ประวัตินักบุญอย่างย่อเดือนกันยายน (วันที่1-15)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ก.ย. 01, 2021 10:23 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑ กันยายน
นักบุญเบียทริส ดา ซิลวา เมนเนส
St. Beatrice da Silva Meneses

เบียทริสเกิดเมื่อปี ๑๔๒๔ ในตระกูลชนชั้นสูงของโปรตุเกสในเมือง Cuerta
ท่านเป็นลูกสาวของเคาท์แห่ง Viana และเป็นน้องสาวของนักบุญอมาเดอุส
แห่งโปรตุเกส ท่านเติบโตมาในวังของอิสซาเบลผู้ซึ่งอนาคตจะเป็นราชินี
แห่งโปรตุเกส

ท่านเบื่อหน่ายชีวิตไร้สาระของราชวังจึงเขาอารามคณะนักพรตซิสเตอร์เซียน
(Cistercian) ที่ทอเลโด (Toledo) ท่านใช้ชีวิตในอารามแห่งนั้นจนถึงปี ๑๔๘๔
มีเสียงเรียกจากพระเจ้าให้ท่านตั้งคณะนักบวชใหม่
ท่านจึงได้ตั้งคณะแห่งการปฏิสนธินิรมลของพระนางมารีย์พรหมจารีย์
(The Congregation of the Immaculate Conception of the Blessed Virgin Mary)
และด้วยความช่วยเหลือของราชินีอิสซาเบล

ท่านสร้างบ้านคณะที่นอกเมืองทอเลโด ที่ซึ่งท่านดำเนินชีวิตและทำหน้าที่อธิการจนสิ้นชีพ
ในวันที่ ๒กันยายน ๑๔๙๐

ท่านได้รับการตั้งเป็นนักบุญในปี ๑๙๗๖ โดยพระสันตะปาปาเปาโล ที่ ๖

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 02, 2021 10:17 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒ กันยายน
มรณสักขีเดือนกันยายน
Martyrs of September

เหล่ามรณสักขีเดือนกันยายนคือกลุ่มคริสตชนที่ถูกสังหารในเหตุการณ์
ปฏิวัติฝรั่งเศส วันที่ ๒ และ ๓กันยายน ๑๗๙๒

พระสงฆ์และนักบวชชายหญิงกลุ่มหนึ่งปฏิเสธที่จะให้คำสาบานรับรองธรรมนูญ
ปกครองนักบวชของฝ่ายบ้านเมือง วาติกันประณามธรรมนูญนี้เพราะกดให้สงฆ์
คาทอลิกต้องอยู่ใต้การควบคุมและอำนาจของรัฐ พวกท่านถูกกักขังในอาราม
คณะคาร์เมไลท์และถูกสังหารหมู่โดยม็อบนักปฏิวัติกระหายเลือด

พวกท่านได้รับการประกาศเป็นบุญราศีในวันที ๑๗ ตุลาคม
โดยพระสันตะปาปาปีโอ ที่ ๑๑

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ก.ย. 03, 2021 11:27 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๓ กันยายน
นักบุญเกรโกรี่ผู้ยิ่งใหญ่
St. Gregory the Great

ท่านเป็นบุคคลสำคัญของศาสนจักรตะวันตกยุคกลาง เป็นพระสันตะปาปา
ที่ได้รับความเคารพยกย่องที่สุดองค์หนึ่ง

เกรโกรี่เกิดราวกลางศตวรรษที่ ๖ ในครอบครัวชาวโรมันชั้นสูง ได้รับการศึกษา
ทางศิลปศาสตร์และกฎหมาย ท่านได้รับการอบรมเรื่องความเชื่อจากครอบครัว
ใจศรัทธาของท่าน โดยเฉพาะจากมารดาSilvia ผู้ซึ่งได้เป็นนักบุญด้วย

เมื่ออายุ๓๐ ปีท่านทำงานการเมืองโดยมีตำแหน่งระดับสูงในโรม แต่ช่วงนั้นเป็น
ช่วงตกต่ำของนคร หลังจากรับหน้าที่ดูแลเมืองหลวงของจักรวรรดิไม่นาน
ท่านก็ลาออกมาเป็นฤษีในช่วงระยะเวลาที่คณะเบเนดิกตินเริ่มรุ่งเรือง

ท่านดำเนินชีวิตบำเพ็ญตบะเคร่งครัดในอารามเป็นเวลา ๓ ปีก็ถูกพระสันตะปาปา
เรียกตัวให้รับตำแหน่งอนุสงฆ์ที่โรม จากโรม ท่านถูกส่งตัวไปเมืองคอนสแตนติโนเปิล
เพื่อขอความช่วยเหลือจากจักรพรรดิเกี่ยวกับปัญหาการปกครองของโรม และช่วยแก้ไข
ความขัดแย้งทางเทววิทยาของศาสนจักรตะวันออก ท่านทำหน้าที่ผู้แทนพระสันตะปาปา
อยู่ที่นั่น ๖ ปีจึงกลับคืนสู่โรมในปี ๕๘๖

โรมเผชิญอุทกภัยในปี ๕๘๙ ตามมาด้วยการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาเปลาจิอุส ที่ ๒
ปีถัดมาเกรโกรี่ซึ่งขณะนั้นเป็นอธิการของอารามนักพรต ก็จำใจรับการถูกเลือก
ให้เป็นสังฆราชแห่งโรม พระสันตะปาปาเกรโกรี่เริ่มทำงานอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย
เพื่อฟื้นฟูและสร้างความมั่นคงในเรื่องพิธีกรรม ระเบียบวินัยของศาสนจักร ความมั่นคง
ทางเศรษฐกิจและการทหารของโรม อิทธิพลของ
ศาสนจักรได้แผ่ขยายไปทั่วยุโรปตะวันตกภายใต้สมณสมัยของท่าน

ในฐานะพระสันตะปาปา ท่านได้นำเอาประสบการณ์ทางการเมืองมาใช้ที่โรมและ
คอนสแตนติโนเปิลเพื่อป้องกันศาสนจักรคาทอลิกจากกลุ่มต่างๆ ที่พยายามควบคุม
เมืองหลวงของจักรวรรดิ ในฐานะผู้เคยเป็นอธิการของอารามฤษี ท่านสนับสนุน
ขบวนการเบเนดิกตินให้เป็นฐานรากของศาสนจักรตะวันตก

