ประวัตินักบุญอย่างย่อเดือนธันวาคม ( วันที่ 16-31 )

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ธ.ค. 16, 2021 10:58 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๖ ธันวาคม
นักบุญอาเดลลา
St. Adelaide

อาเดลลาเกิดในปี ๙๓๑ ที่แคว้นเบอร์กันดีประเทศฝรั่งเศส เธอเป็นพระธิดาของ
กษัตริย์รูดอล์ฟ ที่ ๒แห่งเบอร์กันดี พระบิดาหมั้นหมายเธอไว้ตั้งแต่อายุ ๒ ขวบกับ
โลติเยร์ผู้เป็นบุตรและทายาทศัตรูของพระองค์ Hugh แห่งโพรวองซ์

โลติเยร์ถูกสังหารแต่ยังเยาว์ อาเดลลาจึงถูกหมายปองจากกษัตริย์และขุนนางมากมาย
ชีวิตเธออยู่ท่ามกลางการต่อสู้เพื่ออำนาจการเมืองของยุคสมัยในที่สุด อาเดลลาก็สมรส
กับจักรพรรดิอ็อตโตมหาราชแห่งเยอรมนีผู้บุกครองอิตาลี

เมื่อจักรพรรดิอ็อตโต ที่ 2 สิ้นพระชนม์ พระโอรสของอาเดลลาขึ้นครองราชย์โดยทรง
พระนาม ว่าอ็อตโต ที่ 3 แต่เพราะยังเยาว์วัยอาเดลลาจึงทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการ
แผ่นดิน เธอใช้อำนาจเยี่ยงจักรพรรดินีส่งเสริมการประกาศพระวรสารโดยเฉพาะ
ในดินแดนยุโรปเหนือ เธอโปรดให้สร้างอารามและวัดจำนวนมากมายและช่วยเหลือ
คนยากจน

อาเดลลาสิ้นพระชนม์ปี ๙๙๙ ในอารามแห่งหนึ่ง พระสันตะปาปาอูร์บานี ที่ ๒
ทรงประกาศตั้งเธอ เป็นนักบุญในปี ๑๐๙๗

*********************

บุญราศีทั้ง ๗ แห่งประเทศไทย

มรณสักขีแห่งสองคอน คือคริสตศาสนิกชนนิกายโรมันคาทอลิกชาวไทย ๗ คน ที่ถูก
ตำรวจ ยิงเสียชีวิตเพราะไม่ยอมเลิกนับถือศาสนาคริสต์ ทั้ง ๗ คนได้รับการยกย่อง
จากพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกว่าเป็นมรณสักขี และได้รับการประกาศเป็นบุญราศี
พร้อมกันโดย
สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ ๒ ณ มหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน
เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๒ นับเป็นคริสตชนชาวไทยกลุ่มแรกที่ได้เป็นบุญราศี

รายนามมรณสักขี
มรณสักขีทั้งเจ็ดท่าน มีรายนามดังต่อไปนี้
บุญราศีฟิลิป สีฟองอ่อนพิทักษ์ (อายุ ๓ภ ปี)
บุญราศีอักแนส พิลา ทิพย์สุข (อายุ ๓๑ ปี)
บุญราศีลูซีอาคำบาง สีคำพอง (อายุ ๒๓ ปี)
บุญราศีอากาทา พุดทาว่องไว (อายุ ๕๙ ปี)
บุญราศีเซซีลีอา บุดสีว่องไว (อายุ ๑๖ ปี)
บุญราศีบีบีอานาคำไพ ว่องไว (อายุ ๑๕ ปี)
บุญราศีมารีอา พรว่องไว (อายุ ๑๔ ปี)

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 17, 2021 11:08 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๗ ธันวาคม
นักบุญโฮเซ มานยาเน ยีวีเวส
St. José Manyanet Y Vives

โฮเซ มานยาเน เกิดเมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๑๘๘๓ ในแคว้นคาตาโลเนีย ประเทศสเปน
เมื่ออายุ ๕ ขวบมารดาถวายท่านแด่พระนางมารีย์พรหมจารี เมื่อเติบโต โฮเซก็สมัคร
เข้าบ้านเณรในปี ๑๘๕๙ ท่านรับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ ท่านได้ทำงานเป็นเลขานุการของ
สังฆราชแห่งอูร์เกล เป็นผู้ดูแลห้องสมุดของบ้านเณร และเป็นที่ปรึกษาของสังฆมณฑล

ต่อมา ท่านตอบรับต่อเสียงเรียกของพระให้ตั้งคณะนักบวช๒ คณะท่านตั้งคณะบุตรแห่ง
ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ (Congregation of the Sons of the Holy Family) ในปี ๑๘๖๔
และคณะธิดาธรรมทูตแห่งครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของนาซาเร็ธ
(Missionary Daughters of the Holy Family of Nazareth) ในอีกสิบปีให้หลัง
ทั้งสองคณะอุทิศตนเพื่อให้การอบรมศึกษาและปกป้องครอบครัวคริสตชน พร้อมกับ
ทำงานด้านการศึกษาและงานอภิบาลในวัดด้วย

ท่านยังก่อตั้งโรงเรียนและศูนย์อื่นๆ อีกเพื่อส่งเสริมความศรัทธาต่อครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
ท่านเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวและการแนะนำชีวิตฝ่ายจิต ท่านยังช่วยเหลือ
ในการก่อสร้างวิหารแห่งครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ในบาร์เซโลนา

ตลอดชีวิต ท่านรับทุกข์ทรมานเนื่องด้วยอาการเจ็บป่วยฝ่ายกาย โดยเฉพาะบาดแผลที่
สีข้าง ๒ แห่งที่เรื้อรังอยู่ตลอด ๑๖ ปีสุดท้ายของชีวิต ท่านสิ้นใจเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๑๙๐๑
พระสันตะปาปายอห์นปอล ที่ ๒ ประกาศตั้งท่านเป็นนักบุญเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๐๐๔

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 19, 2021 10:08 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๘ ธันวาคม
นักบุญกาเตียนแห่งตูรส์
St. Gatian of Tours

