ข้อความที่ควรรับรู้

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ying
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 10, 2008 5:06 am

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 5:55 am

ดิฉัน..เข้ามาดูเว็ปไซด์นี้นะคะถือว่าดีมากคะ  แต่ที่ดิฉันซับสนคะคุณบอกว่าเวปคุณอยู่เป็นกลางไม่เชื่อข้างใดข้างหนึ่ง  แต่คุณดันเชื่อข้างเดียวคุณยก
ย่องศาสนานี่คะ  คุณไม่ได้ต้องการเผยความจริงแต่อย่างใด  แต่คุรแค่แก้ต่างให้ศาสนาที่คุณศรัทธาเท่านั้น   ทีจริงดิฉันก้อไม่มีสิทธิพิเศษใดในตัวของคุณหรอกคะ  ที่จะบังคับศาสนาแล้วข้อความที่คุณโพสตก็มีที่อ้างอิงทั้งนั้น   แต่ถ้าคุณจะมาโพลตอย่างนี้คุณไม่เขียนบอกไปเรยคะว่าหนังเดอะดาวินชีโค๊ดมันผิดดูหมิ่นศาสนาไร้ศีลธรรม  ให้โจ่งแจ้งไปเรยหละคะจะได้จบๆไม่มีข้อดกังขาอย่างนี้   เวปก้อขึ้นอยู่ว่าพวกเรารักพระเยซูมันก้อโจ่งแจ้งมากแร้ว     ที่คุณแอนตี้ความจิงที่ควรพิสูจน์   แล้วทุกข้อความคุณก้อเหมือนจะสนับสนุนศาสนาคุณเหลือเกิน  ไม่มีอารัยเรยที่บอกว่าศาสนามีข้อบรกพร่อง  แล้วอีกอย่างพระแม่มารีย์มีลูกโดยพระเจ้าประทานดิฉันไม่เคยคิดจะเชื่อเรยคะ   แม้แต่พระพุทธเจ้าประสูติมาแล้งเดินได้โดยมีดอกบัวมารองรับมันนิทานหลอกเด็กชัดๆเรยนะคะ  ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีมันก้อจริงคะ  ในหลักความจริงแล้วคนเราจะกำเนิดบุตรก้อต้องมีเพศสัมพันธ์แล้วทำไมศาสนาถึงได้รังเกียดกิจกรรมนี้นัก   ถึงยังไงโดยธรรมชาติมนุษย์ก้อเกิดโดยมีเพศสัมพันธ์อยู่แล้ว  ไม่มีสิ่งใดที่ยืนยันหรอกคะ   ว่าพระแม่มารีย์ทรงท้องโดยพระเจ้าประทาน    ถ้าเกิดมนุษย์ธรรมดาที่ไม่สามารถมีลูกได้เค้าคงไม่ไปนั่งขอจากพระเจ้าหรอคะ   มันน่าขำสิ้นดีเพราะถึงยังไงคนไม่มีลูกหรือไม่ได้แต่งงานก็ไม่สามารถมีลูกได้หรอกนะคะ    ถ้าคุณจะอ้างพระพระแม่มารีย์เป็นสตรีที่ทรงศักสิทธิ์คงไม่จริงมั้งคะเพราะพระแม่ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่เกิดจากอสุจิกับไข่ก็เกิดมามนุษย์คนนึง   ทุกคนคือมนุษย์ธรรมดา  ถ้าหมดลาภยศเกียตรความเชื่อถือหรือความเคารพ มนุษย์ผู้นั้นย่อมหมดความหมายไม่ว่าจะเป็นเทพหรือคนธรรมดาก้อเถอะ   ทุกนมีสิทธิเท่าเทียมกันคะไม่มีใครใหญ่กว่าใคร   โปรดกรุณาเปลี่ยนใหม่เถอะยอมรับซะนะคะ  ว่าแมรี่ แม็กดาลีนทรงเป็นชายาของพระเยซูคะ   ที่จริงโฮลี่เกรลก้อน่าจะพิสูจนืได้แล้วนะคะกับภาพลาซซัปเปอร์     นักเขียนแดน  บราว์ เค้าคงไม่มานั่งหาวิธีใส่ความศาสนาให้ป่นปี้หรอกคะ  นอกจากศาสนาจะเผยความบกพร่องออกมาเอง  จนเป็นขี้ปากของคนทั่วไป   ไม่ใช่เพราะว่าใครผิดนะคะศาสนาผิดเองที่ปกปิดเรื่องที่ควรรู้   ไม่ยอมยอมรับความจริงเอาซะเลย   อย่างนี้จะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่ยั่งยืนของชาวโลกหรือป่าวคะ
+คุณหันมาเชื่อวิทยาศาสตร์ดีกว่าคะศาสนาเหมือนภาพหลอกลวงที่มีให้คนเชื่อไปวันๆไม่มีความแท้จริง   ขนาดคำพูดที่ว่าทำดีต้องได้ดีมันเป็นการกระทำที่ต้องประสบผลส้ำร็จอยู่แล้ว   ไม่เห็นเอาเข้าไปยุ่งกับศาสนาเรยมนุษย์รู้เรื่องพวกนี้ดีมันเป็นเหตุที่สมกับผลโดยสมองของมนุษย์ก็คิดเองได้   ถ้าโลกจะแตกน้ำท่วมพายุ   ทุกอย่างคุณอ้อนวอนพระเจ้าให้ช่วยหยุดสถานะการนี้ทีพระเจ้าไม่ช่วยหรอกคะ  เพราะพระเจ้านั้นไม่มี  คุณต้งหยุดสถานะการเอง  ขนาดเกิดสภาวะโลกร้อนมันเกิดเพราะน้ำมือมนุษย์ไม่ใช่ใครที่ไหน   ขนาดคนไทยก็ยังประกอบพิธีเผาอยู่ไม่เห็นจำเป็นนี่คะมันสร้างมลพิษก็เพราะความเชื่อไงคะเชื่อจนงมงายเห็นศาสนาเป็นดีเป็นชอบ     ดิฉันไม่ชอบศาสนาเรยนะดิฉันถือว่าศาสนาคือความหลอกลวงไม่มีเนื้อแท้แกนจริง   คุณจะกลัวอะไรคะเชื่อวิทยาศาสน์ซะอย่างปัญหาทุกอย่างก้อแก้ได้อยู่เสมอคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 8:20 am

เขียนภาษาไทยให้ถูกก่อนเถอะครับ แล้วค่อยคุยกันเรื่องความถูกผิดอื่นๆ

::004::
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:41 am

โห มาเป็นชุด

ใครเขากลัววิทยาศาสตร์ละคุณ
คุณจะกลัวอะไรคะเชื่อวิทยาศาสน์ซะอย่างปัญหาทุกอย่างก้อแก้ได้อยู่เสมอคะ
สมมุตินะ นายกอไก่ทะเลาะกับนายขอไข่เพราะว่านายกอไก่เห็นว่านายขอไข่ปลูกต้นไม้ล้ำที่ของตนเอง คุณจะเอาวิทยาศาสตร์เข้าไปช่วยแก้ปัญหาอย่างไร เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆหรอกถ้าไม่มีความรัก มนุษยสัมพันธํและกฏระเบียบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ถ้าคุณมีปัญหากับบุคคลในครอบครัวคุณ คุณจะเอาวิทยาศาสตร์เข้ามาแก้ได้ยังไง ถ้าขาดซึ่งความเชื่อความเคารพความรักในตัวของบุคคลเหล่านั้น แล้วของพวกนี้มันเอามาใส่หลอดทดลองกันได้ที่ไหนกัน

เอาอย่างนี้ดีกว่านะ
หนึ่ง เขียนไทยให้ถูกๆอย่างที่คุณพีเขาว่าเสียก่อน
สอง นิยามคำว่าวิทยาศาสตร์ให้หน่อยว่าขอบข่ายมันถึงแค่ไหน เวลาเขามาแจงให้ฟังเขาจะได้มองขอบข่ายคำว่าวิทยาศาสตร์ของคุณได้ถูกต้อง ไม่ล้ำออกไป มิชะนั้นเดี๋ยวจะกลายว่ามันไม่เป็นวิทยาศาสตร์เสียฉิบ
สาม พระเจ้ารักคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:44 am

โอ้ว ... หายนะมาเยือนเว็บบอร์ด
เฮ้อ ... ผมพูดได้คำเดียวว่า "เฮ้อ..."  : emo031 :

และ ... ผมก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นต่อเจ้าของกระทู้ข้างบน ในการเขียนภาษาไทยให้ถูกมากขึ้น นิดหน่อยก็ดีนะ (ไม่ต้องรีบเขียนตามอารมณ์ก็ได้...)

