ทำไมคาทอลิกไม่ค่อยเชื่อพระวรสารหรือ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
Phulasso
โพสต์: 1236
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 24, 2006 10:18 am
ที่อยู่: Thailand

พุธ ก.พ. 21, 2007 9:21 pm

เมื่อก่อนเมื่อรับเถ้า พระสงฆ์จะสวดว่า
จงกลับใจแล้วใช้โทษบาป
คราวนี้พระสงฆ์สวดว่า

จงกลับใจและเชื่อในพระวรสาร

ท่านใดทราบนัย ว่าทำไมจึงเปลี่ยน
กรุณาแถลงไขด้วย  ::003::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 12:58 am

แล้วแต่คุณพ่อผู้โปรยเถ้าไม่ใช่หรอครับ

เป็นรูปแบบตายตัวหรอ :huh:

รอผู้รู้มาตอบครับ

ส่วนเรื่อง "จงกลับใจและเชื่อพระวรสารเถิด"

ในมุมมองของผมคือให้เราสำนึกว่าเราเป็นคนบาปครับ และขอให้เชื่อฟังพระวาจาของพระองค์ให้มากขึ้นกว่านี้
เพื่อจะได้ไม่ตกไปอยู่ในบาปอีกครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 8:27 am

เวลาโปรยเถ้าบนศีรษะ พระสงฆ์จะพูดเตือนใจผู้ที่มารับเถ้าทีละคนว่า
"จงกลับใช้ใช้โทษบาป และเชื่อพระวรสารเถิด" ซึ่งเป็นข้อความที่มาจาก มาระโก บทที่ 1 ข้อ 15
และ "มนุษย์เอ๋ย จงระลึกเถิดว่า เจ้าเป็นแต่เถ้าธุลี และจะกลับเป็นเถ้าธุลีอีก" เป็นข้อความที่เทียบมาจาก ปฐมกาล บทที่ 3 ข้อ 19

คำเตือนใจนี้น่าจะประกาศให้มนุษย์ทุกคน และในเทศกาลมหาพรตก็ต้องเตือนใจคริสตชนเป็นพิเศษ ให้เรากลับใจ เพราะคริสตชนต้องกลับใจอยู่เสมอ คำว่ากลับใจในที่นี้ ไม่ใช่ การกลับไปกลับมา แต่หมายถึงการฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิตให้ดียิ่งขึ้น แก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ที่มี ทีละเรื่อง ๆ คงยากที่จะมีใครกลับใจแบบสมบูรณ์ทุกด้าน เลิกทำบาปหรือความผิดบกพร่องได้อย่างสิ้นเชิงในทันที  ส่วนการเชื่อพระวรสาร หรือข่าวดี ก็คือ เราคริสตชนต้องรับฟังข่าวดีของพระเยซูเจ้า และนำไปปฏิบัติตาม ถึงจะเป็นการเชื่อที่สมบูรณ์ ซึ่งแน่นอน หลาย ๆ คนก็ยังไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสอน อาจจะทำตามพระองค์สอนแค่บางเรื่อง ดังนั้น เราจึงต้องพยายามที่จะทำตามคำสอนของพระเยซูเจ้าให้มากขึ้น เราถึงจะเป็นผู้ที่เชื่อในพระวรสาร(ข่าวดี)อย่างแท้จริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 8:39 am

Phulasso เขียน: เมื่อก่อนเมื่อรับเถ้า พระสงฆ์จะสวดว่า
จงกลับใจแล้วใช้โทษบาป
คราวนี้พระสงฆ์สวดว่า

จงกลับใจและเชื่อในพระวรสาร

ท่านใดทราบนัย ว่าทำไมจึงเปลี่ยน
กรุณาแถลงไขด้วย  ::003::
ที่จะกล่าวต่อไปนี้ผมไม่ยืนยันนะครับ แต่จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า คำพูดที่ว่า"จงกลับใจและเชื่อในพระวรสารเถิด"นี้ใช้กันมานานแล้วตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กน่ะครับ ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่คิดว่าใช่  ยิ่งพูดยิ่งงง อิอิ  ::004::  ::011::  ::020::
ภาพประจำตัวสมาชิก
BARKER BARBER
โพสต์: 226
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 8:34 pm
ที่อยู่: XAVIER HALL / PRISONMINISTRY

พฤหัสฯ. ก.พ. 22, 2007 3:45 pm

: xemo033 : อย่างงี้ก็แสดงว่า ใช้มาตั้งแต่ 40ปีก่อนแล้วดิ ครับ พี่ตั๊ว :afro:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 8:25 am

BARKER BARBER เขียน: : xemo033 : อย่างงี้ก็แสดงว่า ใช้มาตั้งแต่ 40ปีก่อนแล้วดิ ครับ พี่ตั๊ว :afro:
น่าจะใช่ 40 ปีแสงก่อนน่ะ เหอ เหอ  ::010::  ::006::  ::018::
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 2:35 pm

