เมื่ออิฉันหิวโหย

[Jezebel]

อิฉันเล่าให้น้องยศฟังแล้ว ก็คิดว่าน่าจะนำมาเล่าให้ท่านอื่นๆอ่านเป็นอุทาหรณ์ค่ะ ;D

เมื่ออยู่ครั้งนะคะ อิฉันไปร่วมมิสซาเย็นวันธรรมดาที่วัดเขมรค่ะ วัดเลิก อิฉันเกิดอาการกระหายน้ำขนาดหนัก หน้ามืดตาลาย คล้ายจะเป็นลม ตัวเย็น เหงื่อกาฬพาลแตกพลั่ก ด้วยอากาศร้อนเหลือหลาย

ออกจากวัดเขมรมา อิฉันก็หัวฟู เดินกระเซอะกระเซิง ตุหรัดตุเหร่มาตามทาง ผ่านมาหน้าวัดญวนค่ะ อิฉันเห็นแล้ว โอเอซิสแหล่งอาหารของอิฉัน เต๊นท์ค่ะ เต๊นท์สวดศพ ในมโนสำนึกของอิฉันก็บังเกิดความคิดประหนึ่งมีแสงเฮ้ากวงมาสาดส่องให้อิฉันเกิดปัญญา อิฉันบ่ายหน้าไปที่เต๊นท์นั้นทันที เพราะอิฉันคิดว่าต้องมีอะไรให้อิฉันกินและดื่มค่ะ

อิฉันก็สวมรอยทันที ทำตัวเป็นประหนึ่งญาติสนิทมิตรสหายมาแสดงความอาลัยต่อผู้ตาย ประชากรผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็สวดกันไป ข้าแต่พระบิดากี่บท อิฉันก็รับตามกี่บท วันทามารีอากี่บท อิฉันก็รับตามเท่านั้นบท สิริพึงมีกี่บท อิฉันก็สวดกับเขาด้วย

พอสวดจบประชากรผู้รับเลือกสรรทั้งหลายก็คอแห้งผาก ด้วยว่าออกแรงสวดกันสุดแรงเกิด ได้เวลาอาหารค่ะ เวลาที่อิฉันรอคอยมาถึงแล้ว อาหารที่นำมาเสิร์ฟนั้นเป็นเมนูที่เสิร์ฟเป็นประจำในงานศพค่ะ คือเกี้ยมอี๋น้ำ ส่วนเครื่องดื่มนั้นมีอยู่สองสามอย่าง อิฉันเลือกแฟนต้าน้ำแดง ดื่มอั้กๆๆๆๆๆๆจนเต็มคราบ สิ้นสุดความกระหายหิว

กินเสร็จประชากรทั้งหลายก็อิ่มหนำสำราญ ไม่เหลือเศษให้เก็บได้สิบสองตะกร้า และไม่ต้องเอาเลือดลูกแกะไปทาประตู เพราะไม่มีเทวทูตบินมาจัดการลูกหัวปี

อิฉันก็อิ่มหนำสำราญไปด้วย พอเสร็จสรรพอิฉันก็กระมิดกระเมี้ยนเล็กน้อย เพราะจะว่าเป็นญาติรึ อิฉันก็ไม่ใช่ จะว่าเป็นเพื่อนรึ อิฉันก็ไม่ใช่ แต่แอบดอดเข้าไปกินในงานเขาแล้ว ทำเป็นหันซ้ายย้ายขวา แล้วก็มุดๆๆๆจากไปค่ะ

และขอสารภาพบาปอื่นๆที่ได้หลงลืมไปในขณะนี้ด้วยค่า

ข้างต้นที่เล่ามานี่เรื่องจริงนะคะ ไม่ได้โม้ เรื่องจริงค่า

[mind]

คุณ JeZebel ญาติเค้าฝากมาเชคบิลล์ อะ >:(

[~@Little lamb@~]

จะทำเพระความหิว หรืออะไรก็ตาม
คิดว่าเจ้าของงานที่นอนอยู่คงจะไม่ว่าหรอกคะ
ก็คุณสวดให้เขาด้วยนิคะ

