เครื่องแบบนักบวช
หนูสังเกตว่านักบวชชายหลายๆคน เวลาปกติที่ไม่ได้มีพิธีกรรม ก็ไม่ใส่ชุดนักบวช ไปไหนมาไหนก็ใส่ชุดสุภาพเหมือนฆราวาสชาย
ส่วนนักบวชหญิง จากแต่ก่อนที่ใส่ชุดยาวๆรุ่มร่าม ก็มาใส่ชุดที่กระชับ ทะมัดทะแมง หลายคณะในต่างประเทศเลิกใส่ชุดนักบวชหญิงแบบเดิมแล้ว (ไม่มีผ้าคลุม--เหมือนคณะธิดาพระราชินีมาเรียผู้นิรมล) แม้แต่ชีลับในหลายๆอารามในโลก ก็หันมาใส่ชุดนักบวชแบบใหม่ที่กระชับและทะมัดทะแมงกว่าเดิม ชีลับบางอารามถึงขนาดใส่เหมือนชุดฆราวาสเลยค่ะ
หนูว่าพี่ๆบางคนอาจรับไม่ได้ที่จะเห็นซิสเตอร์คาร์เมไลท์หรือกาปูชินใส่ชุดนักบวชแบบใหม่ หรือหันไปใส่ชุดแบบฆราวาส แต่บางคนก็อาจบอกว่า ดีออก เข้าถึงผู้คนดี ทำงานก็สะดวก ทะมัดทะแมง ความเป็นนักบวชอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่เสื้อผ้าภายนอก หนูว่าก็มีเหตุผลดีเหมือนกันนะคะ ยิ่งถ้าเป็นประเทศเขตร้อน มาใส่ชุดรุ่มร่าม ร้อนแย่เลยนะคะ
หนูอยากถามความเห็นพี่ๆหน่อยน่ะค่ะ พี่ๆคิดเห็นกันอย่างไร รับกันได้หรือไม่ได้อย่างไร ลองอภิปรายกันหน่อยดีไหมคะ
ส่วนนักบวชหญิง จากแต่ก่อนที่ใส่ชุดยาวๆรุ่มร่าม ก็มาใส่ชุดที่กระชับ ทะมัดทะแมง หลายคณะในต่างประเทศเลิกใส่ชุดนักบวชหญิงแบบเดิมแล้ว (ไม่มีผ้าคลุม--เหมือนคณะธิดาพระราชินีมาเรียผู้นิรมล) แม้แต่ชีลับในหลายๆอารามในโลก ก็หันมาใส่ชุดนักบวชแบบใหม่ที่กระชับและทะมัดทะแมงกว่าเดิม ชีลับบางอารามถึงขนาดใส่เหมือนชุดฆราวาสเลยค่ะ
หนูว่าพี่ๆบางคนอาจรับไม่ได้ที่จะเห็นซิสเตอร์คาร์เมไลท์หรือกาปูชินใส่ชุดนักบวชแบบใหม่ หรือหันไปใส่ชุดแบบฆราวาส แต่บางคนก็อาจบอกว่า ดีออก เข้าถึงผู้คนดี ทำงานก็สะดวก ทะมัดทะแมง ความเป็นนักบวชอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่เสื้อผ้าภายนอก หนูว่าก็มีเหตุผลดีเหมือนกันนะคะ ยิ่งถ้าเป็นประเทศเขตร้อน มาใส่ชุดรุ่มร่าม ร้อนแย่เลยนะคะ
หนูอยากถามความเห็นพี่ๆหน่อยน่ะค่ะ พี่ๆคิดเห็นกันอย่างไร รับกันได้หรือไม่ได้อย่างไร ลองอภิปรายกันหน่อยดีไหมคะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมว่า ทำแบบพระสงฆ์อ่ะครับดีแล้ว
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
เรื่องเครื่องแบบนักบวชบางทีเราก็ไม่ควรจำกัดว่าต้องตามกฎทุกอย่างนะคะ เพราะบางคณะอย่างเช่น คณะศรีชุมพาบาล ต้องทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้หญิง แล้วต้องมาแต่งชุดซิสเตอร์เข้าไปในที่ล่อแหลมต่างๆ คงไม่เหมาะเป็นแน่ คิดว่า อย่าไปคิดมาก หรือ เรื่องมากกับเรื่องเครื่องแบบกันเลย ดูที่ความเสียสละที่ท่านมีกันจะดีกว่านะคะ
