สารจากพระบิดา ถึงคุณพ่อมิเชล

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5980
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 18, 2024 9:24 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล
โรดริกย์ และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼

👉 ตอนที่ (1)👈

🔥--- คุณพ่อมิเชล อัครสาวกยุคสุดท้าย (1) ---🔥
📍คุณพ่อมิเชลเล่าเรื่องราวชีวิตของคุณพ่อ📍
คุณพ่อมิเชลเป็นน้องคนเล็กสุด จากเด็กทั้งหมด 21 คนในครอบครัว ตอนที่คุณพ่ออายุสามขวบ
พระเป็นเจ้าพูดคุยกับท่านโดยใช้ภาษาและบทสนทนาทั่วไปในการพูดคุยกับเด็กที่มีอายุเพียงแค่สามปี
คุณพ่อมิเชลจำได้ว่า ตอนนั้นกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในไร่สวนของครอบครัวที่อยู่บริเวณหลังบ้าน และได้พุด
คุยกับพระเป็นเจ้าว่า "ใครเป็นคนสร้างต้นไม้หรอ"

พระองค์ตอบ "เราเป็นคนสร้าง" หลังพระเป็นเจ้าตอบว่าเป็นพระองค์เอง เด็กน้อยมิเชลก็ถามคำถาม
มากมายที่เกี่ยวกับโลก จักรวาล และตัวเอง จนเข้าใจว่าสิ่งต่างๆ ที่สร้างขึ้นและมีอยู่เกิดขึ้นจากพระเป็นเจ้า
เช่นเดียวกับเด็กน้อยนามว่า ฟรานซิสโก ฟอร์จิโน ที่ได้เติบโตเป็นนักบุญปีโอ คุณพ่อมิเชลในวัยเด็กคิดว่า
ใครๆ ก็ได้ยินเสียงพูดของพระบิดา จนกระทั่งคุณพ่ออายุหกขวบ พระเป็นเจ้าสอนเรื่องความเชื่อของชาว
คาทอลิก และสอนเรื่องเทววิทยาทุกอย่างให้กับคุณพ่อ พระเป็นเจ้ายังบอกกับคุณพ่อมิเชลในวัยสามขวบ
อีกว่า เขาจะได้เป็นพระสงฆ์ ตอนที่คุณพ่อมิเชลอายุหกขวบ ท่านได้รู้จักบาปและปีศาจเป็นครั้งแรก ท่านเห็น
ปีศาจควบคุมการกระทำของคนผู้หนึ่ง มันชักจูงความคิด การกระทำและการเคลื่อนไหวของเขา ท่านยัง
สามารถเห็นว่าคนๆ นั้นมีจิตใจเย็นชาปิดกั้นความรัก ท่านเห็นปีศาจตนนั้นขยับมือ ขา และใบหน้าของคนผู้นั้น
ท่านถามพระเป็นเจ้าด้วยความตกใจว่า "นี้มันอะไรกัน"
พระเป็นเจ้าตอบท่านว่า "นั่นคือปีศาจที่ควบคุมผู้ที่ตกอยู่ในบาป"
"บาปคืออะไร"
"มนุษย์ทำบาปทุกครั้งเมื่อพวกเขากระทำสิ่งที่ขุ่นเคืองพระทัยเรา ขุ่นเคืองต่อพี่น้องชายหญิง ขุ่นเคือง
ความตั้งใจทของเรา และไม่เชื่อฟังคำสอนของเรา"

