ถามหน่อยหะ ถ้าผมเคยเป็นอิสลามมาไม่เคยกินหมูแล้วมาเข้าคริสต์นี่กินหมูได้ปะหะ
_Tetsuka_ เขียน: ไม่เคยกินหมุแล้วมากินหมูได้ไหม ผิดหรือบาปป่าวหะ
รบกวนบอกทีหะ
กินได้สิครับ ทำไมจะกินไม่ได้ พระเป็นเจ้า(ในแนวทางคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก) ดูเราที่หัวใจ ดูเราที่ความเมตตาต่อผู้อื่น ดูเราที่ความศรัทธาจากหัวใจ ที่ความรักและเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนพี่น้องในสังคม ของกินและข้อกำหนดต่างๆ ไม่ได้เป็นตัววัดความดีในศาสนาเราหรอคครับ ขอบคุณครับ
ขอพระอวยพรคุณครับ
มันแล้วแต่สายอะ เอาให้พี่น้องโปรเตสแตนท์และคาทอลิกมาตอบ
ผมออร์โธด๊อกซ์ครับ
ตามศาสนจักรออร์โธด๊อกซ์ พระเยซูทรงชำระอาหารทุกอย่างให้สะอาดแล้ว(ลองอ่านในมาระโก)แต่สิ่งที่ออกจากเขาต่างหากที่ทำให้เขาเป็นมลทิน แต่ทางออร์โธด๊อกซ์ก็ยังมีกฏหมายศาสนาแต่ไม่เชิงบังคับ คือห้ามกินสัตว์ที่ถวายแด่รูปเคารพ(รวมทั้งของเซ่นไหว้เจ้าด้วย ตรุษจีนผมอดกินหมด) สัตว์ที่ถูกรัดคอตายเพราะเลือดยังค้างอยู่ และเลือดของสัตว์ทุกชนิด แต่เป็นกฏหมายศาสนาเชิงสมัครใจหรือที่ทางอิสลามเรียกสุนนะฮฺหรือมุสตาฮับ ไม่ใช่วาญิบ
และยังมีบางคนที่เป็นคริสตชนแต่ยังถือบัญญัติของศาสดาโมเสสอยู่ พวกสัตว์มีมลทิน
-สัตว์ที่เท้าเป็นกีบแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง
-หมู สุนัข
-กระต่าย
-สัตว์ที่ใช้กงเล็บล่าสัตว์ (เหยี่ยว แมว เสือ ทำนองเนี่ย)
-เลือดสัตว์ทุกชนิด
-สัตว์น้ำที่ไม่มีเกล็ดหรือไม่มีคลีบ(พวกปลาหมึก ปลาดุก หอบ ปู ไม่ได้เลย)
ถ้าให้ละเอียดอ่านเลวีนิติ ผมแยกกลุ่มเพื่อให้จำง่าย
(ตามลิสต์นี้พบว่าสายอิสลามชีอะฮฺก็ตามนี้ ถามน้องมา)
มันเป็นมลทินถ้าทางวิทยาศาสตร์ เพราะสัตว์พวกนี้มีเชื้อโรคสูง และมีพิษเล็กน้อย
สำหรับผมจะเลี้ยงหมู เพราะกระเพราะไม่ค่อยย่อยเลยไม่กินเลย(มา6เดือนแล้ว) ส่วนอื่นๆผมเลี้ยงบ้าง
ดูๆแล้วคงไม่มีใครเอาเหยี่ยว เสือมาขายหรอก(เสือร้องไห้ก็อีกกรณีนึง อร่อยดี)
แต่อย่างว่าแล้วแต่สมัครใจ
แต่การถือบัญญัติเป็น100ข้อจะไม่มีความหมาย ถ้าไม่มีความเชื่อและความรัก
ผมออร์โธด๊อกซ์ครับ
ตามศาสนจักรออร์โธด๊อกซ์ พระเยซูทรงชำระอาหารทุกอย่างให้สะอาดแล้ว(ลองอ่านในมาระโก)แต่สิ่งที่ออกจากเขาต่างหากที่ทำให้เขาเป็นมลทิน แต่ทางออร์โธด๊อกซ์ก็ยังมีกฏหมายศาสนาแต่ไม่เชิงบังคับ คือห้ามกินสัตว์ที่ถวายแด่รูปเคารพ(รวมทั้งของเซ่นไหว้เจ้าด้วย ตรุษจีนผมอดกินหมด) สัตว์ที่ถูกรัดคอตายเพราะเลือดยังค้างอยู่ และเลือดของสัตว์ทุกชนิด แต่เป็นกฏหมายศาสนาเชิงสมัครใจหรือที่ทางอิสลามเรียกสุนนะฮฺหรือมุสตาฮับ ไม่ใช่วาญิบ