ก็จริงอย่างว่านะ บางคณะถ้าทำงานกับโสเภณีแล้วใส่ชุดซิสเตอร์เข้าไป คนอื่นไม่รู้จะเป็นที่สะดุด:+: seraphim :+: เขียน: เรื่องเครื่องแบบนักบวชบางทีเราก็ไม่ควรจำกัดว่าต้องตามกฎทุกอย่างนะคะ เพราะบางคณะอย่างเช่น คณะศรีชุมพาบาล ต้องทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้หญิง แล้วต้องมาแต่งชุดซิสเตอร์เข้าไปในที่ล่อแหลมต่างๆ คงไม่เหมาะเป็นแน่ คิดว่า อย่าไปคิดมาก หรือ เรื่องมากกับเรื่องเครื่องแบบกันเลย ดูที่ความเสียสละที่ท่านมีกันจะดีกว่านะคะ
ส่วนคณะไหนที่เน้นภาวนาอยู่แต่อาราม ก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเปลียน ดูเจตนารมณ์กันดีกว่า
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
ถามกลับนิดนึงคะ ซิสเตอร์คาร์เมไลท์หรือกาปูชินใส่ชุดนักบวชแบบใหม่ หรือหันไปใส่ชุดแบบฆราวาส ที่เมืองไทยหรือเปล่าคะ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
หนูถามต่อว่า
1.ถ้าเกิดพวกซิสเตอร์ แต่งเครื่องแบบไทยๆ เป็นชุดไทยโบราณ ที่มีสะไบ อะไรแบบนี้ พวกพี่ๆคิดอย่างไรฮะ
2.ชุดของบาทหลวงในประเทศไทย มีกี่สี และกี่แบบฮะ
3.เจ๊ฟีม บาทหลวงของคณะพระมหาไถ่ ใช้สายประคำที่ห้อยเอว สวดไหมฮะ
1.ถ้าเกิดพวกซิสเตอร์ แต่งเครื่องแบบไทยๆ เป็นชุดไทยโบราณ ที่มีสะไบ อะไรแบบนี้ พวกพี่ๆคิดอย่างไรฮะ
2.ชุดของบาทหลวงในประเทศไทย มีกี่สี และกี่แบบฮะ
3.เจ๊ฟีม บาทหลวงของคณะพระมหาไถ่ ใช้สายประคำที่ห้อยเอว สวดไหมฮะ
พี่ชอบซินเตอร์คณะของ แม่ชีเทเรซ่า แห่ง กัลกัตตา ซึ่งเป็นชุดเครื่องแต่กายของสาวอินเดียอยู่แล้ว เป็นชุดของคนจน แต่ก็เข้ากับคณะนี่ได้พอดี มีผ้าคลุมศีรษะด้วย
แต่เครื่องแต่งกายไทย ไม่มีผ้าคลุมศีรษะ พี่ไม่เห็นด้วย ถึงเมืองไทยจะเป็นเมืองร้อนถ้ามีคณะในเมืองไทยก็ควรมีผ้าคลุมศีรษะที่เป็นผ้าบางๆ แบบอินเดียก็ได้ เพราะเมืองร้อนเหมือนกัน
เครื่องแบบซิสเตอร์เหมือนชุดเจ้าสาวนะครับ ควรมีผ้าคลุ่ม ยิ่งแบบแขกมากๆ ยิ่งดี
"แต่ผู้หญิงที่อธิษฐานหรือเผยพระวจนะถ้าไม่มีผ้าคลุมศีรษะก็ทำความอัปยศแก่ศีรษะเพราะเหมือนกับว่านางได้โกนผมเสียแล้ว.. " 1 โครินธ์ 11:5
"ถ้าผู้หญิงจะไม่คลุมศีรษะก็ควรจะโกนผมเสียแต่ถ้าการที่ผู้หญิงจะตัดผมหรือโกนผมนั้นเป็นสิ่งที่น่าอับอายจงเอาผ้าคลุมศีรษะเสีย.." 1 โครินธ์ 11:6
ก่อนวาติกันที่ 2 ผู้หญิงไม่วาฆรวาสหรือซิสเตอร์ จะต้องคลุมศีรษะเหมือนกันหมด แต่พอวาติกันที่ 2 ตรงนี้ก็หายไป พี่ไม่เห็นด้วยเลยเพราะมันขัดกับพระวาจาของพระเจ้า ใครจะตีความยังไงก็ชั่งแต่พี่เชื่อว่า อะไรที่พระเจ้ากำหนดมนุษย์ไม่มีสิทธิ์ไปยกเลิก
"แต่ถ้าผู้ใดจะโต้แย้งเราและคริสตจักรของพระเจ้าไม่รับธรรมเนียมอย่างที่โต้แย้งนั้น.. " 1 โครินธ์ 11:16
แต่เครื่องแต่งกายไทย ไม่มีผ้าคลุมศีรษะ พี่ไม่เห็นด้วย ถึงเมืองไทยจะเป็นเมืองร้อนถ้ามีคณะในเมืองไทยก็ควรมีผ้าคลุมศีรษะที่เป็นผ้าบางๆ แบบอินเดียก็ได้ เพราะเมืองร้อนเหมือนกัน
