ประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ เพื่อความยุติธรรมทางการศึกษา
ครับ ขณะนี้บ้านเมืองเราเต็มไปด้วยความวุ่นวาย รวมไปถึงเรื่องการศึกษา สิ่งที่มีค่าสำหรับเยาวชน ซึ่งผู้ใหญ่จะมาทำเป็นเรื่องธรรมดาเล็กๆไม่ได้
ระบบแอดมิชชั่น ระบบที่ไร้ศักยภาพ ไม่ได้รับการแก้ไข ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายผู้สอบอย่างยุติธรรม
http://www.parent-youth.net/
http://www.parent-youth.net/
http://www.parent-youth.net/
http://www.parent-youth.net/
เพื่อนพี่น้องท่านใดมีปัญหาเรื่องการศึกษา โดยเฉพาะการสอบแอดมิชชั่น เชิญที่เว็บนี้นะครับ เพื่อปัญหาของชาติ ของเยาวชนจะได้แก้ไข และนำไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ผมขอให้พี่น้องชาวคริสต์ทั้งหลาย ช่วยกันประชาสัมพันธ์เว็บนี้ไปด้วยนะครับ เด็กซิ่ว และเด็กรุ่นหนูทดลองอย่างผม จะหมดกำลังใจที่จะสู้กันแล้ว พวกเราต้องรวมตัวกันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า อนาคตทางการศึกษาที่ผู้ใหญ่บอกว่าสำคัญสำหรับพวกผม แต่ขาดการเหลียวแลอย่างจริงจัง
เพื่อความยุติธรรมทางการศึกษา ที่เด็กทั้งชาติพึงจะได้รับ
พระเจ้าอวยพรนะครับ
ระบบแอดมิชชั่น ระบบที่ไร้ศักยภาพ ไม่ได้รับการแก้ไข ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายผู้สอบอย่างยุติธรรม
http://www.parent-youth.net/
http://www.parent-youth.net/
http://www.parent-youth.net/
http://www.parent-youth.net/
เพื่อนพี่น้องท่านใดมีปัญหาเรื่องการศึกษา โดยเฉพาะการสอบแอดมิชชั่น เชิญที่เว็บนี้นะครับ เพื่อปัญหาของชาติ ของเยาวชนจะได้แก้ไข และนำไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ผมขอให้พี่น้องชาวคริสต์ทั้งหลาย ช่วยกันประชาสัมพันธ์เว็บนี้ไปด้วยนะครับ เด็กซิ่ว และเด็กรุ่นหนูทดลองอย่างผม จะหมดกำลังใจที่จะสู้กันแล้ว พวกเราต้องรวมตัวกันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า อนาคตทางการศึกษาที่ผู้ใหญ่บอกว่าสำคัญสำหรับพวกผม แต่ขาดการเหลียวแลอย่างจริงจัง
เพื่อความยุติธรรมทางการศึกษา ที่เด็กทั้งชาติพึงจะได้รับ
พระเจ้าอวยพรนะครับ
ชอบบทความนี้นะ http://www.parent-youth.net/mcontents/m ... 26&Ntype=0
การคำนึงสารเคมีในสมองทำให้ครู พ่อแม่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องระมัดระวังตัวมากขึ้น ในการอบรมสั่งสอนเด็ก
กลุ่มกดการทำงานของสมองเช่น
Cortisol ถ้ามีมากจะมีพิษต่อสมอง เป็นสารเคมีเกี่ยวกับความเครียด โดยจะหลั่งเมื่อมีความเครียด , มีความทุกข์ ความวิตกกังวล เป็นสารที่เกี่ยวกับการตกใจ การอยู่รอด และการต่อสู้ การตอบสนองต่อความเครียดที่มากๆและนานๆ จะมีอันตรายต่อทั้งอารมณ์และร่างกาย สารนี้จะหลั่งเมื่อมีความรู้สึกไม่ดี มีความเครียด (เรื้อรัง) การมองเห็นคุณค่าตัวเองต่ำ , โดนดุด่าทุกวัน , ซึมเศร้า , โกรธ , เข้มงวดเกินไป , วิตกกังวล ซึ่งจะทำให้ทำลายองค์ประกอบภายในสมอง ไม่ว่าใยประสาทต่างๆ หรือแม้นแต่เซลล์สมอง รวมทั้งจะหยุดยั้งการส่งข้อมูลระหว่างเซลล์สมอง ( Khalsa 1997 Jensen 1998 etc ) ทำให้ไม่เกิดการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่คุณครู หรือ พ่อ แม่ ผู้ใกล้ชิดต้องระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ในขณะสอนหรือที่อยู่กับเด็ก
