ความรู้สึกเมื่อไปงานเฉลิมฉลอง
งานหิรัญสมโภชคณะภคินีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพ
ข้าพเจ้าได้ไปร่วมงานหิรัญสมโภชซิสเตอร์พระหฤทัยที่คลองเตยมาเมื่อเดือนเมษาฯ มีข้อแบ่งปันมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
1. ข้าพเจ้าขอออกตัวก่อนว่า ตอนแรกก็ไม่ได้คิดสนใจจะไป แต่เนื่องจากเพื่อนของข้าพเจ้าพูดถึงอารามคลองเตยบ่อยๆ บ่อยเสียจนทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอยากไป อีกอย่างหนึ่ง ข้าพเจ้าเคยเห็นตามปกเทปเพลงวัดที่ผลิตออกมาวางขาย เสียงผู้ชายมักจะให้เณรแสงธรรมร้อง ส่วนเสียงผู้หญิงก็มักจะเป็นซิสเตอร์พระหฤทัยฯ คิดว่าซิสเตอร์คณะนี้น่าจะร้องเพลงเพราะ งานใหญ่อย่างงานหิรัญสมโภชคงได้ฟังเสียงซิสเตอร์ขับเพลง คิดได้ดังนี้ ก็อดใจไม่ไหว ต้องลองไปสักหน่อย (บางท่านอาจเข้าใจว่าที่ข้าพเจ้ามาร่วมงานในครั้งนั้น ก็คงเป็นเพราะข้าพเจ้ารู้จักซิสเตอร์บางท่าน ข้าพเจ้าขอสารภาพว่า นอกจากคุณแม่มหาธิการิณีแล้ว ข้าพเจ้าไม่รู้จักใครอีกเลย วันนั้นก็กะจะเข้าไปทักทายท่าน แต่ท่านคงยุ่ง ก็เลยไม่ได้คุยกับคุณแม่)
2. ข้าพเจ้าไปถึงเช้ามากๆๆๆๆ มีเสียงครูและซิสเตอร์ประกาศผ่านไมโครโฟนแสดงการต้อนรับแขกผู้มาเยือน
3. เนื่องจากข้าพเจ้าไปถึงเช้ามากเช่นนั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จะไปไหน นึกขึ้นมาได้ว่าเพื่อนข้าพเจ้าเคยเล่าถึงวัดน้อยในอาราม ข้าพเจ้าก็เลยดำริไปเยือนวัดน้อยสักหน่อย วัดน้อยอยู่สูงมากๆ ต้องตะกายขึ้นไป เพื่อนข้าพเจ้าเล่าให้ฟังว่าเวลาพี่แกไปฉลองอารามแทบจะต้อง"คลาน"ขึ้นไป(ทั้งๆที่พี่แกเป็นคนบ่ยั่นไม่หวั่นการขึ้นบันไดสูง)เพราะบันไดค่อนข้างชันและเวียนวนอยู่หลายรอบกว่าจะขึ้นไปถึงวัดได้ ขึ้นไปได้เห็นแล้วก็ชื่นอกชื่นใจ เพราะสวยงามตามสไตล์คาทอลิกไทย(แต่ขอเน้นว่าไม่ใช่ทรงไทยนะครับ) เรียบง่ายดี มีธรรมมาสน์ด้วย
4. พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณจัดในอาคารหนึ่งศตวรรษคณะพระหฤทัย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดพิธีหิรัญสมโภชในอาคารดังกล่าว เพราะแต่ก่อนจะจัดกันในวัดน้อย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงต้องตะกายหรือคลานกันขึ้นไปอย่างที่เพื่อนข้าพเจ้าว่ามา คนที่ไปถึงทีหลังๆก็คงเกาะราวบันไดร่วมมิสซา หรือไม่ก็ไปนั่งชั้นอื่นโดยร่วมมิสซาผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิด
5. อาคารหนึ่งศตวรรษเป็นอาคารใหม่ มีรูปปูนปั้นประดับโดยรอบ เป็นภาพเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของคณะพระหฤทัยฯ ด้านหน้าตรงข้ามประตูทางเข้ามีรูปบุคคลสำคัญของคณะและมหาธิการิณีของคณะด้วยครับ
6. ซิสเตอร์ท่านหนึ่งประกาศเชิญชวนพี่น้องทั้งหลายให้เข้าไปเตรียมร่วมพิธีในอาคารดังกล่าว โดยกล่าวว่าในห้องประชุมที่ใช้ประกอบพิธีนั้น"แอร์เย็นฉ่ำ" ข้าพเจ้าเข้าไปเป็นคนแรกๆเพราะกลัวไม่มีที่นั่ง ผลปรากฏว่าแอร์เย็นฉ่ำจริงแฮะ ชื่นอกชื่นใจเหลือเกิน เนื่องจากวันที่จัดงานนั้น ฟ้าหลัวแต่เช้า อากาศอบอ้าว เก็กซิมมากๆ
7. ในพิธีนั้นที่น่าประทับใจก็คือคณะนักขับ ซึ่งก็คือเหล่าภคินีทั้งสาวและไม่ค่อยสาวนัก (ส่วนที่แก่ไปเลยนั้นไม่ปรากฎ) ขับเพลงไพเราะน่าประทับใจมาก เสียงเสนาะ หวาน อลังการ วาทยากรก็เป็นซิสเตอร์ท่านหนึ่ง ทำหน้าที่ได้อลังการมาก น่าประทับใจ เพลงในวันนั้นไพเราะถึงขนาดที่ว่าอยากเอาเทปอัดไว้ เก็บไปฟังที่บ้าน
8. หลังพิธี ยังไม่ทันเดินออกจากห้องประชุมดีเลย ก็ได้ยินเสียงดนตรีแว่วมาจากข้างนอก โอ ที่ไหนได้ เป็นวงดนตรีโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ นักเรียนเล่นดนตรี ส่วนนักร้องก็เป็นพวกครูนั่นเอง เพลงที่ร้องนั้นเป็นเพลงลูกทุ่ง สัตบุรุษก็กินข้าวกลางวันกันไป ฟังเพลงไป ครื้นเครงใจยิ่ง ข้าพเจ้าไม่เข้าไปร่วมวงข้าว เพราะขี้เกียจไปแย่งกับชาวบ้านร้านช่อง จากประสบการณ์การไปฉลองวัดและงานนักบวช เจ้าภาพมักจะจัดอาหารกลางวันให้แขกเหรื่อผู้ให้เกียรติมาร่วมงาน แต่สัตบุรุษจำนวนไม่น้อยมีพฤติกรรมที่ไม่น่าพิสมัย เช่น แซงคิว ลัดคิว เขาให้ต่อคิวเป็นแถวตอนเรียงหนึ่ง พี่แกดันปรับเป็นแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง แล้วรุมออกันอยู่หน้าแผงแจกอาหาร แหกปากกันเข้าไป " ... ผัดไทย ... หอยทอด ... ก๋วยจั๊บ ... กระเพาะปลา ..." กล่าวได้ว่าในบรรดาอาหารทั้งหลายที่นำมาจัดเลี้ยงกันนั้น พวกอาหารพิเศษที่ขายกันแพงๆข้างนอกมักจะได้รับความนิยมจากสัตบุรุษเป็นพิเศษ ใครที่ไม่อยากไปแย่งกับคนอื่นต้องกินข้าวแกง พวกข้าวราดกับน่ะ อันนี้คนน้อยหน่อย ถ้าเป็นพวกขาหมู คากิ หมูหัน อันนี้คงยิ่งกว่างานเทกระจาด ถ้าพูดให้เวอร์ๆหน่อย ก็อาจพอกล่าวได้ว่ามีสิทธิ์เหยียบกันตาย หุ หุ ฉะนั้นอาหารชั้นดีพวกนี้ ถ้าอยากกินแต่ไม่ต้องการไปเบียดกับใคร