คริสต์มาสปีนี้ ใครไปวัด/โบสถ์ที่ไหนบ้าง????
- *~glossolalia~*
- โพสต์: 88
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 30, 2007 7:14 pm
อาสนวิหารพระหฤทัย เชียงใหม่ค่า
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
ไปได้คืนวันอีฟนะครับ ไปเซนต์หลุยส์ครับ วันคริสมาสต์มีสอบหลักการตลาด
คริสมาสต์ปีที่แล้วก้อสอบบัญชีต้นทุน...เอาเข้าไป
คริสมาสต์ปีที่แล้วก้อสอบบัญชีต้นทุน...เอาเข้าไป
- antoinetty*
- โพสต์: 451
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 04, 2007 9:39 pm
วัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์
อ่าฮะ
อ่าฮะ
-
- โพสต์: 174
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 25, 2006 12:14 pm
วัดพระกุมารเยซู กม.8 ครับ
ไปไหนม่ายด้ายเรย
ถ้าไปที่อื่น โดนพี่ๆนักขับ ขับไล่จากวัดแน่
เออ...แต่พรุงนี้แล้วสิเนอะ คนเล่นออร์แกน ยังไม่เคยซ้อมกับนักขับร้องเลย
ว๊า แย่จัง
ไปไหนม่ายด้ายเรย
ถ้าไปที่อื่น โดนพี่ๆนักขับ ขับไล่จากวัดแน่
เออ...แต่พรุงนี้แล้วสิเนอะ คนเล่นออร์แกน ยังไม่เคยซ้อมกับนักขับร้องเลย
ว๊า แย่จัง
ส่วนข้าพเจ้า ไปอารามคาเเมล เเล้ว ไปต่ออัสสัมฯเเน่ส์ๆๆค่ะๆๆๆๆ
ป.ล. สอบวันที่25 มิสซาอัสสัมฯเริ่มเที่ยงคืน (เหอๆๆ)
ป.ล. สอบวันที่25 มิสซาอัสสัมฯเริ่มเที่ยงคืน (เหอๆๆ)
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
วัดอัครเทวดามิคาเอล สะพานใหม่งับ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
เซนต์หลุยส์ สาทร ค้าบบบ
ผมไปร่วมมิสซาเที่ยงคืนที่อารามคาร์แมล สิงคโปร์ครับ อารามที่นี้เป็นอารามลูกที่เกิดจากอารามที่กรุงเทพ ตั้งแต่ต้นปีถึงต้นเดือนธันวาคม ตัวอารามได้รับการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ในรอบ 70 ปี ขณะซ่อมแซมบรรดาซิสเตอร์ต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านเณรใหญ่ถึง 8 เดือน
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ใครไปโบสถ์เซนต์หลุยส์ สาทร คืนนี้นัดเจอกันไหมครับ โทรมาที่ 089-788-3858 ขอสายเอกนะครับ
(แอบแจกเบอร์ 555)
(แอบแจกเบอร์ 555)
-
- โพสต์: 626
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
- ที่อยู่: bkk
อุตสาห์แพลนไว้แล้วเชียวววววว
ทำไมหนูต้องมาเป็นไข้วันนี้ด้วยยยยยยยย
- nok_friendly
- โพสต์: 139
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 25, 2007 11:32 am
- ที่อยู่: Laksi-BKK
- ติดต่อ:
กะว่าจะไปโบสถ์วัฒนา กับพี่เรย์ ค่ะ
ขอพระกุมารอวยพรทุกท่านให้เปี่ยมด้วยสันติสุขทั้งครบนะครับ
เพิ่งกลับจากวัดมา วันนี้วัดมีชีวิตชีวามากๆ
ในมิซซาปกติเราก็ตั้งหน้าตั้งตาฟังพ่อเทศน์ หรือไม่ก็ปล่อยใจเรื่อยเปื่อย หรือไม่ก็มัวแต่ยกใจหาพระ จนลืมไปว่าพระนั่งข้างๆ แต่มิซซาวันนี้ผมมีความสุขครับ คือว่าเนื่องจากวัดที่ภูเก็ตนี่ออกแนววัดนานาชาติ คือตั้งแต่ฝรั่งๆ จนถึงฝรั๊งฝรั่ง ไทยๆ จนถึงไท๊ไท เกาหลีๆ ใต้แบบจีนๆ ใต้แบบใต๊ใต้ อีสานคั่กๆก็มี
เพราะฉะนั้นมิซซาวันนี้เลยต้องสองภาษาอย่างเต็มๆ ทีนี้ตอนที่พ่อเทศน์ภาษาไทยผมก็ฟังไปเรื่อยๆ แต่พี่คนข้างๆแกไม่ฟังไปเรื่อยๆนะสิครับ พ่อยกนิทานเรื่องเด็กขายไม้ขีดไฟมาประกอบการเทศน์ แกก็คุยให้ลูกฟังก่อนว่าเรื่องมันอย่างนี้ๆๆ เสร็จจากลูกแกก็หันมาทางผมว่าใช่เปล่ามันต้องเป็นอย่างนี้ๆ และเนื่องจากพ่อแกคงอยู่ทีมพากษ์อินทรีย์เก่า แกเลยเล่าช้ากว่าพี่ข้างๆ
เอาละไม่เป็นไร เราต้องมีมิตรสัมพันธ์กับเพื่อนพีน้องสัตบุรุษเอาไว้บ้าง คริสตังเราโดยทั่วๆไป พอเลิกวัดแล้วก็หายแว๊บกันไปหมด ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์เชิงมิตรภาพนอกเหนือพิธีเหมือนทางพี่น้องคริสเตียน (อันนี้ใครเห็นต่างก็ไม่ว่ากันนะครับ) เหมือนกับเวลาไหว้รอบทิศเหมือนนักมวยอย่างนั้นนั่นไง เข้าใจความหมายนะครับ ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะ คนละประเด็นกัน เอาละ เข้าเรื่องต่อ ทีนี้พอพี่แกเล่าจบ แกก็หันไปจุ๋งจิ๋งๆกับลูกสาวช่างเจรจาของแกต่อ จนกระทั่งนิทานของพ่อจบ และจนกระทั่งพ่อเทศน์จบ อ้อ ระหว่างนั้นมีหันมาเจรจากับผมด้วยนิดหน่อย แต่ผมก็พยักหน้าบ้าง ยิ้มบ้าง ไม่ได้ตอบแก เพราะมัวแต่ฟังพ่อ เรื่องของเรื่องมันอยู่ตอนพ่อเทศน์ภาษาไทยจบแล้วนะสิ
พ่อแกเริ่มขึ้นต้นว่า เลดี้ แอนด์ เจนเท่อเหม็น ผมก็ทำเป็นฟังรู้เรื่องไปเรื่อยๆ ต่อ พี่แกก็จุ๋งจิ๋งๆกับลูกสาวแกต่อ น้องวีที่เป็นสมาชิกบอร์ดนี้ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ น้องเขาก็เก่งภาษาประกิดก็ฟังไปเรื่อยๆ แต่พี่ข้างๆนะสิ แกเป็นคนตรงไปตรงมา แกก็หันมาถามซื่อๆเลยว่า "พ่อพูดว่าอะไร"
โอ้ บาดหลวง ซิสเตอร์ สติสตังค์กลับมาอยู่กับกายทันที ตอบไงดีหว่า เมื่อกี้พี่ยังร้องเพลงไซเลนท์ไนท์ และเดอะชายด์อีสบอร์น อยู่ฉอดๆนะ เอาวะ ไหนๆแกก็ถามมาแล้ว ขอตั้งหลักฟังพ่อก่อนนะ
อ๋อ พ่อก็เล่าเรื่องเมื่อกี้นี่แหละ เรื่องเด็กขายไม้ขีดไฟอะ อู๋ย รอดตัวไป พี่ฟังพ่อต่อได้แล้วนะ ผมก็จะฟังต่อแล้วละ พี่อย่าถามอีกนะ ผมจะไปฟ้องครูจริงๆนะ ว่าพี่คุยในห้องเรียน :emotion_057:
พี่แกเงียบไปพักหนึ่ง พี่น้องที่รักครับ แกหันมาอีกแล้ว พร้อมด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยไมตรีจิต "น้องนี่หน้าเหมือนเกาหลีนะ" โอย มิซซานี้ พระชำระผมเสียหมดมลทิลใดๆแล้วหรือนี่ ผมถึงได้ดูขาวผ่องเป็นยองใย ตี๋อินเตอร์ขนาดมีคนทักว่าเป็นเกาหลี โน่น ไอ้คุณวี นั่งอยู่ข้างๆผมโน่น นั่นแหละ เขาตี๋แท้ ผมไม่ใช่นะพี่ ผมดำอึดถึด ถ้าแกทักว่าฟิลิปปินส์ มาเลย์ อะไรนี่ผมยังทำใจได้นะ แต่นี่พี่แกทักว่าเกาหลี โอ้ว ไม่ไม่ไม่ พี่ฟังเทศน์ต่อดีกว่านะ ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงชำระข้าพเจ้าจนดูผ่องใส
แกติดลม พี่เป็นญวณ มาจากจันทร์ แต่ไม่ได้พูดแล้ว พี่รุ่นหลังๆแล้วไง แต่ป้าคนข้างหลังนั่นแกยังพูดได้อยู่ เอาละ พี่แกเริ่มยาว
ก็ได้พี่ ไหนๆ ผมก็ฟังพ่อแกเทศน์ภาษาต่างประเทศไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว มะ มาคุยกันเลย ไล่กันตั้งแต่เป็นสัตบุรุษจากไหน ฉอดๆๆๆๆ พอเล่าเรื่องแต่ก่อนผมเคยไปวัดที่ลำไทร แกก็เล่าเรื่องแกเคยไปดูอัศจรรย์ที่นั่น ฉอดๆๆๆ
ฉอดๆๆๆๆ
พ่อเทศน์จบ ทำเตชะพระนาม
เล่ามายาวยืด พี่น้องก็อ่านเพลินๆไปแล้วกัน เป็นความสุขในวันคริสต์มาส จริงๆ มันก็เหมือนกับว่าไร้มารยาทนะ มิซซาแท้ๆ แต่ไม่ยักกะตั้งใจฟังพ่อ ไม่จดจ่ออยู่กับพิธี แต่พระอยู่ข้างๆครับพี่น้อง พระที่พูดคุยอยู่กับเรานี่ไง พ่อเทศน์เรื่องเด็กขายไม้ขีดไฟ ถ้าใครเคยอ่านหรือได้ยินนิทานเรื่องนี้ คงจะรู้ว่าเด็กขายไม้ขีดไฟตายในคืนคริสต์มาสอันหนาวเหน็บ ที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการฉลอง
พ่อยกเรื่องนี้มาเล่าเพราะต้องการบอกว่าพระกุมารไม่ได้ต้องการเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์อันหนาวเหน็บ(ใจอันแข็งกระด้าง) แต่พระกุมารต้องการเกิดในที่อบอุ่น(ใจที่ร้อนรนด้วยความรัก)
ผมไปวัด ผมหาพระ ผมได้พระกลับมา แต่เอ ไหนละ พีน้องที่พระสั่งว่า "จงรักซึ่งกันและกันดั่งที่เรารักท่าน" อยู่ตรงไหนสักทีน้า ไม่ยักเห็นแฮะ อ๋อ โน่นไง คนยากจนโน่นนนน อ๋อ พวกแรงงานต่างด้าวนั่นไง และ ฉอดๆๆๆโน่นไง นั่นไง
