ช่วยผมทีคับ(เร่งด่วน)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
natchanon

พฤหัสฯ. มิ.ย. 01, 2006 8:14 pm

คือผมเคยไป(บน)ต่อสิ่งศักสิทธิ์เมื่อ3ปีก่อนไว้อะคับว่า ขอให้ติด คณะหนึ่งในมหาลัยชื่อดัง คับ แต่ต่อมาผมได้เชื่อในพระเจ้า และจะต้องศึกษาต่อในอุดมศึกษา แต่ที่นี้ผมกลัวสิ่งที่ผมไปบนไว้ กลัวว่าสิ่งนั้นจะมาทำร้ายผมทีหลัง ถ้าเกิดผมติดขึ้นมาทำไงดีคับ และทำให้ผมขจัดความกลัวนั้นได้หมดซะที
ปล.ผมเชื่อในพระเจ้าขอให้พระองค์คุ้มครองแต่ยังกลัวอยู่
แก้ไขล่าสุดโดย natchanon เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 5:42 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
NKL
โพสต์: 189
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 01, 2005 7:32 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. มิ.ย. 01, 2006 8:35 pm

พระบิดาจะทรงคุ้มครองพวกเราจากศักดิเทพทั้งปวง

ไม่ต้องกลัวหรอก

สวดขอให้พระองค์ส่งเทวดามาคุ้มครองก็ได้นีนา
poloplow
โพสต์: 402
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 11, 2006 11:01 pm

พฤหัสฯ. มิ.ย. 01, 2006 8:43 pm

เรามีพระเจ้าพระองค์เดียว เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ ไม่มีอะไรต้องกลัวครับ
เพียงแต่เราเชื่อในพระองค์ แค่นี้ก็ไม่มีอะไรทำอันตรายเราได้แล้ว ;)
ถ้าคุณกลัวแสดงว่าคุณยังไม่ไว้วางใจในพระองค์พอ ดังนั้น ขอให้คิดให้ดีว่าเรา
ได้ไว้วางใจในพระองค์ อย่างสุดจิตสุดใจรึยัง

ไว้วางใจในพระองค์ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย poloplow เมื่อ พฤหัสฯ. มิ.ย. 01, 2006 8:48 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. มิ.ย. 01, 2006 8:56 pm

ให้ อธิษฐาน ตัดความสัมพันธ์ ถ้าน้องเป็นคริสเตียน ให้ไปบอกศิษยาภิบาล
อธิษฐานนำ ....แต่อธิษฐานเองก็ได้ :D
warlock
โพสต์: 642
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 3:37 am

พฤหัสฯ. มิ.ย. 01, 2006 9:22 pm

เข้าข่าย ชักดาบหรือปล่าวครับเนี่ย....
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 12:22 am

ขอให้ติดที่ไหนละคะ :)
เผื่อจะติดคนละที่กะที่บนไว้ คิ คิ


พี่ว่า...ให้ติดก่อนแล้วค่อยกลุ้มดีกว่านะจ๊ะ
เกิดติดอีกคณะ....ไอ้ที่เรานั่งกลุ่มวันนี้มันก็กลุ้มฟรีอ่ะจ๊ะ

ปล.
น้องไปบนไว้กับใครคะ (อยากรู้เฉย ๆ )

ปล. 2
ถึงไม่นับถือแล้ว แต่ไม่ต้องเรียกว่ามันก็ได้ :D
(ถ้ามันที่น้องพูดหมายถึงผลจากการบนก็โอเคคะ ผ่านไป)


มธ 6:25-34 ความวางใจในพระเจ้า

(25)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 12:26 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Divine Mercy

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 12:47 am

เรามีชีวิตใหม่ในพระเจ้า สิ่งที่ผ่านมาถือว่าล่วงเลยไปไม่มีผล

ทุกอย่างพระเจ้าจะทรงพิทักษ์คุ้มครอง หากเราเชื่อและวางใจในพระองค์อย่างแท้จริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Champkun
โพสต์: 570
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 10:35 pm
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 12:51 am

จงอย่ากังวลใจ จงอย่าได้กลัวเลย
เมื่อมีพระเจ้า ไม่ขาดสิ่งใดใด
จงอย่ากังวลใจ จงอย่าได้กลัวเลย
มีเพียงพระเจ้า เพียงพอ

อย่ากลัวไปเลยครับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เทวดา และปิศาจด้วย
ล้วนมาจากพระผู้เป็นเจ้าครับ สวดขอให้อารักขเทวดาคุ้มครองสิครับ

พระผู้เป็นเจ้าไม่ทอดทิ้งผู้วางใจในพระองค์หรอกครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 1:14 am

คส 2:14
พระองค์ทรงยกเลิกหนี้สินที่เรามีต่อบทบัญญัติซึ่งกล่าวหาเรา โดยทรงยกหนี้สินนั้นไปจากเรา และตรึงไว้กับไม้กางเขน พระองค์ยังทรงปลดอำนาจของเทพนิกรนายผู้ทรงเดชานุภาพ และเทพนิกรอำนาจลงเสีย และทรงบังคับให้เทพเหล่านั้นเข้าขบวนแห่เฉลิมฉลองชัยชนะของพระคริสตเจ้าต่อหน้ามหาชน


กท 4:1-11 บุตรของพระเจ้า
จะพูดอีกนัยหนึ่งว่า ตลอดเวลาที่ทายาทคนหนึ่งยังเป็นเด็ก เขาก็ไม่แตกต่างอะไรจากทาสเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นนายของทรัพย์สินทั้งหมด เขายังต้องถูกผู้ปกครองและผู้จัดการควบคุมดูแลจนกว่าจะถึงเวลาที่บิดากำหนดไว้ พวกเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อยังเป็นเด็ก เราก็เป็นทาสของบรรดาจิตที่ควบคุมโลกนี้อยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ พระเจ้าทรงส่งพระบุตรของพระองค์ให้มาบังเกิดจากหญิงผู้หนึ่ง เกิดมาอยู่ใต้ธรรมบัญญัติ เพื่อทรงไถ่ผู้ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ และทำให้เราได้เป็นบุตรบุญธรรม ข้อพิสูจน์ว่าท่านทั้งหลายเป็นบุตรก็คือพระเจ้าทรงส่งพระจิตของพระบุตรลงมาในดวงใจของเรา พระจิตผู้ตรัสด้วยเสียงอันดังว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 1:17 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 1:18 am

