แตกประเด็น เรื่องโลกร้อน

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
taiyo
โพสต์: 658
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 22, 2006 12:01 am

พุธ ก.พ. 27, 2008 10:12 pm

http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic ... 73013.html

ตกลงโลกมันจะร้อนหรือมันจะเย็นลงครับ

ผมว่าจะเย็นลง
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2008 10:32 am

เย็นลงเพราะเกิดการเหนี่ยวนำ

เอ นี่มันแนวคิดจากเรื่องอะไรหว่า จำไม่ได้แล้ว
Nativity
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 3:31 pm
ที่อยู่: Peace in sinner

พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2008 10:38 am

โลกมันร้อนเลยอยากเปิดแอร์555 ::018::
ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2008 4:03 pm

มีคนบอกว่า อีก3ปีประเทศไทยจะมีหิมะตก !


จริงเท็จไม่ทราบ  ::017::
Dis volentibus

พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2008 4:07 pm

หิมาตกก็ดีเหมือนกัน
ร้อนจะละลายคาบ้านอยู่เเย้ว
ฮืออออออออออออออออออ : xemo023 : : xemo023 : : emo107 : : emo107 : : emo107 :
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2008 4:07 pm

ผมว่าจะแปรปรวนมากกว่านะครับ

ที่ที่ร้อนจะเย็น ที่ที่เย็นจะร้อน
warlock
โพสต์: 642
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 3:37 am

พฤหัสฯ. ก.พ. 28, 2008 7:39 pm

จอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน: เย็นลงเพราะเกิดการเหนี่ยวนำ

เอ นี่มันแนวคิดจากเรื่องอะไรหว่า จำไม่ได้แล้ว
              เหนี่ยวนำให้จิตของเราผูกพัน... จากเรื่อง  โปรดทราบ คิดถึงมาก ไง ครับ  ::011:: ::011:: ::011::
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

ศุกร์ ก.พ. 29, 2008 9:32 am

วิปริตโลกร้อน มะกันตับแลบ อาร์เจนตินาหิมะตก

รูปภาพ

อากาศแปรปรวนหนัก หิมะตกใหญ่ในนครหลวงอาร์เจนตินาเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 100 ปี ชาวเมืองแตกตื่น พบหนาวตาย 2 ศพแล้ว ส่วนที่นิวยอร์ก-วอชิงตันโดนคลื่นความร้อนถล่ม ชาวมะกันร้อนตับแลบ ด้านไฟป่ายังผลาญหลายรัฐในอเมริกา ขณะที่แพทย์ไทยเตือนโลกร้อนทำให้โรคที่เกิดจากแมลงเป็นพาหะเพิ่มขึ้น อุณหภูมิสูงก่อเกิดโรคภูมิแพ้มากขึ้นอีก

ปัญหาภาวะโลกร้อนยังส่งผลกระทบสร้างความผันผวนต่อระบบนิเวศวิทยา และความแปรปรวนของสภาพอากาศไปทั่วทุกหนแห่ง ทั้งนี้ แม้ว่าหลายหน่วยงานทั่วโลกเริ่มตะหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเริ่มวางมาตรการแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างต่อเนื่อง แต่ความแปรปรวนต่อสภาพอากาศที่เกิดจากภาวะโลกร้อนเริ่มส่งผลกระทบอย่างหนักไปทั่วโลก ล่าสุดที่ประเทศอาร์เจนตินาเกิดหิมะตก ซึ่งปรากฏการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบร้อยปีอย่างไม่เคยมีมาก่อน

อาร์เจนตินาหิมะตกในรอบ 100 ปี

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม กรมอุตุนิยมวิทยาของอาร์เจนตินา เปิดเผยว่า เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบร้อยปี เมื่อหิมะตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงหลายพื้นที่ในกรุงบูเอโนสไอเรส เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บางแห่งมีหิมะตกหนักจนมองเห็นเป็นสีขาวโพลนที่ปกคลุมอยู่ทั่วไป ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บดังกล่าว ทำให้ชาวกรุงบูเอโนสไอเรสต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน เพราะเป็นครั้งแรกที่มีหิมะตกในนครหลวงแห่งนี้นับตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2461 เป็นต้นมา หลังจากนั้นมา 89 ปีต่อมาก็ไม่เคยมีหิมะตกอีกเลย อย่างมากที่สุดมีแค่ลูกเห็บตกเป็นครั้งคราว