Cortisolสูงทำให้เกิด
-ยับยั้งการส่งผ่านข้อมูลข่าวสารและการเรียนรู้ภายในสมอง
-ยับยั้งการเจริญเติบโตของสมองและใยประสาท
-ยับยั้งเส้นทางความจำทุกส่วน คิดอะไรไม่ออก
-ภูมิต้านทานต่ำ เป็นภูมิแพ้ มะเร็ง โรคหัวใจได้ง่าย
-ทำลายเซลล์สมองและใยประสาท(Khalsa 1997)
-เด็กสมาธิสั้น ควบคุมตนเองไม่ได้ Hyperactive
-ความสามารถในการเรียนลดลง
ซึ่งภาวะ cortisol สูงจะทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ เช่น เป็นโรคกระเพาะ , ระบบไหลเวียนโลหิต เช่น ความดันโลหิตสูง , โรคหัวใจ , หรือทำให้ภูมิต้านทานต่ำเป็นโรคภูมิแพ้ , เป็นโรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง (SLE) มะเร็งได้ง่าย ซึ่งเคยมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เช่น ครู /แม่บ้าน ที่ดุ
การคำนึงสารเคมีในสมองทำให้ครู พ่อแม่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องระมัดระวังตัวมากขึ้น ในการอบรมสั่งสอนเด็ก
กลุ่มกดการทำงานของสมองเช่น
Cortisol ถ้ามีมากจะมีพิษต่อสมอง เป็นสารเคมีเกี่ยวกับความเครียด โดยจะหลั่งเมื่อมีความเครียด , มีความทุกข์ ความวิตกกังวล เป็นสารที่เกี่ยวกับการตกใจ การอยู่รอด และการต่อสู้ การตอบสนองต่อความเครียดที่มากๆและนานๆ จะมีอันตรายต่อทั้งอารมณ์และร่างกาย สารนี้จะหลั่งเมื่อมีความรู้สึกไม่ดี มีความเครียด (เรื้อรัง) การมองเห็นคุณค่าตัวเองต่ำ , โดนดุด่าทุกวัน , ซึมเศร้า , โกรธ , เข้มงวดเกินไป , วิตกกังวล ซึ่งจะทำให้ทำลายองค์ประกอบภายในสมอง ไม่ว่าใยประสาทต่างๆ หรือแม้นแต่เซลล์สมอง รวมทั้งจะหยุดยั้งการส่งข้อมูลระหว่างเซลล์สมอง ( Khalsa 1997 Jensen 1998 etc ) ทำให้ไม่เกิดการเรียนรู้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่คุณครู หรือ พ่อ แม่ ผู้ใกล้ชิดต้องระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ในขณะสอนหรือที่อยู่กับเด็ก
Cortisolสูงทำให้เกิด
-ยับยั้งการส่งผ่านข้อมูลข่าวสารและการเรียนรู้ภายในสมอง
-ยับยั้งการเจริญเติบโตของสมองและใยประสาท
-ยับยั้งเส้นทางความจำทุกส่วน คิดอะไรไม่ออก
-ภูมิต้านทานต่ำ เป็นภูมิแพ้ มะเร็ง โรคหัวใจได้ง่าย
-ทำลายเซลล์สมองและใยประสาท(Khalsa 1997)
-เด็กสมาธิสั้น ควบคุมตนเองไม่ได้ Hyperactive
-ความสามารถในการเรียนลดลง
ซึ่งภาวะ cortisol สูงจะทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ เช่น เป็นโรคกระเพาะ , ระบบไหลเวียนโลหิต เช่น ความดันโลหิตสูง , โรคหัวใจ , หรือทำให้ภูมิต้านทานต่ำเป็นโรคภูมิแพ้ , เป็นโรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง (SLE) มะเร็งได้ง่าย ซึ่งเคยมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เช่น ครู /แม่บ้าน ที่ดุ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณครับ
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
เฮ้อ คิดแล้วก็เหนื่อย
แต่ก็ดีใจจัง ที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ ยังสนใจรวมพลังรักษาสิทธิของตัวเองแบบนี้
เอาใจช่วย นะจ้ะ
