สวรรค์
สวรรค์นั้นน่าเบื่อ.........ไม่จริงเพราะขึ้นไปก็มีไรให้ทำอยู่ดีนั่นแหละแล้วแต่พระเจ้าสั่งก็สนุกอีกแบบ
นรกก็น่ารำคาญ...........นั่นคือความทรมานที่คุณต้องรับถ้าทำชั่ว
ไม่เคยไปนะแต่คิดเอง
นรกก็น่ารำคาญ...........นั่นคือความทรมานที่คุณต้องรับถ้าทำชั่ว
ไม่เคยไปนะแต่คิดเอง
สวรรค์นั้นน่าเบื่อ
ถ้าผมได้อยู่กับผู้ที่ผมรักสุดหัวใจ ผมยังมองไม่ออกว่าจะเบื่อได้อย่างไร ถ้าเบื่อแสดงว่า ไม่ค่อยรักเท่าไหร่ ดังนั้น ผู้ที่คิดว่าสวรรค์น่าเบื่อควรทบทวนตนเองได้แล้วว่า คำพูดที่ว่ารักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจนั้นที่จริงในใจเขามีให้พระเจ้าบ้างหรือเปล่า
นรกก็น่ารำคาญ
มันไม่น่ารักขนาดนั้นหรอกครับ น่ารำคาญให้อารมณ์เหมือนมดดำไต่ขาตลอดเวลา แต่นรกนั้น น่าจะเหมือนถูกช้างกระทืบตลอดเวลามากกว่า กระทู้แนะนำครับ
!! เรื่องเล่าจากวิญญาณในนรก !! http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=858.0
โลกมนุษย์ซิมีเรื่องน่าตื้นเต้น
ตรงข้ามครับ ผมเบื่อหน่ายโลกมนุษย์มาก ผมเคยขอพระว่าจะไม่ดูแลสุขภาพตัวเองมากนักได้ไหมไม่อยากอายุยืนเกินไป แต่พระองค์ไม่อณุญาติ และไขแสดงให้ผมทราบว่า ผมเกิดมาในโลกทำไม และพระองค์กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนเนรมิตสร้างว่าให้ผมมาทำอะไรบ้าง ผมคิดว่า ถ้าวันไหน ผมจะตาย ผมคงตื่นเต้นมากที่จะพบพระเยซูเจ้า ความตื่นเต้นที่เหมือนเจ้าสาวรอเจ้าบ่าว เพราะต่อไปนี้ ผมจะไม่ได้พบพระองค์แต่เพียงลางๆ หรือเฉพาะในความเชื่อ แต่จะอยู่กับพระองค์ทั้งครบครัน แท้จริง แจ่มกระจ่าง ตลอดกาลนิรันดร์
สรุป ผมไม่เห็นด้วยแม้แต่ข้อเดียว และไม่สามารถคิดแบบนั้นได้ครับ ตัวผมที่อาจจะเคยคิดแบบนั้นตายไปหลายปีแล้ว
ถ้าผมได้อยู่กับผู้ที่ผมรักสุดหัวใจ ผมยังมองไม่ออกว่าจะเบื่อได้อย่างไร ถ้าเบื่อแสดงว่า ไม่ค่อยรักเท่าไหร่ ดังนั้น ผู้ที่คิดว่าสวรรค์น่าเบื่อควรทบทวนตนเองได้แล้วว่า คำพูดที่ว่ารักพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจนั้นที่จริงในใจเขามีให้พระเจ้าบ้างหรือเปล่า
นรกก็น่ารำคาญ
มันไม่น่ารักขนาดนั้นหรอกครับ น่ารำคาญให้อารมณ์เหมือนมดดำไต่ขาตลอดเวลา แต่นรกนั้น น่าจะเหมือนถูกช้างกระทืบตลอดเวลามากกว่า กระทู้แนะนำครับ
!! เรื่องเล่าจากวิญญาณในนรก !! http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=858.0
โลกมนุษย์ซิมีเรื่องน่าตื้นเต้น
ตรงข้ามครับ ผมเบื่อหน่ายโลกมนุษย์มาก ผมเคยขอพระว่าจะไม่ดูแลสุขภาพตัวเองมากนักได้ไหมไม่อยากอายุยืนเกินไป แต่พระองค์ไม่อณุญาติ และไขแสดงให้ผมทราบว่า ผมเกิดมาในโลกทำไม และพระองค์กำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนเนรมิตสร้างว่าให้ผมมาทำอะไรบ้าง ผมคิดว่า ถ้าวันไหน ผมจะตาย ผมคงตื่นเต้นมากที่จะพบพระเยซูเจ้า ความตื่นเต้นที่เหมือนเจ้าสาวรอเจ้าบ่าว เพราะต่อไปนี้ ผมจะไม่ได้พบพระองค์แต่เพียงลางๆ หรือเฉพาะในความเชื่อ แต่จะอยู่กับพระองค์ทั้งครบครัน แท้จริง แจ่มกระจ่าง ตลอดกาลนิรันดร์
สรุป ผมไม่เห็นด้วยแม้แต่ข้อเดียว และไม่สามารถคิดแบบนั้นได้ครับ ตัวผมที่อาจจะเคยคิดแบบนั้นตายไปหลายปีแล้ว
