ดาวดวงนั้น ที่จะส่องประกาย

[St.paul]

ชีวิตในเมืองจะมีเวลาสักกี่ครั้งกี่หนที่ได้แหงนหน้าเงยตา มองหาดวงดาวบนฟากฟ้า เพราะเมื่อมองขึ้นไปทีไรก็มีแต่แสงสีไฟนีออน ไฟหลากสีตามตึกสูงอาคารระฟ้า แต่ดวงดาวก็ยังเป็นทางออกของผู้ต้องการปลดปล่อยจินตนาการให้กว้างไกล ครั้งหนึ่งเคยนอนแหงนหน้าบนพื้นหญ้าและเฝ้าไถ่ถามเพื่อนสนิทชิดข้างกายว่า "ดาวดวงไหนคือดาวประจำตัวเพื่อน" เพื่อชี้ให้เห็นดาวที่ใช้แทนชื่อของเพื่อน เราไม่เคยเห็น แต่ก็ไม่เคยขัดคอเพื่อน เฝ้าแต่เออออตามไป เพราะความสุขใจย่อมดีกว่าการขัดใจกัน บัดนี้เพื่อนข้างกายผู้นั้น หลังจากแยกย้ายจากกันไปใช้วิถีชีวิตตามเส้นทางเดินของแต่ละคน วันหนึ่งก็มีข่าวว่า เพื่อจากไปชั่วนิอันดร วันนั้นจำได้ว่าเผลอตัวแหงนมองขึ้นบนฟากฟ้า ตามหาดวงดาวของเพื่อนผู้นั้น กลับเห็นใบหน้าของเพื่อนส่งยิ้มมาให้ ...
ดาว ยังเป็นเครื่องชี้นำทางแก่ผู้สัญจรและผู้พลัดหลง ดาวยังเป็นเครื่องชี้โชคชะตาให้กับอีกหลายคนที่เชื่อในศาสตร์แขนงนี้ ดาวก็ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความเด่นความดังของใครคนหนึ่งในโลกใบนี้ แต่วันนี้ดาวดวงที่เห็นกลับกลายเป็นดาวเทียมที่ทอดตัวลอยอยู่บนฟากฟ้า บดบังความสวยของดวงดาววาววับบนฟากฟ้า...

ชีวิตของคนหนุ่มสาวดูแล้วก็เป็นดั่งเช่นดวงดาว ที่ส่องสว่างอยู่บนฟากฟ้า เป็นดาวที่จะชี้นำทางสังคม ส่องนำอนาคตของประเทศชาติ และเป็นเครื่องชี้ชะตากรรมความเป็นไปของโลกใบนี้ วันนี้ชีวิตคนหนุ่มสาวผู้เป็นดั่งดาวสดใสกลับเลือนหาย และจืดจางลงทุกที เพราะถูกกระแสนิยมต่าง ๆ ทำให้พวกเขาเหล่านั้นกลายเป็นดั่งดาวเทียม ด้วยการถูกเร่งรัดให้ส่องแสงอย่างแรงและเร็วเกินควร ด้วยการส่งเสริมให้พวกเขาเข้าสู่วงโคจรแบบไม่ถูกไม่ควร ให้พวกเขาโลดแล่นเป็นดาวเด่นเพียงชั่วข้ามวัน แต่อีกเพียงหนึ่งคืน ดาวก็ดับอับแสงเป็นดาวตก เป็นดาวผีพุ่งได้เสียแล้ว...

ทุกคนมีดาวเด่นประจำตัว มีพระพรประจำกาย มีลักษณะของพระเจ้าอยู่ในตัว มีอาณาจักรของพระองค์ครอบครองไว้เหมือนกัน เพียงแต่เราจะใช้สิ่งเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ ถูกที่ถูกทางเช่นไร ...สิ่งที่มีอยู่ยิ่งใช้อย่างสร้างสรรค์ก็ยิ่งเพิ่ม ยิ่งให้ยิ่งงอกงาม ยิ่งส่องแสงออกมา ยิ่งเจิดจรัส

หนุ่มสาว เจ้ารู้หรือไม่ เจ้าคือ ดาวดวงนั้น ที่จะส่องประกายในยามฟ้ามืดมนไร้หนทางเยียวยาเช่นวันนี้ ค้นหาแสงแห่งตน ค้นหาแสงแห่งวัย และใช้มันเพื่อคนอื่น ๆ อย่าเป็นดาวเด่นเพื่อตัวเอง เพราะว่านั่นมันเป็นได้ก็แค่ดาวเทียม