เสียอารมณ์....รอยยิ้มผมไม่มีค่าเหรอนี่....
(((โดยปรกติผมไปมิซซาอังกฤษ... ผมมักจะพูดว่า peace be with u. แล้วก็จะยิ้มโบกไม้โบกมือ เซไฮ เซเฮลโล่กันบ้าง อะไรประมาณนี้))) แต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่างไปมิซซาอังกฤษ เลยต้องไปรอบไทย... ผมก็จะติด... ช่วงที่มอบสันติ ผมก็ชอบที่จะยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม แต่ผมรู้สึกว่า รอยยิ้มของตัวเองไม่มีค่าอะไรเลย.... คือจริงๆ ผมก็ไม่ได้หวังว่าตัวเองจะมีค่าอะไรให้ใครมาสนใจ แต่ทำไมเมื่อ เรายิ้มให้กัน ทำไมต้องทำหน้าบึ้งใส่.... ทำหน้าเหมือนว่า ไอ้นี้ใครมายิ้มให้ฉัน.... เฮ้อ...เครียด ได้แต่สวด สวดให้พระอวยพรเค้า....
แค่อยากระบายหน่ะครับ... มันเป็นความรู้สึกที่แย่พอตัวเหมือนกันนะ ที่แบบว่า ยิ้มให้ แล้วก็เหมือนไม่รับยิ้มจากเราอ่ะ บางคนเห็นเรายิ้มหันไปพร้อมกับหางตาอีก...ไม่อยากไปมิซซาไทยอีกแล้ว ไปแล้วใจก็รู้สึกเป็นบาป ไม่อยากคิดกับเค้าในทางไม่ดี แต่มันบาปในสายเลือด อดคิดไม่ได้....
พระเจ้าอวยพรเขาครับ.....
แค่อยากระบายหน่ะครับ... มันเป็นความรู้สึกที่แย่พอตัวเหมือนกันนะ ที่แบบว่า ยิ้มให้ แล้วก็เหมือนไม่รับยิ้มจากเราอ่ะ บางคนเห็นเรายิ้มหันไปพร้อมกับหางตาอีก...ไม่อยากไปมิซซาไทยอีกแล้ว ไปแล้วใจก็รู้สึกเป็นบาป ไม่อยากคิดกับเค้าในทางไม่ดี แต่มันบาปในสายเลือด อดคิดไม่ได้....
พระเจ้าอวยพรเขาครับ.....
เฮอๆๆ ยิ้มไปเถอะค่ะ รอยยิ้มของทุกๆคนมีค่าค่ะ
ยิ้มให้ทุกคน ไม่แน่รอยยิ้มของคุณอาจสร้างหลายๆสิ่งให้กะคนบางคนได้นะ
อย่างน้อยก็มิตรภาพที่คุณส่งให้เค้าไปทางรอยยิ้มไงค่ะ
ส่วนวัดเรา เราชอบมากๆเลยเวลาที่ทุกคนหันมาไหว้แล้วยิ้มให้กัน
ป้าคนที่นั่งข้างๆเรา(ป้าโซปราโน)ก็จะหันมายิ้ม สวมกอดเรา ทุกคนก็จะ ไหว้ ยิ้มทักทายกัน
อย่างมีความสุข และส่งผ่านความรักความสุขกับทางรอยยิ้มของแต่ละคน...
ถ้าเรานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเราก็จะหันไปกอด หรือ แสดงความรักด้วยวิธีอื่นๆ
ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ
ยิ้มให้ทุกคน ไม่แน่รอยยิ้มของคุณอาจสร้างหลายๆสิ่งให้กะคนบางคนได้นะ
อย่างน้อยก็มิตรภาพที่คุณส่งให้เค้าไปทางรอยยิ้มไงค่ะ
ส่วนวัดเรา เราชอบมากๆเลยเวลาที่ทุกคนหันมาไหว้แล้วยิ้มให้กัน
ป้าคนที่นั่งข้างๆเรา(ป้าโซปราโน)ก็จะหันมายิ้ม สวมกอดเรา ทุกคนก็จะ ไหว้ ยิ้มทักทายกัน
อย่างมีความสุข และส่งผ่านความรักความสุขกับทางรอยยิ้มของแต่ละคน...
