เรื่องผัวๆเมียๆ
เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้นอนๆอยู่ก็มีเสียงเอะอะ โวยวาย ดังลั่น (ประมาณ 6 เช้า)
ตอนแรกๆ ก็คิดว่าเป็นเด็กวัยรุ่นคุยกันยามเช้าแบบปกติธรรมดาทั่วไป ที่ชอบคุยกันแบบเสียงดัง
แต่นานๆเข้าหน่อยนึง มันก็มีเสียงของกระจาย ดังพลั่กๆ เสียงรถล้ม
ตอนนั้น ใครไม่ตื่นก็ต้องตื่นแหละเพราะเสียงดังจนน่ารำคาญ (ผมอยู่ห้องเช่าชั้น 3 ในซอยเล็กๆ แถวๆวัดพระหฤทัย)
ก็เดินงัวเงียขี้ตา มาดูที่หน้าต่างที่อยู่ฝากถนนเล็กๆในซอยที่ผมอยู่ เพื่อมาสำรวจต้นเหตุของเสียงดัง อันเป็นการรบกวนเวลาอันแสนสบายของผมอยู่นั้น
เลยเจอเหตุการณ์ทะเลาะระหว่างสามีภรรยา (วัยรุ่นประมาณนักศึกษา สวยหล่อทั้งคู่) ที่ฝ่ายแฟนสาวนั้น ยื้อยุด ฉุดและรั้งขาของเขากลางถนนในซอยเล็กๆไว้ เพื่อไม่ให้ฝ่ายสามีจากไป (เหมือนละครเล๊ย)
ผมเองดูเหตุการณ์อยู่ข้างบนชั้น3 และก็ไม่ค่อยเคยเห็นเหตุการณ์นี้บ่อยเท่าไหร่นักในชีวิตก็เลยดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง .. ในตอนแรกก็คิดว่าเรื่องของผัวๆเมียๆทะเลาะกัน(แบบ softๆ) เพื่อจะลาจาก เลิกลากันธรรมดาทั่วๆไป เดี๋ยวก็สงบเอง
แต่ไม่เลยเมื่อฝ่ายหญิงไม่ยอมซะขนาดนั้น ยื้อยุด ฉุดตัวเข้าไว้ ... ฝ่ายชายดูจะอารมณ์เสียมากๆ เมื่อฝ่ายหญิงไม่ยอมซะขนาดนั้น ก็เลยต้องลงไม้ลงมือกันหน่อย
เซ็นเซอร์คำนิดนึง เพื่อเข้าถึงอารมณ์
"อย่าไปเลยนะตัวขอร้อง ตัวอย่าไปเลย ฮือๆ "
ฝ่ายชาย "Muung ไม่ปล่อย Goo ใช่ไหม๊ ได้... "
พร้อมกับใช้กำปั้นกระหนั่มทุบตีคู่รัก ที่ไม่รักอีกต่อไปแล้ว อย่างไม่ออมมือทั้งทางใบหน้า ท้อง พร้อมกับจิกหัว พลักเธอไปมา
แต่ฝ่ายหญิงก็ยังอดกลั้นไม่อ่อนแอและอ่อนข้อ ยังดื้อที่จะตื้อเค้าอยู่
"อย่าไปเลยนะตัว เราขอร้อง เราขอโทษ " พร้อมกับดึงแขนไว้เมื่อคู่รักกำลังจะเดินจากไป
ฝ่ายชายเห็นดังนั้น ก็เลยพลักเธอลงไปพร้อมกับพูดว่า
"Goo ไม่รัก Muung แล้ว Muung ปล่อย Goo เดี๋ยวนี้" พร้อมกับพูดว่า "Goo ไม่รัก Muung แล้ว"ๆๆๆ พร้อมกับเตะไม่ยั้ง ผสานกับจังหวัดคำและการเตะ เธอก็ได้แต่ร้องโอดโอย
"ตัวอย่าทำรุนแรงกับเค้าเลย ขอร้อง...เค้ากลัวแล้วๆ ฮือๆ "
ตอนนั้นผมเองตัวสั่นเครือด้วยความโกรธ จนทนไม่ไหวแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ด้วยความที่อ่อนเพลียจากการเพิ่งตื่นนอน และไม่ได้เป็นคนที่มีร่างกายกำยำอะไรสักเท่าไหร่ ... แต่ก็อยากไปห้าม และไปช่วยเหลือผู้ถูกกระทำอยู่นั้น แต่ก็ยังคิดว่าถ้าผมไปช่วยเหลือเค้าคนนั้นผมต้องแพ้ราบคาบแน่ๆ สู้ไม่ไหวหรอก (ยังโทษตัวเองถึงตอนนี้เลย ทำไมไม่กล้าหาญพอนะ ... แม้แต่ตะโกนก็ไม่กล้า) ขณะนั้นชาวบ้านบางบ้านก็โผล่หน้าออกมาดูกันหลายคนเหมือนกัน...หลายคนก็ตะโกนห้าม แต่สามีคนนั้นแน่นอนว่าไม่ฟังใครอยู่แล้ว "เรื่องของผัวเมียอย่า s + เอือก".. ผมก็เลยทำเท่าที่ทำได้ก็คือ สวดภาวนาบทข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา พร้อมน้ำตาไหวพลั่กๆ (ทั้งสงสารเค้า และสงสารตัวเองที่ไปช่วยเหลือเค้าไม่ได้มาก) เสียงเตะเสียงตบก็ยังดังอยู่ในขณะสวดภาวนา ทำให้การสวดนี้ขนลุกน่าสะพรึงกลัว และศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมๆกัน (ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอกนะ)