และยังมีบางคนที่เป็นคริสตชนแต่ยังถือบัญญัติของศาสดาโมเสสอยู่ พวกสัตว์มีมลทิน
-สัตว์ที่เท้าเป็นกีบแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง
-หมู สุนัข
-กระต่าย
-สัตว์ที่ใช้กงเล็บล่าสัตว์ (เหยี่ยว แมว เสือ ทำนองเนี่ย)
-เลือดสัตว์ทุกชนิด
-สัตว์น้ำที่ไม่มีเกล็ดหรือไม่มีคลีบ(พวกปลาหมึก ปลาดุก หอบ ปู ไม่ได้เลย)
ถ้าให้ละเอียดอ่านเลวีนิติ ผมแยกกลุ่มเพื่อให้จำง่าย
(ตามลิสต์นี้พบว่าสายอิสลามชีอะฮฺก็ตามนี้ ถามน้องมา)
มันเป็นมลทินถ้าทางวิทยาศาสตร์ เพราะสัตว์พวกนี้มีเชื้อโรคสูง และมีพิษเล็กน้อย
สำหรับผมจะเลี้ยงหมู เพราะกระเพราะไม่ค่อยย่อยเลยไม่กินเลย(มา6เดือนแล้ว) ส่วนอื่นๆผมเลี้ยงบ้าง
ดูๆแล้วคงไม่มีใครเอาเหยี่ยว เสือมาขายหรอก(เสือร้องไห้ก็อีกกรณีนึง อร่อยดี)
แต่อย่างว่าแล้วแต่สมัครใจ
แต่การถือบัญญัติเป็น100ข้อจะไม่มีความหมาย ถ้าไม่มีความเชื่อและความรัก
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ พ.ค. 24, 2008 1:58 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
กจ 10:9
วันรุ่งขึ้น ขณะที่เขาทั้งสามคนกำลังเดินทางมาใกล้เมืองยัฟฟา เปโตรขึ้นไปบน ดาดฟ้าของบ้านเพื่อจะอธิษฐานภาวนาเวลาเที่ยง เขารู้สึกหิว ขณะที่คนในบ้านกำลังเตรียมอาหาร เปโตรก็เข้าสู่ภวังค์ และเห็นท้องฟ้าแหวกออก สิ่งหนึ่งคล้ายผ้าผืนใหญ่ถูกมัดไว้ทั้งสี่มุมกำลังถูกหย่อนลงมายังพื้นดิน ในนั้นมีสัตว์นานาชนิด ทั้งสัตว์สี่เท้า สัตว์เลื้อยคลาน และนก มีเสียงหนึ่งพูดกับเขาว่า
วันรุ่งขึ้น ขณะที่เขาทั้งสามคนกำลังเดินทางมาใกล้เมืองยัฟฟา เปโตรขึ้นไปบน ดาดฟ้าของบ้านเพื่อจะอธิษฐานภาวนาเวลาเที่ยง เขารู้สึกหิว ขณะที่คนในบ้านกำลังเตรียมอาหาร เปโตรก็เข้าสู่ภวังค์ และเห็นท้องฟ้าแหวกออก สิ่งหนึ่งคล้ายผ้าผืนใหญ่ถูกมัดไว้ทั้งสี่มุมกำลังถูกหย่อนลงมายังพื้นดิน ในนั้นมีสัตว์นานาชนิด ทั้งสัตว์สี่เท้า สัตว์เลื้อยคลาน และนก มีเสียงหนึ่งพูดกับเขาว่า
กินได้ทุกอยากคับ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเป็นที่พระเจ้าสร้างขึ้น สามารถกินได้นะคับ
แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนคือ ยุคพระเจ้า นั้นจะไม่ทานเลือดทุกชนิด