คุณพ่อจำครั้งแรกที่คุณพ่อตั้งใจทำบาปได้ ด้วยความที่คุณพ่อมีญาติผู้ใหญ่ทั้งหมด 55 คน ทำให้ท่าน
กลายเป็นลุงก่อนที่คุณพ่อจะเกิดเสียอีก ในปี ค.ศ. 2004 คุณพ่อนับได้ว่าท่านมีปู่ยาตายายรวม 250 คน
วันหนึ่งคุณพ่อกำลังเล่นกับหลานชื่อว่า คลาวด์ (Claud) คุณพ่อของท่านชื่อว่า อีมิล อุ้ม Claud ให้ยืนอยู่บน
เท้าแล้วเต้นพร้อมกันและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จนทำให้คุณพ่อในตอนเด็กเกิดความอิจฉา หลังจาก
เขาปล่อย Claud ลง คุณพ่อมิเชล บอก Claud ว่า "ออกไปเล่นข้างนอกกัน" บริเวณรอบๆ ที่ดินครอบครัวของ
คุณพ่อจะมีสายไฟขึงกับรั้วเอาไว้เพื่อกันไม่ให้หมูวิ่งหนีออกไป คุณพ่อก็ทำทีผลัก Claud มั่วๆ ให้ไปชนกับ
สายไฟ เสียง Claud ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเป็นระยะ ทำให้คุณแม่ของคุณพ่อได้ยินและมองออกมาด้าน
นอกบ้านแล้วตะโกนออกมาว่า "มิเชล นั่นลูกทำอะไร"
"เล่นกันครับ" คุณพ่อตะโกนตอบกลับ คุณพ่อเล่าว่า "ครั้งนี้เป็นการทำบาปครั้งที่สองของพ่อ พ่อโกหกแม่"
คุณแม่ของท่านพาคุณพ่อมิเชลเข้ามาในบ้าน แล้วลงโทษให้ท่านคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง
"ทำไมลูกทำแบบนั้น มิเชล" แม่ของท่านถาม
"เพราะ Claud ได้ยืนบนเท้าของพ่อ และพ่อก็เต้นกับเขา ผมอยากทำแบบนั้นบ้าง"
"มิเชลลูกไม่รู้หรือ พ่อเขารักลูกนะ หนูเป็นลูกของพ่อ และพ่อก็รักเหลนเหมือนกัน" จากนั้นคุณพ่อก็ร้องไห้
ออกมาเสียงดัง หลังจากที่ได้ฟังว่าพ่อของท่านรักเด็กคนอื่นนอกจากตัวคุณพ่อเอง มันทำให้คุณพ่อเหมือน
โดนตีด้วยคำพูด เป็นครั้งแรกที่คุณพ่อรู้ว่าความรักนั้นไม่ได้มีให้แค่คุณพ่อคนเดียว แต่มีให้สำหรับทุกคน
"ตอนนั้นพ่อยังเด็กเกินไปที่จะแก้บาป พ่อเลยต้องรอให้ถึงวันนั้น พ่อรู้สึกผิดต่อพระบิดา แต่พระองค์ทรง
ใจดี พระองค์ยังคงตรัสกับพ่อ"

ตอนคุณพ่ออายุประมาณ 4-5 ปี ท่านได้รถบรรทุกของเล่น เป็นรถที่ทำจากบล็อกไม้มีล้อสี่ล้อที่ทำ
จากฝาขวด และคุณพ่อค่อนข้างจะชอบมากเลยทีเดียว มีวันหนึ่งคุณพ่อกำลังเล่นกับรถของเล่นพร้อมกับ
ทำเสียงรถบรรทุกอยู่ที่หน้าบ้าน ท่านได้ยินเสียงของพระเป็นเจ้าตรัสกับท่าน "มิเชล"
"ครับ" คุณพ่อขานรับแต่ยังคงจดจ่ออยู่กับรถของเล่น
"ลูกจะได้ออกเดินทางในวันหนึ่ง"
"เดินทางหรือ อะไรคือเดินทางหรอครับ"
"ลูกจะได้ไปที่อื่น"
"แม่ไม่ได้ไปด้วยหรอครับ"
"ใช่แล้ว"
"โอ้" และท่านก็กลับมาทำเสียงรถบรรทุกต่อ สารฉบับนี้ทำให้คุณพ่อสงสัย แต่ครู่เดียวท่านก็เลิกใส่ใจ
แต่แล้วคำพูดของพระบิดาเกิดขึ้นกับพ่อจริงๆ ในปี ค.ศ. 2017 - 2019 คุณพ่อมิเชลได้เดินทางไปยัง
ประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา เพื่อไปเทศน์และเข้าเงียบ โดยที่คุณแม่ของท่านไม่ได้ไปด้วย