อ้าว แล้วคนข้างๆนี่ละ แกเป็นไคร ฉันไหว้แกตามพิธีแล้วนะ ยิ้มแล้วด้วย ปกติเวลาไหว้ระบบดอร์บี้เสตอริโอดิจอตอลมัลติเพลกซ์พวกนี้ ผมนิยมใส่คำว่าสันติสุขในพระคริสต์เจ้าแถมไปด้วย เป็นสิ่งที่ติดปากผมมาตลอด ฉันก็พูดแล้วนะ แต่ว่า เอ บ้านเขาอยู่ไหนหว่า เอ เดี๋ยวเสร็จมิซซาแกจะไปไหนหว่า แกจะต้องไปทำมาหากินอะไรต่อไหมหนอ หรือว่าแกต้องไปนั่งรอผัวหรือเมียที่ไม่ได้เป็นคริสตังเหมือนกันไหมหนอ ไม่รู้สิ กลับบ้านดีกว่า "จงรักซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปัน จงรักซึ่งกันและกัน ดังที่เรารักท่าน" เสียงเพลงนี้ลอยหายไปในอากาศ
คราวนี้ที่พี่คนนี้แกคุยด้วย ผมก็คุย แต่ความรู้สึกประหลาดคือผมไม่รู้สึกว่าผมกำลังเสียมารยาทต่อหน้าพระ ผมไม่ได้ไม่สนใจพระนะ แต่พระกุมารแสนน่ารักกำลังคุยกับผมอยู่นี่นี่ไง ลูกสาวพี่แกก็น่ารัก ช่างถามช่างซน (ถ้าบังเอิญไม่มีประสบการณ์ทางจิตในครั้งนี้ น้องแกเข้าข่าย เอ่อ น่า...โบก อิอิ ย้อเย่นน)
พระกุมารองค์น้อยๆ ทำในสิ่งที่น่ารัก มองเห็นความสดใส ความดีงาม มิตรภาพ ความอบอุ่น การเป็นเพื่อนร่วมทางในความศรัทธา
เราไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว พระกุมารทรงบังเกิดแล้ว พระองค์ประทับอยู่กับเราแล้ว ศีลที่ได้รับมาก็เป็นเครื่องยืนยันว่าพระองค์ทรงเป็นเอมมานูเอล อยู่กับเราเสมอไป นี่ไง พระองค์นั่งคุยกับเราอยู่นี่ไง
วันนี้บังเอิญผมอ่านเรื่องผ้าห่อพระกุมารผ่านๆ และเกิดสะดุดใจข้อพระคำภีร์ที่ว่า
"ท่านจะพบพระกุมารคนหนึ่ง มีผ้าห่อนอนอยู่ในรางหญ้า" ลูกา ๒.๖
พบแล้วครับ พระกุมารที่มีผ้าห่ออยู่
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับคริสต์มาสแสนน่ารักในปีนี้
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านด้วยครับ
ขอแม่พระและนักบุญยอแซฟช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้าให้ประทานพระหรรษทานแด่ทุกท่านให้ได้พบพระกุมารกันถ้วนหน้าครับ
เพิ่งกลับจากวัดมา วันนี้วัดมีชีวิตชีวามากๆ
ในมิซซาปกติเราก็ตั้งหน้าตั้งตาฟังพ่อเทศน์ หรือไม่ก็ปล่อยใจเรื่อยเปื่อย หรือไม่ก็มัวแต่ยกใจหาพระ จนลืมไปว่าพระนั่งข้างๆ แต่มิซซาวันนี้ผมมีความสุขครับ คือว่าเนื่องจากวัดที่ภูเก็ตนี่ออกแนววัดนานาชาติ คือตั้งแต่ฝรั่งๆ จนถึงฝรั๊งฝรั่ง ไทยๆ จนถึงไท๊ไท เกาหลีๆ ใต้แบบจีนๆ ใต้แบบใต๊ใต้ อีสานคั่กๆก็มี
เพราะฉะนั้นมิซซาวันนี้เลยต้องสองภาษาอย่างเต็มๆ ทีนี้ตอนที่พ่อเทศน์ภาษาไทยผมก็ฟังไปเรื่อยๆ แต่พี่คนข้างๆแกไม่ฟังไปเรื่อยๆนะสิครับ พ่อยกนิทานเรื่องเด็กขายไม้ขีดไฟมาประกอบการเทศน์ แกก็คุยให้ลูกฟังก่อนว่าเรื่องมันอย่างนี้ๆๆ เสร็จจากลูกแกก็หันมาทางผมว่าใช่เปล่ามันต้องเป็นอย่างนี้ๆ และเนื่องจากพ่อแกคงอยู่ทีมพากษ์อินทรีย์เก่า แกเลยเล่าช้ากว่าพี่ข้างๆ