เราไม่รู้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับชีวิตของนักบุญกาเตียน เราทราบเพียงว่า
ท่านเป็นสังฆราชคนแรกของเมืองตูรส์ในฝรั่งเศส และกล่าวกันว่าท่านเป็นศิษย์
ของนักบุญเดนิสแห่งปารีส

เมื่อท่านมาถึงดินแดนของคนต่างศาสนาซึ่งไม่เคยได้ยินข่าวดีของพระวรสารเลย
ท่านได้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อเป็นครั้งแรกลงในดินแดนตูรส์ ท่านวาง
พื้นฐานของพระศาสนจักรในเมืองของนักบุญมาร์ตินผู้ยิ่งใหญ่

นักบุญกาเตียนเสียชีวิตในปี ๓๓๗

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 19, 2021 10:10 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๙ ธันวาคม
บุญราศีพระสันตะปาปาอูร์บานี ที่ ๕
Blessed Pope Urban V

กุยเลาเม เด กริโมอาร์ด (Guillaume de Grimoard) เกิดที่ Grisac ใน Languedoc
เมื่อปี ๑๓๑๐ ท่านศึกษากฎหมายพระศาสนจักรและเทววิทยาที่เมืองอาวิญอง
และได้บวชเป็นฤษีคณะเบเนดิกติน ท่านเป็นอธิการอารามในปี ๑๓๕๒ และต่อมา
ได้เป็นทูตของพระสันตะปาปา ท่านถูกส่งให้ไปทำหน้าที่หลายแห่ง ท่านเป็นสังฆราช
ในอิตาลีและหลายที่ในยุโรป

ปี ๑๓๖๒ ท่านได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาทั้งที่ยังไม่ได้เป็นคาร์ดินัล ตลอดสมณสมัย
พระสันตะปาปาอูร์บานี ที่ ๕ มีพันธกิจในการสร้างสันติภาพระหว่างกษัตริย์ฝรั่งเศสกับอิตาลี
พระองค์ก่อตั้งมหาวิทยาลัยหลายแห่งและทรงกระตือรือร้นต่อการส่งนักรบครูเสดไปกู้
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พระองค์ย้ายกลับมาประทับที่โรม ทำให้สิ้นสุดยุคพระสันตะปาปาพำนัก
ที่อาวิญอง

อย่างไรก็ตาม สงครามระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศสทำให้พระองค์ต้องกลับมาอาวิญองเพื่อ
ภารกิจรักษาสันติภาพ ระหว่างการเดินทางครั้งนี้พระองค์สิ้นพระชนม์ พระกายซึ่งถูกฝังไว้ที่
อาวิญองถูกย้ายมาที่เมืองมาร์กเซย์ตามพระประสงค์ ที่นั่น สุสานของพระองค์เป็นสถานที่เกิด
อัศจรรย์มากมาย พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่๑๙ ธันวาคม ๑๓๗๐

พระองค์มีจิตใจเป็นนักพรตเบเนดิกตินตลอดเวลาถึงแม้เป็นพระสันตะปาปาแต่พระองค์ก็คง
สวมชุดนักพรตเบเนดิกติน คุณธรรมและความสัตย์ซื่อจริงใจของพระองค์ฉายเด่นในยุคสมัยที่
ยุโรปอุดมไปด้วยเรื่องอื้อฉาวและคอร์รัปชั่น เล่ากันว่าเมื่อป่วยหนัก พระองค์ทรงเรียกให้ผู้คน
มารอบเตียง ตรัสกับพวกเขาว่า "ประชาชนต้องได้เห็นว่าพระสันตะปาปาตายอย่างไร"

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 20, 2021 6:56 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒๐ ธันวาคม
นักบุญดอมินิกแห่งซีลอส
St. Dominic of Silos

ดอมินิกเกิดในปี ๑๐๐๐ ในแคว้น Navarre ประเทศสเปน ท่านเป็นชาวนา เมื่อเยาว์วัย
ท่านทำหน้าที่ดูแลฝูงแกะจนกระทั่งเข้าอารามเบเนดิกติน กษัตริย์ของแคว้น Navarre
ต้องการที่ดินของอาราม แต่ดอมินิกปฏิเสธที่จะส่งมอบ ท่านและนักพรตอีก ๒ คน
จึงถูกบังคับให้ออกจากอาราม

ท่านหนีไปแคว้นคาสตีล ได้รับการต้อนรับโดยกษัตริย์ที่นั่น ท่านเข้าอารามนักบุญเซบาสเตียน
แห่งซีลอส ซึ่งสมาชิกดำเนินชีวิตค่อนข้างหละหลวม เมื่อท่านได้รับเลือกเป็นอธิการอาราม
ท่านก็ฟื้นฟูชีวิตจิตของบรรดานักพรตและได้ปรับปรุงด้านการก่อสร้าง การบริหารเงินทอง
และงานเมตตาจิต

ท่านมีชื่อเสียงเรื่องอัศจรรย์เยียวยารักษาคนป่วย ท่านยังช่วยจ่ายเงินไถ่ตัวนักโทษคริสตชน
จากพวกมัวร์จำนวนมาก

ท่านเสียชีวิตในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๑๐๗๓

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ธ.ค. 22, 2021 11:26 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒๑ ธันวาคม
นักบุญปีเตอร์ คานิซิอุส
St. Peter Canisius

ปีเตอร์ คานิซิอุส เป็นบุคคลสำคัญในยุคปฏิรูปพระศาสนจักรในศตวรรษที่ ๑๖
ท่านเป็นพระสงฆ์คณะเยสุอิตและเป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักร

บทบาทของท่านในการเป็นนักเทศน์ นักเขียน ผู้อบรมด้านศาสนา ทำให้ความเชื่อ
คริสตชนแข็งแกร่งอย่างมากในเยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และภาคกลาง
ของยุโรป ซึ่งยุคนั้นกำลังเกิดความสับสนเรื่องข้อความเชื่อ

ปีเตอร์ คานิส เกิดที่เนเธอร์แลนด์ในปี ๑๕๒๑ บิดาของท่านเป็นเจ้าหน้าที่บริหาร
บ้านเมืองฐานะดี แต่มารดาเสียชีวิตหลังให้กำเนิดท่านไม่นาน ปีเตอร์เริ่มเรียน
ในมหาวิทยาลัยโคโลญจน์เมื่ออายุ ๑๕ ปี และได้รับปริญญาโทก่อนอายุ ๒๐ ปี
มิตรสหายของท่านในช่วงเวลานี้มีหลายคนที่คงยึดความเชื่อคาทอลิกแม้ว่า
ความเชื่อโปรเตสแตนท์เริ่มเข้ามาตั้งมั่นในเยอรมนี