ท่านส่งธรรมทูตไปอังกฤษ และได้รับการยกย่องอย่างสูงในการทำให้อังกฤษกลับใจ
ถือคริสตศาสนาพระสันตะปาปาเกรโกรี่ถือว่าตัวเองเป็น "ผู้รับใช้แห่งผู้รับใช้ของพระเจ้า"
ท่านเป็นสังฆราชแห่งโรมองค์แรกที่สร้างธรรมเนียมใหม่ให้กับตำแหน่งนี้ซึ่งเป็นการปฏิบัติ
ตามคำสั่งของพระคริสต์ที่ว่าผู้ที่มี
ตำแหน่งสูงสุดจะต้องเป็น "คนต่ำต้อยที่สุดและเป็นผู้รับใช้ของทุกคน"

ท่านรวบรวมศาสนจักรโรมันตะวันตกให้เป็นปึกแผ่น นับตั้งแต่วันที่ท่านได้รับเลือกเป็น
พระสันตะปาปาจนกระทั่งเสียชีวิตในปี ๖๐๔ ท่านถ่อมตนเสมอว่างานของท่านคือ
การเป็นผู้รับใช้และผู้อภิบาลด้านจิตวิญญาณ

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ย. 04, 2021 2:55 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๔ กันยายน
นักบุญโบนีฟาส ที่ ๑, พระสันตะปาปา
St. Boniface I, Pope

รายละเอียดในชีวิตเบื้องต้นของท่านมีไม่มากนักแต่เราทราบว่าท่านได้รับ
การเลือก เป็นพระสันตะปาปาเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๔๑๘ ท่านได้รับการยกย่อง
ในความเป็นผู้คงแก่เรียนและจิตใจเมตตา ซึ่งแสดงออกให้เห็นในการดำเนินชีวิต
รับใช้ตามหน้าที่สงฆ์ของท่าน

เมื่อพระสันตะปาปาโซซิมุสสิ้นพระชนม์ในปี ๔๑๘ มีผู้ถูกเลือกเป็นสันตะปาปาสองคน
คือโบนีฟาสและอูลาลีอุส (Eulalius) พวกท่านถูกส่งตัวออกไปจากโรมจนกว่าจักรพรรดิ
จะแก้ไขความยุ่งยากได้แต่อูลาลีอุสไม่ทำตามคำสั่ง ดังนั้นโบนีฟาสจึงได้เป็น
พระสันตะปาปาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

โบนีฟาสปฏิบัติภารกิจอย่างกระตือรือร้น มีการออกระเบียบและควบคุมองค์กร
ท่านปฏิรูปการถือปฏิบัติที่หละหลวมของพวกพระสงฆ์นักบวช และลดสิทธิพิเศษของสังฆราช
ท่านสนับสนุนนักบุญออกัสตินอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับลัทธิเพลาเจียน (Pelagianism)
และออกัสตินเองก็อุทิศตนทำงานหลายประการให้ท่าน ท่านเสียชีวิตที่โรม
วันที่ ๔ กันยายน ๔๒๒

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 05, 2021 9:58 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๕ กันยายน
นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา
St. Teresa of Calcutta

พระศาสนจักรฉลองคุณแม่เทเรซาในวันนี้ท่านเป็นสัญลักษณ์สากลของความเมตา
ของพระเจ้าและความโปรดปรานพิเศษของพระองค์ต่อคนยากจนและถูกทอดทิ้ง

คุณแม่เทเรซาเกิดเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๑๙๑๐ ใน Skopje มาเซโดเนีย
ท่านเป็นลูกคนสุดท้องในจำนวน ๓ คน ชื่อของท่านคืออักเนส กองซา โบยาจู
(Agnes Gonxha Bojaxhiu) ท่านเข้าร่วมกลุ่มเยาวชนที่เรียกว่า โซดาลิตี้ (Sodality)
ซึ่งจัดตั้งโดยสงฆ์เยสุอิตที่วัดของท่าน และกิจการของกลุ่มนี่เองที่นำท่านสู่
กระแสเรียกเป็นซิสเตอร์

ท่านเข้าคณะซิสเตอร์แห่งลอเร็ตโต (Sisters of Loretto) และถูกส่งไปเมืองกัลกัตตา
เพื่อสอนหนังสือในโรงเรียนมัธยม ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๑๙๔๖ ระหว่างที่กำลัง
นั่งรถไฟกลับไปอารามที่เมืองดาร์จีลิงขณะอยู่บนขบวนรถไฟท่านได้ยินเสียง
ซึ่งท่านเรียกว่า "คำสั่ง" ของพระเจ้า ให้ท่านลาออกจากอาราม ไปทำงานและ
ใช้ชีวิตท่ามกลางคนยากจน ในเวลานั้น ท่านไม่ทราบว่าจะต้องตั้งคณะนักบวชหญิง
หรือแม้กระทั่งว่าจะไปทำงานรับใช้ที่ไหน "ฉันรู้ว่าฉันควรไปที่ไหน แต่ฉันไม่รู้ว่าจะ
ไปที่นั่นได้อย่างไร"

การยืนยันต่อเสียงเรียกนี้มาถึงเมื่อทางวาติกันอนุญาตให้ท่านลาออกจากคณะ
ซิสเตอร์แห่งลอเร็ตโตและให้อยู่ใต้ปกครองของอัครสังฆราชแห่งกัลกัตตา
ท่านเริ่มทำงานในสลัม สอนเด็กยากจนและดูแลคนป่วยที่บ้านของพวกเขา ปีต่อมา
มีลูกศิษย์บางคนของท่านขอเข้าร่วมงานด้วย ท่านและพวกศิษย์พาชายหญิงและเด็กๆ
ที่กำลังจะตายอยู่ข้างถนนมาใส่ใจดูแล

ปี ๑๙๕๐ คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม (Missionaries of Charity) ถือกำเนิดขึ้น
ในฐานะคณะนักบวชของสังฆมณฑลกัลกัตตา ในปี ๑๙๕๒ รัฐบาลมอบบ้านหลังหนึ่ง
ให้คณะสำหรับทำงานช่วยเหลือชาวกัลกัตตาที่ถูกทอดทิ้ง คณะเติบโตอย่างรวดเร็วจาก
บ้านหลังเดียวที่ใช้ดูแลผู้ใกล้ตายและไม่เป็นที่ต้องการ เพิ่มเป็นเกือบ ๕,๐๐๐ หลังทั่วโลก
คุณแม่เทเรซาสร้างบ้านเพื่อผู้ทุกข์ทรมานจากโรคเอดส์บ้านสำหรับโสเภณีบ้านสำหรับ
ผู้หญิงที่ถูกทำร้าย และบ้านเด็กกำพร้าสำหรับคนจน