คุณบนอะไรไว้

ตกลงคุณยังไม่ติดใช่ไหม

ดังนั้นง่ายๆเลยคุณอธิษฐานตัดสัมพันธ์ซะ บอกเลยว่าขอบคุณแต่ไม่ต้องช่วยแล้ว และตอนนี้ขอรับพระเจ้าเป็นผู้ช่วยแต่เพียงผู้เดียว
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 1:20 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jezebel

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 5:41 am

Holy เขียน: คุณบนอะไรไว้

ตกลงคุณยังไม่ติดใช่ไหม

ดังนั้นง่ายๆเลยคุณอธิษฐานตัดสัมพันธ์ซะ บอกเลยว่าขอบคุณแต่ไม่ต้องช่วยแล้ว และตอนนี้ขอรับพระเจ้าเป็นผู้ช่วยแต่เพียงผู้เดียว

พี่โฮลี่คะ มาช่วยถามเพิ่มแทนน้องค่ะ

คือเข้าใจว่าน้องคงกลัวอย่างนี้นะคะ แม้อธิษฐานตัดความสัมพันธ์ แล้วถ้ายังสอบติดคณะดังกล่าว แล้วจะสูญเสียสันติสุข เพราะเหมือนกับว่าได้รับผลจากการไปบนในครั้งนั้น

สมมติ น้องไปขอว่าให้สอบติด คณะAในมหาวิทยาลัยZ อธิษฐานตัดความสัมพันธ์แล้วก็จริง แต่เวลาสอบก็ยังติดคณะนี้ ( คณะเดียวกับที่บนขอไว้ ) ครั้นจะไม่เลือก ก็เสียดาย เพราะเป็นคณะที่อยากเรียน แต่เลือกไป แล้วสอบติดขึ้น มันก็ดูเหมือนว่าได้รับผลจากการบนขอ

ถามน้องเจ้าของกระทู้ว่า พี่เข้าใจอย่างนี้ถูกไหมคะ

กลับมาที่พี่โฮลี่ เบลคิดว่าเขาก็คงกลัวแบบนี้น่ะค่ะ พี่โฮลี่ให้คำแนะนำน้องเขาหน่อย นอกจากนี้แล้ว รบกวนบอกน้องด้วยสิคะ ทางคาทอลิก อธิษฐานตัดความสัมพันธ์ และรับพระเจ้าเป็นผู้ช่วย"ผู้เดียว"นั้นทำอย่างไรคะ

ถามอย่างนี้แล้ว ก็เลยไปรบกวนพี่พีพีต่อ พี่พีพีคิดเห็นอย่างไรคะ กับประเด็นที่เบลถามเพิ่ม ( ถามเผื่อน้องเจ้าของกระทู้ ) และทางโปรเตสแตนท์ อธิษฐานตัดความสัมพันธ์ และรับพระเจ้าเป็นผู้ช่วย"ผู้เดียว"นี้ ทำอย่างไรคะ

เบลคิดว่าน่าจะเป็นผลดีกับหลายๆคนนะคะ ก็เลยขอเข้ามาถามเผื่อน้องเจ้าของกระทู้และคนอื่นๆสักนิดหนึ่งน่ะค่ะ แล้วเรื่องการอธิษฐานตัดสัมพันธ์นั้น อาจรบกวนพี่ทั้งสองด้วยบอกเป็นรูปธรรมนิดนึงค่ะ เพราะน้องจะได้เห็นภาพ และถ้ามีตัวอย่างจากประสบการณ์จริงประกอบด้วยคงดีค่ะ น้องจะได้เห็นภาพยิ่งขึ้น และสบายใจ เบลคิดว่าตอนนี้น้องเขาคงกังวลใจมากแน่เลยค่ะ

ขอบคุณพี่ทั้งสองแทนน้องด้วยนะคะ
แก้ไขล่าสุดโดย Jezebel เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 5:45 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 6:05 am

Nong_The Lolipop เขียน: คือผมเคยไป(บน)ต่อสิ่งศักสิทธิ์เมื่อ3ปีก่อนไว้อะคับว่า ขอให้ติด คณะหนึ่งในมหาลัยชื่อดัง คับ แต่ต่อมาผมได้เชื่อในพระเจ้า และจะต้องศึกษาต่อในอุดมศึกษา แต่ที่นี้ผมกลัวสิ่งที่ผมไปบนไว้ กลัวว่ามันจะมาทำร้ายผมทีหลัง ถ้าเกิดผมติดขึ้นมาทำไงดีคับ และทำให้ผมขจัดความกลัวนั้นได้หมดซะที
ปล.ผมเชื่อในพระเจ้าขอให้พระองค์คุ้มครองแต่ยังกลัวอยู่
"อย่ากลัวเลย เราอยู่กับเจ้า เราจะช่วยเจ้า ...." พระเจ้าตรัสกับประกาศกอิสยาห์ และตรัสกับคุณด้วย ขอให้มั่นใจ

ขอให้จำไว้ เมื่อคุณได้ต้อนรับ พระเยซูคริสตเจ้า เป็นพระผู้ช่วยให้รอด พระโลหิตของพระองค์ ได้ชำระคุณให้บริสุทธิ์ และเป็นผู้ชอบธรรม ณ เวลานี้ คุณเป็นของพระองค์ ( พระเยซูคริสต์ ) อำนาจอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์ เหนือคุณอีกแล้ว
เพราะว่า พระเยซูเจ้า เป็นจอมราชัน ซึ่ง ท่านเปาโล บันทึกว่า "ทุกหัวเข่าต้องก้มกราบ นมัสการพระองค์ และสรรเสริญว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า "


แต่สิ่งที่คุณต้อง ทำ คือ อธิษฐานตัดความสัมพันธ์ เพราะไม่ต้องการให้ ปฏิปักษ์ ของพระคริสต์ รบกวนจิตวิญญาณคุณภายหน้า ขอรับ ;)
TRUTH?