หลังจากสวดได้สักระยะหนึ่งเสร็จ ได้ยินเค้าพูดว่า "Muung ไปเก็บกระเป๋ามา...." พร้อมกับฝ่ายแฟนสาวนั้นรีบเดินไปหยิบกระเป๋าที่ตกอยู่ไกลๆโน้น เดินไปหยิบกระเป๋าพร้อมกับเหลียวหลังไปตลอดเพื่อคอยจับตาดูฝ่ายชายไม่ให้คลาดสายตา "อย่าหนีเค้าไปไหนนะ เค้าไปหยิบให้นะ" แล้วฝ่ายชายก็วิ่งขึ้นไปคล่อมรถมอเตอร์ไซค์พร้อมสตาร์ทเครื่อง ฝ่ายหญิงก็รีบวิ่งแจ้นกลับมาหาแฟนขณะที่ไปได้ถึงกลางทาง "เอ้...Goo บอกให้ไปหยิบกระเป๋ามา"เมื่อแผนกะจะชิ่งหนีไม่ได้ผล ก็เลยลงมาจากรถ มาซ้อมต่อ คราวนี้ซ้อมหนักไปมาก(ไม่หน่อย) แฟนสาวสลบเลย ... และฝ่ายชายเห็นดังนั้นก็จะขี่รถหนีไปแล้ว
ไม่ไหวแล้ว ...ผมก็เลยรีบกด 191 ทันที บอกตำรวจไปว่ามีสามี(หรือแฟน)ทะเลาะกันเกินกว่าเหตุ ฝ่ายหญิงสลบอยู่ข้างถนน เลยขอแจ้งความไว้ก่อน
ด้วยความที่ไม่เคยกดโทรแจ้งความ 191 (ไม่รวมโทรเล่นตอนเด็ก) นั้นก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ว่าแค่ยกหูปั๊บ ทำไมตำรวจมันรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน ... ทั้งที่ใช้มือถืออ้อ คงใช้ GPRS มั้ง เค้าก็เลยรู้แบบคร่าวๆว่าเราอยู่ไหน เสร็จสรรพเค้าก็แจ้งสายตรวจไปให้ .... พอไปดูที่หน้าต่างอีกที มันก็ลากฝ่ายแฟนสาว ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปอย่างยากลำบาก (คงเปลี่ยนใจและกลัวความผิดกระมัง เลยเอาไปด้วย)
น่าสงสารเธอจริงๆ ... แต่ตำรวจก็มาช้าไปแล้ว เค้าไปได้สัก 10 นาทีแล้ว ก็เลยบอกตำรวจไปว่า ใส่เสื้อสีอะไรขับรถอะไรไปเพื่อเป็นข้อมูล...เผื่อว่าคนๆนั้นจะสิ้นคิด ทำอะไรเกินไปจนถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นมา
ผมเลยถามตัวเองและเพื่อนๆว่า สิทธิของคู่สามีภรรยานั้น อยู่ถึงแค่ไหนที่ผู้ช่วยเหลืออื่นสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้
แต่ผมคิดว่าที่ฝ่ายชายกระทำลงไปนี้นั้น เค้าล่วงเกินความเป็นมนุษยชนมากๆ โดยใช้ฐานะที่เคยเป็นหรือที่เป็นอยู่มาอ้างว่า "เป็นเรื่องของผัวเมีย อย่ายุ่ง"
ตอนแรกๆ ก็คิดว่าเป็นเด็กวัยรุ่นคุยกันยามเช้าแบบปกติธรรมดาทั่วไป ที่ชอบคุยกันแบบเสียงดัง
แต่นานๆเข้าหน่อยนึง มันก็มีเสียงของกระจาย ดังพลั่กๆ เสียงรถล้ม
ตอนนั้น ใครไม่ตื่นก็ต้องตื่นแหละเพราะเสียงดังจนน่ารำคาญ (ผมอยู่ห้องเช่าชั้น 3 ในซอยเล็กๆ แถวๆวัดพระหฤทัย)
ก็เดินงัวเงียขี้ตา มาดูที่หน้าต่างที่อยู่ฝากถนนเล็กๆในซอยที่ผมอยู่ เพื่อมาสำรวจต้นเหตุของเสียงดัง อันเป็นการรบกวนเวลาอันแสนสบายของผมอยู่นั้น
เลยเจอเหตุการณ์ทะเลาะระหว่างสามีภรรยา (วัยรุ่นประมาณนักศึกษา สวยหล่อทั้งคู่) ที่ฝ่ายแฟนสาวนั้น ยื้อยุด ฉุดและรั้งขาของเขากลางถนนในซอยเล็กๆไว้ เพื่อไม่ให้ฝ่ายสามีจากไป (เหมือนละครเล๊ย)
ผมเองดูเหตุการณ์อยู่ข้างบนชั้น3 และก็ไม่ค่อยเคยเห็นเหตุการณ์นี้บ่อยเท่าไหร่นักในชีวิตก็เลยดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง .. ในตอนแรกก็คิดว่าเรื่องของผัวๆเมียๆทะเลาะกัน(แบบ softๆ) เพื่อจะลาจาก เลิกลากันธรรมดาทั่วๆไป เดี๋ยวก็สงบเอง
แต่ไม่เลยเมื่อฝ่ายหญิงไม่ยอมซะขนาดนั้น ยื้อยุด ฉุดตัวเข้าไว้ ... ฝ่ายชายดูจะอารมณ์เสียมากๆ เมื่อฝ่ายหญิงไม่ยอมซะขนาดนั้น ก็เลยต้องลงไม้ลงมือกันหน่อย
เซ็นเซอร์คำนิดนึง เพื่อเข้าถึงอารมณ์