กรมอุตุนิยมวิทยาของอาร์เจนตินา เปิดเผยต่อว่า ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากมวลอากาศเย็นจากมหาสมุทรแอนตาร์กติกที่ขั้วโลกพัดเข้าปะทะกับความกดอากาศต่ำที่มีความชื้นสูงในแถบตะวันตกและภาคกลางของอาร์เจนตินา ส่งผลให้พื้นที่หลายแห่ง รวมทั้งกรุงบูเอโนสไอเรสมีหิมะและน้ำแข็งปกคลุม โดยเฉพาะที่จังหวัดริโอ เนโกร ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำสุดถึงติดลบ 22 องศาเซลเซียส ต่างไปจากหิมะที่ตกพร้อมกับฝน และหายไปอย่างรวดเร็วช่วงที่ผ่านมา

รายงานข่าวเผยว่า ประชาชนหลายพันคนพากันตื่นเต้นกับหิมะที่ตกลงมา หลายคนต่างพากันออกไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่วนเด็กๆ ก็เล่นหิมะกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่มีรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหลายจุด เนื่องจากถนนลื่น นอกจากนี้ มีรายงานว่าผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บแล้วถึง 2 คน

ทั้งนี้ กรุงบูเอโนสไอเรสเพิ่งเผชิญกับสภาพอากาศเย็นจัดที่อุณหภูมิลดต่ำลงมากกว่าจุดเยือกแข็ง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อันเป็นอุณหภูมิต่ำที่สุดในรอบเวลากว่า 40 ปี ส่งผลให้เกิดภาวะวิกฤติด้านพลังงานและมีผู้เสียชีวิตไป 23 คน ส่วนหิมะที่ตกเมื่อวันจันทร์มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 คน

 

สหรัฐเปิดศูนย์ทำความเย็นดับร้อน

ขณะเดียวกัน ในส่วนของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ในทวีปเดียวกันแต่อยู่ทางตอนเหนือ กลับประสบปัญหาสภาพอากาศร้อนจัดจากคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมทั้งที่นครนิวยอร์กและที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประชาชนต้องหาวิธีต่างๆเพื่อดับร้อน ขณะที่ไฟป่าในพื้นที่ทางตะวันตกยังคงเผาผลาญสร้างความเสียหายหลายรัฐ ทั้งที่แคลิฟอร์เนีย เนวาดา ยูทาห์ วอชิงตัน โคโลราโด โอเรกอน และมอนแทนา โดยอุณหภูมิสูงสุดอาจเพิ่มขึ้นถึง 38 องศาเซลเซียส คาดว่าคลื่นความร้อนอาจแผ่กระจายไปยังพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศภายในสัปดาห์นี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เทศบาลนครนิวยอร์กได้เปิดศูนย์ทำความเย็นขึ้น 290 แห่งขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศติดบ้านมานั่งพักผ่อนคลายร้อน ศูนย์เหล่านี้จะตั้งอยู่ตามอาคารที่ทำการสาธารณะ หรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ

ด้านนายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์กได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหากรณีที่เกิดไฟฟ้าดับ พร้อมทั้งกระตุ้นเตือนประชาชนให้ช่วยกันป้องกันการเกิดไฟฟ้าดับทั่วเมืองด้วยการประหยัดพลังงาน เพราะไม่ต้องการให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหตุไฟฟ้าดับในย่านควีนส์ และเวสต์เชสเตอร์ในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ที่ทำให้คน 174,000 คน ต้องทุกข์ทรมานเพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงหน้าร้อน

ข้ามทวีปมาที่ออสเตรเลีย โฆษกการท่าอากาศยานเมลเบิร์น แถลงว่า เกิดหมอกลงจัดเป็นอุปสรรคต่อเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ ทำให้มีผู้โดยสารตกค้างอยู่ที่สนามบินเมลเบิร์นหลายพันคน โดยหมอกที่หนาทึบทำให้เที่ยวบินระหว่างประเทศ 14 เที่ยว ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดยังสนามบินที่อื่นแทน ส่วนใหญ่จะเป็นที่นครซิดนีย์ ขณะที่เที่ยวบินในประเทศต้องเลื่อนเวลาออกไปหรือยกเลิก