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 3:45 pm

ไม่ต้องสนใจเรื่องบนเลยครับ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีในโลก มีแต่พระเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ ถ้าเรารักพระองค์ ทุกสิ่งจะกลายเป็นดี

แต่สิ่งที่ทำไปแล้ว ก็อธิษฐานสารภาพกับพระองค์ แล้วเริ่มต้นชีวิตที่สัตย์ซื่อกับพระองค์ตลอดเวลา เหมือนซีโมนนักเล่นกลที่เคยอยากซื้อของประทานจากอัครสาวกเปโตร
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 3:46 pm

ก็ไม่เห็นมีปัญหานิคะ
เมื่อเราบอกเทพทางนั้นแล้วว่า ไม่ต้องช่วยแล้ว
เดี๋ยวจะให้พระเจ้าช่วย


ดังนั้น เมื่อติดขึ้นมา......ใครเป็นคนช่วยละคะ
ก็ต้องเปฦนพระเจ้าสิ เพราะเราบอกเขาแล้วว่าไม่ต้องช่วย
เราจะขอพระเจ้าแทน

เมื่อติด ก็ต้องเป็นเพราะพระเจ้าสิคะ
8)
natchanon

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 5:41 pm

~@Little lamb@~ เขียน: ขอให้ติดที่ไหนละคะ :)
เผื่อจะติดคนละที่กะที่บนไว้ คิ คิ


พี่ว่า...ให้ติดก่อนแล้วค่อยกลุ้มดีกว่านะจ๊ะ
เกิดติดอีกคณะ....ไอ้ที่เรานั่งกลุ่มวันนี้มันก็กลุ้มฟรีอ่ะจ๊ะ

ปล.
น้องไปบนไว้กับใครคะ (อยากรู้เฉย ๆ )

ปล. 2
ถึงไม่นับถือแล้ว แต่ไม่ต้องเรียกว่ามันก็ได้ :D
(ถ้ามันที่น้องพูดหมายถึงผลจากการบนก็โอเคคะ ผ่านไป)




ตอบผมบนไว้กับรุปเคารพคับ ไม่ขอเอ่ยชื่อครับ

ตอบ ปล.2 ขอโทษคับที่ใช้สรรพนามไม่ถูกต้องคับ เดียวจะแก้ให้ใหม่คับ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ

ขอบคุณสำหรับคำถามคับผม :)
แก้ไขล่าสุดโดย natchanon เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 5:42 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
natchanon

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 5:49 pm

Jezebel เขียน:
Holy เขียน: คุณบนอะไรไว้

ตกลงคุณยังไม่ติดใช่ไหม

ดังนั้นง่ายๆเลยคุณอธิษฐานตัดสัมพันธ์ซะ บอกเลยว่าขอบคุณแต่ไม่ต้องช่วยแล้ว และตอนนี้ขอรับพระเจ้าเป็นผู้ช่วยแต่เพียงผู้เดียว

พี่โฮลี่คะ มาช่วยถามเพิ่มแทนน้องค่ะ

คือเข้าใจว่าน้องคงกลัวอย่างนี้นะคะ แม้อธิษฐานตัดความสัมพันธ์ แล้วถ้ายังสอบติดคณะดังกล่าว แล้วจะสูญเสียสันติสุข เพราะเหมือนกับว่าได้รับผลจากการไปบนในครั้งนั้น

สมมติ น้องไปขอว่าให้สอบติด คณะAในมหาวิทยาลัยZ อธิษฐานตัดความสัมพันธ์แล้วก็จริง แต่เวลาสอบก็ยังติดคณะนี้ ( คณะเดียวกับที่บนขอไว้ ) ครั้นจะไม่เลือก ก็เสียดาย เพราะเป็นคณะที่อยากเรียน แต่เลือกไป แล้วสอบติดขึ้น มันก็ดูเหมือนว่าได้รับผลจากการบนขอ

ถามน้องเจ้าของกระทู้ว่า พี่เข้าใจอย่างนี้ถูกไหมคะ

กลับมาที่พี่โฮลี่ เบลคิดว่าเขาก็คงกลัวแบบนี้น่ะค่ะ พี่โฮลี่ให้คำแนะนำน้องเขาหน่อย นอกจากนี้แล้ว รบกวนบอกน้องด้วยสิคะ ทางคาทอลิก อธิษฐานตัดความสัมพันธ์ และรับพระเจ้าเป็นผู้ช่วย"ผู้เดียว"นั้นทำอย่างไรคะ

ถามอย่างนี้แล้ว ก็เลยไปรบกวนพี่พีพีต่อ พี่พีพีคิดเห็นอย่างไรคะ กับประเด็นที่เบลถามเพิ่ม ( ถามเผื่อน้องเจ้าของกระทู้ ) และทางโปรเตสแตนท์ อธิษฐานตัดความสัมพันธ์ และรับพระเจ้าเป็นผู้ช่วย"ผู้เดียว"นี้ ทำอย่างไรคะ

เบลคิดว่าน่าจะเป็นผลดีกับหลายๆคนนะคะ ก็เลยขอเข้ามาถามเผื่อน้องเจ้าของกระทู้และคนอื่นๆสักนิดหนึ่งน่ะค่ะ แล้วเรื่องการอธิษฐานตัดสัมพันธ์นั้น อาจรบกวนพี่ทั้งสองด้วยบอกเป็นรูปธรรมนิดนึงค่ะ เพราะน้องจะได้เห็นภาพ และถ้ามีตัวอย่างจากประสบการณ์จริงประกอบด้วยคงดีค่ะ น้องจะได้เห็นภาพยิ่งขึ้น และสบายใจ เบลคิดว่าตอนนี้น้องเขาคงกังวลใจมากแน่เลยค่ะ

ขอบคุณพี่ทั้งสองแทนน้องด้วยนะคะ

ใช่คับ คือผมยังกลัวความสัมพันธ์ดังกล่าวอยู่ครับ และก็ตอนนี้ยังไมได้เข้าอะไรทั้งนั้นคับ พี่โฮลี่ ครับผม เพียงแต่ความกังวลมันรุมเร้าผมมากๆเลยครับ และก็ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับผม ผมควรเชื่อพระองค์ให้มากกว่าที่เป้นอยู่ ขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยคับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 5:52 pm

ไม่ต้องกลัวครับเพราะเรามีพระบิดาที่ยิ่งใหญ่ ถ้าเค้ามาทวงจริงก็บอกเค้าไปว่า รู้มะผมลูกใคร? ;D
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 5:52 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
NKL
โพสต์: 189
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 01, 2005 7:32 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 8:55 pm

พระเจ้ามีนโยบายปลดหนี้ของมนุษย์จากพวกเทพต่างๆนะ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 10:20 pm

ไม่ต้องกังวลครับ พระเจ้าของเรานั้นยิ่งใหญ่ครับ
Jezebel

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 1:08 am

สวัสดีค่ะทุกคน

คือขอออกตัวก่อนนิดนึงนะคะ อย่าว่าดิฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ คือไม่ได้มีเจตนาจะกวนน้ำให้ขุ่น ไม่มีจริงๆค่ะ คือว่า