เอาละไม่เป็นไร เราต้องมีมิตรสัมพันธ์กับเพื่อนพีน้องสัตบุรุษเอาไว้บ้าง คริสตังเราโดยทั่วๆไป พอเลิกวัดแล้วก็หายแว๊บกันไปหมด ไม่ค่อยมีความสัมพันธ์เชิงมิตรภาพนอกเหนือพิธีเหมือนทางพี่น้องคริสเตียน (อันนี้ใครเห็นต่างก็ไม่ว่ากันนะครับ) เหมือนกับเวลาไหว้รอบทิศเหมือนนักมวยอย่างนั้นนั่นไง เข้าใจความหมายนะครับ ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะ คนละประเด็นกัน เอาละ เข้าเรื่องต่อ ทีนี้พอพี่แกเล่าจบ แกก็หันไปจุ๋งจิ๋งๆกับลูกสาวช่างเจรจาของแกต่อ จนกระทั่งนิทานของพ่อจบ และจนกระทั่งพ่อเทศน์จบ อ้อ ระหว่างนั้นมีหันมาเจรจากับผมด้วยนิดหน่อย แต่ผมก็พยักหน้าบ้าง ยิ้มบ้าง ไม่ได้ตอบแก เพราะมัวแต่ฟังพ่อ เรื่องของเรื่องมันอยู่ตอนพ่อเทศน์ภาษาไทยจบแล้วนะสิ
พ่อแกเริ่มขึ้นต้นว่า เลดี้ แอนด์ เจนเท่อเหม็น ผมก็ทำเป็นฟังรู้เรื่องไปเรื่อยๆ ต่อ พี่แกก็จุ๋งจิ๋งๆกับลูกสาวแกต่อ น้องวีที่เป็นสมาชิกบอร์ดนี้ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ น้องเขาก็เก่งภาษาประกิดก็ฟังไปเรื่อยๆ แต่พี่ข้างๆนะสิ แกเป็นคนตรงไปตรงมา แกก็หันมาถามซื่อๆเลยว่า "พ่อพูดว่าอะไร"
โอ้ บาดหลวง ซิสเตอร์ สติสตังค์กลับมาอยู่กับกายทันที ตอบไงดีหว่า เมื่อกี้พี่ยังร้องเพลงไซเลนท์ไนท์ และเดอะชายด์อีสบอร์น อยู่ฉอดๆนะ เอาวะ ไหนๆแกก็ถามมาแล้ว ขอตั้งหลักฟังพ่อก่อนนะ
อ๋อ พ่อก็เล่าเรื่องเมื่อกี้นี่แหละ เรื่องเด็กขายไม้ขีดไฟอะ อู๋ย รอดตัวไป พี่ฟังพ่อต่อได้แล้วนะ ผมก็จะฟังต่อแล้วละ พี่อย่าถามอีกนะ ผมจะไปฟ้องครูจริงๆนะ ว่าพี่คุยในห้องเรียน :emotion_057:
พี่แกเงียบไปพักหนึ่ง พี่น้องที่รักครับ แกหันมาอีกแล้ว พร้อมด้วยใบหน้าเปี่ยมด้วยไมตรีจิต "น้องนี่หน้าเหมือนเกาหลีนะ" โอย มิซซานี้ พระชำระผมเสียหมดมลทิลใดๆแล้วหรือนี่ ผมถึงได้ดูขาวผ่องเป็นยองใย ตี๋อินเตอร์ขนาดมีคนทักว่าเป็นเกาหลี โน่น ไอ้คุณวี นั่งอยู่ข้างๆผมโน่น นั่นแหละ เขาตี๋แท้ ผมไม่ใช่นะพี่ ผมดำอึดถึด ถ้าแกทักว่าฟิลิปปินส์ มาเลย์ อะไรนี่ผมยังทำใจได้นะ แต่นี่พี่แกทักว่าเกาหลี โอ้ว ไม่ไม่ไม่ พี่ฟังเทศน์ต่อดีกว่านะ ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงชำระข้าพเจ้าจนดูผ่องใส
แกติดลม พี่เป็นญวณ มาจากจันทร์ แต่ไม่ได้พูดแล้ว พี่รุ่นหลังๆแล้วไง แต่ป้าคนข้างหลังนั่นแกยังพูดได้อยู่ เอาละ พี่แกเริ่มยาว
ก็ได้พี่ ไหนๆ ผมก็ฟังพ่อแกเทศน์ภาษาต่างประเทศไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว มะ มาคุยกันเลย ไล่กันตั้งแต่เป็นสัตบุรุษจากไหน ฉอดๆๆๆๆ พอเล่าเรื่องแต่ก่อนผมเคยไปวัดที่ลำไทร แกก็เล่าเรื่องแกเคยไปดูอัศจรรย์ที่นั่น ฉอดๆๆๆ