ตั้งทีมติดตามทะเลแปรปรวน

ส่วนการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนในประเทศไทย หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความห่วงใยและสนพระราชหฤทัยต่อปัญหาภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกนั้น พร้อมรับสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวัน

วันเดียวกัน นางนิศากร โฆษิตรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยถึงภาวะโลกร้อนที่จะส่งให้เกิดความแปรปรวนของอากาศและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นว่า ขณะนี้ ทช.เตรียมตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงทางด้านสมุทรศาสตร์ในภาพรวมทั้งหมด โดยเชิญนักวิทยาศาสตร์จากศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กองทัพเรือ กรมทรัพยากรธรณี กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือและตั้ง คณะทำงานเพื่อติดตามเรื่องนี้ขึ้น

"เราเริ่มพบปรากฏการณ์ที่ยืนยันถึงอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ชัดเจนแล้ว คือกรณีเหตุการณ์คลื่นลมแรงผิดปกติที่พัดเข้ามา สร้างความเสียหายและทำให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรงในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างหลายจังหวัด เมื่อปลายปี 2549 ซึ่งครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสเป็นห่วง และ ทช.ได้สนองพระราชดำรัส จนกระทั่งมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์แก้ปัญหากัดเซาะ และได้เสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว" นางนิศากร กล่าว

 

ชี้น้ำทะเลสูงกระทบชายฝั่งกัดเซาะ
ด้าน ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเล็งเห็นความสำคัญของการช่วยกันแก้ปัญหาและรับมือกับภาวะโลกร้อน โดยให้ทุกภาคส่วนร่วมมือประสานงานกันนั้น ถือว่าพระองค์ทรงมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลมาก เพราะการรับมือและแก้ปัญหาโลกร้อนนั้นไม่เฉพาะนักวิทยาศาสตร์เท่านั้นที่ช่วยอธิบายแก้ไข และจัดการกับภาวะนี้ได้ แต่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจริง แต่ยังถือว่าอยู่ในอัตราที่ยังไม่สูงมากผิดปกติ ซึ่งระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยเพิ่มขึ้น 1-2 มิลลิเมตรต่อปี แต่ที่น่าสนใจคือระดับน้ำทะเลในฝั่งอันดามันสูงขึ้นถึง 8-12 มิลลิเมตรต่อปี แต่สิ่งที่น่าห่วงจากภาวะน้ำทะเลสูงขึ้นคือจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งมากขึ้นถึง 2 เท่า จากเดิมอัตราการกัดเซาะชายฝั่งเฉลี่ย 1-5 เมตรต่อปี แต่บางจุดอาจแรงถึง 12 เมตรต่อปี แต่ถ้ามีอัตราเร่งของน้ำทะเลเพิ่มเป็น 10 มิลลิเมตร พื้นที่อาจถูกน้ำกัดเซาะไปปีละ 10 เมตร ซึ่งภาพเฉลี่ยแล้วแต่ลักษณะของหาดที่แบนไม่ลาดชันมาก อย่างพื้นที่ จ.จันทบุรี ลุ่มน้ำปากพนัง จะเกิดปัญหามาก ส่วนอากาศที่อุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้น้ำทะเลอุ่นขึ้น 0.1-0.2 องศาเซลเซียส

"นักวิทยาศาสตร์ยังเป็นห่วงเรื่องความเป็นกรดของน้ำทะเลและน้ำจืดเนื่องจากมีคาร์บอนไดออกไซด์เยอะมาก ทำให้สิ่งมีชีวิตหลายอย่างสร้างเปลือกไม่ได้ เช่น ปลาดาว หอยเม่น ซึ่งสิ่งมีชีวิตพวกนี้มีบทบาทในระบบนิเวศมาก ถ้าพวกนี้หายไปนิเวศวิทยาจะถูกตัดตอนไป" ดร.อานนท์ กล่าว

ส่วนนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ ให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาโลกร้อนมานานแล้ว และดำเนินการทุกอย่างมาสม่ำเสมอ แต่เมื่อมีกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะเร่งรัดดำเนินการมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟื้นฟูป่าเพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อเพิ่มตัวดูดซับปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้มากขึ้น

 