"อย่าไปเลยนะตัวขอร้อง ตัวอย่าไปเลย ฮือๆ "
ฝ่ายชาย "Muung ไม่ปล่อย Goo ใช่ไหม๊ ได้... "
พร้อมกับใช้กำปั้นกระหนั่มทุบตีคู่รัก ที่ไม่รักอีกต่อไปแล้ว อย่างไม่ออมมือทั้งทางใบหน้า ท้อง พร้อมกับจิกหัว พลักเธอไปมา
แต่ฝ่ายหญิงก็ยังอดกลั้นไม่อ่อนแอและอ่อนข้อ ยังดื้อที่จะตื้อเค้าอยู่
"อย่าไปเลยนะตัว เราขอร้อง เราขอโทษ " พร้อมกับดึงแขนไว้เมื่อคู่รักกำลังจะเดินจากไป
ฝ่ายชายเห็นดังนั้น ก็เลยพลักเธอลงไปพร้อมกับพูดว่า
"Goo ไม่รัก Muung แล้ว Muung ปล่อย Goo เดี๋ยวนี้" พร้อมกับพูดว่า "Goo ไม่รัก Muung แล้ว"ๆๆๆ พร้อมกับเตะไม่ยั้ง ผสานกับจังหวัดคำและการเตะ เธอก็ได้แต่ร้องโอดโอย
"ตัวอย่าทำรุนแรงกับเค้าเลย ขอร้อง...เค้ากลัวแล้วๆ ฮือๆ "
ตอนนั้นผมเองตัวสั่นเครือด้วยความโกรธ จนทนไม่ไหวแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ด้วยความที่อ่อนเพลียจากการเพิ่งตื่นนอน และไม่ได้เป็นคนที่มีร่างกายกำยำอะไรสักเท่าไหร่ ... แต่ก็อยากไปห้าม และไปช่วยเหลือผู้ถูกกระทำอยู่นั้น แต่ก็ยังคิดว่าถ้าผมไปช่วยเหลือเค้าคนนั้นผมต้องแพ้ราบคาบแน่ๆ สู้ไม่ไหวหรอก (ยังโทษตัวเองถึงตอนนี้เลย ทำไมไม่กล้าหาญพอนะ ... แม้แต่ตะโกนก็ไม่กล้า) ขณะนั้นชาวบ้านบางบ้านก็โผล่หน้าออกมาดูกันหลายคนเหมือนกัน...หลายคนก็ตะโกนห้าม แต่สามีคนนั้นแน่นอนว่าไม่ฟังใครอยู่แล้ว "เรื่องของผัวเมียอย่า s + เอือก".. ผมก็เลยทำเท่าที่ทำได้ก็คือ สวดภาวนาบทข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา พร้อมน้ำตาไหวพลั่กๆ (ทั้งสงสารเค้า และสงสารตัวเองที่ไปช่วยเหลือเค้าไม่ได้มาก) เสียงเตะเสียงตบก็ยังดังอยู่ในขณะสวดภาวนา ทำให้การสวดนี้ขนลุกน่าสะพรึงกลัว และศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมๆกัน (ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอกนะ)
หลังจากสวดได้สักระยะหนึ่งเสร็จ ได้ยินเค้าพูดว่า "Muung ไปเก็บกระเป๋ามา...." พร้อมกับฝ่ายแฟนสาวนั้นรีบเดินไปหยิบกระเป๋าที่ตกอยู่ไกลๆโน้น เดินไปหยิบกระเป๋าพร้อมกับเหลียวหลังไปตลอดเพื่อคอยจับตาดูฝ่ายชายไม่ให้คลาดสายตา "อย่าหนีเค้าไปไหนนะ เค้าไปหยิบให้นะ" แล้วฝ่ายชายก็วิ่งขึ้นไปคล่อมรถมอเตอร์ไซค์พร้อมสตาร์ทเครื่อง ฝ่ายหญิงก็รีบวิ่งแจ้นกลับมาหาแฟนขณะที่ไปได้ถึงกลางทาง "เอ้...Goo บอกให้ไปหยิบกระเป๋ามา"เมื่อแผนกะจะชิ่งหนีไม่ได้ผล ก็เลยลงมาจากรถ มาซ้อมต่อ คราวนี้ซ้อมหนักไปมาก(ไม่หน่อย) แฟนสาวสลบเลย ... และฝ่ายชายเห็นดังนั้นก็จะขี่รถหนีไปแล้ว
ไม่ไหวแล้ว ...ผมก็เลยรีบกด 191 ทันที บอกตำรวจไปว่ามีสามี(หรือแฟน)ทะเลาะกันเกินกว่าเหตุ ฝ่ายหญิงสลบอยู่ข้างถนน เลยขอแจ้งความไว้ก่อน
ด้วยความที่ไม่เคยกดโทรแจ้งความ 191 (ไม่รวมโทรเล่นตอนเด็ก) นั้นก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ว่าแค่ยกหูปั๊บ ทำไมตำรวจมันรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน ... ทั้งที่ใช้มือถืออ้อ คงใช้ GPRS มั้ง เค้าก็เลยรู้แบบคร่าวๆว่าเราอยู่ไหน เสร็จสรรพเค้าก็แจ้งสายตรวจไปให้ .... พอไปดูที่หน้าต่างอีกที มันก็ลากฝ่ายแฟนสาว ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปอย่างยากลำบาก (คงเปลี่ยนใจและกลัวความผิดกระมัง เลยเอาไปด้วย)