บิดาต้องการให้ปีเตอร์แต่งงาน แต่ท่านตัดสินใจที่จะถือโสด สามปีต่อมา
ให้อัครสังฆราช Hermann แห่ง Wied ของเมืองโคโลญจน์ลาออกหลังจากที่เขา
เปลี่ยนไปถือตามคำสอนของโปรเตสแตนท์

เพียงหนึ่งปีหลังการบวช ปีเตอร์ก็ร่วมทางกับสังฆราช Augsburg ไปร่วมประชุม
สังคายนาเมืองเทรนท์ในฐานะที่ปรึกษาเทววิทยา ท่านใช้เวลาส่วนหนึ่งในการทำงาน
กับนักบุญอิกญาซีโอโลโยลาก่อนจะเดินทางไปบาวาเรียเพื่อเป็นอาจารย์สอนใน
มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งสอนคำสอนและเทศน์ด้วย ภารกิจทั้งด้านวิชาการและงาน
อภิบาลคงดำเนินต่อไปที่เมืองเวียนนา ท่านไปเยี่ยมและช่วยวัดในออสเตรียจำนวน
มากที่ไม่มีพระสงฆ์

ในปี ๑๕๕๐ การเดินทางประกาศพระวรสารของปีเตอร์นำท่านไปถึงเมืองปราก ท่านตั้ง
โรงเรียนเยสุอิตที่นั่น และอีกแห่งที่บาวาเรีย และต่อมาแห่งที่สามที่มิวนิค ปี ๑ ดำรง
ตำแหน่งผู้นำในคณะ ซึ่งท่านจะทำหน้าที่จนถึงปี๑๕๕๕ นักบุญอิกญาสิโอเลื่อนท่านขึ้น
ดำรงตำแหน่งผู้นำในคณะ ซึ่งท่านจะทำหน้าที่จนถึงปี ๑๕๖๙ ท่านจัดพิมพ์คำสอน
คาทอลิกที่ท่านเขียน
คำสอนเล่มนี้ต่อมาจะถูกตีพิมพ์หลายร้อยครั้งและใช้กันสืบต่อหลายศตวรรษ

ปีเตอร์ทำงานหนักเพื่อให้ข้อกำหนดต่างๆ จากการสังคายนาได้ถูกนำมาปฏิบัติใน
เยอรมนี ความพยายามอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยของท่านกว่ายี่สิบปีมีส่วนสำคัญที่ทำ
ให้คาทอลิกในเยอรมันกลับฟื้นฟูขึ้น
มาใหม่ ในปี ๑๕๘๐ ท่านมุ่งหน้าทำงานเช่นเดียวกันที่เมือง Freibourg ของสวิสฯ

ประสบการณ์รหัสนัยในปี ๑๕๘๔ ทำให้ท่านมั่นใจว่าควรจะยุติการเดินทางและพำนักอยู่
ในสวิสเซอร์แลนด์ตลอดชีวิตที่เหลือ ท่านสร้างพระศาสนจักรใน Freibourg
โดยการเทศน์สอนและเขียน

ท่านเสียชีวิตวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๑๕๙๗
พระสันตะปาปาปีโอ ที่ ๑๑ ประกาศตั้งท่านเป็นนักบุญและ
นักปราชญ์ของพระศาสนจักรในปี ๑๙๕๒

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ธ.ค. 22, 2021 11:27 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒๒ ธันวาคม
นักบุญเชโรมอน
St. Chaeromon

เรารู้เพียงว่านักบุญเชโรมอนเป็นสังฆราชของเมือง Nilopolis
ในอียิปต์ท่านอายุมากแล้วเมื่อจักรพรรดิ Trajanus Decius
เริ่มการเบียดเบียนคริสตชนอย่างรุนแรง

ท่านและสหายหลบหนีไปอาราเบียและเชื่อกันว่าท่านเป็นมรณสักขีที่นั่น

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 24, 2021 3:47 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒๓ ธันวาคม
นักบุญธอร์แลคแห่งไอซ์แลนด์
St. Thorlak of Iceland

ชาวสแกนดิเนเวียแห่งไอซ์แลนด์ฉลองนักบุญอุปถัมภ์ของพวกเขาคือ นักบุญธอร์แลค
ธอร์ฮอลล์สัน(Thorlak Thorhallsson) ในวันที่ ๒๓ ธันวาคม พวกเขาประกาศว่าท่าน
เป็นนักบุญในปี ๑๑๙๘ เพียงห้าปีหลังการตายของท่าน แต่การประกาศตั้งนักบุญ
"อย่างไม่เป็นทางการนี้" ไม่มีอยู่ในปฏิทินพิธีกรรมของศาสนจักรจนกระทั่ง
พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ ๒ ทรงรับรองในเดือนมกราคม ๑๙๘๔

ธอร์แลคเกิดในปี ๑๑๓๓ สองศตวรรษหลังจากมิสชันนารีชาวเยอรมันและนอร์เวย์เริ่ม
ประกาศพระวรสารอย่างเกิดผลในไอซ์แลนด์ การกลับใจของชาวไอซ์แลนด์ต้องผ่านขั้น
ตอนที่ยากลำบากเพราะประชาชนไอซ์แลนด์จำนวนมากยังยึดถืออย่างเอาเป็นเอาตาย
กับศาสนาบรรพบุรุษของพวกเขา ซึ่งมีธรรมเนียมการนมัสการรูปเคารพและสังหารทารก

พระศาสนจักรคาทอลิกตั้งมั่นแล้วในช่วงเวลาที่ธอร์แลคถือกำเนิด อย่างไรก็ตาม การถือ
ปฏิบัติศาสนายังคลอนแคลน เพราะพวกพระสงฆ์ไม่ใส่ใจกฎการถือโสด พวกเขาขาย
ตำแหน่งในศาสนจักร และทำผิดระเบียบอื่นๆ