แต่ก็ดีใจจัง ที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ ยังสนใจรวมพลังรักษาสิทธิของตัวเองแบบนี้
เอาใจช่วย นะจ้ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ชายน้อยเข้ามาแล้วออกไปเร็วจริง ๆP เขียน: มองการศึกษาของไทยแล้วเศร้าแทนอนาคตของชาติจริงๆ
พี่รู้มั้ยครับ ว่ายังคงมีอีกหลายคนที่นั่งร้องไห้เสียใจ เพราะด้วยกฏเกณฑ์ต่างๆมากมายที่ทาง สทส ทปอ สกอ สร้างขึ้นมา
เด็กสามจังหวัดภาคใต้ ที่ต้องการเป็นแพทย์ก็ไม่ได้เป็น ทั้งด้วยสภาวะจิตใจของเขา การเรียนก็ต้องแย่ลงไปด้วย เกรดไม่ถึงสาม ห้ามสอบแพทย์
เอ็นทรานซ์ระบบเก่า เปิดโอกาศให้เด็กสอบแก้ตัวใหม่ได้ถึงสองรอบ แต่แอดมิชชั่นให้สอบเพียงรอบเดียว โดยเฉพาะวิชาโอเน็ท จะมีสิทธิ์สอบได้ครั้งเดียวในชีวิต โดยที่ปีที่แล้ว รุ่นแรก หนูทดลอง ไม่ได้มีการแจ้งข่าวสารให้ชัดเจน ถ้ารู้อย่างนี้ เด็กมากมายที่ยังไม่พร้อมปีที่แล้วคงไม่สอบหรอก มาใช้สิทธิ์ปีนี้ดีกว่า บางคนป่วย เกิดอุบัติเหตุ ก็ตะบี้ตะบันลุกขึ้นจากเตียง ทั้งๆที่ร่างกายและสมองก็ยังไม่พร้อม ผลออกมา คะแนนไม่ดี แต่ก็ไม่มีโอกาศแก้ตัว จากกรณีนี้ ทาง สทศ แจ้งว่า วิชาโอเน็ทเป็นวิชาความรู้พื้นฐานม.6 ให้สอบได้ครั้งเดียว ซึ่งตามหลักความเป็นจริง ก็เหมือนสร้างขึ้นมาเพื่อปิดโอกาศคณะใฝ่ฝัน แต่ไม่ได้ในปีนี้...
ยิ่งปีที่แล้วคะแนนมั่วมาก เด็กหลายหมื่นยังไม่รู้ด้วยซ้ำ คะแนนที่ตัวเองยื่นเข้ามหาวิทยาลัยนั้น เป็นคะแนนของตนเองหรือเปล่า และยิ่งซ้ำร้ายไปกว่านั้น ปีที่แล้ว ไม่มีการให้ตรวจกระดาษคำตอบ นั่นแสดงถึงความไม่โปร่งใส ในการทำงาน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของเด็กอยู่แล้วที่จะขอตรวจสอบ
มีอีกหลายเรื่องครับ ผมฟังจากเพื่อนๆมาแล้วก็สงสารพวกเค้า ผมยังดีที่จะซิ่วไป ศิลปศาสตร์ มธ คะแนนโอเน็ทก็ยังพอใช้ได้อยู่ ไม่เลวอ่ะครับ
แต่เพื่อนๆ ผมหน่ะซิครับ หลายร้อยคนน่าสงสารเหลือเกิน เค้าเป็นหนูทดลอง แต่เค้าไม่มีโอกาศได้สอบใหม่ หลายคนอยากเป็นแพทย์ แต่ก็ได้แค่คณะวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่พวกเค้าไม่เก่ง คะแนนไม่ถึงนะครับ แต่ สทศ สกอ ไม่เปิดโอกาศให้เค้าเลย สร้างกดเกนอะไรมาก็ไม่รู้ พวกเค้ายังร่ำไห้อยู่
ตอนนี้ถวายฏีกาต่อในหลวงไปแล้ว ขอพระองค์ท่านทรงทอดพระเนตรพวกเราด้วย
ไม่รู้ผลต่อไปจะเป็นอย่างไร
ผมขอให้พี่น้องช่วยกระจายเว็บข้างตนไปเยอะๆนะครับ เพื่อที่จะง่ายต่อการรวมตัวเพื่อปกป้องสิทธิทางการศึกษา และนำการศึกษาไทยไปในทางที่ถูกต้อง
วันนี้ชุดการทำงานชุดก่อน ลาออกไปใช้กรรมและการกระทำที่ทำต่อเด็กทั้งชาติแล้ว แต่ชุดใหม่ยังคงอยู่บนแท่นบัลลังจอมปลอมกินเงินภาษีประชาชน แต่ตอบแทนด้วยสิ่งที่เลวร้าย
ช่วยกันนะครับพี่น้อง ผมขอร้อง ผมทนไม่ได้ที่เพื่อนเด็กไทยจะต้องร้องไห้กับสิ่งที่ผู้ใหญ่ได้ทำ
เพื่อความถูกต้อง และนำชาติไปในทางที่สดใส เด็กคืออนาคตของชาติ อย่าทอดทิ้งเสียงจากพวกเค้าเลยครับ
เด็กสามจังหวัดภาคใต้ ที่ต้องการเป็นแพทย์ก็ไม่ได้เป็น ทั้งด้วยสภาวะจิตใจของเขา การเรียนก็ต้องแย่ลงไปด้วย เกรดไม่ถึงสาม ห้ามสอบแพทย์
