อัศจรรย์แห่งฟาติมา

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
St.Gerard
โพสต์: 179
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 11, 2005 10:47 am
ที่อยู่: Phrae
ติดต่อ:

พุธ ม.ค. 10, 2007 6:13 pm

ผมไม่ประหลาดใจเลย  เมื่อได้เห็นอัศจรรย์เกิดขึ้น ณ. ที่แสวงบุญแห่งนี้, แต่ผมจะประหลาดใจมากถ้าหากมันจะไม่เกิดขึ้น. ในคณะแสวงบุญคณะหนึ่งของเรา, ชายคนแรกในกลุ่มได้ลงไปอาบน้ำที่ลูร์ดในตอนเช้า, และเขาก็ได้รับการรักษาให้หายจากขาพิการที่เป็นอยู่มานาน. เขาลุกออกมาจากที่อาบน้ำและแกว่งไม้เท้าของเขาไปมา...เรายังมีวีดีโอเรื่องนี้อยู่เลย
ที่อากิตะ, บุคคล 3 คนได้รับการรักษาจากความพิการเมื่อไปแสวงบุญที่นั่น. มีอยู่คนหนึ่งที่ได้รับอัศจรรย์การรักษาถึงสองครั้ง, คือจากโรคที่หัวเข่าและจากโรคที่หูที่ทำให้ไม่ได้ยิน. คุณพ่อ เจราร์ลด แมคจินนีตี้ พร้อมทั้งผู้แสวงบุญคนอื่นๆต่างรู้สึกปลาบปลื้มอัศจรรย์ใจเป็นอันมาก! เรามีรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้, แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นที่รับทราบอย่างเป็นทางการ เพราะการจะประกาศให้ทราบต้องมีการตรวจสอบมากมาย, ต้องมีรายงานเป็นเอกสารจำนวนมาก, และมีเรื่องที่ต้องติดตามอีกมาก. เราได้รับรู้แต่เพียงว่า พวกเขาได้รับการรักษาให้หายโดยอัศจรรย์จากพระเป็นเจ้า นั่นก็เพียงพอแล้ว.