คุณจะตัดสินว่าสวรรค์นั้นน่าเบื่อได้อย่างไร หากคุณยังไม่เคยขึ้นไปอยู่ด้วยซํา ถ้าคิดเช่นนี้ เเปลว่าsakda88 เขียน: สวรรค์นั้นน่าเบื่อ
พระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์ อยู่ในสิ่งเเวดล้อมที่น่าเบื่อ? เหล่าเทพเทวาอยู่ในสิ่งเเวดล้อมที่น่าเบื่อ? บรรดานักบุญอยู่ในสิ่งเเวดล้อมที่น่าเบื่อ? จะเป็นการดูหมิ่นเสียเปล่าๆนะคะ
มันจะไม่น่ารำคาญเลยเเม้เเต่น้อย เเต่มันคือหายนะที่จะเกิดขึ้นหากมีคนๆหนึ่งคิดว่าสวรรค์นั้นน่าเบื่อ เพราะเขาอาจจะได้อยู่ที่นี่อีก นาน...>sakda88 เขียน: นรกก็น่ารำคาญ
โลก เป็นสิ่งสวยงามเพราะพระทรงสร้าง เเต่มนุษย์ ผู้อยู่อาศัย ไม่ได้ทำตนให้เหมาะสมกับโลกเลย เหอะๆ เเต่ยอมรับ โลกมนุษย์น่าตื่นเต้นจริงๆ ไม่มีวันไหนที่คุณเปิดหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเเล้วไม่เห็นข่าวฆาตกรรม(ยกเว้นหนังสือพิมพ์กีฬา หรือดารา)มีเเต่การทะเลาะเเย่งชิงกันสุดที่จะบรรยาย พวกมนุษย์ด้วยกันเอง ทำกันได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ? พี่น้องมนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้าง น่าตื่นเต้นจริงๆ ใครอยากจะอยู่ต่อก็อยู่ไป เเต่ข้าพเจ้าขอบายsakda88 เขียน: โลกมนุษย์ซิมีเรื่องน่าตื้นเต้น
ป.ล. ไม่มีใครอยู่ในโลกมนุษย์ได้ตลอดไปหรอกค่ะ ถึงเวลาเลือกซักทางเเล้วว่าจะไปสวรรค์หรือนรก
ดูอีกทีนะคะ
สวรรค์ (น่าเบื่อตรงไหนหรือ?)
นรก (มากกว่าความน่ารำคาญเเละน่าเบื่อ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ท่ามกลางหมู่อสูรกายที่ต่อต้านพระเจ้า)
ป.ล.2 รูปภาพเหล่านี้ ไม่อาจเปรียบเทียบได้กับสวรรค์หรือนรกจริงๆด้วยซํา
แก้ไขล่าสุดโดย Ecclēsia เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ค. 17, 2007 8:35 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไม่ทราบเจตนาที่แท้จริงนะครับ แต่ว่าการที่กล่าวแบบนี้ออกมา เท่ากับว่า พระองค์ทรงน่าเบื่อ และเราเองก็มีจิตใจฝักใฝ่แต่ฝ่ายโลก นะครับsakda88 เขียน: สวรรค์นั้นน่าเบื่อ
นรกก็น่ารำคาญ
โลกมนุษย์ซิมีเรื่องน่าตื้นเต้น
ผมว่าอย่าคิดมากเลยครับ ทุกลมหายใจเรา เราต้องถวายพระเกียรติแด่พระองค์ครับ จะไม่มีอะไรน่าเบื่อเลย
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ไม่อยากตื่นเต้นกับของปลอม ๆ ความสนุก ความตื่นเต้น ความสุขแบบชั่วครั้งชั่วคราว ในโลกนี้หรอกค่ะ
ความสุขแบบยาเสพติดแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าคุณเห็นว่ามันดีงามที่ตรงไหน
ความสุขแบบยาเสพติดแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าคุณเห็นว่ามันดีงามที่ตรงไหน
ผมว่าโลกมนุษย์เนี่ยน่าเบื่อจะตาย
มีแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากันทั้งน้าน
มีแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากันทั้งน้าน
http://www.traditioninaction.org/SOD/j0 ... ome3-9.htmHoly เขียน:
ภาพนี้เอามาจากไหนครับ อยากทราบอย่างแรง มีความหมายที่ไม่ธรรมดาอย่างมาก
