ไบเบิ้ล ไล่ผี ได้จริงหรือ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Champkun
โพสต์: 570
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 10:35 pm
ที่อยู่: Bkk
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 08, 2008 11:33 pm

ที่แน่นอนคือใช้ไล่ผีในตัวเราเองได้แน่นอนครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

ศุกร์ พ.ค. 09, 2008 10:22 am

Champkun เขียน: ที่แน่นอนคือใช้ไล่ผีในตัวเราเองได้แน่นอนครับ
ถูกต้องคร๊าบ แต่ต้องอ่านทุกวันนะ จะได้ผลดีเยี่ยมเลย
และถ้าพลีกรรมอดอาหารพร้อมอธิษฐานภาวนา ผีเผ่นแน่บ !  :grin:
ภาพประจำตัวสมาชิก
iBONT
โพสต์: 310
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 06, 2007 1:22 pm
ที่อยู่: ระย๊อง ระยอง
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ค. 09, 2008 11:30 am

อันตน เขียน: คำถามพวกนี้ไม่น่าจะมาถามความเห็น ควรเอาไว้ให้คนที่เพิ่งล้างบาปเพิ่งรับเชื่อถามเพื่อเสริมความเชื่อมากกว่า สำหรับคริสตังหรือคริสเตียนกะลาหนาแล้วนี่จะมาถามความเห็นทำไม อีกอย่างเล่นบอร์ดนี้ก็ไม่น้อย ไม่เคยผ่านตามั่งเหรอ เรื่องพวกนี้หาความเห็นเอาไปทำอะไร ถ้าเกิดพี่น้องท่านใดบอกว่าไม่จริง หรือไม่เชื่อ หรือว่าโทรทัศน์มันโกหกก็จะเป็นที่สะดุดกับอีกหลายๆคน ทั้งๆที่เขาพูดไปตามประสาซื่อ ถ้าเกิดมีพี่น้องทีบอกว่าจริง ใช่เลย ก็อาจมีพี่น้องบางส่วนหรือคนที่เขาไม่เชื่อที่บังเอิญผ่านเข้ามาอ่านบอร์ดก็จะบอกว่าโอ้อวด เชอะ เพ้อเจ้ออะไรก็ว่าไป และก็จะกลายเป็นประเด็นที่เถียงกันไปเถียงกันมาที่หาประโยชน์ต่อจิตวิญญาณไม่ค่อยได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงคนจุดประกายก็น่าสมควรโดนไบเบิ้ลไล่ผีนัก

จะไปสนอะไรมันกันนักกันหนาเรื่องผีเรื่องสาง สนพระดีกว่าแล้วเรื่องผีมันก็จะหายไปจากกะปาลา(ภาษามลายูแปลว่าศีรษะ)เองแหละ

ขอโทษ ที่ติดนิสัยการให้สัมภาษณ์แบบนายกของบางประเทศไปหน่อย
กร๊ากก ตอนแรกคิดว่าพูดจริง ตกใจเลย โหยดุจัง
พอมาดูประโยคสุดท้าย แล้วลองอ่านอีกรอบ
.....



5555555555+ ฮามากกกกกกกกกก เหมือนจริงๆด้วย คิดนานมั้ยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

ศุกร์ พ.ค. 09, 2008 11:36 pm

สิ่งที่มีอำนาจไล่ผีคือ พระวจนะของพระเจ้าในพระคัมภีร์+ความเชื่อ+พระนามพระเยซู+พระวิญญาณบริสุทธิ์(พระจิต)
ไม่ใช่เล่มหนังสือ และการที่เขาใช้พระคัมภีร์วาง(หรืออย่างอื่นที่เกี่ยวกับพระ)
ก็เป็นเพียงเพื่อเป็นสัญลักษณ์สื่อว่าเราเชื่อในเนื้อหาของสิ่งนั้น
ฤทธิ์อำนาจไม่ได้ออกมาจากวัตถุแต่ออกจากสาระของวัตถุ(ความเชื่อ)ค่ะ  :grin:
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

