เมื่อก่อนเมื่อรับเถ้า พระสงฆ์จะสวดว่า
จงกลับใจแล้วใช้โทษบาป
คราวนี้พระสงฆ์สวดว่า
จงกลับใจและเชื่อในพระวรสาร
ท่านใดทราบนัย ว่าทำไมจึงเปลี่ยน
กรุณาแถลงไขด้วย
ทำไมคาทอลิกไม่ค่อยเชื่อพระวรสารหรือ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
แล้วแต่คุณพ่อผู้โปรยเถ้าไม่ใช่หรอครับ
เป็นรูปแบบตายตัวหรอ :huh:
รอผู้รู้มาตอบครับ
ส่วนเรื่อง "จงกลับใจและเชื่อพระวรสารเถิด"
ในมุมมองของผมคือให้เราสำนึกว่าเราเป็นคนบาปครับ และขอให้เชื่อฟังพระวาจาของพระองค์ให้มากขึ้นกว่านี้
เพื่อจะได้ไม่ตกไปอยู่ในบาปอีกครับ
เป็นรูปแบบตายตัวหรอ :huh:
รอผู้รู้มาตอบครับ
ส่วนเรื่อง "จงกลับใจและเชื่อพระวรสารเถิด"
ในมุมมองของผมคือให้เราสำนึกว่าเราเป็นคนบาปครับ และขอให้เชื่อฟังพระวาจาของพระองค์ให้มากขึ้นกว่านี้
เพื่อจะได้ไม่ตกไปอยู่ในบาปอีกครับ
เวลาโปรยเถ้าบนศีรษะ พระสงฆ์จะพูดเตือนใจผู้ที่มารับเถ้าทีละคนว่า
"จงกลับใช้ใช้โทษบาป และเชื่อพระวรสารเถิด" ซึ่งเป็นข้อความที่มาจาก มาระโก บทที่ 1 ข้อ 15
และ "มนุษย์เอ๋ย จงระลึกเถิดว่า เจ้าเป็นแต่เถ้าธุลี และจะกลับเป็นเถ้าธุลีอีก" เป็นข้อความที่เทียบมาจาก ปฐมกาล บทที่ 3 ข้อ 19
คำเตือนใจนี้น่าจะประกาศให้มนุษย์ทุกคน และในเทศกาลมหาพรตก็ต้องเตือนใจคริสตชนเป็นพิเศษ ให้เรากลับใจ เพราะคริสตชนต้องกลับใจอยู่เสมอ คำว่ากลับใจในที่นี้ ไม่ใช่ การกลับไปกลับมา แต่หมายถึงการฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิตให้ดียิ่งขึ้น แก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่มี ทีละเรื่อง ๆ คงยากที่จะมีใครกลับใจแบบสมบูรณ์ทุกด้าน เลิกทำบาปหรือความผิดบกพร่องได้อย่างสิ้นเชิงในทันที ส่วนการเชื่อพระวรสาร หรือข่าวดี ก็คือ เราคริสตชนต้องรับฟังข่าวดีของพระเยซูเจ้า และนำไปปฏิบัติตาม ถึงจะเป็นการเชื่อที่สมบูรณ์ ซึ่งแน่นอน หลาย ๆ คนก็ยังไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสอน อาจจะทำตามพระองค์สอนแค่บางเรื่อง ดังนั้น เราจึงต้องพยายามที่จะทำตามคำสอนของพระเยซูเจ้าให้มากขึ้น เราถึงจะเป็นผู้ที่เชื่อในพระวรสาร(ข่าวดี)อย่างแท้จริง
"จงกลับใช้ใช้โทษบาป และเชื่อพระวรสารเถิด" ซึ่งเป็นข้อความที่มาจาก มาระโก บทที่ 1 ข้อ 15
และ "มนุษย์เอ๋ย จงระลึกเถิดว่า เจ้าเป็นแต่เถ้าธุลี และจะกลับเป็นเถ้าธุลีอีก" เป็นข้อความที่เทียบมาจาก ปฐมกาล บทที่ 3 ข้อ 19
คำเตือนใจนี้น่าจะประกาศให้มนุษย์ทุกคน และในเทศกาลมหาพรตก็ต้องเตือนใจคริสตชนเป็นพิเศษ ให้เรากลับใจ เพราะคริสตชนต้องกลับใจอยู่เสมอ คำว่ากลับใจในที่นี้ ไม่ใช่ การกลับไปกลับมา แต่หมายถึงการฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิตให้ดียิ่งขึ้น แก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่มี ทีละเรื่อง ๆ คงยากที่จะมีใครกลับใจแบบสมบูรณ์ทุกด้าน เลิกทำบาปหรือความผิดบกพร่องได้อย่างสิ้นเชิงในทันที ส่วนการเชื่อพระวรสาร หรือข่าวดี ก็คือ เราคริสตชนต้องรับฟังข่าวดีของพระเยซูเจ้า และนำไปปฏิบัติตาม ถึงจะเป็นการเชื่อที่สมบูรณ์ ซึ่งแน่นอน หลาย ๆ คนก็ยังไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสอน อาจจะทำตามพระองค์สอนแค่บางเรื่อง ดังนั้น เราจึงต้องพยายามที่จะทำตามคำสอนของพระเยซูเจ้าให้มากขึ้น เราถึงจะเป็นผู้ที่เชื่อในพระวรสาร(ข่าวดี)อย่างแท้จริง
ที่จะกล่าวต่อไปนี้ผมไม่ยืนยันนะครับ แต่จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า คำพูดที่ว่า"จงกลับใจและเชื่อในพระวรสารเถิด"นี้ใช้กันมานานแล้วตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กน่ะครับ ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คิดว่าใช่ ยิ่งพูดยิ่งงง อิอิPhulasso เขียน: เมื่อก่อนเมื่อรับเถ้า พระสงฆ์จะสวดว่า