น่าสงสารเธอจริงๆ ... แต่ตำรวจก็มาช้าไปแล้ว เค้าไปได้สัก 10 นาทีแล้ว ก็เลยบอกตำรวจไปว่า ใส่เสื้อสีอะไรขับรถอะไรไปเพื่อเป็นข้อมูล...เผื่อว่าคนๆนั้นจะสิ้นคิด ทำอะไรเกินไปจนถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นมา
ผมเลยถามตัวเองและเพื่อนๆว่า สิทธิของคู่สามีภรรยานั้น อยู่ถึงแค่ไหนที่ผู้ช่วยเหลืออื่นสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้
แต่ผมคิดว่าที่ฝ่ายชายกระทำลงไปนี้นั้น เค้าล่วงเกินความเป็นมนุษยชนมากๆ โดยใช้ฐานะที่เคยเป็นหรือที่เป็นอยู่มาอ้างว่า "เป็นเรื่องของผัวเมีย อย่ายุ่ง"
แก้ไขล่าสุดโดย Kichinto เมื่อ พุธ มี.ค. 05, 2008 12:47 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
โทรศัพท์แจ้งตำรวจน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับเรื่องนี้ครับ
- ดานุ้งพุงระเบิด
- โพสต์: 518
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
- ที่อยู่: อุบลราชธานี
ดีนะไม่ยิงกันก่อน น่าสงสารผู้หญิงจริงๆ แต่ก็ไปตัดสินไม่ได้อ่ะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าใครผิด
พี่อ่านแล้วรู้สึกเสียดาย ผู้หญิงรักเรามากขนาดนี้ถือว่าวิเศษทีเดียวถ้าเป็นพี่จะภูมิใจมาก และอยากได้หัวใจผู้หญิงรักจริงแบบนี้ ถ้าพี่เจอคนแบบนี้พี่จะหวานโรแมนติกกับเธอให้มากๆ เพราะเธอก็ต้องการความรักความโรแมนติกจากฝ่ายชายด้วยเช่นกัน
แต่ลึกๆ แล้วในใจพี่ก็เชื่อว่าสาวส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้น แต่เท่าที่ดูจากละครบ้างฟังเขาเล่ากันมาบ้างว่าสาวหลายคนต้องการจับผู้ชายที่มีรถยุโรปราคาแพง มีคฤหาสน์ มีบริษัทใหญ่ๆ แต่เมื่อเขาไม่มีความเป็นไฮโซแล้ว สาวๆ ก็ไม่มอง สาวอย่างนั้นไม่สมควรจะเอาใจไปรักหรือมอบหัวใจให้ พี่รู้สึกเศร้าแทนคนที่รักผู้หญิงประเภทนั้น พี่เองก็ไม่ชอบ มันทำให้ความรักเราหมดคุณค่า แต่คุณค่าของเธอคือความมีหน้าตา ความหรูหรา สาวแบบนี้อยู่ห่างๆ ดีที่สุด ถ้าเป็นไปได้ปล่อยให้เธอขึ้นคานไป
แล้วก็ได้ฟังอีกสองราย คือผู้หญิงที่ไม่ซื่อ ตัวเองแต่งงานแล้วมีลูกต้องหลายคน แฟนตัวเองก็รักตัวเองมากๆ แต่แล้วก็มีผู้ชายไม่มีคุณธรรมมาจีบมาใช้คารมเธอก็ตกหลุมรักหนุ่มคนนั้นทิ้งผัวและลูกไปอยู่กับหนุ่มคนนั้นน่าตาเฉย จิตใจไม่ซื่ออย่างนี้ก็ไม่น่าเลือกมาเป็นแฟน คือเปลี่ยนความรักได้ง่าย ต้องสวดพระสวดขอนักบุญอย่าได้เจอแฟนแบบนี้
การได้เจอคนรักเราจริงพี่ว่ามีค่ากว่าเจอเพชรอีก โลกนี้สำหรับพี่แล้วเพชรพลอยเงินทอง ต่อให้ขุมทองแมคเคนน่าคือภูเขาเป็นทองทั้งลูกก็มีค่าสู้หัวใจสาวไม่ได้
แต่ลึกๆ แล้วในใจพี่ก็เชื่อว่าสาวส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้น แต่เท่าที่ดูจากละครบ้างฟังเขาเล่ากันมาบ้างว่าสาวหลายคนต้องการจับผู้ชายที่มีรถยุโรปราคาแพง มีคฤหาสน์ มีบริษัทใหญ่ๆ แต่เมื่อเขาไม่มีความเป็นไฮโซแล้ว สาวๆ ก็ไม่มอง สาวอย่างนั้นไม่สมควรจะเอาใจไปรักหรือมอบหัวใจให้ พี่รู้สึกเศร้าแทนคนที่รักผู้หญิงประเภทนั้น พี่เองก็ไม่ชอบ มันทำให้ความรักเราหมดคุณค่า แต่คุณค่าของเธอคือความมีหน้าตา ความหรูหรา สาวแบบนี้อยู่ห่างๆ ดีที่สุด ถ้าเป็นไปได้ปล่อยให้เธอขึ้นคานไป