เสาร์ พ.ค. 10, 2008 12:04 am

ไม่ต้องพระคัมภีร์ก้อได้

คนมีพระย่อมไม่กลัวอะไร

^ ^
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

เสาร์ พ.ค. 10, 2008 4:43 pm

ดูทางอิสลามแล้วมาเปรียบเทียบ

หากรู้สึกว่าผีสิง(ที่ทางเค้าจะพเรียกญิน ไม่ก็ชัยฏอน) คำถามแรกจากผู้ใหญ่คือ
"ทำนมาซครบหรือเปล่า"
หากไม่ครบให้ใช้ชีวิตปกติโดยดำรงนมาซ5เวลา หากมันไม่หายก็กรรมวิธีต่อไป

กลับมาที่คริสตชน
ลองถามตัวเองว่า
"เว้นการสวดภาวนาหรือปล่า หรือเราสวดอย่างขอผ่านไปทีบ่อยใหม่"
เพราะผีที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ผีปีศาจภายนอก แต่เป้นความพยศชั่วในใจของตนเอง

ที่สำคัญ
"จงมีความเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร เพราะผใครเล่าจะมาใหญ่กว่าพระเจ้า"
ภาพประจำตัวสมาชิก
13PM.
โพสต์: 428
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 15, 2007 1:54 am
ที่อยู่: ลุ่มแม่น้ำกังตั๋ง

เสาร์ พ.ค. 10, 2008 5:00 pm

ผมว่าไร้สาระคับเรื่อยเปื่อยจิงๆ :angel:
candy

เสาร์ ส.ค. 30, 2008 5:36 pm

เพ้อเจ้อ ไร้สาระ ไม่มีหลักความเป็นจริง ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ไม่มีความเป็นวิทยาศาสตร์ มีแต่คำบอกเล่าจากคนนั้นคนนี้ต่อๆๆๆๆๆๆๆ มา แล้วเรื่องราวก็พิสดารเรื่อยเปื่อย


ธรรมชาติเท่านั้นที่สร้างทุกสิ่ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

เสาร์ ส.ค. 30, 2008 7:49 pm

candy เขียน: เพ้อเจ้อ ไร้สาระ ไม่มีหลักความเป็นจริง ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ไม่มีความเป็นวิทยาศาสตร์ มีแต่คำบอกเล่าจากคนนั้นคนนี้ต่อๆๆๆๆๆๆๆ มา แล้วเรื่องราวก็พิสดารเรื่อยเปื่อย


ธรรมชาติเท่านั้นที่สร้างทุกสิ่ง
แล้วการดำเนินชีวิตของมนุษย์โลกทุกๆวันนี้มิได้เพ้อเจ้อ ไร้สาระ หรือยุติธรรมหรอกหรือ ?
(และบางทีทั้งที่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้  แต่ก็ยังไม่สามารถเอาความผิดต่อผู้ที่มีอิทธิพลตั้งแต่ในสังคมยุคเก่าก่อนจนถึงปัจจุบันได้)

แล้วมนุษย์โลกทุกวันนี้มิได้หลงเชื่อในนวนิยายพิสดาร แปลกประหลาดที่มีสาระน้อยกว่าเรื่องราวความรักที่แสนเรียบง่าย
แต่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์อย่างพระคัมภีร์นั้นเหรอ?