เก็บเงินไปซื้อกินเองที่อื่นดีกว่า สัตบุรุษบางคนมีพฤติกรรมประหลาด น่าเบื่อ เก็กซิม เช่น ยังไม่ทันถึงคิวของตัวเองเลย คว้าชามก๋วยเตี๋ยวที่ลวกเส้น เนื้อสัตว์ใส่ไว้เรียบร้อยแล้ว รอตักน้ำใส่ ยื่นเข้าไป แบบเร่งๆให้คนตักตักน้ำก๋วยเตี๋ยวใส่ให้ ข้าวหมูแดงก็เหมือนกัน คว้าจานข้าวที่ตักข้าวกับเนื้อหมูไว้เรียบร้อยแล้ว รีบๆยื่นเข้าไปให้คนตักน้ำหมูแดงราดน้ำให้ ทั้งๆที่ยังไม่ถึงคิวของตัวเองดีเลย บางคนยังไม่ทันถึงคิวตัวเองดีเลย พนักงานกำลังตักน้ำก๋วยเตี๋ยวให้คนข้างหน้าอยู่ ดันแหกปากตะโกนแซงออกมาละ "ของเจ๊ไม่เอาตับ ไม่ใส่ถั่วงอกนะ" ยังไม่ถึงคิวตัวเองสักหน่อย อะไรทำนองนี้ เวลาตักเครื่องปรุงก็เหมือนกัน แย่งกันตัก น้ำตาลกระจายเต็มโต๊ะ พริกป่นร่วงไปในชามน้ำปลา พวกอยากกินเค็มๆแต่ไม่อยากกินเผ็ดๆ ก็เลยไม่รู้จักตักน้ำปลาอย่างไร จะให้ช้อนพริกขึ้นมาก่อนแล้วค่อยตักน้ำปลาหรือ ก็ใช่ที่ น้ำส้มกระฉอก ดีไม่ดี พริกที่หั่นใส่น้ำส้มกระเด็นกระดอนลอยไปติดหัวคนใกล้ๆ โอย เหตุการณ์เช่นนี้ชวนให้ไม่น่าดู มางานบุญแทนที่จะได้ไปบุญไปเต็มๆ แบบว่าตอนร่วมพิธีนั้น ได้แก้บาปรับศีลแล้ว อันนี้ได้บุญ แต่ต้องมาสู้รบปรบมือกับพวกสัตบุรุษทำนองนี้ บางครั้งอดใจไม่อยู่ พ่ายแพ้การผจญล่อลวง ด่าไปยกหนึ่ง กระแทกกลับให้หายแค้นอันนี้เหมือนแถมบาปพกกลับบ้านไปด้วย สรุปมางานบุญ นอกจากได้บุญ อาจแถมพกบาปติดตัวกลับไปด้วยอีกโสตหนึ่ง เช่นนี้แล้ว ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจไม่กินอะไรในวันนั้น แบกความหิวกลับไปกินข้าวยำปักษ์ใต้แถวบ้านดีกว่า
9. แม้จะไม่กินอะไร แต่ก็ยืนฟังเพลงลูกทุ่งอยู่หน่อยนึง ลมพัดเย็นๆเอื่อยๆ ฟังเพลงลูกทุ่งเย็นๆใจ สบายใจนักแล เพลงส่วนใหญ่ที่คัดมาร้องวันนั้นก็เป็นเพลงลูกทุ่งมันส์ๆ ร้องเร็วๆ เช่น สัญญาเมื่อสายัณห์ แต่มีอยู่เพลงหนึ่ง รับไม่ด้ายยยยยยยยยจริงๆ นั่นก็คือเพลง"ชวนน้องแต่งงาน"
10. ที่ว่าเพลง"ชวนน้องแต่งงาน" ข้าพเจ้ารับไม่ได้นั้น ก่อนอื่นดูเนื้อเพลงก่อน ดังนี้
ชวนน้องแต่งงาน
ทำไมน้องไม่แต่งงาน1จะอยู่อีกนานเท่าไร จะครองโสดความสาวให้หนาวใจ ไว้คอยใครเล่าหนา
ประเดี๋ยวก็แก่เกินกาล เหมือนเรือขึ้นคานเกยท่า ใครจะมาเมียงมองและหมายตา ในวัยชราหย่อนยาน2
แต่งงานเถิดน้อง อย่ามัวแต่มองข้ามผ่าน เดี๋ยวตายไปยมบาลไม่สงสาร3 อดขึ้นสวรรค์เลยหนอ4
ทำไมน้องไม่แต่งงาน หรือน้องต้องการคนหล่อ รูปร่างของพี่ก็ดีพอ มาเถิดน้องมาแต่งงานกัน
ข้อวิเคราะห์
10.1 วรรคแรกก็อึ้งแล้ววววว ร้องมาด้ายยยยยยยยยยยย "ทำไมน้องไม่แต่งงาน" ที่ไม่แต่งงานน่ะก็ที่คลุมผ้าสีขาวเดินไปเดินมาทั้งอารามนั่นแหละน้องงงงงงง ร้องมาได้งายยยยยยยยยยยยยยยยยยย เดี๋ยวเกิดคึกลุกขึ้นมาพากันไปแต่งงานแต่งการกันหมดจะทำงายยยยยยยยยยยยยยย นับได้ว่าเพลง"ชวนน้องแต่งงาน"นี้เป็นการผจญล่อลวงอย่างหนึ่งสำหรับซิสเตอร์ทั้งหลาย
10.2 "ในวัยชราหย่อนยาน" โอ๊ยยยยยยยยยยย ร้องมาด้ายยยยยยยยยยยย ในอารามเนี้ย ก็ยานหย่อนกันหลายรูปแล้วจ้ะ ร้องเช่นนี้นับเป็นการปรามาสผู้ชรานะจ๊ะ โอ้โห ร้องมาด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
10.3 เราเชื่อกันว่าในวันสุดท้ายพระคริสตเจ้าจะทรงเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย แล้วร้องมาด้ายยยยยยยยงายยยยยยยยยว่า"เดี๋ยวตายไปยมบาลไม่สงสาร" ซูแปร์ติซังมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
10.4 "อดขึ้นสวรรค์เลยหนอ" ร้องออกมาอย่างนี้ก็แสดงว่า"เชื่อว่าไม่ได้แต่งงาน ยมบาลก็เลยไม่สงสาร เป็นเหตุให้อดขึ้นสวรรค์" สรุปคือ เหตุ=ไม่ได้แต่งงาน(อยู่เป็นโสด) -- ผล=อดขึ้นสวรรค์ อย่างนี้ไม่ตกนรกกันทั้งอารามดอกหรือเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ร้องออกมาได้งายยยยยยยยยย เฮเรติ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โอ๊ย จะเป็นลมมมมมมมมมม
สุดท้าย ข้าพเจ้าก็กลับบ้าน ก่อนเข้าบ้าน แวะกินข้าวยำปักษ์ใต้แถวบ้านให้เปรมปาก อิ่มท้อง ไม่ต้องไปแย่งกับใครให้วุ่นวาย กินเสร็จก็ขึ้นรถเมล์กลับเข้าบ้าน นอน สบายแฮ
ข้าพเจ้าได้ไปร่วมงานหิรัญสมโภชซิสเตอร์พระหฤทัยที่คลองเตยมาเมื่อเดือนเมษาฯ มีข้อแบ่งปันมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
1. ข้าพเจ้าขอออกตัวก่อนว่า ตอนแรกก็ไม่ได้คิดสนใจจะไป แต่เนื่องจากเพื่อนของข้าพเจ้าพูดถึงอารามคลองเตยบ่อยๆ บ่อยเสียจนทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอยากไป อีกอย่างหนึ่ง ข้าพเจ้าเคยเห็นตามปกเทปเพลงวัดที่ผลิตออกมาวางขาย เสียงผู้ชายมักจะให้เณรแสงธรรมร้อง ส่วนเสียงผู้หญิงก็มักจะเป็นซิสเตอร์พระหฤทัยฯ คิดว่าซิสเตอร์คณะนี้น่าจะร้องเพลงเพราะ งานใหญ่อย่างงานหิรัญสมโภชคงได้ฟังเสียงซิสเตอร์ขับเพลง คิดได้ดังนี้ ก็อดใจไม่ไหว ต้องลองไปสักหน่อย (บางท่านอาจเข้าใจว่าที่ข้าพเจ้ามาร่วมงานในครั้งนั้น ก็คงเป็นเพราะข้าพเจ้ารู้จักซิสเตอร์บางท่าน ข้าพเจ้าขอสารภาพว่า นอกจากคุณแม่มหาธิการิณีแล้ว ข้าพเจ้าไม่รู้จักใครอีกเลย วันนั้นก็กะจะเข้าไปทักทายท่าน แต่ท่านคงยุ่ง ก็เลยไม่ได้คุยกับคุณแม่)