อ๋อ จากเวปนี้ค่ะ คือบังเอิญใช้กูเกิลหาอ่ะค่ะ เเห่ะๆ
เเต่สังเกตดู เห็นว่ามีคนใส่มงกุฏ3ชั้นของพระสันตะปาปา เเล้วก็หมวกที่เเสดงความเป็นพระสังฆราชด้วย :lipsrsealed:
แก้ไขล่าสุดโดย Ecclēsia เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ค. 17, 2007 11:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
ในสวรรค์มีการนมัสการและสรรเสริญพระเจ้าตลอดเวลา(จากในพระคัมภีร์นะ ไม่เคยไปเหมือนกัน)จะไม่มีเวลาที่เราจะมานั่งเบื่อหรอก มีแต่ความชื่นชมยินดี ^^ (ลองอ่านหนังสือ สวรรค์นั้นเป็นจริง ดีมักๆ)
ถ้าอยู่นรก ความรู้สึกคงไม่ใช่แค่รำคาญน่ะ แต่เป็นความเจ็บปวดสาหัส ทุกข์ทรมานนิรันดร์ TT
พระคัมภีร์บอกว่า อย่ารักหรือหรือสิ่งของที่อยู่ในโลก ผู้ใดรักโลกความรักของพระเจ้าไม่อยู่ในผู้นั้น ให้เราอาศัยอยู่ในโลกอย่างโลกไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน เพราะบ้านเมืองเราอยู่ที่สวรรค์ สุดท้ายแล้วสิ่งสารพัดจะล่วงไป แต่พระคำของพระเจ้ายังคงอยู่
เราทั้งหลายเป็นพลเมืองสวรรค์ อยู่ในโลกเหมือนมาเที่ยว ยกตัวอย่างเหมือนนักท่องเที่ยวที่ไปต่างประเทศ มีจุดประสงค์แค่ไปเที่ยว ในพาสปอร์ตจะระบุสัญชาติอย่างชัดเจน เป็นเครื่องชี้ว่าบุคคลนั้นๆเป็นชาติอะไร ผู้นั้นต้องไม่หลงไหลเมืองท่องเที่ยวจนไม่กลับประเทศตัวเอง เช่นกันเรามาอยู่โลกก็เหมือนมาเที่ยวชั่วคราว ให้เราถือพาสปอร์ตสวรรค์ พาสปอร์ตฝ่ายวิญญาณและตระหนักเสมอว่าเราเป็นพลเมืองสวรรค์สุดท้ายจะต้องกลับสวรรค์ จะหลงรักโลกไม่ได้ เราเคยอ่านในหนังสือเล่มนึงนะ รู้สึกจะเป็นชีวิตที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์ ในนั้นบอกว่า โลกนี้เป็นเหมือนเพียงห้องแต่งตัว ที่ให้เรามาเตรียมตัวให้พร้อม และเหมาะสมสำหรับการอยู่กับพระเจ้านิรันดร์..
ไม่สบายใจไรก็สวดนะ บอกพระเจ้า อย่าน้อยใจพระเจ้านะ พระเจ้ารักเราทุกคนเสมอ ^^
ถ้าอยู่นรก ความรู้สึกคงไม่ใช่แค่รำคาญน่ะ แต่เป็นความเจ็บปวดสาหัส ทุกข์ทรมานนิรันดร์ TT
พระคัมภีร์บอกว่า อย่ารักหรือหรือสิ่งของที่อยู่ในโลก ผู้ใดรักโลกความรักของพระเจ้าไม่อยู่ในผู้นั้น ให้เราอาศัยอยู่ในโลกอย่างโลกไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน เพราะบ้านเมืองเราอยู่ที่สวรรค์ สุดท้ายแล้วสิ่งสารพัดจะล่วงไป แต่พระคำของพระเจ้ายังคงอยู่
เราทั้งหลายเป็นพลเมืองสวรรค์ อยู่ในโลกเหมือนมาเที่ยว ยกตัวอย่างเหมือนนักท่องเที่ยวที่ไปต่างประเทศ มีจุดประสงค์แค่ไปเที่ยว ในพาสปอร์ตจะระบุสัญชาติอย่างชัดเจน เป็นเครื่องชี้ว่าบุคคลนั้นๆเป็นชาติอะไร ผู้นั้นต้องไม่หลงไหลเมืองท่องเที่ยวจนไม่กลับประเทศตัวเอง เช่นกันเรามาอยู่โลกก็เหมือนมาเที่ยวชั่วคราว ให้เราถือพาสปอร์ตสวรรค์ พาสปอร์ตฝ่ายวิญญาณและตระหนักเสมอว่าเราเป็นพลเมืองสวรรค์สุดท้ายจะต้องกลับสวรรค์ จะหลงรักโลกไม่ได้ เราเคยอ่านในหนังสือเล่มนึงนะ รู้สึกจะเป็นชีวิตที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์ ในนั้นบอกว่า โลกนี้เป็นเหมือนเพียงห้องแต่งตัว ที่ให้เรามาเตรียมตัวให้พร้อม และเหมาะสมสำหรับการอยู่กับพระเจ้านิรันดร์..
