ว่าด้วยการแต่งงาน

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jack Sparrow
โพสต์: 353
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am

จันทร์ ธ.ค. 17, 2007 11:21 pm

แนวทางศาสนาคริสต์มีความคิดเห็นยังไงบ้างครับเกี่ยวกับการแต่งงาน และการเลือกคู่
แก้ไขล่าสุดโดย Jack Sparrow เมื่อ อังคาร ธ.ค. 18, 2007 2:00 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ธ.ค. 18, 2007 12:02 am

พระเป็นเจ้าทรงจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ครับ
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

อังคาร ธ.ค. 18, 2007 12:14 am

คาทอลิกคิดยังไง แล้วโปรแตสแตนท์คิดยังไง  พวกนอกรีตคิดยังไง ส่วนใหญ่คาทอลิกกับโปร์แตสแตนท์จะคล้ายๆ กัน แต่พวกนอกรีตจะคิดอีกแบบหนึ่ง

ถ้าพูดถึงพวกนอกรีตรายละเอียดเยอะ มีทั้งพวกนอกรีตที่แตกจากสายของกรีกออโทด๊อกซ์ในประเทศรัสเซียก่อนเป็นคอมมิวนิสต์ทุกวันนี้ล่มสลายไปหมดแล้ว แล้วก็พวกนอกรีตที่แตกจากโปรแตสแตนท์ ซึ่งทุกวันนี้ยังอยู่แล้วก็มีบางกลุ่มเข้ามาถึงเมืองไทยด้วย ดังนั้นการมาเชื่อพระเจ้าก็ต้องระวังให้ดี

ส่วนในพระคัม ร์นั้น การเลือกคู่ในแบบพันธสัญญาเดิมออกจะแบบคลุมถุงชน ส่วนหลังจากพันธสัญญาใหม่จะเป็นอิสระ ทั้งแบบพันธสัญญาเดิม และแบบอิสระก็มีพระเจ้าทรงนำเช่นกัน
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อังคาร ธ.ค. 18, 2007 12:43 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร ธ.ค. 18, 2007 12:57 pm

เออหนอ เจ้าตัวไม่ใช่คริสต์เหรอ
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

อังคาร ธ.ค. 18, 2007 1:36 pm

อันตน เขียน: เออหนอ เจ้าตัวไม่ใช่คริสต์เหรอ
แหม่ๆๆๆๆๆๆ เฮียก้อ เค้าอยากได้ประสบการณ์ ก้อแบ่งปันน้องเค้ามั่ง เป็นไรไปเล้า ::011:: ::011::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jack Sparrow
โพสต์: 353
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am

อังคาร ธ.ค. 18, 2007 1:39 pm

เป็นคริสต์ครับ กระทู้นี้ผมไม่ได้เป็นคนริเริ่มมีคนส่งข้อความให้ผมโพสให้เลยรวมด้วยช่วยกัน บอกตามจริงเมื่อคืนคุณโจเซฟโต้กับคนชื่อเชเรื่องที่คนชื่อเชโดนคริสตจักรจับให้แต่งงานโดยที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาก่อน คุณโจแซฟบอกว่าคลุมถุงชน คุณเซบอกว่าไม่ใช่คลุมถุงชนเป็นพระพรคนนอกไม่เข้าใจ ก็โต้กันไปมา คุณโจเซฟเลยบอกจะตั้งกระทู้ให้คนชื่อเชมาตอบที่นี่คนชื่อเชก็ตกลงแล้วคุณโจแซฟมาบอกผมว่าช่วยตั้งให้ทีผมตั้งเองเดี่ยวโดนหาว่าหมกมุ่น คุณโจแซฟบอกว่าคุณแจ๊กไม่เคยมีประวัติเรื่องนี้ตั้งไปเขาไม่ว่าหรอก นี่ครับความเป็นมาขอชี้แจง
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

อังคาร ธ.ค. 18, 2007 2:27 pm

เง้อ ไรเนี่ย

แต่พี่ว่านะ ถ้าคนสองคนเขามีความสุขกับวิธีการแบบนั้น ยินดีที่จะอยู่ร่วมกันแม้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ยินยอมมอบเรื่องราวชีวิตของตัวเองทั้งหมดไว้กับพระเป็นเจ้า พร้อมรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ ก็คงต้องปล่อยเขาไป เพราะเขายินยอมด้วยกันทั้งคู่

