6 เมษา

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

อังคาร เม.ย. 03, 2007 4:28 pm

เป็นวันถือศีล ต้องอดน้ำ อดอาหารหรือคะ ช่วยขยายความทีค่ะ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร เม.ย. 03, 2007 5:51 pm

วันที่ 6 เมษายน 2007 เป็นวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ครับ ลองอ่านข้างล่างดูนะครับ
ต้องถือศีลอดอาหารและอดเนื้อครับ ส่วนน้ำดื่มได้ปกติครับ

ทัศนะบางประการ ในเทศกาลมหาพรต

1. การอดเนื้อ

คริสตชนคาทอลิก จะอดเนื้อในวันศุกร์ทุกสัปดาห์ตลอดทั้งปี เพราะถือว่าเป็นวันพลีกรรมทั่วไป แต่ในเทศกาลมหาพรต จะต้องอดเนื้อใน วันพุธรับเถ้า และวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ในตรีวารปัสกา เพิ่มขึ้นมา

"เนื้อ" ในที่นี้หมายถึงเนื้อสัตว์สี่เท้า, สัตว์ปีก เพราะถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่ เช่น หมู, วัว, ไก่, นก ฯลฯ อีกทั้งเนื้อเหล่านี้ในอดีต (แม้ในปัจจุบัน) มีราคาแพง จุดประสงค์ของการอดเนื้อก็เพื่อเข้าร่วมทุกข์กับองค์พระเยซูเจ้า เราจึงอดอาหารที่มีราคาแพง หรืออร่อยลิ้น เพราะนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย แต่จะกินอาหารเรียบง่ายไม่ฟุ่มเฟือย เช่น ผัก, เต้าหู้ หรือแป้งแทน เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่กินความไปถึงสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง, ปู, ปลา, หอย ฯลฯ เพราะสัตว์เหล่านี้แต่เดิมเป็นสัตว์เล็กราคาไม่แพง ทอดแหหาตามริมคลอง, ตลิ่งหน้าบ้าน ฯลฯ คล้ายๆ เด็ดยอดผักริมรั้วมาทำอาหารกิน ไม่ได้ฟุ่มเฟือยอะไร

พึงเข้าใจว่า แม้พระศาสนจักรมิได้ห้ามอาหารทะเล หรือสัตว์น้ำก็จริง แต่ตามจิตตารมณ์ที่เราอดเนื้อก็เพื่อร่วมทุกข์กับพระเยซูเจ้า จึงไม่สมควรที่จะทานอาหารซีฟู้ดราคาแพงๆซึ่งเป็นการไม่มัธยัสถ์
ใครที่ต้องอดเนื้อ?
ตามข้อบังคับพระศาสนจักร คริสตชนคาทอลิกที่มีอายุ ตั้งแต่ 14 ปี ขึ้นไป จนถึง 60 ปี ต้องอดเนื้อ ยกเว้นผู้ป่วย

ปัญหา : เมื่อทำงานนอกบ้านหรือโรงงานที่เขาทำอาหารให้คนงานทาน มีแต่อาหารประเภทเนื้อ ในวันศุกร์เราจะทำอย่างไร?
-: เราไม่มีทางเลือก อาจจะเขี่ยเนื้อออกไป, ไม่ตักเนื้อ แต่ถ้าจำเป็นถึงที่สุดก็ทานได้ เพราะไม่มีตัวเลือก แต่ต้องไปทำกิจศรัทธาอื่นชดเชย เช่น สวดภาวนา สวดสายประคำ หรือไปเฝ้าศีลมหาสนิทในวัด แทนได้

2. การถือศีลอดอาหาร

การจำศีลอดอาหารเพื่อเตรียมฉลองปัสกานี้ แต่เดิมถือกันเพียงสองหรือสามวันก่อนสมโภชปัสกาเท่านั้น ตามที่เราทราบจากงานเขียนของ Eusebius นักประวัติศาสตร์พระศาสนจักรที่บอกว่า นักบุญอิเรเนโอในปลายศตวรรษที่ 2 กำหนดไว้เช่นนี้ แต่ต่อมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 4 เมื่อมีการกำหนดเทศกาลมหาพรตเพื่อเตรียมฉลองปัสกาขึ้นโดยเฉพาะ ระยะเวลาการจำศีลก็ขยายออกไปถึง 40 วัน ตลอดเทศกาลมหาพรต และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด กินอาหารอิ่มได้เพียงวันละมื้อเดียวเท่านั้น เพื่อระลึกถึงการจำศีลอดอาหารของโมเสสของประกาศกเอลียาห์ และของพระเยซูเจ้า แต่เนื่องจากคริสตชนมีธรรมเนียมไม่จำศีลอดอาหารในวันอาทิตย์ (และวันเสาร์ด้วยในพระศาสนจักรตะวันออก) วันจำศีลอดอาหารในเทศกาลมหาพรต 6 สัปดาห์ (หรือ 7 สัปดาห์ในพระศาสนจักรตะวันออก) จึงเหลือจริงเพียง 36 วัน และต้องเพิ่มวันจำศีลในวันธรรมดาก่อนอาทิตย์แรกในเทศกาลมหาพรตอีก 4 วัน คือวันพุธ พฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ให้ครบ 40 วัน เทศกาลมหาพรตจึงเลื่อนมาเริ่มในวันพุธซึ่งเป็นวันธรรมดา แทนที่จะเริ่มในวันอาทิตย์แรกของเทศกาลเช่นเดียวกับในเทศกาลอื่นๆ

