงกระโดดโลดเต้น วิ่งไปมา
เพื่อให้แมลงสาบบินออกไป

จริงๆแล้วปัญหามันอาจไม่ใช่อยู่ที่ "แมลงสาบ"แต่มันอยู่ที่ความสามารถในการรับมือกับปัญหาที่เข้ามารบกวนมากกว่า

Sundar Pichai
เลยเริ่มตระหนักว่า....

ที่ผ่านมา...
สิ่งต่างๆที่ทำให้ตัวเค้าหัวเสียไม่ว่าจะเสียงบ่นจากเจ้านาย พ่อแม่ ลูกค้า หรือ คนใกล้ตัว
หรือความเครียดต่างๆที่เกิดขึ้นกับเขา
จริงๆแล้วมันอาจจะไม่ใช่ปัญหาเลยก็เป็นได้

อารมณ์ หรือ ความรู้สึกต่างๆเหล่านั้นเกิดจากเราเอง
เรานี้แหละ ที่ไม่สามารถรับมือกับสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้
เพราะจริงๆแล้วเราคือคนที่เลือกเองว่าจะรู้สึกยังไงกับสิ่งรบกวนเหล่านั้น

มันไม่ใช่เพราะรถติด แล้วทำให้เราหัวเสีย
แต่มันคือปฏิกิริยาของเราที่ใช้ในการรับมือกับปัญหาต่างหาก
บางทีถ้าไม่มีสติ เราอาจหงุดหงิด อารมณ์ร้อนมากยิ่งขึ้น
พอรถยิ่งติด เรายิ่งรีบ
สุดท้ายบานปลาย
นำไปสู่อุบัติเหตุรถชน

หรือในกรณีของแมลงสาบ ยิ่งพยายามปัดออกจากเสื้อ
สุดท้าย มันอาจบินมาเกาะหน้า หรือ บินเข้าปาก
ยิ่งไปกว่านั้น
ถ้าคุณพยายามวิ่งหนี
คุณอาจสะดุดล้ม
เป็นแผลใหญ่โตก็ได้

ดังนั้น จงจำไว้ว่า...
ยิ่งวิธีการรับมือที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งทำให้ปัญหา
ยุ่งเหยิงใหญ่โต

สิ่งสำคัญคือ ไม่ใช่แค่การ
#React หรือแค่ตอบสนองปัญหาด้วยสัญชาตญาณ
แต่มันต้องเป็นการ #Respond หรือรับมือ
ด้วยกระบวนการคิดที่ถูกต้อง
ผ่านการใช้สมองไตร่ตรอง
เพื่อควบคุมต้นตอของปัญหา ไม่ให้มันบานปลายเกินแก้ไข

คนที่มีความสุข ไม่ใช่เพราะทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต
มีแต่เรื่องที่ถูกต้องตามแผนที่วางไว้หรอกนะ
แต่ที่เขามีความสุข เพราะ
สติและทัศนคติที่ดีที่มีต่อปัญหาต่างๆในชีวิตมากกว่า

คุณเลือกเอาเองละกัน
ว่าอยากรับมือกับปัญหา
แบบ React หรือ Respond
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 14, 2021 1:00 pm

"เขียนดีอะไรเช่นนี้"

1. ในแต่ละปีจงทำชีวิตให้ " ดีขึ้น " เพราะในแต่ละวัน ชีวิตกำลัง " สั้นลง "

2. การ " อยู่กับปัจจุบัน " ไม่ใช่การ " หยุดทำ " ในเรื่องสำคัญ แต่มันคือการ
" หยุดทุกข์ " ไปกับเรื่องที่ไม่สำคัญ

3. อารมณ์ " ลบ " ทุกชนิด จะทำร้ายเรา ก่อนที่จะทำร้ายคนอื่นเสมอ

ส่วนอารมณ์ " บวก " ทุกชนิด จะให้พรเรา ก่อนที่จะให้พรคนอื่นเสมอ เช่นกัน

4. วิจารณ์คนอื่นทุกวัน ใจต่ำลงทุกวัน วิจัยตัวเองทุกวัน ใจสูงขึ้นทุกวัน

5. ถ้าไม่มีคนมาทำให้คุณโกรธ คุณจะไม่รู้เลยว่าระดับจิตคุณอยู่ตรงไหน
ถ้าไม่มีใครมาทำให้คุณทุกข์ใจ คุณจะไม่รู้เลยว่าตัวเองยังมีอะไรต้องพัฒนา

6. ไม่ว่า " ภายนอก " เราจะอยู่กับคนมากแค่ไหน แต่ " ภายใน " เรายังอยู่ตัวคนเดียวเสมอ

จงหาวิธี " รักตัวเอง " ให้เจอ เพราะไม่มีใครในโลกนี้ที่จะอยู่กับเธอ สม่ำเสมอเท่ากับ
" ตัวเธอเอง "

7. การฝึกจิตและพัฒนาตัวเอง อาจไม่ทำให้เรา " พ้นทุกข์ตลอดกาล " แต่มันทำให้เรา
" เป็นทุกข์นานน้อยลง "

8. การ " แก้กรรม " ที่ดีที่สุด คือการแก้ไข " ความคิด " " คำพูด " และ " การกระทำ "
ของตัวเอง

9. ความดีเล็ก ๆ ที่ทำไปนาน ๆ สุดท้ายอาจสร้าง " ปาฏิหารย์ " ให้ชีวิต

10." ไป " ได้เร็วแค่ไหน ก็ถึงเร็วเท่านั้น " ปล่อย " ได้เร็วแค่ไหน ก็สุขเร็วเท่านั้น

11. จำไว้ว่า " ความทุกข์ " และ" ความเจ็บปวด " ทั้งมวล ไม่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา
เพื่อมอบ " คำสาป " แต่มันผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เพื่อมอบ " คำสอน "

