นักบุญเซอร์กีย์แห่งราโดเนียซ แห่งคริสต์ออร์โธด๊อกซ์

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ ต.ค. 09, 2021 4:41 pm

+ นักบุญเซอร์กีย์แห่งราโดเนียซ ผู้ก่อตั้งอารามชื่อดัง
“อารามพระตรีเอกานุภาพและนักบุญเซอร์กีย์” +

นักบุญเซอร์กีย์ (นามทางโลก: บาร์โธโลมิว) เกิดในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ.1314
หมู่บ้านของเมืองวาร์นิตซา ใกล้ ๆ กับเมืองรอสตอฟ บิดามารดาของท่านมีชื่อว่า
คิริลล์ และมาเรีย ท่านทั้งสองเป็นผู้ที่เคร่งครัดในศาสนาและมีชื่อเสียง
(ภายหลังบิดาและมารดาของท่านก็ได้ถวายตนเป็นนักพรต และได้รับการสถาปนาเป็น
นักบุญเช่นกัน วันฉลอง: 11 ตุลาคม) องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกนักบุญเซอร์กีย์ตั้งแต่
ตอนที่ท่านยังอยู่ในครรภ์ของมารดา ในตอนที่ท่านยังเป็นทารกนั้น ระหว่างพิธีบูชา
ขอบพระคุณนักบุญมาเรียผู้เป็นมารดาและหลาย ๆ คนที่อยู่ในโบสถ์จะได้ยินเสียงท่าน
ร้องสามครั้งระหว่างพิธีกรรม คือตอนก่อนอ่านพระวรสาร ระหว่างขับร้องบททูตสวรรค์เค
รูวิม และเมื่อบาทหลวงกล่าวคำว่า “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แด่ผู้ศักดิ์สิทธิ์”

พระเจ้าได้ประทานบุตรชายแก่คิริลล์และมาเรีย ในช่วงวัยเด็ก บาร์โธโลมิวได้ถูกส่งไป
เรียนกับสตีเฟน ผู้เป็นพี่ชาย และปีเตอร์ ผู้เป็นน้องชาย ทั้งสองประสบผลสำเร็จในการร่ำเรียน
แต่สำหรับบาร์โธโลมิวนั้นเขาไม่ถนัดในเรื่องการเรียน แม้ครูจะใส่ใจเขาเป็นพิเศษก็ตาม
พ่อแม่ของหนุ่มน้อยบาร์โธโลมิวก็ได้ตำหนิเขา ส่วนครูก็ทำโทษ และเพื่อน ๆ ก็ต่างเยาะเย้ย
เขาอย่างสนุกสนาน จนในที่สุดบาร์โธโลมิวก็ได้ร้องไห้และวอนขอพระเจ้าให้ประทาน
ความสามารถ ในการอ่านหนังสือให้แก่เขา

ครั้งหนึ่ง พ่อของเขาได้มอบหมายให้เขาดูแลม้าที่นำไปปล่อยไว้ให้กินหญ้าในสวน ระหว่างนั้น
เขาได้พบกับทูตสวรรค์ ที่จำแลงกายมาเป็นนักพรตสูงอายุ ทูตสวรรค์ (นักพรต) ยืนอธิฐานภาวนา
อยู่ใต้ต้นโอ๊ก บาร์โธโลมิวได้เดินเข้าไปใกล้ ๆ นักพรตคนนั้น คำนับให้ และรอให้นักพรตภาวนาเสร็จ
นักพรตได้อวยพรเขา จุมพิตที่แก้มตามธรรมเนียมการทักทาย และถามบาร์โธโลมิวไปว่าเขา
ต้องการอะไร “ผมต้องการที่จะอ่านและเขียนหนังสือให้เป็นครับ คุณพ่อผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดช่วยวิงวอน
ต่อพระเจ้าเพื่อผมด้วย เพื่อพระองค์จะช่วยให้ผมมีความรู้” จากนั้นคุณพ่อก็ได้ภาวนาต่อพระเจ้า
และกล่าวคำอวยพรหนุ่มน้อยไปว่า “ลูกเอ๋ย ตั้งแต่บัดนี้ พระเจ้าทรงประทานความสามารถในการอ่าน
และเขียนแก่ลูกแล้ว และสิ่งนี้จะทำให้ลูกดีกว่าพี่น้องและเพื่อนในชั้นเรียนของลูก”