เอ็นทรานซ์ระบบเก่า เปิดโอกาศให้เด็กสอบแก้ตัวใหม่ได้ถึงสองรอบ แต่แอดมิชชั่นให้สอบเพียงรอบเดียว โดยเฉพาะวิชาโอเน็ท จะมีสิทธิ์สอบได้ครั้งเดียวในชีวิต โดยที่ปีที่แล้ว รุ่นแรก หนูทดลอง ไม่ได้มีการแจ้งข่าวสารให้ชัดเจน ถ้ารู้อย่างนี้ เด็กมากมายที่ยังไม่พร้อมปีที่แล้วคงไม่สอบหรอก มาใช้สิทธิ์ปีนี้ดีกว่า บางคนป่วย เกิดอุบัติเหตุ ก็ตะบี้ตะบันลุกขึ้นจากเตียง ทั้งๆที่ร่างกายและสมองก็ยังไม่พร้อม ผลออกมา คะแนนไม่ดี แต่ก็ไม่มีโอกาศแก้ตัว จากกรณีนี้ ทาง สทศ แจ้งว่า วิชาโอเน็ทเป็นวิชาความรู้พื้นฐานม.6 ให้สอบได้ครั้งเดียว ซึ่งตามหลักความเป็นจริง ก็เหมือนสร้างขึ้นมาเพื่อปิดโอกาศคณะใฝ่ฝัน แต่ไม่ได้ในปีนี้...
ยิ่งปีที่แล้วคะแนนมั่วมาก เด็กหลายหมื่นยังไม่รู้ด้วยซ้ำ คะแนนที่ตัวเองยื่นเข้ามหาวิทยาลัยนั้น เป็นคะแนนของตนเองหรือเปล่า และยิ่งซ้ำร้ายไปกว่านั้น ปีที่แล้ว ไม่มีการให้ตรวจกระดาษคำตอบ นั่นแสดงถึงความไม่โปร่งใส ในการทำงาน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของเด็กอยู่แล้วที่จะขอตรวจสอบ
มีอีกหลายเรื่องครับ ผมฟังจากเพื่อนๆมาแล้วก็สงสารพวกเค้า ผมยังดีที่จะซิ่วไป ศิลปศาสตร์ มธ คะแนนโอเน็ทก็ยังพอใช้ได้อยู่ ไม่เลวอ่ะครับ
แต่เพื่อนๆ ผมหน่ะซิครับ หลายร้อยคนน่าสงสารเหลือเกิน เค้าเป็นหนูทดลอง แต่เค้าไม่มีโอกาศได้สอบใหม่ หลายคนอยากเป็นแพทย์ แต่ก็ได้แค่คณะวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่พวกเค้าไม่เก่ง คะแนนไม่ถึงนะครับ แต่ สทศ สกอ ไม่เปิดโอกาศให้เค้าเลย สร้างกดเกนอะไรมาก็ไม่รู้ พวกเค้ายังร่ำไห้อยู่
ตอนนี้ถวายฏีกาต่อในหลวงไปแล้ว ขอพระองค์ท่านทรงทอดพระเนตรพวกเราด้วย
ไม่รู้ผลต่อไปจะเป็นอย่างไร
ผมขอให้พี่น้องช่วยกระจายเว็บข้างตนไปเยอะๆนะครับ เพื่อที่จะง่ายต่อการรวมตัวเพื่อปกป้องสิทธิทางการศึกษา และนำการศึกษาไทยไปในทางที่ถูกต้อง
วันนี้ชุดการทำงานชุดก่อน ลาออกไปใช้กรรมและการกระทำที่ทำต่อเด็กทั้งชาติแล้ว แต่ชุดใหม่ยังคงอยู่บนแท่นบัลลังจอมปลอมกินเงินภาษีประชาชน แต่ตอบแทนด้วยสิ่งที่เลวร้าย
ช่วยกันนะครับพี่น้อง ผมขอร้อง ผมทนไม่ได้ที่เพื่อนเด็กไทยจะต้องร้องไห้กับสิ่งที่ผู้ใหญ่ได้ทำ
เพื่อความถูกต้อง และนำชาติไปในทางที่สดใส เด็กคืออนาคตของชาติ อย่าทอดทิ้งเสียงจากพวกเค้าเลยครับ
แห่ะ แห่ะ...... ไม่รู้จะได้เป่า.... เมื่อสัดส่วนแอดมิชชั่นยังแย่แบบนี้ เอื้อประโยชน์ต่อโรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐาน เหอๆๆ จีพีเอสามสิบ เกรดผม 3.34 เหอๆๆ แต่โรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐานอ่ะ 3.7 หรือ 4 อ่ะ ก็ได้ไปแระ มากมาย คะแนนเต็มหมื่น gpax ได้ 4 gpa อย่างละ 4 ก็ได้ไปแระ ตัวละพันคะแนน ถ้าใช้จีพีเอ สามวิชา บวกจีแพกอีก โอ้ววว สามพัน สี่พันคะแนนอยู่ในมือ.... เฟ้อมากเลย
รัฐบอกว่าไม่อยากให้เด็กไปเรียนกรวดวิชา ก็จริงนะ บางคนไม่ไปกรวดวิชาตามสถาบัน เรียนกะอาจารย์นั่นแหละ เรียนพิเศษ ถึงตอนนี้สถาบันเสียเปรียบ แต่อาจารย์หน้าเลือดกว่าเดิม
และบางคนที่จะกลับใจมาสนใจเรียนตอน ม.หก ก็จบเฮ เหอๆๆ เมื่อผลการเรียนตอน ม.สี่ ม.ห้า ไม่ดี เพราะผลแอดมิชชั่นขึ้นอยู่กับ การเรียนในห้อง เพียงเพราะต้องการจะลดปันหาการกรวดวิชา แต่ก็ลดไม่ได้เลย เพราะเด็กยิ่งไปเรียนหนักยิ่งกว่าเดิมเสียอีก....