ถ้าเรานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเราก็จะหันไปกอด หรือ แสดงความรักด้วยวิธีอื่นๆ
ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ผมเจอไหว้แบบนักมวยอ่ะ กวาดไปรอบๆ
คุณพ่อวัดเราบอกตอนทำพิธียังเเอบขำเพราะเห็นสัตบุรุษหันไปไหว้กำเเพงวัด ๕๕๕
พ่อบอกว่าการมอบสันติสุขสมัยนี้ต่างกับสมัยก่อน (สมัยก่อนเค้าให้สันติสุขกันด้วยใจจริงๆ สมัยนี้ทำเหมือนเป็นเเค่พิธีกรรมหนึ่ง(เลยไม่ทราบว่าปกติมิสซานี่มาด้วยใจหรือว่าตามๆเค้ามากัน(เเต่มาก็ยังดีกว่าไม่มาเลยค่ะๆ)))
พ่อบอกว่าการมอบสันติสุขสมัยนี้ต่างกับสมัยก่อน (สมัยก่อนเค้าให้สันติสุขกันด้วยใจจริงๆ สมัยนี้ทำเหมือนเป็นเเค่พิธีกรรมหนึ่ง(เลยไม่ทราบว่าปกติมิสซานี่มาด้วยใจหรือว่าตามๆเค้ามากัน(เเต่มาก็ยังดีกว่าไม่มาเลยค่ะๆ)))
เมื่อสมัยก่อนที่คุณพ่อวิชาเป็นเจ้าวัดที่ปากลัด ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กช่วยมิสซาอยู่
ทุกครั้งที่ต้องไหว้ซึ่งกันและกัน คุณพ่อวิชาก็จะหันมาไหว้เด็กช่วยมิสซาทั้งสองฟากและยิ้มให้ทุกครั้งด้วย
และคุณพ่อก็สอนด้วยว่า เราควรที่จะยิ้มในขณะที่ไหว้ให้กันและกัน เพื่อมอบสันติสุขอย่างจริงใจให้แก่กันและกันด้วยครับ
ทุกครั้งที่ต้องไหว้ซึ่งกันและกัน คุณพ่อวิชาก็จะหันมาไหว้เด็กช่วยมิสซาทั้งสองฟากและยิ้มให้ทุกครั้งด้วย
และคุณพ่อก็สอนด้วยว่า เราควรที่จะยิ้มในขณะที่ไหว้ให้กันและกัน เพื่อมอบสันติสุขอย่างจริงใจให้แก่กันและกันด้วยครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เอาน่าครับ ถือว่าเรามีไมตรีที่ดีต่อเค้าครับ อย่าคิดมากเลย
นี้คือโลกแห่งความจริงpar l'amour de dieu เขียน: (((โดยปรกติผมไปมิซซาอังกฤษ... ผมมักจะพูดว่า peace be with u. แล้วก็จะยิ้มโบกไม้โบกมือ เซไฮ เซเฮลโล่กันบ้าง อะไรประมาณนี้))) แต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่างไปมิซซาอังกฤษ เลยต้องไปรอบไทย... ผมก็จะติด... ช่วงที่มอบสันติ ผมก็ชอบที่จะยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม แต่ผมรู้สึกว่า รอยยิ้มของตัวเองไม่มีค่าอะไรเลย.... คือจริงๆ ผมก็ไม่ได้หวังว่าตัวเองจะมีค่าอะไรให้ใครมาสนใจ แต่ทำไมเมื่อ เรายิ้มให้กัน ทำไมต้องทำหน้าบึ้งใส่.... ทำหน้าเหมือนว่า ไอ้นี้ใครมายิ้มให้ฉัน.... เฮ้อ...เครียด ได้แต่สวด สวดให้พระอวยพรเค้า....
แค่อยากระบายหน่ะครับ... มันเป็นความรู้สึกที่แย่พอตัวเหมือนกันนะ ที่แบบว่า ยิ้มให้ แล้วก็เหมือนไม่รับยิ้มจากเราอ่ะ บางคนเห็นเรายิ้มหันไปพร้อมกับหางตาอีก...ไม่อยากไปมิซซาไทยอีกแล้ว ไปแล้วใจก็รู้สึกเป็นบาป ไม่อยากคิดกับเค้าในทางไม่ดี แต่มันบาปในสายเลือด อดคิดไม่ได้....
พระเจ้าอวยพรเขาครับ.....