ไม่สบายใจไรก็สวดนะ บอกพระเจ้า อย่าน้อยใจพระเจ้านะ พระเจ้ารักเราทุกคนเสมอ ^^
ไม่เข้าใจอ่ะ? :huh: ต้องอยู่กะคนที่ไม่รักเหรอ ถึงมีความสุข?KathaRoS เขียน: ไม่อยู่กะคนที่รัก มีความสุขจะตาย..
คนสร้างตู้ปลา ก็ต้องทำฉากและอุปกรณ์สำหรับปลาแต่ละชนิดใส่ลงไป เพื่อให้ปลานั้นอยู่ได้ พระเจ้าก็เช่นกันสร้างมนุษย์ก็ต้องสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาให้เหมาะสมกับมนุษย์ เราจะรู้สึกเป็นยังไงถ้าท้องฟ้าเป็นสีแดงทั้งวันทั้งคืน และทะเลเป็นสีเหลือง และป่าทั้งป่าเป็นสีน้ำตาลออกแดง แล้วไม่มีดอกไม้เลยในโลก มันจะทำให้เราอยู่บนโลกนี้ได้ไหมครับ เราก็คงเครียดตายเสียก่อน แต่พระเจ้ารักเราจึงสร้างสภาพที่เราอยู่ให้เหมาะสมกับตัวเรา ให้มีท้องฟ้าที่เย็นตา ให้มีป่าที่เป็นสีเขียวดูแล้วสดชื่น ให้มีทะเลสีฟ้าซึ่งเป็นสีสบายๆ มีดอกไม้ประดับความสวยงามให้กับโลก แถมยังให้มีเสียนกร้อง วีวิบ วีวิบ เสียนกร้องแต่ละชนิด แต่ต่างกันประสานเสียงกันระรื่นหู ทำให้มีความสุขเหมือนสวรรค์ก็มิปาน แถมมีอากาศที่สดชื่นเมื่อใกล้สิ่งเหล่านั้น พูดไปแล้วอยากออกไปอยู่ในชนบทเสียจริงครับ เพราะสิ่งเหล่านี้พระเจ้าสร้างมาเพื่อให้เราอยู่ได้บนโลกใบนี้ ให้มีผลไม้ที่อร่อย หลายพันธุ์หลายชนิด โลกนี้ก็เช่นเดียวกับตู้ปลาละครับที่พระองค์ใส่สิ่งต่างๆ ไว้ให้เรา อาจมีสาหร่าย มีหิน มีประการัง เพื่อนให้ปลาอยู่ได้ นะครับ
โลกนี้ก็เหมาะสำหรับมนุษย์ แต่สวรรค์ก็เหมาะสำหรับชาวสวรรค์ ในเมื่อโลกนี้พระเจ้าสร้างสภาพแวดล้อมตัวเราให้ดีขนาดนี้ทั่งๆ ที่เป็นที่อยู่ชั่วคราว แต่ในสวรรค์พระเจ้าก็สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกว่าสำหรับขาวสวรรค์และดีกว่าที่เราเห็นบนโลกนี้ สภาพใหม่กายเราก็ไม่ต้องต้องหิว ไม่ต้องกิน เป็นอัมตะ ไม่ต้องเหนื่อยเมื่อเดิน ในเมื่อพี่อยู่บนโลกใบนี้พี่รู้สึกว่าธรรมชาติดีขนาดนี้ เราชื่นชอบธรรมชาติมากกขนาดนี้ สวรรค์อาจจะดีกว่าก็ได้ สำหรับเราในอีกสภาพหนึ่ง ตัวหนอนรู้สึกดีเมื่อมันอยู่ในใบไม้ มันชอบเมื่อมีอาหารให้กิน แต่ผีเสี้อ กับแมลงปอ กับรู้สึกดีถ้ามันได้บิน ได้กินเกสรดอกไม้ จากสภาพหนึ่งไปสู่สภาพหนึ่ง สิ่งดีบางอย่างเหมาะสำหรับสภาพหนึ่ง แต่ไปอีกสภาพหนึ่งก็พบสิ่งดีที่เหมาะสมกับอีกสภาพหนึ่งเช่นกัน พี่เชื่อว่าหลังจากที่เราตายแล้วพระเจ้าก็สร้างสภาพที่เหมาะสำหรับตัวเราให้ดีกว่า ที่เราเห็นอยู่แน่