ดิฉันเชื่อว่าทุกคนมีความปรารถนาดีและอยากช่วยให้น้องเจ้าของกระทู้พ้นทุกข์ทางใจประการนี้ และเหตุผลที่ทุกคนยกมานั้นเป็นเหตุผลที่ดีและรับฟังได้ทั้งสิ้นค่ะ ดิฉันเคารพและเชื่อมั่นในความคิดเห็นและข้อเสนอทุกคน ไม่เพียงแค่นั้น ดิฉันยังคิดเห็นว่าเป็นวิธีการที่ดีในการแก้ปัญหานี้ค่ะ

คือ ตัดสัมพันธ์เดิม สร้างสัมพันธ์ใหม่ และผู้ที่สร้างสัมพันธ์ด้วยใหม่นั้นเป็นพระผู้ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร สรรพานุภาพ สูงสุด ซึ่งก็คือพระเจ้า ดังนั้นก็ไม่สมควรกลัวอันใดอีกต่อไป ว่าตามหลักการก็น่าจะเป็นเช่นนี้ และถ้าเป็นเช่นนี้ ปัญหาก็น่าจะจบลงด้วยดี ใช่ไหมคะ

แต่ดิฉันกำลังกังวลอยู่ว่า ในสถานการณ์จริงหรืออีกนัยหนึ่งคือในปัญหาจริงที่น้องประสบนั้น ปัญหาไม่ได้แก้ง่ายเพียงนี้ ทั้งนี้ก็เพราะว่า ต่อให้ตระหนักถึงหลักเหตุและผลดังที่ทุกคนได้เสนอมา แต่น้องก็ยังอดที่จะย้ำคิดย้ำทำ วิตกวิจารณ์ไม่ได้ว่า เอ๊ แล้วที่ฉันเอ็นท์ติดคณะAมหาวิทยาลัยZนี่ พระช่วย หรือเจ้าที่บนไว้ช่วย

ทีนี้บางคนอาจแย้งดิฉันว่า อ้าว ก็ผละเจ้ามาเชื่อพระแล้วทำไมยังจะสงสัยอีก ดิฉันขอเสนอความเห็นดังนี้ค่ะ คนเราแต่ละคนต่างกัน ต่างกันทั้งสภาพทางกายและสภาพทางจิต ถ้าสมมติมีคนหนึ่งที่กลัวความสูงต้องไปปีนหน้าผาสูงชัน แล้วเขากลัว ไม่กล้าปีน เพื่อนที่ไปด้วยกันกล้าปีน ก็อาจบอกคนที่กลัวความสูงคนนั้นว่า ไม่เห็นน่ากลัวเลย อุปกรณ์ที่ใช้ในการปีนเขานั้นแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย ปีนขึ้นไปถึงยอดกันเกือบหมดกลุ่มแล้ว มีเราสองคนนั้นรั้งท้ายอยู่ เชื่อเถอะค่ะว่า คนที่กลัวความสูงนั้นเข้าใจในหลักเหตุผล เชื่อมั่นในหลักวิทยาศาสตร์ เพราะความแข็งแรงและมีประสิทธิภาพของอุปกรณ์ก็แสดงให้เป็นที่ประจักษ์ผ่านการปีนของบุคคลคนแล้วคนเล่าว่า จะไม่เกิดอันตรายใดๆในการปีนเขา แต่เขาจะกล้าปีนโดยปราศจากความกังวล ( อาการกลัวความสูงหายเป็นปลิดทิ้ง ) เลยไหมคะ คงไม่เป็นเช่นนั้น ใช่ไหมคะ ก็คนกลัวนี่ ส่วนคนที่ไม่กลัว ก็อาจมองคนที่กลัวอย่างงงๆ กลัวอะไร ไม่เห็นน่ากลัวเลย

ฉันใดก็ฉันนั้น เช่นกันค่ะ การที่น้องได้ทราบว่า สิ่งที่น้องกลัวนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ดิฉันก็เชื่อเหลือเกินว่าน้องเข้าใจในเหตุและผล แต่มัน"สลัดความกลัวทิ้งไปไม่ได้" มันยัง"กลัว"และ"สงสัย"อยู่

ด้วยเหตุที่ว่าไม่มีใครอยากกลัว และถ้า"ไม่กลัว"ได้ด้วยตนเอง ก็คงไม่ต้องมาปรับทุกข์ที่นี่ เพราะจัดการไปได้ด้วยตนเองแล้ว

ถามว่าน้องเข้าใจไหมว่า เชื่อพระแล้วไม่ต้องกลัวเจ้า น้องคงตอบว่า เข้าใจ แต่มันอดกลัวไม่ได้ ฉะนั้นบนพื้นฐานของความเห็นของพี่น้องทั้งหลายที่ว่าเชื่อพระแล้วไม่ต้องกลัวเจ้า ดิฉันใคร่ขอให้น้องสวดภาวนาขอพระเจ้าทรงช่วย ขอพระจิตทรงนำ ทูลขอฤทธิ์กุศลความเชื่อและไว้ใจจากสวรรค์ ฤทธิ์กุศลน่าจะช่วยเปลี่ยนความเชื่อน้องได้แบบถึงรากถอนโคน และเพราะขึ้นชื่อว่าเป็น"ฤทธิ์กุศล" จึงเป็นสิ่งที่ซื้อตามท้องตลาดไม่ได้ ต้องสวดขอพระองค์ผู้ทรงเป็นแหล่งที่มาแห่งฤทธิ์กุศลนั้น พระเจ้าไงคะ

อนึ่ง อย่างไรก็ตาม ก็ขอรบกวนพี่น้องผู้รู้วิธีการตัดสัมพันธ์ช่วยแนะนำน้องด้วยค่ะว่าจะอธิษฐานตัดสัมพันธ์อย่างไร คือถ้าน้องได้ทราบวิธีการอันเป็นรูปธรรมจะได้ทำถูกด้วยความมั่นใจน่ะค่ะ

ที่ดิฉันดูเหมือนออกหน้าออกตาอย่างนี้ ก็เพราะเข้าใจหัวอกน้องเขาค่ะว่าน้องเขาทุกข์มากเพียงไหน คือพยายามมองปัญหาจากจุดยืนของน้องเขาเองเลยค่ะ ก็เลยเห็นใจเขามาก และเห็นได้ว่าน้องเขาทุกข์ใจเพียงใด "เข้าใจ"ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็อดที่จะ"กลัว"ไม่ได้น่ะค่ะ