แล้วก็ได้ฟังอีกสองราย คือผู้หญิงที่ไม่ซื่อ ตัวเองแต่งงานแล้วมีลูกต้องหลายคน แฟนตัวเองก็รักตัวเองมากๆ แต่แล้วก็มีผู้ชายไม่มีคุณธรรมมาจีบมาใช้คารมเธอก็ตกหลุมรักหนุ่มคนนั้นทิ้งผัวและลูกไปอยู่กับหนุ่มคนนั้นน่าตาเฉย จิตใจไม่ซื่ออย่างนี้ก็ไม่น่าเลือกมาเป็นแฟน คือเปลี่ยนความรักได้ง่าย ต้องสวดพระสวดขอนักบุญอย่าได้เจอแฟนแบบนี้
การได้เจอคนรักเราจริงพี่ว่ามีค่ากว่าเจอเพชรอีก โลกนี้สำหรับพี่แล้วเพชรพลอยเงินทอง ต่อให้ขุมทองแมคเคนน่าคือภูเขาเป็นทองทั้งลูกก็มีค่าสู้หัวใจสาวไม่ได้
- ~KaThaRoS~
- โพสต์: 792
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
- ที่อยู่: Bkk
- ติดต่อ:
โห...น่ากลัวแหะ ขอบคุนพระเจ้าที่แฟนเราไม่เป็นแบบนี้ (ก็ลองกล้าลงไม้ลงมือกะชั้นซิ ฮืม!! )
จิงๆอ้างไม่ได้นะ เรื่องผัวเมียอ่ะ เพราะว่ามันเป็นการละเมิด ทำร้ายร่างกาย(และจิตใจด้วย)
และก็คงอายุประมาน20ต้นๆเป็นนักศึกษา คงยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส เป็นสามี ภรรยา ถูกต้องตามกฏหมายหรอก
จะมาอ้างว่าเป็นเรื่องผัว เมีย ไม่ได้ เชอะ ไอ้พวกผู้ชายแบบนี้มันน่าโดนลงโทษให้สาสม ข้อหาไม่ให้เกีรยติเพศเดียวกะหม่าม้ามัน
ถึงแม้เป้นสามี ภรรยากันจิง ก้ไม่ได้ ถือว่าทำร้ายร่างกาย
คราวหน้าเจอที่ไหนก็เข้าไปห้ามๆก้ดีนะ สงสารผู้หญิง ไอ้พวกนี้มันน่านัก กรี๊สส ยิ่งคิดยิ่งแค้น : emo034 :
จะสวดให้พวกเค้าละกาน เชอะๆๆๆๆ ศีลธรรม คุณธรรมในจิตใจมนุษย์มันหายไปไหนกันหมดเนี๊ยย แว๊กกกกกกก
จิงๆอ้างไม่ได้นะ เรื่องผัวเมียอ่ะ เพราะว่ามันเป็นการละเมิด ทำร้ายร่างกาย(และจิตใจด้วย)
และก็คงอายุประมาน20ต้นๆเป็นนักศึกษา คงยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส เป็นสามี ภรรยา ถูกต้องตามกฏหมายหรอก
จะมาอ้างว่าเป็นเรื่องผัว เมีย ไม่ได้ เชอะ ไอ้พวกผู้ชายแบบนี้มันน่าโดนลงโทษให้สาสม ข้อหาไม่ให้เกีรยติเพศเดียวกะหม่าม้ามัน
ถึงแม้เป้นสามี ภรรยากันจิง ก้ไม่ได้ ถือว่าทำร้ายร่างกาย
คราวหน้าเจอที่ไหนก็เข้าไปห้ามๆก้ดีนะ สงสารผู้หญิง ไอ้พวกนี้มันน่านัก กรี๊สส ยิ่งคิดยิ่งแค้น : emo034 :
จะสวดให้พวกเค้าละกาน เชอะๆๆๆๆ ศีลธรรม คุณธรรมในจิตใจมนุษย์มันหายไปไหนกันหมดเนี๊ยย แว๊กกกกกกก
- ~*Little`Child*~
- ~@
- โพสต์: 202
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2007 11:52 pm
ทำดีที่สุดแล้วคะ...การแจ้งตำรวจน่าจะช่วยเหลือเค้าได้ดีที่สุดแล้วคะ
เพราะถ้าเราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ฝ่ายชายอาจจะโชว์ความเหนือกว่าทำมากกว่านั้น
แต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเค้า คือ การสวดภาวนาให้คะ
นึกถึงเค้าและช่วยสวดภาวนาให้ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
เพราะจิตวิญญาณของเค้าทั้งคู่ต้องการพระเมตตาคะ
เราไม่ได้มองว่าเค้าเป็นผัวเมียกัน เราเลยไม่เข้าไปยุ่ง
แต่เรามองว่าเค้าคือพี่น้องของเรา บุตรของพระเจ้าเหมือนกับเรา
มุนษย์ทุกคนเป็นพี่น้องกันทางสาย(เลือด)จิตวิญญาณของพระ
เราจึงย่อมต้องช่วยพี่น้องเราอยู่แล้วคะ คุณทำถูกแล้วคะ
จะช่วยสวดให้ด้วยนะคะ
พระเจ้าอวยพรคะ
เพราะถ้าเราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ฝ่ายชายอาจจะโชว์ความเหนือกว่าทำมากกว่านั้น
แต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเค้า คือ การสวดภาวนาให้คะ