- ผมก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอธิบายอะไรให้ท่านฟังตรงไหนก่อนดีนะ แต่ว่าผมจะเล่าอะไรให้ฟังนะ...

- วิทยาศาสตร์นั้นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่วิทยาการของวิทยาศาสตร์นั้นถูกสร้างขึ้นมาจากการทดลอง ลองผิดลองถูก และจุดประสงค์เพื่อสนองต่อความต้องการในการลบจุดอ่อน แก้ไข อำนวยความสะดวก และข้อจำกัดบางอย่างในตัวมนุษย์ ซึ่งมีความอยาก และต้องการเป็นตัวกระตุ้นเสริม .... ซึ่งวิทยาศาสตร์นั้นเริ่มต้นจากการพัฒนาในจุดๆหนึ่ง และต่อยอดพัฒนาต่อจากจุดนั้น โดยคนหลายชั่วอายุ และพัฒนาแบบการทดลอง คลำหาทางไปเรื่อยๆ ได้ผลดีก็นำมาใช้ ประสบความล้มเหลวก็เป็นบทเรียน แต่ไม่รู้ทั้งหมดอย่างแท้จริง และสามารถทำอะไรๆที่น่ากลัว และขัดต่อศีลธรรมที่อยู่ในมโนธรรมมนุษย์ สามารถคิดเองได้อย่างง่ายๆว่า "ผิด" ...และหลักเหตุและผลนั้นถ้าขาดความรักแล้วล่ะก็... จะนำไปสู่ความถลำลึกในความมืดมนของจิตใจ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ดังที่ต้องการ โดยอ้างเพื่อมนุษยชาติ ...และผลงานที่เห็นเด่นชัดในปัจจุบันนี้คือ วิทยาศาสตร์สร้างเทคโนโลยีที่ดีๆ ที่ช่วยเหลือเรา ที่ต้องสนองต่อสิ่งที่ตนเองนั้นอยาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วย น้ำตา และการทำลาย(ธรรมชาติ และมโนธรรม) และวิทยาศาสตร์นั้นเลียนแบบผลงานชิ้นเอกของพระเจ้าคือธรรมชาติ ที่พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างและเป็นผู้เหนือกว่าธรรมชาติ
- แต่ถ้าวิทยาศาสตร์นั้นดำรงและเดินไปควบคู่กับความรักของพระเจ้าแล้วนั้น ... วิทยาศาสตร์นั้นก็จะน่ารัก และมีประโยชน์ต่อมนุษยชาติอย่างยิ่งยวด และแท้จริง

- พระเจ้านั้นเป็นความรัก พระองค์รู้จักทุกสิ่งเพราะพระองค์ทรงสร้างมัน(ความดี) ตั้งแต่ธรรมชาติ กฎธรรมชาติ พระองค์ทรงเป็นและเหนือธรรมชาติ
พระองค์สร้างด้วยความรัก เพื่อความรัก และด้วยความรัก...และกิจการผลของความรักของพระองค์นั้นดีงามเสมอ

- และในขณะเดียวกัน กิจการของพระศาสนจักรและผลของกิจการของพระศาสนจักรนั้น ดำเนินรอยตามทางของพระคริสต์ และพระเจ้า ... และจะเห็นได้ว่ากิจการของพระศาสนจักรนั้นล้วนแล้วแต่สร้างสิ่งดีงาม และสันติภาพเสมอ [ยกเว้นพวกที่มีบาปในใจ(ถูกล่อลวงจากซาตาน)ที่เกือบจะทำพระศาสนจักรล่มสลาย..]

ป.ล. ผมจะสวดให้คุณเลยนะ God Love You . I Love You.
แก้ไขล่าสุดโดย Kichinto เมื่อ จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:54 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 1:01 pm

"วิทยาศาสตร์ที่แท้ย่อมค้นพบพระเจ้า ทรงรออยู่เบื้องหลังประตูทุกบาน"(สมเด็จพระสันตะปาปา ปิโอที่ 12)

ผมยกข้อความในวรรณกรรมของ แดน บราวน์ มาสะท้อนอะไรบางอย่างที่คุณพยายามจะ"บิดเบือน"เขานะครับ

"ฟิสิกส์หรือคะ" วิตโตเรียร้อง "หนูนึกว่าคุณพ่อรักพระเจ้าเสียอีก!"
"พ่อรักสิ มากเสียด้วย นั่นแหละคือสาเหตุที่พ่ออยากศึกษาเรื่องกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์ กฎแห่งฟิสิกส์คือผืนผ้าใบที่พระเจ้าทรงกางออกเพื่อวาดผลงานชิ้นเอกของพระองค์"
(เทวากับซาตาน P.73-74)


และจากมุมของนักวิทยาศาสตร์เอง เช่น อัลเบริ์ต ไอสไตน์
"วิทยาศาสตร์ที่ไม่เอาศาสนาจะนำไปสู่ความยุ่งเหยิง และศาสนาที่ไม่เอาวิทยาศาสตร์เหมือนคนตาบอด"

ทีนี้ผมจะใช้ความรู้เท่าที่มีตอบคำถามคุณ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้อง

(1)แต่คุณดันเชื่อข้างเดียวคุณยกย่องศาสนานี่คะ  คุณไม่ได้ต้องการเผยความจริงแต่อย่างใด
ตอบ:เพราะพระเยซูเจ้าทรงเป็น หนทาง ความจริง และชีวิต เละความจริงจะทำให้เราอิสระ เราเผยให้คุณทราบอยู่ และเราคงไม่ผิดนักถ้าจะแสดงความนับถือต่อญาติผู้ใหญ่ยกเกียรติว่า ทรงเป็นหนทาง ความจริง ชีวิต

(2)หนังเดอะดาวินชีโค๊ดมันผิดดูหมิ่นศาสนาไร้ศีลธรรม
ตอบ:ผมไม่ทราบว่า คุณใช้อารมณ์ใดตอบ แต่คุณควรเรียนรู้ที่จะอยู่ท่ามกลางความหลากหลายนะครับ ใช่ว่าผมจะเห็นด้วยและเห็นดีเห็นงามกับบทความนั้นทุกอย่าง แต่ผมก็ยังอยู่ได้ มันเป็นการชี้แจงเรื่องข้อเท็จจริง ซึ่งมันคนละเรื่องกับการทำลายมิตรภาพระหว่างมนุษย์

(3)ในหลักความจริงแล้วคนเราจะกำเนิดบุตรก้อต้องมีเพศสัมพันธ์แล้วทำไมศาสนาถึงได้รังเกียดกิจกรรมนี้นัก
ตอบ:คุณควรศึกษาให้มากกว่านี้เสียก่อน ว่าศาสนารังเกียจหรือไม่ หรือมีทีท่าห้ามปรามเพศสัมพันธ์ด้วยสาเหตุอะไร เรื่องนี้ผมไม่อยากพิมพ์ลงบอร์ด PM หรือ mail มาหาผมจะอธิบายเรื่อง เพศกับศาสนา ในมุมเทววิทยาให้ฟัง