เฮ้อ....เหนื่อยใจจัง
แต่เพื่อ ศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์ จะสู้ครับ
พระเจ้าโปรดทรงทอดพระเนตรเยาวชนของพระองค์ด้วย พวกเขากำลังตกอยู่ในความทุกข์ บางทีพวกเขาเหล่านั้นอาจจะได้มาเป็นแพทย์ฝีมือดี ที่คอยรักษาประชากร และพี่น้องของพวกเขา ได้ทรงโปรดเมตตาพวกเขา ให้การศึกษาไทยไปในทางที่ถูกต้องด้วยเทอญ
พระเจ้าอวยพรครับ
รัฐบอกว่าไม่อยากให้เด็กไปเรียนกรวดวิชา ก็จริงนะ บางคนไม่ไปกรวดวิชาตามสถาบัน เรียนกะอาจารย์นั่นแหละ เรียนพิเศษ ถึงตอนนี้สถาบันเสียเปรียบ แต่อาจารย์หน้าเลือดกว่าเดิม
และบางคนที่จะกลับใจมาสนใจเรียนตอน ม.หก ก็จบเฮ เหอๆๆ เมื่อผลการเรียนตอน ม.สี่ ม.ห้า ไม่ดี เพราะผลแอดมิชชั่นขึ้นอยู่กับ การเรียนในห้อง เพียงเพราะต้องการจะลดปันหาการกรวดวิชา แต่ก็ลดไม่ได้เลย เพราะเด็กยิ่งไปเรียนหนักยิ่งกว่าเดิมเสียอีก....
เฮ้อ....เหนื่อยใจจัง
แต่เพื่อ ศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์ จะสู้ครับ
พระเจ้าโปรดทรงทอดพระเนตรเยาวชนของพระองค์ด้วย พวกเขากำลังตกอยู่ในความทุกข์ บางทีพวกเขาเหล่านั้นอาจจะได้มาเป็นแพทย์ฝีมือดี ที่คอยรักษาประชากร และพี่น้องของพวกเขา ได้ทรงโปรดเมตตาพวกเขา ให้การศึกษาไทยไปในทางที่ถูกต้องด้วยเทอญ
พระเจ้าอวยพรครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยพระองค์นะครับ
ผมว่าไม่ใช่แต่เด็กสายสามัญจะมีปัญหานะครับ พวกเด็กสายอาชีพอย่างพวกผมก็มีปัญหาเช่นกัน ตอนนี้ หลายๆสถาบันอุดมศึกษาเริ่มจะไม่รับพวกผมเข้าเรียนต่อแล้ว เค้าจะรับแต่เอ็นทรานซ์อย่างเดียว เฮ้อ
ปล.ผมเป็นเด็กสายอาชีพ จบ ปวช. ปวส. แต่จบจากราชมงคลครับ ไม่ใช่เทคนิค ต้องพูดไว้ก่อน ชอบมีคนเข้าใจผิด
ปล.ผมเป็นเด็กสายอาชีพ จบ ปวช. ปวส. แต่จบจากราชมงคลครับ ไม่ใช่เทคนิค ต้องพูดไว้ก่อน ชอบมีคนเข้าใจผิด
แก้ไขล่าสุดโดย Big_TC29 เมื่อ เสาร์ พ.ย. 18, 2006 6:43 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
เฮ้อ มันทดลองนู่นทดลองนี่มาตั้งแต่ก่อนรุ่นผมแล้วครับ (5ปีมาแล้วอย่างต่ำ)
GPA เฟ้อเป็นปัญหาจริงๆครับ บางโรงเรียนเข้าสอบสัมภาษณ์ GPA ได้ 3.7 - 3.8 แต่ลำดับที่ร้อยกว่าจากสามร้อยกว่าคน แบบนี้อาจารย์ผู้สอบสัมภาษณ์หลายๆท่านอาจจะ mark ไว้เลยว่าโรงเรียนนั้นเกรดเฟ้อ เป็นผลเสียกับโรงเรียนด้วย และดีไม่ดีภาพพจน์ที่ไม่ดีกับโรงเรียนอาจจะทำให้คนสอบสัมภาษณ์มีอคติกับนักเรียนไปโดยไม่รู้ตัว (ในใจลึกๆรู้สึกเหมือนโดนนักเรียนหลอก แต่จริงๆนักเรียนไม่มีความผิด)par l'amour de dieu เขียน: แห่ะ แห่ะ...... ไม่รู้จะได้เป่า.... เมื่อสัดส่วนแอดมิชชั่นยังแย่แบบนี้ เอื้อประโยชน์ต่อโรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐาน เหอๆๆ จีพีเอสามสิบ เกรดผม 3.34 เหอๆๆ แต่โรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐานอ่ะ 3.7 หรือ 4 อ่ะ ก็ได้ไปแระ มากมาย คะแนนเต็มหมื่น gpax ได้ 4 gpa อย่างละ 4 ก็ได้ไปแระ ตัวละพันคะแนน ถ้าใช้จีพีเอ สามวิชา บวกจีแพกอีก โอ้ววว สามพัน สี่พันคะแนนอยู่ในมือ.... เฟ้อมากเลย