นึกถึงเค้าและช่วยสวดภาวนาให้ฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
เพราะจิตวิญญาณของเค้าทั้งคู่ต้องการพระเมตตาคะ
เราไม่ได้มองว่าเค้าเป็นผัวเมียกัน เราเลยไม่เข้าไปยุ่ง
แต่เรามองว่าเค้าคือพี่น้องของเรา บุตรของพระเจ้าเหมือนกับเรา
มุนษย์ทุกคนเป็นพี่น้องกันทางสาย(เลือด)จิตวิญญาณของพระ
เราจึงย่อมต้องช่วยพี่น้องเราอยู่แล้วคะ คุณทำถูกแล้วคะ
จะช่วยสวดให้ด้วยนะคะ
พระเจ้าอวยพรคะ
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ
... โดยส่วนตัวผมแล้วผมเจอไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ คู่รักที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงอย่างเนี่ย (เอ้...เรียกว่าทะเลาะหรือเปล่า เพราะผู้หญิงโดนกระทำฝ่ายเดียว)
แต่พี่ๆเพื่อนๆแถว เนี่ยเค้าบอกว่า มีบ่อยเยอะแยะแหละน๊า เดี๋ยวอยู่ๆ ไปก็เห็นชินตาเอง ... (อ้าวนี้คือเรื่องเอือมระอาที่ธรรมดาของเค้าไปแล้วหรือเนี่ย)
... โดยส่วนตัวผมแล้วผมเจอไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ คู่รักที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงอย่างเนี่ย (เอ้...เรียกว่าทะเลาะหรือเปล่า เพราะผู้หญิงโดนกระทำฝ่ายเดียว)
แต่พี่ๆเพื่อนๆแถว เนี่ยเค้าบอกว่า มีบ่อยเยอะแยะแหละน๊า เดี๋ยวอยู่ๆ ไปก็เห็นชินตาเอง ... (อ้าวนี้คือเรื่องเอือมระอาที่ธรรมดาของเค้าไปแล้วหรือเนี่ย)
โอ้ว ... อันตรายจริงๆ
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
น่ากลัว....
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุการกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
จากข้อเท็จจริงนั้นการเป็นสามี-ภรรยากันนั้นใช่ว่าฝ่ายใดจะทำร้ายอีกฝ่ายได้ เพราะต่างก็ยังเป็น บุคคลอยู่ ซึ่งตามกฎหมายอาญามาตรา 295 ก็บัญญัติไว้ชัดเจนว่า "ผู้ใด ทำร้าย ผู้อื่น" เพราะฉะนั้นการทำร้ายร่างกายกันนั้นยังไงก็เป็นความผิดครับไม่ว่าจะแต่งงานกันแล้วหรือไม่
จากกรณีที่เล่ามานั้นเท่าที่ดูคงเป็นแฟนกันที่มาอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา แต่อย่างไรก็ไม่มีผลทางกฎหมายครับ ยังไงก็ผิดกฎหมายอยู่ดี ส่วนเจ้าของกระทู้ถ้าเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกาย(จากที่อ่านก็หนักหนาเอาการอยู่) หากเจ้าของกระทู้เข้าไปช่วยก็สามารถอ้างเหตุป้องกันตามมาตรา 68 ครับโดยการกระทำนั้นจะต้องสมควรแก่เหตุเช่นคุณลงไปห้ามด้วยการผลัก แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจจะโดนสวนได้ การแจ้งตำรวจจึงดีที่สุดครับ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุการกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
จากข้อเท็จจริงนั้นการเป็นสามี-ภรรยากันนั้นใช่ว่าฝ่ายใดจะทำร้ายอีกฝ่ายได้ เพราะต่างก็ยังเป็น บุคคลอยู่ ซึ่งตามกฎหมายอาญามาตรา 295 ก็บัญญัติไว้ชัดเจนว่า "ผู้ใด ทำร้าย ผู้อื่น" เพราะฉะนั้นการทำร้ายร่างกายกันนั้นยังไงก็เป็นความผิดครับไม่ว่าจะแต่งงานกันแล้วหรือไม่