นักพรตเฒ่าได้ให้ส่วนของโปรสโฟราแก่บาร์โธโลมิวไปกล่าวว่า “รับไปกินเถิดลูก พ่อให้สิ่งนี้แก่ลูก
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ถึงพระคุณของพระเจ้า และเพื่อความเข้าใจในพระวรสาร” นักพรตเฒ่าต้องการ
ที่จะเดินทางไปต่อ แต่บาร์โธโลมิวได้ขอให้ท่านไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาที่บ้านก่อน พ่อและแม่ของเขา
ต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยความปิติและเป็นมิตร นักพรตเฒ่ากล่าวว่า เป็นการที่เหมาะสมกว่าที่จะรับ
อาหารที่บำรุงเลี้ยงจิตวิญญาณก่อน ท่านจึงขอให้บุตรของเขาทั้งสองอ่านหนังสือเพลงสดุดี
บาร์โธโลมิวเริ่มอ่านหนังสือเพลงสดุดี สิ่งที่ทำให้พ่อแม่ของเขาแปลกใจมาก ก่อนที่นักพรตเฒ่า
จะจากไป ท่านได้กล่าวคำทำนายเกี่ยวกับเด็กหนุ่มไว้ว่า “บุตรชายของท่านจะเป็นใหญ่เฉพาะ
พระพักตร์พระเจ้าและประชากรของพระองค์ เขาจะได้เป็นที่พำนักที่ได้เลือกสรรไว้สำหรับพระจิตเจ้า”

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น บาร์โธโลมิวอ่านหนังสือโดยปราศจากอุปสรรคและมีความเข้าใจในบริบท
ของหนังสือ หนุ่มน้อยบาร์โธโลมิวได้กลายเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการอธิษฐานภาวนาเป็นพิเศษ
เขาเข้าร่วมพิธีทุกพิธีในโบสถ์ และเริ่มต้นถือศีลอดทุกวันพุธและศุกร์ โดยบาร์โธโลมิวจะไม่รับ
ประทานและดื่มอะไรเลย ส่วนในวันธรรมดาเขารับประทานเพียงขนมปังและน้ำเปล่า

ในราวปีค.ศ.1328 พ่อและแม่ของเขาได้ย้ายจากเมืองรอสตอฟไปยังหมู่บ้านราโดเนียซ
หลังจากที่ลูกชายคนโตของพวกเขาได้แต่งงาน คิริลล์และมาเรียจึงตัดสินใจถวายตนเป็นนักพรต
ที่อารามแม่พระคุ้มครอง ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหมู่บ้าน และในเวลาต่อมาทั้งคู่ก็ได้ปลงผม
เป็นนักพรตขั้นสูง

ในภายหลัง หลังจากที่สตีเฟนพี่ชายคนโตของบาร์โธโลมิวเป็นม่าย เขาก็ได้ไปเป็นนักพรต
อยู่ที่อารามเดียวกันนี้เช่นกัน หลังจากที่พ่อและแม่ของพวกเขาเสียชีวิตลง สตีเฟนและ
บาร์โธโลมิวก็ปลีกวิเวกและเข้าไปใช้ชีวิตในป่า (ราว 12 กิโลเมตรจากราโดเนียซ)
ในตอนแรกทั้งคู่ได้สร้างห้องพัก และหลังจากนั้นก็เริ่มสร้างโบสถ์เล็ก ๆ ต่อ หลังจากนั้น
จึงได้รับการเสกเจิมในโดยใช้ชื่อว่า “โบสถ์พระตรีเอกานุภาพ” แต่ไม่นาน สตีเฟนพี่ชายคนโต
ก็ได้แยกทางจากบาร์โธโลมิวเนื่องจากทนความยากลำบากในป่าไม่ไหว จึงย้ายไปอยู่ที่อาราม
พระคริสตเจ้าแสดงองค์ในกรุงมอสโก และเขาได้มีความใกล้ชิดกับนักบุญอเล็กเซย์
เมโตรโปลิตันแห่งมอสโก (วันฉลอง: 25 กุมภาพันธ์)

ในวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ.1337 บาร์โธโลมิวได้รับการปลงผมโดยอีกูเมน เมโตรฟาน
และได้รับศาสนามใหม่เป็น เซอร์กีย์ จากนักบุญเซอร์กีย์ มรณสักขี (วันฉลอง: 20 ตุลาคม
หรือ 7 ตุลาคมตามหากอิงตามปฏิทินพระศาสนจักร) จากนั้นท่านจึงเริ่มสร้างอารามเพื่อเป็น
การถวายเกียรติแด่พระตรีเอกานุภาพ แม้ในชีวิตของท่าน ท่านก็ยังคงต่อสู้กับตัณหาและ
การล่อลวงของปีศาจต่าง ๆ แต่ท่านก็เอาสามารถเอาชนะและมีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ
จนชื่อของท่านเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง นักพรตคนอื่น ๆ ต่างเข้ามาหาท่านเพื่อขอคำ
แนะนำต่าง ๆ นักบุญเซอร์กีย์ได้ต้อนรับทุกคนด้วยความรัก จนในที่สุดในอารามเล็ก ๆ ของท่าน
ก็มีนักพรตมาอยู่ร่วมกัน 12 คน