โลกร้อนทำโรคแมลงเป็นพาหะเพิ่ม

ทั้งนี้จากปัญหาโลกร้อน กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาแสดงความเป็นห่วง โดยระบุว่าสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นอาจส่งผลให้โรคที่เกิดจากแมลงเป็นพาหะสูงขึ้นด้วย

วันเดียวกัน ผศ.น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า เนื่องจากประเทศไทยอยู่แถบภูมิอากาศร้อนอยู่แล้ว ภาวะโลกที่จะร้อนขึ้นอาจยังไม่ชัดเจนสำหรับโรคใหม่ๆ มากนัก แต่จำนวนความถี่ของโรคที่มีอยู่เก่าอาจจะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าเรื่องยุง แมลงวัน หรือแมลงต่างๆ อาจจะมีการเคลื่อนย้ายเปลี่ยนแปลงในเขตจังหวัดหรือภูมิภาคได้ ดังนั้น ประเทศไทยคงต้องเตรียมการเปลี่ยนแปลงจากโรคที่มีแมลงเป็นพาหะเพิ่มมากขึ้น และติดต่อได้ง่ายขึ้น รวมทั้งโรคภูมิแพ้ ซึ่งไรฝุ่นเป็นสารก่อภูมิแพ้มากที่สุด เพราะไรฝุ่นชอบอยู่ในที่ร้อนและชื้น

ผศ.น.พ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า สภาพภูมิอากาศปัจจุบันโรคภูมิแพ้มีมากอยู่แล้ว โดยเด็กและเยาวชนเป็นภูมิแพ้ในจมูกร้อยละ 20-40 หอบหืดร้อยละ 4-13 ถ้ามีไรฝุ่นมาก สิ่งแวดล้อมกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้มากขึ้น คงมีตัวเลขคนเป็นภูมิแพ้มากขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงยังต้องการการวิจัยว่าถ้าร้อนขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส จะเป็นอย่างไร ส่วนที่ชัดเจนคือ ภูมิแพ้ผิวหนัง

"สิ่งที่จะต้องช่วยกันกระตุ้นความคิดคือ การทำงานวิจัยที่จะต้องไปร่วมมือกับด้านกีฏวิทยาและนิเวศวิทยา คงจะไม่ใช่เรื่องของสาธารณสุขอย่างเดียว จะต้องร่วมมือกับสัตวแพทย์ กรมปศุสัตว์ด้วยซ้ำว่าในวงจรชีวิตของแมลง ของสัตว์ที่เป็นแหล่งพาหะของโรคที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยภาวะอุณหภูมิอย่างไร และจะเป็นไปในทางโรครุนแรงมากขึ้นหรือน้อยลง ถ้างานวิจัยบูรณาการร่วมกัน จะทำให้เราวางแผนได้ถูกต้องว่าโรคอะไรที่จะเป็นปัญหาและป้องกันไว้ก่อน" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้ กล่าว

แนะดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

ด้าน ศ.น.พ.สันต์ หัตถีรัตน์ หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงทำให้ประชาชนในพื้นที่ซึ่งไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศแบบนี้เกิดการเจ็บป่วยขึ้น และมักเกิดจากปัญหา 2 ประการ คือ 1.ภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป จากความร้อนความแห้งแล้ง และเกิดไฟไหม้ป่า ทำให้เกิดควัน เหมือนที่เกิดขึ้นในภาคเหนือของไทย เมื่อคนสูดดมไปจะทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ไอ หอบ เหนื่อย หายใจไม่ค่อยออก และเมื่อความแห้งแล้งเกิดขึ้นภาวะทุพโภชนาการก็จะเกิดขึ้น คนจะขาดอาหาร ขาดน้ำ จะทำให้เกิดโรคที่เกิดจากการขาดอาหารและน้ำ 2.ถ้าอากาศทำให้พื้นที่เกิดมีน้ำท่วมใหญ่ จะมีภัยจากโรคที่เกิดจากน้ำท่วมใหญ่ เช่น โรคฉี่หนู โรคน้ำกัดเท้า โรคที่มากับน้ำ ท้องเดิน ท้องเสีย