ดูพระเยซูสิ ไม่ใช่แค่ยิ้มให้เขานะ
มาตายให้เขาดู มีกี่คนในโลกที่แยแส
แล้วเราเป็นใคร แค่ยิ้มให้แล้วหวังจะได้ยิ้มตอบ
แล้วพระจะให้รางวัลอะไรเรา ถ้าเราได้คืนแล้ว
เป็นการฝึกการรักเพื่อนมนุษย์ที่ดีนะ
นี่ขนาดไม่ใช่ศัตรูเรายังสะท้าน แล้วถ้าเป็นศัตรูล่ะ
บทเรียนนี้กำลังสอนให้รักได้แม้แต่ศัตรู เริ่มฝึกได้เลยจ้า
เห็นด้วยกะพี่ตั้วครับ อย่าไปสนใจไรเลยครับ ผมว่านะ สักวัน เค้าจะเข้าใจเอง ว่าเรามอบสันติสุขให้เค้าด้วยรอยยิ้มFlorian เขียน: ผมว่าส่วนใหญ่ก็เป็นแบบที่น้องเจ้าของกระทู้เล่ามาแหละครับ ผมเห็นหลายคนสักแต่ไหว้ ไหว้ไปทั่ว ไหว้ใครบ้างไม่รู้หรอก กระถงกระถาง เสาเสิว พี่แกไหว้หมด ถือว่าเข้าไม่ถึงความหมายของพิธีกรรม
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
มาวัดพี่สิ รับรองได้รับรอยยิ้มจากพี่ แน่นอน
ยิ้มไปเถอะน้องเอ้ย อมยิ้มตุ่ย ๆ เวลาหันไปแล้วไม่มีใครสบตา แล้วยิ้มกว้าง ๆ ถ้าใครพลาดมาสบตาเรา ครั้งที่สองครั้งที่สาม สี่ ห้า ก็จะมีคนจำเราเราได้ สักพักเดี่ยวเขาก็ยิ้มตอบกลับมาเองแหละ หลัง ๆ ก็กอดกันเลยก็มี
ยิ้มเถอะนะ ยิ้มเถอะ ถือว่ายิ้มให้พระก็แล้วกัน
ยิ้มไปเถอะน้องเอ้ย อมยิ้มตุ่ย ๆ เวลาหันไปแล้วไม่มีใครสบตา แล้วยิ้มกว้าง ๆ ถ้าใครพลาดมาสบตาเรา ครั้งที่สองครั้งที่สาม สี่ ห้า ก็จะมีคนจำเราเราได้ สักพักเดี่ยวเขาก็ยิ้มตอบกลับมาเองแหละ หลัง ๆ ก็กอดกันเลยก็มี
ยิ้มเถอะนะ ยิ้มเถอะ ถือว่ายิ้มให้พระก็แล้วกัน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อย่าคิดมากไปเลย คุณพ่อท่านสั่งให้มอบสันติสุขให้กันนะครับ ไม่ได้สั่งว่า "ให้เรามอบรอยยิ้มให้แก่กันนี่ " อิอิ
จงยิ้มแก่คนที่ไม่ยิ้มตอบเสมอ เพราะรอยยิ้มของท่านเป็นของขวัญจากพระเจ้า
จงยิ้มแก่คนที่ไม่ยิ้มตอบเสมอ เพราะรอยยิ้มของท่านเป็นของขวัญจากพระเจ้า
แดนเจอประจำทุกครั้ง ที่ร่วมมิสซา เจอตอนมอบสันติ ก่อเหมือนักร้องบนเวทีนะครับ คือไว้กวาด รอบตัว (อันนี้ไม่ตำนิ) แต่หน้าบางคนเหมือนเคียดแค้นอารัยนั๊กหนา นี้อะครับน่าคิด แต่ก็ปลอบใจตัวเองทุกครั้งพระก็มอบสันติให้เราเรามอบให้คนอื่น แล้วยิ้มอย่างน้อบน้อมกับคนอื่น และกับตัวเราเองเพื่อปลอบใจ
อิ อิ เหอ เหอ หลายวันก่อนนู้น ผมเจอพี่ที่ฟาติมา หวัดดีพี่ ยิ้มให้พี่ด้วย พี่ไม่เห็นยิ้มให้ผมเลย หุ หุจอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: มาวัดพี่สิ รับรองได้รับรอยยิ้มจากพี่ แน่นอน
ยิ้มไปเถอะน้องเอ้ย อมยิ้มตุ่ย ๆ เวลาหันไปแล้วไม่มีใครสบตา แล้วยิ้มกว้าง ๆ ถ้าใครพลาดมาสบตาเรา ครั้งที่สองครั้งที่สาม สี่ ห้า ก็จะมีคนจำเราเราได้ สักพักเดี่ยวเขาก็ยิ้มตอบกลับมาเองแหละ หลัง ๆ ก็กอดกันเลยก็มี
ยิ้มเถอะนะ ยิ้มเถอะ ถือว่ายิ้มให้พระก็แล้วกัน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พี่เค้าคงตกใจพี่ตั้วมั้งครับFlorian เขียน:อิ อิ เหอ เหอ หลายวันก่อนนู้น ผมเจอพี่ที่ฟาติมา หวัดดีพี่ ยิ้มให้พี่ด้วย พี่ไม่เห็นยิ้มให้ผมเลย หุ หุ ::020::จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: มาวัดพี่สิ รับรองได้รับรอยยิ้มจากพี่ แน่นอน