แย่มากครับ
ที่ไม่รับเป็นเพราะการให้มหาวิทยาลัยแยกออกมาจากรัฐแล้วหาเลี้ยงตัวเองครับ มหาวิทยาลัยจึงกลายเป็นธุรกิจ แทนที่จะเป็นสถานศึกษาแบบเดียวกันกับสิบกว่าปีก่อน นักศึกษาก็มองตัวเองเป็น"ลูกค้า"ที่จะต้องได้รับการบริการจากมหาวิทยาลัย ส่วนมหาวิทยาลัยทำอะไรก็เน้นธุรกิจเป็นหลัก คือ ทำอย่างไรจึงจะได้เงินเยอะๆ แถมมีการวัดคุณภาพของมหาวิทยาลัยโดยมีการตั้ง KPI ที่ทำให้ภาควิชาแต่ละภาคต้องปรับเปลียนนโยบายทางการศึกษาอย่างหนัก ซึ่งลักษณะของการวัด KPI นี้ หากรณรงค์ต่อไป สิ่งที่ผมเห็นคือ นักศึกษาระดับปริญญาตรีจะถูกทอดทิ้ง (เพราะเน้นที่จำนวนการวิจัย การตีพิมพ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลงานของปริญญาโทและเอก ส่วนการดูแลนักศึกษาในระดับปริญญาตรี แทบจะไม่มีคุณค่าทาง KPI)bigect07 เขียน: ผมว่าไม่ใช่แต่เด็กสายสามัญจะมีปัญหานะครับ พวกเด็กสายอาชีพอย่างพวกผมก็มีปัญหาเช่นกัน ตอนนี้ หลายๆสถาบันอุดมศึกษาเริ่มจะไม่รับพวกผมเข้าเรียนต่อแล้ว เค้าจะรับแต่เอ็นทรานซ์อย่างเดียว เฮ้อ
ปล.ผมเป็นเด็กสายอาชีพ จบ ปวช. ปวส. แต่จบจากราชมงคลครับ ไม่ใช่เทคนิค ต้องพูดไว้ก่อน ชอบมีคนเข้าใจผิด
ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของหัวหน้าแต่ละภาควิชาว่า จะวางนโยบายรับมืออย่างไร เพื่อรักษาสมดุลย์ของ"ความพยายามสร้างชื่อ" กับ "การหารายได้" กับ "จรรยาบรรณความเป็นอาจารย์"
นั่นคือ บางภาควิชาเน้น KPI ก็เปิดสอนแต่โทกับเอกอย่างเดียว (ไม่สนตรี) บางภาคเน้นการหารายได้เข้ามหาวิทยาลัย ก็มีการเปิดโทแพงๆ แต่ไม่เน้นการทำวิจัย (ไม่สน KPI) แต่เน้นสอนคนจำนวนมากๆ และให้จบเร็วๆ (ได้เงินเร็วๆและเยอะๆ) ฯลฯ
และความจำเป็นในการ"หารายได้"ของมหาวิทยาลัยนั้นเอง จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้จบปวส.ไม่มีมหาวิทยาลัยเข้า เพราะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเพียงพอ การรับนักศึกษาเหล่านี้ กลายเป็นภาระให้กับมหาวิทยาลัย เพราะมหาวิทยาลัยต้องเลี้ยงตัวเอง (หากเป็นสมัยก่อน รัฐเป็นผู้แบกรับภาระ มหาวิทยาลัยเองไม่ได้มีส่วนได้หรือเสียโดยตรง แต่ตอนนี้ หากทำแล้วขาดทุน มหาวิทยาลัยก็ต้องคิดหนักว่าจะทำหรือไม่)
ก็เป็นที่น่าเสียดาย การศึกษาน่าจะทำได้ดีกว่านี้...