แต่ถ้าหากเกิดจากการบังคับขู่เข็ญ ล่อลวง ทำให้เข้าใจผิด ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ยินยอมพร้อมใจ อันนี้แหละ มีปัญหาเรื่องความถูกต้อง ชอบธรรม แน่นอน

คู่ที่ผ่านการแต่งงานแบบนี้ บางคู่ก็มีความสุขมากนะ เพื่อนพี่หลายคนที่เป็นคนจีน ก็ผ่านการแต่งงานแบบนี้ ตอนนี้ลุกหลายคนแล้ว และเขาก็รักกันดี นึกขอบคุณพ่อแม่ทุกวันที่ทำให้เขาทั้งคู่ได้แต่งงานกัน

สุดท้ายแล้วก็เป็นผลงานของพระเจ้านั่นแหละที่ทำให้เราได้เจอ คน ๆ หนึ่ง แต่งงานแล้ว ใช้ชีวิตร่วมกันน่ะ ไม่ว่าจะเจอกันด้วยวิธีไหนก็ตาม    
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ธ.ค. 18, 2007 2:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
mapisit
โพสต์: 107
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 19, 2007 9:49 pm
ที่อยู่: ปากปล่องเหวแห่งไฟ
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 19, 2007 9:13 pm

แต่งงาน...
ผมว่าแต่งกะคนที่เรารัก หรือได้ทำความรู้จักก่อน ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 7:08 am

Jack Sparrow เขียน: เป็นคริสต์ครับ กระทู้นี้ผมไม่ได้เป็นคนริเริ่มมีคนส่งข้อความให้ผมโพสให้เลยรวมด้วยช่วยกัน บอกตามจริงเมื่อคืนคุณโจเซฟโต้กับคนชื่อเชเรื่องที่คนชื่อเชโดนคริสตจักรจับให้แต่งงานโดยที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาก่อน คุณโจแซฟบอกว่าคลุมถุงชน คุณเซบอกว่าไม่ใช่คลุมถุงชนเป็นพระพรคนนอกไม่เข้าใจ ก็โต้กันไปมา คุณโจเซฟเลยบอกจะตั้งกระทู้ให้คนชื่อเชมาตอบที่นี่คนชื่อเชก็ตกลงแล้วคุณโจแซฟมาบอกผมว่าช่วยตั้งให้ทีผมตั้งเองเดี่ยวโดนหาว่าหมกมุ่น คุณโจแซฟบอกว่าคุณแจ๊กไม่เคยมีประวัติเรื่องนี้ตั้งไปเขาไม่ว่าหรอก นี่ครับความเป็นมาขอชี้แจง
เอาว่าคุณเช โดน จับแต่งงาน โดยไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน

กลุ่มคริสต์ ที่ปฏิบัติ แบบนี้ คือ กลุ่มมูนนี่ คร้าบ  คือมูนนิซึม ที่ผู้นำ คือ สาธุคุณ มูน เพื่อนคนเกาหลีพูดว่า กลุ่มมูนนี่ "แพร่ธรรม และแพร่พันธุ์ " เป็นยุทธวิธี การขยายคริสตจักร

คำถามถึง พี่แจ็ค ( ที่ไม่เคยฆ่ายักษ์ ) ว่าพี่เช เป็นมูนนี่ ใช่ป่าว  ถ้าใช่ เราคงไม่ต้องตอบแนวคริสต์โปรฯ ของเรา เพราะแต่ละกลุ่มความเชื่อ หรือศาสนา มีแนวคิดเรื่องการสมรสไม่เหมือนกัน
เราคงจะไปตัดสินกันไม่ได้  และในเวลาเดียวกัน เรื่องคู่นี่ ถึงแม้รู้กฏของความเชื่อว่าเป็นอย่างไร เรายอมแหกกฏกันเลย
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 10:01 am

Jeab Agape เขียน:
Jack Sparrow เขียน: เป็นคริสต์ครับ กระทู้นี้ผมไม่ได้เป็นคนริเริ่มมีคนส่งข้อความให้ผมโพสให้เลยรวมด้วยช่วยกัน บอกตามจริงเมื่อคืนคุณโจเซฟโต้กับคนชื่อเชเรื่องที่คนชื่อเชโดนคริสตจักรจับให้แต่งงานโดยที่ไม่ได้เห็นหน้ากันมาก่อน คุณโจแซฟบอกว่าคลุมถุงชน คุณเซบอกว่าไม่ใช่คลุมถุงชนเป็นพระพรคนนอกไม่เข้าใจ ก็โต้กันไปมา คุณโจเซฟเลยบอกจะตั้งกระทู้ให้คนชื่อเชมาตอบที่นี่คนชื่อเชก็ตกลงแล้วคุณโจแซฟมาบอกผมว่าช่วยตั้งให้ทีผมตั้งเองเดี่ยวโดนหาว่าหมกมุ่น คุณโจแซฟบอกว่าคุณแจ๊กไม่เคยมีประวัติเรื่องนี้ตั้งไปเขาไม่ว่าหรอก นี่ครับความเป็นมาขอชี้แจง
เอาว่าคุณเช โดน จับแต่งงาน โดยไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน

กลุ่มคริสต์ ที่ปฏิบัติ แบบนี้ คือ กลุ่มมูนนี่ คร้าบ  คือมูนนิซึม ที่ผู้นำ คือ สาธุคุณ มูน เพื่อนคนเกาหลีพูดว่า กลุ่มมูนนี่ "แพร่ธรรม และแพร่พันธุ์ " เป็นยุทธวิธี การขยายคริสตจักร

คำถามถึง พี่แจ็ค ( ที่ไม่เคยฆ่ายักษ์ ) ว่าพี่เช เป็นมูนนี่ ใช่ป่าว  ถ้าใช่ เราคงไม่ต้องตอบแนวคริสต์โปรฯ ของเรา เพราะแต่ละกลุ่มความเชื่อ หรือศาสนา มีแนวคิดเรื่องการสมรสไม่เหมือนกัน
เราคงจะไปตัดสินกันไม่ได้  และในเวลาเดียวกัน เรื่องคู่นี่ ถึงแม้รู้กฏของความเชื่อว่าเป็นอย่างไร เรายอมแหกกฏกันเลย
ไม่ใช่กลุ่มมูนอย่างเดียวหรอกครับ คริสตจักรยูนิเวอร์ซิตี้ ไบเบิล รีดดิ้ง ฟอโลชิพ นั่นก็จับให้แต่งงานกันแบบไม่เห็นหน้ากันมาก่อนเหมือนกัน เดี๋ยวนี้มูนนี่เขาก็สามารถหาเอาเองตามความสามารถแล้วไปรับพร(แต่งงาน)เอาได้แล้วเหมือนกันครับ คำว่าแพร่ธรรมและแพร่พันธุ์ นั้นเป็นมุมมองแบบให้ร้ายกันเกินไปหน่อยครับ

พระบุตรทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ความรักเยี่ยงพระบุตรย่อมเอาชนะความเข้าใจผิด อคติได้ เขาเองก็มุ่งสู่พระเจ้าไม่แพ้เราๆท่านๆหรอก แม้ว่าจะผิดกันเรื่องหลักข้อเชื่อตามทางของคริสต์สายหลักก็ตาม (มองจากสายตาบุคคลที่สามนะครับ)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 10:04 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 2:17 pm

ยินยอมมอบเรื่องราวชีวิตของตัวเองทั้งหมดไว้กับพระเป็นเจ้า พร้อมรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ ก็คงต้องปล่อยเขาไป เพราะเขายินยอมด้วยกันทั้งคู่
พี่ประทับใจตรงนี้ ทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันแต่ว่าแต่งงานกันกลับมองที่พระเจ้าเป็นหลักตัดสินใจอยู่ร่วมกันไม่มองที่ตัวเองแต่มองที่พระเจ้า ทั้งสองตัดสินใจแต่งงานกันทั้งๆ ที่ไม่มีงานทำด้วยกันทั้งคู่ พี่ประทับใจความเชื่อของเขาทั้งสองจริงๆ แล้วเขาก็บอกทุกวันนี้เขาก็รักดี
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 2:49 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 8:43 pm

อันตน เขียน:
ไม่ใช่กลุ่มมูนอย่างเดียวหรอกครับ คริสตจักรยูนิเวอร์ซิตี้ ไบเบิล รีดดิ้ง ฟอโลชิพ นั่นก็จับให้แต่งงานกันแบบไม่เห็นหน้ากันมาก่อนเหมือนกัน เดี๋ยวนี้มูนนี่เขาก็สามารถหาเอาเองตามความสามารถแล้วไปรับพร(แต่งงาน)เอาได้แล้วเหมือนกันครับ คำว่าแพร่ธรรมและแพร่พันธุ์ นั้นเป็นมุมมองแบบให้ร้ายกันเกินไปหน่อยครับ

พระบุตรทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ความรักเยี่ยงพระบุตรย่อมเอาชนะความเข้าใจผิด อคติได้ เขาเองก็มุ่งสู่พระเจ้าไม่แพ้เราๆท่านๆหรอก แม้ว่าจะผิดกันเรื่องหลักข้อเชื่อตามทางของคริสต์สายหลักก็ตาม (มองจากสายตาบุคคลที่สามนะครับ)
พี่อันตน คำว่าแพร่ธรรมและแพร่พันธุ์ นั้นเป็นมุมมองแบบให้ร้ายกันเกินไปหน่อยครับ

เจี๊ยบ   เขาพูดแบบเล่นๆ น่ะ เพราะยุคก่อน มูนนี่เขาจับคู่ข้ามชาติกันเลย เคยเจอสาวไทย สาม สี่ คน ที่ถูกจับให้แต่งกับหนุ่มมูนนี่เกาหลี แบบคลุมถุง
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ธ.ค. 23, 2007 8:48 pm

Joseph เขียน:
ยินยอมมอบเรื่องราวชีวิตของตัวเองทั้งหมดไว้กับพระเป็นเจ้า พร้อมรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ ก็คงต้องปล่อยเขาไป เพราะเขายินยอมด้วยกันทั้งคู่
พี่ประทับใจตรงนี้ ทั้งสองคนไม่เคยรู้จักกันแต่ว่าแต่งงานกันกลับมองที่พระเจ้าเป็นหลักตัดสินใจอยู่ร่วมกันไม่มองที่ตัวเองแต่มองที่พระเจ้า ทั้งสองตัดสินใจแต่งงานกันทั้งๆ ที่ไม่มีงานทำด้วยกันทั้งคู่ พี่ประทับใจความเชื่อของเขาทั้งสองจริงๆ แล้วเขาก็บอกทุกวันนี้เขาก็รักดี
อันที่จริง พี่โจเซฟ น่าจะเข้ากลุ่มเดียวกับพี่เช จะได้มีเมีย โลด เลย พี่ แล้วประยุกต์ใช้ที่ว่ามองไปที่พระเจ้าเป็นหลัก อย่ามองรูปกายภายนอก ยุบหนอพองหนอ เลยคร้าบถ้าพี่เข้ากับกลุ่มนี้ เปลี่ยนกิจกรรม ปลูกดอกไม้ โดยเฉพาะ "มอนิ่งกลอรี่" มาเป็นปลูกสร้างเผ่าพันธุ์ อาจจะรุ่งกว่า :grin:
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

จันทร์ ธ.ค. 24, 2007 12:09 am

ชีวิตคู่ของคาทอลิก แต่งงานแล้วเลิกไม่ได้มีชีวิตคู่เดียว แต่งหนเดียวผูกพันกัน แล้วถ้าเกิดอีกฝ่ายหนึ่งนอกใจก่อนไปมีใหม่ก็มีสิทธิ์แต่งงานใหม่ได้ แต่ถ้าเราตัดใจได้นะทางที่ดีตัดไปเถอะเขายังตัดใจจากเราได้เลย มันก็แค่ความรู้สึกผูกพันกันเท่านั้นแต่ถ้าเขาไม่มีชูก็ควรอยู่ร่วมกัน แต่ถ้าเขามีลูกกับเราแล้วเรามีใหม่นี่ก็คือปัญหาสำหรับลูก ทางที่ดีแต่งกันแล้วไม่ควรเลิกกัน

เคยอ่านหนังสือสมัยชุนชิว(สมัยราชวงศ์ตงโจว หรือ ตังจิว) ของชาวจีนโบราณสามารถซื้อผู้หญิงมาเป็นเมียได้หลายคนเลย ผู้หญิงไม่ค่อยมีค่าเท่าไรเป็นเหมือนสิ่งของซื้อขายกันได้ บางทีก็ซื้อผู้หญิงมายกให้คนอื่นเช่นผู้หญิงสองคนม้าห้าตัวอย่างนี้เป็นต้น บางทีซื้อผู้หญิงไปแลกกับของก็ยังมี ผู้ชายจีนสมัยนั้นดูแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยจะอ่อนโยนโรแมนติกับผู้หญิงเท่าไรนักยกเว้นพี่โจแซฟคนนี้เหอๆ ถ้าสนใจติดต่อได้นะ รักเดียวใจเดียวตลอด

พระเจ้าอวยพรครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อังคาร ก.ค. 22, 2008 12:32 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