บิดามารดาของธอร์แลค ซึ่งเป็นชาวไร่ชาวนา สังเกตว่าลูกชายพวกเขามีพรสวรรค์จึงนำ
ไปให้รับการอบรมจากพระสงฆ์ท้องถิ่น ธอร์แลคได้รับศีลบวชเป็นอนุสงฆ์ก่อนอายุ ๑๕ ปี
และเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุ ๑๘ ปี

หลังจากนั้น ท่านเดินทางออกจากไอซ์แลนด์เพื่อไปศึกษาเทววิทยาที่ฝรั่งเศสและอังกฤษ
ระหว่างนี้ท่านดำเนินชีวิตตามพระวินัยของคณะออกัสติเนียน พระวินัยไม่เพียงกำหนดให้
พระสงฆ์ต้องถือโสด แต่ยังให้ใช้ชีวิตหมู่คณะโดยปราศจากทรัพย์สินส่วนตัว ตามแบบอย่าง
ของพวกอัครสาวกในศาสนจักรยุคแรกเริ่ม

ธอร์แลคยังคงถือปฏิบัติตามพระวินัยนี้แม้ว่าเมื่อกลับมาไอซ์แลนด์ ท่านจะถูกกดดันให้แต่งงาน
กับแม่ม่ายที่เป็นเศรษฐีนีคนหนึ่งก็ตาม ท่านตั้งอารามตามวินัยของคณะออกัสติเนียน ซึ่งมีชื่อ
เสียงในการสวดภาวนาและการศึกษา

สิบปีหลังการก่อตั้งอาราม อัครสังฆราชชาวนอร์เวย์ซึ่งเป็นผู้ดำเนินชีวิตตามพระวินัยของ
คณะออกัสติเนียน ก็ได้เชิญให้ธอร์แลคเป็นสังฆราชแห่งสังฆมณฑล Skalholt ของไอร์แลนด์

ในฐานะสังฆราช ธอร์แลคตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูและให้แนวทางพวกพระสงฆ์
นักบวชท่านพยายามนำเอาการฟื้นฟูที่พระสันตะปาปาเกรกอรี่ ที่ ๗ ทรงริเริ่มในศตวรรษก่อน
มาปฏิบัติให้เป็นจริง ไมเพียงแต่เรื่องการถือโสดอย่างเคร่งครัดของพระสงฆ์แต่ยังพยายามให้
พระศาสนจักรเป็นอิสระไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีอำนาจทางบ้านเมือง

ธอร์แลคพยายามปรับปรุงศีลธรรมของสังคมด้วย ท่านกล้าเผชิญหน้ากับหัวหน้าเผ่าผู้มีชื่อเสียง
และมีอำนาจที่สุดของไอซ์แลนด์ซึ่งกล่าวกันว่ามีความสัมพันธ์พิเศษกับน้องสาวของท่านเอง
ท่านเกิดความต้องการจะวางทุกเรื่องราวและกลับคืนสู่ชีวิตในอารามอยู่บ่อยๆแต่ก่อนจะทำ
เช่นนั้น ท่านได้เสียชีวิตลงในวันที่ ๒๓ ธันวาคม ปี ๑๑๙๓

นักบุญธอร์แลคเป็นนักบุญพื้นเมืองของไอซ์แลนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคที่ประเทศเป็นคาทอลิก
มีวัดกว่า ๕๐ แห่งที่สร้างเพื่ออุทิศแด่ท่านก่อนที่ไอซ์แลนด์จะถือลัทธิลูเธอรันอย่างเป็นทางการ
ในระหว่างศตวรรษที่ ๑๖

แต่การฉลองนักบุญธอร์แลคก็ยังคงมีอยู่ทั่วไปในฐานะประเพณีของประเทศ ชาวไอซ์แลนด์ฉลอง
ท่านวันที่ ๒๓ ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนวันคริสตสมภพ และมีธรรมเนียมชุมนุมกัน
เพื่อรับประทานปลาเคอร์ดในวันนี้

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 24, 2021 3:49 pm

วันที่ ๒๔ ธันวาคม
Vigil of Christmas

ในยุคแรกๆ ของพระศาสนจักร ทุกคืนก่อนวันฉลองจะมีการตื่นเฝ้า ตอนเย็น
ผู้มีความเชื่อจะมารวมตัวกันในวัดหรือสถานที่ที่จะมีการฉลอง พวกเขาเตรียมตัว
ด้วยการสวดภาวนา อ่านบทอ่าน และบางครั้งก็ฟังการเทศน์ ในโอกาสนี้จะมีพิธี
มิสซาในตอนเย็นด้วย เมื่อใกล้รุ่งอรุณ ผู้คนจะแยกย้ายกันไปอยู่ตามถนนหรือพัก
ในบ้านใกล้วัด รอคอยพิธีมิสซาอย่างสง่าก่อนเที่ยง

พิธีตื่นเฝ้าเป็นสิ่งที่ถือปฏิบัติในชีวิตคริสตชน นักบุญออกัสตินและนักบุญเยโรมก็
สนับสนุนและแนะนำให้กระทำ แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงหยุดพักตอนเช้าก็เป็นโอกาส
ให้เกิดการกระทำไม่เหมาะสมด้วยฝูงชนบางกลุ่มพากันขับร้องเริงระบำไปตามท้อง
ถนนและศาลารอบวัด ซึ่งนักบุญเยโรมเขียนตำหนิพฤติกรรมเช่นนี้

การประชุมสมัชชาที่เมือง Seligenstadt ในปี ๑๐๒๒ กล่าวถึงการอดอาหาร ๒ สัปดาห์
ก่อนวันฉลองการบังเกิดของนักบุญยอห์น บัปติสท์และพิธีตื่นเฝ้าก่อนวันพระคริสตสมภพ
ก่อนวันพระคริสตเจ้าทรงสำแดงองค์วันฉลองอัครสาวก วันแม่พระเสด็จสู่สวรรค์ วันฉลอง
นักบุญลอเรนซ์และนักบุญทั้งหลาย