เฮ้อ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อาทิตย์ พ.ย. 19, 2006 8:55 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
แต่ถ้าไม่ทำ KPI ระบบก็ยังเฉื่อยชาเหลาะแหละอยู่ดีนะครับ
ปัญหาไม่ได้อยู่ ทำไมทำ KPI แต่อยู่ที่วิธีวีดของ KPI มันผิดมากกว่าครับ
อีกอย่าง ถ้าใช้เงินอุดหนุนเหมือนแต่ก่อน ผมก็เห็นเด็กที่ทำตัวเป็นขยะสังคมเข้าไปเรียนมหาลัย แล้วไม่ตั้งใจ อู้ไปวันๆเยอะแยะมากมาย นะครับ ผมมองว่าการออกนอกระบบนี้แหละดี มหาลัยด้อยคุณภาพมากมายที่เป็นตัวถ่วงของระบบจะหมดไป แล้วเราค่อยไปส่งเสริมระบบการศึกษา ด้วยการเพิ่มทุนการศึกษาดีกว่า เพราะว่าเราจะสามารถคัดเลือกโอกาสให้กับเด็กที่สมควรได้มากกว่า
ต่อมาเรื่องของ GPA ตัวผมเองไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะว่ามาตรฐานไม่ชัดเจนในแต่หล่ะโรงเรียน แต่วิธีแก้ไม่ใช่ไม่ใช้ GPA แต่คือเราต้องทำกระบวนการการให้ GPA เป็นมาตรฐานกว่านี้ เช่นทำ balnaced calculation เป็นทำตัวคูณค่าคงที่ เพื่อ weight แต่ล่ะโรงเรียน โดยค่า weight นี้เราอาจจะนำคะแนน O-net มาทำการเรียงเพื่อ weight แล้วทำตัวคูณให้กับโรงเรียน แต่ถ้าทำแบบนี้ จะเกิดปัญหาลูกโซ่ในเรื่องการแย่งที่เรียนกันอีก
เรื่องนี้นะครับ ต้องมองให้ทะลุ อย่ามองแต่ว่าเป็นการ Entrance แต่มันคือระบบโดยรวม
ปัญหาไม่ได้อยู่ ทำไมทำ KPI แต่อยู่ที่วิธีวีดของ KPI มันผิดมากกว่าครับ
อีกอย่าง ถ้าใช้เงินอุดหนุนเหมือนแต่ก่อน ผมก็เห็นเด็กที่ทำตัวเป็นขยะสังคมเข้าไปเรียนมหาลัย แล้วไม่ตั้งใจ อู้ไปวันๆเยอะแยะมากมาย นะครับ ผมมองว่าการออกนอกระบบนี้แหละดี มหาลัยด้อยคุณภาพมากมายที่เป็นตัวถ่วงของระบบจะหมดไป แล้วเราค่อยไปส่งเสริมระบบการศึกษา ด้วยการเพิ่มทุนการศึกษาดีกว่า เพราะว่าเราจะสามารถคัดเลือกโอกาสให้กับเด็กที่สมควรได้มากกว่า
ต่อมาเรื่องของ GPA ตัวผมเองไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะว่ามาตรฐานไม่ชัดเจนในแต่หล่ะโรงเรียน แต่วิธีแก้ไม่ใช่ไม่ใช้ GPA แต่คือเราต้องทำกระบวนการการให้ GPA เป็นมาตรฐานกว่านี้ เช่นทำ balnaced calculation เป็นทำตัวคูณค่าคงที่ เพื่อ weight แต่ล่ะโรงเรียน โดยค่า weight นี้เราอาจจะนำคะแนน O-net มาทำการเรียงเพื่อ weight แล้วทำตัวคูณให้กับโรงเรียน แต่ถ้าทำแบบนี้ จะเกิดปัญหาลูกโซ่ในเรื่องการแย่งที่เรียนกันอีก
เรื่องนี้นะครับ ต้องมองให้ทะลุ อย่ามองแต่ว่าเป็นการ Entrance แต่มันคือระบบโดยรวม
ตอนนี้ชีวิตเด็กซิ่วที่จะมีความหวังใหม่นั้น เริ่มหมดไปแล้ว เวลาถอยลงไปเรื่อย ผู้ใหญ่ทั้งทาง กระทรวงศึกษา ทปอ สกอ สทศ ไม่สนใจใยดีเด็กเลย..... ไม่เปิดโอกาศให้เด็กแก้ตัว....