โลกนี้ก็เหมาะสำหรับมนุษย์ แต่สวรรค์ก็เหมาะสำหรับชาวสวรรค์ ในเมื่อโลกนี้พระเจ้าสร้างสภาพแวดล้อมตัวเราให้ดีขนาดนี้ทั่งๆ ที่เป็นที่อยู่ชั่วคราว แต่ในสวรรค์พระเจ้าก็สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกว่าสำหรับขาวสวรรค์และดีกว่าที่เราเห็นบนโลกนี้ สภาพใหม่กายเราก็ไม่ต้องต้องหิว ไม่ต้องกิน เป็นอัมตะ ไม่ต้องเหนื่อยเมื่อเดิน ในเมื่อพี่อยู่บนโลกใบนี้พี่รู้สึกว่าธรรมชาติดีขนาดนี้ เราชื่นชอบธรรมชาติมากกขนาดนี้ สวรรค์อาจจะดีกว่าก็ได้ สำหรับเราในอีกสภาพหนึ่ง ตัวหนอนรู้สึกดีเมื่อมันอยู่ในใบไม้ มันชอบเมื่อมีอาหารให้กิน แต่ผีเสี้อ กับแมลงปอ กับรู้สึกดีถ้ามันได้บิน ได้กินเกสรดอกไม้ จากสภาพหนึ่งไปสู่สภาพหนึ่ง สิ่งดีบางอย่างเหมาะสำหรับสภาพหนึ่ง แต่ไปอีกสภาพหนึ่งก็พบสิ่งดีที่เหมาะสมกับอีกสภาพหนึ่งเช่นกัน พี่เชื่อว่าหลังจากที่เราตายแล้วพระเจ้าก็สร้างสภาพที่เหมาะสำหรับตัวเราให้ดีกว่า ที่เราเห็นอยู่แน่
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 18, 2007 12:05 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ถ้าเราเข้าใจว่า จะไปสวรรค์ต้องเดี้ยงก่อนถึงจะได้ไป ก็เข้าใจผิด
สวรรค์บังเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในโลกนี้แล้ว ถ้าทุกคนร่วมใจกันเสริมสร้าง เป็นต้นผ่านการประพฤติตนเป็นคริสตชนที่ดี
เราสวดกันทุกวันไม่ใช่เหรอครับ "พระอาณาจักร"จงมาถึง ก็แสดงว่าเราขอให้พระอาณาจักรของพระเจ้าบังเกิดเสียแต่ในโลกนี้แล้ว
สวรรค์บังเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในโลกนี้แล้ว ถ้าทุกคนร่วมใจกันเสริมสร้าง เป็นต้นผ่านการประพฤติตนเป็นคริสตชนที่ดี
เราสวดกันทุกวันไม่ใช่เหรอครับ "พระอาณาจักร"จงมาถึง ก็แสดงว่าเราขอให้พระอาณาจักรของพระเจ้าบังเกิดเสียแต่ในโลกนี้แล้ว
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เห็นด้วยทีสุดครับFlorian เขียน: ถ้าเราเข้าใจว่า จะไปสวรรค์ต้องเดี้ยงก่อนถึงจะได้ไป ก็เข้าใจผิด
สวรรค์บังเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในโลกนี้แล้ว ถ้าทุกคนร่วมใจกันเสริมสร้าง เป็นต้นผ่านการประพฤติตนเป็นคริสตชนที่ดี
เราสวดกันทุกวันไม่ใช่เหรอครับ "พระอาณาจักร"จงมาถึง ก็แสดงว่าเราขอให้พระอาณาจักรของพระเจ้าบังเกิดเสียแต่ในโลกนี้แล้ว
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
น้องเธอคงจาพิมพ์ผิด..ช่ายมะ..Ecclesia เขียน:ไม่เข้าใจอ่ะ? :huh: ต้องอยู่กะคนที่ไม่รักเหรอ ถึงมีความสุข?KathaRoS เขียน: ไม่อยู่กะคนที่รัก มีความสุขจะตาย..
