ช่วยตอบทีหะ ผมไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่พระเจ้าทำ
คือผมแรกผมจบมาใหม่อยากทำงานสายการบิน แต่สมัครไปทุกที่ไม่ได้ พักหลังตอนนี้ อยากเป็นอาจารยืภาษาอังกฤษ ก็ไปสมัครก็ไปสัมภาณ์และรอผล
คือ
ตอนนี้ที่ผมไม่เข้าใจว่า ทำไม ผมอยากเป้นอาจารยืแล้ว สิ่งที่ผมอฐิษฐาน พระเจ้าตอบช้า หรอป่าวครับ
ในหลายๆๆอย่างในชีวิตผมนั้นอะ พระเจ้าตอยคำอฐิษฐานช้าเพราะอะไรครับ
คือ
ตอนนี้ที่ผมไม่เข้าใจว่า ทำไม ผมอยากเป้นอาจารยืแล้ว สิ่งที่ผมอฐิษฐาน พระเจ้าตอบช้า หรอป่าวครับ
ในหลายๆๆอย่างในชีวิตผมนั้นอะ พระเจ้าตอยคำอฐิษฐานช้าเพราะอะไรครับ
รม 4:18-25 ความเชื่อของอับราฮัมเป็นแบบฉบับความเชื่อของคริสตชน
แม้ดูเหมือนจะไม่มีความหวัง แต่อับราฮัมก็หวังและเชื่อว่า เขาจะเป็นบิดาของประชาชาติจำนวนมากสมจริงตามพระสัญญาที่ว่า ลูกหลานของเจ้าจะมีจำนวนมากเช่นนั้น แม้เมื่ออับราฮัมคิดว่าร่างกายของตนดูเหมือนตายไปแล้ว ขณะนั้นเขามีอายุหนึ่งร้อยปี และครรภ์ของนางซาราห์ก็นับว่าตายไปแล้วเช่นกัน แต่ความเชื่อของเขาก็ไม่หวั่นไหว เขาไม่สงสัยเพราะความไม่เชื่อในพระสัญญาของพระเจ้า แต่กลับได้รับพละกำลังจากความเชื่อ และถวายเกียรติแด่พระองค์ โดยเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า สิ่งใดที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ พระองค์ย่อมมีพระอำนาจที่จะทำสิ่งนั้นให้เป็นจริงตามพระสัญญาได้ นี่คือความเชื่อซึ่งนับได้ว่าเป็นความชอบธรรมสำหรับเขา ประโยคนี้มิได้เขียนขึ้นโดยหมายถึงอับราฮัมเท่านั้น แต่หมายถึงเราทุกคนด้วย ความเชื่อจะนับได้ว่าเป็นความชอบธรรมสำหรับเราเช่นกัน เพราะเราเชื่อในพระองค์ผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพจากบรรดาผู้ตาย พระเยซูคริสตเจ้าทรงยอมสละพระชนมชีพเพราะบาปของเรา และทรงกลับคืนพระชนมชีพเพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม
แม้ดูเหมือนจะไม่มีความหวัง แต่อับราฮัมก็หวังและเชื่อว่า เขาจะเป็นบิดาของประชาชาติจำนวนมากสมจริงตามพระสัญญาที่ว่า ลูกหลานของเจ้าจะมีจำนวนมากเช่นนั้น แม้เมื่ออับราฮัมคิดว่าร่างกายของตนดูเหมือนตายไปแล้ว ขณะนั้นเขามีอายุหนึ่งร้อยปี และครรภ์ของนางซาราห์ก็นับว่าตายไปแล้วเช่นกัน แต่ความเชื่อของเขาก็ไม่หวั่นไหว เขาไม่สงสัยเพราะความไม่เชื่อในพระสัญญาของพระเจ้า แต่กลับได้รับพละกำลังจากความเชื่อ และถวายเกียรติแด่พระองค์ โดยเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า สิ่งใดที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ พระองค์ย่อมมีพระอำนาจที่จะทำสิ่งนั้นให้เป็นจริงตามพระสัญญาได้ นี่คือความเชื่อซึ่งนับได้ว่าเป็นความชอบธรรมสำหรับเขา ประโยคนี้มิได้เขียนขึ้นโดยหมายถึงอับราฮัมเท่านั้น แต่หมายถึงเราทุกคนด้วย ความเชื่อจะนับได้ว่าเป็นความชอบธรรมสำหรับเราเช่นกัน เพราะเราเชื่อในพระองค์ผู้ทรงบันดาลให้พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพจากบรรดาผู้ตาย พระเยซูคริสตเจ้าทรงยอมสละพระชนมชีพเพราะบาปของเรา และทรงกลับคืนพระชนมชีพเพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. มิ.ย. 19, 2008 5:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
อย่างที่ คุณ Holy ได้ตอบไว้ เราต้องอาศัยความเชื่อ กับความวางใจในพระเจ้าครับ