ในอาราม นักบุญเซอร์กีย์ได้ทำงานด้วยความอุตสาหะและความรัก ท่านสร้างห้องพักสำหรับ
นักพรตหลายห้อง แบกน้ำมาเก็บไว้ ผ่าฟืน อบขนมปัง เย็บเสื้อผ้า ทำอาหาร และช่วยคนอื่นทำงาน
อย่างนอบน้อม ท่านได้นำการอธิฐานภาวนา ตื่นเฝ้า และอดอาหารมารวมกับการทำงานหนัก
เพื่อให้ท่านสามารถผ่านงานแต่ละงานไปได้

บรรดานักพรตในอารามต่างประหลาดใจที่ ถึงแม้ว่านักบุญเซอร์กีย์จะทำงานอย่างหนักหน่วง
แต่สุขภาพของท่านก็ไม่ได้แย่ลงเลยแม้แต่น้อย สิ่งนี้จึงเป็นที่พิสูจน์ได้ว่าท่านนั้นเหมาะกับการเป็น
อีกูเมน (อธิการ) ของอาราม และในที่สุด ในปีค.ศ.1354 บิชอปอธานาสิอุส บิชอปแห่งโวลิน
ได้ปกมือบวชนักบุญเซอร์กีย์ให้เป็นบาทหลวงนักพรต และเลื่อนสถานะให้เป็นอีกูเมนประจำอาราม
อารามของท่านนั้นเติบโตมากขึ้น เริ่มมีนักพรตจำนวนมาก บ่อยครั้งที่บางครั้งนักพรตก็ขาดแคลน
อาหาร แต่อาศัยคำภาวนาของคุณพ่อเซอร์กีย์ ผู้คนแปลกหน้าหลายคนก็นำของต่าง ๆ
มาช่วยเหลืออาราม

ความสามารถของนักบุญเซอร์กีย์นั้นโด่งดังไปจนถึงกรุงคอนสแตนติโนเปิล ปาตริอาร์ชฟิโลเธอุสแ
ห่งคอนสแตนติโนเปิลจึงได้ส่งไม้กางเขน ผ้าปารามาน (เป็นหนึ่งในเครื่องแบบของนักพรต
โดยจะเป็นผ้าที่มีการปักรูปไม้กางเขนและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่สื่อถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า)
สายรัด และยังได้ส่งคำยืนยันการยอมรับกฎใหม่สำหรับการใช้ชีวิตในอารามซึ่งนักบุญเซอร์กีย์
ได้เขียนขึ้นมา

นักบุญเซอร์กีย์ได้กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ท่านได้รับพระพรจากพระเจ้าในการทำอัศจรรย์ต่าง ๆ
ท่านได้ปลุกเด็กหนุ่มขึ้นมาต่อหน้าผู้เป็นพ่อที่เศร้าโศกเพราะคิดว่าเสียลูกชายไปแล้ว คนเจ็บป่วยหลาย ๆ
คนเริ่มเดินทางมาหาท่าน ผู้คนต่างยกย่องท่าน และยกท่านให้อยู่ในระดับเดียวกันกับบรรดาบิดา
ผู้ศักดิ์สิทธิ์ท่านก่อน ๆ แต่นักบุญเซอร์กีย์ก็ยังคงถ่อมตนต่อทุกคนอยู่เช่นเดิม

ครั้งหนึ่งนักบุญสตีเฟน บิชอปแห่งเปิร์ม ผู้ที่ยกย่องนักบุญเซอร์กีย์อย่างมาก ได้เดินทางจากเขต
สังฆมณฑลของตนไปยังกรุงมอสโก นักบุญสตีเฟนมีประสงค์ที่จะเดินทางเข้าไปยังอารามขากลับ
จากกรุงมอสโก ในระหว่างทาง รถม้าได้เลยอารามไปแล้วราว 8 กิโลเมตร หลังจากที่นักบุญสตีเฟน
อ่านบทภาวนาแล้วท่านได้ก้มศีรษะให้แก่นักบุญเซอร์กีย์ กล่าวว่า “สันติสุขจงมีแด่ท่าน พี่น้องฝ่าย
วิญญาณของข้าพเจ้า” ในช่วงเวลานั้นนักบุญเซอร์กีย์อยู่ในหอฉันท์และกำลังทานอาหารพร้อมกับ
นักพรตทุกคน ในทันใด นักบุญเซอร์กีย์ก็ลุกขึ้น อ่านบทภาวนา และกล่าวคำอวยพรนักบุญสตีเฟนกับ