ฉอดๆๆๆๆ
พ่อเทศน์จบ ทำเตชะพระนาม
เล่ามายาวยืด พี่น้องก็อ่านเพลินๆไปแล้วกัน เป็นความสุขในวันคริสต์มาส จริงๆ มันก็เหมือนกับว่าไร้มารยาทนะ มิซซาแท้ๆ แต่ไม่ยักกะตั้งใจฟังพ่อ ไม่จดจ่ออยู่กับพิธี แต่พระอยู่ข้างๆครับพี่น้อง พระที่พูดคุยอยู่กับเรานี่ไง พ่อเทศน์เรื่องเด็กขายไม้ขีดไฟ ถ้าใครเคยอ่านหรือได้ยินนิทานเรื่องนี้ คงจะรู้ว่าเด็กขายไม้ขีดไฟตายในคืนคริสต์มาสอันหนาวเหน็บ ที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการฉลอง
พ่อยกเรื่องนี้มาเล่าเพราะต้องการบอกว่าพระกุมารไม่ได้ต้องการเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์อันหนาวเหน็บ(ใจอันแข็งกระด้าง) แต่พระกุมารต้องการเกิดในที่อบอุ่น(ใจที่ร้อนรนด้วยความรัก)
ผมไปวัด ผมหาพระ ผมได้พระกลับมา แต่เอ ไหนละ พีน้องที่พระสั่งว่า "จงรักซึ่งกันและกันดั่งที่เรารักท่าน" อยู่ตรงไหนสักทีน้า ไม่ยักเห็นแฮะ อ๋อ โน่นไง คนยากจนโน่นนนน อ๋อ พวกแรงงานต่างด้าวนั่นไง และ ฉอดๆๆๆโน่นไง นั่นไง
อ้าว แล้วคนข้างๆนี่ละ แกเป็นไคร ฉันไหว้แกตามพิธีแล้วนะ ยิ้มแล้วด้วย ปกติเวลาไหว้ระบบดอร์บี้เสตอริโอดิจอตอลมัลติเพลกซ์พวกนี้ ผมนิยมใส่คำว่าสันติสุขในพระคริสต์เจ้าแถมไปด้วย เป็นสิ่งที่ติดปากผมมาตลอด ฉันก็พูดแล้วนะ แต่ว่า เอ บ้านเขาอยู่ไหนหว่า เอ เดี๋ยวเสร็จมิซซาแกจะไปไหนหว่า แกจะต้องไปทำมาหากินอะไรต่อไหมหนอ หรือว่าแกต้องไปนั่งรอผัวหรือเมียที่ไม่ได้เป็นคริสตังเหมือนกันไหมหนอ ไม่รู้สิ กลับบ้านดีกว่า "จงรักซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปัน จงรักซึ่งกันและกัน ดังที่เรารักท่าน" เสียงเพลงนี้ลอยหายไปในอากาศ
คราวนี้ที่พี่คนนี้แกคุยด้วย ผมก็คุย แต่ความรู้สึกประหลาดคือผมไม่รู้สึกว่าผมกำลังเสียมารยาทต่อหน้าพระ ผมไม่ได้ไม่สนใจพระนะ แต่พระกุมารแสนน่ารักกำลังคุยกับผมอยู่นี่นี่ไง ลูกสาวพี่แกก็น่ารัก ช่างถามช่างซน (ถ้าบังเอิญไม่มีประสบการณ์ทางจิตในครั้งนี้ น้องแกเข้าข่าย เอ่อ น่า...โบก อิอิ ย้อเย่นน)
พระกุมารองค์น้อยๆ ทำในสิ่งที่น่ารัก มองเห็นความสดใส ความดีงาม มิตรภาพ ความอบอุ่น การเป็นเพื่อนร่วมทางในความศรัทธา
เราไม่ได้อยู่คนเดียวอีกแล้ว พระกุมารทรงบังเกิดแล้ว พระองค์ประทับอยู่กับเราแล้ว ศีลที่ได้รับมาก็เป็นเครื่องยืนยันว่าพระองค์ทรงเป็นเอมมานูเอล อยู่กับเราเสมอไป นี่ไง พระองค์นั่งคุยกับเราอยู่นี่ไง