จันทร์ ธ.ค. 24, 2007 12:19 am

อยากให้คริสต์มีนิกาย ที่สามารถมีภรรยาพร้อมกันได้สี่คนเหมือนอิสลาม(ในเวลาเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน ห้องนอนเดียวกัน) พูดเล่นนะครับ ผมว่าอย่างเดิมดีแล้วครับ แล้วแต่น้ำพระทัยของพระ ดีที่สุด การจับคลุมถุงชน ไม่ว่าจะนอกคริสตจักรหรือในคริสตจักร(ไม่ว่าจะคณะนิกายใดๆก็ตาม) เป็นเรื่องขัดกับสิทธิมนุษยชนอย่างแรงครับผม แต่ทุกอย่าง ตามน้ำพระทัยของพระครับ แม้ว่าโควต้าที่พระให้จะมีได้เพียงคนเดียวก็ตาม(ตามน้ำใจตัวเอง ต้องสี่คนในเวลาเดียวกัน อยากเป็นไปได้ สักครึ่งโหลจะดีไม่น้อย) เราคริสตชน คนของพระเยชู ก็ต้องตามน้ำพระทัยของพระและพระศาสนจักรครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

ปล.หากคำพูดผมบางอย่างไม่เหมาะสม กราบขออภัยพี่น้องด้วยครับผม
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ธ.ค. 24, 2007 7:13 am

Pry-Kaew เขียน: อยากให้คริสต์มีนิกาย ที่สามารถมีภรรยาพร้อมกันได้สี่คนเหมือนอิสลาม(ในเวลาเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน ห้องนอนเดียวกัน) พูดเล่นนะครับ ผมว่าอย่างเดิมดีแล้วครับ แล้วแต่น้ำพระทัยของพระ ดีที่สุด การจับคลุมถุงชน ไม่ว่าจะนอกคริสตจักรหรือในคริสตจักร(ไม่ว่าจะคณะนิกายใดๆก็ตาม) เป็นเรื่องขัดกับสิทธิมนุษยชนอย่างแรงครับผม แต่ทุกอย่าง ตามน้ำพระทัยของพระครับ แม้ว่าโควต้าที่พระให้จะมีได้เพียงคนเดียวก็ตาม(ตามน้ำใจตัวเอง ต้องสี่คนในเวลาเดียวกัน อยากเป็นไปได้ สักครึ่งโหลจะดีไม่น้อย) เราคริสตชน คนของพระเยชู ก็ต้องตามน้ำพระทัยของพระและพระศาสนจักรครับผม
แหม พี่พลายแก้ว ก้อ จะเอาตั้ง 4 คน เราต้องเหนือกว่าอิสลามสิ คือ 7 คน เลขสมบูรณ์ ว้าว : emo045 : ฮี่ ฮี่ ฮี่

แต่จะดันให้อยู่ห้องเดียวกันน่ะ พี่จะสร้างหนังลามก ออกขายทั่วโลกเหรอ : xemo029 : : xemo033 :
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

จันทร์ ธ.ค. 24, 2007 9:53 am

Jeab Agape เขียน:
อันตน เขียน:
ไม่ใช่กลุ่มมูนอย่างเดียวหรอกครับ คริสตจักรยูนิเวอร์ซิตี้ ไบเบิล รีดดิ้ง ฟอโลชิพ นั่นก็จับให้แต่งงานกันแบบไม่เห็นหน้ากันมาก่อนเหมือนกัน เดี๋ยวนี้มูนนี่เขาก็สามารถหาเอาเองตามความสามารถแล้วไปรับพร(แต่งงาน)เอาได้แล้วเหมือนกันครับ คำว่าแพร่ธรรมและแพร่พันธุ์ นั้นเป็นมุมมองแบบให้ร้ายกันเกินไปหน่อยครับ

พระบุตรทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ความรักเยี่ยงพระบุตรย่อมเอาชนะความเข้าใจผิด อคติได้ เขาเองก็มุ่งสู่พระเจ้าไม่แพ้เราๆท่านๆหรอก แม้ว่าจะผิดกันเรื่องหลักข้อเชื่อตามทางของคริสต์สายหลักก็ตาม (มองจากสายตาบุคคลที่สามนะครับ)
พี่อันตน คำว่าแพร่ธรรมและแพร่พันธุ์ นั้นเป็นมุมมองแบบให้ร้ายกันเกินไปหน่อยครับ