12. ก้าวแรกของการใช้ชีวิตอย่าง " ผู้ตื่น "คือการหยุดยุ่งวุ่นวายเรื่อง " คนอื่น"
แล้วหันกลับมาวิเคราะห์ใจ " ตัวเอง "

13. ความทุกข์ทั้งหมดในชีวิต ไม่ได้เกิดจาก " สิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ " แต่มันเกิดจาก "
สิ่งที่คุณคิด ว่าคนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ "

14. ต้องขอบคุณคนที่ทำ " ไม่ดี " ที่ช่วยเป็นตัวอย่างที่ " ดี " ว่าอะไร " ไม่ควรทำ "

15. ไม่ว่าจะทุกข์หนักหนาสาหัสสักแค่ไหน ทางออกก็ไม่เคยอยู่ไกลไปกว่า " ใจ " ของเราเอง...

16. เกลียดเขา " เราทุกข์ " เมตตาเขา " เราสุขเอง "

17. คนเราฝึกเดินจนเก่งได้ ฉันใด ก็สามารถฝึกใจจนเป็นสุขได้ ฉันนั้น

18. " ความตาย " เป็นเรื่องธรรมดา แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า
เป็นเรื่อง" อัศจรรย์ "

19. โปรดสังเกตุดูให้ดี ว่าสิ่งที่ทำให้เราทุกข์ บ่อยที่สุดในแต่ละวัน ไม่ใช่ " พฤติกรรม "
ของคนอื่น แต่คือ " ความคิด" ของเราเอง

20. อย่าถือโทษ โกรธคน ไม่คู่ควร อย่าตีตรวน ตนไว้ กับอดีต ชะตาเรา อย่าให้ใคร
มาเขียนขีด อย่าเอาคำ ที่เหมือนมีด มากรีดใจ

21. หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะมี " เงิน "วันไหนเงินหมด คุณค่าคุณก็หมด
หากคุณคิดว่าตัวเองมีค่า เพราะ " หน้าตา " ดี วันไหนคุณแก่ลง จนหน้าตาไม่ดี
คุณค่าคุณก็หมด แต่ตราบใดที่คุณรู้ว่าตัวเองมีค่า เพราะเป็น " คนดี " ตราบใดที่คุณ
มีความดี คุณก็จะ " มีคุณค่า "ได้ตลอดไป”

Cr: เพื่อนในไลน์

:s007: :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ก.ย. 17, 2021 10:43 am

※ จงเลือกที่จะมีความสุข ※
.
อย่าบอกว่าใครจน
ทั้งๆ ที่เค้าอาจจะมีแค่นั้น
อย่าบอกว่าใครเศร้า
ทั้งๆ ที่เค้าอาจจะหมดใจ
อย่าบอกว่าใครเหงา
ทั้งๆ ที่เค้าอาจจะไม่เหลือใคร
อย่าบอกว่าใครเชย
ทั้งๆ ที่เค้าอาจจะไม่มีอะไรจะใส่
อย่าบอกว่าใครดื้อ
ทั้งๆ ที่เค้าอาจจะไม่เข้าใจคำว่าด้าน
อย่าบอกว่าใครมาร
ทั้งๆ ที่เทพเราอาจจะไม่เคยพบพาน
อย่าบอกว่าใครค้าน
ทั้งๆ ที่เราไม่เคยทำให้ใครเข้าใจ
ชีวิตนั้นสั้นกว่าที่คิด
จงท้าทายความคิด และใช้ชีวิตให้ท้าทาย
แต่จงอย่าประมาทความคิด
และอย่าใช้ชีวิตอย่างประมาท
เข้าไปตรงไหน ถ้าไม่ใช่ให้ออกมา
ยืนนั่งตรงไหน ไม่มีความสุขก็ย้ายที่
จงมีความสุขกับการได้เห็น
ตัวเองมีความสุข ก็แล้วกันนะ
.
ขอบคุณผู้เขียนบทความ
♥️ถูกใจให้กดLike สร้างบุญให้กด Share
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ต.ค. 03, 2021 10:43 pm