ท่านมักกล่าวเสมอว่าคนจนที่สุดของคนจน คือผู้ที่ไม่มีใครใส่ใจและไม่มีใครรู้จักพวกเขา
ท่านตั้งข้อสังเกตบ่อยๆ ด้วยความเศร้าใจถึงคนเป็นล้านๆ ในโลกที่กำลังพัฒนาแต่
ขาดแคลนชีวิตฝ่ายจิตและโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา ซึ่งเป็นเหตุให้พวกเขาทุกข์ทรมาน
แสนสาหัส ท่านปกป้องสิทธิในการเกิดมามีชีวิตของเด็กอย่างแข็งขัน
"ถ้าคุณได้ยินแม่คนไหนบอกว่าไม่อยากมีเด็กและต้องการทำแท้งจงพยายามชักชวน
ให้เธอมอบเด็กให้ฉัน ฉันจะรักเด็กคนนั้น เขาเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้า"

คุณแม่เทเรซาเสียชีวิตวันที่ ๕ กันยายน ๑๙๙๗ และได้รับประกาศเป็นบุญราศี ๖ ปีต่อมา
ในวันที่ ๑๙ตุลาคม ๒๐๐๓ และได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญ
โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๐๑๖

ท่านเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า "การเสียสละที่แท้จริงต้องมีราคา ต้องเจ็บ ต้องทำให้
เราว่างเปล่า ผลของความเงียบคือการภาวนา ผลของการภาวนาคือความเชื่อ
ผลของความเชื่อคอความรัก ผลของความรักคือการรับใช้ ผลของการรับใช้คือสันติสุข"

ท่านยังกล่าวด้วยว่า "จงมอบตัวท่านทั้งหมดให้กับพระเจ้า พระองค์จะใช้ท่านเพื่อทำงาน
ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จโดยมีเงื่อนไขว่าท่านต้องเชื่อในความรักของพระองค์มากกว่า
ความอ่อนแอของตัวเอง"

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 05, 2021 10:00 pm

https://www.facebook.com/groups/2189621 ... 125062118/
Mother Teresa: In the Name of God's Poor ชื่อไทย Mother Teresa แม่พระแห่งดวงใจ (พากย์ไทย) (มี3ตอน)

หนังประวัติคุณแม่เทเรซ่า นำแสดงโดย เจอรัลดีน แชปปลิ้น ลูกสาวชาลีแชปปลิ้น

ในข้อความตอบกลับใต้ภาพมีลิงค์คลิป3คลิปจบครับ

CR. : จิต ศรัทธา
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 05, 2021 10:01 pm

rosa-lee เขียน: อาทิตย์ ก.ย. 05, 2021 10:00 pm https://www.facebook.com/groups/2189621 ... 125062118/
Mother Teresa: In the Name of God's Poor ชื่อไทย Mother Teresa
แม่พระแห่งดวงใจ (พากย์ไทย) (มี3ตอน)

หนังประวัติคุณแม่เทเรซ่า นำแสดงโดย เจอรัลดีน แชปปลิ้น ลูกสาวชาลีแชปปลิ้น

ในข้อความตอบกลับใต้ภาพมีลิงค์คลิป3คลิปจบครับ

CR. : จิต ศรัทธา
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 07, 2021 10:00 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๖ กันยายน
บุญราศีโทมัส ซูกิ
Blessed Thomas Tzugi

ท่านเป็นชาวญี่ปุ่น เกิดในปี ๑๕๗๑ ครอบครัวมีฐานะดีท่านได้รับการศึกษา
จากคณะเยสุอิตของแขวงArima ท่านสมัครเข้าคณะเยสุอิตเมื่ออายุ ๑๗ ปี
หลังบวชเป็นพระสงฆ์ท่านมีชื่อเสียงในการเทศน์ที่หลักแหลมและกระตือรือร้น
ในงานประกาศพระวรสาร

เมื่อเกิดการเบียดเบียนคริสตชน ท่านถูกขับไล่ไปที่เกาะมาเก๊าแต่ท่านสามารถ
กลับมาญี่ปุ่นได้โดยการปลอมตัวและยังคงทำหน้าที่สงฆ์ต่อไป แต่ท่านถูกจับ
ได้อีกครั้งและถูกตัดสินประหารชีวิต ท่านปฏิเสธที่จะใช้เครือข่ายการเมืองของ
ครอบครัวเพื่อช่วยให้ได้รับอิสรภาพ

ท่านถูกมัดกับเสา เผาทั้งเป็น ที่เมืองนางาซากิในปี ๑๖๒๗
และได้รับประกาศเป็นบุญราศีโดยพระสันตะปาปาปีโอ ที่ ๙ ในปี ๑๘๖๗

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 07, 2021 10:01 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๗ กันยายน
บุญราศีราล์ฟ คอร์บี
Blessed Ralph Corby

ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๑๕๙๘ ที่เมือง Maynooth ไอร์แลนด์ครอบครัว
ของท่านเป็นคาทอลิกที่ฝศรัทธา ทุกคนในครอบครัวเป็นนักบวช รวมทั้งบิดา
ของท่านที่ได้เป็นภราดาฆราวาสของคณะเยสุอิต

หลังจากลูกๆ เข้าคณะนักบวชต่างๆ แล้ว ส่วนมารดาเข้าเป็นซิสเตอร์คณะเบเนดิกติน
ราล์ฟเข้าร่วมคณะเยสุอิต ท่านสมัครไปทำงานธรรมทูตเสี่ยงตายที่อังกฤษ พร้อมกับ
น้องชาย ๒ คน ในเวลานั้นอังกฤษถือว่าการเป็นสงฆ์คาทอลิกผิดกฎหมาย ท่านทำงาน
อภิบาลอย่างแอบซ่อนทางตอนเหนือของอังกฤษ ใกล้เมือง Durham เป็นเวลา ๑๒ ปี
ก่อนจะถูกจับได้และถูกสั่งประหารชีวิต

ท่านถูกแขวนคอกดน้ำและแยกสังขารในวันที่ ๗ กันยายน ๑๖๔๔ ที่เมือง Tyburn
ประเทศอังกฤษพระสันตะปาปาปีโอ ที่ ๑๑ ประกาศตั้งท่านเป็นบุญราศีในปี ๑๙๒๙