2. ข้าพเจ้าไปถึงเช้ามากๆๆๆๆ มีเสียงครูและซิสเตอร์ประกาศผ่านไมโครโฟนแสดงการต้อนรับแขกผู้มาเยือน
3. เนื่องจากข้าพเจ้าไปถึงเช้ามากเช่นนั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จะไปไหน นึกขึ้นมาได้ว่าเพื่อนข้าพเจ้าเคยเล่าถึงวัดน้อยในอาราม ข้าพเจ้าก็เลยดำริไปเยือนวัดน้อยสักหน่อย วัดน้อยอยู่สูงมากๆ ต้องตะกายขึ้นไป เพื่อนข้าพเจ้าเล่าให้ฟังว่าเวลาพี่แกไปฉลองอารามแทบจะต้อง"คลาน"ขึ้นไป(ทั้งๆที่พี่แกเป็นคนบ่ยั่นไม่หวั่นการขึ้นบันไดสูง)เพราะบันไดค่อนข้างชันและเวียนวนอยู่หลายรอบกว่าจะขึ้นไปถึงวัดได้ ขึ้นไปได้เห็นแล้วก็ชื่นอกชื่นใจ เพราะสวยงามตามสไตล์คาทอลิกไทย(แต่ขอเน้นว่าไม่ใช่ทรงไทยนะครับ) เรียบง่ายดี มีธรรมมาสน์ด้วย
4. พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณจัดในอาคารหนึ่งศตวรรษคณะพระหฤทัย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดพิธีหิรัญสมโภชในอาคารดังกล่าว เพราะแต่ก่อนจะจัดกันในวัดน้อย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงต้องตะกายหรือคลานกันขึ้นไปอย่างที่เพื่อนข้าพเจ้าว่ามา คนที่ไปถึงทีหลังๆก็คงเกาะราวบันไดร่วมมิสซา หรือไม่ก็ไปนั่งชั้นอื่นโดยร่วมมิสซาผ่านระบบโทรทัศน์วงจรปิด
5. อาคารหนึ่งศตวรรษเป็นอาคารใหม่ มีรูปปูนปั้นประดับโดยรอบ เป็นภาพเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของคณะพระหฤทัยฯ ด้านหน้าตรงข้ามประตูทางเข้ามีรูปบุคคลสำคัญของคณะและมหาธิการิณีของคณะด้วยครับ
6. ซิสเตอร์ท่านหนึ่งประกาศเชิญชวนพี่น้องทั้งหลายให้เข้าไปเตรียมร่วมพิธีในอาคารดังกล่าว โดยกล่าวว่าในห้องประชุมที่ใช้ประกอบพิธีนั้น"แอร์เย็นฉ่ำ" ข้าพเจ้าเข้าไปเป็นคนแรกๆเพราะกลัวไม่มีที่นั่ง ผลปรากฏว่าแอร์เย็นฉ่ำจริงแฮะ ชื่นอกชื่นใจเหลือเกิน เนื่องจากวันที่จัดงานนั้น ฟ้าหลัวแต่เช้า อากาศอบอ้าว เก็กซิมมากๆ
7. ในพิธีนั้นที่น่าประทับใจก็คือคณะนักขับ ซึ่งก็คือเหล่าภคินีทั้งสาวและไม่ค่อยสาวนัก (ส่วนที่แก่ไปเลยนั้นไม่ปรากฎ) ขับเพลงไพเราะน่าประทับใจมาก เสียงเสนาะ หวาน อลังการ วาทยากรก็เป็นซิสเตอร์ท่านหนึ่ง ทำหน้าที่ได้อลังการมาก น่าประทับใจ เพลงในวันนั้นไพเราะถึงขนาดที่ว่าอยากเอาเทปอัดไว้ เก็บไปฟังที่บ้าน
8. หลังพิธี ยังไม่ทันเดินออกจากห้องประชุมดีเลย ก็ได้ยินเสียงดนตรีแว่วมาจากข้างนอก โอ ที่ไหนได้ เป็นวงดนตรีโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ นักเรียนเล่นดนตรี ส่วนนักร้องก็เป็นพวกครูนั่นเอง เพลงที่ร้องนั้นเป็นเพลงลูกทุ่ง สัตบุรุษก็กินข้าวกลางวันกันไป ฟังเพลงไป ครื้นเครงใจยิ่ง ข้าพเจ้าไม่เข้าไปร่วมวงข้าว เพราะขี้เกียจไปแย่งกับชาวบ้านร้านช่อง จากประสบการณ์การไปฉลองวัดและงานนักบวช เจ้าภาพมักจะจัดอาหารกลางวันให้แขกเหรื่อผู้ให้เกียรติมาร่วมงาน แต่สัตบุรุษจำนวนไม่น้อยมีพฤติกรรมที่ไม่น่าพิสมัย เช่น แซงคิว ลัดคิว เขาให้ต่อคิวเป็นแถวตอนเรียงหนึ่ง พี่แกดันปรับเป็นแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง แล้วรุมออกันอยู่หน้าแผงแจกอาหาร แหกปากกันเข้าไป " ... ผัดไทย ... หอยทอด ... ก๋วยจั๊บ ... กระเพาะปลา ..." กล่าวได้ว่าในบรรดาอาหารทั้งหลายที่นำมาจัดเลี้ยงกันนั้น พวกอาหารพิเศษที่ขายกันแพงๆข้างนอกมักจะได้รับความนิยมจากสัตบุรุษเป็นพิเศษ ใครที่ไม่อยากไปแย่งกับคนอื่นต้องกินข้าวแกง พวกข้าวราดกับน่ะ อันนี้คนน้อยหน่อย ถ้าเป็นพวกขาหมู คากิ หมูหัน อันนี้คงยิ่งกว่างานเทกระจาด ถ้าพูดให้เวอร์ๆหน่อย ก็อาจพอกล่าวได้ว่ามีสิทธิ์เหยียบกันตาย หุ หุ ฉะนั้นอาหารชั้นดีพวกนี้ ถ้าอยากกินแต่ไม่ต้องการไปเบียดกับใคร เก็บเงินไปซื้อกินเองที่อื่นดีกว่า สัตบุรุษบางคนมีพฤติกรรมประหลาด น่าเบื่อ เก็กซิม เช่น ยังไม่ทันถึงคิวของตัวเองเลย คว้าชามก๋วยเตี๋ยวที่ลวกเส้น เนื้อสัตว์ใส่ไว้เรียบร้อยแล้ว รอตักน้ำใส่ ยื่นเข้าไป แบบเร่งๆให้คนตักตักน้ำก๋วยเตี๋ยวใส่ให้ ข้าวหมูแดงก็เหมือนกัน คว้าจานข้าวที่ตักข้าวกับเนื้อหมูไว้เรียบร้อยแล้ว รีบๆยื่นเข้าไปให้คนตักน้ำหมูแดงราดน้ำให้ ทั้งๆที่ยังไม่ถึงคิวของตัวเองดีเลย บางคนยังไม่ทันถึงคิวตัวเองดีเลย พนักงานกำลังตักน้ำก๋วยเตี๋ยวให้คนข้างหน้าอยู่ ดันแหกปากตะโกนแซงออกมาละ "ของเจ๊ไม่เอาตับ ไม่ใส่ถั่วงอกนะ" ยังไม่ถึงคิวตัวเองสักหน่อย อะไรทำนองนี้ เวลาตักเครื่องปรุงก็เหมือนกัน แย่งกันตัก น้ำตาลกระจายเต็มโต๊ะ พริกป่นร่วงไปในชามน้ำปลา พวกอยากกินเค็มๆแต่ไม่อยากกินเผ็ดๆ ก็เลยไม่รู้จักตักน้ำปลาอย่างไร จะให้ช้อนพริกขึ้นมาก่อนแล้วค่อยตักน้ำปลาหรือ ก็ใช่ที่ น้ำส้มกระฉอก ดีไม่ดี พริกที่หั่นใส่น้ำส้มกระเด็นกระดอนลอยไปติดหัวคนใกล้ๆ โอย เหตุการณ์เช่นนี้ชวนให้ไม่น่าดู มางานบุญแทนที่จะได้ไปบุญไปเต็มๆ แบบว่าตอนร่วมพิธีนั้น ได้แก้บาปรับศีลแล้ว อันนี้ได้บุญ แต่ต้องมาสู้รบปรบมือกับพวกสัตบุรุษทำนองนี้ บางครั้งอดใจไม่อยู่ พ่ายแพ้การผจญล่อลวง ด่าไปยกหนึ่ง กระแทกกลับให้หายแค้นอันนี้เหมือนแถมบาปพกกลับบ้านไปด้วย สรุปมางานบุญ นอกจากได้บุญ อาจแถมพกบาปติดตัวกลับไปด้วยอีกโสตหนึ่ง เช่นนี้แล้ว ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจไม่กินอะไรในวันนั้น แบกความหิวกลับไปกินข้าวยำปักษ์ใต้แถวบ้านดีกว่า