ความอดทน เป็นสิ่งหนึ่งที่จะพิสูจน์ว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าจะทรงใช้เราได้ครับ
ขอให้อดทนรอ ภาวนา และมีความเชื่อที่มั่นคงครับ
ความอดทน เป็นสิ่งหนึ่งที่จะพิสูจน์ว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าจะทรงใช้เราได้ครับ
ขอให้อดทนรอ ภาวนา และมีความเชื่อที่มั่นคงครับ
สิ่งที่คุณอยาก อาจไม่ตรงกับพระประสงค์ของพระเจ้า
หรือ อาจจะตรงก็ได้ เเต่ยังไม่ถึงเวลาที่ดีที่สุด
อาการเดียวกับ พ่อซื้อของขวัญมา กะว่าจะมอบให้ลูกเป็นของขวัญวันเกิด เเต่กว่าจะถึงวันเกิดลูกก็อีกประมาณ2อาทิตย์ พ่อก็เลยเก็บไว้ก่อน
ดังนั้นขอให้คุณ สวดต่อไป...
ขอให้ใช้ความอดทนมากกว่านี้ค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพร
หรือ อาจจะตรงก็ได้ เเต่ยังไม่ถึงเวลาที่ดีที่สุด
อาการเดียวกับ พ่อซื้อของขวัญมา กะว่าจะมอบให้ลูกเป็นของขวัญวันเกิด เเต่กว่าจะถึงวันเกิดลูกก็อีกประมาณ2อาทิตย์ พ่อก็เลยเก็บไว้ก่อน
ดังนั้นขอให้คุณ สวดต่อไป...
ขอให้ใช้ความอดทนมากกว่านี้ค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพร
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
จงแสวงหาน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า และความเที่ยงตรงของพระองค์ แล้วทุกๆ สิ่งจะบังเกิดแก่ตัวของท่าน อัลเลลู อัลเลลูยา
พระอวยพร
พระอวยพร
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยนะครับ
พระองค์ทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดให้แล้วแน่นอนครับ บางครั้งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราหวังครับ
ขอพระอวยพร
พระองค์ทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดให้แล้วแน่นอนครับ บางครั้งอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราหวังครับ
ขอพระอวยพร
-
- โพสต์: 363
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 12, 2008 10:21 pm
- ที่อยู่: World
โปรดจงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราครับ ^^
ท่านมีทางที่จะวางไว้ให้เสมอ
ทุกอย่างจะเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ครับผม ^^
ท่านมีทางที่จะวางไว้ให้เสมอ
ทุกอย่างจะเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ครับผม ^^
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
++++ ได้ดังประสงค์ แต่ไม่สมปรารถนา ++++
ฉันวอนขอกำลังเพื่อฉันจะได้ประสบความสำเร็จ,
แต่พระองค์ทรงโปรดให้ฉันอ่อนแอเพื่อฉันจะได้รู้จักถ่อมตนยอมนบนอบ
ฉันวอนขอสุขภาพที่ดีเพื่อฉันจะได้กระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า,
แต่พระองค์ทรงโปรดให้ฉันเจ็บป่วยเพื่อฉันจะได้กระทำสิ่งที่ดีกว่า
ฉันวอนขอความร่ำรวยเพื่อฉันจะได้มีความสุข,
แต่พระองค์ทรงโปรดให้ฉันยากจนเพื่อฉันจะได้เป็นคนฉลาด
ฉันวอนขออำนาจเพื่อมนุษย์จะได้ชมเชยฉัน,
แต่พระองค์ทรงประทานความอ่อนแอเพื่อฉันจะได้สำนึกว่าฉันต้องการพระเป็นเจ้า
ฉันวอนขอทุกสิ่งเพื่อฉันจะได้มีความสุขในชีวิต,
แต่พระองค์ทรงประทานชีวิตเพื่อให้ฉันมีความสุขในทุกสิ่ง
ฉันไม่เคยได้รับสิ่งใดที่ฉันขอ แต่กลับได้รับทุกสิ่งที่ปรารถนา
คำภาวนาของฉันได้รับคำตอบ แม้ตัวฉันจะเป็นอุปสรรค
แต่ฉันก็เป็นหนึ่งในจำนวนมนุษย์ที่ได้รับพระพรมากที่สุด
+++++++++++
ข้าแต่พระเจ้า บางครั้ง.....