จงกลับใจแล้วใช้โทษบาป
คราวนี้พระสงฆ์สวดว่า
จงกลับใจและเชื่อในพระวรสาร
ท่านใดทราบนัย ว่าทำไมจึงเปลี่ยน
กรุณาแถลงไขด้วย
- BARKER BARBER
- โพสต์: 226
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 8:34 pm
- ที่อยู่: XAVIER HALL / PRISONMINISTRY
อย่างงี้ก็แสดงว่า ใช้มาตั้งแต่ 40ปีก่อนแล้วดิ ครับ พี่ตั๊ว :afro:
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
แล้วแต่คุณพ่อไม่ใช่เหรอค่ะ ว่าอยากจะใช้อันไหน
ที่เรียนถามเพราะ ทั้งสองเวอร์ชั่น เป็นคนละความหมายเดียวกันเลย~@Little lamb@~ เขียน: แล้วแต่คุณพ่อไม่ใช่เหรอค่ะ ว่าอยากจะใช้อันไหน
ที่ให้กลับใจและใช้โทษบาป น่าจะเป็นแบบเก่าเพราะการเอาเถ้ามาทาร่างกาย
หมายถึง ความทุกข็หรืออยู่ในทุกข์
เป็นความหมายแรกของการรับเถ้า เพื่อเป็นทุกข์ถึงบาป
แต่มาแบบสอง ให้เชื่อในพระวรสาร
เลยสงสัยถึง หลักการนี้ว่ามาได้อย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไรจ้า
ขอท่านผู้รู้ช่วยแจ้งด้วย :huh: :huh: :huh:
โอ เอาเถ้ามาทาร่างกาย อืม น่าสนนะ ทำแบบเอาโคลนที่ทะเลเด๊ดซีมาทาตัวเป็นยาบำรุงผิว แล้วไปนอนแอ้งแม้งลอยไปลอยมา เย้ยฟ้ากลางแดดในทะเล หุหุPhulasso เขียน:ที่เรียนถามเพราะ ทั้งสองเวอร์ชั่น เป็นคนละความหมายเดียวกันเลย~@Little lamb@~ เขียน: แล้วแต่คุณพ่อไม่ใช่เหรอค่ะ ว่าอยากจะใช้อันไหน
ที่ให้กลับใจและใช้โทษบาป น่าจะเป็นแบบเก่าเพราะการเอาเถ้ามาทาร่างกาย
หมายถึง ความทุกข็หรืออยู่ในทุกข์
เป็นความหมายแรกของการรับเถ้า เพื่อเป็นทุกข์ถึงบาป
แต่มาแบบสอง ให้เชื่อในพระวรสาร
เลยสงสัยถึง หลักการนี้ว่ามาได้อย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไรจ้า
ขอท่านผู้รู้ช่วยแจ้งด้วย :huh: :huh: :huh:
แต่ที่เมืองไทยคงไม่เหมาะ เพราะเอาเถ้าทาตัวแล้วโดดไปลอยในแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากน้ำจะไม่เค็มจนทำให้ผู้โดดลงไปลอยไปลอยมาได้แล้ว ยังเสี่ยงต่อการโดนเรือข้ามฟากและเรือด่วยเสย อิอิ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ก.พ. 26, 2007 9:16 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
แสดงว่าเวลาโปรยเถ้า คุณพ่อไม่ได้ใช้ข้อความที่พิมพ์อยู่ในหนังสือบทอ่านสิครับ เพราะที่ผมตอบไปคราวแรกแล้ว ว่ามีอยู่ 2 แบบ ไม่ใช่เอาแบบที่ 1 มาแยกเป็น 2 ข้อความ แล้วก็เห็นว่าส่วนมากไม่ได้เอาเถ้ามาป้ายที่หน้าผากเป็นรูปกางเขน แต่ทำแบบแปะโป้งที่หน้าผากมากกว่า หรือไม่ก็โรยเถ้าบนศีรษะ นี่แหละผลของความไม่สนใจศึกษาพิธีกรรมให้ดี ๆ
จริงๆ ศาสนาที่นับถือพระเจ้า ก็ไม่ต่างกันเลยเน๊าะ... จากการได้อยู่กับนักศึกษามุสลิม ผมเคยบอกเค้าว่า การกลับใจเป็นการกระทำที่มีค่ามาก เพราะการทำความดี ใครๆก็ทำได้ การทำความเลวก็ด้วย ใครๆก็ทำได้ทั้งนั้น แต่การกลับใจนั้นมีส่วนน้อย..... แล้วผมก็ถามเค้าว่า แล้วมุสลิม ถ้าทำผิด ความผิดนั้นจะเป็นยังไงเหรอ...... เค้าก็บอกผมว่า มุสลิมก็คงไม่ต่างกันหรอก ถ้าเราคิดว่าจะทำผิด แล้วเรานึกถึงอัลลอห์ แล้วก็กลับใจไม่ทำ และไม่ทำอีก นั่นจะได้บุญมาก ต้องเกรงกลัวต่ออัลลอห์.......
พระเจ้ายิ่งใหญ่.... มีโรงเรียนหลายโรงให้ลูกๆ เพื่อฝึกลูกๆ ให้เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของพระองค์....
พระเจ้าอวยพรครับ
พระเจ้ายิ่งใหญ่.... มีโรงเรียนหลายโรงให้ลูกๆ เพื่อฝึกลูกๆ ให้เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของพระองค์....
พระเจ้าอวยพรครับ