ในปัจจุบัน พระศาสนจักรลดหย่อนข้อบังคับเรื่องการจำศีลอดอาหารในเทศกาลมหาพรตลงเหลือเพียง สองวัน คือในวันพุธรับเถ้าเมื่อเริ่มเทศกาล และในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ระลึกถึงพระทรมาน และการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสตเจ้าบนไม้กางเขน (Apostolic Constitution "Paenitemini" 1966) ถึงกระนั้น พระศาสนจักรยังคงรักษาจิตตารมณ์แท้จริงของเทศกาลมหาพรตไว้ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือการกลับใจสละน้ำใจของตนเพื่อปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเหมือนองค์พระเยซูเจ้า เพื่อจะได้พร้อมที่กลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์ในคืนวันปัสกา


คำว่า "อดอาหาร" หมายถึง พระศาสนจักรให้ทานได้เพียง 1 มื้อ ในวันดังกล่าว และถ้าหากจำเป็นกลัวว่าจะเป็นลม หิวเพราะต้องทำงาน ก็ทานมื้อที่เหลือได้ครึ่งท้อง หมายความว่าทานพอกันเป็นลม มิใช่ทานอย่างปกติทั้งนี้และทั้งนั้นหากใครอดได้ทั้งวันเลยหรือทานเพียงมื้อเดียวจริงๆ ก็เป็นผลดี

จิตตารมณ์การอดเนื้อนี้ก็เช่นกันเพื่อเข้ารวมส่วนมหาทรมานของพระเยซูเจ้า นับเป็นการพลีกรรม ก่อเกิดบุญกุศลชดใช้โทษบาปของเราเองและของผู้อื่น บุญกุศลนี้เป็นผลเพราะร่วมในมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ดังนั้นเมื่ออดอาหารก็ต้องกระทำเพราะเห็นแก่พระเยซูเจ้า มิใช่เพื่ออวดความดีของตนเอง หรือไปข่มผู้อื่น คริสตชนที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ จนถึง 60 ปี จะต้องถือศีลอดอาหาร ยกเว้นผู้ป่วยที่แพทย์ให้ทานอาหารปกติ

จะเห็นว่า เราสามารถทำพลีกรรมอย่างอื่นชดเชยก็ได้ หากเราลืมอดอาหารในวันดังกล่าว จะอดในวันถัดไปที่จำได้ หรือกระทำกิจศรัทธาอื่นเพื่อชดเชยที่เราไม่ได้อดอาหาร แต่ก็ควรเป็นการกระทำความดีตามเจตนารมณ์ของพระศาสนจักร

ปัญหา : เด็กๆที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี จะอดอาหารบ้างได้หรือไม่?
คำตอบ : ได้
แก้ไขล่าสุดโดย Batholomew เมื่อ อังคาร เม.ย. 03, 2007 6:06 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
amour

อังคาร เม.ย. 03, 2007 11:36 pm

ถือศีลอด แล้วอย่าลืมทำจิตใจให้บริสุทธิ์กับเพื่อนพี่น้องหล่ะ... ถ้าถือศีลอดอย่างเคร่งครัด แต่ลืมที่จะปลอบใจพี่น้อง แล้วเราจะสวดเดินรูปสถานที่พระเยซูเจ้าปลอบใจสตรีใจศรัทธาได้ไง... ถ้าถือศีลอด แล้วลืมแบ่งเบาภาระคนอื่นที่เค้าเป้นทุกข์เหนื่อยกาย เราจะได้ชื่อว่าเป็นซีโมนได้อย่างไร ถ้าถือศีลอดแล้วยังตัดสินเพื่อนพี่น้อง ด่าว่าเค้า เราก็ไม่ต่างกันประชากรที่พระองค์ทรงเลือกแล้วตัดสินพระองค์ท่าน.....

พระเจ้าอวยพรครับ
ตอบกลับโพส