หลังศตวรรษที่ ๑๑ การอดอาหาร สวดทำวัตรและมิสซาของพิธีตื่นเฝ้าถูกเลื่อนขึ้นมาหนึ่งวัน
ก่อนวันฉลอง และแม้ปัจจุบัน พิธีในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ (ตื่นเฝ้าวันปัสกา) ก็แสดงให้เห็นว่า
เดิมทีแล้วไม่ได้กระทำในเช้าวันเสาร์ แต่ในระหว่างคืนปัสกา ดังนั้น พิธีกรรมหนึ่งวันก่อน
วันฉลองจึงถูกเรียกว่าวันตื่นเฝ้า

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 26, 2021 3:27 pm

วันที่ ๒๕ ธันวาคม
การบังเกิดของพระเยซูคริสตเจ้า - วันพระคริสตสมภพ
The Nativity of the Lord - Christmas

คำเรียกคริสต์มาส ในภาษาอังกฤษโบราณ คือ Cristes Maesse (มิสซาของพระคริสต์)
คำนี้เราพบครั้งแรกในปี ๑๐๓๘ และได้กลายเป็น Cristes-messe ในปี ๑๑๓๑ ส่วนภาษา
ละติน มีชื่อว่า Dies Natalis (วันบังเกิดของพระเจ้า)

วันพระคริสตสมภพไม่ได้ถูกจัดเป็นวันฉลองของพระศาสนจักรในยุคแรกเริ่ม นักบุญอิเรเนอุส
และแตร์ตูเลียนไม่ได้บรรจุวันนี้ลงในรายชื่อวันฉลองต่างๆ ส่วนออริเยนยืนยันว่าในพระวรสาร
พวกคนบาปเท่านั้น ไม่ใช่นักบุญ ที่ฉลองวันเกิดของพวกเขา อาร์โนบิอุส (Arnobius) ยังเย้ยหยัน
"วันเกิด" ของพวก เทพเจ้าด้วย

หลักฐานแรกของการฉลองวันพระคริสตสมภพมาจากอียิปต์ประมาณปีค.ศ.๒๐๐ เคลเมนต์แห่ง
อเล็กซานเดรียเขียนว่านักเทววิทยาชาวอียิปต์บางคน ได้กำหนดให้วันที่พระคริสต์บังเกิดเป็น
วันที่ ๒๕ ของเดือน Pachon (ตรงกับวันที่ ๒๐ พฤษภาคม) ในปีที่ ๒๘ ของรัชสมัยจักรพรรดิ
ออกุสตุส ส่วนการฉลองในเดือนธันวาคมได้มีขึ้นในระหว่างปี ๔๒๗-๔๓๓
ในโรม หลักฐานแรกสุดอยู่ในปฏิทิน Philocalian ซึ่งรวบรวมในปี ๓๕๔ ปฏิทินนี้แบ่งหัวข้อ
สำคัญ ๓กลุ่ม ในปฏิทินของฝ่ายบ้านเมืองวันที่ ๒๕ ธันวาคมถูกเรียกว่า Natalis Invicti ส่วน
ในรายชื่อ มรณสักขีของศาสนจักร ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่ม Depositio Martyrum
ในวันที่ ๒๕ ธันวาคมนั้น เราพบความว่า "พระคริสต์ทรงบังเกิดในเบธเลเฮ็ม แคว้นยูเดีย"

มีข้อถกเถียงกันด้วยว่าศาสนจักรโรมรับเอาการฉลองวันสำแดงองค์ของพระคริสตเจ้า
(แก่พวกนักปราชญ์ทั้งสามจากแดนไกล) มาจากศาสนจักรตะวันออกและกำหนดเอาเป็น
วันที่ ๒๕ ธันวาคม ภายหลังศาสนจักรตะวันออกและตะวันตกแยกวันฉลองกัน ทำให้วัน
สำแดงองค์ เป็นวันที่ ๖ มกราคม ส่วนวันคริสตสมภพเป็นวันที่ ๒๕ ธันวาคม อย่างไรก็ตาม
ข้อสันนิษฐาน เก่าก่อนยังคงเป็นที่นิยมมากกว่า
แต่โดยที่สุดแล้ว ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ วันเฉลิมฉลองพระอาทิตย์ของชาวโรมัน
(Natalis Invicti) ที่กระทำกันในวัน ๒๕ ธันวาคมน่าจะเป็นที่มาของกำหนดวันคริสตสมภพ
ลัทธินมัสการดวงอาทิตย์ในจักรวรรดิโรมันได้รับความนิยมมาตลอด และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงจุดสูงสุดในปี ๒๗๔ ซึ่ง
เป็นยุคของจักรพรรดิ Aurelian ภายหลัง ในปี๑๗๐๐ ฟิลิปโป เดล ตอเร (Filippo del Torre)
เป็นคนแรกที่สังเกตเห็นความเกี่ยวข้องกันดังกล่าวในปฏิทินของ Philocalus

การอธิบายถึงภาษาและความหมายของดวงอาทิตย์ที่ใช้สื่อถึงพระเจ้าถึงเรื่องบทบาท
ของพระผู้ไถ่(Messiah) และความศรัทธาค่อยๆ ถูกพัฒนาขึ้น พร้อมกับบทขับร้องสรรเสริญ
และบทสวดทำวัตรของวันคริสตสมภพ จนกระทั่งได้ถูกรวบรวมไว้อย่างสมบูรณ์
โดยคูมอง (Cumont)

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ ธ.ค. 26, 2021 3:31 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒๖ ธันวาคม
นักบุญสเตเฟน
St. Stephen

หลังวันพระคริสตสมภพ พระศาสนจักรรำลึกถึงมรณสักขีคนแรก นักบุญสเตเฟน
ซึ่งเป็นหนึ่งในสังฆานุกรกลุ่มแรกของพระศาสนจักรด้วย

ในหนังสือกิจการอัครสาวก นักบุญลูกายกย่องสเตเฟนว่า "เป็นชายหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วย
ความเชื่อและพระจิตเจ้า" เขาได้ "กระทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์และเครื่องหมายอันยิ่งใหญ่
ในท่ามกลางประชาชน" ในยุคแรกเริ่มของพระศาสนจักร

สเตเฟนเป็นชาวยิวที่เชื่อในพระเยซูขณะพระองค์ปฏิบัติภารกิจในโลกเขาอาจเป็นหนึ่ง
ในศิษย์๗๐ คน ที่พระเยซูส่งไปประกาศการมาถึงของอาณาจักรพระเจ้า โดยให้เดินทาง
ไปโดยปราศจากข้าวของติดตัว