คราวหน้าก็ทุ่มเทอีกนิด
คิดเสียว่าเรามาสวดให้เขา ได้กินฟรีเป็นของแถม
อย่าคิดว่าเรามากินฟรี...ไอ้ที่สวดให้เป็นของแถม อิอิ



LL รู้จักพี่น้องคริสตชนหลายคนนะคะ
ที่มักไปร่วมสวดในงานศพของคนตัวไป เป็นประจำ
ส่วนใหญ่LL เจอที่เซนต์หลุยส์
พวกเขามาสวดให้เป็นประจำ ถ้าวันไหนมีศพ
คนดูแลจะโทรไปบอก พวกเขาก็จะมาสวดให้
เป็นการทำบุญครั้งสุดท้ายให้คนตายแหละคะ

ซึ่งเมื่อตอนที่คุณพ่อLL มีโอกาสไปนอนที่ศาลาเซนต์หลุยส์
คนไปร่วมงานเยอะแยะมากมาย แต่ศพของคนข้าง ๆ
ที่เป็นคริสต์คนเดียวในบ้าน บรรยากาศเงียบเหงาสุด ๆ
ก็ได้พวกเขาเหล่านี้แหละคะ ไปนั่งสวดที่ฝั่งเขา
ทำให้ตัวลูกเขาซาบซึ้งและมีความสุข
ที่อย่างน้อยก็มีคนมาสวดให้แม่ของเขา
ถึงจะไม่รู้จักกัน แต่ก็มีน้ำใจมาสวดให้


คุณJezebel คราวหน้าก็เอาใหม่นะคะ
สวดเป็นหลัก กินฟรีเป็นของแถมจ๊า~~~

[Buddy.]

If you just let them know that you're hungy... just be honest that you're hungry.... and be humble enough to ask for food..... It won't be a sin.. I guess.. :)

There was a case of a young boy who stole some food because he was hungry. ... Pope John Paul II said he didn't sin because it's the right for him to have some food.... :)

[Batholomew]

โห ทำไปได้..*heh

[-Rei-]

โถๆ ฟังดูน่ารักจนโกรธไม่ลง

อย่างน้อยก็ได้สวดให้เขาแล้วค่ะ เห็นด้วยกับ LL

[St.paul]

สวดให้เค้าแล้วก็เอาเป็นว่าพระให้ของตอบแทนละกัน

[อันตน]

เนียนมากขอบอก อิอิอิ

[St.paul]

เนียนมากขอบอก อิอิอิ

ก็เอาไปทำสิครับ

[Divine Mercy]

ขอบคุณพระเจ้าที่ให้คุณมีโอกาสได้สวดภาวนาอุทิศแด่ผู้ตาย

ส่วนของกิน ก็ถือซะว่าเป็น มานาจากสวรรค์นะครับ

[Joseph]

*heh555 น่ารักดี ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าเราไม่ทานส่วนใหญ่งานศพเขาก็จะเหลือทิ้ง เราทานครั้งนี้ทำให้งานศพผู้ตายได้บุญด้วย งานศพช่วยคนที่หิวได้บุญกว่าอย่างอื่นผู้ตายคงดีใจที่ได้ทำบุญให้น้อง พูดถึงศาลาที่นั่นพลมารีแถวสามเสนเขาก็ไปสวดให้ทุกคืนแหละครับทั้งๆ ที่ไม่ใช้ญาติ ถ้าเป็นงานพี่พี่ชอบนะที่งามศพแล้วมีคนอื่นมาสวดให้แล้วช่วยคนที่หิวๆ :) ได้อิ่มพี่ดีใจมาก งานศพคนยิ่งสวดให้เยอะยิ่งดี ;)

[Candle]

555+ พูดไม่ถูกค่ะ.......

ก็ถือว่ามาสวดให้เค้าด้วยเลยนะคะ

แล้วพระก็เลยให้ของตอบแทนเล็กๆน้อยๆ

^_______________^