เจี๊ยบ   เขาพูดแบบเล่นๆ น่ะ เพราะยุคก่อน มูนนี่เขาจับคู่ข้ามชาติกันเลย เคยเจอสาวไทย สาม สี่ คน ที่ถูกจับให้แต่งกับหนุ่มมูนนี่เกาหลี แบบคลุมถุง
เขาสมัครใจรับไม่ได้โดนบังคับ ผมก็เคยอยู่ในรุ่นสามหมื่นคู่ เพราะฉะนั้นทราบพอสมควรครับ ว่าขั้นตอนวิธีการเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นสิ่งที่คริสเตียนในเกาหลีพูด หรือคริสเตียนไทยบางส่วนพูดมันเกินไปหน่อยครับ อย่างรุ่นผมแต่งแล้วไม่ใช่อยู่ด้วยกัน หรือทำการผัวเมียได้เลยเสียเมื่อไหร่ อย่างน้อยๆก็ต้องสามปีขึ้นไป รุ่นที่แต่งก่อนรุ่นผมขึ้นไปแต่งเสร็จต้องแยกกันอยู่อีกเจ็ดปี ช่วงนี้ก็ดูกันไปสิครับ ไม่เอากันก็เยอะครับในช่วงนี้ แล้วตอนจับคู่เสร็จ เขาก็ให้บอกได้ครับ ว่าพอใจหรือไม่พอใจ จะเอาหรือไม่เอา เพราะฉะนั้นจะบอกว่าคลุมถุงชนเสียทีเดียวก็ไม่ถูกต้องนักครับ

เพราะฉะนั้นผมว่าอย่าเอาเรื่องนี้มาพูดดีกว่าครับ มันมีหลายอย่างที่เขามีเหตุผลของเขา ไม่ใช่ว่าอยู่ๆเจ้านิกายจะมาเดินจิ้มๆให้คนโน้นคู่คนนี้ได้เลยเสียเมื่อไหร่ คิดเทียบกับเรื่องการถวายตัวเป็นโสด หรือถวายตัวรับใช้เทียบเอาแล้วกันครับ แบบนั้นแหละไม่ได้บังคับกันครับ แล้วก็อย่างที่บอกไปว่าเดี๋ยวนี้เขาไม่ได้จับคํกันเท่าไหร่แล้ว ใครมีปัญญาก็หากันไปเองได้

นะๆ เลิกเอาเรื่องจับคู่ไปเป็ฯประเด็นเถิด ตรงไหนสอนแปลกไปจากเราก้ว่ากันตรงนั้นเถิด อย่าเอาคำว่าสิทธิมนุษยชนมาครอบคลุมทุกอย่าง สิทธิมนุษยชนก็ต้องให้สิทธิเขาสิครับ เขาพอใจที่จะทำอย่างนั้น มันก็สิทธิของเขาไม่ใช่เหรอ

หุหุ วันนี้วันดี พอดีกว่า สันติสุขเป็นของทุกท่านครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ธ.ค. 24, 2007 10:24 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

จันทร์ ธ.ค. 24, 2007 1:04 pm

Jeab Agape เขียน:
Pry-Kaew เขียน: อยากให้คริสต์มีนิกาย ที่สามารถมีภรรยาพร้อมกันได้สี่คนเหมือนอิสลาม(ในเวลาเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน ห้องนอนเดียวกัน) พูดเล่นนะครับ ผมว่าอย่างเดิมดีแล้วครับ แล้วแต่น้ำพระทัยของพระ ดีที่สุด การจับคลุมถุงชน ไม่ว่าจะนอกคริสตจักรหรือในคริสตจักร(ไม่ว่าจะคณะนิกายใดๆก็ตาม) เป็นเรื่องขัดกับสิทธิมนุษยชนอย่างแรงครับผม แต่ทุกอย่าง ตามน้ำพระทัยของพระครับ แม้ว่าโควต้าที่พระให้จะมีได้เพียงคนเดียวก็ตาม(ตามน้ำใจตัวเอง ต้องสี่คนในเวลาเดียวกัน อยากเป็นไปได้ สักครึ่งโหลจะดีไม่น้อย) เราคริสตชน คนของพระเยชู ก็ต้องตามน้ำพระทัยของพระและพระศาสนจักรครับผม
แหม พี่พลายแก้ว ก้อ จะเอาตั้ง 4 คน เราต้องเหนือกว่าอิสลามสิ คือ 7 คน เลขสมบูรณ์ ว้าว : emo045 : ฮี่ ฮี่ ฮี่

แต่จะดันให้อยู่ห้องเดียวกันน่ะ พี่จะสร้างหนังลามก ออกขายทั่วโลกเหรอ : xemo029 : : xemo033 :