วันนี้บังเอิญผมอ่านเรื่องผ้าห่อพระกุมารผ่านๆ และเกิดสะดุดใจข้อพระคำภีร์ที่ว่า
"ท่านจะพบพระกุมารคนหนึ่ง มีผ้าห่อนอนอยู่ในรางหญ้า" ลูกา ๒.๖
พบแล้วครับ พระกุมารที่มีผ้าห่ออยู่
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับคริสต์มาสแสนน่ารักในปีนี้
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านด้วยครับ
ขอแม่พระและนักบุญยอแซฟช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้าให้ประทานพระหรรษทานแด่ทุกท่านให้ได้พบพระกุมารกันถ้วนหน้าครับ
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
ว้าววววววววววววววว
เยี่ยมกู๊ด พ่อฝรั่งที่วัดบอกว่า จงแสวงหาของขวัญจากความหมายของการบังเกิดของพระกุมาร
ขอบคุณมากคับพี่อันตนยอง (เกาหลีมากกกกก)
เยี่ยมกู๊ด พ่อฝรั่งที่วัดบอกว่า จงแสวงหาของขวัญจากความหมายของการบังเกิดของพระกุมาร
ขอบคุณมากคับพี่อันตนยอง (เกาหลีมากกกกก)
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ช้าไปหน่อยนะครับ
วัดราชินีแห่งสันติสุข สุขุมวิท 101 ครับ
ไม่ได้เข้ามาในบอร์ดเลยครับ เตรียมงานเยอะมาก ๆๆๆ
วัดราชินีแห่งสันติสุข สุขุมวิท 101 ครับ
ไม่ได้เข้ามาในบอร์ดเลยครับ เตรียมงานเยอะมาก ๆๆๆ
เหมือนกันMatthew เขียน: วัดพระชนนีของพระเป็นเจ้า (รังสิต) ครับ
ผทขอเล่าเกี่ยวกับคืนวันคริสต์มาสของผมที่สิงคโปร์ ตามที่บอกคือผมไปร่วมมิสซาเที่ยงคืนที่อารามคาร์แมล คุณพ่อเจ้าคณะคาร์เมไลท์เป็นประธานในพิธี อารามแห่งนี้มีซิสเตอร์ประมาณ 10 ท่าน มิสซาเที่ยงคืนมีสัตบุรุษมาร่วมล้นวัดจนพวกผม(เณร) ไม่มีที่นั่งในวัด ต้องหาเก้าอี้มานั่งในสวนหย่อมอันสวยงาม มีท้องฟ้าเป็นเพดาน เป็นค่ำคืนที่งดงาม ดวงจันทร์เต็มดวง ฝนไม่ตก ทำให้นึกถึงพระกุมารในคืนประสูติที่หาที่ว่างในโรงแรมไม่ได้ ต้องมาบังเกิดในคอกสัตว์ ก่อนมิสซาเริ่ม 30 นาทีมีการขับร้องแครอริ่ง และต่อด้วยมิสซาที่เรียบง่าย ที่อารามไม่มีการฉลองอะไรภายนอก ไม่มีการเฮฮาแบบงานวัด การฉลองทุกอย่างเน้นที่การประสูติของพระเยซูเจ้าเท่านั้น การเทศน์คุณพ่อใช้วิธีให้สัตบุรุษหลับตาและใช้จินตนาการ โดยคุณพ่อเล่าบรรยายเหตุการณ์ในคืนวันประสูติ มีดนตรีคลอเบา ๆ ทุกคนประทับใจมาก ส่วนในช่วงการรับศีลมหาสนิท คุณแม่อธิการต้องมาช่วยคุณพ่อแจกศีล เพราะมีคุณพ่อแค่คนเดียว เมื่อจบมิสซาบรรดาญาติ ๆ ของซิสเตอร์ได้มีโอกาสเยี่ยมซิสเตอร์ แต่บรรยากาศค่อนข้างอึกทึกเพราะทางอารามจัดให้เยี่ยมรวมในห้องเดียว