ขอบคุณทุกคนแทนน้องด้วยนะคะ

แต่...น้องเจ้าของกระทู้คะ พี่เข้าใจถูกต้องไหมคะเนี่ย หรือพี่คิดไปเองเอ่ย
แก้ไขล่าสุดโดย Jezebel เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 9:15 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
natchanon

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 9:22 am

Jezebel เขียน: สวัสดีค่ะทุกคน

คือขอออกตัวก่อนนิดนึงนะคะ อย่าว่าดิฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ คือไม่ได้มีเจตนาจะกวนน้ำให้ขุ่น ไม่มีจริงๆค่ะ คือว่า

ดิฉันเชื่อว่าทุกคนมีความปรารถนาดีและอยากช่วยให้น้องเจ้าของกระทู้พ้นทุกข์ทางใจประการนี้ และเหตุผลที่ทุกคนยกมานั้นเป็นเหตุผลที่ดีและรับฟังได้ทั้งสิ้นค่ะ ดิฉันเคารพและเชื่อมั่นในความคิดเห็นและข้อเสนอทุกคน ไม่เพียงแค่นั้น ดิฉันยังคิดเห็นว่าเป็นวิธีการที่ดีในการแก้ปัญหานี้ค่ะ

คือ ตัดสัมพันธ์เดิม สร้างสัมพันธ์ใหม่ และผู้ที่สร้างสัมพันธ์ด้วยใหม่นั้นเป็นพระผู้ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร สรรพานุภาพ สูงสุด ซึ่งก็คือพระเจ้า ดังนั้นก็ไม่สมควรกลัวอันใดอีกต่อไป ว่าตามหลักการก็น่าจะเป็นเช่นนี้ และถ้าเป็นเช่นนี้ ปัญหาก็น่าจะจบลงด้วยดี ใช่ไหมคะ

แต่ดิฉันกำลังกังวลอยู่ว่า ในสถานการณ์จริงหรืออีกนัยหนึ่งคือในปัญหาจริงที่น้องประสบนั้น ปัญหาไม่ได้แก้ง่ายเพียงนี้ ทั้งนี้ก็เพราะว่า ต่อให้ตระหนักถึงหลักเหตุและผลดังที่ทุกคนได้เสนอมา แต่น้องก็ยังอดที่จะย้ำคิดย้ำทำ วิตกวิจารณ์ไม่ได้ว่า เอ๊ แล้วที่ฉันเอ็นท์ติดคณะAมหาวิทยาลัยZนี่ พระช่วย หรือเจ้าที่บนไว้ช่วย

ทีนี้บางคนอาจแย้งดิฉันว่า อ้าว ก็ผละเจ้ามาเชื่อพระแล้วทำไมยังจะสงสัยอีก ดิฉันขอเสนอความเห็นดังนี้ค่ะ คนเราแต่ละคนต่างกัน ต่างกันทั้งสภาพทางกายและสภาพทางจิต ถ้าสมมติมีคนหนึ่งที่กลัวความสูงต้องไปปีนหน้าผาสูงชัน แล้วเขากลัว ไม่กล้าปีน เพื่อนที่ไปด้วยกันกล้าปีน ก็อาจบอกคนที่กลัวความสูงคนนั้นว่า ไม่เห็นน่ากลัวเลย อุปกรณ์ที่ใช้ในการปีนเขานั้นแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย ปีนขึ้นไปถึงยอดกันเกือบหมดกลุ่มแล้ว มีเราสองคนนั้นรั้งท้ายอยู่ เชื่อเถอะค่ะว่า คนที่กลัวความสูงนั้นเข้าใจในหลักเหตุผล เชื่อมั่นในหลักวิทยาศาสตร์ เพราะความแข็งแรงและมีประสิทธิภาพของอุปกรณ์ก็แสดงให้เป็นที่ประจักษ์ผ่านการปีนของบุคคลคนแล้วคนเล่าว่า จะไม่เกิดอันตรายใดๆในการปีนเขา แต่เขาจะกล้าปีนโดยปราศจากความกังวล ( อาการกลัวความสูงหายเป็นปลิดทิ้ง ) เลยไหมคะ คงไม่เป็นเช่นนั้น ใช่ไหมคะ ก็คนกลัวนี่ ส่วนคนที่ไม่กลัว ก็อาจมองคนที่กลัวอย่างงงๆ กลัวอะไร ไม่เห็นน่ากลัวเลย

ฉันใดก็ฉันนั้น เช่นกันค่ะ การที่น้องได้ทราบว่า สิ่งที่น้องกลัวนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ดิฉันก็เชื่อเหลือเกินว่าน้องเข้าใจในเหตุและผล แต่มัน"สลัดความกลัวทิ้งไปไม่ได้" มันยัง"กลัว"และ"สงสัย"อยู่

ด้วยเหตุที่ว่าไม่มีใครอยากกลัว และถ้า"ไม่กลัว"ได้ด้วยตนเอง ก็คงไม่ต้องมาปรับทุกข์ที่นี่ เพราะจัดการไปได้ด้วยตนเองแล้ว

ถามว่าน้องเข้าใจไหมว่า เชื่อพระแล้วไม่ต้องกลัวเจ้า น้องคงตอบว่า เข้าใจ แต่มันอดกลัวไม่ได้ ฉะนั้นบนพื้นฐานของความเห็นของพี่น้องทั้งหลายที่ว่าเชื่อพระแล้วไม่ต้องกลัวเจ้า ดิฉันใคร่ขอให้น้องสวดภาวนาขอพระเจ้าทรงช่วย ขอพระจิตทรงนำ ทูลขอฤทธิ์กุศลความเชื่อและไว้ใจจากสวรรค์ ฤทธิ์กุศลน่าจะช่วยเปลี่ยนความเชื่อน้องได้แบบถึงรากถอนโคน และเพราะขึ้นชื่อว่าเป็น"ฤทธิ์กุศล" จึงเป็นสิ่งที่ซื้อตามท้องตลาดไม่ได้ ต้องสวดขอพระองค์ผู้ทรงเป็นแหล่งที่มาแห่งฤทธิ์กุศลนั้น พระเจ้าไงคะ