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ก.ย. 08, 2021 11:07 pm

ฉลองวันที่ ๘ กันยายน
ฉลองแม่พระบังเกิด
The Birth of The Blessed Virgin Mary

พระศาสนจักรมีธรรมเนียมฉลองวันเกิดของพระนางมารีย์ในวันนี้ซึ่งเป็นเวลา
เก้าเดือนภายหลังวันฉลองการปฏิสนธินิรมลของพระนางในวันที่ ๘ ธันวาคม

สภาพแวดล้อมวัยเด็กของพระนางมารีย์และชีวิตวัยเยาว์ไม่ได้มีบันทึก
โดยตรงในพระคัมภีร์แต่ธรรมประเพณีและเอกสารอื่นบอกเล่าถึงเรื่องนี้
และนักเขียนคริสตชนยุคแรกเริ่มได้อ้างอิงมาตั้งแต่ศตวรรษที่หนึ่ง

เรื่องราวเหล่านั้น แม้จะไม่ถือว่าเทียบเท่าพระคัมภีร์แต่ก็ให้เค้าโครงของ
ความเชื่อตามธรรมประเพณีของศาสนจักรเกี่ยวกับการถือกำเนิดของพระนางมารีย์

หนังสือ Protoevangelium of James ซึ่งอาจจะเป็นการจดจารึกเรื่องเล่าที่มีมา
ในต้นศตวรรษที่ ๒ เล่าถึงโยอาคิมผู้เป็นสมาชิกมั่งคั่งในเผ่าหนึ่งของสิบสองเผ่า
แห่งอิสราเอล ท่านและภรรยาอันนาเศร้าโศกเพราะไม่มีบุตรธิดา "ท่านระลึกถึงอับราฮัม"
หนังสือเขียนบอก "ว่าในวันสุดท้าย พระเจ้าก็ประทานอิสอัก บุตรชายให้ท่าน"

โยอาคิมและอันนาสวดภาวนาไม่หยุดหย่อนและอดอาหาร ปลีกตัวออกจากกันและ
จากสังคม พวกท่านถือว่าการไม่มีบุตรเป็นโชคร้ายที่สุด และเป็นเครื่องหมายน่าอับอาย
ในหมู่ชนเผ่าของอิสราเอล แล้วก็ปรากฏในที่สุดว่าทั้งสองท่านได้รับพระพรที่ล้นเหลือกว่า
อับราฮัมและซาราห์เสียอีก ทูตสวรรค์เผยแก่อันนาว่าผู้คนทุกยุคสมัยจะเคารพบุตรสาว
เธอที่จะเกิดมา "พระเจ้าได้ยินคำภาวนาของท่าน และท่านจะตั้งครรภ์และจะให้กำเนิด
เมล็ดพันธุ์ของท่านจะบอกกล่าวกับทุกคนในโลก"

เมื่อมารีย์ถือกำเนิดแล้ว หนังสือเล่าว่าอันนา "สร้างพระแท่นในห้องของทารกหญิงและ
ไม่ยอมให้มีสิ่งสกปรกใดๆ แปดเปื้อนเธอ" หนังสือเล่าว่าเมื่อเธออายุหนึ่งขวบ
บิดาก็อดอาหารและเชิญสงฆ์ธรรมาจารย์และผู้อาวุโสมาอวยพรเธอ

บิดามารดาของมารีย์พร้อมกับพระสงฆ์ของพระวิหารตั้งใจถวายเธอให้พระเจ้า
เพื่อเป็นพรหมจารีย์ตลอดชีวิต จึงให้สมรสอย่างคงรักษาความบริสุทธิ์กับช่างไม้โยเซฟ

นักบุญออกัสตินบรรยายการบังเกิดของพระนางมารีย์ว่าเป็นความสำคัญทางประวัติศาสตร์
และจักรวาล และเป็นเหตุการณ์ล่วงหน้าอันเหมาะควรถึงการบังเกิดของพระเยซูคริสต์
"พระนางคือดอกไม้ในท้องทุ่ง เป็นดอกลิลลี่บริสุทธิ์ทรงค่าในหุบเขา ตามที่พระคัมภีร์กล่าวถึง"

CR. : Sinapis

วันที่ 8 กันยายน
ฉลองแม่พระบังเกิด
( The Nativity of the Blessed Virgin Mary, feast )

พระศาสนจักรมักจะถือวันสิ้นชีพของนักบุญว่าเป็น "วันเกิด" และก็เป็นสิ่งถูกต้องเช่นนั้น
เพราะวันนั้นเป็นวันที่ผู้ได้รับเลือกสรรได้จบชีวิตของเขา หรือของเธอบนแผ่นดินนี้ และ
ไปเกิดใหม่มีชีวิตเที่ยงแท้ในสวรรค์ อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นสำหรับ 3 บุคคลนี้ซึ่ง
พระศาสนจักรกำหนดฉลองวันเกิดตามธรรมชาติด้วย ก็คือ พระเยซูเจ้า พระนางมารีย์
และนักบุญยอห์น บัปติสต์

การบังเกิดมาของเด็กคนหนึ่งย่อมเป็นเหตุการณ์ที่น่าชื่นชมยินดีสำหรับครอบครัวนั้น
เป็นจริงดังที่ รพินฐนาถ ฐากอร์
(Rabindranath Tagore - นักปราชญ์ นักปรัชญาชาวอินเดีย - ผู้แปล)
ได้กล่าวไว้ว่า "เด็กทุกๆคนมาสู่โลกด้วยหลักประกันว่าพระผู้เป็นเจ้ายังไม่ทรงเบื่อหน่าย
กับมวลมนุษยชาติ" วันนี้ เราเฉลิมฉลองการบังเกิดของเด็กหญิงผู้หนึ่ง ซึ่งมาด้วยหลัก
ประกันที่มากกว่านั้น เธอได้เป็นสัญญาณดังถ้อยคำของพระศาสนจักรที่ว่าเป็น
"รุ่งอรุณแห่งความหวัง และความรอดพ้นของโลกทั้งมวล"

การบังเกิดมาดุจนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ "จิตวิญญาณของเธอจึงสวยงามที่สุด"
กว่าสิ่งสร้างใดๆที่พระเจ้าทรงสร้างมา - นี่เป็นคำสรรเสริญของนักบุญอัลฟองโซ เดอ ลิกวอรี -
ท่านยังเสริมอีกว่า "จากการถูกกำหนดไว้แล้วให้เป็นพระมารดาขององค์พระวจนาตถ์นิรันดร
เด็กน้อยผู้นี้จึงได้รับพระหรรษทานที่ยิ่งใหญ่จนเปี่ยมล้น ถึงขั้นที่ว่าขณะที่เธอปฏิสนธินิรมลนั้น
เธอก็มีความศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าบรรดานักบุญทั้งหมดและทูตสวรรค์ทั้งปวง เพราะว่าเธอได้รับ
พระหรรษทานในขั้นที่สูงส่งกว่า ซึ่งจะสอดคล้องกับศักดิ์ศรีของเธอในการเป็นพระมารดาของพระเจ้า"