โรงพยาบาลธรรมชาติ
บอกต่อไป ได้บุญครับ

🚫 1. ไขมันในเลือดสูง
แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัวตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินวันละ 10 กลีบ
กินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว
--------------------------
🚫 2. ปวดหัว
ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง(แมกนีเซียม)กินวันละ 4 ขีดและกินปลาทูอีกวันละ 2 ตัว
(น้ำมันปลาลดการอักเสบได้)หรือจะชงโกโก้กินก็ช่วยได้
-------------------------
🚫 3. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้น และกินกระเทียม หอม พริกให้มากๆ
____________________
🚫 4. ภูมิแพ้
แค่กินฝรั่งวันละ 4 ชิ้นกินเมล็ดฝักทองวันละ 1 กำมือ(สังกะสี)
--------------------------
🚫 5. แพ้ฝุ่นละอองไรฝุ่น
หาโยเกิร์ตรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน
------------------------------
🚫 6. โรค หืดหอบ ไอเรื้อรัง
กินต้มยำไก่ กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน
--------------------------
🚫 7. ไขข้ออักเสบ
หาปลาเนื้อมันกินวันละ 2 ขีด เช่น ปลาทู ปลาสวาย ปลาแซลมอน หรือปลากระป๋อง
-------------------------
🚫 8. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ 3 มื้อ
------------------------
🚫 9. ท้องอืด
แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อยๆ
---------------------
🚫 10. ท้องผูก
ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ 3 ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า/เย็น.
-------------------------
🚫 11. โรคกระเพาะอาหาร
หากล้วยหักมุกปิ้งกิน กล้วยน้ำว้า หรือกระหล่ำปลีให้เยอะมาก
-------------------------
🚫 12. เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย
ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทานเช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง น้ำขิง ชาขิง
--------------------------
🚫 13. วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวน
ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ 1 แผ่นหรือถั่วลิสงวันละ 1 กำมือ
-------------------------
🚫 14. หงุดหงิดง่าย
ให้กินอาหารร่าเริง คือข้าวเหนียว ข้าวโพด กลอย กล้วยหอม และทูน่า
---------------------------
🚫 15. กระดูกพรุน
ให้กินงาดำวันละ 4 ช้อนโต๊ะ(ได้แคลเซียมมาก)
------------------------
🚫 16. ความจำไม่ดี
ให้กินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครง และหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้
------------------------
🚫 17. มะเร็งเต้านม
ให้กินบร็อกโคลี หรือคะน้าวันละ 5 ขีด
------------------------
🚫 18. มะเร็งปอดทางเดินหายใจ
ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วงให้มากเพราะวิตามินซี
ช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี
-------------------------
🚫 19. ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน
กินแอปเปิ้ลเขียววันละ 1-2 ผลหรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกากจะเป็นการล้างพิษไปในตัว
--------------------------
🚫 20. เจ็บอกโรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอก ผลอโวคาโด
เพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชา
ให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มวันละถ้วย
---------------------------
🚫 21. ความดันสูง
ต้องงดบุหรี่และความเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากิน หรือผักคึ่นฉ่ายสดหรือ
ปั่นก็ได้ จะช่วยควบคุมความดันให้ดีขึ้น
-------------------------
🚫 22. เบาหวานถามหา
ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อกโคลี ผักโขมให้มาก
ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอ และฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก
โรงพยาบาลธรรมชาติ
บอกต่อกันไป ได้บุญครับ....

:s023:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ต.ค. 06, 2021 12:58 pm

ไม่อยากป่วยในวัยชรา และวัยกลางคนฝึก22ข้อนี้:
01. นอนเต็มอิ่ม
02. เคลื่อนไหว ช้าๆ
03. ลดปริมาณ อาหาร ลงเล็กน้อย
04. กินแบบผสม มากขึ้น
05. กินอาหารร้อน
06. ดื่มน้ำให้ มากขึ้น
07. กินเกลือ น้อยลง
08. อาหารเย็น กินก่อนค่ำ
09. ออกกำลังกาย มากขึ้น
10. ผ่อนคลาย
11. แต่งตัวดีขึ้น
12. ยิ้มจริงๆ
13. พอใจ
14. ลืมอายุ
15. หาเพื่อน
16. มีความโรแมนติก เล็กน้อย
17. งานอดิเรก เพิ่มเติม
18. ชื่อเสียงและโชคลาภอ่อนแอลง
19. เที่ยว สักหน่อย
20. ดูแลจมูก
21. ดูทุกอย่าง
22. เก๋ไก๋ในวัยชรา
🔺ยาแก้ปวด ยานอนหลับ ยาไต ยาลดไขมันที่เป็นธรรมชาติที่สุด...
①ยาไต - มันเทศ
②ยานอนหลับ - กล้วย
③ยาทาผิว - คาโมไมล์
④ยาแก้หวัด - มะนาว
⑤สมุนไพรกระเพาะ - กะหล่ำปลี
⑥ขิง - บรรเทาปวด
⑦ยาลดความดันโลหิต - ขึ้นฉ่าย
⑧ยาลดไขมัน - ฮอว์ธอร์น
⑨ยาลดน้ำตาล - อบเชย
⑩ยาแก้อักเสบ - น้ำผึ้ง
⑪ยาระบาย — พรุน/กระเจี๊ยบ
⑫วิตามิน - สตรอเบอร์รี่
⑬ ยาอายุวัฒนะ - องุ่น
⑭ผลไม้มังกร - ล้างพิษโลหะหนัก
⑮ยาต้านมะเร็ง - กระเทียม
⑯น้ำข้าวบาร์เลย์ - ป้องกันอาการบวมน้ำ
⑰ยาทาผิวขาว - หัวไชเท้าขาว
⑱สับปะรด - ช่วยย่อย
⑲ยาบำรุงปอด - Tremella
⑳น้ำส้มสดชื่น - ต้านความเมื่อยล้า
📌 โปรดส่งต่อข้อมูลสุขภาพนี้ให้กับเพื่อนและครอบครัวด้วยความปรารถนาดี

จาก. ดร. สิทธิชัย เครือวุฒิกุล
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ต.ค. 06, 2021 1:09 pm

🌼สุขง่ายๆ

1) ทุกอย่างบนโลกใบนี้เป็นเพียงสิ่งชั่วคราว
ถ้ามันดี ให้มีความสุขกับมัน
เพราะมันจะอยู่กับเราไม่นาน

ถ้ามันไม่ดีอย่ากังวล
เพราะมันจะอยู่กับเราไม่นานอีกเหมือนกัน

2) ทางเดียวบนโลกใบนี้
ที่จะทำให้ความสุขนั้นมีมากขึ้นนั่นก็คือ
ให้แบ่งปันความสุขนั้น (แบ่งให้คนอื่น
ยิ่งให้มาก ยิ่งสุขมาก)

3) คนที่ "น่าอิจฉาที่สุด" คือ
คนที่ไม่อิจฉาใครเลย
ดูเหมือนมันเป็น "ความสุข" ง่ายๆ
แต่ คนส่วนใหญ่ ไม่ค่อยทำกัน

4) "ทุกวินาทีที่หายใจอยู่คือโอกาสของชีวิต"
อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่และอย่าแคร์สายตาใคร
ตราบใดที่เรายังหายใจด้วยจมูกของเราเอง

