เรื่องของนักเทศน์ชื่อดังที่ต้องวางตัวให้ดีอย่างไร

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ม.ค. 21, 2022 1:14 pm

Billy Graham Rule…

ถ้าจะลองลิสต์รายชื่อนักเทศน์ทั้งหลายที่มีชื่อเสียงทั้งในระดับโลกและประเทศ
ผมกล้าพูดได้เลยว่า มีผู้รับใช้พระเจ้าไม่น้อยที่ “จบไม่ดี” ถ้าไม่เสียหายเรื่องเงินทอง
ก็เรื่องชื่อเสียงอำนาจ แต่ปัญหาทางเพศนั้นมากที่สุด...

ผู้รับใช้คนล่าสุดที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่อง “การปกป้องความเชื่อ(Christian apologist)”
ชื่อ Ravi Zacharias เชื้อสายอินเดีย สัญชาติแคนาดา
ผู้ก่อตั้ง Ravi Zacharias International Ministries ในหลายประเทศ

Ravi Zacharias ได้เสียชีวิตในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 เมื่ออายุ 74 ปี ด้วยโรคมะเร็ง
ท่ามกลางคำสรรเสริญและสดุดีจากผู้คนทั่วโลก ถึงความเป็นแบบอย่างของการทุ่มเท
และความสัตย์ซื่อในการรับใช้พระเจ้าของเขา

พลันก็มีข่าวที่สร้างความแตกตื่นขึ้น นั่นคือข่าวการผิดประเวณีของเขากับบรรดาสาวๆ
หลายคน(Massage therapist)ในหลายปีที่ผ่านมา และเมื่อเรื่องนี้ได้ถูกสืบสวนค้นหา
ความจริงอย่างตรงไปตรงมา ความผิดทั้งหมดที่ถูกปิดซ่อนไว้มานานหลายปีก็ถูกเปิดเผย
ออกมาในที่สุด

ความจริงนี้ได้สร้างความผิดหวัง เสียใจ อกหัก ให้กับบรรดาคนที่เคยนิยมชมชอบเขา
จากคนที่เคยถูกชื่นชมในแบบอย่างของการรับใช้ กลับกลายเป็นคนลวงโลกในชั่วข้ามคืน

ถ้าจะกล่าวถึงผู้รับใช้อีกท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคของเรานี้ คงจะไม่มีใครเกิน
Billy Graham นักประกาศข่าวประเสริฐชาวอเมริกัน ซึ่งมีการประมาณว่า...มีคนไม่ต่ำกว่า
ร้อยล้าน คนที่เคยได้รับฟังข่าวประเสริฐผ่านการประกาศของเขาที่จัดขึ้นทั่วโลก

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยมีโอกาสไปร่วมงานประกาศใหญ่เช่นนี้ที่สิงค์โปร์เมื่อ 40 ปีที่แล้ว
เป็นความประทับใจที่ไม่รู้ลืม คำเทศนาของเขานั้น “เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยฤทธิ์อำนาจ
ของพระเจ้า” และเมื่อเขากล่าวเชิญชวนให้คนรับเชื่อ ผู้คนนับพันนับหมื่นก็ตอบสนองเดิน
ออกไปอย่างไม่ขาดสาย...

Billy Graham เกิดในปี 1918 และเสียชีวิตเมื่อปี 2018 เมื่ออายุครบ 100 ปีพอดี นับตั้งแต่
วันที่เขาเริ่มต้นรับใช้พระเจ้าในปี 1940 จวบจนถึงวันที่เขาจากไป ตลอด 78 ปี เขารับใช้
พระเจ้าด้วยความสัตย์ซื่อ และไม่เคยปรากฏเรื่องฉาวโฉ่หรือด่างพร้อยในชีวิตส่วนตัว หรือ
การรับใช้ของเขาเลย ไม่ว่าจะปัญหาเรื่องเงินทอง ชื่อเสียงอำนาจ หรือปัญหาทางเพศ ชีวิต
ของเขา “จบดี” ถวายเกียรติพระเจ้า

สิ่งที่ทุกคนอยากรู้....
อะไรคือสิ่งที่ปกป้องเขาจากความบาปเหล่านั้น?

“ข้อตกลง โมเดสโต (The Modesto Manifesto)”

ในปี 1948 ระหว่างการจัดงานประกาศใหญ่ ณ เมือง Modesto, California. ณ โรงแรมที่
เขาพัก Billy Graham พร้อมกับเพื่อนร่วมงานคนสำคัญซึ่งประกอบด้วย Bev Shaea,
Grady Wilson, Cliff Barrow ได้ปรึกษาหารือกันอย่างเคร่งเครียดถึงอนาคตการรับใช้
ของพวกเขา เรื่องที่คุยกันคือ... “จะทำอย่างไรให้การรับใช้ของพวกเขาจึงจะไม่ลงเอยด้วย
การทำบาป ในเรื่องเงินทอง ชื่อเสียงอำนาจ และความผิดบาปทางเพศ เหมือนอย่างผู้รับใช้
หลายๆคนในเวลานั้น

และนั่นคือ ที่มาของข้อตกลงร่วมกันของคนทั้งสี่ว่า... “พวกเขาจะเป็นผู้รับใช้ที่สัตย์ซื่อ(Integrity)
ระมัดระวังในการดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์และชอบธรรม ต่อพระพักตร์พระเจ้าในทุกๆด้าน
โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง...ปัญหาทางเพศ

Billy Graham จึงได้ตั้งกฎขึ้นมาว่า
“เขาจะไม่อยู่ตามลำพังกับผู้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยาของเขาอย่างเด็ดขาด”