อัศจรรย์ที่เกิดขึ้น
ในจำนวนอัศจรรย์นับพันรายที่เกิดขึ้นที่ ลูร์ดส, และยังคงมีอยู่ทุกๆวัน, ได้มีการตรวจสอบและรับรองความถูกต้อง, แต่ก็มิได้เผยแพร่ให้ทราบในวงกว้าง, เพราะไม่มีความจำเป็น, เราทราบว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริงและเป็นอัศจรรย์  สิ่งจำเป็นที่เราควรทำก็คือขอบพระคุณในพระเมตตาของพระเป็นเจ้า , สำนึกในพระเมตตาของพระองค์และเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราตลอดไป. เพื่อความรอดของเราและเพื่อที่เราจะได้ใกล้ชิดพระเป็นเจ้าให้มากขึ้น. นี่คือพระประสงค์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการจึงได้ประทานอัศจรรย์ให้เรา, นี่แหละเป็นน้ำพระทัยดีของพระองค์! ดร. มาเรีย ฮาซีล Haesele (in the St. Peter Claver Sodality Journal #12, 1982, page 254) ได้เล่าเรื่องราวอันน่าสนใจเกี่ยวกับชายหนุ่มชาวสวิส 2 คนซึ่งเป็นนักศึกษาจากซูริค. พวกเขาเป็นคนดี, ทำงานหนัก, รับผิดชอบ, น่าตาและบุคลิกดี, ฉลาด,มาจากครอบครัวที่ดี, และเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก. ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต. โรเบิรต์ เอกเลร์, มาจากครอบครัวคาลวินนิสต์. และ ยอห์น วิตตาลี จากครอบครัวคาทอลิกที่ศรัทธา เขาสวมสายจำพวกและสวดสายประคำสม่ำเสมอ. พวกเขาเรียนในมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงและทำคะแนนเรียนได้เกรดที่ดีมาก นั่นหมายถึงอนาคตทางด้านการงานที่ดีตามมา รวมทั้งความสุขทั้งหลายที่โลกพึงมอบให้แก่พวกเขาได้.........แต่เรื่องก็เกิดขึ้น
โรคมะเร็ง
ในปี 1967. โรเบิรต์เจ็บปวดที่คอมาก นายแพทย์ได้ตรวจและระบุว่าเขาเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายและอาจมีเวลาเหลืออยู่ไม่มากนัก คนที่ทราบเรื่องนี้ต่างพากันตกใจ, ยอห์นขอให้ช่วยกันทำนพวารวอนขอความช่วยเหลือจากแม่พระทันทีเพื่อรักษาโรเบิรต์. ในวันสุดท้ายของการทำนพวาร, โรเบิรต์ก็หายจากโรค, ทำความประหลาดใจแก่นายแพทย์จนอึ้งไป.
พระนางนั้นเป็นใครหนอ?
เมื่อหายจากโรค, โรเบิรต์ทราบเรื่องการสวดวอนขอต่อแม่พระสำหรับตัวเขา. เขาอยากรู้จักพระนางผู้ทรงอำนาจนี้ให้มากขึ้น. "พระนางเป็นใคร?" เขาถามยอห์น, " และผมจะรู้จักพระนางได้อย่างไร? ผมยังไม่รู้จักพระนางเลย " ยอห์นเสนอแนะว่า, ในช่วงวันหยุดฤดูหนาวนี้, พวกเขาควรจะพากันไปแสวงบุญที่ลูร์ดสหรือที่ฟาติมาแห่งใดแห่งหนึ่ง. โรเบิรต์ตอบว่า ไปทั้งสองแห่งเลย...และพวกเขาก็ทำตามที่พูด
เหตุผลของการแสวงบุญ
เขามีเหตุผลของเขาเองในการออกเดินทางจากบ้านในขณะที่คนอื่นจะกลับไปยังบ้านของตน....ด้วยเหตุผลที่คนอื่นไม่เคยคิดแม้แต่ผู้ที่เป็นคาทอลิก. เขาเผชิญกับความตายมาแล้ว, แต่ยังคงมีความสงสัยบางอย่าง. เขารู้สึกว่า คำตอบ, หรืออย่างน้อยความเข้าใจบางอย่าง, จะถูกเปิดเผยแก่เขาในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้. เขาเริ่มหลงใหลในพระนางผู้นี้และกระหายที่จะได้รู้จักพระนาง. เหตุใดพระนางจึงมาประจักษ์ ที่นี่ ? และทำไม่พระนางจึงทรงช่วยเหลือเขา, ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่รู้จักคุ้นเคยกับพระนาง. พระเป็นเจ้ามีแผนการบางอย่างสำหรับเขาหรือ? เขาวอนขอให้พระองค์ประทานคำตอบในเรื่องนี้แก่เขาด้วย เพื่อเขาจะได้มีความสงบสันติในจิตใจ. .
สักการะสถาน