แล้วแต่คุณพ่อไม่ใช่เหรอค่ะ  ว่าอยากจะใช้อันไหน 
Phulasso
โพสต์: 1236
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 24, 2006 10:18 am
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ก.พ. 23, 2007 6:02 pm

~@Little lamb@~ เขียน: แล้วแต่คุณพ่อไม่ใช่เหรอค่ะ  ว่าอยากจะใช้อันไหน 
ที่เรียนถามเพราะ ทั้งสองเวอร์ชั่น เป็นคนละความหมายเดียวกันเลย

ที่ให้กลับใจและใช้โทษบาป น่าจะเป็นแบบเก่าเพราะการเอาเถ้ามาทาร่างกาย
หมายถึง ความทุกข็หรืออยู่ในทุกข์ 
เป็นความหมายแรกของการรับเถ้า เพื่อเป็นทุกข์ถึงบาป
แต่มาแบบสอง ให้เชื่อในพระวรสาร
เลยสงสัยถึง หลักการนี้ว่ามาได้อย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไรจ้า
ขอท่านผู้รู้ช่วยแจ้งด้วย :huh: :huh: :huh:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

จันทร์ ก.พ. 26, 2007 9:15 am

Phulasso เขียน:
~@Little lamb@~ เขียน: แล้วแต่คุณพ่อไม่ใช่เหรอค่ะ  ว่าอยากจะใช้อันไหน 
ที่เรียนถามเพราะ ทั้งสองเวอร์ชั่น เป็นคนละความหมายเดียวกันเลย

ที่ให้กลับใจและใช้โทษบาป น่าจะเป็นแบบเก่าเพราะการเอาเถ้ามาทาร่างกาย
หมายถึง ความทุกข็หรืออยู่ในทุกข์ 
เป็นความหมายแรกของการรับเถ้า เพื่อเป็นทุกข์ถึงบาป
แต่มาแบบสอง ให้เชื่อในพระวรสาร
เลยสงสัยถึง หลักการนี้ว่ามาได้อย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไรจ้า
ขอท่านผู้รู้ช่วยแจ้งด้วย :huh: :huh: :huh:
โอ เอาเถ้ามาทาร่างกาย อืม น่าสนนะ ทำแบบเอาโคลนที่ทะเลเด๊ดซีมาทาตัวเป็นยาบำรุงผิว แล้วไปนอนแอ้งแม้งลอยไปลอยมา เย้ยฟ้ากลางแดดในทะเล หุหุ  ::011::  :grin:

แต่ที่เมืองไทยคงไม่เหมาะ เพราะเอาเถ้าทาตัวแล้วโดดไปลอยในแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากน้ำจะไม่เค็มจนทำให้ผู้โดดลงไปลอยไปลอยมาได้แล้ว ยังเสี่ยงต่อการโดนเรือข้ามฟากและเรือด่วยเสย อิอิ  :grin:  ::011::
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ก.พ. 26, 2007 9:16 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ ก.พ. 26, 2007 4:36 pm

แสดงว่าเวลาโปรยเถ้า คุณพ่อไม่ได้ใช้ข้อความที่พิมพ์อยู่ในหนังสือบทอ่านสิครับ เพราะที่ผมตอบไปคราวแรกแล้ว ว่ามีอยู่ 2 แบบ ไม่ใช่เอาแบบที่ 1 มาแยกเป็น 2 ข้อความ แล้วก็เห็นว่าส่วนมากไม่ได้เอาเถ้ามาป้ายที่หน้าผากเป็นรูปกางเขน แต่ทำแบบแปะโป้งที่หน้าผากมากกว่า หรือไม่ก็โรยเถ้าบนศีรษะ นี่แหละผลของความไม่สนใจศึกษาพิธีกรรมให้ดี ๆ
amour

พุธ มี.ค. 14, 2007 12:40 pm

จริงๆ ศาสนาที่นับถือพระเจ้า ก็ไม่ต่างกันเลยเน๊าะ... จากการได้อยู่กับนักศึกษามุสลิม ผมเคยบอกเค้าว่า การกลับใจเป็นการกระทำที่มีค่ามาก  เพราะการทำความดี ใครๆก็ทำได้ การทำความเลวก็ด้วย ใครๆก็ทำได้ทั้งนั้น แต่การกลับใจนั้นมีส่วนน้อย..... แล้วผมก็ถามเค้าว่า แล้วมุสลิม ถ้าทำผิด ความผิดนั้นจะเป็นยังไงเหรอ...... เค้าก็บอกผมว่า มุสลิมก็คงไม่ต่างกันหรอก ถ้าเราคิดว่าจะทำผิด แล้วเรานึกถึงอัลลอห์ แล้วก็กลับใจไม่ทำ และไม่ทำอีก นั่นจะได้บุญมาก ต้องเกรงกลัวต่ออัลลอห์.......   

พระเจ้ายิ่งใหญ่.... มีโรงเรียนหลายโรงให้ลูกๆ เพื่อฝึกลูกๆ ให้เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของพระองค์....

พระเจ้าอวยพรครับ
ตอบกลับโพส