9. แม้จะไม่กินอะไร แต่ก็ยืนฟังเพลงลูกทุ่งอยู่หน่อยนึง ลมพัดเย็นๆเอื่อยๆ ฟังเพลงลูกทุ่งเย็นๆใจ สบายใจนักแล เพลงส่วนใหญ่ที่คัดมาร้องวันนั้นก็เป็นเพลงลูกทุ่งมันส์ๆ ร้องเร็วๆ เช่น สัญญาเมื่อสายัณห์ แต่มีอยู่เพลงหนึ่ง รับไม่ด้ายยยยยยยยยจริงๆ นั่นก็คือเพลง"ชวนน้องแต่งงาน"
10. ที่ว่าเพลง"ชวนน้องแต่งงาน" ข้าพเจ้ารับไม่ได้นั้น ก่อนอื่นดูเนื้อเพลงก่อน ดังนี้
ชวนน้องแต่งงาน
ทำไมน้องไม่แต่งงาน1จะอยู่อีกนานเท่าไร จะครองโสดความสาวให้หนาวใจ ไว้คอยใครเล่าหนา
ประเดี๋ยวก็แก่เกินกาล เหมือนเรือขึ้นคานเกยท่า ใครจะมาเมียงมองและหมายตา ในวัยชราหย่อนยาน2
แต่งงานเถิดน้อง อย่ามัวแต่มองข้ามผ่าน เดี๋ยวตายไปยมบาลไม่สงสาร3 อดขึ้นสวรรค์เลยหนอ4
ทำไมน้องไม่แต่งงาน หรือน้องต้องการคนหล่อ รูปร่างของพี่ก็ดีพอ มาเถิดน้องมาแต่งงานกัน
ข้อวิเคราะห์
10.1 วรรคแรกก็อึ้งแล้ววววว ร้องมาด้ายยยยยยยยยยยย "ทำไมน้องไม่แต่งงาน" ที่ไม่แต่งงานน่ะก็ที่คลุมผ้าสีขาวเดินไปเดินมาทั้งอารามนั่นแหละน้องงงงงงง ร้องมาได้งายยยยยยยยยยยยยยยยยยย เดี๋ยวเกิดคึกลุกขึ้นมาพากันไปแต่งงานแต่งการกันหมดจะทำงายยยยยยยยยยยยยยย นับได้ว่าเพลง"ชวนน้องแต่งงาน"นี้เป็นการผจญล่อลวงอย่างหนึ่งสำหรับซิสเตอร์ทั้งหลาย
10.2 "ในวัยชราหย่อนยาน" โอ๊ยยยยยยยยยยย ร้องมาด้ายยยยยยยยยยยย ในอารามเนี้ย ก็ยานหย่อนกันหลายรูปแล้วจ้ะ ร้องเช่นนี้นับเป็นการปรามาสผู้ชรานะจ๊ะ โอ้โห ร้องมาด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
10.3 เราเชื่อกันว่าในวันสุดท้ายพระคริสตเจ้าจะทรงเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย แล้วร้องมาด้ายยยยยยยยงายยยยยยยยยว่า"เดี๋ยวตายไปยมบาลไม่สงสาร" ซูแปร์ติซังมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
10.4 "อดขึ้นสวรรค์เลยหนอ" ร้องออกมาอย่างนี้ก็แสดงว่า"เชื่อว่าไม่ได้แต่งงาน ยมบาลก็เลยไม่สงสาร เป็นเหตุให้อดขึ้นสวรรค์" สรุปคือ เหตุ=ไม่ได้แต่งงาน(อยู่เป็นโสด) -- ผล=อดขึ้นสวรรค์ อย่างนี้ไม่ตกนรกกันทั้งอารามดอกหรือเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ร้องออกมาได้งายยยยยยยยยย เฮเรติ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โอ๊ย จะเป็นลมมมมมมมมมม
สุดท้าย ข้าพเจ้าก็กลับบ้าน ก่อนเข้าบ้าน แวะกินข้าวยำปักษ์ใต้แถวบ้านให้เปรมปาก อิ่มท้อง ไม่ต้องไปแย่งกับใครให้วุ่นวาย กินเสร็จก็ขึ้นรถเมล์กลับเข้าบ้าน นอน สบายแฮ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร พ.ค. 08, 2007 2:30 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
โอวววว
แสดงว่าคุณแม่อธิคานแถวๆพัทยาฟังเพลงที่ตั้วเน้นมาบ่อยแน่เลย เธอถึงได้ละกระแสลากและ"ไม้คาน"ที่พระองค์มอบหมายไว้ให้ไปอย่างไม่ใยดี
โอวววว
แสดงว่าคุณแม่อธิคานแถวๆพัทยาฟังเพลงที่ตั้วเน้นมาบ่อยแน่เลย เธอถึงได้ละกระแสลากและ"ไม้คาน"ที่พระองค์มอบหมายไว้ให้ไปอย่างไม่ใยดี
โอวววว
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร พ.ค. 08, 2007 11:01 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พี่ตั้ว คิดไปด้ายยยย
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
555 ไม่ใช่อะไรหรอก พระคุณเจ้าตั้ว เริ่ม เป็น ส.ว. น่ะ เลยบ่นๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสน่ห์เพลงลูกทุ่ง ก็ถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม เรื่อง ผัวๆ เมียๆ ว่ากันดื้อๆไปเลย
แต่เพลงนี้ไม่น่าจะเปิดในวันฉลองนะ โดยเฉพาะคณะภคินีเหมือนจะเยาะเย้ย อะไรนะนะ
ส่วนการแย่งกินอาหารงานฉลองนี่ ถือว่า เป็นการเห็น กึ๋น กันเลย คร้าบ
และในเวลาเดียวกัน ต้องใช้ความสามารถพิเศษ ฮะ
เสน่ห์เพลงลูกทุ่ง ก็ถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม เรื่อง ผัวๆ เมียๆ ว่ากันดื้อๆไปเลย
แต่เพลงนี้ไม่น่าจะเปิดในวันฉลองนะ โดยเฉพาะคณะภคินีเหมือนจะเยาะเย้ย อะไรนะนะ
ส่วนการแย่งกินอาหารงานฉลองนี่ ถือว่า เป็นการเห็น กึ๋น กันเลย คร้าบ
และในเวลาเดียวกัน ต้องใช้ความสามารถพิเศษ ฮะ
งานสุวรรณสมโภช หิรัญสมโภช และปฏิญาณตนตลอดชีวิตคณะเซนต์ปอลเดอชาร์ตร