ตอนที่คุณพ่อมิเชลอายุ 6 ปี คุณพ่อได้ยินคนเรียกชื่ออีกครั้งตอนที่เล่นอยู่นอกบ้าน "มิเชล มิเชล"
แต่ท่านไม่รู้ว่าเสียงนั้นมาจากพระเจ้า คุณพ่อหันไปมองรอบๆ ตัวเอง แต่ไม่มีใครอยู่แถวนั้น พวกพี่สาว
ของคุณพ่อไม่อยู่บ้าน และพี่น้องคนอื่นๆ ก็ออกไปทำงานที่ไร่ คุณพ่อเลยเดินกลับเข้าบ้านไปหาคุณแม่
"แม่ครับ เรียกผมหรือเปล่า"
"เปล่าจ้ะ"
"มีคนเรียกผมด้วย"
"ไม่มีใครเรียกเลยจ้ะ ออกไปเล่นข้างนอกเถอะ"
คุณพ่อก็เลยเดินออกมา แต่ก็ได้ยินคนเรียกชื่อคุณพ่ออีกแล้ว "มิเชล มิเชล"
เสียงนั้นอยู่ใกล้ๆ คุณพ่อ แต่ก็ดูเหมือนว่าเสียงนี้มีคนเรียกมาจากที่ไกลๆ
คุณพ่อเลยเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกรอบ
"แม่ครับ แม่เรียกผมหรือเปล่า ผมได้ยินเสียงคนเรียกนะแม่"
"ไม่มีหรอก ออกไปเล่นเถอะ"
ในตอนที่คุณพ่อกำลังเล่นอยู่ข้างนอกบ้าน เสียงนั้นเรียกชื่อคุณพ่อมิเชลเป็นครั้งที่สาม คุณพ่อเดินกลับ
เข้ามาในบ้านอีกครั้ง คุณแม่ของท่านเลยบอกว่า "ถ้าหากลูกได้ยินเสียงเรียกอีก ลูกก็ตอบไปว่า ข้าแต่
พระเจ้าโปรดตรัสมาเถิด ข้ารับใช้ของพระองค์กำลังฟังอยู่"

ในเช้าวันอาทิตย์วันหนึ่ง สมาชิกครอบครัวของคุณพ่อมิเชลทุกคนไปร่วมพิธีมิสซา แต่พวกท่าน
ไม่ได้เดินทางไปพร้อมกัน และไม่มีรถขับ พวกท่านเดินทางบนหลังม้าเป็นระยะทาง 8 ไมล์ ด้วยเส้นทาง
ที่ขรุขระ วันนั้นพระวรสารบทแรกคือ ซามูเอล ฉบับที่ 1 บทที่ 3
"พระยาห์เวห์ตรัสเรียกอีกว่า 'ซามูเอล! ซามูเอลก็ลุกขึ้นไปหาเอลีถามว่า 'ท่านเรียกข้าพเจ้าหรือ
ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว' เอลีตอบว่า 'ลูกเอ๋ย พ่อไม่ได้เรียกลูก กลับไปนอนเถอะ' "
ตอนที่พระเป็นเจ้าเรียกชื่อเป็นครั้งที่สามในพระคัมภีร์ คุณพ่อได้ยินประโยคหนึ่งของประกาศกที่เป็นที่
รู้จักกันดีว่า "กลับไปนอนเถอะ ถ้ามีเสียงเรียกลูกอีกก็จงตอบว่า "ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตรัสมาเถิด ผู้รับใช้
ของพระองค์กำลังฟังอยู่" คำพูดของเอลีเหมือนกับคำพูดของแม่ บทอ่านพระวาจาดำเนินต่อไปว่า
"ซามูเอลเจริญวัยขึ้น พระยาห์เวห์ทรงสถิตอยู่กับเขา และทรงทำให้คำพูดทุกคำของซามูเอลเป็นความจริง"
(ซามูเอล ฉบับที่ 1 3:19) คุณพ่อนั่งนิ่งฟังด้วยความตกตะลึง

ตอนที่คุณพ่ออายุ 6 ปี พระเป็นเจ้าชักชวนคุณพ่อให้ฟังเสียงของพระองค์ผ่านทางพระวาจา
แทนการสนทนาด้วยเสียงกับคุณพ่อเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ตอนที่พระบิดายังคงใช้เสียงในการสนทนา เสียง
ของพระองค์แตกต่างจากเสียงที่คุณพ่อมิเชลได้ยินตอนอายุสามขวบ ในปีนั้นคุณพ่อได้รู้จักกับความจริง
มิติใหม่
💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5980
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 02, 2024 9:47 pm