นักพรตคนอื่น ๆ จึงเริ่มเห็นอัศจรรย์ที่คล้าย ๆ กันนี้ ครั้งหนึ่งระหว่างพิธีบูชาขอบพระคุณ ทูตสวรรค์
ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้มาร่วมประกอบพิธีกับท่าน แต่นักบุญเซอร์กีย์สั่งห้ามบรรดาศิษย์ของท่าน
ไม่ให้เล่าเรื่องนี้กับใคร นักบุญเซอร์กีย์เองยังมีความสนิทสนมกับนักบุญอเล็กเซย์ ท่านทั้งสองต่าง
นับถือกันและกันในเรื่องจิตวิญญาณ ครั้งหนึ่งนักบุญอเล็กเซย์ได้เสนอให้นักบุญเซอร์กีย์เป็นเมโตร
โปลิตันแห่งมอสโก (ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้นำพระศาสนจักรรัสเซียในขณะนั้น) ต่อจากท่านแต่
นักบุญเซอร์กีย์ก็ได้ปฏิเสธท่านไป

ในเวลานั้น ประเทศรัสเซียกำลังถูกคุกคามจากชาวมองโกล-ทาร์ทาร์ เจ้าชายดิมิทรี ดอนสกอย
ได้พากองทหารเดินทางไปยังอารามเพื่อขอคำอวยพรจากนักบุญเซอร์กีย์ ท่านได้อนุญาต
ให้นักพรตสองคนในอาราม นักบุญอเล็กซานเดอร์และอันเดรย์ ไปร่วมศึกด้วย นักบุญเซอร์กีย์
ได้คาดการณ์ไว้ว่าทัพรัสเซียจะชนะในศึกครั้งนี้ และก็เป็นเช่นนั้น ในวันที่ 8 กันยายน ค.ศ.1380
กองทัพรัสเซียสามารถเอาชนะกองทัพชาวมองโกลมาได้ ซึ่งในขณะมีการสู้รบกัน ที่อาราม
นักบุญเซอร์กีย์และนักพรตคนอื่น ๆ ต่างร่วมอธิษฐานภาวนาขอให้พระเจ้าประทานชัยชนะแก่
ประเทศรัสเซีย (เรื่องราวของท่านทั้งสองสามารถดูได้จากวิดีโอนี้: https://youtu.be/jR_kPy1lW9U)

ในคืนหนึ่ง นักบุญเซอร์กีย์ได้อ่านบทคานอนหน้าภาพไอคอนของพระมารดาพระเจ้า หลังจากอ่านเสร็จ
ท่านได้นั่งลงเพื่อพักผ่อน ทันทีที่นั่งลงท่านได้พูดกับศิษย์ของท่าน นักบุญมีคาห์ (วันฉลอง: 19 พฤษภาคม)
ว่าได้มีการเยี่ยมเยือนรอเราอยู่ ทันใดนั้น พระมารดาพระเจ้าพร้อมด้วยนักบุญเปโตร อัครสาวก
และนักบุญยอห์น นักเทววิทยา ได้ปรากฏกายขึ้นมาพร้อมด้วยแสงสว่างจ้า ระหว่างนั้นนักบุญเซอร์กีย์
ได้ก้มกราบลงหน้าจรดพื้น แต่พระมารดาพระเจ้าได้ยื่นมือไปหาท่าน และกล่าวกับท่านว่าจะเป็นผู้
คุ้มครองอารามของท่านตลอดไป

ด้วยวัยที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ นักบุญเซอร์กีย์ได้เตรียมพร้อมสำหรับการจากไปของท่านไว้ก่อน 6 เดือน
นักบุญเซอร์กีย์ได้เรียกให้พี่น้องนักพรตทุกคนเข้ามาพบ และได้มอบหมายให้นักบุญนิคอน
(วันฉลอง: 30 พฤษจิกายน) หนึ่งในศิษย์ของท่านให้เป็นอีกูเมนต่อจากท่าน นักบุญเซอร์กีย์
ได้กลับสู่พระเจ้าอย่างสงบในวันที่ 25 กันยายน ค.ศ.1392 หนึ่งคืนก่อนที่ท่านจะเสีย ท่านได้เรียก
พบบรรดาศิษย์ของท่านเป็นครั้งสุดท้ายและแนะนำทุกคนว่า “พี่น้อง จงระวังตัวเองให้มาก
ประการแรกท่านจงมีความยำเกรงในพระเจ้า มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ และจริงใจ...”

🗓 วันฉลองของนักบุญเซอร์กีย์ตรงกับวันที่ 25 กันยายน ของทุกปี

ข้าแต่นักบุญเซอร์กีย์ โปรดภาวนาต่อพระเจ้าเพื่อเราเถิด! 🙏🕯☦

#นักพรต #นักบุญ #ออร์โธด็อกซ์

Cr : Michal พระสงฆ์ ออร์โธด๊อกซ์

:s002: :s002:
ตอบกลับโพส