พระนางมารีย์ ผู้ทรงเป็นเอวาคนใหม่ คือของขวัญแด่พระศาสนจักร ไม่เพียงเท่านั้น
ทรงเป็นมารดาของพระศาสนจักรด้วย พระนางทรงเป็นประดุจของขวัญที่มอบให้พวกเราทุกคน
ด้วยวิถีทางที่พิเศษยิ่ง โดยที่องค์พระเยซูคริสต์ พระเทวบุตรของพระนางได้ทรงยกพระนาง
ให้เป็นมารดาของเราแต่ละคนด้วย

พระนางมารีย์ทรงเป็นความปิติยินดีของพระบิดา เพราะเธอเป็นผลงานสร้างสรรค์มหัศจรรย์
ชิ้นเอกของพระองค์ พระนางมารีย์ทรงเป็นความปิติยินดีของพระบุตร ผู้ซึ่งพินิจรำพึงในพระนางว่า
ทรงเป็นหีบแห่งพันธสัญญาที่ซึ่งพระองค์ได้ทรงรับเอาเนื้อหนังบังเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยไถ่โลก
ให้รอดตามพระประสงค์ของพระบิดา พระนางมารีย์ทรงเป็นความปิติยินดีสูงสุดของพระจิตเจ้า
ผู้ซึ่งทรงมองเห็นในเธอว่าเป็นเจ้าสาวที่บริสุทธิ์และซื่อสัตย์อย่างที่สุดของพระองค์ และโดย
พระนางที่พระองค์จะเสด็จลงมาและจะแผ่เงาปกคลุมพระนางในการให้กำเนิดองค์พระบุตร

ถ้าเปิดดูตามพระคัมภีร์แล้ว ไม่มีกล่าวอย่างชัดเจนถึงสถานที่บังเกิดของพระนาง
อย่างไรก็ตาม ตามธรรมประเพณีเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ในกรุงเยรูซาเล็ม วันฉลองนี้มีกำเนิดมา
จากทางตะวันออก การฉลองครั้งแรกกระทำในกรุงเยรูซาเล็มในศตวรรษที่ 5 และต่อมาถูกนำ
มาฉลองในกรุงโรมเมื่อศตวรรษที่ 7 การฉลองนี้ช่วยในการกำหนด
วันสมโภชพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมลว่าเป็นวันที่ 8 ธันวาคม (นับถอยหลังไป 9 เดือน)

(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ จากหนังสือ Saint Companions For Each Day
; เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 09, 2021 9:49 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๙ กันยายน
นักบุญเปโตร คลาแวร์
St. Peter Claver

ท่านเป็นสงฆ์ธรรมทูตคณะเยสุอิตผู้อุทิศชีวิตทำงานช่วยเหลือทาสแอฟริกัน
ที่ถูกบังคับมาที่อเมริกาใต้ในศตวรรษที่ ๑๗

เปโตร คลาแวร์ เกิดในครอบครัวชาวไร่ในแคว้นคาตาโลเนียของสเปน
ในปี ๑๕๘๑ ท่านศึกษาที่มหาวิทยาลัยบาร์เซโลนา และเข้าเป็นนวกชนของ
คณะเยสุอิตเมื่ออายุ ๒๐ ปี

ขณะศึกษาปรัชญาที่ทาราโกน่า ท่านได้รู้จักภราดาฆราวาสเยสุอิตสูงวัยคนหนึ่ง
ชื่ออัลฟอนซุส ร็อดริเกส (Alphonsus Rodriguez) ภราดาผู้นี้แม้ทำหน้าที่ต่ำต้อย
เป็นยามคอยเปิดปิดประตูอาราม แต่กลับหยั่งรู้เรื่องชีวิตฝ่ายจิต เขาสนับสนุน
ให้เปโตรไปทำงานเป็นธรรมทูตในอาณานิคมของสเปน ในอีกสองศตวรรษให้หลัง
ท่านทั้งสองได้ถูกประกาศเป็นนักบุญโดยพระสันตะปาปาเลโอ ที่ ๓

ในปี ๑๖๑๐ เปโตร คลาแวร์ ซึ่งบวชเป็นพระสงฆ์แล้วได้มาถึงเมืองคาร์ตาเกนา
(Cartagena) เมืองท่าของโคลัมเบียในปัจจุบัน นับแต่ศตวรรษก่อนๆ พระศาสนจักร
ประณามการค้าขายและบังคับคนเป็นทาส แต่ชาวอาณานิคมยุโรปก็ยังคงขนคน
พื้นเมืองมาจากแอฟริกา พวกคนเหล่านี้ถูกขายให้ทำงานในไร่และเหมือง ผู้รอดชีวิต
จากการเดินทางข้ามสมุทรก็ต้องถูกบังคับให้ทำงานหนักตลอดเวลา

เปโตร คลาแวร์ มุ่งมั่นจะนำความช่วยเหลือทางวัตถุและความรอดนิรันดร์แก่ทาส
แอฟริกัน ท่านสาบานว่าจะเป็น "ทาสของพวกทาสตลอดไป" ท่านรักษาความตั้งใจ
และกระทำตามคำปฏิญาณนี้แม้จะมีปัญหาด้านสุขภาพ เพราะอากาศของเขตร้อน
และอุปสรรคทางภาษาก็ตาม

ข้าราชการสเปนหลายคนในคาร์ตาเกนาชื่นชมกิจการของท่าน และได้ช่วยบรรเทาทุกข์
และให้การศึกษาแก่พวกทาส แต่พวกนักค้าทาสเห็นว่าท่านเป็นตัวป่วน นักผจญโชค
ชาวสเปนต้องการพบเจอท่านเพราะได้ยินชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์แต่พวกเขาก็ปฏิเสธ
ที่จะเข้าร่วมพิธีในวัดหรือใช้ที่ฟังแก้บาปเดียวกับพวกทาสผิวดำ