วันเสาร์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ไปร่วมงานสุวรรณสมโภช หิรัญสมโภช และปฏิญาณตนตลอดชีวิตคณะเซนต์ปอลเดอชาร์ตร งานก็จัดที่เก่าเวลาเดิม โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โดยขอแบ่งปันดังนี้
1. ข้าพเจ้าไปถึงค่อนข้างสาย เลยรีบเข้าไปในหอประชุมตรีนิตี้ฮอล รู้สึกว่าแอร์แม้จะเย็นสบายแต่ก็ไม่ค่อยเท่ากับวันที่ไปหอประชุมหนึ่งศตวรรษที่คลองเตย สงสัยเป็นเพราะว่าอากาศภายนอกในวันที่ไปเซนต์โยฯไม่ร้อนอบอ้าวเท่ากับวันที่ไปคลองเตย พอเข้าไปก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่ามันฉ่ำชื่นใจเท่ากับที่คลองเตย
2. วันนั้นพระสังฆราชไปกัน 6 องค์ นักบวชไปกันมากๆๆๆๆ ดูแล้วยังกะวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์แน่ะ นอกจากพ่อพื้นเมืองจำนวนมหาศาลแล้ว เท่าที่จำได้ก็มีเซนต์คาเบรียล พระหฤทัย ซาเลเซียน ธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ธรรมทูตแห่งมารีย์นิรมล คามิลเลียน กาปูชิน คาร์เมไลท์(ชีลับ) คาร์เมไลท์มิชชันนารี นักบุญยอแซฟแห่งการประจักษ์ ศรีชุมพาบาล เยสุอิต ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ ฯลฯ
3. วันนั้น ถ้าคนที่ชื่นชอบลาตินไป ก็น่าจะถูกใจ เพราะก่อนเริ่มพิธี (ก่อนทำสำคัญมหากางเขนด้วยซ้ำไป) พิธีกรกล่าวว่า"เนื่องจากงานของนักบวชเกี่ยวเนื่องด้วยพระจิตเจ้า ฉะนั้นเราจะขับบทเพลงเชิญพระจิต" แล้วก็ขับเพลง"Veni Creator Spiritus"ก่อนอื่นใด แล้วค่อยเริ่มพิธี พอจะจบพิธีก็ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระหรรษทานในชีวิตนักบวชสำหรับผู้ที่ทำการฉลองสุวรรณสมโภชและหิรัญสมโภชด้วยการขับบทเพลง"Te Deum" อันนี้ก็ภาษาลาตินอีกแล้ว (จริงๆเพลงนี้ก็ขับที่คลองเตยด้วยเหมือนกัน) ส่งท้ายด้วยการอวยพรแบบสง่าโดยคณะพระสังฆราชเป็นภาษาลาติน สะใจกันไปข้างนึงเลยสำหรับแฟนพันธุ์แท้จารีตภาษาลาติน
4. อาหารกลางวันวันนั้น ข้าพเจ้าร่วมกินด้วย เพราะหิวโหยเหลือกำลังรับ ปรากฎว่าคณะเซอร์จัดระบบการรับอาหารได้ดี กล่าวคือเปิดโรงอาหาร แล้วจัดอาหารอยู่ในหลายๆซุ้ม แล้วให้เข้าคิวกันรับ เป็นระเบียบดีมาก เพราะอาหารกระจายไปหลายๆซุ้ม โดยที่แต่ละอย่างก็จัดให้มีมากกว่า 1 ซุ้ม คนเลยไม่จอแจ ถือว่าดีมากทั้งปริมาณที่เพียงพอ และคุณภาพที่สะอาด อร่อย
ข้าพเจ้าพยายามส่ายตาแลเล็งหาศิษย์เก่าจากเครือเซนต์ปอลว่าที่ไปกันนั้นมีใครบ้าง ที่ข้าพเจ้ารู้จักก็พอเห็นอยู่บ้างบางคน
วันเสาร์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ไปร่วมงานสุวรรณสมโภช หิรัญสมโภช และปฏิญาณตนตลอดชีวิตคณะเซนต์ปอลเดอชาร์ตร งานก็จัดที่เก่าเวลาเดิม โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โดยขอแบ่งปันดังนี้
1. ข้าพเจ้าไปถึงค่อนข้างสาย เลยรีบเข้าไปในหอประชุมตรีนิตี้ฮอล รู้สึกว่าแอร์แม้จะเย็นสบายแต่ก็ไม่ค่อยเท่ากับวันที่ไปหอประชุมหนึ่งศตวรรษที่คลองเตย สงสัยเป็นเพราะว่าอากาศภายนอกในวันที่ไปเซนต์โยฯไม่ร้อนอบอ้าวเท่ากับวันที่ไปคลองเตย พอเข้าไปก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่ามันฉ่ำชื่นใจเท่ากับที่คลองเตย
2. วันนั้นพระสังฆราชไปกัน 6 องค์ นักบวชไปกันมากๆๆๆๆ ดูแล้วยังกะวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์แน่ะ นอกจากพ่อพื้นเมืองจำนวนมหาศาลแล้ว เท่าที่จำได้ก็มีเซนต์คาเบรียล พระหฤทัย ซาเลเซียน ธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ธรรมทูตแห่งมารีย์นิรมล คามิลเลียน กาปูชิน คาร์เมไลท์(ชีลับ) คาร์เมไลท์มิชชันนารี นักบุญยอแซฟแห่งการประจักษ์ ศรีชุมพาบาล เยสุอิต ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ ฯลฯ
3. วันนั้น ถ้าคนที่ชื่นชอบลาตินไป ก็น่าจะถูกใจ เพราะก่อนเริ่มพิธี (ก่อนทำสำคัญมหากางเขนด้วยซ้ำไป) พิธีกรกล่าวว่า"เนื่องจากงานของนักบวชเกี่ยวเนื่องด้วยพระจิตเจ้า ฉะนั้นเราจะขับบทเพลงเชิญพระจิต" แล้วก็ขับเพลง"Veni Creator Spiritus"ก่อนอื่นใด แล้วค่อยเริ่มพิธี พอจะจบพิธีก็ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระหรรษทานในชีวิตนักบวชสำหรับผู้ที่ทำการฉลองสุวรรณสมโภชและหิรัญสมโภชด้วยการขับบทเพลง"Te Deum" อันนี้ก็ภาษาลาตินอีกแล้ว (จริงๆเพลงนี้ก็ขับที่คลองเตยด้วยเหมือนกัน) ส่งท้ายด้วยการอวยพรแบบสง่าโดยคณะพระสังฆราชเป็นภาษาลาติน สะใจกันไปข้างนึงเลยสำหรับแฟนพันธุ์แท้จารีตภาษาลาติน
4. อาหารกลางวันวันนั้น ข้าพเจ้าร่วมกินด้วย เพราะหิวโหยเหลือกำลังรับ ปรากฎว่าคณะเซอร์จัดระบบการรับอาหารได้ดี กล่าวคือเปิดโรงอาหาร แล้วจัดอาหารอยู่ในหลายๆซุ้ม แล้วให้เข้าคิวกันรับ เป็นระเบียบดีมาก เพราะอาหารกระจายไปหลายๆซุ้ม โดยที่แต่ละอย่างก็จัดให้มีมากกว่า 1 ซุ้ม คนเลยไม่จอแจ ถือว่าดีมากทั้งปริมาณที่เพียงพอ และคุณภาพที่สะอาด อร่อย
ข้าพเจ้าพยายามส่ายตาแลเล็งหาศิษย์เก่าจากเครือเซนต์ปอลว่าที่ไปกันนั้นมีใครบ้าง ที่ข้าพเจ้ารู้จักก็พอเห็นอยู่บ้างบางคน