จากกรณีที่เล่ามานั้นเท่าที่ดูคงเป็นแฟนกันที่มาอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา แต่อย่างไรก็ไม่มีผลทางกฎหมายครับ ยังไงก็ผิดกฎหมายอยู่ดี ส่วนเจ้าของกระทู้ถ้าเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกาย(จากที่อ่านก็หนักหนาเอาการอยู่) หากเจ้าของกระทู้เข้าไปช่วยก็สามารถอ้างเหตุป้องกันตามมาตรา 68 ครับโดยการกระทำนั้นจะต้องสมควรแก่เหตุเช่นคุณลงไปห้ามด้วยการผลัก แต่ถึงอย่างนั้นก็อาจจะโดนสวนได้ การแจ้งตำรวจจึงดีที่สุดครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
อ่านแล้วสงสารอ่ะครับ ขอพระทรงเมตตา
เห็นด้วยครับ เราไม่รู้เบื้องหลังว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร เรื่องแบบนี้ เข้าไปช่วยแล้ว เราเปลืองตัวและเจ็บตัวฟรีๆครับ(เพราะเราไม่รู้เบื้องหลังของคนทั้งสอง) อีกอย่างเรื่องของผัวเมียด้วย หากวันหน้าเขากลับมาดีกัน(ในขณะที่เขาทะเลาะกันแล้วเราช่วยเขา) เราจะได้กลายเป็นดิกกี้ครับ(เข้าใจนะครับ)francisco xavier เขียน: โทรศัพท์แจ้งตำรวจน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับเรื่องนี้ครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
เอาน้ำ(เย็น)สาดจากชั้นบนแล้วรีบวิ่งหนี อย่าให้มันเห็น(ขึ้นไปสาดจากดาดฟ้าก็ได้ หาผ้าคลุมๆปิดหน้าหน่อย) เผื่อฝ่ายชายอากาศร้อนแล้วอารมณ์เสีย จะได้เย็นขึ้นบ้าง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
In the name of father เขียน: เอาน้ำ(เย็น)สาดจากชั้นบนแล้วรีบวิ่งหนี อย่าให้มันเห็น(ขึ้นไปสาดจากดาดฟ้าก็ได้ หาผ้าคลุมๆปิดหน้าหน่อย) เผื่อฝ่ายชายอากาศร้อนแล้วอารมณ์เสีย จะได้เย็นขึ้นบ้าง
ไอเดียแจ่ม เริ่ดอ่ะตัวเอง ขอน้ำแข็งเพิ่มด้วยได้ป่ะ ถ้าให้เด็ดลงทุนหน่อยเผื่อเขาจะกลับมารักกันอีกให้เอาเฮลบูบอยผสมเม็ดแมงลักสาดอ่ะคะ
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
เอากลีบกุหลาบกับพวงหรีดโรยด้วย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว (มันคงไม่คว้าปืนยิงขึ้นมานะ ):+: seraphim :+: เขียน:In the name of father เขียน: เอาน้ำ(เย็น)สาดจากชั้นบนแล้วรีบวิ่งหนี อย่าให้มันเห็น(ขึ้นไปสาดจากดาดฟ้าก็ได้ หาผ้าคลุมๆปิดหน้าหน่อย) เผื่อฝ่ายชายอากาศร้อนแล้วอารมณ์เสีย จะได้เย็นขึ้นบ้าง
ไอเดียแจ่ม เริ่ดอ่ะตัวเอง ขอน้ำแข็งเพิ่มด้วยได้ป่ะ ถ้าให้เด็ดลงทุนหน่อยเผื่อเขาจะกลับมารักกันอีกให้เอาเฮลบูบอยผสมเม็ดแมงลักสาดอ่ะคะ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
เรื่องแค่นิดเดียวมานไม่ยิงหรอก แค่ขึ้นมากระทืบเราปางตายเอง
อืมเห็นด้วย ...และก็คิดๆอยู่เหมือนกันว่าถ้าทำอย่างนั้นก็เตรียมย้ายที่อยู่ใหม่ หรือเตรียมนอนโรงพยาบาลได้เลย:+: seraphim :+: เขียน: เรื่องแค่นิดเดียวมานไม่ยิงหรอก แค่ขึ้นมากระทืบเราปางตายเอง
แก้ไขล่าสุดโดย Kichinto เมื่อ พุธ มี.ค. 05, 2008 5:12 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
เพราะงั้นถึงบอกให้คลุมหน้าไงkichinto เขียน:อืมเห็นด้วย ...และก็คิดๆอยู่เหมือนกัน:+: seraphim :+: เขียน: เรื่องแค่นิดเดียวมานไม่ยิงหรอก แค่ขึ้นมากระทืบเราปางตายเอง
สาดเสร็จวิ่งเข้าห้องแล้วล็อกทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้(พระองค์จะลงโทษไหมเนี่ย )
แต่ถ้าเขาขึ้นมากระทืบเราแทนก็ดี จะได้แบ่งเบาภาระแฟนเขาที่โดนอยู่(มาโดนเราแทนไง )
อิอิ ... เรื่องในหัว คิดแต่งได้แบบสนุกๆ มีเยอะแยะ...