ในการทำงานอภิบาลให้ได้ผลกับผู้ใช้ภาษาต่างกัน ท่านมักจะสอนคำสอนคาทอลิกโดย
ภาพวาด ท่านสื่อสารด้วยความเห็นอกเห็นใจและแสดงออกถึงความรัก ให้อาหารและ
เครื่องดื่มแก่คนงานที่เจ็บป่วยและเยี่ยมผู้ใกล้จะตาย "เราต้องพูดกับพวกเขาด้วยมือของเรา
" ท่านให้เหตุผล "ก่อนที่เราจะพยายามพูดด้วยปาก"

การยึดถือคำมั่นของการปฏิญาณเป็นทาส ทำให้ท่านกินและนอนน้อยที่สุด ชีวิตที่ถ่อมตน
และพลีกรรมหนักของท่านก่อให้เกิดอัศจรรย์หลายครั้ง เช่น คนป่วยหายเพียงได้สัมผัส
เสื้อคลุมท่าน หรือมีแสงสว่างเหนือธรรมชาติอยู่รอบตัวท่านขณะเยี่ยมพวกเขาที่โรงพยาบาล

ท่านเสียชีวิตในวันที่ ๘ กันยายน ๑๖๕๔ ตลอดเวลา ๔๐ ปีที่ท่านอยู่เมืองนั้น
ท่านได้ล้างบาปและสอน
ความเชื่อแก่ทาสมากกว่า ๓ แสนคน

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ก.ย. 10, 2021 12:07 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๐ กันยายน
นักบุญนิโคลัส แห่งโตเลนติโน
St. Nicholas of Tolentino

ท่านเกิดที่เมือง ซังอังเจโล ประเทศฝรั่งเศส ในปี ๑๒๔๖ เมื่ออายุ ๑๘ ปี
ท่านสมัครเข้าเป็นฤษีคณะออกัสติเนียนหลังจากได้ยินฤษีคนหนึ่งของคณะนี้เทศน์
ท่านรับศีลบวชในเจ็ดปีต่อมา และมีชื่อเสียงในฐานะนักเทศน์และผู้ฟังแก้บาป

ท่านถือปฏฺิบัติการทรมานกายอย่างหนักและอดอาหารอย่างเข้มงวด มีคนป่วย
หลายคนได้รับการบำบัดจากท่าน ขนมปังที่รู้จักในชื่อ "ขนมปังของนักบุญนิโคลาส"
ซึ่งเป็นก้อนโดนัทที่มีไม้กางเขนอยู่ตรงกลาง มีกำเนิดจากขนมปังที่ท่านมอบให้คนป่วย
กินหลังจากสวดภาวนาขอให้พระนางมารีย์ช่วยเหลือ

ท่านเสียชีวิตวันที่ ๑๐ กันยายน ๑๓๐๖ และได้รับประกาศเป็นนักบุญ
โดยพระสันตะปาปายูยีน ที่ ๔ในปี๑๔๔๖

Cr Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ก.ย. 11, 2021 11:13 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๑ กันยายน
นักบุญฌอง กาเบรียล แปร์โบเรย์
St. Jean Gabriel Perboyre

ฌอง กาเบรียล เกิดในครอบครัวใจศรัทธาเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๑๘๐๒
ที่เมือง Puech ประเทศฝรั่งเศส พี่น้องชายหญิงของท่านเป็นพระสงฆ์
นักบวชทั้งหมด สามคนเป็นพระสงฆ์อีกสองคนเป็นซิสเตอร์ เมื่ออายุ ๑๖ ปี
ท่านสมัครเข้าคณะแห่งงานธรรมทูต (Congregation of the Mission)
ที่ก่อตั้งโดยนักบุญวินเซนเดอปอล

ท่านบวชเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุ ๒๓ ปีสอนเทววิทยาที่บ้านเณรก่อนจะได้รับ
การแต่งตั้งเป็นอธิการและต่อมาเป็นนวกจารย์ที่ปารีส น้องชายของท่าน หลุยส์
เสียชีวิตระหว่างเดินทางเพื่อทำงานธรรมทูตที่ประเทศจีนเมื่ออายุ ๒๔ ปี
ฌอง กาเบรียลจึงขอสืบทอดภารกิจของน้องชาย ท่านมาถึงเกาะมาเก๊า
วันที่ ๒๙ สิงหาคม ๑๘๓๕ และออกเดินทางไปแผ่นดินใหญ่

ท่านทำงานประกาศพระวรสารที่หัวหนาน อยู่ ๓ ปีก่อนจะถูกย้ายไปที่หูเป่ย
งานธรรมทูตของท่านเกิดผลอย่างมากในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ท่านอยู่ที่นั่น

วันที่ ๑๑ กันยายน ๑๘๓๙ ท่านเป็นหนึ่งในเหยื่อ ๕ คนของการเบียดเบียนชาวคริสต์
ท่านเสียชีวิตในลักษณะคล้ายคลึงกับพระเยซู ท่านถูกคนทรยศขายด้วยเงิน
ถูกเปลื้องเสื้อผ้าและลากไปรับการพิพากษาถูกทุบตีกระทำทารุณอย่างต่อเนื่อง
จนที่สุดถูกตัดสินประหารชีวิตพร้อมกับอาชญากร ๗ คน ท่านถูกตรึงกางเขนและ
สิ้นใจบนไม้กางเขน

พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ ๒ ประกาศตั้งท่านเป็นนักบุญคนแรกของประเทศจีน
ในวันที่ ๒ มิถุนายน ๑๙๙๖

ก่อนเสียชีวิต ท่านเขียนบทภาวนาว่า"พระผู้กอบกู้ของข้าพเจ้า ขอโปรดเปลี่ยนแปลง
ข้าพเจ้าให้เหมือนพระองค์ ขอให้ข้าพเจ้าดำเนินชีวิตในพระองค์ ด้วยพระองค์
และพร้อมกับพระองค์ เพื่อว่าข้าพเจ้าจะสามารถพูดได้อย่างแท้จริงพร้อมกับ
นักบุญเปาโลว่าข้าพเจ้ามีชีวิต แต่ไม่ใช่ข้าพเจ้า เป็นพระคริสต์มีชีวิตในตัวข้าพเจ้า"

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ก.ย. 12, 2021 8:18 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๒ กันยายน
บุญราศีอปอลลินาริส ฟรังโก
Blessed Apollinaris Franco

อปอลลินาริส เกิดในแคว้นคาสตีล สเปน และได้เข้าคณะนักบวชฟรังซิสกัน
ในปี ๑๖๑๔ ท่านถูกส่งไปที่ญี่ปุ่นเพื่อเป็นหัวหน้ากลุ่มธรรมทูตฟรังซิสกัน ปีนั้นเอง
โชกุนคนใหม่ของญี่ปุ่นออกกฎหมายทั่วประเทศห้ามการเป็นคริสต์และประกาศว่า
ผู้เป็นคริสตชนมีโทษหนัก