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ พ.ค. 09, 2007 5:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- BARKER BARBER
- โพสต์: 226
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 8:34 pm
- ที่อยู่: XAVIER HALL / PRISONMINISTRY
c] และจากข้อ4 ข้าพเจ้าเลย ซัดซะเต็ม คราบ หมดไป5 จานโตๆ ใช่ใหม ครับ พี่ตั๊ว เหอๆFlorian เขียน:
งานสุวรรณสมโภช หิรัญสมโภช และปฏิญาณตนตลอดชีวิตคณะเซนต์ปอลเดอชาร์ตร
วันเสาร์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ไปร่วมงานสุวรรณสมโภช หิรัญสมโภช และปฏิญาณตนตลอดชีวิตคณะเซนต์ปอลเดอชาร์ตร งานก็จัดที่เก่าเวลาเดิม โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โดยขอแบ่งปันดังนี้
1. ข้าพเจ้าไปถึงค่อนข้างสาย เลยรีบเข้าไปในหอประชุมตรีนิตี้ฮอล รู้สึกว่าแอร์แม้จะเย็นสบายแต่ก็ไม่ค่อยเท่ากับวันที่ไปหอประชุมหนึ่งศตวรรษที่คลองเตย สงสัยเป็นเพราะว่าอากาศภายนอกในวันที่ไปเซนต์โยฯไม่ร้อนอบอ้าวเท่ากับวันที่ไปคลองเตย พอเข้าไปก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่ามันฉ่ำชื่นใจเท่ากับที่คลองเตย
2. วันนั้นพระสังฆราชไปกัน 6 องค์ นักบวชไปกันมากๆๆๆๆ ดูแล้วยังกะวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์แน่ะ นอกจากพ่อพื้นเมืองจำนวนมหาศาลแล้ว เท่าที่จำได้ก็มีเซนต์คาเบรียล พระหฤทัย ซาเลเซียน คามิลเลียน กาปูชิน คาร์เมไลท์(ชีลับ) คาร์เมไลท์มิชชันนารี นักบุญยอแซฟแห่งการประจักษ์ ศรีชุมพาบาล เยสุอิต ผู้รับใช้ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ ฯลฯ
3. วันนั้น ถ้าคนที่ชื่นชอบลาตินไป ก็น่าจะถูกใจ เพราะก่อนเริ่มพิธี (ก่อนทำสำคัญมหากางเขนด้วยซ้ำไป) พิธีกรกล่าวว่า"เนื่องจากงานของนักบวชเกี่ยวเนื่องด้วยพระจิตเจ้า ฉะนั้นเราจะขับบทเพลงเชิญพระจิต" แล้วก็ขับเพลง"Venite Creator Spiritus"ก่อนอื่นใด แล้วค่อยเริ่มพิธี พอจะจบพิธีก็ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระหรรษทานในชีวิตนักบวชสำหรับผู้ที่ทำการฉลองสุวรรณสมโภชและหิรัญสมโภชด้วยการขับบทเพลง"Te Deum" อันนี้ก็ภาษาลาตินอีกแล้ว (จริงๆเพลงนี้ก็ขับที่คลองเตยด้วยเหมือนกัน) ส่งท้ายด้วยการอวยพรแบบสง่าโดยคณะพระสังฆราชเป็นภาษาลาติน สะใจกันไปข้างนึงเลยสำหรับแฟนพันธุ์แท้จารีตภาษาลาติน
4. อาหารกลางวันวันนั้น ข้าพเจ้าร่วมกินด้วย เพราะหิวโหยเหลือกำลังรับ ปรากฎว่าคณะเซอร์จัดระบบการรับอาหารได้ดี กล่าวคือเปิดโรงอาหาร แล้วจัดอาหารอยู่ในหลายๆซุ้ม แล้วให้เข้าคิวกันรับ เป็นระเบียบดีมาก เพราะอาหารกระจายไปหลายๆซุ้ม โดยที่แต่ละอย่างก็จัดให้มีมากกว่า 1 ซุ้ม คนเลยไม่จอแจ ถือว่าดีมากทั้งปริมาณที่เพียงพอ และคุณภาพที่สะอาด อร่อย
ข้าพเจ้าพยายามส่ายตาแลเล็งหาศิษย์เก่าจากเครือเซนต์ปอลว่าที่ไปกันนั้นมีใครบ้าง ที่ข้าพเจ้ารู้จักก็พอเห็นอยู่บ้างบางคน
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร พ.ค. 08, 2007 3:49 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอบคุณน้องสามที่เตือนสติข้าพเจ้า ข้าพเจ้าลืมรายงานว่า วันนั้นมื้อกลางวัน ข้าพเจ้าซัดก๋วยจั๊บไปสองชาม ข้าวหมูแดงหนึ่งจาน ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกอีกหนึ่งชาม กระเพาะปลาอีกหนึ่งชาม ตบท้ายด้วยน้ำสับปะรดอีกหนึ่งถุงย่อมๆ อิ่มอร่อยมากเลย หุ หุ
ข้าวหมูแดง
ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก
กระเพาะปลา
น้ำสับปะรด
ข้าวหมูแดง
ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก
กระเพาะปลา
น้ำสับปะรด
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 17, 2007 2:56 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ทำไมไม่ชวนน้องยศไปด้วยหล่ะพี่ เห็นชีพจรลงเท้าเหมือนกัน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
สงสัยที่บ้านพี่ตั้ว นี่ต้องล้างหม้อ ไห กระทะ แขวนเลย เพราะลูกบ้าน วิ่งรอก กินฟรี อิอิ
รองานช้างของเจ๊ฟีมละกัน และยังงานภิเษก พระคุณเจ้าองค์ใหม่ วันที่ 2 มิย.07 ที่สนามกีฬา นครสวรรค์ อีกงานนะพี่
รองานช้างของเจ๊ฟีมละกัน และยังงานภิเษก พระคุณเจ้าองค์ใหม่ วันที่ 2 มิย.07 ที่สนามกีฬา นครสวรรค์ อีกงานนะพี่
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
ท่านตั้วจ๊ะ ซิสเตอร์ กับ มาเซอร์ขอให้สวดใช้โทษบาปด้วยนะที่เอาเรื่องซิสเตอร์มาเม้าท์ อิอิอิอิอิ
น้องอุ้ยทำให้ข้าพเจ้านึกถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสกับนักบุญเปโตรดังที่มีบันทึกไว้ในพระวรสารนักบุญยอห์นว่า "เราบอกความจริงแก่เจ้าว่าเมื่อเจ้ายังหนุ่มเจ้าคาดเอวของเจ้าเองและเดินไปไหนๆตามที่เจ้าปรารถนาแต่เมื่อเจ้าแก่แล้วเจ้าจะเหยียดมือของเจ้าออกและคนอื่นจะคาดเอวเจ้าและพาเจ้าไปที่ที่เจ้าไม่ปรารถนาจะไป"Batholomew เขียน: ทำไมไม่ชวนน้องยศไปด้วยหล่ะพี่ เห็นชีพจรลงเท้าเหมือนกัน