จิตตารมณ์ของการไม่ยึดติดวัตถุสิ่งของเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไปในพระศาสนจักรยุคแรก
นักบุญลูกาเล่าว่า พวกผู้มีความเชื่อ "นำเอาทุกอย่างที่มีมารวมกัน" และ
"พวกเขาขายสิ่งของและทรัพย์สมบัติเพื่อนำมาแจกจ่ายแก่ผู้ขัดสน"

แต่กิจเมตตานี้ได้เป็นที่มาของความขัดแย้งทางวัฒนธรรมระหว่างชาวยิวกับคนต่างศาสนา
แม่ม่ายชาวกรีกกลุ่มหนึ่งรู้สึกถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับความใส่ใจเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่เป็นยิว

ชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ของสเตเฟนทำให้พวกอัครสาวกเลือกเขา พร้อมกับคนอื่นอีก ๖ คน
ให้ทำหน้าที่ช่วยบรรเทาความขัดแย้ง โดยอำนาจทางศีลศักดิ์สิทธิ์ที่พวกอัครสาวกได้รับจาก
พระคริสต์ พวกท่านบวชผู้ชายทั้งเจ็ดคนเป็นสังฆานุกรและส่งไปช่วยเหลือบรรดาหญิงม่าย
ในฐานะสังฆานุกร สเตเฟนเทศน์สอนถึงพระคริสต์ว่าเป็นผู้ทำให้กฎบัญญัติของพระธรรมเก่า
และคำทำนายของบรรดาประกาศสมบูรณ์สมาชิกศาลาธรรมไม่อาจโต้แย้งกับคำสอนของ
สเตเฟน จึงนำตัวเขามาต่อหน้าผู้มีอำนาจทางศาสนา ใส่ความว่าสเตเฟนจ้องจะทำลาย
ธรรมเนียมประเพณีของชาวยิว

สเตเฟนตอบด้วยถ้อยคำซึ่งมีบันทึกในบทที่เจ็ดของหนังสือกิจการอัครสาวกเขาพูดถึงชาว
อิสราเอลที่ดื้อดึงต่อหรรษทานของพระเจ้าในอดีต และกล่าวว่าผู้มีอำนาจทางศาสนา
ในปัจจุบัน "ต่อต้านพระจิต" และปฏิเสธพระผู้ไถ่ สเตเฟนเห็นภาพพระคริสต์ในพระสิริรุ่งโรจน์
"ดูสิ" เขาบอกพวกเหล่านั้น "ข้าพเจ้าเห็นสวรรค์เปิด"ออก และบุตรแห่งมนุษย์ยืนอยู่เบื้องขวา
ของพระเจ้า" พวกอยู่ในที่ประชุมพากันลากสเตเฟนออกไปและใช้ก้อนหินทุ่มใส่ท่านจนเสียชีวิต
"ขณะที่พวกเขากำลังใช้หินทุ่มใส่สเตเฟน เขาก็สวดภาวนาว่า พระเยซูพระเจ้าข้า โปรดรับ
จิตวิญญาณ ของข้าพเจ้าด้วยเทอญ จากนั้น เขาคุกเข่าลงและร้องด้วยเสียงอันดังว่า พระเจ้าข้า
อย่าถือโทษบาปพวก เขาเหล่านี้เลยเมื่อกล่าวดังนั้นแล้วเขาก็สิ้นใจ" (กจ.๗)
เหตุการณ์เสียชีวิตของมรณสักขีคริสตชนคนแรกอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ของฟาริสีคนหนึ่ง
ชื่อ ซาอูล (เซาโล) ภายหลังเขาเปลี่ยนชื่อเป็นเปาโลและจะมีประสบการณ์กับพระคริสต์จนเปลี่ยน
ให้เขาเป็นผู้มีความเชื่อแล้วก็เป็นมรณสักขีด้วยเช่นกัน

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 27, 2021 10:49 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒๗ ธันวาคม
นักบุญยอห์น อัครสาวก
St. John the Apostle

ยอห์นเป็นบุตรของเสเบดีและเป็นน้องชายของยากอบ ท่านถูกเรียกให้เป็นอัครสาวก
โดยพระเยซูเจ้าในปีแรกของพันธกิจของพระองค์ ยอห์นเป็น "ศิษย์ที่พระองค์ทรงรัก"
และเป็นคนเดียวในอัครสาวกสิบสองคนที่ไม่ทอดทิ้งพระเยซูในเวลาที่พระองค์รับ
พระมหาทรมาน ยอห์นยืนอย่างซื่อสัตย์ภักดีที่เชิงไม้กางเขน และพระเยซูคริสต์ทรง
มอบให้ท่านเป็นผู้ดูแลพระมารดาของพระองค์

ยอห์นดำเนินชีวิตในช่วงต่อมาที่เยรูซาเล็มและที่เมืองเอเฟซัส ท่านตั้งกลุ่มคริสตชน
หลายแห่งในเอเชียไมเนอร์ ธรรมประเพณีเล่าว่าท่านถูกนำตัวไปที่โรมภายใต้คำสั่ง
ของจักรพรรดิโดมีเทียน ท่านถูกโยนลงกะทะที่ต้มน้ำมันเดือดแต่ท่านไม่เป็นอันตราย
ท่านถูกขับไล่ไปอยู่ที่เกาะ Pathmos หนึ่งปี ท่านมีชีวิตยืนยาวกว่าอัครสาวกคนอื่นๆ
ท่านเสียชีวิตที่เอเฟซัสประมาณปีค.ศ.๑๐๐

ยอห์นได้ชื่อว่าอัครสาวกแห่งความรัก ซึ่งเป็นคุณธรรมที่ท่านได้เรียนรู้จากพระเยซูคริสต์
พระอาจารย์ของท่าน และเป็นสิ่งที่ท่านได้สอนและปฏิบัติเป็นตัวอย่าง "ศิษย์ที่พระองค์ทรงรัก"
ท่านนี้เสียชีวิตที่เมืองเอเฟซัส มีวัดแห่งหนึ่งสร้างขึ้นเหนือสุสานของท่าน ซึ่งภายหลังถูก
ดัดแปลงเป็นสุเหร่าของศาสนาอิสลาม