5) ไม่ยุ่งกับชีวิตคนอื่น...ไม่ขัดความสุขคนอื่น...
ไม่คิดแทนคนอื่น...ไม่อิจฉาคนอื่น...
ไม่ดูถูกคนอื่น คำสอน 5 ข้อ ที่ทำให้ชีวิตมีความสุข

6) จงอย่าอิจฉาคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา

7) ไม่ว่าจะมีสิ่งไหนหายไปจากชีวิตเรา...
แต่ "เวลา" ก็ยังคง "เดินต่อ" และเวลาก็สอนให้เราได้รู้ว่า
ระหว่างที่เรามีเวลาอยู่นั้น เราควรจะดูแลและรักษาอย่างไร...
เพื่อว่าวันหนึ่ง "เราจะไม่เสียใจ" กับสิ่งที่ได้ทำดีที่สุดแล้ว

8) ความสุขแม้จะอยู่กับเราไม่นาน
แต่ความทรงจำที่ดีจะอยู่กับเราตลอดไป

9) บางครั้ง...เราไม่ต้องคิดว่า สิ่งที่เราทำ เราจะได้อะไร
แต่เมื่อทำแล้ว มันสุขใจ มันก็คือ "กำไร" ของชีวิต

10) จุดที่ตกต่ำที่สุด เป็นได้ทั้งจุดจบ
และจุดเริ่มต้นใหม่ อยู่ที่เราจะให้มันเป็นอะไร..🌼

Cr : เพจ ชีวิตคิด @pagdesign
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ต.ค. 26, 2021 9:12 pm

ถ้าคุณ...
ตัดสินใจไปกับแมลงวัน
มันจะพาคุณไป...กินขี้
ไปตอมสิ่งของสกปรก เน่าเหม็น

ถ้าคุณ...
เลือกไปกับผีเสื้อ
มันจะพาคุณไปสวนดอกไม้
คุณจะได้รู้จักกลิ่นหอมๆ
เกสรดอกไม้หวานๆ มากมาย

ถ้าคุณ...
เลือกไปกับนกกระจอก
คุณจะได้เห็นมุมมองชีวิต แบบนกกระจอก
ได้บินอยู่ระดับเดียวกับกับนกกระจอก

ถ้าคุณ...
เลือกจะไปกับนกอินทรีย์
คุณก็จะได้มีชีวิตแบบนกอินทรีย์
บินระดับเดียวกับกับนกอินทรีย์

นั่น...เป็นเรื่องสมมุติ
ขึ้นมาให้คุณได้เห็นภาพที่ชัดขึ้น
ในการเลือกคบคน เลือกคบเพื่อน
แม้กระทั่งเลือกคู่ชีวิต

เลือกคบเพื่อนติดยา
ต่อให้คุณไม่เล่นยากับมัน
คุณต้องยอมรับผลที่จะตามมาว่า
วัดดีคืนดี นั่งรถไปกับมัน มันขนยา
คุณ...ตัองโดนด้วย!!

คบเพื่อน ติดการพนัน
คุณก็ต้องยอมรับว่า
สักวัน มันจะโกงคุณ
สักวันมันจะหลอกคุณเซ็นค้ำประกัน
ไม่ก็...ขโมยของในบ้านคุณ
ไปขาย หาเงินใช้หนี้พนัน

เช่นกัน
คุณเลือกคบเพื่อนตั้งใจทำมาหากิน
สนใจเรื่องทำมาหากิน ขยัน
คุณนั่นแหละจะเป็น นักธุรกิจที่เก่งมากคนต่อไป!!

เรื่องคู่รักก็ไม่ต่างกัน

คุณเลือกที่จะคบ
กับนักซิ่งกะบะควันดำ
เขาก็จะพาคุณไปซิ่งบนถนน
พาคุณไปพ่นควันดำๆกลางถนน
ให้คนด่าคุณ..ตามหลัง และในวันนึง
เขาอาจจะพาคุณ ไปตาย ที่ไหนสักที่ ข้างถนน

คุณเลือกที่จะ
เอานักเลง เอาอันธพาลเป็นผัว
คุณก็ต้องยอมรับนะ ว่าวันนึง
นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ คุณอาจโอน
อริของผัวคุณ...ไล่ยิงตายคาร้านก๋วยเตี๋ยว

ถ้าคุณ
เลือกคนดีๆ
คนที่เขาตั้งใจทำมาหากิน
เขาก็จะพาคุณ ค้าขาย พาคุณทำธุรกิจ
พาคุณไปเจอ ไปกินข้าว ไปรู้จักกับนักธุรกิจ

คุณเลือกเอาเอง
ว่าคุณ อยากมีเพื่อน อยากมีคู่
อยากมีสังคม และอยากมีอนาคตแบบไหน

ผมขอบอกจากประสบการณ์
ด้วยอายุครึ่งชีวิตคนๆนึงว่า

หากอยากจะมีชีวิตดีๆ
อยากประสบความสำเร็จ สิ่งแรกเลย
ที่คุณต้องทำคือ ตัดคนไม่ดี
ตัดคนไม่มีคุณภาพ ออกจากชีวิตก่อนเลย!!

เพื่อนที่ชวนไปทำเรื่องแย่ๆ
เพื่อนที่คบไปแล้ว ไม่มีอนาคต
เลิกงานมาชวนแต่กินเหล้า
ไม่คิดเรื่องทำมาหากิน ไม่คิดพัฒนาตัวเอง
เพื่อนพวกนี้...เลิกคบไปเลย!!