ท่านทำงานประกาศพระวรสารอย่างแอบซ่อน จนกระทั่งถูกจับในปี ๑๖๑๗ และถูกขังคุก
ที่นางาซากิพร้อมกับพระสงฆ์และฆราวาสอื่นๆ เป็นเวลา ๕ ปี รอคอยการถูกประหาร
สภาพความเป็นอยู่ในคุกยากลำบากมากเพราะพวกผู้จับกุมต้องการบีบบังคับให้นักโทษ
ยอมทิ้งความเชื่อ ท่านทำงานอภิบาลนักโทษคนอื่นๆ และได้ทำให้พวกผู้คุมกลับใจเพราะ
เห็นตัวอย่างชีวิตและคำสอนของท่าน

ในวันที่ ๑๒ กันยายน ๑๖๒๒ ท่านถูกมัดกับเสา เผาทั้งเป็น พร้อมกับสมาชิกคณะฟรังซิสกัน
และเยสุอิตคนอื่นๆ

Cr. Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ก.ย. 13, 2021 4:34 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๓ กันยายน
นักบุญยอห์น ครีโซสตม
St. John Chrysostom

ท่านเกิดที่เมืองอันติโอกในปี ๓๔๗ ท่านเป็นนัเทศน์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
พระศาสนจักรจนได้สมญานามว่า "นักเทศน์ลิ้นทอง" ท่านยังเป็นปิตาจารย์ออร์โธดอกซ์
คนสำคัญที่สุดของพระศาสนจักรอีกด้วย

ยอห์นเติบโตมาในเมืองอันติโอกได้รับการศึกษาตามแบบกรีกคลาสสิคการที่ท่าน
ได้พบสังฆราชเมเลตุสผู้ศักดิ์สิทธิ์ ส่งผลให้ตัดสินใจอุทิศชีวิตเพื่อศึกษาผลงานเขียน
ด้านศาสนาและพระวรสาร หลังได้รับศีลล้างบาปท่านก็ทดลองใช้ชีวิตฤษีที่เคร่งครัด
การพลีกรรมทรมานตนอย่างหนักทำให้สุขภาพท่านอ่อนแอ ดังนั้น หลังฟื้นคืนดีท่าน
ก็กลับสู่อันติโอก ศึกษาเตรียมเป็นพระสงฆ์ ท่านบวชเมื่อปี ๓๘๖ และทำงานรับใช้ที่
อาสนวิหารแห่งอันติโอกเป็นเวลา ๑๒ ปี ที่นี่ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไปถึงการเทศน์
อย่างดีเลิศของท่าน

ในปี ๓๙๘ ท่านถูกบังคับให้ยอมรับตำแหน่งอัยกา (Patriarch) ของคอนสแตนติดโนเปิล
ที่เมืองนั้นท่านเทศน์สอนด้วยความกล้าหาญต่อหน้าผู้มีอำนาจของจักรวรรดิ ติเตียน
อย่างเปิดเผยถึงความคดโกงและพฤติกรรมเสื่อมเสียของชนชั้นปกครอง สร้างความ
นิยมชมชื่นอย่างมากแก่ประชาชน

จักรพรรดินียูโดเซียเห็นท่านเป็นศัตรู รวมทั้งธีโอฟีลัส พระสังฆราชแห่งอเล็กซานเดรียด้วย
ท่านถูกใส่ความด้วยเรื่องเท็จในปี ๔๐๓ และถูกขับไล่ไปอาร์เมเนีย ที่นั่น ท่านเขียนจดหมาย
อภิบาลศาสนจักรตะวันออกต่อไป ต่อมา พวกเขาขับไล่ท่านจากอาร์เมเนียอีกให้ไปอยู่ยัง
เกาะโดดเดี่ยวริมฝั่งทะเลดำ แต่ท่านเสียชีวิตระหว่างการเดินทางในปี ๔๐๗

ในปี ๔๓๘ จักรพรรดิธีโอโดซีอุส ที่ ๒ นำร่างท่านกลับมาคอนสแตนติโนเปิลและได้ทำกิจการ
ใช้โทษบาปสำหรับพระมารดาของพระองค์ พระนางยูโดเซีย

งานเขียนมากมายของท่าน โดยเฉพาะบทเทศน์และอรรถาธิบายพระวรสารเป็นที่นิยมและ
มีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงยาวนานหลายศตวรรษ

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 14, 2021 1:08 pm

14 กันยายน
ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน
(The Exaltation of the Holy Cross, feast)

ธรรมล้ำลึกปัสกาของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นทั้งแหล่งที่มาและคำมั่นสัญญา
ของชีวิตนิรันดร และเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ที่สูงส่งที่แฝงไว้ถึงสิริรุ่งโรจน์
ของธรรมล้ำลึกทั้งหมดนี้ ก็คือไม้กางเขน ซึ่งแขวนการไถ่ให้รอดของโลกนี้ไว้
ชัยชนะของไม้กางเขนเหนือบาปและความตายถูกรวบยอดอยู่ที่นี่ และทั้งหมด
ของชัยชนะ ของความยินดีต่อชัยชนะนี่แหละที่พระศาสนจักรทำการเฉลิมฉลองวันนี้

วันฉลองนี้แต่ต้นเลยรู้กันในชื่อนี้ ซึ่งหมายถึงการยกย่องเชิดชูไม้กางเขน ยังมี
นัยหมายถึง "วางไว้บนที่สูง เพราะมีความสำคัญสูงส่ง" "การยกขึ้น" การฉลองนี้มี
ความสำคัญต่อบรรดาผู้มีความเชื่อ 4 ประการด้วยกัน กล่าวคือ