ยอห์นได้รับชื่อให้เป็นผู้เขียนพระวรสารและจดหมายสามฉบับ แม้ว่านักวิชาการ
ส่วนมากเชื่อว่าการรวบรวมสุดท้ายของพระวรสารกระทำโดยคนอื่นก่อนท่านสิ้นใจ
หนังสือวิวรณ์ก็ได้ใช้ชื่อท่านเป็นผู้เขียนด้วย

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ธ.ค. 28, 2021 10:34 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒๘ ธันวาคม
ทารกผู้วิมล
Holy Innocents

เรื่องของทารกผู้วิมลถูกเล่าไว้ในพระวรสารนักบุญมัทธิว บทที่ ๒:๑๖-๑๘

ครั้งนั้น กษัตริย์เฮโรด เมื่อทราบว่าพระองค์ถูกลวงโดยพวกนักปราชญ์ทั้งสาม ก็โกรธจัด
สั่งให้ทหารฆ่าทารกชายอายุตั้งแต่ ๒ ขวบลงมาในเมืองเบ็ธเลเฮมและเมืองชายแดน
เหตุการณ์นี้สำเร็จตามคำทำนาย
ของประกาศกเยเรมีห์ที่ว่า "มีเสียงร้องไห้คร่ำครวญในรามาห์ นางราเชลร่ำไห้ต่อการตาย
ของลูกๆ เธอไม่รับการปลอบบรรเทาใดๆ"

พิธีกรรมทางกรีกกล่าวว่าเฮโรดฆ่าเด็กจำนวน ๑๔,๐๐๐ คน ทางซีเรียกล่าวว่า ๖๔,๐๐๐ คน
และนักเขียนในยุคกลางเล่าว่า ๑๔๔,๐๐๐ คนตามหนังสือวิวรณ์บทที่ ๑๔ ข้อ ๓ แต่นักเขียน
ยุคใหม่ลดจำนวนเด็กลงอย่างมากเพราะเบ็ธเลเฮมเป็นเมืองค่อนข้างเล็ก Knabenbauer
กล่าวว่ามีเพียง ๑๕ หรือ ๒๐ คน Bisping ว่ามี ๑๐ หรือ ๑๒ คน และ Kellner คิดว่ามีเพียง ๖ คน

อย่างไรก็ตาม การกระทำอันโหดร้ายของเฮโรดครั้งนี้ไม่ได้ถูกกล่าวถึงโดยฟลาวิอุส โยเซฟุส
(Flavius Josephus) นักประวัติศาสตร์ชาวยิวแม้ว่าเขาจะได้เล่าถึงเหตุการณ์เลวร้ายหลายอย่าง
ที่กษัตริย์องค์นี้ได้ทรงปฏิบัติในปีท้ายๆ ของรัชสมัยจำนวนเด็กที่เสียชีวิตอาจน้อยจนดูไม่สำคัญ
เมื่อเทียบกับประพฤติกรรมอื่นๆ ของเฮโรด

มาโครบิอุส (Macrobius) เล่าว่าเมื่อจักรพรรดิออกุสตุสทรงทราบว่าลูกชายเฮโรดถูกสังหารด้วย
คำสั่งของเขาเอง พระองค์ตรัสว่า "เป็นหมูของเฮโรดยังดีกว่าเป็นลูกชายของเขา" ตามกฎบัญญัติ
ของชาวยิวห้ามรับประทานเนื้อหมูดังนั้น หมูจึงไม่ถูกฆ่า พระศาสนจักรยุคกลางเชื่อถือเรื่องการ
สังหารทารกผู้วิมล อเบลาร์ด (Abelard) ได้บรรจุบทขับร้องวันฉลองทารกผู้วิมลไว้ในหนังสือ่
พิธีกรรมที่เขาเขียน

เราไม่อาจกำหนดแน่นอนถึงวันเวลาการตายของทารกผู้วิมล ที่เรารู้คือพวกทารกถูกสังหาร
ภายในเวลา ๒ ปีนับแต่การปรากฏของดวงดาวแก่นักปราชญ์ทั้งสาม พระศาสนจักรถือว่าทารก
เหล่านี้เป็นมรณสักขี นักบุญออกัสตินกล่าวในบทเทศน์ของท่านว่าเด็กเหล่านี้เป็นหน่อแรกของ
พระศาสนจักรที่ถูกเบียดเบียน พวกเขาไม่เพียงแต่พลีชีพเพื่อพระคริสต์เท่านั้น แต่ยังสิ้นใจ
ในพระองค์ด้วย

พระศาสนจักรกำหนดให้มีการฉลองรำลึกถึงทารกผู้วิมลแต่เมื่อใดนั้นไม่มีหลักฐาน
แต่คงจะไม่เกินสิ้น ศตวรรษที่ ๔ และไม่ช้าไปกว่าปลายศตวรรษที่ ๕

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ธ.ค. 29, 2021 8:08 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒๙ ธันวาคม
นักบุญโทมัส เบ็คเก็ต
St. Thomas Becket

โทมัสเกิดเมื่อปี ๑๑๑๗ ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ ครอบครัวของท่านศรัทธา
ในศาสนา มารดาของโทมัสกลับใจเป็นคริสตชนเพราะตัวอย่างชีวิตของสามี
โทมัสได้รับการอบรมอย่างดี ท่านเรียนที่อารามนักพรตและต่อมาในโรงเรียน
ที่ลอนดอน เมื่อบิดามารดาเสียชีวิต โทมัสตัดสินใจเรียนกฎหมายพระศาสนจักร
ท่านประสบความสำเร็จและได้ทำงานเป็นเลขานุการของศาลในลอนดอน