(4)ถ้าคุณจะอ้างพระพระแม่มารีย์เป็นสตรีที่ทรงศักสิทธิ์คงไม่จริงมั้งคะเพราะพระแม่ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่เกิดจากอสุจิกับไข่ก็เกิดมามนุษย์คนนึง  
ตอบ:ถูกต้องครับ พระแม่เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่เกิดกับ อสุจิและไข่ แต่นางเป็นผู้รับใช้คนแรกของพระเป็นเจ้า(ลูกา 1:38) พระสมณสาส์ว่าด้วยการนับถือพระนางมารีย์(Marialis Cultus)ของสมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ได้กล่าวไว้ชัดในหลายแง่มุมว่า"ทรงศักดิ์สิทธิ์"ได้อย่างไร

(5)ถ้าหมดลาภยศเกียรติความเชื่อถือหรือความเคารพ มนุษย์ผู้นั้นย่อมหมดความหมายไม่ว่าจะเป็นเทพหรือคนธรรมดาก้อเถอะ  
ตอบ:ที่คุณกำลังกล่าว คือคุณกำลังสะท้อนความจริงในพุทธศาสนาชื่อ "โลกธรรม 8" และในทางศาสนาคริสต์มนุษย์เราไม่มีความหมายอะไรเลยอยู่แล้ว เราเป็นเพียงผงธุลีของพระเป็นเจ้า หน้าปกอุดมสารเตือนใจเราว่า"หินทุกเม็ดถูกเรียงเป็นภาพพระพักตร์ของพระเยซู แม้เราเป็นเพียงหินเม็ดเล็กที่สุด ถ้าหลุดหล่นไป ภาพนั้นก็ไม่งดงาม"ดังนั้น เราต้องแสดงความรักของพระคริสตเจ้าผ่านทางเรา

(6)ว่าแมรี่ แม็กดาลีนทรงเป็นชายาของพระเยซูคะ   ที่จริงโฮลี่เกรลก้อน่าจะพิสูจนืได้แล้วนะคะกับภาพลาซซัปเปอร์  
ตอบ:เรื่องนี้ยังถกเถียงกันอยู่ในวงวิชาการแท้ๆ(ที่ไม่ใช่วรรณกรรม)นะครับ ความเป็นจริงหลักฐานทั้งยืนยันและหักล้างมันมีน้ำหนักเบาพอๆกัน สำหรับเรื่อง โฮลี่ เกรล ผมแนะนำให้คุณไปอ่านหนังสือให้มากกว่านี้นะครับ ถ้าคุณเข้าใจเรื่อง ดาวินชี โค๊ด เขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า กว่าจะเป็น"เซอร์ลีห์ ทีบบิง"ต้องศึกษามาหนักเพียงใด

(7) นักเขียนแดน  บราวน์ เค้าคงไม่มานั่งหาวิธีใส่ความศาสนาให้ป่นปี้หรอกคะ  นอกจากศาสนาจะเผยความบกพร่องออกมาเอง  
ตอบ:คุณบิดเบือนแดน บราวน์ดังที่กล่าว คุณเอาข้อความในวรรณกรรมของเขามาโจมตีเขาในส่วนที่ไม่ถูกต้อง คุณต้องตัดสินให้ชัดเจนว่าเรื่องนี้อยู่ในขอบเขตที่มีผลให้ผิดความเชื่อ แต่ไม่ได้ผิดตามหลักจริยศาสตร์ ผมแนะนำให้คุณไปดูการตัดสินของสันตะสำนักให้ถี่ถ้วนกว่านี้ แล้วถามตัวคุณเองว่า คุณรู้หรือไม่ว่าคำตัดสินนั้นอิงตามจริยศาสตร์ความเชื่อ หรือ จริยศาสตร์ปรกติ

(8)จนเป็นขี้ปากของคนทั่วไป   ไม่ใช่เพราะว่าใครผิดนะคะศาสนาผิดเองที่ปกปิดเรื่องที่ควรรู้   ไม่ยอมยอมรับความจริง
ตอบ:คำว่า"เป็นขี้ปากคนทั่วไป"เป็นสิ่งที่ผมระอาที่สุด ทุกวันนี้ มีแต่คนที่มีแต่"ความเห็น" อ่านหนังสือเพียงเล่มเดียวก็บอกว่า ข้าฯรู้และเข้าใจทุกสิ่งแล้ว ถ้าคุณศึกษาประวัติศาสตร์พระศาสนจักรดีดี คุณจะพบความพยายามอันงดงามในการเยียวยาความไม่ถูกต้องบางประการที่ในอดีตอาจเคลือบแฝงไปด้วยเรื่องที่ไม่ชัดเจน เช่น ถ้าคุณพูดถึงอัศวินเทมพลาร์ ผมถามคุณว่า คุณรู้จักใครที่เป็นหรือไม่ และ ถ้าเป็นเป็นสายใด

(9)คุณหันมาเชื่อวิทยาศาสตร์ดีกว่าคะศาสนาเหมือนภาพหลอกลวงที่มีให้คนเชื่อไปวันๆไม่มีความแท้จริง
ตอบ:คุณเองยังไม่เข้าใจวิทยาศาสตร์ถ่องแท้ ไม่ควรพูดคำนี้ออกมาเลย


(10)มนุษย์รู้เรื่องพวกนี้ดีมันเป็นเหตุที่สมกับผลโดยสมองของมนุษย์ก็คิดเองได้
ตอบ:เรื่องนี้มีคำตอบโดยปรัชญาสกุลนักบุญโทมัสอไควนัส เมื่อนานมาแล้ว ถ้าคุณคิดว่าจะอธิบายให้ผมทราบ คุณต้องยกกฎของนักบุญโทมัส อไควนัส มาแย้งผมเป็นข้อๆ แล้วสรุปว่าไม่สมเหตุสมผลทางตรรกะที่จุดไหน

(11)เพราะพระเจ้านั้นไม่มี
ตอบ:เดี๋ยวผมจะยกอะไรบางอย่างให้คุณดู นะครับ

(12)ดิฉันไม่ชอบศาสนาเรยนะดิฉันถือว่าศาสนาคือความหลอกลวงไม่มีเนื้อแท้แกนจริง
ตอบ:คุณรู้ตัวดีครับ ว่าคุณไม่มีสันติสุข เพราะตาคุณมืดบอด คุณแสร้งว่า ตนเองแกร่งและเก่ง แต่ปัญหาที่เข้ามาในชีวิตที่คุณแก้นั้นช่างโดดเดี่ยวและอ้างว้าง คุณจะเจ็บอีกซ้ำแล้วซ้ำเรา พวกเรามีปัญหาเข้ามาเช่นเดียวกับคุณ เรามีสันติสุข เพราะพระเจ้าสถิตกับเรา อยู่ในมโนธรรม คอยบอกให้ทำในสิ่งที่ดีและหลีกหนีสิ่งที่ชั่ว

มุมสาระ(Knowledge&wisdom)1
สืบเนื่องจากเมื่อวาน,ไปอ่านมา พบว่ามีบทความออนไลน์บทความหนึ่งที่เกี่ยวกับ "ความมีตัวตนของพระเจ้าในมุมมองของนักคณิตศาสตร์"โดย Chaipat 122
(ซึ่งสังคมออนไลน์ในที่นั้น ผมก็สนใจจะไปเข้าร่วมด้วย เพราะตอนนี้ว่างและรู้สึกอิสระ สุข สงบ สบายดี)
เอาล่ะมาดูตอนหนึ่งที่เขียนความว่า
พระเจ้ากับ Expectated Value
เขาบอกว่า เอาล่ะในโลกนี้มีสองกรณี
1.กรณีแรก พระเจ้ามีจริง
2.กรณีที่สอง พระเจ้าไม่มีจริง