เครื่องแบบซิสเตอร์เหมือนชุดเจ้าสาวนะครับ ควรมีผ้าคลุ่ม ยิ่งแบบแขกมากๆ ยิ่งดี
"แต่ผู้หญิงที่อธิษฐานหรือเผยพระวจนะถ้าไม่มีผ้าคลุมศีรษะก็ทำความอัปยศแก่ศีรษะเพราะเหมือนกับว่านางได้โกนผมเสียแล้ว.. " 1 โครินธ์ 11:5
"ถ้าผู้หญิงจะไม่คลุมศีรษะก็ควรจะโกนผมเสียแต่ถ้าการที่ผู้หญิงจะตัดผมหรือโกนผมนั้นเป็นสิ่งที่น่าอับอายจงเอาผ้าคลุมศีรษะเสีย.." 1 โครินธ์ 11:6
ก่อนวาติกันที่ 2 ผู้หญิงไม่วาฆรวาสหรือซิสเตอร์ จะต้องคลุมศีรษะเหมือนกันหมด แต่พอวาติกันที่ 2 ตรงนี้ก็หายไป พี่ไม่เห็นด้วยเลยเพราะมันขัดกับพระวาจาของพระเจ้า ใครจะตีความยังไงก็ชั่งแต่พี่เชื่อว่า อะไรที่พระเจ้ากำหนดมนุษย์ไม่มีสิทธิ์ไปยกเลิก
"แต่ถ้าผู้ใดจะโต้แย้งเราและคริสตจักรของพระเจ้าไม่รับธรรมเนียมอย่างที่โต้แย้งนั้น.. " 1 โครินธ์ 11:16
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ย. 28, 2006 8:50 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:
3.เจ๊ฟีม บาทหลวงของคณะพระมหาไถ่ ใช้สายประคำที่ห้อยเอว สวดไหมฮะ
สวดจ้า
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
สวดตอนไหนล่ะ แล้วสวดทั้ง 150 เม็ดเลยเหรอ:+: seraphim :+: เขียน:
สวดจ้า
หนูถามพ่อแฮรี่ทั่นบอกว่า ไว้ตีเด็กโง่อย่างหนูแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:สวดตอนไหนล่ะ แล้วสวดทั้ง 150 เม็ดเลยเหรอ:+: seraphim :+: เขียน:
สวดจ้า
หนูถามพ่อแฮรี่ทั่นบอกว่า ไว้ตีเด็กโง่อย่างหนูแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เห็นพ่อจั่วเอามานับ (สวด) เวลาที่ชาวบ้านเขาสวดอ่ะ แต่ไม่ทราบว่า สวดครบหรือเปล่า ที่พ่อแฮรี่ตอบนั้น น่าจะไว้สำหรับน้องเจี๊ยบแต่ผู้เดียวอ่ะจ๊ะ
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
:+: seraphim :+: เขียน: เรื่องเครื่องแบบนักบวชบางทีเราก็ไม่ควรจำกัดว่าต้องตามกฎทุกอย่างนะคะ เพราะบางคณะอย่างเช่น คณะศรีชุมพาบาล ต้องทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้หญิง แล้วต้องมาแต่งชุดซิสเตอร์เข้าไปในที่ล่อแหลมต่างๆ คงไม่เหมาะเป็นแน่ คิดว่า อย่าไปคิดมาก หรือ เรื่องมากกับเรื่องเครื่องแบบกันเลย ดูที่ความเสียสละที่ท่านมีกันจะดีกว่านะคะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งค๊าบบบบบบบบ ต้องพิจารณากันตามจิตตารมณ์
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ถ้าสวดครบ ก็มือหงิกมั้ง พ่อจั่วอาจจะสวดแค่ 1 ทด อิอิ:+: seraphim :+: เขียน:
เห็นพ่อจั่วเอามานับ (สวด) เวลาที่ชาวบ้านเขาสวดอ่ะ แต่ไม่ทราบว่า สวดครบหรือเปล่า ที่พ่อแฮรี่ตอบนั้น น่าจะไว้สำหรับน้องเจี๊ยบแต่ผู้เดียวอ่ะจ๊ะ