แล้ววิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบันนี้นั้นดีจริงๆ มีทฤษฎีที่ถูกต้อง และสร้างขึ้นมาเพราะความรักนั้นหรอกหรือ?
- วิทยาศาสตร์ส่วนมากในยุคหลังๆนี้สร้างขึ้นมาจากความเห็นแก่ตัว จึงให้ผลลัพธ์ที่เป็นพิษเป็นภัยกับสังคมอย่างมากอย่างที่เห็นได้ใน
ปัจจุบันอย่างที่ท่านกำลังเห็นนี้ และวิทยาศาสตร์ก็เต็มไปด้วยทฤษฎีที่มีการทบล้างกันอยู่ตลอดเวลา ทฤษฎีเก่าไปทฤษฎีใหม่มา
เต็มไปด้วยความผิดพลาด Bug Error ต้องคอยสรรหาวิธีมาอุดอยู่ตลอด เพราะว่าเราอยู่ในจุดยืนแห่งการเรียนรู้ไปข้างหน้า
แต่เป็นการเรียนรู้ไปข้างหน้าอย่างเดียวเท่านั้นเราไม่ได้รู้อะไรหมดทุกอย่าง จึงเรียนรู้เท่าที่คว้าได้ ...และไม่ได้เป็นองค์ความรู้ของคนๆเดียว
แต่เป็นองค์ความรู้ที่ผสมผสานระหว่างหลายๆบุคคล หลายๆความคิด หลายๆยุคสมัย .... จึงเป็นองค์ความรู้ผสมผสานที่มีผิดบ้าง ถูกบ้าง
การทำอะไรที่รุดหน้าเกินกำลังจึงเต็มไปด้วยความผิดพลาดที่นำภัยอันตรายกลับมาสู่ตนเอง

... อย่างที่ท่านเห็นนี้ ถ้าวิทยาศาสตร์ปราศจากความรักแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อันใดเลยในทางฝ่ายวิญญาณ และความรัก
แต่ถ้ามีความรักในวิทยาศาสตร์แล้ว ชีวิตมนุษย์ทุกวันนี้คงดียิ่งขึ้นเป็นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว (ไม่ใช่ความสะดวกสบาย แต่เป็นความสุขทั้งใจและกาย
และการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างแท้จริง)

พระเจ้าเป็นความรัก และพระองค์ก็ทรงรักเรา เพราะเป็นความรักพระองค์จึงเป็นผู้สร้างด้วยในเวลาเดียวกัน.....

ธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่ งดงาม เต็มไปด้วยสิ่งสร้าง และก็เป็นส่วนหนึ่งของพระองค์ด้วย... ธรรมชาติเป็นการประกาศความรักของพระองค์อย่างเป็นรูปธรรม

ลองดูพฤติกรรมของผู้ที่มีความรักในจิตใจดูสิ คนที่มีความรักในจิตใจนั้น ทุกคนเลยมักจะเป็นผู้ให้ ผู้สร้าง ผู้มอบ ผู้เสียสละ...
ลองดูพฤติกรรมของคู่สามีภรรยาที่ดีสิ เขาเหล่านั้นอยากที่จะมีบุตรเพราะบุตรนั้นเป็นความรักที่เกิดขึ้นจากความรักในจิตใจของเขาเป็นพื้นฐาน
เขาอุทิศชีวิตของตนเพื่อรักลูก ดูแลเขา เอาใจใส่เขา ห่วงใยเขา เสียสละเวลาเพื่อเขา เพราะมีพื้นฐานในจิตใจมาจากความรัก

ถ้าไม่มีความรักแล้ว ก็ไม่ค่อยอยากจะมีลูกกัน เพราะไม่อยากเสียสละ ไม่อยากสร้าง ไม่อยากมอบ ไม่อยากให้
.... อยากใช้ชีวิตแบบอิสระ และสนุกสนาน สิ่งเหล่านี้ก็เพราะมี พื้นฐานมาจากความเห็นแก่ตัวในจิตใจทั้งนั้น
(แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนโสด และคนที่มีลูกไม่ได้จะเห็นแก่ตัวเสมอไป กรุณาแยกแยะด้วยเน้อ)

พระคัมภีร์เป็นหนังสือ หรือกระดาษที่บันทึกเรื่องราวที่เป็นภารกิจความรักของพระองค์ที่ทรงริเริ่มมาตั้งแต่ก่อนกาลเวลา
พระคัมภีร์นั้นจะไม่มีคุณค่าอะไรเลย ถ้าหากผู้ที่ใช้มันไม่ได้ใช้ด้วยความรักและความเชื่อในความรักอย่างแท้จริง
พระคัมภีร์เห็นหนังสือที่เป็นตัวแทนให้เราระลึกถึงพระเจ้าอย่างง่ายที่สุด