ยิ้มไปเถอะน้องเอ้ย อมยิ้มตุ่ย ๆ เวลาหันไปแล้วไม่มีใครสบตา แล้วยิ้มกว้าง ๆ ถ้าใครพลาดมาสบตาเรา ครั้งที่สองครั้งที่สาม สี่ ห้า ก็จะมีคนจำเราเราได้ สักพักเดี่ยวเขาก็ยิ้มตอบกลับมาเองแหละ หลัง ๆ ก็กอดกันเลยก็มี
ยิ้มเถอะนะ ยิ้มเถอะ ถือว่ายิ้มให้พระก็แล้วกัน
เออ จริงแฮะ สั่งให้แจกสันตินี่หว่า ไม่ได้สั่งให้แจกรอยยิ้ม เพราะฉะนั้น สันติ ครับสันติ ยิ้มไม่ยิ้มก็อย่าไปโกรธ เขาอาจจะเป็นเหยื่อของการไม่ยิ้มรุ่นแรกๆก่อนเรา แบบสมัยก่อนเคยยิ้มอยู่คนเดียว นานๆเข้าเลยเขินไม่กล้ายิ้มมาจนบัดนี้ เพราะฉะนั้นเราก็ยิ้มต่อไป เผื่อว่าจะได้เพาะเชื้อรอยยิ้มขึ้นมาได้Jeab Agape เขียน:
อย่าคิดมากไปเลย คุณพ่อท่านสั่งให้มอบสันติสุขให้กันนะครับ ไม่ได้สั่งว่า "ให้เรามอบรอยยิ้มให้แก่กันนี่ " อิอิ
จงยิ้มแก่คนที่ไม่ยิ้มตอบเสมอ เพราะรอยยิ้มของท่านเป็นของขวัญจากพระเจ้า
ตอนนี้ผมก็ไม่กล้ายิ้มเห็นฟันและ....... ขอยิ้มนิดๆพอให้ลักยิ้มตัวเองมันบุ๋มลงไป กะทำตาหวานๆใส่ คงพอ... :cheesy: เหอๆ..... พระเจ้าอวยพรครับ......
ดีเนอะ แต่อยากให้ทำอย่างที่ยุโรปแบบมีกอดกันเอาแก้มชยกันจาดีกว่านี้อีกKathaRoS เขียน: เฮอๆๆ ยิ้มไปเถอะค่ะ รอยยิ้มของทุกๆคนมีค่าค่ะ
ยิ้มให้ทุกคน ไม่แน่รอยยิ้มของคุณอาจสร้างหลายๆสิ่งให้กะคนบางคนได้นะ
อย่างน้อยก็มิตรภาพที่คุณส่งให้เค้าไปทางรอยยิ้มไงค่ะ
ส่วนวัดเรา เราชอบมากๆเลยเวลาที่ทุกคนหันมาไหว้แล้วยิ้มให้กัน
ป้าคนที่นั่งข้างๆเรา(ป้าโซปราโน)ก็จะหันมายิ้ม สวมกอดเรา ทุกคนก็จะ ไหว้ ยิ้มทักทายกัน
อย่างมีความสุข และส่งผ่านความรักความสุขกับทางรอยยิ้มของแต่ละคน...
ถ้าเรานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเราก็จะหันไปกอด หรือ แสดงความรักด้วยวิธีอื่นๆ
ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ
เราเห็นรอบมิสซาอังกฤษอ่ะ เค้าจะกอดกัน หอมแก้ม เอาแก้มชนกัน น่ารักดีอ่ะ ถ้าเป็นคนไม่รู้จักกันก็จะจับมือกันS.Paulvs De Bangkok เขียน:ดีเนอะ แต่อยากให้ทำอย่างที่ยุโรปแบบมีกอดกันเอาแก้มชยกันจาดีกว่านี้อีกKathaRoS เขียน: เฮอๆๆ ยิ้มไปเถอะค่ะ รอยยิ้มของทุกๆคนมีค่าค่ะ
ยิ้มให้ทุกคน ไม่แน่รอยยิ้มของคุณอาจสร้างหลายๆสิ่งให้กะคนบางคนได้นะ
อย่างน้อยก็มิตรภาพที่คุณส่งให้เค้าไปทางรอยยิ้มไงค่ะ
ส่วนวัดเรา เราชอบมากๆเลยเวลาที่ทุกคนหันมาไหว้แล้วยิ้มให้กัน
ป้าคนที่นั่งข้างๆเรา(ป้าโซปราโน)ก็จะหันมายิ้ม สวมกอดเรา ทุกคนก็จะ ไหว้ ยิ้มทักทายกัน
อย่างมีความสุข และส่งผ่านความรักความสุขกับทางรอยยิ้มของแต่ละคน...
ถ้าเรานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเราก็จะหันไปกอด หรือ แสดงความรักด้วยวิธีอื่นๆ
ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ
แต่เรากะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่สนิทกันก็จะกอดกัน แต่เพื่อนบางคนที่เราชอบแกล้งเค้าเพราะแอบหมั่นเขี้ยวเล็กน้อยเราจะหันไปค้อนใส่ และแลบลิ้นให้
มันก็จะค้อนใส่และแลบลิ้นใส่เราตอบ..น่ารักไปอีกแบบนะเนี่ย ฮาดีๆ 555+
ใช่ รอบอังกฤษอ่ะ ไปแล้วมีความสุขมาก ยิ่งเราหน้าไทย หน้าฟิลิปปินส์ ผิวขาว ผมเหลือง แล้วเหมือนกับว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกันในมิซซาอ่ะ....