ผัวที่ไม่เอาไหน
ไม่ทำให้สบายใจ
ไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้น
ไม่ทำให้ครอบครัวมีอนาคต
ก็ต้อง...พิจารณา หาทางแก้ปัญหา

คนที่คุณ...คบ
คนที่คุณ...สนิทด้วย
คนที่คุณ...คลุกคลี
คนที่คุณ...ปรึกษา

มีผลกับชีวิตคุณทั้งนั้น
ไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้น
เลือกคนที่จะคบให้ดี ๆ

จะไปตอมขี้กับแมลงวัน
หรือไปตอมดอกไม้สวยๆกับผีเสื้อ ก็เลือกเอา

จะบินระดับเดียวกับนกกระจอก
หรือสง่างามแบบนกอินทรีย์
คุณ...เลือกได้

คนที่คุณ คบ คุย ปรึกษา
เป็นใคร...นกกระจอกหรือนกอินทรีย์
ผีเสื้อ หรือแมลงวัน??

ถ้าการคบคนเลวๆไม่มีผลกับชีวิต
พ่อแม่เรา คงไม่ห้ามเราคบเพื่อนติดยา
เพื่อนเกเร พูดง่ายๆเพื่อนเหี้ยๆหรอก

มีเพื่อนแบบไหน มันจะพาคุณไปแบบนั้น
มีคู่ชีวิตแบบไหน เขาจะพาคุณไปแบบนั้นเช่นกัน

สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ พ.ย. 05, 2021 4:27 pm

💌 30 บทเรียนชีวิตที่ผ่านมา 💌

1. จงยึดมั่นในความดี แต่ควรทำดีให้ถูกคน
2. ให้ใจใครไป อย่าคิดว่าจะได้กลับคืนทุกคน
3. คำ “ สัญญา “ เป็นเพียงลมปากเชื่อถือไม่ได้
4. อย่ายุ่งเรื่องใคร ถ้าเขาไม่ได้ยุ่งเรื่องของเรา
5. ดีให้พอดี บางคนไม่ได้เห็นเราดีแต่เห็นเราโง่
6. คนที่น่านับถือคือคนที่รู้จักให้เกียรติผู้อื่น
7. เวลาเปลี่ยนไป ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง
8. พ่อ-แม่ ผู้เลี้ยงดูเราไม่มีเพิ่มแล้วดูแลเค้าให้ดี
9. ร่างกายเราไม่มีร่างที่ 2
10. เวลาและหัวใจไม่มีวันหยุดเดิน หยุดคือตาย
11. ใครดีกับเรา จงดีกับเขา
12. ใครไม่ดีกับเรา ก็อย่าเสียเวลาด้วย
13. ช่วยคนอื่นมันดี แต่อย่าให้เกินกำลัง
14. เรามีทุกข์-สุขในแบบของตัวเองทุกคน
15. หัวใจที่คาราคาซังมันไม่เคยมีความสุข
16. หัวใจเรามีพื้นที่จำกัดอะไรไม่เป็นประโยชน์เคลียร์ออกบ้าง
17. เพื่อนแท้คือคนที่เหมือนเดิมทั้งต่อหน้าและลับหนัง
18. ไม่พอใจมีเท่าไหร่ก็ไม่มีความสุข
19. ชีวิตที่ไม่เป็นตัวเองยังไงก็เหนื่อย
20. ชีวิตที่ขาดสติก็เตรียมรอรับความทุกข์ที่ตามมา
21. คนแต่คนไม่เหมือนกันเปรียบเทียบกันไม่ได้
22. คนที่อิจฉาริษยาคนอื่น ชีวิตเขาเต็มไปด้วยทุกข์
23. อนาคตวางแผนได้ แต่จงเอาตัวเองอยู่กับปัจจุบัน
24. ไม่มีใครรักเรามากไปกว่าครอบครัว
25. จำคนที่อยู่กับเราในวันล้ม เพราะเขาใช้หัวใจอยู่กับเรา
26. เรามีแบบเดียวในโลกเห็นคุณค่าความสำคัญตัวเองได้แล้ว
27. เป็นในแบบตัวเองเลิกพิสูจน์ตัวเองกับคนอื่น
28. อะไรสุดมือสอยก็ปล่อยมันไป
29. อะไรที่ไม่ใช่ก็จงอย่าไปฝืน
30. อย่ารอความสุขในอนาคต แต่จงทำวันนี้ให้มีความสุข

ขอบคุณที่มา @กวีอินดี้
#ขอบคุณรูปภาพจาก pinterest
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ พ.ย. 28, 2021 5:50 pm

🌺สแลงภาษาไทยยุคใหม่ตามให้ทัน🌺

สแลง (slang) เป็นถ้อยคำหรือสำนวนที่ใช้กันเฉพาะกลุ่ม คนภายนอก
อาจจะไม่ทราบความหมาย บางทีเรียกว่าภาษาปากหรือ
คำคะนอง ทุกวันนี้มีการนำคำธรรมดามาใช้เป็นสแลงกันมาก ปรากฎในสื่อสาร
มวลชนและโซเชียลมีเดีย จึงรวบรวมคำสแลงไทยยุคใหม่ เรียงตามลำดับอักษร
เพื่อตามให้ทันสังคมไทยยุคปัจจุบัน 🎈(อ) ภาษาอังกฤษ