กล่าวคือ ที่อยากให้อยู่บ้านเดียวกัน ห้องนอนเดียวกัน เพราะหากภรรยาทั้งสี่คน(หรือเจ็ดคน หากเป็นไปได้) อยู่แยกบ้านกัน ต้องขับรถไปหาแต่ละบ้าน ดูเสียเวลาและฯลฯครับ อีกอย่าง ที่อยากให้อยู่บ้านเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องนอนเดียวกันนั้น เป็นความคิดที่ผมรับมาจากพวกกาหลิป หรือพวกสุลต่าน ในประเทศมุสสิมครับผม ที่มีภรรยา นางสนม และนางกำนัล อยู่ในวังหลังเดียวกันครับผม(ไม่ว่าแถบบ้านเรา หรือตะวันออกกลาง) ประมาณว่า เมียคนแรก มเหสีองค์ใหญ่ คนสอง มเหสีองค์กลาง คนที่สาม มเหสีองค์เล็ก คนที่สี่ พระสนมเอก คนที่ห้า พระสนมรอง คนที่หก พระสนมเล็ก และคนสุดท้าย พระสนมองค์เล็กสุด กร๊าบครับ

ประมาณว่าอยู่บ้านเดียวกัน ห้องนอนเดียวกัน(นอนเตียงเดียวกันหมด หากเป็นไปได้) อาบน้ำร่วมกัน  และกินข้าวหม้อเดียวกันหมดครับ เหมือนพวกกาหลิป และสุสต่าน ในประเทศสาธารรัฐอิสลามนั้นเองครับ

หรือหากเทียบกับบ้านเรา ก็เหมือนอดีตจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่มีบ้านหรูที่อยู่ที่เขาสามมุก และเป็นที่รวมของบรรดา ดารา นางแบบ และสาวงาม ทั่วประเทศไทย เป็นอนุภรรยาของท่าน(พูดแบบนี้ จะฟ้าผ่าหรือเปล่าเนี้ยเรา )

หากคำพูดใดๆผมพูดผิดไป หรือไม่เหมาะสมต่อบอรด์ ขอกราบอภัยด้วยครับ ทุกสิ่งทุกอย่าง พูดเล่นทั้งหมด ไม่ได้มีความคิดแบบนั้นจริงๆ(แต่ฝันมาตลอด)

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

อังคาร ธ.ค. 25, 2007 1:06 am

Pry-Kaew เขียน: อยากให้คริสต์มีนิกาย ที่สามารถมีภรรยาพร้อมกันได้สี่คนเหมือนอิสลาม(ในเวลาเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน ห้องนอนเดียวกัน) พูดเล่นนะครับ ผมว่าอย่างเดิมดีแล้วครับ แล้วแต่น้ำพระทัยของพระ ดีที่สุด การจับคลุมถุงชน ไม่ว่าจะนอกคริสตจักรหรือในคริสตจักร(ไม่ว่าจะคณะนิกายใดๆก็ตาม) เป็นเรื่องขัดกับสิทธิมนุษยชนอย่างแรงครับผม แต่ทุกอย่าง ตามน้ำพระทัยของพระครับ แม้ว่าโควต้าที่พระให้จะมีได้เพียงคนเดียวก็ตาม(ตามน้ำใจตัวเอง ต้องสี่คนในเวลาเดียวกัน อยากเป็นไปได้ สักครึ่งโหลจะดีไม่น้อย) เราคริสตชน คนของพระเยชู ก็ต้องตามน้ำพระทัยของพระและพระศาสนจักรครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

ปล.หากคำพูดผมบางอย่างไม่เหมาะสม กราบขออภัยพี่น้องด้วยครับผม
แหม น้องพลายแก้ว ปากตรงกับใจดีจัง หวังว่าจะเป้นคนใจกว้าง มองโลกแง่ดี มีเมตตาสูงนะจ้ะ พี่ล่ะ จ้อบ จ๊อบ คนแบบเนี้ย

แต่ประมาณตนหน่อยก็ดีนะ ระวังตายคาอกเด้อ
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 25, 2007 5:23 am