ลองเปรียบเทียบกันเมื่อเรามองพระคัมภีร์ปุ๊บเรานึกถึงอะไร? ... เมื่อเรามองหนังสือไม่ดี(โป๊)ปุ๊บ เรานึกถึงอะไร?พระคัมภีร์เป็นวัตถุตัวแทนที่ใช้เราให้นึกถึงความรัก ความดี และพระเจ้า และนำพาเราสู่แสงสว่างอย่างเป็นรูปธรรม
หนังสือไม่ดีเป็นวัตถุตัวแทนที่ใช้เราให้นึกถึง ความบาป ความเห็นแก่ตัว ความสนุกสนานฝ่ายตน และนำพาเราสู่ความมืดทีละเล็กละน้อย
(คนที่มีข่าวข่มขืนในหน้าหนังสือพิมพ์ก็มีพฤติกรรมมาจากความบาปเล็กๆน้อยๆนี้กันทั้งนั้น)

*** สำหรับผู้ที่อ่านบทความความคิดเห็นข้างต้นของผมนี้
1. ถ้าคุณเป็นคนมีความรักแล้วคุณจะรู้สึกสุขใจในความรักของพระเจ้าอย่างยิ่ง... เพราะเป็นคนที่อยู่ในจุดยืนที่มองเห็นแสงสว่างและอยู่ในแสงสว่างแล้ว
2. แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่มีความรักแล้ว(ที่บริสุทธิ์ไม่เกี่ยวกับเพศ)  ก็จะรู้สึกอึดอัดกับบทความที่เต็มไปด้วยคำว่า
    "ความรัก" "ความเสียสละ" "และความสว่าง" ...เพราะเป็นคนที่ยังไม่อยากจะมีความรักที่แท้จริงนั่นเอง (แต่สามารถกลับหัวใจได้นะ พวกเรารออยู่)
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

เสาร์ ส.ค. 30, 2008 8:32 pm

candy เขียน: เพ้อเจ้อ ไร้สาระ ไม่มีหลักความเป็นจริง ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ไม่มีความเป็นวิทยาศาสตร์ มีแต่คำบอกเล่าจากคนนั้นคนนี้ต่อๆๆๆๆๆๆๆ มา แล้วเรื่องราวก็พิสดารเรื่อยเปื่อย


ธรรมชาติเท่านั้นที่สร้างทุกสิ่ง
ถ้างั้นชีวิตคุณก็ไม่มีความหมาย ไม่มีอะไรซักอย่าง และคุณเองก็เพ้อเจ้อไปวันๆด้วย เพราะไม่มีอะไรที่เป็นจริง  ::020::
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

อาทิตย์ ส.ค. 31, 2008 10:39 am

เกรียน ::010::

เห็นมั้ยครับทุกท่าน เราเห็นจากลักษณะคำพูดได้เลยว่าพวกไม่มีพระเจ้าเนี่ยเป็นอย่างไร พวกเราในบอร์ดพูดกันอย่างสุภาพ(มีหลุดคิวบ้างนานๆที) แต่ประเภทมากจากข้างนอก พวกที่บอกว่าตัวเองมีเหตุผล คำพูดและประโยคจะหยาบคายและชวนให้รู้สึกไม่ดีเวลาอ่าน

อาเมน :angel:
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

อาทิตย์ ส.ค. 31, 2008 11:24 am

In the name of father เขียน: เกรียน ::010::

เห็นมั้ยครับทุกท่าน เราเห็นจากลักษณะคำพูดได้เลยว่าพวกไม่มีพระเจ้าเนี่ยเป็นอย่างไร พวกเราในบอร์ดพูดกันอย่างสุภาพ(มีหลุดคิวบ้างนานๆที) แต่ประเภทมากจากข้างนอก พวกที่บอกว่าตัวเองมีเหตุผล คำพูดและประโยคจะหยาบคายและชวนให้รู้สึกไม่ดีเวลาอ่าน