ขอพี่น้องช่วยภาวนาด้วยนะครับ
ขอพี่น้องช่วยภาวนาด้วยนะครับ
อันนี้ผมเห็นด้วยครับ ว่าผู้ใหญ่ เอาแต่ผลประโยชน์กันละ เหมือน พรบ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเลย เค้าร่างมาเพื่อหาผลประโยชน์เป็นหลัก นักศึกษาระดับ ปวส. กำลังถูกทอดทิ้ง เอาใจแต่เด็ก 4 ปี ทั้งๆที่ราชมงคลมีจุดเด่นของตัวเองที่ ปวช. ปวส.แท้ๆ แล้ว พรบ.นี้ นักศึกษากับอาจารย์ก็ไม่เห็นด้วยจำนวนมาก แต่ผู้ใหญ่ก็โมเมว่าเห็นด้วยหมด แล้วก็มีการปิดบังข้อมูลกับนักศึกษากับอาจารย์ด้วย ไม่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น อยู่ๆจะเปลี่ยนจากสถาบันเป็นมหาลัยก็ทำเลย พอเป็นมหาลัยทีนี้ หาเงินเต็มรูปแบบ แบบว่าค่าเทอมพุ่ง ทีนี้ลูกคนไม่มีตังจะทำไง เฮ้อ หมดกันที กับสิ่งที่โรงเรียนอาชีวะ 28 ที่ ที่เรียกร้องให้เปิดปริญญาตรีของอาชีวศึกษาเมื่อ20 กว่าปีก่อน(ปัจจุบัน 28 โรงเรียนนี้ก็คือ วิทยาเขตในสังกัดสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล) ตอนนี้กลายเป็นจะเป็นปริญญาตรีของเด็กสามัญไปแล้ว จะไม่เอาเด็กสายอาชีพแล้วpar l'amour de dieu เขียน: ตอนนี้ชีวิตเด็กซิ่วที่จะมีความหวังใหม่นั้น เริ่มหมดไปแล้ว เวลาถอยลงไปเรื่อย ผู้ใหญ่ทั้งทาง กระทรวงศึกษา ทปอ สกอ สทศ ไม่สนใจใยดีเด็กเลย..... ไม่เปิดโอกาศให้เด็กแก้ตัว....
ขอพี่น้องช่วยภาวนาด้วยนะครับ
วันที่ 6 และ 12 นี้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาแอดมิชชั่น หรือปัญหาการศึกษาอื่นๆ พบกันที่ ทำเนียบรัฐบาลนะครับ
เยาวชนไทยอย่าอยู่นิ่ง เพื่อการศึกษาที่ดี และพวกเราจะได้เลือกทำในสิ่งที่ตนเองชอบ และตอบแทนแผ่นดินเกิดในภายภาคหน้า ผู้ใหญ่จะเอาเปรียบไม่ได้ เยาวชนไทยต้องรู้จักนำชาติไปในทางที่ถูกต้อง ทุกอย่างจะได้แก้ไข อย่าให้ความคิดที่เป็นเพียงนิยาย ปรับใช้ไม่ได้กับชาติบ้านเมือง มากำหนดชีวิตของเด็กตาดำ สดใส และจะเป็นคนดูแลชาติในวันหน้า
ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยนะครับ
ติดตามรายละเอียดต่างๆได้ที่ http://www.parent-youth.net
พระเจ้าอวยพรครับ
เยาวชนไทยอย่าอยู่นิ่ง เพื่อการศึกษาที่ดี และพวกเราจะได้เลือกทำในสิ่งที่ตนเองชอบ และตอบแทนแผ่นดินเกิดในภายภาคหน้า ผู้ใหญ่จะเอาเปรียบไม่ได้ เยาวชนไทยต้องรู้จักนำชาติไปในทางที่ถูกต้อง ทุกอย่างจะได้แก้ไข อย่าให้ความคิดที่เป็นเพียงนิยาย ปรับใช้ไม่ได้กับชาติบ้านเมือง มากำหนดชีวิตของเด็กตาดำ สดใส และจะเป็นคนดูแลชาติในวันหน้า
ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยนะครับ
ติดตามรายละเอียดต่างๆได้ที่ http://www.parent-youth.net
พระเจ้าอวยพรครับ