อนึ่ง อย่างไรก็ตาม ก็ขอรบกวนพี่น้องผู้รู้วิธีการตัดสัมพันธ์ช่วยแนะนำน้องด้วยค่ะว่าจะอธิษฐานตัดสัมพันธ์อย่างไร คือถ้าน้องได้ทราบวิธีการอันเป็นรูปธรรมจะได้ทำถูกด้วยความมั่นใจน่ะค่ะ

ที่ดิฉันดูเหมือนออกหน้าออกตาอย่างนี้ ก็เพราะเข้าใจหัวอกน้องเขาค่ะว่าน้องเขาทุกข์มากเพียงไหน คือพยายามมองปัญหาจากจุดยืนของน้องเขาเองเลยค่ะ ก็เลยเห็นใจเขามาก และเห็นได้ว่าน้องเขาทุกข์ใจเพียงใด "เข้าใจ"ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็อดที่จะ"กลัว"ไม่ได้น่ะค่ะ

ขอบคุณทุกคนแทนน้องด้วยนะคะ

แต่...น้องเจ้าของกระทู้คะ พี่เข้าใจถูกต้องไหมคะเนี่ย หรือพี่คิดไปเองเอ่ย
ก็อย่างที่พี่บอกว่าทั้งหมดแหละครับ มันยากที่เปลี่ยนความคิดนั้นได้ แต่ทุกคนก็ช่วยผม ให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้วนี้อาจจะเป็นบททดสอบของผมที่มีต่อพระเจ้าก็ได้ครับ
ขอพระเจ้าคุ้มครองทุกคนครับ อาเมน
แก้ไขล่าสุดโดย natchanon เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 9:22 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:22 am

อนึ่ง อย่างไรก็ตาม ก็ขอรบกวนพี่น้องผู้รู้วิธีการตัดสัมพันธ์ช่วยแนะนำน้องด้วยค่ะว่าจะอธิษฐานตัดสัมพันธ์อย่างไร คือถ้าน้องได้ทราบวิธีการอันเป็นรูปธรรมจะได้ทำถูกด้วยความมั่นใจน่ะค่ะ
The two-edged sword of the Holy Spirit can break the bondage that is not from God...

Just pray that the two-edged sword of the Holy Spirit, please break any bondage in me that is not from God.

This prayer is very powerful.... The bondage can be anything... anything that controls you and let your Spirit not flow.. such as any addiction (sex,drug,alcohol or even games), or the relationship that is not from God such as when you think you are in love with somebody's spouse.... Or even the bondage from your old religion...

http://www.hissheep.org/deliverance/bre ... pirit.html
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:22 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:29 am

Nong_The Lolipop เขียน:
Jezebel เขียน: สวัสดีค่ะทุกคน

คือขอออกตัวก่อนนิดนึงนะคะ อย่าว่าดิฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ คือไม่ได้มีเจตนาจะกวนน้ำให้ขุ่น ไม่มีจริงๆค่ะ คือว่า

ดิฉันเชื่อว่าทุกคนมีความปรารถนาดีและอยากช่วยให้น้องเจ้าของกระทู้พ้นทุกข์ทางใจประการนี้ และเหตุผลที่ทุกคนยกมานั้นเป็นเหตุผลที่ดีและรับฟังได้ทั้งสิ้นค่ะ ดิฉันเคารพและเชื่อมั่นในความคิดเห็นและข้อเสนอทุกคน ไม่เพียงแค่นั้น ดิฉันยังคิดเห็นว่าเป็นวิธีการที่ดีในการแก้ปัญหานี้ค่ะ

คือ ตัดสัมพันธ์เดิม สร้างสัมพันธ์ใหม่ และผู้ที่สร้างสัมพันธ์ด้วยใหม่นั้นเป็นพระผู้ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร สรรพานุภาพ สูงสุด ซึ่งก็คือพระเจ้า ดังนั้นก็ไม่สมควรกลัวอันใดอีกต่อไป ว่าตามหลักการก็น่าจะเป็นเช่นนี้ และถ้าเป็นเช่นนี้ ปัญหาก็น่าจะจบลงด้วยดี ใช่ไหมคะ

แต่ดิฉันกำลังกังวลอยู่ว่า ในสถานการณ์จริงหรืออีกนัยหนึ่งคือในปัญหาจริงที่น้องประสบนั้น ปัญหาไม่ได้แก้ง่ายเพียงนี้ ทั้งนี้ก็เพราะว่า ต่อให้ตระหนักถึงหลักเหตุและผลดังที่ทุกคนได้เสนอมา แต่น้องก็ยังอดที่จะย้ำคิดย้ำทำ วิตกวิจารณ์ไม่ได้ว่า เอ๊ แล้วที่ฉันเอ็นท์ติดคณะAมหาวิทยาลัยZนี่ พระช่วย หรือเจ้าที่บนไว้ช่วย

ทีนี้บางคนอาจแย้งดิฉันว่า อ้าว ก็ผละเจ้ามาเชื่อพระแล้วทำไมยังจะสงสัยอีก ดิฉันขอเสนอความเห็นดังนี้ค่ะ คนเราแต่ละคนต่างกัน ต่างกันทั้งสภาพทางกายและสภาพทางจิต ถ้าสมมติมีคนหนึ่งที่กลัวความสูงต้องไปปีนหน้าผาสูงชัน แล้วเขากลัว ไม่กล้าปีน เพื่อนที่ไปด้วยกันกล้าปีน ก็อาจบอกคนที่กลัวความสูงคนนั้นว่า ไม่เห็นน่ากลัวเลย อุปกรณ์ที่ใช้ในการปีนเขานั้นแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย ปีนขึ้นไปถึงยอดกันเกือบหมดกลุ่มแล้ว มีเราสองคนนั้นรั้งท้ายอยู่ เชื่อเถอะค่ะว่า คนที่กลัวความสูงนั้นเข้าใจในหลักเหตุผล เชื่อมั่นในหลักวิทยาศาสตร์ เพราะความแข็งแรงและมีประสิทธิภาพของอุปกรณ์ก็แสดงให้เป็นที่ประจักษ์ผ่านการปีนของบุคคลคนแล้วคนเล่าว่า จะไม่เกิดอันตรายใดๆในการปีนเขา แต่เขาจะกล้าปีนโดยปราศจากความกังวล ( อาการกลัวความสูงหายเป็นปลิดทิ้ง ) เลยไหมคะ คงไม่เป็นเช่นนั้น ใช่ไหมคะ ก็คนกลัวนี่ ส่วนคนที่ไม่กลัว ก็อาจมองคนที่กลัวอย่างงงๆ กลัวอะไร ไม่เห็นน่ากลัวเลย