🌼~ Why Fr. Michael Rodrigue? สารจากพระบิดา ถึง คุณพ่อมิเชล
โรดริกย์ และคำเตือนแห่งยุคสุดท้าย ~🌼
👉 ตอนที่ (2)👈
🔥--- คุณพ่อมิเชล อัครสาวกยุคสุดท้าย (2) ---🔥
          วันหนึ่งคุณพ่อมิเชลวิ่งไปหาคุณแม่ของท่านด้วยความกลัว "แม่ครับ ผมเจอตัวอะไรไม่รู้น่าเกลียด
น่ากลัว" อสูรกายสูงราว 15 ฟุต ปรากฏตัวอยู่ในสวนของครอบครัว อสูรกายตัวนั้นคือปีศาจ
"ไม่ต้องกลัว" คุณแม่ท่านกล่าว "เรามาสวดสายประคำกัน" ตอนนั้นคุณพ่อเห็นว่าการสวดสายประคำ
ทำให้อสูรกายตัวนั้นกลับสู่นรกดังเดิม
คุณพ่อเล่าต่อว่า "พ่อแม่ของพ่อเป็นคนใจบุญ แม่ของพ่อเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง มีความเป็นแม่ เอาใจใส่
และน่ารัก ส่วนพ่อของพ่อก็เป็นคนตลก"
ในปีที่ผ่านมาคุณพ่อของท่าน เออมิล ต้องทรมานจากการหายใจลำบาก แต่ว่าคุณพ่อมิเชลก็ไม่เคยเห็น
คุณพ่อของท่านต่อต้าน หรือต่อว่าพระองค์เพียงเพราะความเจ็บป่วย ปอดของเออมิลต้องการออกซิเจน
เป็นอย่างมาก และในตอนนั้นเครื่องช่วยหายใจก็ยังไม่มี ในช่วงหน้าหนาวของทุกๆ ปี ทุกคนในครอบครัว
จะเปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้เพราะลมเย็นๆ จะมีออกซิเจนเยอะ ทุกคนในครอบครัวทั้งหมด 23 คน
ยอมทนหนาวเพื่อให้เออมิลหายใจได้ดีขึ้น และในตอนกลางคืนคุณพ่อมักจะนอนมองน้ำค้างแข็งที่เกาะ
อยู่บนเพดาน
มีอยู่วันหนึ่งคุณพ่อมิเชลที่เข้าสู่วัยหนุ่มถามพระเจ้าว่า "ทำไมพ่อผมถึงต้องเป็นโรคนี้ด้วย"
พระเป็นเจ้าตอบกลับคุณพ่อว่า "ลูกจำที่เราพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับบาปกำเนิด และส่งผลให้ร่างกายเรา
เจ็บป่วยได้ไหม นี่แหละคือผลจากบาปกำเนิด"
"แต่ทำไมต้องเป็นโรคมะเร็งด้วย"
"ความอ่อนแอในร่างกายทำให้เขาพ่ายต่อโรคร้าย แต่นั้นไม่ใช่ความผิดของเขาหรอก"

ในวันที่เกิดพายุขนาดใหญ่ทำให้หิมะตกหนา 5 ฟุต เออมิลเริ่มจะหายใจไม่ไหวแล้ว ถนนทุกเส้นทาง
ใช้การไม่ได้ คุณแม่ของท่านกล่าวกับพี่ชายของคุณพ่อชื่อว่า ไกทั่น ให้พาบาทหลวงมาที่บ้าน ไกทั่นรีบ
วิ่งออกไป แล้วขับรถเลื่อนหิมะออกไปรับพระสงฆ์ที่สวมหมวกนิรภัยขนาดใหญ่นั่งเกาะเอวเขากลับมา
พระสงฆ์เดินเข้ามาในห้องนอนของเออมิลเพื่อมอบศีลเจิมคนไข้และสวดภาวนาให้เขา พระสงฆ์เดิน
ออกมาหาคุณแม่ของคุณพ่อแล้วหัวเราะออกมา
"ท่านหัวเราะทำไม" เธอถาม
"เขายังไม่ตายหรอก"
"ยังไม่ตายหรือ"
"เพราะว่าเขายังเล่าเรื่องตลกให้พ่อฟังอยู่เลย" เออมิลมีชีวิตอยู่ต่ออีกสองปี
จากเหตุการณ์นี้ พระบิดาทำให้คุณพ่อมิเชลเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงพลังของการเป็นคริสตชน