ก็คง จะเป็นเช่นนั้นเเหล่ะค่ะๆ เเต่ความหมายชีนี่ตรงกันข้ามจริงๆMaew Martha (Grace) เขียน:น้องเธอคงจาพิมพ์ผิด..ช่ายมะ..Ecclesia เขียน:ไม่เข้าใจอ่ะ? :huh: ต้องอยู่กะคนที่ไม่รักเหรอ ถึงมีความสุข?KathaRoS เขียน: ไม่อยู่กะคนที่รัก มีความสุขจะตาย..
โอ้เย้ ถูกต้องแล้ว >-< เหนื่อยด้วยGray Cat Mobster เขียน: ผมว่าโลกมนุษย์เนี่ยน่าเบื่อจะตาย
มีแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากันทั้งน้าน
มนุษย์นี่ช่างอัศจรรย์จริง ๆ พระผู้เป็นเจ้าสร้างมนุษย์ได้อัศจรรย์ยิ่งนัก พระเจ้าสมบรูณ์แบบ แบบที่ว่าไม่คำใดในโลกพรรนาถึงพระองค์ได้
มนุษย์เป็นสิ่งสุดยอดจริง ๆ ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นและอัศจรรย์เกินกว่าที่จะจินตนาการถึงได้
เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงที่ความคิดเล่น ๆ ของผมมีคนตอบเยอะขนาดนี้
อะไรที่มนุษย์โฟกัสอยู่มันขยายได้ใหญ่โตเสมอ
"มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ" ดุ๊ก จาก Death Note
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ
มนุษย์เป็นสิ่งสุดยอดจริง ๆ ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นและอัศจรรย์เกินกว่าที่จะจินตนาการถึงได้
เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงที่ความคิดเล่น ๆ ของผมมีคนตอบเยอะขนาดนี้
อะไรที่มนุษย์โฟกัสอยู่มันขยายได้ใหญ่โตเสมอ
"มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ" ดุ๊ก จาก Death Note
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ
มันชื่อ ลุค ครับ ไม่ใช่ ดุ๊กsakda88 เขียน: มนุษย์นี่ช่างอัศจรรย์จริง ๆ พระผู้เป็นเจ้าสร้างมนุษย์ได้อัศจรรย์ยิ่งนัก พระเจ้าสมบรูณ์แบบ แบบที่ว่าไม่คำใดในโลกพรรนาถึงพระองค์ได้
มนุษย์เป็นสิ่งสุดยอดจริง ๆ ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นและอัศจรรย์เกินกว่าที่จะจินตนาการถึงได้
เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงที่ความคิดเล่น ๆ ของผมมีคนตอบเยอะขนาดนี้
อะไรที่มนุษย์โฟกัสอยู่มันขยายได้ใหญ่โตเสมอ
"มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ" ดุ๊ก จาก Death Note
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
จริง ๆ แล้วมันอยู่ที่คนอ่ะชายน้อยP เขียน:อืม... อ่านแล้วสองง่ามสามแง่ไงชอบกลsakda88 เขียน:
อะไรที่มนุษย์โฟกัสอยู่มันขยายได้ใหญ่โตเสมอ
"มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ" ดุ๊ก จาก Death Note
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ
แสดงว่า ฝักใฝ่ นะนี่
อิ ล้อเล่น
ตื่นเต้นกับกลิ่นที่ลวงตาหรืองับ
ว่าแต่นอกจากความสนุกที่คุณเห็นคนหลายคนมาตอบจริงจังในสิ่งที่คุณโพสเล่นๆแล้วsakda88 เขียน: มนุษย์นี่ช่างอัศจรรย์จริง ๆ พระผู้เป็นเจ้าสร้างมนุษย์ได้อัศจรรย์ยิ่งนัก พระเจ้าสมบรูณ์แบบ แบบที่ว่าไม่คำใดในโลกพรรนาถึงพระองค์ได้
มนุษย์เป็นสิ่งสุดยอดจริง ๆ ที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นและอัศจรรย์เกินกว่าที่จะจินตนาการถึงได้
เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงที่ความคิดเล่น ๆ ของผมมีคนตอบเยอะขนาดนี้
อะไรที่มนุษย์โฟกัสอยู่มันขยายได้ใหญ่โตเสมอ
"มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ" ดุ๊ก จาก Death Note
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ
คุณมองเห็นประโยชน์ ในข้อความของคนมากมายที่เขาเสียเวลามาขยายประเด็นให้คุณสนุกบ้างหรือเปล่า
ถ้าคุณได้รับแต่ความสนุกแต่ไม่ได้รับประโยชน์ เกรงว่า นอกจากมนุษย์จะน่าสนุก มนุษย์จะน่าสงสารด้วยนะครับ
เราอาจลืมอะไรไปบางอย่าง พระเจ้าทรงรักโลกมากจนส่งพระบุตรแต่องค์เดียวลงมาเพื่อช่วยโลกให้รอด
โลกมีอะไรพิเศษ ? สำหรับพระองค์ปานนั้นเชียว มีอะไรพิเศษ ? มากกว่าพระคัมภีร์บอกไว้
การที่มีคนมาขยายประเด็นนี้มากมันไม่เสียเวลาหรอก ถ้าเสียเวลาจริงก็ไม่มีใครมาขยายหรอก
มันกระทบใจคนมากต่างหาก
ประเด็นที่น่าสนใจจริง ๆ สำหรับผมคือการเข้าใจความรักของพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริงต่างหาก
มนุษย์มีสิ่งที่พิเศษกว่าเทวดาและปีศาจมากนัก
เทวดาและปีศาจไม่สามารถสร้างสิ่งใดได้เลย
มนุษย์ได้รับสิทธิอำนาจในการทำให้โลกดีขึ้นหรือแย่ลงตามใจปรารถนาของมนุษย์จำนวนมาก
และที่สำคัญผมเชื่อว่าสวรรค์ที่แท้จริงอยู่บนโลกนี้แหละ
สิ่งนี้ใช่หรือไม่ ? ที่พระเจ้าทรงส่งพระบุตรแต่องค์เดียวมายังโลก
และการที่เราจะทำให้โลกนี้เป็นสวรรค์ได้จริง ๆ คือความรักอย่างแท้จริงเท่านั้น
ตามที่พระเยซูเจ้าบอกในสาร
สิทธิอีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่แน่ใจนักว่าจะมีแต่เฉพาะมนุษย์หรือไม่ ? คือสิทธิแห่งการคืนดีกับพระเจ้า
โลกมีอะไรพิเศษ ? สำหรับพระองค์ปานนั้นเชียว มีอะไรพิเศษ ? มากกว่าพระคัมภีร์บอกไว้
การที่มีคนมาขยายประเด็นนี้มากมันไม่เสียเวลาหรอก ถ้าเสียเวลาจริงก็ไม่มีใครมาขยายหรอก
มันกระทบใจคนมากต่างหาก
ประเด็นที่น่าสนใจจริง ๆ สำหรับผมคือการเข้าใจความรักของพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริงต่างหาก
มนุษย์มีสิ่งที่พิเศษกว่าเทวดาและปีศาจมากนัก
เทวดาและปีศาจไม่สามารถสร้างสิ่งใดได้เลย
มนุษย์ได้รับสิทธิอำนาจในการทำให้โลกดีขึ้นหรือแย่ลงตามใจปรารถนาของมนุษย์จำนวนมาก
และที่สำคัญผมเชื่อว่าสวรรค์ที่แท้จริงอยู่บนโลกนี้แหละ
สิ่งนี้ใช่หรือไม่ ? ที่พระเจ้าทรงส่งพระบุตรแต่องค์เดียวมายังโลก
และการที่เราจะทำให้โลกนี้เป็นสวรรค์ได้จริง ๆ คือความรักอย่างแท้จริงเท่านั้น
ตามที่พระเยซูเจ้าบอกในสาร
สิทธิอีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่แน่ใจนักว่าจะมีแต่เฉพาะมนุษย์หรือไม่ ? คือสิทธิแห่งการคืนดีกับพระเจ้า
แก้ไขล่าสุดโดย sakda88 เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2007 4:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
พอมาเห็นคำตอบของคุณSakda ที่ว่า
ดิฉันรู้สึกเหมือนโง่ที่เข้ามาตอบค่ะ
เห็นคุณตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ทุกคนตอบด้วยความจริงจัง และตั้งใจตอบให้คุณ