งั้นหนูไม่ปลื้มพ่อแฮรี่นะ จบ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:ถ้าสวดครบ ก็มือหงิกมั้ง พ่อจั่วอาจจะสวดแค่ 1 ทด อิอิ:+: seraphim :+: เขียน:
เห็นพ่อจั่วเอามานับ (สวด) เวลาที่ชาวบ้านเขาสวดอ่ะ แต่ไม่ทราบว่า สวดครบหรือเปล่า ที่พ่อแฮรี่ตอบนั้น น่าจะไว้สำหรับน้องเจี๊ยบแต่ผู้เดียวอ่ะจ๊ะ
งั้นหนูไม่ปลื้มพ่อแฮรี่นะ จบ
ไม่รู้ดิเคลียร์กะพ่อแฮรี่เอง พี่ไม่ได้ยุนะคะคุณน้องงงงงงงง
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
อาจจะครบก็ได้นะ เมื่อก่อนสายประคำมี 150 เม็ด ตอนหลังลดเหลือ เท่าที่นี้แหละ 59 แล้ว ก็เหลือสิบ เคยได้ยินผู้ใหย่เล่าให้ฟังว่า พวกพ่อ โดยปกติ จะสวด 150 แต่นั่นอาจจะเป็นพ่อรุ่นอาวุโสJeab Agape เขียน:ถ้าสวดครบ ก็มือหงิกมั้ง พ่อจั่วอาจจะสวดแค่ 1 ทด อิอิ:+: seraphim :+: เขียน:
เห็นพ่อจั่วเอามานับ (สวด) เวลาที่ชาวบ้านเขาสวดอ่ะ แต่ไม่ทราบว่า สวดครบหรือเปล่า ที่พ่อแฮรี่ตอบนั้น น่าจะไว้สำหรับน้องเจี๊ยบแต่ผู้เดียวอ่ะจ๊ะ
งั้นหนูไม่ปลื้มพ่อแฮรี่นะ จบ
ยังใส่เครื่องแบบในลักษณะดั้งเดิมค่ะ ดูแล้วเหมือนนักบุญเทเรซาเลยนะคะ แต่หนูคิดเอาเองว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของเนื้อผ้าให้สอดคล้องกับสภาพอากาศในเมืองไทยค่ะ:+: seraphim :+: เขียน: ถามกลับนิดนึงคะ ซิสเตอร์คาร์เมไลท์หรือกาปูชินใส่ชุดนักบวชแบบใหม่ หรือหันไปใส่ชุดแบบฆราวาส ที่เมืองไทยหรือเปล่าคะ
แต่ในประเทศอื่นบางประเทศ สองคณะนี้ปฏิรูปเครื่องแบบให้'dernไปกว่านี้ อย่างที่บอกค่ะบางอารามก็ใส่ชุดนักบวชที่กระชับและทะมัดทะแมงมากขึ้น บางอารามไปใส่เหมือนฆราวาสเลยก็มีนะคะ หนูว่าสะใจดี
ทุกวันนี้ ซิสเตอร์ในเมืองไทยก็ประยุกต์เครื่องแบบให้ดูเป็นแบบไทยๆหลายคณะแล้วนะคะ ที่หนูเคยเห็นก็เช่น รักกางเขนท่าแร่ รักกางเขนจันทบุรี รักกางเขนอุบลฯ ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลฯ อูร์สุลิน ฯลฯ หนูเห็นซิสเตอร์เขาเปลี่ยนเครื่องแบบให้ดูเป็นแบบไทยๆมากขึ้น ใส่แล้วถ้าไม่คลุมผม หนูว่าดูเหมือนพวกคุณครูตามโรงเรียนเลยค่ะ คือรูปแบบของเสื้อผ้าสุภาพที่ดูเป็นแบบที่ผู้หญิงไทยตัดใส่กันน่ะค่ะ ซิสเตอร์แม่ปอนนี่ไทยเห็นๆค่ะ คือนุ่งผ้าซิ่นกันเลยค่ะ ส่วนการใส่สไบนั้นคงเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะเขาประยุกต์จากที่แต่เดิมรุ่มร่ามมาเป็นให้ไม่รุ่มร่าม มาใส่สไบอีกก็เหมือนกลับไปรุ่มร่ามเช่นเดิมน่ะค่ะJeab Agape เขียน:
หนูถามต่อว่า
1.ถ้าเกิดพวกซิสเตอร์ แต่งเครื่องแบบไทยๆ เป็นชุดไทยโบราณ ที่มีสะไบ อะไรแบบนี้ พวกพี่ๆคิดอย่างไรฮะ
2.ชุดของบาทหลวงในประเทศไทย มีกี่สี และกี่แบบฮะ
3.เจ๊ฟีม บาทหลวงของคณะพระมหาไถ่ ใช้สายประคำที่ห้อยเอว สวดไหมฮะ