แต่เหตุการณ์อยู่ตรงหน้าจริงๆ ตัวสั่นเลย (ไม่ชอบคนทะเลาะกันทุกกรณี)
แต่เหตุการณ์อยู่ตรงหน้าจริงๆ ตัวสั่นเลย (ไม่ชอบคนทะเลาะกันทุกกรณี)
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
In the name of father เขียน:เพราะงั้นถึงบอกให้คลุมหน้าไงkichinto เขียน:อืมเห็นด้วย ...และก็คิดๆอยู่เหมือนกัน:+: seraphim :+: เขียน: เรื่องแค่นิดเดียวมานไม่ยิงหรอก แค่ขึ้นมากระทืบเราปางตายเอง
สาดเสร็จวิ่งเข้าห้องแล้วล็อกทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้(พระองค์จะลงโทษไหมเนี่ย )
แต่ถ้าเขาขึ้นมากระทืบเราแทนก็ดี จะได้แบ่งเบาภาระแฟนเขาที่โดนอยู่(มาโดนเราแทนไง )
อยากแบ่งเบาภาระ แล้วทำไมไม่โดดไปช่วยอ่ะตัวเอง
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ก็ซุ่มยิง(!?)มันมีโอกาสช่วยได้แบบ(ตัวเอง)ไม่เจ็บตัว โดดใส่แบบพระเอกนี่ขอผ่าน ขอเป็นเงาในที่ลับเซฟตัวเองด้วยเข้าท่ากว่าเยอะ:+: seraphim :+: เขียน:In the name of father เขียน:เพราะงั้นถึงบอกให้คลุมหน้าไงkichinto เขียน: อืมเห็นด้วย ...และก็คิดๆอยู่เหมือนกัน
สาดเสร็จวิ่งเข้าห้องแล้วล็อกทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้(พระองค์จะลงโทษไหมเนี่ย )
แต่ถ้าเขาขึ้นมากระทืบเราแทนก็ดี จะได้แบ่งเบาภาระแฟนเขาที่โดนอยู่(มาโดนเราแทนไง )
อยากแบ่งเบาภาระ แล้วทำไมไม่โดดไปช่วยอ่ะตัวเอง
ได้ยินแล้วรันทดนะครับ
อยากเรียนให้ทุกท่านได้ทราบว่า คำว่า "เรื่องผัวเมีย อย่าเขาไปยุ่ง"
ผมว่าเราควรเปลี่ยนทัศนคติกันได้แล้ว เพราะถ้าทะเลาะกันไม่รุนแรง เห็นว่าน่าจะคุยกันได้ ก็ปล่อยไปครับ
แต่ถ้ถึงขนาดทำร้ายร่างกาย ผมว่าคนรอบข้างควรช่วยเหลือฝ่ายที่ถูกทำร้ายในฐานะที่เขาเป็น "คน" คนหนึ่ง
เพราะปัจจุบันนี้ "ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่เรื่องในครอบครัวอีกต่อไป"
หวังว่าคริสตชนทุกท่าน คงไม่ทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว หรือคนรอบข้างนะครับ
อยากเรียนให้ทุกท่านได้ทราบว่า คำว่า "เรื่องผัวเมีย อย่าเขาไปยุ่ง"
ผมว่าเราควรเปลี่ยนทัศนคติกันได้แล้ว เพราะถ้าทะเลาะกันไม่รุนแรง เห็นว่าน่าจะคุยกันได้ ก็ปล่อยไปครับ
แต่ถ้ถึงขนาดทำร้ายร่างกาย ผมว่าคนรอบข้างควรช่วยเหลือฝ่ายที่ถูกทำร้ายในฐานะที่เขาเป็น "คน" คนหนึ่ง
เพราะปัจจุบันนี้ "ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่เรื่องในครอบครัวอีกต่อไป"
หวังว่าคริสตชนทุกท่าน คงไม่ทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว หรือคนรอบข้างนะครับ
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
เราไม่ยอมให้โลหิตของพระบุตรต้องเสียเปล่า ถ้าท่านไม่ให้ทำร้ายคน เราก็ไม่ทำร้าย ถ้าท่านให้รักกัน พวกเราก็รักกัน ขอท่านสั่งมาเถิด เพื่อเลือดที่ชำระล้างนั้นถือเป็นราคาอันน้อยนิดสำหรับเรา (งงเปล่าเนี่ย )mapisit เขียน: ได้ยินแล้วรันทดนะครับ
อยากเรียนให้ทุกท่านได้ทราบว่า คำว่า "เรื่องผัวเมีย อย่าเขาไปยุ่ง"
ผมว่าเราควรเปลี่ยนทัศนคติกันได้แล้ว เพราะถ้าทะเลาะกันไม่รุนแรง เห็นว่าน่าจะคุยกันได้ ก็ปล่อยไปครับ
แต่ถ้ถึงขนาดทำร้ายร่างกาย ผมว่าคนรอบข้างควรช่วยเหลือฝ่ายที่ถูกทำร้ายในฐานะที่เขาเป็น "คน" คนหนึ่ง
เพราะปัจจุบันนี้ "ความรุนแรงในครอบครัว ไม่ใช่เรื่องในครอบครัวอีกต่อไป"
หวังว่าคริสตชนทุกท่าน คงไม่ทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว หรือคนรอบข้างนะครับ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
หมาหัวเน่าเนี่ยยังพอลุ้นนะ คือ เลิกคบไปเลย แต่ถ้าหมาหัวแบะนี่เด่ เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจเน้อ
เง้อ .... เดี๋ยวไปดูเงาหัวในตุ่มน้ำก่อนว่ามีอยู่หรือเปล่า อิอิ
เลิกเสียทีเรื่องที่ว่า ผัวเมีย หรือ ครอบครัว คนอื่นห้ามยบุ่ง
ทางที่ดี คนในสังคมควรแทรกแซงบย้างถ้าจำเป็น จะลดปัญหาทางสังคมได้อีกเยอะ
ทางที่ดี คนในสังคมควรแทรกแซงบย้างถ้าจำเป็น จะลดปัญหาทางสังคมได้อีกเยอะ