แล้วในแต่ละกรณีก็มีสองความเชื่อ ซึ่งก็คือ เราเชื่อในพระเจ้า กับเราไม่เชื่อ
คราวนี้เรามาสมมติกันในกรณีแรกก่อนคือเราเชื่อในพระเจ้า

กรณีแรกพระเจ้ามีจริง ผลลัพธ์ ตายไปเราขึ้นสวรรค์ ให้ค่าความสุข เป็น อินฟินิตี้ ∞
กรณีที่สอง ถ้าพระเจ้าไม่มีจริง ตายไปไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่มีสวรรค์ไม่มีนรก ให้ค่าความสุขได้ 0


แต่ถ้าจะหาค่า expected value ได้ เราต้องให้ค่าความน่าจะเป็นด้วย อ่ะให้โอกาสที่พระเจ้ามีจริงนั้น แค่ 1%
E(X)=0.01*∞+0.99*0=∞
สรุปแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ขอแค่มีโอกาสความน่าจะเป็นว่าพระเจ้ามีจริง ยังไงๆ ค่า Expected value ก็ ∞ ถูก
เอาล่ะมาดูในกรณีที่เราไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริงบ้าง

แต่พระเจ้ามีจริง ผลลัพธ์ ตายไปก็ตกนรกสิครับ ให้ค่าความสุข เป็น -อินฟินิตี้ (-∞)
กรณีที่สอง พระเจ้าไม่มีจริง ตายไปไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่มีสวรรค์ไม่มีนรก ให้ค่าความสุขได้ 0
ดังนั้น เราก็จะสามารถหา Expected value ได้ ว่า -∞

"God is Dead : พระเจ้าตายแล้ว"
Friedrich Wilhelm Nietzsche
นักปรัชญาผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง
แน่นอนล่ะ,มีคำสวนน่ารักๆกลับมาหลังเขาตาย
"Nietzsche is dead:นีทเช่ต่างหากล่ะที่ตาย

พระเจ้าอวยพระพร,
ผมยินดีอธิบายความเชื่อของนักคณิตศาสตร์ให้ฟังครับ
บทอ่านมิสซาวันนี้ พระวรสารยอห์น 8:1-11
มีบทหนึ่งคิดว่าเหมาะ
"พระเยซูเจ้าตรัสว่า เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิดและตั้งแต่นี้ไป อย่าทำบาปอีก"(ยอห์น 8:11)
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ จันทร์ มี.ค. 10, 2008 1:05 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:02 pm

ผมว่าคนตั้งกระทู้นั้น น่าจะกลัวโง่มากกว่าอะไรทั้งหมด

จะนับถือวิทยาศาสตร์ก็ตามสบายครับ แต่จะมามั่วไปปนกะแดน น้ำตาล นี่ ผมว่าค่อยๆแยกออกมาทีละประเด็นจะดีกว่านะครับ แดน บราว์นแต่งนิยาย ก็คือนักแต่งเรื่องอยู่แล้ว ส่วนวิทยาศาสตร์ ก็คือศาสตร์ที่เน้นการพัฒนาด้านวัตถุไม่ใช่จิตวิญญาณ วิทยาศาสตร์ไม่เคยสอนให้คุณเป็นคนดี ไม่เคยสอนว่าทำไมแม่คุณถึงรักคุณ และทำไมเราจึงไม่ควรฆ่าผู้อื่น ฯลฯ ดังนั้น ถ้าจะทำตัวแบบคุณคือนับถือวิทยาศาสตร์เป็นศาสนาเหนือหัว ผมเกรงว่าโลกเราคงถึงกาลวิบัติไปนานแล้วล่ะครับ
†PricELiFE†
โพสต์: 363
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 12, 2008 10:21 pm
ที่อยู่: World

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:08 pm

จากที่คุณพูดในมุมมองของผม ผมย้ำนะว่าเป็นแค่มุมมองของผม ไม่ได้มีหลักการอะไรมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น

ถ้าคิดว่ามันไม่สุภาพ หรือ มีอะไรผิดพลาดก็จะว่าก็ตามสบายเลยครับ

- ในปัจจุบันนี้ อย่างที่คุณเองคงทราบดีครับ จิตใจของมนุษย์บางส่วน มีความคิดทางด้านจิตใจที่ต่ำลงมากครับ
แต่ก่อนเองนี้ ผมยอมรับว่าผมก็ไม่ค่อยชอบศาสนาหรอก (คงเป็นเพราะศาสนาที่ผมเคยถือไม่ได้สอนด้านการใช้ชีวิตเลย)
แต่ในตอนนี้ผมเองเถียงไม่ได้เลยครับ ว่า ศาสนาสำคัญ และ ไม่ไร้สาระ เพราะมันเป็นจริงอย่างนั้นครับ

ถ้าจะให้ผมยกตัวอย่าง ข่าวเรื่องการ ปล้น ข่มขืน ชิงทรัพย์ ฯลฯ มันเกิดจากอะไรครับ สาเหตุคือความคิดของคน

ที่ไม่ "รัก" หรือ "เห็นใจ" ผู้อื่นเลย แล้วถ้าไม่มีศาสนา หรือคนที่คิดว่าศาสนาไม่สำคัญ

"สังคม" หรือ "โลก" นี้จะมีคนที่คิดดีหรือเปล่าครับ

ศาสนาสอนให้เรา "รัก" ผู้อื่น นี่คือมุมมองความคิดของผมนะ

----------------------------------------------

กุสโลบาย (เอ่อ..ผมว่าผมเขียนผิดนะครับ ขอโทษด้วยครับ)

ถ้าจะอธิบายให้คนที่มีมุมมองว่าวิทยาศาสตร์ถูกเสมออย่างคุณเข้าใจ คงต้องอธิบายด้วยเรื่องนี้ล่ะมั้งครับ

อย่างเอาง่าย ๆ เลยครับ ผมเชื่อ แต่คุณคงไม่เชื่อ ผมเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง ผมทำดี ผมตายก็ขึ้นไปอยู่กับพระเจ้า

แปลว่า ท่านให้เราทำดี มันก็เป็นสิ่งดีที่มนุษย์ควรทำ ศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีครับ

ง่าย ๆ แบบนี้พอหรือเปล่าครับ ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:11 pm

"God is Dead : พระเจ้าตายแล้ว"
Friedrich Wilhelm Nietzsche
นักปรัชญาผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง
แน่นอนล่ะ,มีคำสวนน่ารักๆกลับมาหลังเขาตาย
"Nietzsche is dead:นีทเช่ต่างหากล่ะที่ตาย
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือ ตัวนิชเชเอง ตายโดยเป็นโรคจิตหรือเป็นบ้าในบั้นปลายชีวิตนั่นเอง
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:17 pm

Holy เขียน:
"God is Dead : พระเจ้าตายแล้ว"
Friedrich Wilhelm Nietzsche
นักปรัชญาผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง
แน่นอนล่ะ,มีคำสวนน่ารักๆกลับมาหลังเขาตาย
"Nietzsche is dead:นีทเช่ต่างหากล่ะที่ตาย
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือ ตัวนิชเชเอง ตายโดยเป็นโรคจิตหรือเป็นบ้าในบั้นปลายชีวิตนั่นเอง
อุตส่าห์ไม่พูดแล้วเชียว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:19 pm

โดยส่วนตัวผมเห็นว่า อันนี้เป็นตัวอย่างกระทู้ของคนที่ "อยากฉลาด" ตั้ง  เพราะปรกติคนฉลาดจริงๆจะไม่สื่อสารออกมาลักษณะนี้

ข้อความที่ตั้งนั้นเต็มไปด้วยความสับสน ผิดหลักภาษา สื่อสารไม่ชัดเจน และประเด็นทับซ้อนมั่วไปมา และสะท้อนอคติของผู้ตั้งอย่างชัดเจนมากเกินไป