ชุดบาทหลวงที่เรียกว่าเสื้อหล่อมีหลายแบบ นับไม่ไหวค่ะ แล้วแต่คณะ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช้กันเท่าไรแล้ว คุณพ่อบางท่านมีเสื้อหล่อแค่ชุดเดียวเท่านั้น เพราะไม่ค่อยได้ใช้ นอกจากนี้อาจมีเสื้อเคอร์ยี่แมนใส่กับกางเกงสแล็คสากล อันนี้อาจใส่กันบ่อยหน่อย ส่วนเสื้อผ้าในพิธีกรรมก็เรียบง่ายกว่ายุคก่อนสังคายนาวาติกันที่ 2 มากค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
คณะรักกางเขนที่จันทบุรี ประยุกต์เป็นเครื่องแบบไทยๆ ไงเหรอคะ เพราะที่เห็นก็เป็นเครื่องแบบซิสเตอร์ธรรมดาทั่วไป ชุดสีขาว - สีน้ำเงิน ติดกัน มีผ้าคลุมผม มันไทยยังไงอ่ะ งง
หนูเคยคณะรักกางเขนเห็นมาบรรยายตอนเรียนคำสอน เผื่อใครสนใจเป็นซิสเตอร์ แต่งตัวเหมือนเจ๊ฟิมบอกงะ:+: seraphim :+: เขียน: คณะรักกางเขนที่จันทบุรี ประยุกต์เป็นเครื่องแบบไทยๆ ไงเหรอคะ เพราะที่เห็นก็เป็นเครื่องแบบซิสเตอร์ธรรมดาทั่วไป ชุดสีขาว - สีน้ำเงิน ติดกัน มีผ้าคลุมผม มันไทยยังไงอ่ะ งง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
minnie เขียน:หนูเคยคณะรักกางเขนเห็นมาบรรยายตอนเรียนคำสอน เผื่อใครสนใจเป็นซิสเตอร์ แต่งตัวเหมือนเจ๊ฟิมบอกงะ:+: seraphim :+: เขียน: คณะรักกางเขนที่จันทบุรี ประยุกต์เป็นเครื่องแบบไทยๆ ไงเหรอคะ เพราะที่เห็นก็เป็นเครื่องแบบซิสเตอร์ธรรมดาทั่วไป ชุดสีขาว - สีน้ำเงิน ติดกัน มีผ้าคลุมผม มันไทยยังไงอ่ะ งง
ก็นั่นอ่ะดิ แต่เจ๊เบลบอกงี้เลยงงไงว่ามันไทยยังไง เพราะตั้งแต่เกิดมาเป็นสาวสะพรั่งขนาดนี้ก็เห็นมาแบบนี้ตั้งนานแล้วอ่ะ หรือว่าเจ๊เบลเกิดก่อนเราหลายปีหว่า.....
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ตกลงยังไงกันนี่
เคลียร์ให้พี่น้องเข้าใจด้วยครับ อ่านแล้วได้รับข้อมูลผิด ๆ จะยิ่งไปกันใหญ่นะครับ
เคลียร์ให้พี่น้องเข้าใจด้วยครับ อ่านแล้วได้รับข้อมูลผิด ๆ จะยิ่งไปกันใหญ่นะครับ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Ms.BIG เขียน:
ทุกวันนี้ ซิสเตอร์ในเมืองไทยก็ประยุกต์เครื่องแบบให้ดูเป็นแบบไทยๆหลายคณะแล้วนะคะ ที่หนูเคยเห็นก็เช่น รักกางเขนท่าแร่ รักกางเขนจันทบุรี รักกางเขนอุบลฯ ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลฯ อูร์สุลิน ฯลฯ หนูเห็นซิสเตอร์เขาเปลี่ยนเครื่องแบบให้ดูเป็นแบบไทยๆมากขึ้น ใส่แล้วถ้าไม่คลุมผม หนูว่าดูเหมือนพวกคุณครูตามโรงเรียนเลยค่ะ คือรูปแบบของเสื้อผ้าสุภาพที่ดูเป็นแบบที่ผู้หญิงไทยตัดใส่กันน่ะค่ะ ซิสเตอร์แม่ปอนนี่ไทยเห็นๆค่ะ คือนุ่งผ้าซิ่นกันเลยค่ะ ส่วนการใส่สไบนั้นคงเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะเขาประยุกต์จากที่แต่เดิมรุ่มร่ามมาเป็นให้ไม่รุ่มร่าม มาใส่สไบอีกก็เหมือนกลับไปรุ่มร่ามเช่นเดิมน่ะค่ะ