ยิ่งคุณพ่อมิเชลเติบโตขึ้น ท่านก็พบเจอกับปีศาจมากขึ้นเช่นกัน และทำให้บ้านของพวกท่านถูก
ปีศาจสิง คุณพ่อมิเชลในตอนเด็กรู้ว่าปีศาจคอยจับตามองคุณพ่อทุกครั้ง ทั้งตอนที่มันทำให้บ้านของ
พวกเขาสั่นไหว หรือทำเสียงน่ากลัวที่น่าขนลุก พ่อของท่านก็เคยเห็นปีศาจในบ้าน พี่ชายและพี่สาว
ก็เห็นเหมือนกัน พวกเขาเลยไปหาพระสงฆ์ประจำเขตชุมชนวัดแล้วพูดกับท่านว่า "เสกบ้านให้พวก
เราด้วย บ้านเรามีปีศาจสิงอยู่" พระสงฆ์องค์นั้นก็มาที่บ้านของคุณพ่อมิเชล แล้วเปิดประตูเข้าไปในบ้าน
ก่อนที่บาทหลวงจะเริ่มก่อบทภาวนา ปีศาจก็ส่งเสียงคำรามน่ากลัวออกมาทำให้พระสงฆ์วิ่งหนีไป
พวกท่านเลยไปขอร้องพระสังฆราชแทน ทันทีที่พระสังฆราชเปิดประตูบ้าน ปีศาจก็แผดเสียงร้องน่ากลัว
อีกครั้ง ทำให้พระสังฆราชองค์นั้นร้องลั่นออกมาว่า "พ่อทำไม่ได้! พ่อทำไม่ได้!"
ที่ดินของตระกูลโรดริกย์มีลำคลองพาดผ่าน ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินวันหนึ่ง ตอนนั้นคุณพ่อมิเชล
อายุ 7 ปี คุณแม่ของท่านบอกว่า "ไปให้อาหารเป็ดด้วย"
"แม่ครับ" คุณพ่อมิเชลพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "แม่อยากให้ผมออกไปให้อาหารเป็ดจริงๆ หรอครับ"
"ใช่ ลูกทำได้อยู่แล้ว"
"แม่ครับแต่ว่ามันจะมืดแล้ว เจ้าตัวนั้นมันจะจับตัวผม"
"ไม่ต้องกลัว" คุณแม่ของท่านปลอบ พี่ชายของคุณพ่อชื่อว่า เกอเวส เห็นว่าคุณพ่อกลัวเลยอาสาจะ
ไปด้วยกัน ตอนที่ทั้งสองกำลังเข้าไปใกล้ๆ บริเวณลำน้ำ ทันใดนั้นแผ่นดินตรงเท้าของคุณพ่อก็แยก
ออกจากกัน มีมือสัตว์ประหลาดไว้เล็บยาวสองข้างลักษณะเหมือนสัตว์ความยาวประมาณ 4 ฟุต โผล่
ออกมาจากรอยแยกนั้น แล้วจับขาคุณพ่อเอาไว้ พร้อมทั้งออกแรงดึงให้ท่านลงไปข้างล่าง เกอเวสจับมือ
ของคุณพ่อทั้งสองข้างแล้วดึงท่านให้หลุดออก แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ คุณพ่อมิเชล
คิดในใจว่า "ผมไม่รอดแล้ว" ท่านเลยนึกถึงพระแม่มารีย์แล้วร้องตะโกนออกมาว่า "พระแม่มารีย์ พระชนนี
แห่งพระเจ้า ได้โปรดช่วยลูกด้วย" ทันใดนั้นก็มีแรงดึงมหาศาลฉุดคุณพ่อขึ้นมาจากหลุมนั้น ทั้งสองจึง
รีบวิ่งกลับเข้าบ้าน
"ไม่ต้องให้พวกผมไปให้อาหารเป็ดอีกแล้วนะ" ทั้งสองตะโกนบอก
"เรามาสวดสายประคำกัน"

คุณแม่ของคุณพ่อมิเชลเป็นผู้มีความเชื่ออย่างแรงกล้าที่เชื่อมั่นในคำภาวนา ในชีวิตของเธอเคย
พบเจอเหตุการณ์อัศจรรย์มากมาย หลังจากคุณพ่อมิเชลเกิดไม่นาน เออมิล สามีของเธอประสบอุบัติเหตุ
ร้ายแรง เธอจึงสวดภาวนาต่อนักบุญแอนนา ยายของพระเยซูเจ้า พี่ชายสองคนของคุณพ่อมิเชลที่เสียชีวิต
ตอนอายุ 3 ปี และ 6 เดือน ได้ปรากฏตัวพร้อมแสงเรืองรอง แล้วกล่าว กับเธอว่า "ไม่ต้องห่วงครับแม่
พรุ่งนี้พ่อก็กลับบ้านแล้ว พ่อจะอยู่กับแม่จนมิเชลอายุ 10 ปี" แล้วก็เป็นเรื่องจริง สามีของเธอกลับบ้าน
ในวันถัดมา และมีชีวิตอยู่ต่ออีก 10 ปี เขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในอ้อมกอดของ
คุณพ่อมิเชลตอนอายุ 10 ปี