แต่พอยุคนี้คือยุคพระเยซู สามารถทานได้ทุกอย่างนะคับ
แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนคือ ยุคพระเจ้า นั้นจะไม่ทานเลือดทุกชนิด
แต่พอยุคนี้คือยุคพระเยซู สามารถทานได้ทุกอย่างนะคับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
กินได้ไม่มีข้อห้ามเรื่องความเชื่อแล้วคร้าบ เหมือนพี่โฮลี่ตอบ :cheesy: แต่ถ้าไม่เคยกิน อาจจะไม่ชอบกิน หรือไม่อยากกินเพราะแขยง ก็อย่ากิน
ความบาป ของคริสต์ไม่ใช่อยู่ที่กิน หรือไม่กิน นะครับ :police:
ความบาป ของคริสต์ไม่ใช่อยู่ที่กิน หรือไม่กิน นะครับ :police:
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
กรณีของอิสลามกลับใจเป็นคริสต์ก็ทำนองเดียวกับยิวที่กลับใจมาเป็นคริสต์ คืออะไรที่เคยเป็นข้อห้าม เช่น ห้ามไม่ให้กินนั่นกินนี่
ถ้าเจ้าตัวเข้าใจดีและไม่รู้สึกว่าจิตสำนึกฟ้องก็กินได้ทุกอย่าง เพราะพระเยซูชำระให้หมดแล้ว
และคริสตชนปกติก็กินทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ถ้าจิตสำนึกฟ้องก็ไม่ต้องกิน :cheesy:
และสำหรับเพื่อน(ที่เป็นเคยเป็นยิวหรือมุสลิมแล้วมาเป็นคริสตชนเหมือนกัน)ที่ไปด้วยกันกับเขาและตนเคยกินอยู่ก่อนประจำแล้ว
ถ้ารู้ว่าเขาสะดุดก็ไม่ควรกิน อดสักมื้อไม่นักหนา วันหลังค่อยกินใหม่ได้ ทั้งนี้เห็นแก่จิตสำนึกของพี่น้อง
ถ้าเจ้าตัวเข้าใจดีและไม่รู้สึกว่าจิตสำนึกฟ้องก็กินได้ทุกอย่าง เพราะพระเยซูชำระให้หมดแล้ว
และคริสตชนปกติก็กินทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ถ้าจิตสำนึกฟ้องก็ไม่ต้องกิน :cheesy:
และสำหรับเพื่อน(ที่เป็นเคยเป็นยิวหรือมุสลิมแล้วมาเป็นคริสตชนเหมือนกัน)ที่ไปด้วยกันกับเขาและตนเคยกินอยู่ก่อนประจำแล้ว
ถ้ารู้ว่าเขาสะดุดก็ไม่ควรกิน อดสักมื้อไม่นักหนา วันหลังค่อยกินใหม่ได้ ทั้งนี้เห็นแก่จิตสำนึกของพี่น้อง
เรื่องบาป หรือไม่บาป พี่น้องทุกท่านตอบไปเรียบร้อยแล้วครับ ผมว่าเวลานี้ สิ่งที่ควรกังวลเกี่ยวกับอาหาร น่าจะไม่ใช่เรื่องบาปนะ ผมกังวลและหนักใจเรื่องราคาของอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าครับ
ขอพระอวยพรคุณๆทุกท่านครับผม
ขอพระอวยพรคุณๆทุกท่านครับผม
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
กินไปเต๊อะ
- Moidixmois
- โพสต์: 42
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 17, 2008 7:00 am
- ที่อยู่: In My Memory
- ติดต่อ:
กินได้จ้า ไม่คัน ติดคอกลืนลงไปเลย?