พระองค์ยอมให้เกิดการแตกหัก
เพื่อพระองค์จะได้สร้างใหม่
พระองค์ยอมให้เกิดบาดแผล
เพื่อพระองค์จะได้รักษา
พระองค์ยอมให้ลูกเดินในที่มืด
เพื่อลูกจะได้เห็นแสงสว่างของพระองค์
พระองค์ยอมให้ลูกเกิดฉงนสงสัย
เพื่อลูกจะได้แสวงหาความจริง
พระองค์ยอมให้ลูกว่างเปล่า
เพื่อพระองค์จะได้เติมเต็ม
พระองค์ยอมให้ลูกเดียวดาย
เพื่อลูกจะได้ตระหนักถึงมิตรภาพของพระองค์
พระองค์ยอมให้ลูกเรียนรู้ความยากลำบาก
เพื่อลูกจะได้เป็นครูที่อ่อนหวาน
พระองค์ยอมให้เกิดความรู้สึกอ้างว้าง
เพื่อลูกจะได้เรียนรู้ที่จะเดินในความเชื่อ
พระองค์ยอมให้ลูกทนทรมานจากความเจ็บปวด
เพื่อลูกจะได้เข้าใจ และเห็นใจถึงความเจ็บปวดของคนอื่นด้วย
ฉันวอนขอกำลังเพื่อฉันจะได้ประสบความสำเร็จ,
แต่พระองค์ทรงโปรดให้ฉันอ่อนแอเพื่อฉันจะได้รู้จักถ่อมตนยอมนบนอบ
ฉันวอนขอสุขภาพที่ดีเพื่อฉันจะได้กระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า,
แต่พระองค์ทรงโปรดให้ฉันเจ็บป่วยเพื่อฉันจะได้กระทำสิ่งที่ดีกว่า
ฉันวอนขอความร่ำรวยเพื่อฉันจะได้มีความสุข,
แต่พระองค์ทรงโปรดให้ฉันยากจนเพื่อฉันจะได้เป็นคนฉลาด
ฉันวอนขออำนาจเพื่อมนุษย์จะได้ชมเชยฉัน,
แต่พระองค์ทรงประทานความอ่อนแอเพื่อฉันจะได้สำนึกว่าฉันต้องการพระเป็นเจ้า
ฉันวอนขอทุกสิ่งเพื่อฉันจะได้มีความสุขในชีวิต,
แต่พระองค์ทรงประทานชีวิตเพื่อให้ฉันมีความสุขในทุกสิ่ง
ฉันไม่เคยได้รับสิ่งใดที่ฉันขอ แต่กลับได้รับทุกสิ่งที่ปรารถนา
คำภาวนาของฉันได้รับคำตอบ แม้ตัวฉันจะเป็นอุปสรรค
แต่ฉันก็เป็นหนึ่งในจำนวนมนุษย์ที่ได้รับพระพรมากที่สุด
+++++++++++
ข้าแต่พระเจ้า บางครั้ง.....