1.🔻เกรียน : บุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว อวดรู้อวดเก่ง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไร้สติปัญญา
2.🔻แกง/โดนแกง : โดนหลอก โดนกลั่นแกล้ง
3.🔻ขโมยซีน/แย่งซีน : ชอบทำตัวเด่น อยากเป็นข่าวมาจาก steal the scene (อ.)
4.🔻ขั้นเทพ : ดีเลิศทางใดทางหนึ่ง
5.🔻โคตร/โคตร ๆ : ดีมาก สุดยอด ยอดเยี่ยม
6.🔻งานเข้า : มีเรื่องเดือดร้อน พบปัญหาที่ต้องแก้ไข
7.🔻จ้อยย้อย : กริยาอาการคนที่ทำอะไรเชื่องช้า น่าเบื่อหน่าย
8.🔻จัดหนัก : ทำอย่างสุดกำลัง หรือ จัดเต็ม
9.🔻จุงเบย : น่ารัก น่าเอ็นดู เพี้ยนมาจาก จังเลย
10.🔻ชิลล์/ชิลล์ ๆ : สบาย ผ่อนคลาย มาจาก chill out (อ.)
11.ดราม่า : เรื่องราวข่าวลือ เรื่องโกหกหรือปั้นแต่งเกินจริง มาจาก drama (อ.)
12.🔻ติดเรท : เนื้อหาไม่เหมาะสมเข้าข่ายลามก มาจาก X-rate (อ.)
13.🔹ทิพย์ : คิดไปเองเป็นตุเป็นตะหรือเชิงมโน เช่น ผัวทิพย์ เมียทิพย์ เที่ยวทิพย์ ฯลฯ
14.🔹ทัวร์ลง : ถูกรุมด่า ถูกวิจารณ์
15.🔹เท /โดนเท : ถูกทิ้ง เบี้ยวนัด ไม่ทำตามสัญญา
16.🔹นก : พลาดไม่ได้สิ่งที่คาดหวัง
17.🔹บ้ง : ล้มเหลว ผิดพลาด ไม่ได้เรื่อง
18.🔹บูลลี่ : พฤติกรรมกลั่นแกล้ง รังแกผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่อ่อนแอกว่า มาจาก bully (อ.)
19.🔹ปัง : ดีงาม โดดเด่น ถูกใจ ถ้าปั๊วะปังยิ่งดีใหญ่
20.🔹โป๊ะแตก : ความลับถูกเปิดเผย
21.🔹ฟิน : สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ มาจากภาษาฝรั่งเศส finale (ฟินาเล่) บ้างก็ว่ามาจาก finish (อ.)
22.🔹มโน : คิดฝันไปเอง จินตนาการเรื่อยเปื่อย
23.🔹มองแรง : ส่งสายตามองแบบไม่พอใจ
24.🔹เม้าท์มอย/เม้าท์ : การซุบซิบนินทา พูดจาลับหลังในเชิงเสียหาย มาจาก mouth (อ.)
25.🔸มุ้งมิ้ง : น่ารัก น่าเอ็นดู ภาษาใต้ว่า ย่ำค่ำ
26.🔸ยอมใจ : ยอมแพ้ ยอมศิโรราบ
27.🔸ยืนหนึ่ง :โดดเด่น อันดับหนึ่ง
28.🔸เริ่ด : สะดุดตา พิเศษสุด
29.🔸ลั้ลล้า : สนุกสนาน ร่าเริง เช่น ผู้ชายลั้ลล้า ผู้หญิงลั้ลล้า
30.🔸เล้าหลือ : เซ้าซี้ น่ารำคาญ น่าเบื่อ
31.🔸ลำไย : ทำตัวน่าเบื่อ น่ารำคาญ
32.🔸สลิ่ม : หมายถึงกลุ่มคนที่มีความเห็นให้ดำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ใช้แทนกลุ่มเสื้อหลากสี เช่นขนมซ่าหริ่ม ที่มีหลาย
เส้นหลากสีสัน ต่อมาความหมายเปลี่ยนไปตามบริบทที่นำไปใช้
33.🔸สัส : คำด่า มาจาก สัตว์ สะกดให้สั้นเพื่อสะดวกในการพิมพ์ เช่น ไอ้สัส
34.🔸สะดือด่วน : ไวในเรื่องเพศสัมพันธ์
35.🎈สามนิ้ว : การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง เพื่อต่อต้านผู้มีอำนาจ
สามนิ้วหมายถึง เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ อีกนัยหนึ่งมาจากภาพยนตร์
เรื่อง The Hunger Games ตัวละครต่อต้านผู้ปกครอง ม็อบชาวไทยนำมาใช้
เป็นที่มาของชื่อ พวกสามนิ้ว
36.🎈สามกีบ : ชื่อเกี่ยวโยงกับพวกสามนิ้ว กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต่อต้านผู้มีอำนาจ
โดยการใช้สัญลักษณ์ชูสามนิ้ว พวกสามกีบกับพวกสามนิ้วถือเป็นพวกเดียวกัน
37.🎈หัวร้อน : อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย มาจาก hot headed (อ.)
38.🎈หิวแสง : อยากทำตัวเป็นข่าวหรืออยากดัง มักใช้วิธีการใส่ร้ายคนอื่น
39.🎈อย่าหาทำ : อย่าริอ่านไปทำ อย่าหาเรื่องใส่ตัว
40.🎈ไอต้าว : คำเรียกเด็กเชิงน่ารัก น่าเอ็นดู มาจาก ไอเจ้า

อ้างอิงพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน (พ.ศ.2554) พจนานุกรมฉบับ
มติชน (พ.ศ.2547) ข้อมูลจากเว็ปไชต์และวิกิพีเดีย เผยแพร่เป็นวิทยาทาน
ในวาระคล้ายวันลืมตาดูโลก
บุญเสริม ฤทธาภิรมย์ 25 พฤศจิกายน 2564
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ม.ค. 21, 2022 1:21 pm

(electrician) "ไฟฟ้าดับลิฟต์ค้าง จะทำอย่างไร..?"