ชุดบาทหลวงที่เรียกว่าเสื้อหล่อมีหลายแบบ นับไม่ไหวค่ะ แล้วแต่คณะ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช้กันเท่าไรแล้ว คุณพ่อบางท่านมีเสื้อหล่อแค่ชุดเดียวเท่านั้น เพราะไม่ค่อยได้ใช้ นอกจากนี้อาจมีเสื้อเคอร์ยี่แมนใส่กับกางเกงสแล็คสากล อันนี้อาจใส่กันบ่อยหน่อย ส่วนเสื้อผ้าในพิธีกรรมก็เรียบง่ายกว่ายุคก่อนสังคายนาวาติกันที่ 2 มากค่ะ
เจ๊เบลมาแถลงหน่อยคะ งงเหมือนกัน
ถ้าเป็นชุดติดกันอย่างที่พี่ฟีมว่ามา นั่นก็ไม่ไทยเท่าไรค่ะ เป็นชุดแบบเดิม ที่ตัดออกมาแล้วเสื้อกับกระโปรงติดกัน ข้างหลังมีซิป คาดเอวด้วยเข็มขัดผ้าสีเดียวกับเสื้อ (เหมือนกับคณะเซนต์ปอลเดอชาร์ตร์ --- คณะเซนต์ปอลฯกับคณะพระหฤทัยฯนี่เหนียวแน่นมากค่ะ --- ชุดจะเป็นแบบเดิมและแบบเดียวกัน) แต่คณะอื่นๆที่หนูพูดถึงไปนั้น พี่ลองดูรูปแบบเสื้อที่เขาตัดใส่สิคะ ไม่มีซิปแล้ว และรูปแบบของเครื่องแบบที่เขาใส่นั้นก็เป็นทรงไทยๆ โดยปล่อยชายเรียบออกนอกกระโปรง กลัดกระดุมผ้าสีเดียวกับเสื้อ มีกระเป๋าเย็บติดตรงชายเสื้อ คอปกจะเป็นแบบพวกครูตามโรงเรียน บางคณะประยุกต์รูปแบบกระโปรงเป็นกระโปรงทรงคุณครู ไม่ใช่กระโปรงจีบ(จะกี่จีบก็แล้วแต่นะคะ)แบบเดิมแล้วค่ะ ลองสังเกตดีๆค่ะ หนูเห็นซิสเตอร์หลายท่านใส่เครื่องแบบประยุกต์แบบไทยแล้วก็ดูเป็นไทยๆดีนะคะ:+: seraphim :+: เขียน: คณะรักกางเขนที่จันทบุรี ประยุกต์เป็นเครื่องแบบไทยๆ ไงเหรอคะ เพราะที่เห็นก็เป็นเครื่องแบบซิสเตอร์ธรรมดาทั่วไป ชุดสีขาว - สีน้ำเงิน ติดกัน มีผ้าคลุมผม มันไทยยังไงอ่ะ งง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
ที่หนูเคยเห็นก็เช่น รักกางเขนท่าแร่ รักกางเขนจันทบุรี รักกางเขนอุบลฯ ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลฯ อูร์สุลิน ฯลฯ
เข้าใจแล้วคะ แต่ที่ค้านเพราะว่า ซิสเตอร์คณะธิดากางเขนของจันทบุรียังใส่แบบเดิมคะ ไม่ได้เป็นแบบที่เจ๊เบลกล่าวมา
เข้าใจแล้วคะ แต่ที่ค้านเพราะว่า ซิสเตอร์คณะธิดากางเขนของจันทบุรียังใส่แบบเดิมคะ ไม่ได้เป็นแบบที่เจ๊เบลกล่าวมา
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอบคุณฮะพี่บิ๊กเบล ที่ตอบมาอย่างละเอียดละออ เอ่อ คณะแม่ปอน หนูเคยเห็นฮะ เป็นชาวปกาเกอญอ (กระเหรี่ยง )Ms.BIG เขียน:..... ซิสเตอร์แม่ปอนนี่ไทยเห็นๆค่ะ คือนุ่งผ้าซิ่นกันเลยค่ะ ส่วนการใส่สไบนั้นคงเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะเขาประยุกต์จากที่แต่เดิมรุ่มร่ามมาเป็นให้ไม่รุ่มร่าม มาใส่สไบอีกก็เหมือนกลับไปรุ่มร่ามเช่นเดิมน่ะค่ะJeab Agape เขียน:
หนูถามต่อว่า
1.ถ้าเกิดพวกซิสเตอร์ แต่งเครื่องแบบไทยๆ เป็นชุดไทยโบราณ ที่มีสะไบ อะไรแบบนี้ พวกพี่ๆคิดอย่างไรฮะ
2.ชุดของบาทหลวงในประเทศไทย มีกี่สี และกี่แบบฮะ