ศ.น.พ.สันต์ กล่าวด้วยว่า วิธีที่ดีที่สุดเพื่อรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บที่จะมากับโลกร้อนคือ การดูแลสุขภาพของตนเองให้มีร่างกายแข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอพอควร ลดความเครียดจากภาวะการดำรงชีพ เพราะไม่แน่ใจว่าภูมิอากาศจะเกี่ยวข้องกับการเป็นโรคจิตมากขึ้นหรือไม่ แต่อาจเป็นได้ เนื่องจากเมื่ออากาศร้อนจะทำให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวได้ง่าย


http://www.komchadluek.net/2007/07/10/a ... _id=126498
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ ศุกร์ ก.พ. 29, 2008 9:55 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ก.พ. 29, 2008 11:44 am

Ecclēsia เขียน: หิมาตกก็ดีเหมือนกัน
ร้อนจะละลายคาบ้านอยู่เเย้ว
ฮืออออออออออออออออออ : xemo023 : : xemo023 : : emo107 : : emo107 : : emo107 :
จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่อย่างมาก
โดยเฉพาะที่ประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรมและปศุสัตว์ครับ
warlock
โพสต์: 642
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 20, 2006 3:37 am

เสาร์ มี.ค. 01, 2008 9:00 am

necromancer เขียน:
Ecclēsia เขียน: หิมาตกก็ดีเหมือนกัน
ร้อนจะละลายคาบ้านอยู่เเย้ว
ฮืออออออออออออออออออ : xemo023 : : xemo023 : : emo107 : : emo107 : : emo107 :
จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่อย่างมาก
โดยเฉพาะที่ประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรมและปศุสัตว์ครับ
               ถูกต้องที่สุด  เป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้แสดงบทบาทในฐานะ ยุ้งฉางผลิตผลทางการเกษตรให้แก่ประชาคมโลก(ก่อนพิบัติภัย) สิ่งนี่น่าเศร้าคือ ข้าวของเรามีราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากผลผลิตไม่เพียงพอ(พ่อค้า ก่อกรรมทำเข็ญกับเกษตรกร กันซะเหลือเกินจนเค้าจะเลิกทำนากันหมดแล้ว  แล้วจะเอาที่ไหนกินกันฮึ) แต่ที่จริงก็ไม่น่ากังวลอะไรมากเพราะเป็นการคัดสรรทางธรรมชาติ เพราะมนุษย์ที่เหลือรอดก็จะได้เรียนรู้ถึงการวางบทบาทของตนในโลกใบนี้ อุตสาหกรรมหนักเกิดในโลกนี้เพียงช่วงเวลาสองร้อยปี กลับส่งผลกระทบให้โลกได้มากมายเพียงนี้ ผู้ที่เหลือรอดจะได้ทบทวนถึงผลกระทบจากกิจกรรมที่ทำกันมา   ส่วนเรื่องภาวะโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ไม่น่าวิตก เพราะโลกของเราก็คือระบบปิด ปริมาณน้ำแข็งที่ละลาย เป็นน้ำ ก็จะถูกความร้อนทำให้ละเหยไปจับตัวที่ชั้นบรรยากาศ แล้วก็ฝนตกน้ำท่วมตามมาเป็นวัฏจักร ปฏิกริยาการส่งถ่ายความร้อนจากดวงอาทิตย์ก็ทำงานตามการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์(อาจจะมีพายุที่รุนแรงขึ้น บ่อยขึ้น บางแห่งของโลกอาจจะโดนแช่แข็งบ้าง)  แต่โลกก็จะมีการปรับสมดุลของตัวเองตามมา เห็นได้จากปฏิกริยายุคธารน้ำแข็ง แล้วทุกอย่างก็มาเริ่มกันใหม่  ซึ่งนั่นคือเวลาที่แย่ๆเพียงไม่กี่วันของโลกใบนี้  เมื่อเทียบกับอายุหลายล้านปีของเธอ  เธอกำลังครั่นเนื้อครั่นตัวจะเป็นไข้ แล้วเดี๋ยวเธอก็จะรักษาตัวเอง  แล้วเธอก็จะกลับมา งดงาม อีกครั้งเพื่ออยู่ร่วมกับมนุษย์ยุคใหม่ที่ไม่ทำร้ายเธอจนเกินไปนัก (ขอตายในอ้อมอกเธอ...โลกที่รัก) ::011:: ::011:: ::011::
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มี.ค. 01, 2008 9:20 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