(right)เกิดอุบัติเหตุลิฟต์ร่วงตกกระแทกพื้นที่โรงแรมเวลคัม จอมเทียน บีช เมืองพัทยา
จ.ชลบุรี มีผู้บาดเจ็บ 16 ราย...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคณะสัมมนาเดินทางมาอบรมที่ชั้น 18 ในโรงแรมเวลคัม จอมเทียน บีช
หลังจากการอบรมจบลง ผู้เคราะห์ร้าย 16 คน ได้ลงลิฟต์ ขณะที่ลิฟต์เลื่อนลงมาถึงชั้น 10
ไฟเกิดดับกระทันหัน จากนั้นลิฟต์ก็ร่วงตกลงมาจนกระแทกกับพื้นที่ห้องล็อบบี้ชั้นแรก เสียงดัง
สนั่นหวั่นไหว จนสภาพลิฟต์พังยับเยิน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องงัดประตูลิฟต์เพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้าย
โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งที่ รพ.พัทยาอินเตอร์ 11 คน และส่งที่
รพ.พัทยาเมโมเรียล อีก 5 คน หนึ่งในนั้นมีผู้อาการสาหัสคือ นายทนงศักดิ์ ลำจำปา อายุ 33 ปี
ขาขวาหัก

# สิ่งที่จะต้องทำเมื่อคุณติดอยู่ในลิฟต์ :
วันหนึ่ง ขณะที่ผมอยู่ในลิฟต์ มันก็หยุดกระทันหันและร่วงลงจากชั้น 13 ด้วยความเร็วสูง
โชคดีที่เคยจำได้จากทีวีที่สอนว่า คุณจะต้องกดปุ่มทุกปุ่มสำหรับทุกชั้นอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุด
ลิฟต์หยุดที่ชั้น 5 ขณะที่คุณกำลังเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย การตัดสินใจหรือการกระทำ
อะไร จะตัดสินความอยู่รอดของคุณ ถ้าคุณอยู่ในสถานะลิฟต์ตก สิ่งแรกในใจมักจะเป็น สวดมนต์
รอความตาย แต่หลังจากที่ได้อ่านข้อความข้างล่างนี้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อคุณติดอยู่
ในลิฟต์
สิ่งแรก - ให้กดปุ่มให้ลิฟต์จอดทุกชั้นอย่างเร็วที่สุด
สอง - จับที่จับให้แน่น (หากว่ามี)
สาม - พิงหลังและศีรษะเข้ากับผนังให้เป็นเส้นตรง
สี่ - งอเข่า ย่อตัวลงเล็กน้อย
เหตุผลก็คือ เมื่อลิฟต์ตก คุณจะไม่รู้ว่าเมื่อไรที่มันจะกระแทกกับพื้น และอาจจะส่งผล
ให้กระดูกทั่วร่างแตกละเอียด
…… จุดแรก หากเมื่อไฟฟ้าสำรองทำงาน มันจะหยุดลิฟต์จากการร่วงลงมา
…… จุดที่สอง มันจะช่วยยึดตำแหน่งของคุณในสภาพไร้น้ำหนักจากการหล่น และป้องกัน
การบาดเจ็บถ้าคุณเสียสมดุลหรือล้มลง
… … จุดที่สาม การพิงผนังจะช่วยป้องกันหลังและกระดูกสันหลังของคุณ
…… จุดที่สี่ เส้นเอ็นข้อเข่าจะเป็นจุดเชื่อมต่อของกระดูกขาที่ยืดหยุ่น ดังนั้น การย่อเข่าลง
เล็กน้อยจะเป็นการป้องกันการบาดเจ็บ โดยลดโอกาสที่กระดูกหักจากการกระแทก
ของการร่วงหล่น

#รู้ไว้เพื่อดูแลตัวเอง
#บอกต่อๆ กันด้วยนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ม.ค. 28, 2022 12:18 pm

บ่อยครั้ง ที่มีการจด สะกดผิด
มักสะกิด บอกกล่าวไปให้รีบเปลี่ยน
ค่อนข้างแปลก ที่ส่วนใหญ่ ไม่ใช่นักเรียน
ผู้ที่เขียน คำผิดนี้ มีทั่วไป

จึงรวบรวม ซ่องสุม คำกลุ่มเสี่ยง
เอาแค่เพียง ที่อยากบ่น ทนไม่ไหว
ขอโทษที ที่ทักท้วง เพราะห่วงใย
พี่น้องไทย เจ้าของภาษา อย่าเคืองกัน

ต่อไปนี้ มีคำไหน ใครเคยผิด
ภารกิจ กังวาน บ้านจัดสรร
เบญจเพส เจตจำนง องค์ราชัน
ดอกไม้จันทน์ อายัด หน้าปัดนาฬิกา

หญิงแม่ม่าย ลายเซ็น เห็นจะจะ
กาลเทศะ ประจัญบาน ประจันหน้า
เกิดอาเพศ เวทมนตร์ สนนราคา
แมวสีสวาด ดาดฟ้า อุปาทาน (คนละคำกับ อุปทาน: อุปสงค์)

บ่นพึมพำ สัมมนา สง่าราศี
ปีติยินดี ศีรษะ อวสาน
สุคติ ลูกนิมิต พิสดาร
ชัชวาล แทรกแซง แมงกะพรุน

โพนทะนา ผาสุก อุกกาบาต
อนุญาต ราดหน้า พายุไต้ฝุ่น
กิจจะลักษณะ วางก้าม ความสมดุล
บังสุกุล งูสวัด ปัดรังควาน

จัตุรัส เจียระไน ไวทายาด
ฆราวาส บาดทะยัก เครื่องจักสาน
สัพยอก ดอกจัน ดลบันดาล
สร้อยสังวาล สุกใส บันได ดำรง

เลือกสรรหา อาเจียน เกษียณอายุ
พัสดุ ถั่วพู พู่ระหง
ผัดไทย พะแนง แกงบวด ทรวดทรง
อานิสงส์ พะวงหลงใหล ลำไย พะยูน

นกพิราบ สาปแช่ง แมลงสาบ
จาระไน ไมยราบ หายสาบสูญ
ตะลิงปลิง วิ่งเปี้ยว ข้าวเหนียวมูน
รักเทิดทูน รังเกียจ ละเมียดละไม