ที่น่ากลัวคือ เจ้าตัว เชื่อสิ่งที่อยากเชื่อ และกลัวที่ความจริงที่ซ่อนอยู่เบื้องลึกที่สุดของจิตใจตนเองแต่ตัวเองปฏิเสธจะกลายเป็นความจริงขึ้นมา

หวังว่า คุณจะออกมาจากความสับสนในชีวิตของตนได้โดยไว

ขอพระเจ้าอวยพร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:26 pm

ying เขียน: ดิฉันไม่ชอบศาสนาเรยนะดิฉันถือว่าศาสนาคือความหลอกลวงไม่มีเนื้อแท้แกนจริง   คุณจะกลัวอะไรคะเชื่อวิทยาศาสน์ซะอย่างปัญหาทุกอย่างก้อแก้ได้อยู่เสมอคะ
ความคิดเลี้ยวซ้ายชอบกล
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:43 pm

Gray Cat Mobster เขียน:
ying เขียน: ดิฉันไม่ชอบศาสนาเรยนะดิฉันถือว่าศาสนาคือความหลอกลวงไม่มีเนื้อแท้แกนจริง   คุณจะกลัวอะไรคะเชื่อวิทยาศาสน์ซะอย่างปัญหาทุกอย่างก้อแก้ได้อยู่เสมอคะ
ความคิดเลี้ยวซ้ายชอบกล
แต่จากหลายๆคำภาษาน้องเขาเกรียนมากเลยนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:48 pm

สุดจะบรรยาย    : emo107 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:01 pm

ประการแรก ขอสนับสนุนข้อความของคุณ Man of Macidonia ที่ว่า
" เรามีปัญหาเช่นเดียวกับคุณ เรามีสันติสุขเพราะพระเจ้าสถิตกับเรา
อยู่ในมโนธรรม คอยบอกให้ทำในสิ่งที่ดีและหลีกหนีสิ่งที่ชั่ว "

ประการที่สอง อยากจะบอกอีกว่า
นี่เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่นั่นก็คือ ความเชื่อ " ผู้ที่เชื่อ แม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข " (ยน.20:29)

นักบุญยอห์นยังเล่าต่อไปว่า พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า " สันติจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลาย "
       
ในคำปราศัยหลังอาหารคำ่มื้อสุดท้าย พระเยซูเจ้าทรงให้สัญญาว่า
"เรามอบสันติสุขไว้ให้ท่านทั้งหลาย เราให้สันติสุขของเรากับท่าน" (ยน.14:27)

หลังจากกลับคืนพระชนมชีพแล้ว พระองค์ทรงรักษาคำพูด พระองค์มอบสันติสุขของพระองค์
ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งการประทับอยู่ของพระจิตเจ้า

นี่คือกฎประการแรกของการแยกแยะฝ่ายจิตของนักบุญอิกญาซีโอ
" จิตร้ายอาจปลอมแปลงมาในทุกรูปแบบ แต่มันไม่สามารถปลอมมาในรูปของสันติได้
เพราะทุกสิ่งในตัวมันมีแต่ความวุ่นวายและต่อต้าน "

" สันติจึงเป็นลายเซ็นของพระจิตเจ้าและของจิตที่ดี
เป็นลายเซ็นที่ปลอมแปลงไม่ได้
ความวุ่นวายปั่นป่วนและความกังวลใจ ไม่เคยมาจากพระจิตเจ้า "

การประจักษ์ครั้งแรกของพระเยซูเจ้านำความรักมาให้
ส่วนการประจักษ์ครั้งที่สองนำสันติมาให้

ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดให้ลูกไว้วางใจในพระองค์โดยสิ้นเชิง
เหตุว่าพระองค์ปรารถนาดีต่อลูกเสมอ
ให้เรามีที่ไว้สำหรับพระเยซูเจ้า ในห้วงลึกของหัวใจเรา
อาเมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
KaL 's Z
โพสต์: 149
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 5:30 pm

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:08 pm

สงสัยคุณคงไม่เคยอ่าน หนังสือเรื่อง "สงครามอารมาเกดโดน"  นะคะ
ลองไปอ่านดูนะคะ 
โดยสุดท้ายหนังสือเล่มนี้ เค้าบอกว่า ยังไงมนุษย์ก็ต้องมีศาสนา ค่ะ
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:23 pm

เฮ้อ...................
เรื่องของดาวินชี่ โค้ดคงไม่ต้องพิสูจน์อะไรแล้วละครับ เพราะมันไม่มีความจริงเลย
ส่วนเรื่องศาสนาไม่ดี เป็นเรื่องหลอกลวงนั้น ก็แล้วแต่จะคิดเถอะครับ
ถ้าคุณบอกว่าเชื่อวิทยาศาสตร์ดีกว่า วิทยาศาสตร์ก็คือศาสนาของคุณนั่นแหละครับ
ส่วนเรื่องที่คุณบอกว่า พระเจ้าไม่มีจริง ก็แล้วแต่จะคิดเหมือนกัน
ผมคงไม่สาธยายหรอกว่าพระเจ้ามีจริงหรือไม่ เพราะยังไงคุณก็คงไม่เชื่ออยู่ดี
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Big_TC29
โพสต์: 333
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 17, 2006 12:34 am
ที่อยู่: ในรู

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:28 pm

ไปให้พ้นเลยนะครับคุณ ying ไอ้ Kommunist ไร้ศาสนา อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่านะครับ คุณจะเชื่อวิทยาศษสตร์ก็เชื่อไป ไม่มีใครว่าคุณหรอก ยังไงซะวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้ช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากปาปอยู่ดี
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:30 pm

bigect07 เขียน: ไปให้พ้นเลยนะครับคุณ ying ไอ้ Kommunist ไร้ศาสนา อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่านะครับ คุณจะเชื่อวิทยาศษสตร์ก็เชื่อไป ไม่มีใครว่าคุณหรอก ยังไงซะวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้ช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากปาปอยู่ดี
ใจเย็นๆครับ อย่าไปไล่เขาเลย ปล่อยเขามาเถอะ ดีแล้ว เขาทำให้ความเชื่อเราแข็งแกร่งขึ้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:33 pm

พี่บิ๊กใจเย็นๆนะครับ เรื่องแบบนี้ผมว่ามันก็ตลกดีนะ... ::003::

ตราบจนวันนี้ผมยังไม่เคยเห็นนักวิทยาศาสตร์เก่งๆผู้คิดค้นอะไรต่างๆ ได้รับการจารึกชื่อว่าเป็นคนทิ้งศาสนาเลยนะครับ

หลุยส์ ปาสเตอร์ (ผู้คิดค้นวิธีการทำพาสเจอไรซ์เพื่อถนอมอาหาร และคิดค้นวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า)
สวดสายประคำทุกวันและศรัทธาในแม่พระ

เกรเกอร์ เมนเดล (ผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับพันธุกรรม ซึ่งช่วยให้การแพทย์สมัยใหม่เจริญขึ้น ช่วยในการวินิจฉัยรักษาโรค)
เป็นพระสงฆ์ชาวออสเตรียฮังการี ในคณะอัสติเนียน ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งวิชาพันธุศาสตร์

อ้อ...ถ้าคุณจะพูดถึงนายชาร์ล ดาวินกับหนังสือของเค้า ถ้าใครยังเชื่ออยู่ถือว่าล้าสมัยมากครับ
เพราะล่าสุด เค้าได้ถูกทฤษฎีควอนตัมทางฟิสิกส์ล้มล้างซะแล้ว โดย...