ชุดบาทหลวงที่เรียกว่าเสื้อหล่อมีหลายแบบ นับไม่ไหวค่ะ แล้วแต่คณะ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช้กันเท่าไรแล้ว คุณพ่อบางท่านมีเสื้อหล่อแค่ชุดเดียวเท่านั้น เพราะไม่ค่อยได้ใช้ นอกจากนี้อาจมีเสื้อเคอร์ยี่แมนใส่กับกางเกงสแล็คสากล อันนี้อาจใส่กันบ่อยหน่อย ส่วนเสื้อผ้าในพิธีกรรมก็เรียบง่ายกว่ายุคก่อนสังคายนาวาติกันที่ 2 มากค่ะ
พวกเธอนุ่งผ้าซิ่น น้ำเงิน (ลายผ้าสาวกระเหรี่ยง ) แต่ยังคลุมผม ฮะ แต่ถ้าออกงาน ก็ใส่ชุดสีน้ำเงินแบบ เรื่องครูไหวใจร้าย
ที่หนูเคยเห็นๆ ดูจากทีวีบ่อยที่สุด ที่สลับกับรายการคำตอบชีวิต คพ.พงศ์เทพ ใส่ชุดยาวยาวๆ พ่อนุ่งกางเกงไว้ในใช่ไหม
เอ แล้วชุดของ พระคาร์ดินัลล่ะ เห็นเต็มชุด เหมือนกับ ขุนนางหนังจีนเลย
อ้อ หนูลืมบอกไปว่าซิสเตอร์บางคนก็ใส่แบบเก่า บางคนก็ใส่แบบใหม่ แต่ผ้าคลุมรักกางเขนจันท์ยังคงเอกลักษณ์เดิม ไม่เปลี่ยน สรุป..เครื่องแบบเขามีสองแบบค่ะ คือแบบเดิมกับแบบใหม่ที่เป็นไทยขึ้น หนูเคยเห็นจริงๆนะคะ เคยเห็นทั้งสองแบบเลยค่ะ หนูยังคิดเลยว่า"แฟชั่น"ชุดไทยนี่เป็นที่นิยม ฮอตฮิตดีนะคะ:+: seraphim :+: เขียน:
ที่หนูเคยเห็นก็เช่น รักกางเขนท่าแร่ รักกางเขนจันทบุรี รักกางเขนอุบลฯ ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลฯ อูร์สุลิน ฯลฯ
เข้าใจแล้วคะ แต่ที่ค้านเพราะว่า ซิสเตอร์คณะธิดากางเขนของจันทบุรียังใส่แบบเดิมคะ ไม่ได้เป็นแบบที่เจ๊เบลกล่าวมา
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Ms.BIG เขียน:อ้อ หนูลืมบอกไปว่าซิสเตอร์บางคนก็ใส่แบบเก่า บางคนก็ใส่แบบใหม่ แต่ผ้าคลุมรักกางเขนจันท์ยังคงเอกลักษณ์เดิม ไม่เปลี่ยน สรุป..เครื่องแบบเขามีสองแบบค่ะ คือแบบเดิมกับแบบใหม่ที่เป็นไทยขึ้น หนูเคยเห็นจริงๆนะคะ เคยเห็นทั้งสองแบบเลยค่ะ หนูยังคิดเลยว่า"แฟชั่น"ชุดไทยนี่เป็นที่นิยม ฮอตฮิตดีนะคะ:+: seraphim :+: เขียน:
ที่หนูเคยเห็นก็เช่น รักกางเขนท่าแร่ รักกางเขนจันทบุรี รักกางเขนอุบลฯ ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลฯ อูร์สุลิน ฯลฯ
เข้าใจแล้วคะ แต่ที่ค้านเพราะว่า ซิสเตอร์คณะธิดากางเขนของจันทบุรียังใส่แบบเดิมคะ ไม่ได้เป็นแบบที่เจ๊เบลกล่าวมา
โอ๊ว...เหรอๆ แสดงว่าออกงานบ่อย ตั้งแต่พี่อยู่ที่สังมณฑลจันทบุรีมาเนี่ย ยังไม่เคยเห็นเลยคะ ไม่เคยเห็นจริงๆ สาบานได้ เลยออกจะงงว่า บิ๊กเบลเห็นที่ไหน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
มั่วอีกอ่ะ ผมว่า:+: seraphim :+: เขียน:Ms.BIG เขียน:อ้อ หนูลืมบอกไปว่าซิสเตอร์บางคนก็ใส่แบบเก่า บางคนก็ใส่แบบใหม่ แต่ผ้าคลุมรักกางเขนจันท์ยังคงเอกลักษณ์เดิม ไม่เปลี่ยน สรุป..เครื่องแบบเขามีสองแบบค่ะ คือแบบเดิมกับแบบใหม่ที่เป็นไทยขึ้น หนูเคยเห็นจริงๆนะคะ เคยเห็นทั้งสองแบบเลยค่ะ หนูยังคิดเลยว่า"แฟชั่น"ชุดไทยนี่เป็นที่นิยม ฮอตฮิตดีนะคะ:+: seraphim :+: เขียน:
ที่หนูเคยเห็นก็เช่น รักกางเขนท่าแร่ รักกางเขนจันทบุรี รักกางเขนอุบลฯ ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลฯ อูร์สุลิน ฯลฯ
เข้าใจแล้วคะ แต่ที่ค้านเพราะว่า ซิสเตอร์คณะธิดากางเขนของจันทบุรียังใส่แบบเดิมคะ ไม่ได้เป็นแบบที่เจ๊เบลกล่าวมา
โอ๊ว...เหรอๆ แสดงว่าออกงานบ่อย ตั้งแต่พี่อยู่ที่สังมณฑลจันทบุรีมาเนี่ย ยังไม่เคยเห็นเลยคะ ไม่เคยเห็นจริงๆ สาบานได้ เลยออกจะงงว่า บิ๊กเบลเห็นที่ไหน
หนูออกงานน้อยมากค่ะ หนูไม่ค่อยได้ไปไหน แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง หนูไปเข้ามิสซา แล้วมีซิสเตอร์มาเข้าวัดด้วย มาจากหลายคณะเลยนะคะ พวกซิสเตอร์เขามาสัมมนาหรือเข้าเงียบอะไรสักอย่างน่ะค่ะ หนูเห็นซิสเตอร์หลายคนใส่เครื่องแบบสไตล์ไทยอย่างที่หนูว่าไป รวมทั้งคณะรักกางเขนจันท์ด้วยค่ะ แต่บางคนก็ยังใส่แบบเดิมนะคะ ตอนนั้นหนูได้เจอแม่อธิการิณีด้วย คุณแม่ยังทักทายหนูเลย คุณแม่ใส่แบบเดิมนะคะ แต่ซิสเตอร์ท่านอื่นบางท่านใส่แบบใหม่ค่ะ:+: seraphim :+: เขียน:Ms.BIG เขียน:อ้อ หนูลืมบอกไปว่าซิสเตอร์บางคนก็ใส่แบบเก่า บางคนก็ใส่แบบใหม่ แต่ผ้าคลุมรักกางเขนจันท์ยังคงเอกลักษณ์เดิม ไม่เปลี่ยน สรุป..เครื่องแบบเขามีสองแบบค่ะ คือแบบเดิมกับแบบใหม่ที่เป็นไทยขึ้น หนูเคยเห็นจริงๆนะคะ เคยเห็นทั้งสองแบบเลยค่ะ หนูยังคิดเลยว่า"แฟชั่น"ชุดไทยนี่เป็นที่นิยม ฮอตฮิตดีนะคะ:+: seraphim :+: เขียน:
ที่หนูเคยเห็นก็เช่น รักกางเขนท่าแร่ รักกางเขนจันทบุรี รักกางเขนอุบลฯ ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลฯ อูร์สุลิน ฯลฯ
เข้าใจแล้วคะ แต่ที่ค้านเพราะว่า ซิสเตอร์คณะธิดากางเขนของจันทบุรียังใส่แบบเดิมคะ ไม่ได้เป็นแบบที่เจ๊เบลกล่าวมา
โอ๊ว...เหรอๆ แสดงว่าออกงานบ่อย ตั้งแต่พี่อยู่ที่สังมณฑลจันทบุรีมาเนี่ย ยังไม่เคยเห็นเลยคะ ไม่เคยเห็นจริงๆ สาบานได้ เลยออกจะงงว่า บิ๊กเบลเห็นที่ไหน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ตอนนี้คำถามมาที่เจ๊ฟีมฮะ
ซิสเตอร์ของคณะพระมหาไถ่ ที่จะเปิด อาราม ในประเทศไทย เครื่องแบบต้องสีเดียวกับสหรัฐ หรือเปล่าฮะ
แล้วต้องมีสายประคำคาดเอว แบบบาทหลวงไหม ฮะ
ซิสเตอร์ของคณะพระมหาไถ่ ที่จะเปิด อาราม ในประเทศไทย เครื่องแบบต้องสีเดียวกับสหรัฐ หรือเปล่าฮะ
แล้วต้องมีสายประคำคาดเอว แบบบาทหลวงไหม ฮะ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:
ตอนนี้คำถามมาที่เจ๊ฟีมฮะ
ซิสเตอร์ของคณะพระมหาไถ่ ที่จะเปิด อาราม ในประเทศไทย เครื่องแบบต้องสีเดียวกับสหรัฐ หรือเปล่าฮะ
แล้วต้องมีสายประคำคาดเอว แบบบาทหลวงไหม ฮะ
เหมือนจ๊ะ แต่ไม่มีสายประคำเหมือนคุณพ่อ ใครอยากดูชุดเชิญไปดูได้ที่ กระทู้ ซิสเตอร์มหาไถ่ อยู่ตรงไหนแล้วไม่ทราบ