มีสาวไทยสวยน่ารักคนหนึ่งไปฝรั่งเศสKathaRoS เขียน:เราเห็นรอบมิสซาอังกฤษอ่ะ เค้าจะกอดกัน หอมแก้ม เอาแก้มชนกัน น่ารักดีอ่ะ ถ้าเป็นคนไม่รู้จักกันก็จะจับมือกันS.Paulvs De Bangkok เขียน:ดีเนอะ แต่อยากให้ทำอย่างที่ยุโรปแบบมีกอดกันเอาแก้มชยกันจาดีกว่านี้อีกKathaRoS เขียน: เฮอๆๆ ยิ้มไปเถอะค่ะ รอยยิ้มของทุกๆคนมีค่าค่ะ
ยิ้มให้ทุกคน ไม่แน่รอยยิ้มของคุณอาจสร้างหลายๆสิ่งให้กะคนบางคนได้นะ
อย่างน้อยก็มิตรภาพที่คุณส่งให้เค้าไปทางรอยยิ้มไงค่ะ
ส่วนวัดเรา เราชอบมากๆเลยเวลาที่ทุกคนหันมาไหว้แล้วยิ้มให้กัน
ป้าคนที่นั่งข้างๆเรา(ป้าโซปราโน)ก็จะหันมายิ้ม สวมกอดเรา ทุกคนก็จะ ไหว้ ยิ้มทักทายกัน
อย่างมีความสุข และส่งผ่านความรักความสุขกับทางรอยยิ้มของแต่ละคน...
ถ้าเรานั่งอยู่ข้างๆเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเราก็จะหันไปกอด หรือ แสดงความรักด้วยวิธีอื่นๆ
ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นๆ
แต่เรากะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่สนิทกันก็จะกอดกัน แต่เพื่อนบางคนที่เราชอบแกล้งเค้าเพราะแอบหมั่นเขี้ยวเล็กน้อยเราจะหันไปค้อนใส่ และแลบลิ้นให้
มันก็จะค้อนใส่และแลบลิ้นใส่เราตอบ..น่ารักไปอีกแบบนะเนี่ย ฮาดีๆ 555+
ไปจนกลับไม่มีใครยอมเอาแก้มมาถูกับแก้มเธอเลย
ก็เธอพอดีเป็นสิวเห่อนี่
การสัมผัสร่างกายไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะ
ไปเจอไอ้เหม็นๆเข้า จะรู้สึก สาวเหม็นๆก็มีถมไป
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พี่ก็ไปขอหมากจากคุณแม่อธิคานมาป้ายที่ผมดิพี่ คราวนี้หัวแดงสมใจอยากอันตน เขียน: เฮ้อ สรุป อะไรที่มันไทยๆนี่ดูท่ามันจะไม่ดีเสียหมด
เฮ้อ ไมพระไม่ให้ตรูเกิดมาหัวแดงฟร้า จะได้เจอแต่เลิศเลอเฟอร์เฟค
เซ็งเป็ด
แก้ไขล่าสุดโดย Batholomew เมื่อ อังคาร มี.ค. 20, 2007 10:01 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พูดถึงการที่สัตบุรุษไม่เข้าใจความหมายของพิธีกรรม อย่างเช่นการไม่เข้าใจความหมายของขั้นตอนการไหว้นี้ว่ามีไปเพื่อสิ่งใดก็เช่นกัน ก็จะส่อสะท้อนออกมาในพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่าคนๆนั้นเข้าไม่ถึงความหมายและคุณค่าที่แฝงอยู่เบื้องหลัง เช่น เรื่องการแสดงสันติสุขนี้ หลายคนไหว้ไปงั้นๆแหละ บางคนไหว้แบบลากวงเวียนขีดรูปวงกลม ไหว้ไปรอบๆแบบเร็วๆ ไม่เห็นมีความหมายเท่าใดนัก นอกจากเรื่องการไหว้นี้แล้ว ซ้ำร้าย บางทีพฤติกรรมที่แสดงออกมาที่เกี่ยวเนื่องด้วยเรื่องอื่นๆก็กลับเป็นพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ด้วย
เช่น เมื่อเร็วๆนี้ มีคุณพ่อคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีคนมาเล่าให้พ่อฟังอีกต่อหนึ่ง (เล่ากันมาหลายต่อแบบนี้ อาจจะฟังหูไว้หูก็ได้นะครับ) คนบางคนเป็นคนที่รักหมามากๆๆๆๆๆ ใครด่าหมา เตะหมา ฯลฯ จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะเขารักหมาราวกับแก้วตาดวงใจ เป็นชีวิตของเขาก็ว่าได้ เวลาไปรับศีลก็ดันทะลึ่งอุ้มหมาไปรับด้วย รับเสร็จก็บิศีลแบ่งให้หมากินด้วย เพราะ"สุนัขคือชีวิต..ตตต..