แต่กลายเป็นว่าคุณตั้งขึ้นเล่น ๆ
แล้วพวกเราแค่บ้าจี้ ขยาดเรื่องให้ใหญ่โต ตามทฤษฎีที่คุณว่า
ถ้าทีหลังคุณอยากจะตั้งเล่น ๆ ก็กรุณาระบุด้วย แค่เขียนสั้น ๆ แล้วก็หายไป...ใคร ๆ ก็คิดได้ไปต่าง ๆ นานา
เพราะคนที่มาอ่านข้อความหลังสุดเขาเสียความรู้สึก ที่อุตส่าห์บ้าจี้ เป็นห่วงคุณ
ที่แน่ ๆ ก็ดิฉันนี่แหละ 1 คน และรู้สึกว่าความห่วงที่มีให้ มันโดนเขวี้ยงกลับมาใส่จนหน้าหงาย
พร้อมกับความสนุกและเสียงหัวเราะของคุณคนเดียว (คุณหัวเราะรึเปล่าไม่รู้ อาจจะแค่หึ หึ แต่คำพูดคุณมันเหมือนแบบนั้น)
ข้อคิดที่ดิฉันได้สำหรับกระทู้นี้
มนุษย์น่าสนุกหรือไม่ ไม่ทราบ....แต่เรื่องนี้...ไม่สนุก
เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงที่ความคิดเล่น ๆ ของผมมีคนตอบเยอะขนาดนี้
อะไรที่มนุษย์โฟกัสอยู่มันขยายได้ใหญ่โตเสมอ
"มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ" ดุ๊ก จาก Death Note
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง มนุษย์นี่น่าสนุกจริง ๆ
ดิฉันรู้สึกเหมือนโง่ที่เข้ามาตอบค่ะ
เห็นคุณตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ทุกคนตอบด้วยความจริงจัง และตั้งใจตอบให้คุณ
แต่กลายเป็นว่าคุณตั้งขึ้นเล่น ๆ
แล้วพวกเราแค่บ้าจี้ ขยาดเรื่องให้ใหญ่โต ตามทฤษฎีที่คุณว่า
ถ้าทีหลังคุณอยากจะตั้งเล่น ๆ ก็กรุณาระบุด้วย แค่เขียนสั้น ๆ แล้วก็หายไป...ใคร ๆ ก็คิดได้ไปต่าง ๆ นานา
เพราะคนที่มาอ่านข้อความหลังสุดเขาเสียความรู้สึก ที่อุตส่าห์บ้าจี้ เป็นห่วงคุณ
ที่แน่ ๆ ก็ดิฉันนี่แหละ 1 คน และรู้สึกว่าความห่วงที่มีให้ มันโดนเขวี้ยงกลับมาใส่จนหน้าหงาย
พร้อมกับความสนุกและเสียงหัวเราะของคุณคนเดียว (คุณหัวเราะรึเปล่าไม่รู้ อาจจะแค่หึ หึ แต่คำพูดคุณมันเหมือนแบบนั้น)
ข้อคิดที่ดิฉันได้สำหรับกระทู้นี้
มนุษย์น่าสนุกหรือไม่ ไม่ทราบ....แต่เรื่องนี้...ไม่สนุก
ผมว่า คุณศักดาน่าไปรื้อฟื้นคำสอน เป็นกิจลักษณะนะครับ
เราผู้ซึ่งเป็น "ลูก" ของพระองค์
ด้วยสิทธินี้ ทำให้เราสามารถ เรียกพระองค์ว่า "ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย"
พ่อที่รักเรา แม้ว่า จะเป็นบุตรล้างผลาญ พระองค์ก็ทรงยินดียกโทษให้เรา เมื่อเราสำนึกผิด
จากที่ผม และคนอื่นๆรู้สึก
คุณศักดา ทำร้ายจิตใจพวกเรา
พระเจ้าเป็นความรัก และ พระองค์ทรงรักเราsakda88 เขียน: โลกมีอะไรพิเศษ ? สำหรับพระองค์ปานนั้นเชียว มีอะไรพิเศษ ? มากกว่าพระคัมภีร์บอกไว้
เราผู้ซึ่งเป็น "ลูก" ของพระองค์
ด้วยสิทธินี้ ทำให้เราสามารถ เรียกพระองค์ว่า "ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย"
พ่อที่รักเรา แม้ว่า จะเป็นบุตรล้างผลาญ พระองค์ก็ทรงยินดียกโทษให้เรา เมื่อเราสำนึกผิด
จะตั้งใจหรือไม่ก็ตามsakda88 เขียน: มันกระทบใจคนมากต่างหาก
จากที่ผม และคนอื่นๆรู้สึก
คุณศักดา ทำร้ายจิตใจพวกเรา
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ พ.ค. 21, 2007 8:40 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.