จึงดูโหวกเหวกพอสมควร ส่วนผมได้มีโอกาสจับมือและและแนะนำตัวกับแขกพิเศษ คือรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งท่านเป็นคาทอลิก ต้อนทักทายผมก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร พ่อดีผมยืนอยู่กับคุณพ่อเจ้าคณะแล้วท่านเข้ามาทักทายคุณพ่อ ผมกับบราเดอร์อีกคนเลยพลอยได้อานิสงค์ไปด้วย (เมื่อสองอาทิตย์ก่อนก็มีโอกาสไปงานศาสนสัมพันธ์ เขาเชิญผู้แทนทุกศาสนามาสวดอธิฐาน แล้วก็ทานอาหารร่วมกัน มีนายกรัฐมนตรีลีเซียงลุน มาเปิดงาน ผมก็เลยได้เห็นท่านตัวเป็น ๆ แบบใกล้ๆ )
เมื่อออกจากอารามคุณพ่อกับขับรถพาพวกผมดูไฟที่ประดับบนถนนออร์ชาร์ด จนถึงถนนบราสบาซาร์ แม้จะเป็นเวลาตี 2 แต่ผู้คนยังพลุกพล่านอยู่เลย ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าปิดหมกแล้ว มีแต่ผับบาร์ที่ยังเปิดอยู่ วันที่ 25 เขาจะปิดถนนออร์ชาร์ดทั้งเส้นเป็นถนนคนเดิน ทุก ๆ ปี คริสเตียนจะจัดการประกาศที่ถนนออร์ชาร์ด มีการแสดงฉากการประสูติตามพระคัมภีร์ เขาจัดอย่างยิ่งใหญ่มาก การจายเป็นจุด ๆ ตลอดถนนทั้งสาย
เมื่อออกจากอารามคุณพ่อกับขับรถพาพวกผมดูไฟที่ประดับบนถนนออร์ชาร์ด จนถึงถนนบราสบาซาร์ แม้จะเป็นเวลาตี 2 แต่ผู้คนยังพลุกพล่านอยู่เลย ร้านค้า ห้างสรรพสินค้าปิดหมกแล้ว มีแต่ผับบาร์ที่ยังเปิดอยู่ วันที่ 25 เขาจะปิดถนนออร์ชาร์ดทั้งเส้นเป็นถนนคนเดิน ทุก ๆ ปี คริสเตียนจะจัดการประกาศที่ถนนออร์ชาร์ด มีการแสดงฉากการประสูติตามพระคัมภีร์ เขาจัดอย่างยิ่งใหญ่มาก การจายเป็นจุด ๆ ตลอดถนนทั้งสาย
- Z - E - E - N
- โพสต์: 7
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 22, 2006 10:19 am
- ที่อยู่: Bangkok
เมื่อคืนไปที่เซนต์หลุยส์ สาทรค่ะ เช้ามีสอบเหมือนกัน T^T ทำไมต้องมาสอบวันนี้ด้วยน้า..แง่ง
มะตอนเช้าวันที่25ไปวัดน้อยนักบุญนิโคลัส(วัดรัสเซียนั่นแหละ)ที่จริงออร์โธด๊อกซ์ไม่ฉลองคริสต์มาสวันนี้แต่จะเป็น7มกราตามปฏิทินเกรกอเรียน(ซึ่งตรงกับวันที่25ธันวาตามปฏิทินจูเลี่ยน) แต่ชาวอาร์เมเนี่ยนขอให้พ่อจัดเพราะพระศาสนจักรออร์โด๊อกซ์สำนักพระอัยกาแห่งอาร์เมเนี่ยนระบุให้จัดคริสต์มาสตามปฏิทินกรอเกรเรียน(แต่ปาสกาตามจูเลี่ยน)
เเถมๆๆๆ
ถําเเม่พระที่อารามคาเเมล
คุณพ่อวรยุทธเมื่อคราว ร้องเพลงตามบ้านๆๆๆ
ถําเเม่พระที่อารามคาเเมล
คุณพ่อวรยุทธเมื่อคราว ร้องเพลงตามบ้านๆๆๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 7:45 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.