ตตต"(ไม่ใช่"เพราะชีวิตคือชีวิต"แบบที่ป้ากมลาร้องในเพลง) พ่อบอกว่า บ้าหรือเปล่า พระไม่ได้ลงมาตายไถ่บาปหมานี่ ทำทุราจารอย่างนี้ได้อย่างไร ผมว่านี่แสดงให้เห็นเลยว่าคนๆนั้นไม่เข้าใจคุณค่าและความหมายของศีลมหาสนิทว่าเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งครบในเพศปังนั้น เขาบังอาจกล้าทำทารุณกรรมอันน่าสยดสยองกับพระผู้สูงสุด ผมขอประนามจริงๆ คนเช่นนี้มีหมาเป็นชีวิต แทนที่จะมีพระเจ้าเป็นชีวิต (พระเยซูเจ้าสอนว่าพระองค์คือหนทาง ความจริง และชีวิต และนักบุญเปาโลกล่าวไว้ในจดหมายถึงชาวโครินธ์ฉบับที่ 2 ว่า "เราแบกความตายของพระเยซูไว้ที่กายเราเสมอเพื่อว่าชีวิตของพระเยซูจะปรากฏในกายของเราด้วย" และในจดหมายถึงชาวกาลาเทียท่านกล่าวว่า"ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้วข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปแต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้าชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยศรัทธาในพระบุตรของพระเจ้าผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้าและได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า"
นี่เป็นตัวอย่างที่น่าสะพึงกลัว รุนแรง และร้ายแรง สำหรับคนที่ไม่เข้าใจคุณค่าและความหมายที่แท้จริง เป็นต้นในพิธีกรรมและศีลศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าตรัสสอนหญิงชาวสะมาเรียคนนั้นที่ริมบ่อน้ำถึงรูปแบบในการนมัสการพระเจ้าที่เหมาะสม นั่นก็คือการนมัสการด้วยจิตและความสัตย์จริง ถ้าเช่นนั้นแล้ว เขาเหล่านั้นที่ไม่เข้าใจคุณค่าและความหมายของการไหว้แสดงสันติสุขต่อพี่น้องรอบข้างที่มาร่วมนมัสการพระเจ้า หรือทำทุราจารบิแผ่นศีลให้หมากิน จะนมัสการพระด้วยความสัตย์จริงได้อย่างไร ก็ในเมื่อพวกเขายังไม่เข้าใจ"ความจริง"เกี่ยวกับความหมายในทางพิธีกรรม ไม่เข้าใจความจริงเกี่ยวกับศีลมหาสนิทว่าเป็นพระเจ้าจริงๆทั้งครบ
โอ น่ากลัว แค่เรื่องไหว้แสดงสันติสุขกับพี่น้องรอบข้าง ถ้าคิดว่าไม่จำเป็น เขาจะมาร่วมนมัสการพระเจ้ากับพี่น้องทำไม พระศาสนจักรเชิญชวนให้พวกเรามาร่วมถวายบูชากับพี่น้อง ไม่ใช่สนับสนุนให้ไปตั้งโบสถ์ส่วนตัวแล้วจ้างบาทหลวงไปทำมิสซาให้ส่วนตัวที่บ้าน คนเช่นว่านั้นเป็นคนมุสา เพราะพระคัมภีร์สอนว่า ถ้าท่านไม่รักเพื่อนพี่น้องที่มองเห็นได้ แต่บอกว่าตัวท่านรักพระเจ้าซึ่งท่านก็มองไม่เห็น ท่านก็มุสา
ต่อจากนี้ไป พวกเราควรแสดงสันติสุขอย่างจริงใจและจริงจัง ไม่ใช่สักแต่ไหว้รอบสี่ทิศ ไหว้เป็นวงเวียนวาดวงกลม ไหว้ลวกๆเร็วๆ ฯลฯ เพราะชีวิตคริสตชนจะครบสมบูรณ์ต้องมีพร้อมทั้ง 2 มิติ พระเจ้าและพี่น้องเพื่อนมนุษย์ เราต้องเห็นความสำคัญและรักเพื่อนพี่น้องที่มาร่วมถวายบูชากับเรา เราพึงต้องเตือนใจตัวเราเองว่าเราต้องนมัสการพระเจ้าด้วยจิตและความสัตย์จริง เราต้องทำสิ่งนี้อย่างแท้จริง มิเช่นนั้นเราจะเป็นผู้มุสา
เช่น เมื่อเร็วๆนี้ มีคุณพ่อคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีคนมาเล่าให้พ่อฟังอีกต่อหนึ่ง (เล่ากันมาหลายต่อแบบนี้ อาจจะฟังหูไว้หูก็ได้นะครับ) คนบางคนเป็นคนที่รักหมามากๆๆๆๆๆ ใครด่าหมา เตะหมา ฯลฯ จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะเขารักหมาราวกับแก้วตาดวงใจ เป็นชีวิตของเขาก็ว่าได้ เวลาไปรับศีลก็ดันทะลึ่งอุ้มหมาไปรับด้วย รับเสร็จก็บิศีลแบ่งให้หมากินด้วย เพราะ"สุนัขคือชีวิต..ตตต..