ประการแรก หมายถึง การยกกางเขนขึ้นบนเนินเขากัลวารีโอในวันศุกร์นั้น
ซึ่งแม้ว่าจะรวมไว้ด้วยเรื่องการทนทุกข์ทรมานใหญ่หลวง และความอับอาย แต่กระนั้น
ก็เป็นการถวายบูชาด้วยความรักที่ทรงมีต่อพระบิดา และด้วยความรักที่พระบิดาทรงมี
ต่อมวลมนุษย์ การถูกยกตั้งขึ้นสูงเปรียบประดุจว่าพระเยซูเจ้าทรงทำให้ไม้กางเขนเป็น
เหมือนธรรมาสน์ที่ทรงเทศนา โดยพระวาจาและพระฉบับแบบ เป็นคำเทศนาที่สะเทือน
อารมณ์มากที่สุดตลอดช่วงพระภารกิจบนแผ่นดินนี้ - พระองค์ทรงอภัยและทรงมอบ
พระองค์ให้ - ทุกๆบาดแผลของพระองค์หลั่งไหลพระหรรษทานออกมา จากด้านข้าง
พระวรกายทรงให้กำเนิดพระศาสนจักร และก่อนลมหายใจสุดท้ายพระองค์ทรงมอบ
พระมารดาของพระองค์ให้เป็นของขวัญแก่มวลมนุษยชาติ คือ พระแม่มารีย์ ไม้กางเขน
จึงเป็นเครื่องหมายถึงชัยชนะของพระองค์โดยแท้จริง ไม้ในแนวตั้งเชื่อมมนุษย์กับพระเจ้า
ไม้ส่วนที่พาดในแนวนอนเชื่อมมนุษย์กับมนุษย์และโดยไม่แยกออกไปจากพระเจ้า

ประการที่สอง หมายถึง การตั้งไม้กางเขนขึ้นในวัดพระคูหาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งทำในปี ค.ศ. 326
โดยนักบุญเฮเลนา พระมารดาแห่งพระจักรพรรดิคอนสแตนติน ได้ค้นพบไม้กางเขน 3 อัน
บนเขากัลวารีโอ อัศจรรย์เกิดขึ้นโดยการให้คนง่อยสัมผัสไม้กางเขนทั้งสาม ช่วยให้พิสูจน์
ได้ว่า ไม้กางเขนไหนเป็นกางเขนแท้ของพระเยซูเจ้า ต่อมา พระนางนำกางเขนนั้นมาตั้งไว้
ในพระราชวังที่กรุงโรม ซึ่งพระนางได้เปลี่ยนให้กลายเป็นวัดแห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์
ต้องขอบคุณในความพยายามของพระนาง พระธาตุชิ้นส่วนของไม้กางเขนนี้ได้กระจาย
ไปอยู่ในทุกภาคส่วนของอาณาจักรคริสต์ ส่วนหนึ่งของเนื้อไม้กางเขนแท้ถูกเก็บรักษาไว้
ในกรุงเยรูซาเล็ม แต่ในปี 614 ชาวเปอร์เซียมารุกราน กษัตริย์เปอร์เซียที่ได้ชัยชนะได้นำ
พระธาตุไม้กางเขนแท้บรรจุในกล่องเงินไปยังอิหร่าน พอถึงปี 629 เมื่อจักรพรรดิเฮราคลิอุส
ยึดเปอร์เซียได้ จึงเอาพระธาตุกลับคืนมา ทีแรกไว้ที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล
ต่อมาไว้ที่กรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งที่นี่มีการตั้งขึ้นเพื่อให้มีการนมัสการอย่างเป็นทางการ
ช่วงนี้วันฉลองนี้ก็ถูกนำมารวมไว้กับพระศาสนจักรที่กรุงโรมด้วย

ประการที่สาม หมายความว่าสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของไม้กางเขนในที่สุดแล้วคือการ
พิพากษาตัดสิน พระเยซูเจ้าได้ตรัสกับนิโคเดมัสว่า "...โมเสสยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด
บุตรแห่งมนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์ จะมีชีวิตนิรันดร"
(ยน 3 : 14-15) ดุจดังเช่นวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม้กางเขนได้แบ่งฝูงชนที่อยู่บนเนินเขากัลวาริโอ
ออกเป็น 2 กลุ่ม ก็จะเป็นเช่นนั้นในวันสุดท้าย "เวลานั้น เครื่องหมายของบุตรแห่งมนุษย์จะ
ปรากฏบนท้องฟ้า" (มธ 24 : 30) เราทุกคนจะรู้ว่าที่สำหรับเราจะอยู่ทางขวา หรือทางซ้าย

ประการสุดท้าย หมายถึงการที่ผู้มีความเชื่อทุกๆคนจะยอมรับไม้กางเขนของพระคริสต์
และการอุทิศตนต่อไม้กางเขนของพระองค์ กางเขนจะมีที่อันสมเกียรติในใจของคริสตชนทุกคน
เป็นเสมือนบ้านและสถานสำหรับสักการบูชา ด้วยสำคัญมหากางเขนนี้เราทำก่อนเริ่มต้น
กิจการต่างๆ จริงๆแล้ว เราทำอะไรก็ตาม เราทำโดยมีส่วนร่วมแบกกางเขนของพระคริสตเจ้า
และนั่นเองจึงมีส่วนร่วมในการไถ่กู้โลกให้รอด

(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ
จากหนังสือ Saint Companions For Each Day ;
เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)

:s005: :s005:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 16, 2021 10:35 pm

วันที่ ๑๕ กันยายน
ระลึกถึงแม่พระระทมทุกข์
Our Lady of Sorrows

การฉลองแม่พระระทมทุกข์เป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ ๗ ประการที่แม่พระ
ทรงรับความทุกข์ เรื่องเหล่านี้มีบันทึกในพระวรสารหรือในธรรมประเพณี
วันนี้เราคริสตชนได้รับเชิญให้รำพึงถึงความโศกเศร้าของแม่พระ
ตามเหตุการณ์ทั้ง ๗ ประการนี้

๑. คำทำนายของซีเมโอน "ดวงหทัยท่านจะถูกทิ่มแทงด้วยดาบ" (ลก ๒:๓๕)
๒. การเดินทางหนีไปอียิปต์ "ลุกขึ้นเถิด นำเด็กและมารดาของเขาเดินทาง
หนีไปอียิปต์" (มธ ๒:๑๓)
๓. พระกุมารเยซูหายไปที่เยรูซาเล็ม "เจ้าเห็นไหมว่าบิดาของเจ้าและแม่กำลัง
ตามหาเจ้าด้วยความทุกข์" (ลก ๒:๔๘)
๔. แม่พระพบพระเยซูระหว่างทางไปเขากัลวารีโอ
๕. แม่พระยืนอยู่แทบเชิงไม้กางเขน "ใกล้กับไม้กางเขนของพระเยซูมารดาของ
พระองค์ยืนอยู่ที่นั่นด้วย" (ยน ๑๙:๒๕)
6. นำพระศพพระเยซูลงจากไม้กางเขน
7. ที่คูหาฝังศพของพระเยซู

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 16, 2021 10:39 pm

:s005: :s005:
ตอบกลับโพส