เสาร์ มี.ค. 01, 2008 11:22 am

พี่ยืนดูต้นไม้ก็คิดอยู่นานแล้วถ้าหิมะเกิดตกเมืองไทยอย่างแบตแดดกับอาร์เจนติน่าจะทำยังไง กว่าจะปลูกได้ขนาดนี้ต้องเสียเวลา เสียแรงลุ้น ถ้ามันไปแช่น้ำแข็งแล้วตายไปต้องมาเริ่มต้นกันใหม่อีกเสียเวลา

ประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรมอะไรที่มันทำให้พืชผลการผลิตมากๆ เป็นสิ่งที่ดีควรส่งเสริมเร่งทำให้เกิดในประเทศของเรา ส่วนหิมะให้มันไปตกพวกประเทศอุส่าหากรรมนู้น เฮ้อๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ เสาร์ มี.ค. 01, 2008 11:24 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

เสาร์ มี.ค. 01, 2008 12:52 pm

เมืองไทยหิมะตก

ตายแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

อาทิตย์ มี.ค. 02, 2008 1:28 pm

ใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม อ่านต่อได้ที่

ภาวะโลกร้อนส่งผลอย่างไร
http://uk.geocities.com/palangjai2004/catholic News34.html

นำ้แข็งละลาย
http://uk.geocities.com/palangjai2004/ice.html

: xemo023 :
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

อาทิตย์ มี.ค. 02, 2008 6:42 pm

ถ้าขนาดเมืองไทยหิมะตก ฟันธงว่าวันสิ้นโลกใกล้เข้ามาแล้ว(อากาศแปรปรวน อีกไม่นานรับรองว่าโลกแตก ชัวร์!)
ถ้าเป็นหนังต้องตั้งชื่อ "The Last snow" "หิมะสุดท้าย"
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 11:06 am

In the name of father เขียน: ถ้าขนาดเมืองไทยหิมะตก ฟันธงว่าวันสิ้นโลกใกล้เข้ามาแล้ว(อากาศแปรปรวน อีกไม่นานรับรองว่าโลกแตก ชัวร์!)
ถ้าเป็นหนังต้องตั้งชื่อ "The Last snow" "หิมะสุดท้าย"
ปัญหาหิมะตกแก้ไขได้ไม่ยาก

ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเอวด่าและวิดดุ้นสัตว์สูญ และอีกหลายสถาบันจากปลารีดร่วมกันยืนยันแล้วว่าผลิตถัณฑ์ไนโซร่อนก็ดี แผ่นทรีนโป๊ะหวีก็ดี บานเบิก(รีจ๊อยซ์) โล่ง(เคลียร์) และอีกหลายยี่ห้อเจียรนัยไม่ไหว สามารถช่วยป้องกันปัญหารังแคหรือหิมะตกเมื่อใส่เสื้อดำหรือสีเข้มได้ดี เราช่วยกันใช้ซะ รับรองหิมะสุดท้ายจะหายไปจากหัว และเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโลกตงโลกแตกให้วุ่นวายหนักศีรษะอีกต่อไป มุ่งหน้าทำตามพระวรสารได้อย่างสบายใจไทยแลนด์

พอกันทีสำรับเสื้อขาว ::011::
Dis volentibus

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 11:21 am

necromancer เขียน:
Ecclēsia เขียน: หิมาตกก็ดีเหมือนกัน
ร้อนจะละลายคาบ้านอยู่เเย้ว
ฮืออออออออออออออออออ : xemo023 : : xemo023 : : emo107 : : emo107 : : emo107 :
จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่อย่างมาก
โดยเฉพาะที่ประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรกรรมและปศุสัตว์ครับ
::010:: ข้าพเจ้ากำลังมองหายนะในเเง่ดีอยู่
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 4:31 pm

อันตน เขียน:
In the name of father เขียน: ถ้าขนาดเมืองไทยหิมะตก ฟันธงว่าวันสิ้นโลกใกล้เข้ามาแล้ว(อากาศแปรปรวน อีกไม่นานรับรองว่าโลกแตก ชัวร์!)
ถ้าเป็นหนังต้องตั้งชื่อ "The Last snow" "หิมะสุดท้าย"
ปัญหาหิมะตกแก้ไขได้ไม่ยาก

ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเอวด่าและวิดดุ้นสัตว์สูญ และอีกหลายสถาบันจากปลารีดร่วมกันยืนยันแล้วว่าผลิตถัณฑ์ไนโซร่อนก็ดี แผ่นทรีนโป๊ะหวีก็ดี บานเบิก(รีจ๊อยซ์) โล่ง(เคลียร์) และอีกหลายยี่ห้อเจียรนัยไม่ไหว สามารถช่วยป้องกันปัญหารังแคหรือหิมะตกเมื่อใส่เสื้อดำหรือสีเข้มได้ดี เราช่วยกันใช้ซะ รับรองหิมะสุดท้ายจะหายไปจากหัว และเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโลกตงโลกแตกให้วุ่นวายหนักศีรษะอีกต่อไป มุ่งหน้าทำตามพระวรสารได้อย่างสบายใจไทยแลนด์

พอกันทีสำรับเสื้อขาว ::011::
กัปตันมาแล้ว ::010::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ มี.ค. 03, 2008 6:54 pm

อันตน เขียน:
In the name of father เขียน: ถ้าขนาดเมืองไทยหิมะตก ฟันธงว่าวันสิ้นโลกใกล้เข้ามาแล้ว(อากาศแปรปรวน อีกไม่นานรับรองว่าโลกแตก ชัวร์!)
ถ้าเป็นหนังต้องตั้งชื่อ "The Last snow" "หิมะสุดท้าย"
ปัญหาหิมะตกแก้ไขได้ไม่ยาก

ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเอวด่าและวิดดุ้นสัตว์สูญ และอีกหลายสถาบันจากปลารีดร่วมกันยืนยันแล้วว่าผลิตถัณฑ์ไนโซร่อนก็ดี แผ่นทรีนโป๊ะหวีก็ดี บานเบิก(รีจ๊อยซ์) โล่ง(เคลียร์) และอีกหลายยี่ห้อเจียรนัยไม่ไหว สามารถช่วยป้องกันปัญหารังแคหรือหิมะตกเมื่อใส่เสื้อดำหรือสีเข้มได้ดี เราช่วยกันใช้ซะ รับรองหิมะสุดท้ายจะหายไปจากหัว และเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโลกตงโลกแตกให้วุ่นวายหนักศีรษะอีกต่อไป มุ่งหน้าทำตามพระวรสารได้อย่างสบายใจไทยแลนด์

พอกันทีสำรับเสื้อขาว ::011::
ภูมิใจ : xemo023 :
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

อังคาร มี.ค. 04, 2008 4:22 pm

Batholomew เขียน:
อันตน เขียน:
In the name of father เขียน: ถ้าขนาดเมืองไทยหิมะตก ฟันธงว่าวันสิ้นโลกใกล้เข้ามาแล้ว(อากาศแปรปรวน อีกไม่นานรับรองว่าโลกแตก ชัวร์!)
ถ้าเป็นหนังต้องตั้งชื่อ "The Last snow" "หิมะสุดท้าย"
ปัญหาหิมะตกแก้ไขได้ไม่ยาก

ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเอวด่าและวิดดุ้นสัตว์สูญ และอีกหลายสถาบันจากปลารีดร่วมกันยืนยันแล้วว่าผลิตถัณฑ์ไนโซร่อนก็ดี แผ่นทรีนโป๊ะหวีก็ดี บานเบิก(รีจ๊อยซ์) โล่ง(เคลียร์) และอีกหลายยี่ห้อเจียรนัยไม่ไหว สามารถช่วยป้องกันปัญหารังแคหรือหิมะตกเมื่อใส่เสื้อดำหรือสีเข้มได้ดี เราช่วยกันใช้ซะ รับรองหิมะสุดท้ายจะหายไปจากหัว และเราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโลกตงโลกแตกให้วุ่นวายหนักศีรษะอีกต่อไป มุ่งหน้าทำตามพระวรสารได้อย่างสบายใจไทยแลนด์

พอกันทีสำรับเสื้อขาว ::011::
ภูมิใจ : xemo023 :


::018:: ภูมิใจด้วย เป็นอย่างยิ่ง : emo102 :
Akira
โพสต์: 101
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 05, 2007 6:51 pm

พุธ มี.ค. 05, 2008 12:40 am

อ่านในกระทู้นั้นแล้ว เข้าใจว่า โลกร้อนเพราะว่าภาวะเรือนกระจกจริง แต่ว่าขณะนี้ดวงอาทิตย์ร้อนน้อยลงเลยคาดการณ์ว่าอนาคตสภาพอากาศโลกจะเย็นลง