หลังจากคุณพ่อของท่านเสียชีวิต คนในครอบครัวได้หารือกัน พวกเขาต้องยอมรับความจริงแล้วว่า
ต้องหาทางกำจัดปีศาจที่อาศัยอยู่กับพวกเขามานานเกินพอแล้ว ครอบครัวของท่านไม่มีอำนาจที่จะไล่มัน
ออกไป จึงตัดสินใจเผาบ้านทิ้ง คุณพ่อมิเชลวัยสิบขวบบอกกับคนในครอบครัวว่า "ผมจะเป็นคนจุดไฟเผา
บ้านเอง" เพราะว่าปีศาจมุ่งเป้าที่จะทำร้ายตัวคุณพ่อ ทุกคนในครอบครัวช่วยกันขุดหลุมจำนวน 6 หลุม
ในพื้นบ้านของพวกเขา คุณพ่อเทน้ำมันลงไปในหลุมทั้ง 6 หลุม แล้วจุดไม้ขีดไฟโยนลงไปในหลุมแรก
พอไฟลุกก็มีลมแรงพัดเปลวไฟให้ดับไป คุณพ่อมิเชลจึงจุดไม้ขีดก้านที่สองแต่ก็ไม่ติดอีก คุณพ่อจึงภาวนา
ต่อพระแม่มารีย์ในการจุดไฟครั้งที่สามว่าขอให้ไฟเผาบ้านนี้ จากนั้นไฟในหลุมก็ลุกโชน คุณพ่อต้องวิ่งผ่าน
เปลวไฟออกมา เพื่อออกไปที่ประตูหน้าบ้านซึ่งมีหน้าต่างบานใหญ่สองบานขนาบข้าง ขณะที่คุณพ่อกำลัง
วิ่งออกมานั้น หน้าต่างทั้งสองบานนั้นก็แตกกระจาย และมีเปลวไฟยื่นออกมาจากหน้าต่างเหมือนมือเพื่อจะ
จับตัวคุณพ่อ คุณแม่ของคุณพ่อที่ยืนอยู่ข้างนอกเห็นดังนั้น จึงสวดภาวนาถึงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
ของพระเยซูคริสตเจ้า ทันใดนั้น มือไฟที่ยื่นออกมาก็หายกลับเข้าไปในบ้านที่ลุกไหม้

คุณพ่ออธิบายถึงเหตุการณ์นี้ว่า "ครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจร่วมกันในครอบครัวที่ดีที่สุด เพราะเรา
ได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกหมู่บ้านหนึ่ง แต่แล้วปีศาจก็หาวิธีอื่นเพื่อมาอยู่กับพ่ออยู่ดี คุณพ่อต้องทุกข์ทนกับ
ความเจ็บปวดใต้ผิวหนังอย่างมาก คุณแม่ก็พาพ่อไปหาหมอ แต่หมอบอกว่าเขายังไม่เคยเจอโรคแบบนี้
เกิดขึ้นกับเด็กอายุน้อยขนาดนี้ เพราะโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุที่ใกล้จะเสียชีวิตเท่านั้น หมอก็ให้ยาพ่อไปกิน
แต่อาการเจ็บปวดของพ่อก็ยังไม่ดีขึ้น พ่อรู้สึกว่าเหมือนมีแมงมุมตัวใหญ่อยู่ข้างในตัวพ่อ แต่เมื่อพ่อเอนตัว
อยู่บนเตาเผาไม้ พ่อรู้สึกดีขึ้น เมื่อพ่อรู้สึกว่าร่างกายพ่ออยู่ใกล้ความร้อนสิ่งที่อยู่ในตัวพ่อก็ตายไป แต่ตัว
พ่อกลับไม่รู้สึกร้อนเลย มันแปลกมาก ๆ คุณแม่ของพ่อก็งงเช่นกัน"
วันหนึ่งคุณแม่ของคุณพ่อเข้ามาหาตอนที่ท่านกำลังร้องไห้เพราะความเจ็บปวด
"ฟังแม่นะ พระเป็นเจ้าไม่ได้ทรงกระทำสิ่งนี้ มันไม่ปกติแล้ว"
"ผมรู้ครับแม่ แต่มันอยู่ในต้วผม ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร"

💞🌟💞 โปรดติดตามตอนต่อไปในวันพรุ่งนี้ 💞🌟💞
ตอบกลับโพส