ตตต"(ไม่ใช่"เพราะชีวิตคือชีวิต"แบบที่ป้ากมลาร้องในเพลง) พ่อบอกว่า บ้าหรือเปล่า พระไม่ได้ลงมาตายไถ่บาปหมานี่ ทำทุราจารอย่างนี้ได้อย่างไร ผมว่านี่แสดงให้เห็นเลยว่าคนๆนั้นไม่เข้าใจคุณค่าและความหมายของศีลมหาสนิทว่าเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งครบในเพศปังนั้น เขาบังอาจกล้าทำทารุณกรรมอันน่าสยดสยองกับพระผู้สูงสุด ผมขอประนามจริงๆ คนเช่นนี้มีหมาเป็นชีวิต แทนที่จะมีพระเจ้าเป็นชีวิต (พระเยซูเจ้าสอนว่าพระองค์คือหนทาง ความจริง และชีวิต และนักบุญเปาโลกล่าวไว้ในจดหมายถึงชาวโครินธ์ฉบับที่ 2 ว่า "เราแบกความตายของพระเยซูไว้ที่กายเราเสมอเพื่อว่าชีวิตของพระเยซูจะปรากฏในกายของเราด้วย" และในจดหมายถึงชาวกาลาเทียท่านกล่าวว่า"ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้วข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปแต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้าชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ข้าพเจ้าดำเนินอยู่โดยศรัทธาในพระบุตรของพระเจ้าผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้าและได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า"
นี่เป็นตัวอย่างที่น่าสะพึงกลัว รุนแรง และร้ายแรง สำหรับคนที่ไม่เข้าใจคุณค่าและความหมายที่แท้จริง เป็นต้นในพิธีกรรมและศีลศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าตรัสสอนหญิงชาวสะมาเรียคนนั้นที่ริมบ่อน้ำถึงรูปแบบในการนมัสการพระเจ้าที่เหมาะสม นั่นก็คือการนมัสการด้วยจิตและความสัตย์จริง ถ้าเช่นนั้นแล้ว เขาเหล่านั้นที่ไม่เข้าใจคุณค่าและความหมายของการไหว้แสดงสันติสุขต่อพี่น้องรอบข้างที่มาร่วมนมัสการพระเจ้า หรือทำทุราจารบิแผ่นศีลให้หมากิน จะนมัสการพระด้วยความสัตย์จริงได้อย่างไร ก็ในเมื่อพวกเขายังไม่เข้าใจ"ความจริง"เกี่ยวกับความหมายในทางพิธีกรรม ไม่เข้าใจความจริงเกี่ยวกับศีลมหาสนิทว่าเป็นพระเจ้าจริงๆทั้งครบ
โอ น่ากลัว แค่เรื่องไหว้แสดงสันติสุขกับพี่น้องรอบข้าง ถ้าคิดว่าไม่จำเป็น เขาจะมาร่วมนมัสการพระเจ้ากับพี่น้องทำไม พระศาสนจักรเชิญชวนให้พวกเรามาร่วมถวายบูชากับพี่น้อง ไม่ใช่สนับสนุนให้ไปตั้งโบสถ์ส่วนตัวแล้วจ้างบาทหลวงไปทำมิสซาให้ส่วนตัวที่บ้าน คนเช่นว่านั้นเป็นคนมุสา เพราะพระคัมภีร์สอนว่า ถ้าท่านไม่รักเพื่อนพี่น้องที่มองเห็นได้ แต่บอกว่าตัวท่านรักพระเจ้าซึ่งท่านก็มองไม่เห็น ท่านก็มุสา
ต่อจากนี้ไป พวกเราควรแสดงสันติสุขอย่างจริงใจและจริงจัง ไม่ใช่สักแต่ไหว้รอบสี่ทิศ ไหว้เป็นวงเวียนวาดวงกลม ไหว้ลวกๆเร็วๆ ฯลฯ เพราะชีวิตคริสตชนจะครบสมบูรณ์ต้องมีพร้อมทั้ง 2 มิติ พระเจ้าและพี่น้องเพื่อนมนุษย์ เราต้องเห็นความสำคัญและรักเพื่อนพี่น้องที่มาร่วมถวายบูชากับเรา เราพึงต้องเตือนใจตัวเราเองว่าเราต้องนมัสการพระเจ้าด้วยจิตและความสัตย์จริง เราต้องทำสิ่งนี้อย่างแท้จริง มิเช่นนั้นเราจะเป็นผู้มุสา
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
คือ ต้องเข้าใจว่า คนไทยจะไม่เหมือนกับชาวต่างชาติน่ะค่ะ
เพราะโดยธรรมชาติแล้วคนไทยจะ ขี้อายและก็ ไม่ค่อยจะเปิดรับอะไรที่ ยังไม่เป็นที่ยอมรับน่ะค่ะ
มิซซาภาษาไทยก็จะแค่ ไหว้ๆแล้วก็หลบสายตากัน แต่ก็คิดในใจได้ว่าขอพระอวยพรพวกเค้า
คนไทยก็เลยทำตามกันมาโดยการหลบตาอยู่ตลอดเวลา เพราะเกรงว่า ถ้ามองไปแล้ว ใครเค้าจะมองกลับไหม จะเก้อไหมอะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ
แต่ก็มีบางท่านนะคะที่หันไปไหว้และก็ยิ้มให้กันอย่างนั้นก็ น่ารักค่ะ ....