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:
Pry-Kaew เขียน: อยากให้คริสต์มีนิกาย ที่สามารถมีภรรยาพร้อมกันได้สี่คนเหมือนอิสลาม(ในเวลาเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน ห้องนอนเดียวกัน) พูดเล่นนะครับ ผมว่าอย่างเดิมดีแล้วครับ แล้วแต่น้ำพระทัยของพระ ดีที่สุด การจับคลุมถุงชน ไม่ว่าจะนอกคริสตจักรหรือในคริสตจักร(ไม่ว่าจะคณะนิกายใดๆก็ตาม) เป็นเรื่องขัดกับสิทธิมนุษยชนอย่างแรงครับผม แต่ทุกอย่าง ตามน้ำพระทัยของพระครับ แม้ว่าโควต้าที่พระให้จะมีได้เพียงคนเดียวก็ตาม(ตามน้ำใจตัวเอง ต้องสี่คนในเวลาเดียวกัน อยากเป็นไปได้ สักครึ่งโหลจะดีไม่น้อย) เราคริสตชน คนของพระเยชู ก็ต้องตามน้ำพระทัยของพระและพระศาสนจักรครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

ปล.หากคำพูดผมบางอย่างไม่เหมาะสม กราบขออภัยพี่น้องด้วยครับผม



แหม น้องพลายแก้ว ปากตรงกับใจดีจัง หวังว่าจะเป้นคนใจกว้าง มองโลกแง่ดี มีเมตตาสูงนะจ้ะ พี่ล่ะ จ้อบ จ๊อบ คนแบบเนี้ย

แต่ประมาณตนหน่อยก็ดีนะ ระวังตายคาอกเด้อ



ขอบคุณครับพี่จอมกระบี่ฯ สำหรับคำชม โดยส่วนตัวของผม หากมีสาวๆมาชม หัวใจมักจะออกอาการ " รักกำเริบ" เสมอครับ ส่วนเรื่องตายคาอก ผมก็พูดไปงั้นๆแหละครับ มีแค่คนเดียว ยังไม่รู้เลยว่าเอาเขาจะอยู่ จะดูแลเรื่องหัวใจ ความเป็นอยู่ และปากท้อง ให้ได้ดีและมีความสุขหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ตามน้ำพระทัยของพระเป็นหลักครับผม

ขอพระอวยพรพี่และทุกท่านครับผม
แก้ไขล่าสุดโดย Pry-Kaew เมื่อ อังคาร ธ.ค. 25, 2007 8:20 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
joly

จันทร์ ก.ค. 21, 2008 8:37 pm

บทที่ 6
ชีวิตในวัยเรียนของสาธุคุณมูน  




หน้าแรก
แด่นักเรียนที่รัก
 3. ความศรัทธาและทัศนคติของสาธุคุณมูน

1) ชีวิตแห่งการอธิษฐานของคุณพ่อ

         นานมาแล้วเราถวายคำอธิษฐานเพื่อผลประโยชน์ของมนุษยชาติเท่านั้น ข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติเช่นนั้น ข้าพเจ้ากล่าวว่าเราต้องไม่อธิษฐานเพื่อผลประโยชน์ของมนุษยชาติเท่านั้นแต่เราต้องอธิษฐานเพื่อผลประโยชน์ของสวรรค์ด้วย เราต้องอธิษฐานเพื่อผลประโยชน์ของพระเยซู เราต้องกลับมารู้สำนึกบุญคุณของพระเยซูที่ทรงเสด็จมาสู่โลกนี้และอธิษฐานตลอดทั้งคืนเพื่อผลประโยชน์ของพวกเรา นับจากนี้ เราต้องอธิษฐานเพื่อผลประโยชน์ของพระเจ้าผู้ทรงเศร้าโศกจนกระทั่งทุกวันนี้ เราต้องอธิษฐานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งปวงด้วยเช่นกัน บุคคลที่มีชีวิตด้วยหัวใจเช่นนั้นสามารถได้รับการใส่ใจเพื่อใกล้ชิดกับพระเจ้าอย่างเป็นจริงโดยผ่าน ประสบการณ์ (6-344)
         ในชีวิตประจำวันเมื่อข้าพเจ้าข้ามอุปสรรคที่ใหญ่หลวงข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระเจ้าเสมอและหาทางแก้ไข(43-33)
         เมื่อข้าพเจ้าคุกเข่าอธิษฐานน้ำตาของข้าพเจ้าบนพื้นมิเคยเหือดแห้งเลย ท่านเข้าใจไหม? เข่าของข้าพเจ้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ ยังคงมีคราบเหงื่อบนเข่าของข้าพเจ้า นั่นเพราะว่าข้าพเจ้าอธิษฐานในตำแหน่งที่ต่ำต้อย ทุกวันนี้ข้าพเจ้าไม่ได้อธิษฐานเช่นนั้น ในประเทศเกาหลีมีคำกล่าวว่า
ตอบกลับโพส