อาเมน :angel:

::010:: เห็นครับ อ่านแล้วเอียน อาแมน........
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

อาทิตย์ ส.ค. 31, 2008 7:59 pm

candy เขียน: เพ้อเจ้อ ไร้สาระ ไม่มีหลักความเป็นจริง ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ ไม่มีความเป็นวิทยาศาสตร์ มีแต่คำบอกเล่าจากคนนั้นคนนี้ต่อๆๆๆๆๆๆๆ มา แล้วเรื่องราวก็พิสดารเรื่อยเปื่อย


ธรรมชาติเท่านั้นที่สร้างทุกสิ่ง

ไม่ไหวเลยคนพวกนี้....คนมีพระเปนเจ้ากับคนไม่มีพระเปนเจ้าเนี่ย

"มาตรฐานมันต่างกัน" จริงๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jack Sparrow
โพสต์: 353
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am

อาทิตย์ ส.ค. 31, 2008 8:55 pm

ผีไม่กลัวพระคัมภีร์ แต่ผีกลัวพระเจ้าพระนามพระเจ้าทำให้ผีกลัว ผีกลัวคนทีอ่านพระคัมภีร์แล้วนำไปดำเนินชีวิตแล้วยอมให้พระเจ้าเข้ามาในชีวิตให้พระคัมภีร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตยึดมั่นพระคัมภีร์เป็นหลักในการดำเนินชีวิต ผีชอบใช้พระวาจาในการลวงมนุษย์ให้ติดกับของมัน ผีมักหลอกลวงมนุษย์ด้วยพระคัมภีร์พระคัมภีร์เป็นเครื่องมือหลอกลวงของซาตานได้ดีที่สุด ดังนั้นต้องยึดมั่นในการภาวนาและใกล้ชิดพระเจ้าให้มากๆ ให้พระนำชีวิตอยากให้ความคิดความรู้สึกในการตัดสิน

ข้อความจากพี่โจแซฟผมถามแล้วเขาตอบมาทีละประโยคก็ก๊อบปี้มาวางทีละประโยค ผมถามทำไมไม่ตอนเองเขาบอกให้ผมตอบให้ที ที่จริงให้คุณพี่โจแซฟมาตอบเองจะดีกว่านี้รู้สึกเขาจะเบื่อนิวมานาไม่ยอมเข้ามาตอบ สวดให้คุณโจแซฟเยอะๆ ด้วยครับให้คุณโจแซฟมีสติปัญญาเข้าใจอะไรหลายอย่าง เขายังขากประสบการณ์และทักษะในการดำเนินชีวิตหลายเรื่องทั้งชีวิตกับพระและสิ่งที่จะต้องนำไปดำเนินชีวิตบนโลกนี้ ขอให้พระเจ้าอวยพรทุกๆ ท่านครับ อาแมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Marisa
โพสต์: 8
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 30, 2008 2:31 pm

เสาร์ ก.ย. 06, 2008 10:49 pm

 
    เอ่อ...การไล่ผีบางครั้งก็อาจจะไม่ใช้ไบเบิล  อาจจะ อฐิษฐานเป็นภาษาพระวิณญาณ(คือการอฐิษฐานออกมาเป็นภาษาแปลกๆที่ไม่มีใครแปลออกนอกจากพระเจ้า) ก่อนก็ได้  แต่ในบางทีอาจจะร้องเพลงสรรเสริญ ค่ะ
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

อาทิตย์ ก.ย. 14, 2008 3:57 pm

การใช้พระคัมภีร์ บท สดุดี เป็นบทสรรเสริญพระเจ้า คริสเตียนเชื่อว่า ปีศาจ กลัวเพลง สดุดี เพลง สรรเสริญ เพราะทุกครั้งที่ร้องเพลงสรรเสริญ พระจิต หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จจะลงมาประทับอยู่กับเรา