ฉันใดก็ฉันนั้น เช่นกันค่ะ การที่น้องได้ทราบว่า สิ่งที่น้องกลัวนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ดิฉันก็เชื่อเหลือเกินว่าน้องเข้าใจในเหตุและผล แต่มัน"สลัดความกลัวทิ้งไปไม่ได้" มันยัง"กลัว"และ"สงสัย"อยู่

ด้วยเหตุที่ว่าไม่มีใครอยากกลัว และถ้า"ไม่กลัว"ได้ด้วยตนเอง ก็คงไม่ต้องมาปรับทุกข์ที่นี่ เพราะจัดการไปได้ด้วยตนเองแล้ว

ถามว่าน้องเข้าใจไหมว่า เชื่อพระแล้วไม่ต้องกลัวเจ้า น้องคงตอบว่า เข้าใจ แต่มันอดกลัวไม่ได้ ฉะนั้นบนพื้นฐานของความเห็นของพี่น้องทั้งหลายที่ว่าเชื่อพระแล้วไม่ต้องกลัวเจ้า ดิฉันใคร่ขอให้น้องสวดภาวนาขอพระเจ้าทรงช่วย ขอพระจิตทรงนำ ทูลขอฤทธิ์กุศลความเชื่อและไว้ใจจากสวรรค์ ฤทธิ์กุศลน่าจะช่วยเปลี่ยนความเชื่อน้องได้แบบถึงรากถอนโคน และเพราะขึ้นชื่อว่าเป็น"ฤทธิ์กุศล" จึงเป็นสิ่งที่ซื้อตามท้องตลาดไม่ได้ ต้องสวดขอพระองค์ผู้ทรงเป็นแหล่งที่มาแห่งฤทธิ์กุศลนั้น พระเจ้าไงคะ

อนึ่ง อย่างไรก็ตาม ก็ขอรบกวนพี่น้องผู้รู้วิธีการตัดสัมพันธ์ช่วยแนะนำน้องด้วยค่ะว่าจะอธิษฐานตัดสัมพันธ์อย่างไร คือถ้าน้องได้ทราบวิธีการอันเป็นรูปธรรมจะได้ทำถูกด้วยความมั่นใจน่ะค่ะ

ที่ดิฉันดูเหมือนออกหน้าออกตาอย่างนี้ ก็เพราะเข้าใจหัวอกน้องเขาค่ะว่าน้องเขาทุกข์มากเพียงไหน คือพยายามมองปัญหาจากจุดยืนของน้องเขาเองเลยค่ะ ก็เลยเห็นใจเขามาก และเห็นได้ว่าน้องเขาทุกข์ใจเพียงใด "เข้าใจ"ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็อดที่จะ"กลัว"ไม่ได้น่ะค่ะ

ขอบคุณทุกคนแทนน้องด้วยนะคะ

แต่...น้องเจ้าของกระทู้คะ พี่เข้าใจถูกต้องไหมคะเนี่ย หรือพี่คิดไปเองเอ่ย
ก็อย่างที่พี่บอกว่าทั้งหมดแหละครับ มันยากที่เปลี่ยนความคิดนั้นได้ แต่ทุกคนก็ช่วยผม ให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้วนี้อาจจะเป็นบททดสอบของผมที่มีต่อพระเจ้าก็ได้ครับ
ขอพระเจ้าคุ้มครองทุกคนครับ อาเมน


;D ;D คือเข้าใจในเหตุผลของเจ๊เบลนะคะ และของน้องเจ้าของกระทู้ด้วย คือเอาให้ชัวร์เลยคิดว่า ปรึกษาคุณพ่อ (พระสงฆ์) ดีมั๊ยคะ คุณพ่อคือ ผู้แทนพระองค์ คิดว่าถ้าคุณพ่อพูดให้น้อง การรันตีให้น้อง น้องน่าจะมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นกว่าที่พวกเราแนะนำก็ได้นะคะ เรื่องของจิตใจอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ยากหน่อย แต่เรื่องของความมั่นใจก็จะทำให้เรามีชัยไปกว่าครึ่งนะคะ ขอพระจิตเจ้านำทางน้องคะ
Jezebel

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:41 am

:+: seraphim :+: เขียน:
Nong_The Lolipop เขียน:
Jezebel เขียน: สวัสดีค่ะทุกคน

คือขอออกตัวก่อนนิดนึงนะคะ อย่าว่าดิฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ คือไม่ได้มีเจตนาจะกวนน้ำให้ขุ่น ไม่มีจริงๆค่ะ คือว่า

ดิฉันเชื่อว่าทุกคนมีความปรารถนาดีและอยากช่วยให้น้องเจ้าของกระทู้พ้นทุกข์ทางใจประการนี้ และเหตุผลที่ทุกคนยกมานั้นเป็นเหตุผลที่ดีและรับฟังได้ทั้งสิ้นค่ะ ดิฉันเคารพและเชื่อมั่นในความคิดเห็นและข้อเสนอทุกคน ไม่เพียงแค่นั้น ดิฉันยังคิดเห็นว่าเป็นวิธีการที่ดีในการแก้ปัญหานี้ค่ะ

คือ ตัดสัมพันธ์เดิม สร้างสัมพันธ์ใหม่ และผู้ที่สร้างสัมพันธ์ด้วยใหม่นั้นเป็นพระผู้ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร สรรพานุภาพ สูงสุด ซึ่งก็คือพระเจ้า ดังนั้นก็ไม่สมควรกลัวอันใดอีกต่อไป ว่าตามหลักการก็น่าจะเป็นเช่นนี้ และถ้าเป็นเช่นนี้ ปัญหาก็น่าจะจบลงด้วยดี ใช่ไหมคะ

แต่ดิฉันกำลังกังวลอยู่ว่า ในสถานการณ์จริงหรืออีกนัยหนึ่งคือในปัญหาจริงที่น้องประสบนั้น ปัญหาไม่ได้แก้ง่ายเพียงนี้ ทั้งนี้ก็เพราะว่า ต่อให้ตระหนักถึงหลักเหตุและผลดังที่ทุกคนได้เสนอมา แต่น้องก็ยังอดที่จะย้ำคิดย้ำทำ วิตกวิจารณ์ไม่ได้ว่า เอ๊ แล้วที่ฉันเอ็นท์ติดคณะAมหาวิทยาลัยZนี่ พระช่วย หรือเจ้าที่บนไว้ช่วย