สมัยก่อนข้าพเจ้ามีความสุขหรรษากับการไปแสวงบุญตามวัดต่างๆ เป็นต้นในโอกาสฉลองวัด ข้าพเจ้าคาดเข็มขัดด้วยตัวเอง ไปฉลองวัดไหนๆได้ตามใจข้าพเจ้าปรารถนา แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าชราภาพแล้ว จึงมิใคร่ใฝ่ใจไปแห่งหนตำบลไหน ยิ่งช่วงหลังนี้ ข้าพเจ้าเหนื่อยเอาการ ไปไหนก็มักจะเหนื่อยง่าย เกรงว่าถ้าไปตะลอนเหมือนแต่ก่อน อาจหน้ามืดตาลาย เป็นลมล้มพับ หน้าทิ่มหัวตำ ทีนี้ก็คงจะมีผู้ประสงค์ดีมาเหยียดมือข้าพเจ้า แล้วพาข้าพเจ้าไปในที่ที่ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาจะไป หุ หุ
เช่นนี้ จึงทำให้ข้าพเจ้ามิใคร่รับกิจนิมนต์ ใครอาราธนาไปไหน ช่วงหลังนี้ข้าพเจ้าก็มิใคร่จักไป ชีพจรที่เคยลงมาเดินเล่นแถวเท้าก็ตีลังกาวกกลับไปเดินเล่นที่อื่น ด้วยว่าสังขารไม่อำนวยเหมือนก่อนแล้ว
การกินฟรีในงานบุญนับเป็นลาภปากนัก ด้วยว่าเจ้าภาพย่อมคัดสรรสิ่งที่ดีมาเลี้ยงแขกเหรื่อ ซึ่งจะผิดกับการกินตามร้านอาหารในหลายกรณี ที่ผู้ค้าอาจจะใช้ของคุณภาพไม่ดีในการผลิตเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มกำไร ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงชอบกินเลี้ยงตามงานบุญงานกุศล เราอิ่มท้อง เจ้าภาพก็ได้บุญ จริงปะน้องเจี๊ยบJeab Agape เขียน:
สงสัยที่บ้านพี่ตั้ว นี่ต้องล้างหม้อ ไห กระทะ แขวนเลย เพราะลูกบ้าน วิ่งรอก กินฟรี อิอิ
รองานช้างของเจ๊ฟีมละกัน และยังงานภิเษก พระคุณเจ้าองค์ใหม่ วันที่ 2 มิย.07 ที่สนามกีฬา นครสวรรค์ อีกงานนะพี่
น้องเปรมต้องไปกับเพื่อนพี่ด้วยอีกคน รับรองมันส์มากกว่าที่เล่านี้อีกY u K i เขียน: น่าสนุกจังเลยพี่ตั้ว อยากไปมั่ง
พี่แกนะ เวลาไปงานฉลองตามวัด สามที่ที่ต้องไปเยือนก็คือ วัด โรงเรียน และสุสาน ไปให้ครบ แล้วก็แวะดูบอร์ดบุคลากร เก็บข้อมูล พี่ยังเคยแซวพี่แกเลยว่า บุคลากรในพระศาสนจักร ใครอยู่ไหน พี่แกเป็นรู้หมด จนจะเป็นปฏิทินคาทอลิกฉบับเล่มเคลื่อนที่อยู่แล้วนะเนี่ย
เเหง่ะๆ เเห่ะๆ มีใครก็ไม่รู้ เป้นผีชายหาด เดินไปเดินมาตอนกลางคืน หิหิหิ นกเค้าเเมวกะต้นเชอร์รี่Florian เขียน:บ่เป็นหยัง ... แต่คิดว่าค่ายนักขับน่าจะสนุกกว่า อิ อิ ไปดูนกบินริมหาดชายทะเล เหอ เหอKathaRoS เขียน: ขอบคุณพี่ตั๊วมากค่ะ...
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ก็ยังเห็นไปอยู่ดีอ่ะแหละFlorian เขียน:น้องอุ้ยทำให้ข้าพเจ้านึกถึงพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสกับนักบุญเปโตรดังที่มีบันทึกไว้ในพระวรสารนักบุญยอห์นว่า "เราบอกความจริงแก่เจ้าว่าเมื่อเจ้ายังหนุ่มเจ้าคาดเอวของเจ้าเองและเดินไปไหนๆตามที่เจ้าปรารถนาแต่เมื่อเจ้าแก่แล้วเจ้าจะเหยียดมือของเจ้าออกและคนอื่นจะคาดเอวเจ้าและพาเจ้าไปที่ที่เจ้าไม่ปรารถนาจะไป"Batholomew เขียน: ทำไมไม่ชวนน้องยศไปด้วยหล่ะพี่ เห็นชีพจรลงเท้าเหมือนกัน
สมัยก่อนข้าพเจ้ามีความสุขหรรษากับการไปแสวงบุญตามวัดต่างๆ เป็นต้นในโอกาสฉลองวัด ข้าพเจ้าคาดเข็มขัดด้วยตัวเอง ไปฉลองวัดไหนๆได้ตามใจข้าพเจ้าปรารถนา แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าชราภาพแล้ว จึงมิใคร่ใฝ่ใจไปแห่งหนตำบลไหน ยิ่งช่วงหลังนี้ ข้าพเจ้าเหนื่อยเอาการ ไปไหนก็มักจะเหนื่อยง่าย เกรงว่าถ้าไปตะลอนเหมือนแต่ก่อน อาจหน้ามืดตาลาย เป็นลมล้มพับ หน้าทิ่มหัวตำ ทีนี้ก็คงจะมีผู้ประสงค์ดีมาเหยียดมือข้าพเจ้า แล้วพาข้าพเจ้าไปในที่ที่ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาจะไป หุ หุ
เช่นนี้ จึงทำให้ข้าพเจ้ามิใคร่รับกิจนิมนต์ ใครอาราธนาไปไหน ช่วงหลังนี้ข้าพเจ้าก็มิใคร่จักไป ชีพจรที่เคยลงมาเดินเล่นแถวเท้าก็ตีลังกาวกกลับไปเดินเล่นที่อื่น ด้วยว่าสังขารไม่อำนวยเหมือนก่อนแล้ว
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Florian เขียน:ไม่ได้เมาท์นะ แค่เล่าสู่กันฟัง อิ อิ:+: seraphim :+: เขียน: ท่านตั้วจ๊ะ ซิสเตอร์ กับ มาเซอร์ขอให้สวดใช้โทษบาปด้วยนะที่เอาเรื่องซิสเตอร์มาเม้าท์ อิอิอิอิอิ
พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........
แค่ได้เห็นคำพูดเจ๊ ก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน:+: seraphim :+: เขียน:พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........Florian เขียน:ไม่ได้เมาท์นะ แค่เล่าสู่กันฟัง อิ อิ:+: seraphim :+: เขียน: ท่านตั้วจ๊ะ ซิสเตอร์ กับ มาเซอร์ขอให้สวดใช้โทษบาปด้วยนะที่เอาเรื่องซิสเตอร์มาเม้าท์ อิอิอิอิอิ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
Florian เขียน:แค่ได้เห็นคำพูดเจ๊ ก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน:+: seraphim :+: เขียน:
พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........