วันทยาวุธ วันทยหัตถ์ มัสมั่น
อัฒจันทร์ อายัด อัธยาศัย
ผูกพัน สังเกต เภทภัย
พิสมัย โพระดก รกชัฎ

ทยอย ทแยง แซ็ว แซ่บ โล่ แคบหมู
เกร็ดความรู้ พาณิชย์ ติดสัด
สร้างสีสัน สิงโต โลกาภิวัตน์
สะกิด สกัด รสชาติ ลาดตระเวน

บอระเพ็ด อเนจอนาถ เล่ห์กระเท่ห์
แมงดาทะเล แมลงดานา อุ๊ย! ตาเถน
ดันเผอเรอ หลับผล็อย หน็อยแน่ พิเรนทร์
หกคะเมน มุกตลก นกอินทรี

ไอศกรีม อาจิณ บิณฑบาต
สุญญากาศ ทะนง(ทระนง) ทูต เท่ ภูตผี
เซนติเมตร เกล็ดปลา จาระบี
อิสรเสรี ลิงทโมน โขนละคร

ฤกษ์พานาที เลิกรา นานา อเนก
เกกมะเหรก มงกุฎ อุทาหรณ์
ถนนลาดยาง เครื่องรางของขลัง พึงสังวร
ขอผัดผ่อน สิงสถิต ประดิดประดอย

พอสมควร แก่เวลา และวาระ
เห็นไหมคะ ใช่น้อยนิด ที่ผิดบ่อย
ใช่แล้วค่ะเพื่อนๆ คำพวกนี้ มีไม่น้อย
ถึงต้องคอย เตือนย้ำไว้ เข้าใจนะ... 🥰
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร มี.ค. 15, 2022 4:35 pm

#เพรตเซล (Pretzel) หรือ #ขนมโชคดี เป็นขนมอบที่หลายคนโปรดปราน แต่น้อยคนจะรู้ว่า
ขนมชนิดนี้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับความเชื่อ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมการกินของชาวยุโรป
มานานกว่า 1,000 ปี
โดยเฉพาะในประเทศฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมนี เป็นแหล่งผลิต “เพรตเซล” สูตรออริจินอล
ดั้งเดิมที่มีความอร่อยเฉพาะตัว และเป็นกลุ่มประเทศในภูมิภาคยุโรปที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยว
กับขนมชนิดนี้อย่างชัดเจน
หากย้อนกลับไปในอดีต มีหลักฐานบันทึกไว้ว่า เพรตเซลเริ่มมีปรากฏให้เห็นตั้งแต่ ปี ค.ศ. 610
ในทางตอนใต้ของฝรั่งเศส และทางตอนเหนือของอิตาลี คิดค้นขึ้นโดยเหล่าบาทหลวงที่สอน
คริสต์ศาสนา โดยเพรตเซลถูกนำมาใช้เป็นรางวัลให้แก่เด็กๆ ที่สามารถท่องบทสวดในพระคัมภีร์ได้
เดิมทีเหล่าบาทหลวงจะเรียกเจ้าขนมชนิดนี้ว่า 'เปรติโอลา' (Pretiola) ซึ่งเป็นภาษาละตินแปลว่า
"รางวัลเล็กๆ น้อยๆ" ต่อมามีการนำไปแปลเป็นภาษาอิตาลีว่า 'บราชิโอลา' (brachiola) ซึ่งมี
ความหมายว่า "แขนเล็กๆ" ซึ่งสอดคล้องกับรูปทรงของขนมที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์แทน
วงแขนของเด็กๆ ที่คล้องไขว้ประสานกัน
อีกทั้งส่วนวงกลม 3 วง ที่เกิดจากไขว้กันนั้น ก็ยังสื่อถึงตัวแทนของ "พระบิดา พระบุตร และพระจิต"
ตามหลัก 'ตรีเอกานุภาพ' ของศาสนาคริสต์อีกด้วย
ในเยอรมนี ชาวเยอรมันคุ้นเคยกับเพร็ตเซลมาตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยเฉพาะวันปีใหม่
เด็กๆ จะสวมสร้อยทำจากเพร็ตเซล เชื่อว่าจะทำให้ "โชคดี" และ "มีกินมีใช้" ไปตลอดทั้งปี
อีกทั้งชาวเยอรมันจะกินเพรตเซลกับไข่ต้มในมื้อเย็นของวัน 'กูดฟรายเดย์'
(วันที่พระเยซูถูกตรึงบนไม้กางเขนก่อนที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้งในวัน 'อีสเตอร์ซันเดย์') โดยเชื่อ
กันว่าจะทำให้ชีวิตยืนยาว ส่วนไข่ต้มก็เป็นตัวแทนของการฟืนคืนชีพของพระเยซู
โดยชาวเยอรมันมีวิธีกินเพรตเซลให้อร่อยตามแบบฉบับดั้งเดิม คือ กินเพรตเซลรสเค็มคู่กับ
ไส้กรอก Weisswurst หรือไส้กรอกขาวรูปร่างอ้วนป้อมอันเป็นไส้กรอกที่มีชื่อเสียงของมิวนิก
ทำมาจากเนื้อลูกวัวผสมเบคอนและเครื่องเทศ และจิ้มกับมัสตาร์ดรสหวาน พร้อมเบียร์สักแก้ว
ส่วนในสวิตเซอร์แลนด์ เพรตเซลถูกนำมาใช้ในพิธีมงคลสมรส เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความผูกพัน
และความสุขสมหวังของคู่บ่าวสาว โดยธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวเริ่มมีขึ้นครั้งแรกในราวปี ค.ศ.1614
ในงานอภิเษกสมรสของเชื้อพระวงศ์ในราชสำนัก
อ่านต่อ : https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/849085?anm=
กราฟิก : ณัฐนิช อิสรเสรีธรรม
#กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ตอบกลับโพส