แต่ว่าคนไทยก็ยังไม่ชินกับการโปรยยิ้มอยู่ดี
แต่หากว่า เมื่อไหร่ที่มิซซาไทย อยากทำให้ คนไทย อินเทรนดฺ เปลี่ยนจากไหว้มาเป็น จับมือ เงยหน้าแล้วยิ้ม ก็คงต้องฝึกกันไปเรื่อยๆค่ะ
เพราะถ้าทุกคนทั้งวัดทำ ก็ต้องตามๆกันไปอยู่แล้ว..
แต่ถ้าโดยส่วนตัวเรายิ้มให้กับคนอื่นอยู่แล้ว ก็เป็นเรื่องดีนะคะ อย่าเสียใจถ้าไม่มีคนยิ้มตอบหรือ เค้าทำหน้าบึ้งใส่ให้
เราก็พยายามยิ้มต่อไปค่ะ เพราะรอยยิ้มเรามีค่า พอที่จะสามารถเปลี่ยนจากคนที่ไม่เคยยิ้ม อาจจะยิ้มให้เราสักวัน
เพราะ ถ้าเราอยากยิ้มให้แต่คนที่ยิ้มให้เรา .....
แล้วจะได้ บำเหน็จ อะไร
เพราะโดยธรรมชาติแล้วคนไทยจะ ขี้อายและก็ ไม่ค่อยจะเปิดรับอะไรที่ ยังไม่เป็นที่ยอมรับน่ะค่ะ
มิซซาภาษาไทยก็จะแค่ ไหว้ๆแล้วก็หลบสายตากัน แต่ก็คิดในใจได้ว่าขอพระอวยพรพวกเค้า
คนไทยก็เลยทำตามกันมาโดยการหลบตาอยู่ตลอดเวลา เพราะเกรงว่า ถ้ามองไปแล้ว ใครเค้าจะมองกลับไหม จะเก้อไหมอะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ
แต่ก็มีบางท่านนะคะที่หันไปไหว้และก็ยิ้มให้กันอย่างนั้นก็ น่ารักค่ะ ....
แต่ว่าคนไทยก็ยังไม่ชินกับการโปรยยิ้มอยู่ดี
แต่หากว่า เมื่อไหร่ที่มิซซาไทย อยากทำให้ คนไทย อินเทรนดฺ เปลี่ยนจากไหว้มาเป็น จับมือ เงยหน้าแล้วยิ้ม ก็คงต้องฝึกกันไปเรื่อยๆค่ะ
เพราะถ้าทุกคนทั้งวัดทำ ก็ต้องตามๆกันไปอยู่แล้ว..
แต่ถ้าโดยส่วนตัวเรายิ้มให้กับคนอื่นอยู่แล้ว ก็เป็นเรื่องดีนะคะ อย่าเสียใจถ้าไม่มีคนยิ้มตอบหรือ เค้าทำหน้าบึ้งใส่ให้
เราก็พยายามยิ้มต่อไปค่ะ เพราะรอยยิ้มเรามีค่า พอที่จะสามารถเปลี่ยนจากคนที่ไม่เคยยิ้ม อาจจะยิ้มให้เราสักวัน
เพราะ ถ้าเราอยากยิ้มให้แต่คนที่ยิ้มให้เรา .....
แล้วจะได้ บำเหน็จ อะไร
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ มี.ค. 21, 2007 10:43 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
บ่นกลบเสียงลูก เสียงเมีย(บ่น)ไงพี่par l'amour de dieu เขียน: ลูกยังตัวเล็กอยู่เรย ไม่น่าบ่นเก่งเรยน๊าฮับ... อิอิ ร้อเร่นนะคัฟ