แต่คาดว่าถ้าดวงอาทิตย์กลับมาร้อนเหมือนเดิม สภาพอากาศก็กลับมาปกติ
ภาพประจำตัวสมาชิก
BloodSweatAndTearz
โพสต์: 254
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 12:49 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 7:04 pm

อ่า  ทำไมรูสึกร้อนขึ้นอ่า เหอะๆๆๆๆ
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 7:58 pm

เท่าที่ฟ้งข่าวอ่านข่าวมาเขาบอกว่าโลกจะฟื้นตัวได้ต้องใช้เวลาอีก 50 ปี แต่ก๊าซคาร์บอนพูดตามจริงแล้วรถยนต์คันแรกผลิตขึ้นมาในปี ค.ศ.1886 นับกันไปแล้วก็แค่ 122 ปี ที่ผ่านมา แล้วรถคันแรกไม่ได้ใช้น้ำมันอะไรเป็นรถยนต์แบบใช้เครื่องจักรขับเครื่อง พึ่งมาพัฒนาให้มันเร็วขึ้นสมบูรณ์ขึ้นไม่ถึงร้อยปี แล้วสมัยคุณตาคุณยายเป็นสาวๆ ก็ไม่ได้มีไฟฟ้าใช้ถ้าไปดูเตารีดสมัยนั้นจะเห็นว่าเปิดฝาแล้วเอาถ่านใส่ลงไปในเตารีด เฮ้อๆ พูดกันตามจริงแล้วเครื่องไฟฟ้ามีไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ เฮ้อๆ ถ้าจะพูดสองร้อยปีก็นานไป เครื่องจักรกลมีแค่ร้อยปีกว่านิดๆ แต่เครื่องใช้ไฟฟ้ามีไม่ถึงร้อยปี ระยะเวลาแค่นี้ก็ทำชั้นบรรยากาศพังแล้ว แล้วอีก 50 ปีให้มันสร้างให้เหมือนเดิมก็ต้องคอยดูกันว่าเขาจะมีการป้องกันและช่วยเหลือยังไง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกวันนี้ก็หนักกว่า 40 ปีที่แล้วเพราะมีแอร์ใช้กันด้วย แล้วโรงงานอุตสาหกรรมก็ไม่ได้ลดลงกว่าเดิม ตรงกันข้ามเมื่อโลกพัฒนาขึ้นเจ้าพวกนี้กลับมีเพิ่มมากขึ้นแทนจะมันจะลดลง ก็เท่ากับเร่งผลิตสาร CFC ให้มันไปทำลายชั้นบรรยากาศให้มากชึ้นไปอีกแทนที่จะซ่อมแซม

แต่ที่จริงพระมีแผ่นการณ์ช่วยโลกเราอยู่แล้วถ้าเราตระหนักในปัญหานี้แล้วหาทางแก้ไข แล้วก็สวดภาวนาเยอะๆ

ไม่เพีบงชั้นบรรยากาศที่มันจะพัง ประเทศไทยตอนนี้ก็ต้องสวดภาวนาเยอะๆ ด้วย เฮ้อๆ

รถยนต์คันแรกของโลก http://www.benzclassiccars.com/newsbenz/mercedes.html
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 07, 2008 8:43 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
กฤติยา
โพสต์: 9
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 9:09 pm

อังคาร มี.ค. 11, 2008 4:04 pm

หิมะจะตกจริงหรือเนี่ย....ดีใจจัง
แต่เขาบอกว่าหิมะตกในประเทศไทยมันจะเกิดอาเพส
จริงป่าวไม่รู้
แต่ที่รู้ตอนนี้ร้อนมากกกกกกกกกกกก
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร มี.ค. 11, 2008 4:51 pm

กฤติยา เขียน: หิมะจะตกจริงหรือเนี่ย....ดีใจจัง
แต่เขาบอกว่าหิมะตกในประเทศไทยมันจะเกิดอาเพส
จริงป่าวไม่รู้
แต่ที่รู้ตอนนี้ร้อนมากกกกกกกกกกกก
อาเพสดิครับ มนุษย์นี่แหละเป็นคนทำ ::010::
ตอบกลับโพส