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
(ผู้คิดค้นทฤษฎีสัมพันธภาพ และอธิบายเกี่ยวกับปรากฎการณ์โฟโตอิเล็กทริก และ...ชาวยิวผู้เชื่อในพระเจ้า)
อัลไสน์ตกล่าวไว้ว่า ไม่มีความไม่แน่นอนในธรรมชาติ ธรรมชาติดำเนินไปโดยมีลักษณะและแบบแผนที่แน่นอน การค้นหาความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆในฟิสิกส์ เปรียบเสมือนการค้นหาระบบแบบแผนนั้นๆของธรรมชาติ ซึ่งประกอบไปด้วยรายละเอียด และข้อมูลมากมาย เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์หรือใครคนไหนจะวางรูปแบบของสิ่งทั้งหมดได้ โดยไม่มีความผิดพลาดเลย ถ้าจะทำได้คงมีคนเดียวคือพระเจ้า..

- อ้อ...ที่บอกว่าลบล้างก็คือ ควอนตัมได้พิสูจน์ว่า โลกเราไม่ได้อยู่มาก่อนหน้านี้นานพอ ที่จะทำให้เกิดการวิวัฒนาการตามแนวคิดของดาร์วินได้
ฉะนั้น การที่เราจะบอกว่าตัวอะไรซักตัวนึง เมื่อก่อนมันเป็นแบบนี้ แบบนั้น มันเป็นความคิดที่ล้าสมัยไปแล้วล่ะโยมมม

ขอพระเ้จ้าอวยพรนะครับ
pace e bene

ปล. ในเวปนี้มีอะไรให้อ่านเพียบเลยนะครับ ถ้าสงสัยที่ผมบอก หาอ่านในเวปนี้ได้เลย
ปล.2 อ้อ แล้วก็เรื่องหนังสือของนายแดน บราวน์ เคยมีเรื่องถกเถียงกันตอนที่ำทำเป็นหนัง จนเจ้าตัวต้องออกมาบอกว่า"มันไม่ใช่เรื่องจริง" แล้วคุณเป็นใครเล่าที่มาบอกว่ามันมีมูลความจริง ทั้งๆที่คนแต่งยังบอกเลยว่ามันไม่จริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
yuki
โพสต์: 681
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 01, 2006 5:02 am

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 10:43 pm

อ่านแล้วเหนื่อย...
น่าสงสารเจ้าของกระทู้
ท่าทางจะมีโลกเป็นของตัวเอง
Dis volentibus

จันทร์ มี.ค. 10, 2008 11:15 pm

เอาน่า...คุณYing

วิทยาศาสตร์น่ะ เป็นศาสตร์ที่ดี เเละน่าสนใจนะ อันนี้เรายอมรับจริงๆ
เเต่สำหรับเรา ในเวลาที่เราเป็นทุกข์ ที่พึ่งของเราไม่ใช่วิทยาศาสตร์เเน่นอน

คุณคงต้องบ้าเเน่ๆเลย หากเวลาคุณร้องไห้คุณมัวเเต่คิดว่า "โอ้ว ฉันร้องไห้ นํ้าตาของฉันตกลงพื้นเพราะกฎเเรงดึงดูดของโลก" 5555

ดิฉัน..เข้ามาดูเว็ปไซด์นี้นะคะถือว่าดีมากคะ  แต่ที่ดิฉันซับสนคะคุณบอกว่าเวปคุณอยู่เป็นกลางไม่เชื่อข้างใดข้างหนึ่ง  แต่คุณดันเชื่อข้างเดียวคุณยกย่องศาสนานี่คะ  คุณไม่ได้ต้องการเผยความจริงแต่อย่างใด  แต่คุรแค่แก้ต่างให้ศาสนาที่คุณศรัทธาเท่านั้น

เวปไซต์นี้ดีจริงๆค่ะ เเต่คุณไม่ต้องสับสนหรอกว่าทำไมเราไม่เป็นกลาง คุณเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่ามันคืออะไร (เป็นกลาง PH เป็นกลางรึ?)
เพราะคุณเองยกย่องวิทยาศาสตร์เหลือเกินเเละไม่เชื่อศาสนา เเต่เราเชื่อศาสนาเเละยอมรับวิทยาศาสตร์(ที่มีจริยธรรม) เเละก็ไม่ได้แก้ต่างให้ใครด้วยเพราะศาสนาที่เราศรัทธาไม่มีอะไรให้แก้ต่าง (ยกเว้นจะมีใครบางคนบิดเบือนทำบัดสี คนงมงายเชื่อกันไปหมดจนต้องออกมาเสนอเรื่องจริงให้ทราบ)

แต่ถ้าคุณจะมาโพลตอย่างนี้คุณไม่เขียนบอกไปเรยคะว่าหนังเดอะดาวินชีโค๊ดมันผิดดูหมิ่นศาสนาไร้ศีลธรรม  ให้โจ่งแจ้งไปเรยหละคะจะได้จบๆไม่มีข้อดกังขาอย่างนี้   เวปก้อขึ้นอยู่ว่าพวกเรารักพระเยซูมันก้อโจ่งแจ้งมากแร้ว     ที่คุณแอนตี้ความจิงที่ควรพิสูจน์   แล้วทุกข้อความคุณก้อเหมือนจะสนับสนุนศาสนาคุณเหลือเกิน  ไม่มีอารัยเรยที่บอกว่าศาสนามีข้อบรกพร่อง

ไม่จำเป็นต้องเขียนบอกหรอกค่ะ เชื่อว่าใครมีสติปัญญาอยู่ในระดับกลางๆก็พอจะอ่านเข้าใจ เเละถึงเขียนไปว่า
"หนัง เดอะดาวินชี่โค๊ดมันผิดดูหมิ่นศาสนาไร้ศีลธรรม" ให้โจ่งเเจ้งไปเรย มันจะไม่จบน่ะสิคะ เพราะคนที่หัววิทยาศาสตร์จริงๆน่ะ
เวลาเขาศึกษาข้อมูล เขาไม่เชื่อจากการอ่านนิยายหรอกค่ะ นํ้าหนักมันไม่พอ ๕๕๕๕๕๕๕ (ขอขำนิดหน่อย)

แล้วอีกอย่างพระแม่มารีย์มีลูกโดยพระเจ้าประทานดิฉันไม่เคยคิดจะเชื่อเรยคะ   แม้แต่พระพุทธเจ้าประสูติมาแล้งเดินได้โดยมีดอกบัวมารองรับมันนิทานหลอกเด็กชัดๆเรยนะคะ

เรื่องบางเรื่องเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ เเต่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นนิทานหลอกเด็ก เเละไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ หาหลักฐานมาสิคะ
รออ่านอยู่ นักวิทยาศาสตร์หลายคนพยายามพิสูจน์เรื่องนี้เหมือนกัน เเต่ผ่านมาสองพันกว่าปีเเล้วยังหาไม่เจอเลย  ๕๕๕๕๕๕ (ขอขำอีกรอบ)

ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดีมันก้อจริงคะ  ในหลักความจริงแล้วคนเราจะกำเนิดบุตรก้อต้องมีเพศสัมพันธ์แล้วทำไมศาสนาถึงได้รังเกียดกิจกรรมนี้นัก

ไม่ได้รังเกียจกิจกรรมนี้เลย ...คุณตัดสินเราไปเองหรือเปล่า? ไม่เป็นไร เราเชื่อว่ามันเป็นเเค่สมมติฐานของคุณ Ying เเล้วกันเนอะ ไม่ว่ากันๆ

ถึงยังไงโดยธรรมชาติมนุษย์ก้อเกิดโดยมีเพศสัมพันธ์อยู่แล้ว  ไม่มีสิ่งใดที่ยืนยันหรอกคะ   ว่าพระแม่มารีย์ทรงท้องโดยพระเจ้าประทาน    ถ้าเกิดมนุษย์ธรรมดาที่ไม่สามารถมีลูกได้เค้าคงไม่ไปนั่งขอจากพระเจ้าหรอคะ

ก็สำหรับเรา พระเเม่มารีย์ ไม่ใช่หญิงธรรมดาน่ะสิคะ เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรให้ทำงานนี้เท่านั้น คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นคุณ Ying เป็น
ข้าพเจ้า เป็นใครก็เเล้วเเต่ ก็ไม่สามารถทำได้