พระคัมภีร์นั้นเป็นเครื่องมือของปีศาจได้ดีที่สุดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการฟ้องผิดตัวเอง และกล่าวโทษผู้อื่น การคิดไม่ดีกับพระเจ้า หลายครั้งปีศาจก็ใช้พระคัมภีร์เป็นเครื่องมือในการผจัญผู้รับใช้พระเจ้า ถ้าเราฉลาดไม่ทันก็จะคิดว่าพระคัมภีร์พูดอย่างนั้นจริงๆ แม่แต่พระเยซูคริสตเองปีศาจก็ใช้พระคัมภีร์มามาผจัญ

   
มธ 4:2-11


(2) และพระองค์ทรงอดพระกระยาหาร(อดอาหาร)สี่สิบวันสี่สิบคืน ภายหลังพระองค์ทรงอยากพระกระยาหาร(ทรงหิว)

(3) ส่วนผู้ผจัญ(ปีศาจ) มาหาพระองค์ทูนว่า "ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้องหินเหล่านี้ ให้กายเป็นพระกระยาหาร(อาหาร)

(4) ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า มนุษย์จะบำรุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวก็หามิได้ แต่บำรุงด้วยพระวจนะ(พระวาจา)ทุกคำ ซึ่งออกจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า”

(5) แล้วมาร(ปีศาจ)ก็นำพระองค์ไปยังนครบริสุทธิ์(นครศักดิ์สิทธิ์) และให้พระองค์ประทับที่บยอดหลังคาพระวิหาร(วางพระองค์ลงที่ปลายหลังคาพระวิหาร)

(6) แล้วทูลพระองค์ว่า ”ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงโจน(กระโดด)ลงไปเถิด เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า พระเจ้าจะรับสั่งให้เหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์รักษาท่าน  และทูตสวรรค์จะเอามือประคองชูท่านไว้ มิให้เท้าของท่านกระทบหิน"(สดด.21:12)

(7) พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “พระคัมภีร์มีเขียนไว้อีกว่่า อย่าทดลองพระองค์ผู้เป็นเจ้าของท่าน(ฉธบ 6 :16)

(8) อีกครั้งหนึ่งมาร(ปีศาจ) ได้นำพระองค์ขึ้นไปบนภูเขาอันสูงยิ่งนัก และได้แสดงบรรดาราชอาณาจักรในโลก ทั้งความรุ่งเรืองของราชอาณาจักรเหล่านั้น ให้พระองค์ทอดพระเนตร

(9) แล้วได้ทูลพระองค์ว่า "ถ้าท่านจะกราบลงนมัสการเรา เราจะให้สิ่งทั้งปวงเหล่านี้แก่ท่าน"

(10) พระเยซูจึงตรัสตอบว่า "อ้ายซาตาน จงไปเสียให้พ้น เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า จงกราบนมัสการพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าของท่าน และปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว

(11) แล้วมาร(ปีศาจ) จึงละพระองค์ไป และมีเหล่าทูตสวรรค์มาปรนนิบัติพระองค์
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อาทิตย์ ก.ย. 14, 2008 4:10 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
malee
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 18, 2008 2:48 pm

ศุกร์ ก.ย. 19, 2008 2:36 pm

เราไม่เห็นต้องใช้ไบเบิลเลยแต่เราสามารถเอาชนะผีได้ด้วยความเชื่อต่างหากล่ะใช่ป่ะ?? : emo038 : ::013:: :shocked: :police:
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ก.ย. 19, 2008 4:19 pm

malee เขียน: เราไม่เห็นต้องใช้ไบเบิลเลยแต่เราสามารถเอาชนะผีได้ด้วยความเชื่อต่างหากล่ะใช่ป่ะ?? : emo038 : ::013:: :shocked: :police:
ใช่ครับ แต่ต้องเชื่อในพระเจ้าพระองค์เดียวนะครับ ::001::
ตอบกลับโพส