พวกเขาทราบมาว่าในระหว่างวันหยุดคริสต์มาส , สักการะสถานทั้งสองแห่งนี้จะรกร้างผู้คน, แต่โรเบิรต์ก็ยังยืนยันว่าเขาจะต้องไปเพื่อจะได้เห็น, ได้รู้ว่าพระนางคือใคร, ทำไมพระนางจึงทรงช่วยเขา, และทำไมพระนางจึงทรงอำนาจจากพระเป็นเจ้ามากมายเช่นนั้น.
ก่อนวันคริสต์มาส
สหายทั้งสองมาถึงฟาติมาประมาณ 10.30 น. ในวันก่อนวันคริสต์มาส และได้ไปที่ Capelinha ซึ่งเป็นโบสถ์เล็กๆสร้างอยู่ไม่ห่างจากที่ที่แม่พระประจักษ์มาเมื่อห้าสิบปีก่อน. สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้, ปัจจุบันถูกห้อมล้อมด้วยจัตุรัสใหญ่ของอาสนวิหาร . วันนั้นฝนตกหนัก ผู้แสวงบุญกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งมารวมกันอยู่ที่บริเวณพระรูปแม่พระสายประคำศักดิ์สิทธิ์. หลายคนตัวสั่นด้วยความหนาวเย็นของลมที่พัดมาจากภูเขา. ณ. ที่ Capelinha แห่งนี้ นักศึกษาทั้งสองได้มองเห็นกลุ่มผู้แสวงบุญที่ศรัทธาต่อแม่พระมาเฝ้าพระนาง,แม้แต่ในค่ำคืนอันศักดิ์สิทธิ์นี้, คุณแม่วัยสาวผู้ยากจนคนหนึ่งสวดภาวนาอย่างตั้งอกตั้งใจจนเป็นที่สังเกตของคนอื่น น้ำตาออกมาจากดวงตาทั้งสองของเธอไหลนองอาบแก้มอันขาวซีด แล้วเธอก็ประคองยกลูกน้อย,ซึ่งนอนอยู่ในผ้าห่มที่อบอุ่น,ขึ้นเบื้องหน้าพระรูปแม่พระฟาติมาแห่งสายประคำศักดิ์สิทธิ์, ครั้งแล้วครั้งเล่า. ภาพของเธอบ่งบอกถึงความทุกข์โศกเศร้าในดวงใจ เธอพร่ำวิงวอนต่อพระแม่ไม่สิ้นสุด. ผู้แสวงบุญชาวโปรตุเกสที่เห็นภาพนี้ต่างอดใจไม่ได้, จึงถามเธอว่า "มีอะไรผิดปกติกับลูกของเธอหรือ?" สตรีผู้นั้นจึงเปิดผ้าห่มออกทำให้เห็นภาพอันเหลือเชื่อของใบหน้าลูกน้อยอายุเพียงสองสัปดาห์ของเธอ.
ทารกน้อยไม่มีดวงตา
ความรู้สึกตกใจและสงสารแผ่กระจายไปทั่วบริเวณนั้น เมื่อทุกคนได้เห็นภาพทารกน้อยผู้ไม่มีดวงตา - ไม่ใช่แต่เพียงลูกตาเท่านั้นที่หายไป ! ผิวหนังจากหน้าผากปกคลุมใบหน้าลงมาจนถึงบริเวณจมูกและปากเป็นผิวราบเรียบ. "ข้าแต่พระมารดาของพระเจ้า. โปรดช่วยลูกและลูกน้อยของลูกด้วยเถิด" คุณแม่ผู้น่าสงสารสวดวิงวอนพลางร้องไห้. "โปรดระลึกถึงความชื่นชมยินดีของพระแม่ที่ได้เห็นพระกุมารแห่งสวรรค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งซึ่งประสูติมาในคืนวันคริสต์มาสนั้น" "ลูกเอ๋ย,แม่ได้ให้กำเนิดลูกโดยที่ไม่มีดวงตา ขอพระแม่อย่าให้ลูกคนนี้เติบโตขึ้นด้วยสภาพเช่นนี้เลย, ข้าแต่พระแม่ผู้ทรงเมตตาต่อบุตรทั้งหลายของอาดัม" เธอร้องไห้และสวดสายประคำต่อไป ผู้แสวงบุญต่างไม่สามารถระงับน้ำตาของตนเอาไว้ได้จึงได้ร่วมกันสวดภาวนาวอนขอสำหรับทารกหญิงน้อยคนนี้. คุณแม่ผู้น่าสงสารสวดภาวนาด้วยเสียงดังขึ้นอีกว่า "พระแม่ฟาติมาแห่งสายประคำศักดิ์สิทธิ์, ลูกจะไม่ยอมไปจากที่นี้ซึ่งถูกทำให้ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการประจักษ์มาของพระแม่, จนกว่าพระแม่จะได้ยินคำภาวนาของลูก" ขณะที่เธอยกลูกน้อยยื่นไปทางพระรูปของแม่พระ, ทารกก็ส่งเสียงร้องไห้. นั่นเป็นเวลาประมาณ เที่ยงคืนกับสามสิบนาทีซึ่งถือกันว่าเป็นเวลาที่องค์พระกุมารประสูติ. คุณแม่เปิดผ้าห่มเพื่อดูว่าทำไมลูกจึงร้องไห้. แล้วเสียงร้องอุทานของคุณแม่ก็ดังไปทั่วบริเวณเป็นที่รับรู้ของทุกคนที่อยู่ที่นั่น. ทุกคนมามุงดูรอบตัวเธอและแสดงความยินดีกับเธอ, เมื่อพวกเขาได้เห็นว่ามีรูเปิดเล็กๆสองรูบริเวณตำแหน่งของดวงตาเกิดขึ้นบนใบหน้าของทารกน้อย รูนั้นค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นดวงตาที่สวยงามเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคน ผู้แสวงบุญต่างเริ่มพากันส่งเสียงสรรเสริญพระเป็นเจ้าและแม่พระ. ทารกน้อยผู้น่ารักหยุดส่งเสียงร้องไห้, และส่งรอยยิ้มให้แก่แม่และคนอื่นๆแทน. นักศึกษาชาวสวิสสองคนนิ่งเงียบรู้สึกสะเทือนใจในเหตุการณ์นี้ เขาทั้งสองเป็นพยานและเห็นกับตาตนเองในอัศจรรย์อันเหลือเชื่อ, ซึ่งจะเป็นเช่นเดียวกับอัศจรรย์อื่นๆ, คือไม่ได้ถูกประกาศให้เป็นที่รับรู้กัน. แต่อัศจรรย์จะยังคงประทับอยู่ในหัวใจของผู้แสวงบุญทุกคน อัศจรรย์นี้เป็นคำตอบให้กับปัญหาของโรเบิรต์หรือเปล่า? บางที, เขาอาจเข้าใจได้แล้วว่า แม่พระเป็นแม่ที่แท้จริงของชาวเราทุกคนมากเท่าๆกับที่ทรงเป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า เขาคงเข้าใจแล้วว่าพระเป็นเจ้าทรงประทานฤทธานุภาพของพระองค์แก่พระมารดาก็เพื่อเปลี่ยนจิตใจของเขา เขาได้รู้ว่าพระเยซูเจ้า,แม่พระ,และนักบุญทั้งหลาย รักเขาด้วยความรักที่ไม่อาจบรรยายได้. เพราะพวกท่านรักสิ่งสร้างทุกชนิดของพระเป็นเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งสร้างที่เป็นพระฉายาลักษณ์ของพระเป็นเจ้า
รู้จักความรัก
บัดนี้, โรเบิรต์เริ่มที่จะรัก.... รักในพระเยซูเจ้า, พระแม่มารีย์, และเพื่อนมนุษย์. โรเบิรต์เปลี่ยนไป. เดี๋ยวนี้เขาได้รับความยินดีจากแม่พระและจากศีลมหาสนิท. หลังจากผ่านประสพการณ์ในคืนวันก่อนคริสต์มาสวันนั้น, เขาก็สงสัยว่าอัศจรรย์อะไรที่ใหญ่กว่ากัน....ทารกน้อยที่ได้รับดวงตาใหม่ , หรือตัวเขาเองที่ได้เห็นความรักของพระเป็นเจ้าและของพระมารดาเป็นครั้งแรก.
สัมผัสพระเจ้า
ทารกน้อยที่ไม่มีดวงตา, หากแม้นว่าทารกนี้จะไม่ได้รับอัศจรรย์การรักษาจากพระเป็นเจ้าเพื่อประโยชน์ของวิญญาณก็ตาม, เธอก็อาจเห็นพระเป็นเจ้าและพระมารดาในชีวิตภายหน้าของเธอได้ด้วยการสั่งสอนจากครอบครัว. ขณะที่โรเบิรต์มีดวงตาที่จะมองเห็น, แต่ตาบอดต่อความรักอันลึกล้ำของพระเป็นเจ้าและของแม่พระ. เขาเชื่อว่าเขาได้รับอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งซึ่งยิ่งใหญ่กว่าการหายจากโรคมะเร็ง, และอาจยิ่งใหญ่การอัศจรรย์ที่ทารกน้อยนั้นได้รับด้วย. เขามีสันติในจิตใจ, และได้ตระหนักรู้ว่าแม่พระทรงเป็นแม่ของเขา! เมื่อโรเบิรต์ได้เข้ามาอยู่ในพระศาสนาจักรคาทอลิกแล้วพร้อมด้วยพ่อแม่ของเขาในช่วงวันหยุดพักร้อน, ทั้งเขาและยอห์นได้ไปที่อเมริกาใต้เพื่อทำงานเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือคนพิการ. เขาไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว. พวกเขาได้สัมผัสพระเป็นเจ้า ณ. สักการะสถานแห่งแม่พระ...เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ

รูปภาพ

                                                                                                              by Dr. Rosalie Ann Turton
                                                                        ที่มา http://uk.geocities.com/palangjai2004/F ... racle.html
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ม.ค. 10, 2007 7:37 pm

เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ครับ

ซึ้งจัง ::008::
poloplow
โพสต์: 402
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 11, 2006 11:01 pm

พฤหัสฯ. ม.ค. 11, 2007 8:52 pm

ซึ้งมาก ๆ เลยครับ  แม่พระทรงพระเมตตาต่อพวกเราทุกคนจริง ๆ : xemo026 : : emo045 :
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

ศุกร์ ม.ค. 12, 2007 8:03 am

อ่านสารจากแม่พระเดือนนี้ประกอบด้วยสิ จะซึ้ง น้ำตาไหลพรากเป็นเผาเต่าเชียวละ ::008::
ตอบกลับโพส