ทีนี้บางคนอาจแย้งดิฉันว่า อ้าว ก็ผละเจ้ามาเชื่อพระแล้วทำไมยังจะสงสัยอีก ดิฉันขอเสนอความเห็นดังนี้ค่ะ คนเราแต่ละคนต่างกัน ต่างกันทั้งสภาพทางกายและสภาพทางจิต ถ้าสมมติมีคนหนึ่งที่กลัวความสูงต้องไปปีนหน้าผาสูงชัน แล้วเขากลัว ไม่กล้าปีน เพื่อนที่ไปด้วยกันกล้าปีน ก็อาจบอกคนที่กลัวความสูงคนนั้นว่า ไม่เห็นน่ากลัวเลย อุปกรณ์ที่ใช้ในการปีนเขานั้นแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย ปีนขึ้นไปถึงยอดกันเกือบหมดกลุ่มแล้ว มีเราสองคนนั้นรั้งท้ายอยู่ เชื่อเถอะค่ะว่า คนที่กลัวความสูงนั้นเข้าใจในหลักเหตุผล เชื่อมั่นในหลักวิทยาศาสตร์ เพราะความแข็งแรงและมีประสิทธิภาพของอุปกรณ์ก็แสดงให้เป็นที่ประจักษ์ผ่านการปีนของบุคคลคนแล้วคนเล่าว่า จะไม่เกิดอันตรายใดๆในการปีนเขา แต่เขาจะกล้าปีนโดยปราศจากความกังวล ( อาการกลัวความสูงหายเป็นปลิดทิ้ง ) เลยไหมคะ คงไม่เป็นเช่นนั้น ใช่ไหมคะ ก็คนกลัวนี่ ส่วนคนที่ไม่กลัว ก็อาจมองคนที่กลัวอย่างงงๆ กลัวอะไร ไม่เห็นน่ากลัวเลย

ฉันใดก็ฉันนั้น เช่นกันค่ะ การที่น้องได้ทราบว่า สิ่งที่น้องกลัวนั้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว ดิฉันก็เชื่อเหลือเกินว่าน้องเข้าใจในเหตุและผล แต่มัน"สลัดความกลัวทิ้งไปไม่ได้" มันยัง"กลัว"และ"สงสัย"อยู่

ด้วยเหตุที่ว่าไม่มีใครอยากกลัว และถ้า"ไม่กลัว"ได้ด้วยตนเอง ก็คงไม่ต้องมาปรับทุกข์ที่นี่ เพราะจัดการไปได้ด้วยตนเองแล้ว

ถามว่าน้องเข้าใจไหมว่า เชื่อพระแล้วไม่ต้องกลัวเจ้า น้องคงตอบว่า เข้าใจ แต่มันอดกลัวไม่ได้ ฉะนั้นบนพื้นฐานของความเห็นของพี่น้องทั้งหลายที่ว่าเชื่อพระแล้วไม่ต้องกลัวเจ้า ดิฉันใคร่ขอให้น้องสวดภาวนาขอพระเจ้าทรงช่วย ขอพระจิตทรงนำ ทูลขอฤทธิ์กุศลความเชื่อและไว้ใจจากสวรรค์ ฤทธิ์กุศลน่าจะช่วยเปลี่ยนความเชื่อน้องได้แบบถึงรากถอนโคน และเพราะขึ้นชื่อว่าเป็น"ฤทธิ์กุศล" จึงเป็นสิ่งที่ซื้อตามท้องตลาดไม่ได้ ต้องสวดขอพระองค์ผู้ทรงเป็นแหล่งที่มาแห่งฤทธิ์กุศลนั้น พระเจ้าไงคะ

อนึ่ง อย่างไรก็ตาม ก็ขอรบกวนพี่น้องผู้รู้วิธีการตัดสัมพันธ์ช่วยแนะนำน้องด้วยค่ะว่าจะอธิษฐานตัดสัมพันธ์อย่างไร คือถ้าน้องได้ทราบวิธีการอันเป็นรูปธรรมจะได้ทำถูกด้วยความมั่นใจน่ะค่ะ

ที่ดิฉันดูเหมือนออกหน้าออกตาอย่างนี้ ก็เพราะเข้าใจหัวอกน้องเขาค่ะว่าน้องเขาทุกข์มากเพียงไหน คือพยายามมองปัญหาจากจุดยืนของน้องเขาเองเลยค่ะ ก็เลยเห็นใจเขามาก และเห็นได้ว่าน้องเขาทุกข์ใจเพียงใด "เข้าใจ"ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ก็อดที่จะ"กลัว"ไม่ได้น่ะค่ะ

ขอบคุณทุกคนแทนน้องด้วยนะคะ

แต่...น้องเจ้าของกระทู้คะ พี่เข้าใจถูกต้องไหมคะเนี่ย หรือพี่คิดไปเองเอ่ย
ก็อย่างที่พี่บอกว่าทั้งหมดแหละครับ มันยากที่เปลี่ยนความคิดนั้นได้ แต่ทุกคนก็ช่วยผม ให้ผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้วนี้อาจจะเป็นบททดสอบของผมที่มีต่อพระเจ้าก็ได้ครับ
ขอพระเจ้าคุ้มครองทุกคนครับ อาเมน


;D ;D คือเข้าใจในเหตุผลของเจ๊เบลนะคะ และของน้องเจ้าของกระทู้ด้วย คือเอาให้ชัวร์เลยคิดว่า ปรึกษาคุณพ่อ (พระสงฆ์) ดีมั๊ยคะ คุณพ่อคือ ผู้แทนพระองค์ คิดว่าถ้าคุณพ่อพูดให้น้อง การรันตีให้น้อง น้องน่าจะมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นกว่าที่พวกเราแนะนำก็ได้นะคะ เรื่องของจิตใจอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ยากหน่อย แต่เรื่องของความมั่นใจก็จะทำให้เรามีชัยไปกว่าครึ่งนะคะ ขอพระจิตเจ้านำทางน้องคะ
น้องฟีมคะ พี่เชื่อว่า น้องเจ้าของกระทู้"เข้าใจและเชื่อ"ตั้งแต่พี่น้องในบอร์ดได้หนุนนำใจแล้วแหละค่ะ เพียงแต่ใจยังกลัวและสงสัยอยู่
ตอบกลับโพส