นับตั้งแต่นั้นมา Billy Graham จึงไม่เดินทาง ไม่กินข้าว หรือ พบปะพูดคุยกับผู้หญิงคนไหน
เพียงลำพัง นอกจากภรรยาของเขา Ruth Graham คนเดียวเท่านั้น ซึ่งการกระทำเช่นนี้ได้
เป็นเกราะป้องกันเขาและเพื่อนๆที่จะไม่ล้มลงในความบาปทางเพศเหมือนผู้รับใช้พระเจ้าคนอื่นๆ

มีเรื่องเล่าว่า...ครั้งหนึ่ง นาง Hillary Clinton ได้ขอนัดทานอาหารเป็นการส่วนตัว เพื่อพูดปรึกษา
งานบางอย่าง แต่เขาตอบปฏิเสธ จน Hillary ต้องอธิบายว่า เขาและเธอจะทานอาหารในห้อง
ที่มีคนอื่นๆอยู่ด้วย ไม่ใช่เพียงลำพังสองต่อสอง

Billy Graham ไม่เพียงแต่เป็นคนที่มีสไตร์ในการเทศน์ที่เร้าใจและน่าฟังเท่านั้น แต่ยังเป็นคน
หนุ่มที่หน้าตาดี รูปร่างสูงใหญ่ สง่า ผมยักโศก และมีนัยน์ตาสีฟ้าที่สดใส พูดได้ว่าเป็นผู้ชายที่
เปี่ยมด้วยเสน่ห์ เขาเป็นคนที่เคยได้รับการ vote ว่า
“เป็นผู้รับใช้ที่ชาวอเมริกันชื่นชมรักใคร่มากที่สุด”

ด้วยข้อตกลงที่โมเดสโตที่เขาทำไว้กับเพื่อนๆ ได้ปกป้องพวกเขาให้พ้นจากความบาป
และชีวิตของทุกคน “จบดี” รวมทั้งองค์กรของเขาด้วย ซึ่งไม่เคยปรากฏชื่อเสียงในทาง
ไม่ดีเกี่ยวกับ เรื่องเงินๆทองๆ หรือ ความขัดแย้งกับคริสตจักรท้องถิ่นใดๆเลย

มีการเปิดเผยข้อมูลว่า เงินเดือนที่ Billy Graham ได้รับในปี 1950 นั้น จำนวนเพียงแค่
15,000 US$ ต่อปีเท่านั้น และได้ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 36,000 US$ ในปี 1978 (28ปีผ่านไป)
ซึ่งเป็นเงินจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับตำแหน่งหน้าที่และขนาดขององค์กรของเขา
ในความเป็นจริงแล้ว เขาสามารถที่จะตั้งเงินเดือนให้กับตนเองมากเท่าไรก็ได้
หากเขาต้องการที่จะทำเช่นนั้น

อะไรที่เราเรียนรู้จากชีวิตของ Billy Graham

1. กลุ่มคนที่จะช่วยค้ำจุนกัน ถ้าจะย้อนดูชีวิตของผู้รับใช้ที่ล้มลงในความบาป ส่วนใหญ่
มักจะเป็นผู้นำประเภท “ข้ามาคนเดียว” แม้จะมีทีมงานหรือคณะกรรมการร่วมทำงานด้วย
แต่คนเหล่านั้นก็เป็นเพียงแค่ผู้ร่วมงานเท่านั้น ไม่ได้เข้าส่วนชีวิตที่จะมารับผิดชอบอะไรต่อกัน
(Accountability) ไม่มีการเตือนสติ หรืออธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน ซึ่งผิดกับทีมงานของ
Billy Graham ที่ทุกคนต่างยึดมั่นและสัตย์ซื่อกับข้อตกลง “โมเดสโต”ที่ได้ทำไว้

2. ข้อตกลง “โมเดสโต (The Modesto Manifesto)” หรือบางคนเรียกว่า Billy Graham Rule นั้น
ได้กลายเป็นค่านิยมให้กับหนุ่มๆชาวอเมริกันเป็นจำนวนมากในยุคนั้นให้ทำตามในเรื่อง
“การสัตย์ซื่อต่อภรรยาของตน”

Mike Pence รองประธานาธิบดีสหรัฐในสมัย Donald Trump ก็เป็นผู้หนึ่งที่ยึดมั่นในหลักการนี้
เขาปฏิเสธที่จะทานข้าวตามลำพังกับผู้หญิงอื่นนอกเหนือจากภรรยาของเขาเอง Karen Pence

Dr. Henry Breidental (หมอเฮ็นรี่) มิชชั่นนารี OMF ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ยึดหลักการนี้อย่างเคร่งครัด
ซึ่งเมื่อก่อนผมและเพื่อนๆต่างเคยสงสัยว่า...ทำไมหมอจึงไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้เลย
ทำไมหมอจึงต้องซีเรียสมากขนาดนี้ด้วย

“เพราะว่าเป็นความมุ่งมาดปรารถนาและความหวังว่า...พระคริสต์จะได้รับเกียรติในร่างกาย
ของข้าพเจ้าเสมอ แม้จะโดยชีวิต หรือโดยความตาย”
(ฟิลิปปี1:20)

การ “ตายดี” เป็นพระคุณจากพระเจ้า...
แต่การ “จบดี” เป็นการตัดสินใจเลือกของเราเอง


ร่วมรับใช้พระคริสต์
นิติเชษฐ์ สดุดีวงศ์
ตอบกลับโพส