หลังจากทำงานช่วงเวลาหนึ่ง โทมัสก็ตัดสินใจสละชีวิตที่เหลือเพื่อพระเจ้า ท่านเรียน
เตรียมเป็นพระสงฆ์ และที่สุด ได้รับศีลบวช คุณพ่อโทมัส เบ็คเก็ตมีชื่อเสียงในความ
ศักดิ์สิทธิ์และการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์จนเป็นที่สนพระทัยของกษัตริย์เฮนรีที่ ๒ ดังนั้น
ในปี ๑๑๕๗ โทมัสได้รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของพระองค์ ต่อมา สังฆราชแห่งแคนเทอร์เบอรี
เสียชีวิต กษัตริย์มีพระประสงค์ให้โทมัสได้รับเลือกสืบทอดตำแหน่ง โทมัสเตือนพระองค์ว่า
เรื่องนี้อาจเป็นสาเหตุสร้างปัญหาภายหน้า แต่ท่านก็ยอมรับหน้าที่ในที่สุด

ในฐานะสังฆราช โทมัสทำงานรับใช้ช่วยเหลือผู้คน ท่านทำพลีกรรมใช้โทษบาปและเอื้ออารี
อย่างยิ่งต่อคนจน ท่านให้ทั้งเวลาและเงินทองแก่พวกเขาแต่กษัตริย์เฮนรีเริ่มจะเข้ามาเกี่ยวข้อง
มากขึ้นกับกิจการภายในของพระศาสนจักรและที่สุดทำให้เกิดความเห็นไม่ตรงกัน โทมัสเดินทาง
ไปฝรั่งเศสพักหนึ่ง เมื่อกลับมา ท่านก็มีเหตุขัดแย้งกับกษัตริย์อีก อัศวินบางคนของกษัตริย์ถือว่า
ท่านทรยศและลงมือสังหารท่านในอาสนวิหาร กษัตริย์เฮ็นรีเสียพระทัย พระองค์ประกอบกิจใช้
โทษบาปที่หลุมฝังศพของท่าน ภายหลัง สุสานของโทมัสได้กลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียงสำหรับ
การจาริกแสวงบุญ

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 31, 2021 5:59 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ 30 ธันวาคม
นักบุญอานีเซีย มรณสักขีแห่งกรีซ
St. Anysius

ท่านเป็นสตรีมั่งคั่งของเมือง Salonika ใน Thessaly ท่านใช้ทรัพย์สินเงินทอง
ช่วยเหลือคนยากจน วันหนึ่ง ท่านถูกทหารจับตัวบนถนนและถูกลากไปยังสถาน
บูชายัญของคนต่างศาสนา ท่านขัดขืนจึงถูกทหารคนนั้นสังหารด้วยดาบ

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 31, 2021 6:02 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๓๑ ธันวาคม
นักบุญ พระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์
St. Sylvester, Pope

ซิลเวสเตอร์เกิดที่โรมประมาณปี ๒๕๐ เมื่อเยาว์วัย ท่านได้รับการอบรมเรื่องการปฏิบัติ
ศาสนาและศึกษาพระคัมภีร์จากพระสงฆ์คนหนึ่ง ซิลเวสเตอร์ชอบจัดหาที่พักให้ชาวคริสต์
ที่เดินทางมาโรม ท่านจะล้างเท้า เสิร์ฟอาหารและจัดแจงข้าวของที่จำเป็นให้พวกเขา

คริสตชนคนหนึ่งที่ซิลเวสเตอร์เป็นเจ้าบ้านรับรองคือทิโมธีจากเมืองอันติโอก ทิโมธีเทศน์
ประกาศความเชื่ออย่างเปิดเผย ชาวเมืองกลัวภัยจึงไม่กล้าให้ที่พำนักแต่ซิลเวสเตอร์
กลับถือว่าเป็นเกียรติ

ทิโมธีประกาศพระวรสารของพระเยซูคริสต์อย่างร้อนรนที่โรมเป็นเวลา ๑ ปีโดยพักอยู่กับ
ซิลเวสเตอร์ เมื่อทิโมธีเสียชีวิตโดยการเป็นมรณสักขี ซิสเวสเตอร์ช่วยในการฝังร่างเขา
แต่ท่านกลับถูกกล่าวหาว่าลักซ่อนสมบัติของทิโมธีและถูกผู้ปกครองเมืองสั่งจำคุก

ซิลเวสเตอร์ตอบข้อกล่าวหาว่า
"สิ่งที่ทิโมธีทิ้งไว้ให้ข้าพเจ้าคือมรดกความเชื่อและความกล้าหาญของเขา"

แล้ววันหนึ่งผู้ปกครองเมืองเสียชีวิตเพราะก้างปลาติดคอผู้ดูแลคุกปล่อยซิลเวสเตอร์
ให้เป็นอิสระ เรื่องราวความกล้าหาญของซิลเวสเตอร์ทราบไปถึงพระสันตะปาปา
Melchiades พระองค์จึงบวชให้เขาเป็นสังฆานุกร

การเบียดเบียนคริสตชนรุนแรงมากขึ้นในสมัยของจักรพรรดิ Diocletian คริสตชนจำนวนมาก
ถูกนำตัวมานมัสการเทวรูป มิฉะนั้นจะถูกสังหาร ซิลเวสเตอร์พระสงฆ์หนุ่ม ได้ให้กำลังใจผู้ยืนยัน
ซื่อสัตย์ในความเชื่อและเลือกจะตายเยี่ยงมรณสักขีช่วงเวลานี้พระเจ้าทรงช่วยซิลเวสเตอร์จาก
อันตรายถึงชีวิตหลายครั้ง

หลังจากพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ในปี ๓๑๔ ซิลเวสเตอร์ก็ได้รับเลือกเป็นสันตะปาปา
ท่านดูแลพระศาสนจักรจนถึงปี ๓๓๕ ท่านมีบทบาทสำคัญในสังคายนาเมืองนิเชียและเป็นผู้
ประกอบพิธีล้างบาปให้จักรพรรดิคอนสแตนติน อันนำไปสู่ยุครุ่งเรืองของพระศาสนจักร

มีเรื่องเล่าว่าก่อนกลับใจเป็นคริสตชน คอนสแตนตินติดเชื้อโรคเรื้อน แล้วคืนหนึ่ง นักบุญเปโตร
และเปาโลปรากฏแก่พระองค์บอกให้ไปพบพระสันตะปาปาซิลเวสเตอร์ ผู้จะรักษาพระองค์ให้หาย
ด้วยการล้างบาป เมื่อพระองค์ทำตาม ก็ทรงหายจากโรค

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 31, 2021 6:03 pm

:s002: :s002:
ตอบกลับโพส