ถ้าคุณจะอ้างพระพระแม่มารีย์เป็นสตรีที่ทรงศักสิทธิ์คงไม่จริงมั้งคะเพราะพระแม่ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่เกิดจากอสุจิกับไข่ก็เกิดมามนุษย์คนนึง   ทุกคนคือมนุษย์ธรรมดา  ถ้าหมดลาภยศเกียตรความเชื่อถือหรือความเคารพ มนุษย์ผู้นั้นย่อมหมดความหมายไม่ว่าจะเป็นเทพหรือคนธรรมดาก้อเถอะ   ทุกนมีสิทธิเท่าเทียมกันคะไม่มีใครใหญ่กว่าใคร

เอาเป็นว่า ลองละเรื่องเเม่พระกับการประสูติของพระเยซูไว้ในฐานที่เข้าใจละกัน เพราะคนที่ไม่มีความเชื่อ มองยังไงก็ไม่เชื่อค่ะ มาเถียงกันก็คงยุติไม่ได้เเน่นอน... เเต่เห็นด้วยกับที่คุณ Ying เขียนนะ
"ถ้าหมดลาภยศเกียตรความเชื่อถือหรือความเคารพ มนุษย์ผู้นั้นย่อมหมดความหมายไม่ว่าจะเป็นเทพหรือคนธรรมดาก้อเถอะ"
อืม...จริงๆด้วย เพราะว่าอยู่มาสองพันกว่าปี เรายังเชื่อถือเคารพเเม่พระในฐานะมารดาพระเจ้าอยู่...
เเสดงว่ายศเกียร์ติของเเม่พระนี่ อื้อหือ สุดยอดไปเลย...เนอะ

โปรดกรุณาเปลี่ยนใหม่เถอะยอมรับซะนะคะ  ว่าแมรี่ แม็กดาลีนทรงเป็นชายาของพระเยซูคะ   ที่จริงโฮลี่เกรลก้อน่าจะพิสูจนืได้แล้วนะคะกับภาพลาซซัปเปอร์     นักเขียนแดน  บราว์ เค้าคงไม่มานั่งหาวิธีใส่ความศาสนาให้ป่นปี้หรอกคะ  นอกจากศาสนาจะเผยความบกพร่องออกมาเอง  จนเป็นขี้ปากของคนทั่วไป   ไม่ใช่เพราะว่าใครผิดนะคะศาสนาผิดเองที่ปกปิดเรื่องที่ควรรู้   ไม่ยอมยอมรับความจริงเอาซะเลย   อย่างนี้จะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่ยั่งยืนของชาวโลกหรือป่าวคะ

๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ โอ้ววววววววววววววววววววววววววววววว
ไม่ไหวเเล้วค่ะพี่น้อง ข้อความนี้ไม่สามารถอดขำได้จริงๆค่ะ เพราะเเสดงว่า คุณ Ying ผู้กำลังจะเชื้อเชิญเราเข้าลัทธิวิทยาศาสตร์นิยม
เชื่อนิยายของเเดน บราวน์ เปรียบดั่งหนังสือประวัติศาสตร์พระศาสนจักรเเน๊!!!! อื้อหือ สุดยอดจริงๆเลยค่ะ

เเต่สงสัยคุณ Ying จะไม่ได้เปิดรายการเกี่ยวกับที่เขาไปสืบหลักฐานเรื่องดาวินชี่ โค๊ด โดยกลุ่มนักประวัติศาสตร์เเละนักวิทยาศาสตร์เลยนะคะ
ที่เขาสืบไปสืบมา พบว่าหลักฐานทั้งหมดถูก สร้างขึ้นโดยใครซักคน (จำชื่อไม่ได้) ที่อยากดัง เเล้วคุณเเดน บราวน์ผู้มีความสามารถในการเขียนอย่างสูง ก็นำหลักฐานนั้นมามั่วเเต่งเป็น นิยาย เน้น "นิยาย" เพื่อความดังของตัวเองอีกคน....
เเต่ตอนนี้ไม่เเปลกใจเเล้ว ว่าทำไมคุณ Ying ถึงไม่ทราบข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้ อ่อ.....มัวเเต่อ่านนิยายอยู่??

+คุณหันมาเชื่อวิทยาศาสตร์ดีกว่าคะศาสนาเหมือนภาพหลอกลวงที่มีให้คนเชื่อไปวันๆไม่มีความแท้จริง   ขนาดคำพูดที่ว่าทำดีต้องได้ดีมันเป็นการกระทำที่ต้องประสบผลส้ำร็จอยู่แล้ว   ไม่เห็นเอาเข้าไปยุ่งกับศาสนาเรยมนุษย์รู้เรื่องพวกนี้ดีมันเป็นเหตุที่สมกับผลโดยสมองของมนุษย์ก็คิดเองได้   ถ้าโลกจะแตกน้ำท่วมพายุ   ทุกอย่างคุณอ้อนวอนพระเจ้าให้ช่วยหยุดสถานะการนี้ทีพระเจ้าไม่ช่วยหรอกคะ เพราะพระเจ้านั้นไม่มี  คุณต้งหยุดสถานะการเอง 

เอาน่า เราต่างฝ่ายต่างเชื่อดีกว่าค่ะ เราขอเป็นศาสนานิยม ส่วนคุณก็เชื่อวิทยาศาสตร์ สาขานิยายนิยมต่อไปก็เเล้วกันเนอะ...
เเต่ประสบการณ์ของเรานะ....มีอยู่วันหนึ่ง ประมาณเที่ยงคืน อยู่ดีๆเครื่องรถก็ดับไปเฉยเลยสตาร์ทยังไงก็ไม่ติด เเล้วตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้เชื่อ
ว่าพระเจ้าทรงสรรพานุภาพจริง เราก็พูดไป..."ถ้าพระเจ้ามีจริง ให้รถสตาร์ทติดสิ" เเล้วทันใดนั้นรถก็สตาร์ทติด เน้น อยู่ดีๆก็ติด...
ดังนั้น ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า การอ้อนวอนต่อพระเจ้า พระองค์ช่วยจริง ไม่ใช่เพียงตรัสในพระคัมภีร์...


ขนาดเกิดสภาวะโลกร้อนมันเกิดเพราะน้ำมือมนุษย์ไม่ใช่ใครที่ไหน   ขนาดคนไทยก็ยังประกอบพิธีเผาอยู่ไม่เห็นจำเป็นนี่คะมันสร้างมลพิษก็เพราะความเชื่อไงคะเชื่อจนงมงายเห็นศาสนาเป็นดีเป็นชอบ   

เรื่องของพี่น้องศาสนาอื่น ข้าพเจ้าขอไม่พูดถึงก็เเล้วกัน

คุณจะกลัวอะไรคะเชื่อวิทยาศาสน์ซะอย่างปัญหาทุกอย่างก้อแก้ได้อยู่เสมอคะ

กลัวเชื่อวิทยาศาสตร์เเล้วเป็นเเบบคุณตอนนี้ไง... ::014::

ป.ล.วิทยาศาสน์นี่น่าสนใจนะคะ เป็นการนำวิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ใช้กับศาสนา


หากต้องการเรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับศาสนา เชื่อว่าทุกคนยินดีตอบนะคะ
ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ จันทร์ มี.ค. 10, 2008 11:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร มี.ค. 11, 2008 1:32 am

    เอ่อ เจ้าของกระทู้ใจเย็นๆนะครับ ผมว่ากรุณาแยกระหว่างนิยายกับความเป็นจริงหน่อยนะครับเรื่อง โฮลี่เกรล อะไรนั่น ส่วนประเด็นอื่นๆพี่น้องท่านอื่นก็ตอบไปหมดแล้ว แนะนำว่าควรแก้ไขการด้านภาษาและการเว้นวรรคตอนจะดีมากๆเลยนะครับ
    ผมว่าถ้าคุณอยู่เฉยๆจะดูฉลาดมากกว่านี้นะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
BloodSweatAndTearz
โพสต์: 254
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 12:49 pm
ติดต่อ:

อังคาร มี.ค. 11, 2008 2:00 am

  อืมดีจัง คนสมัยนี้ บอกว่าเชื่อวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างมีเหตุผล ผมเห็นไปไหว้ศาลเจ้า(เพื่อ!!!) เหตุผลมากๆครับ ทำบุญๆๆๆๆเพื่อบุญจะได้ ส่งผลบุญชาติหน้า  เหมือนทำเพื่อหวังประโยคชัดๆ ไม่เข้าใจอีกอย่างทำไม๊เขาต้องเขียนชื่อตัวเป็งๆ ไว้บนของ ทุกอย่างด้วยน๊า    ไม่ได้ว่าใครเน้อพูดรวมๆเองที่เห็นคนทั่วๆไปทำครับ
  แดน บราวน์  ผมชอบอ่านนิยายเขานะครับ ผมมีครบทุกชุดเลย เทวา ซาตาน// Reception point //ล่ารหัสมรณะ// Da vinci Code  (แม้เรื่องนี่ทั้งเรื่องจะพูดแต่ชื่อเมืองที่เข้ามาก้อเหอะ  รู้รึเปล่าจ้ะว่าชื่อของเขา  คือ ลีโอนาโด นะจ้ะ เหอะๆๆ ขำเหอะ)  อ่านแล้วก้อว่าสนุกดีเป็นที่ๆอยากไปทั้งนั้นเลย  แต่ผมไม่ได้อ่านแล้วเชื่อไปซะหมดนิ  นู๋ๆ แยกกันไม่ออกระหว่างเรื่องแต่ง กับ เรื่อง จริงแลวละ สมัยเนี่ย  เพราะทุกอย่าง ในชีวิต ของคนเรา ต่างหาก ละ ที่ หลอกลวง และจอมปลอม  พอเป็นเช่นนนั้นทุกคนเลย เริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งในจริงหรือเท็จ  ของอย่างนี่ วิทยาศาสตร์ บอกว่าต้อง พิสูจน์  เชิญลองดูนะครับ แล้วจะรู้สึก เหมือนกำลัง ใส่แว่นกันแดด เดิน กลางสายฝน  โดดเดี่ยว ตัวคนเดียว  ตัวคุณนั้น คนเดียว  ในที่ที่หนาว เปียกชื้นไร้ ซึ้งแสงไฟ คุณคิดว่า คุณจะจุดกองไฟ ได้ แต่คิดทำไมได้  คุณไม่มีแม้แรง จะคิดว่า เราเก่งอีกต่อไป  เมื่อนั้น คุณจะพบว่า สิ่งเดี่ยวที่คุรทำได้ คือ วอนขอ  ใครสักคน ให้ช่วย  ลองขอสิครับคุณจะได้ ///  เมื่อคุณหมดความเชื่อ คุณก็เหมือน นกที่อยากบินแต่ไม่มีปีก...

***
วันนี้เป็นไรเนี่ย เขียนอะไรเนี่ย จะมีใครเข้าใจผมไม๊เนี่ย 5555+ ::003::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร มี.ค. 11, 2008 9:59 am

bigect07 เขียน: ไปให้พ้นเลยนะครับคุณ ying ไอ้ Kommunist ไร้ศาสนา อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่านะครับ คุณจะเชื่อวิทยาศษสตร์ก็เชื่อไป ไม่มีใครว่าคุณหรอก ยังไงซะวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้ช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากปาปอยู่ดี
โอ้ใจเย็นพี่บิ๊ก นานๆมาที

วิทยาศาสตร์เป้นวงิชาที่เป้นตรกกศาสตร์ต้องมีเหตุผลดูว่าคุณมีตรรกศาสตร์พออ้างวิทยาศาสตร์ได้หรือเปล่า
ต้องพูดถึงคำจำกัดความของคำว่าศาสนา
ถ้าศาสนาคือ หลักในการดำรงชีวิต
ไม่มีศาสนา- ไม่มีหักในการดำรงชีวิต
ถ้าศาสนาคือ สไตล์ในการดำรงชีวิต(อิสลามจะตีความอย่างนี้)
ไม่มีศาสนา- ไม่จริง สไตล์ศาสนาของคุณคือวิทยาศาสตร์ไร้ศาสนา
ถ้าศาสนาคือสิ่งที่สอนให้เราทำดี
ไม่มีศาสนา-ไม่ใช่คนดี
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร มี.ค. 11, 2008 10:01 am

ถ้ามีคนเอาเรื่องของพ่อแม่เจ้าของกระทู้ไปบิดเบือนในทางเสียหายอยากรู้จังว่าเจ้าของกระทู้จะ "ออกมาให้ข้อเท็จจริง" หรือ "ปล่อยไปอย่างนั้นให้คนเข้าใจไปแบบนั้นแหละ"
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

อังคาร มี.ค. 11, 2008 5:04 pm

ว่าแต่เจ้าของกระทู้ไม่เข้ามาตอบบ้างเหรอครับ เราเจรจากันได้นะครับ สันติๆ :angel:
ส่วนเรื่องภาษานี่ไม่ต้องไปว่าเขามากหรอกครับ ผมเห็นบอร์ดอื่นๆคนในเว็บเรายังเขียนผิดกันบ้างเลย แบบว่า พิมพ์ผิดอ่ะนะพิมพ์ผิด

คุณYindก็แวะเข้ามาตอบบ้างสิครับ เห็นว่าคำพูดของพวกเราตรงไหนงมงายหรือมีช่องโหว่ก็เถียงได้เลยครับ รับรองว่าพวกผมพอจะหาคำตอบมาให้ได้แน่ ::011::
Marie Antoinette
โพสต์: 626
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
ที่อยู่: bkk

อังคาร มี.ค. 11, 2008 5:55 pm

จขกท อาจจะยังเด็กอยู่ก็ได้นะคะ ดูจากการใช้ภาษา การวิเคราะห์

หรือถ้าเดาผิด ว่าอาจจะเรียนจบระดับสูง

จะได้เอาไปคิดอีกทีว่า สถานศึกษาที่คุณจบ หรือกำลังเรียนอยู่นั้น เป็นที่สถาบันหรือเป็นที่ตัวบุคคล

หรืออาจจะเกิดจากสถาบันส่วนตัวอื่นๆก็ได้นะคะ

จขกท.ที่รัก  ช่างเป็นบุคคลที่น่าเวทนาเสียจริง  : emo036 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:10 pm

ผมว่าเจ้าของกระทู้ไม่กล้ามาตอบแล้วมั้งครับ เพราะไม่กล้าตอบ เนื่องจากอายตัวเองที่แสดงความฉลาด(น้อย) ออกมา
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อังคาร มี.ค. 11, 2008 7:38 pm

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: ผมว่าเจ้าของกระทู้ไม่กล้ามาตอบแล้วมั้งครับ เพราะไม่กล้าตอบ เนื่องจากอายตัวเองที่แสดงความฉลาด(น้อย) ออกมา
คงไม่มาตอบแล้วล่ะครับ
เพราะเขาพิมพ์ครั้งเดียว เราทั้งหลายก็เล่นไปสองหน้าล่ะ
:angel: :angel: :angel: :angel: :angel:
taiyo
โพสต์: 658
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 22, 2006 12:01 am

อังคาร มี.ค. 11, 2008 10:44 pm

บางทีเจ้าของกระทู้อาจจะอยู่แต่ในห้อง Lab เลยไม่รู้ว่าโลกภายนอกเนี่ย ข่าวสารมันไปถึงไหนแล้ว ผมฮาเรื่อง  เดอะดาวินชีโค๊ด ฮามากๆเลยครับ และอีกหลายเรื่อง
ตอบกลับโพส