แหมทั่นพี่ตั้ว เจ๊แค่ซ้อมๆไว้ปราบ "ผผผผผผผผผผผผั----- วววววววว " ฮะ :afro:
อูยยยยยยส์ ฟิมง้าบบเก็บภาพคุณแม่มหาอภิอัครคานมหึมาหน่อย มันกำลังจะเป็นอดีตไปแล้ว อย่าไปอาลัยอาวรณ์กลับ เดี๋ยวลูกเจี๊ยบตื่นหรอก:+: seraphim :+: เขียน:Florian เขียน:ไม่ได้เมาท์นะ แค่เล่าสู่กันฟัง อิ อิ:+: seraphim :+: เขียน: ท่านตั้วจ๊ะ ซิสเตอร์ กับ มาเซอร์ขอให้สวดใช้โทษบาปด้วยนะที่เอาเรื่องซิสเตอร์มาเม้าท์ อิอิอิอิอิ
พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........
หลับตา จินตนาการ
ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี........ ปิ๊งง
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ถึงขั้นต้องเตือนสติตัวเองเลยหรอครับอันตน เขียน:อูยยยยยยส์ ฟิมง้าบบเก็บภาพคุณแม่มหาอภิอัครคานมหึมาหน่อย มันกำลังจะเป็นอดีตไปแล้ว อย่าไปอาลัยอาวรณ์กลับ เดี๋ยวลูกเจี๊ยบตื่นหรอก:+: seraphim :+: เขียน:Florian เขียน: ไม่ได้เมาท์นะ แค่เล่าสู่กันฟัง อิ อิ
พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........
หลับตา จินตนาการ
ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี........ ปิ๊งง
เอาน่า เพื่ออนาคตของสตรีที่ละทิ้งกระแสลากท่านหนึ่งBatholomew เขียน:ถึงขั้นต้องเตือนสติตัวเองเลยหรอครับอันตน เขียน:อูยยยยยยส์ ฟิมง้าบบเก็บภาพคุณแม่มหาอภิอัครคานมหึมาหน่อย มันกำลังจะเป็นอดีตไปแล้ว อย่าไปอาลัยอาวรณ์กลับ เดี๋ยวลูกเจี๊ยบตื่นหรอก:+: seraphim :+: เขียน:
พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........
หลับตา จินตนาการ
ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี........ ปิ๊งง
จะดีเหรอห๊า ปราบ....................ผ :lipsrsealed:Jeab Agape เขียน:Florian เขียน:แค่ได้เห็นคำพูดเจ๊ ก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน:+: seraphim :+: เขียน:
พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........
แหมทั่นพี่ตั้ว เจ๊แค่ซ้อมๆไว้ปราบ "ผผผผผผผผผผผผั----- วววววววว " ฮะ :afro:
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:Florian เขียน:แค่ได้เห็นคำพูดเจ๊ ก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน:+: seraphim :+: เขียน:
พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........
แหมทั่นพี่ตั้ว เจ๊แค่ซ้อมๆไว้ปราบ "ผผผผผผผผผผผผั----- วววววววว " ฮะ :afro:
ง่ะ...น้องเจี๊ยบอ่ะ เดี๋ยวไก่ตื่นหมดนิ
อันตน เขียน:อูยยยยยยส์ ฟิมง้าบบเก็บภาพคุณแม่มหาอภิอัครคานมหึมาหน่อย มันกำลังจะเป็นอดีตไปแล้ว อย่าไปอาลัยอาวรณ์กลับ เดี๋ยวลูกเจี๊ยบตื่นหรอก:+: seraphim :+: เขียน:Florian เขียน: ไม่ได้เมาท์นะ แค่เล่าสู่กันฟัง อิ อิ
พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........
หลับตา จินตนาการ
ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี........ ปิ๊งง
ลืมตัวไปคะ สาวใส ท่องไว ท่องไว้
ขืนปราบกันแบบนั้นจริงๆ:+: seraphim :+: เขียน:Jeab Agape เขียน:Florian เขียน: แค่ได้เห็นคำพูดเจ๊ ก็ทำให้ข้าพเจ้าต้องร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
แหมทั่นพี่ตั้ว เจ๊แค่ซ้อมๆไว้ปราบ "ผผผผผผผผผผผผั----- วววววววว " ฮะ :afro:
ง่ะ...น้องเจี๊ยบอ่ะ เดี๋ยวไก่ตื่นหมดนิ
อันตน เขียน:อูยยยยยยส์ ฟิมง้าบบเก็บภาพคุณแม่มหาอภิอัครคานมหึมาหน่อย มันกำลังจะเป็นอดีตไปแล้ว อย่าไปอาลัยอาวรณ์กลับ เดี๋ยวลูกเจี๊ยบตื่นหรอก:+: seraphim :+: เขียน:
พูดเรื่องจริง " นินทา " พูดเรื่องไม่จริง " ใส่ความ " กิจใช้โทษบาป ให้ไปแสวงบุญ 9 วัดภายใน 9 วัน ใน 9 จังหวัด เดินรูป 14 ภาค แต่ละภาคให้สวดสายประคำแม่พระ 1 สาย สายประคำพระเมตตา 1 สาย หลังจากนั้นเฝ้าศีลเป็นเวลา 9 วัน วันละ 9 ชม. ตอนนี้ให้สำนึกผิดซะแล้วพี่จะยกโทษให้ เฮิ๊กส์ๆๆๆๆๆๆ..........
หลับตา จินตนาการ
ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี........ ปิ๊งง
ลืมตัวไปคะ สาวใส ท่องไว ท่องไว้
สงสัยฝาละมีคงจะไปแน่ๆคับ
ไปไหนหรอ....
คงจะอารามหรือบ้านคณะที่ใกล้ที่สุดอ่านะ
ก็เล่นกิจศรัทธาซะขนาดนั้น
พ่อปลัดไม่รู้เหรอว่า นี่เขากำลังเตรียมบ้านทำวัดน้อยแล้วPorpalad เขียน:ขืนปราบกันแบบนั้นจริงๆ:+: seraphim :+: เขียน:Jeab Agape เขียน:
แหมทั่นพี่ตั้ว เจ๊แค่ซ้อมๆไว้ปราบ "ผผผผผผผผผผผผั----- วววววววว " ฮะ :afro:
ง่ะ...น้องเจี๊ยบอ่ะ เดี๋ยวไก่ตื่นหมดนิ
อันตน เขียน: อูยยยยยยส์ ฟิมง้าบบเก็บภาพคุณแม่มหาอภิอัครคานมหึมาหน่อย มันกำลังจะเป็นอดีตไปแล้ว อย่าไปอาลัยอาวรณ์กลับ เดี๋ยวลูกเจี๊ยบตื่นหรอก
หลับตา จินตนาการ
ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี ฉันคือหญิงงามใจดี........ ปิ๊งง
ลืมตัวไปคะ สาวใส ท่องไว ท่องไว้
สงสัยฝาละมีคงจะไปแน่ๆคับ
ไปไหนหรอ....
คงจะอารามหรือบ้านคณะที่ใกล้ที่สุดอ่านะ
ก็เล่นกิจศรัทธาซะขนาดนั้น
ชวนฝาละมีทำวัตรเช้าเย็นตีสี่ ตีห้าถือเงียบ หกโมงเช้าสวดสายประคำ เจ็ดโมงเช้าแยกย้ายทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย สองโมงเช้ากินข้าวเสร็จแล้วทำงานที่ได้รับมอบหมาย เที่ยงสวดเทวดาถือสาร บ่ายสามสวดพระเมตตา สี่โมงเย็นหย่อนใจ หกโมงสวดสายประคำ ทุ่มกินข้าว สองท่มถือเงียบ สามทุ่มทำวัตรเย็น เที่ยงคืนสวดดึก