พระองค์ยอมให้เกิดการแตกหัก
เพื่อพระองค์จะได้สร้างใหม่
พระองค์ยอมให้เกิดบาดแผล
เพื่อพระองค์จะได้รักษา
พระองค์ยอมให้ลูกเดินในที่มืด
เพื่อลูกจะได้เห็นแสงสว่างของพระองค์
พระองค์ยอมให้ลูกเกิดฉงนสงสัย
เพื่อลูกจะได้แสวงหาความจริง
พระองค์ยอมให้ลูกว่างเปล่า
เพื่อพระองค์จะได้เติมเต็ม
พระองค์ยอมให้ลูกเดียวดาย
เพื่อลูกจะได้ตระหนักถึงมิตรภาพของพระองค์
พระองค์ยอมให้ลูกเรียนรู้ความยากลำบาก
เพื่อลูกจะได้เป็นครูที่อ่อนหวาน
พระองค์ยอมให้เกิดความรู้สึกอ้างว้าง
เพื่อลูกจะได้เรียนรู้ที่จะเดินในความเชื่อ
พระองค์ยอมให้ลูกทนทรมานจากความเจ็บปวด
เพื่อลูกจะได้เข้าใจ และเห็นใจถึงความเจ็บปวดของคนอื่นด้วย
ผมจะเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง
มีชายคนหนึ่งซึ่งบ้านของเค้าถูกน้ำท่วม เมื่อเพื่อนบ้านเค้าจะจากไปก็ได้ชวนชายคนนั้นมาด้วย ชายคนนั้นกลับบอกว่า ไม่!ข้าจะรอให้พระเจ้ามาช่วย
แล้วน้ำก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ชายอีกคนบนหลังอูฐผ่านมาบอกว่า นี่เจ้า!มาเถอะเอาตัวรอดซี่.. เค้าบอกว่าไม่!ข้าจะรอพระเจ้ามาช่วย ต่อมาน้ำก็ท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน
ชายคนหนึ่งพายเรือผ่านมา เค้าก็ยังปฏิเสธที่จะลงเรือพร้อมยืนยันคำเดิมว่า ข้าจะรอให้พระเจ้ามาช่วย!
และสุดท้ายเค้าก็จมน้ำตาย.....
เค้ารู้สึกโกรธมากเมื่อได้พบพระเจ้า เค้าถามพระองค์ว่า ทำไม!..พระองค์จึงไม่ช่วยข้า ทำไมถึงปล่อยให้ข้าจมน้ำตาย
พระเจ้าตอบว่า.. ข้าส่งเพื่อนบ้านไปให้ ข้าส่งอูฐไปให้ ข้าส่งเรือไปให้ แล้วเจ้า..ยังต้องการอะไรอีก
มีชายคนหนึ่งซึ่งบ้านของเค้าถูกน้ำท่วม เมื่อเพื่อนบ้านเค้าจะจากไปก็ได้ชวนชายคนนั้นมาด้วย ชายคนนั้นกลับบอกว่า ไม่!ข้าจะรอให้พระเจ้ามาช่วย
แล้วน้ำก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ชายอีกคนบนหลังอูฐผ่านมาบอกว่า นี่เจ้า!มาเถอะเอาตัวรอดซี่.. เค้าบอกว่าไม่!ข้าจะรอพระเจ้ามาช่วย ต่อมาน้ำก็ท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน
ชายคนหนึ่งพายเรือผ่านมา เค้าก็ยังปฏิเสธที่จะลงเรือพร้อมยืนยันคำเดิมว่า ข้าจะรอให้พระเจ้ามาช่วย!
และสุดท้ายเค้าก็จมน้ำตาย.....
เค้ารู้สึกโกรธมากเมื่อได้พบพระเจ้า เค้าถามพระองค์ว่า ทำไม!..พระองค์จึงไม่ช่วยข้า ทำไมถึงปล่อยให้ข้าจมน้ำตาย
พระเจ้าตอบว่า.. ข้าส่งเพื่อนบ้านไปให้ ข้าส่งอูฐไปให้ ข้าส่งเรือไปให้ แล้วเจ้า..ยังต้องการอะไรอีก
แก้ไขล่าสุดโดย 13PM. เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 20, 2008 12:36 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อดทนรอครับ เพราะผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงเตรียมทางที่ดีที่สุดไว้ให้สำหรับเราทุกคนแน่นอนครับ
เพราะผมก็เป็นแบบคุณมาเมื่อไม่นานนี้เหมือนกัน ช่วงแรกๆท้อที่เหมือนว่าพระองค์ไม่ตอบรับเราเหรอ ป่าวเลยอ่ะครับพระองค์มอบทางที่ดีกว่าจริงๆ ผมจึงอธิษฐานบทวอนขอพระเยซูเจ้าทุกวัน เพื่อขอบคุณพระเป็นเจ้า โดยไม่ต้องร้อนรนในใจ ขอบคุณพระองค์ไปในทุกๆวันล่ะคับ ในที่สุดผมดีใจที่ตอนนี้ผมได้ทำงานที่ๆผมอยากทำจริงๆล่ะคับ ถ้าเรามัวแต่ไปคิด คาดหวังกะเกณฑ์ด้วยความต้องการของเราเอง เราเองที่จะกระวนกระวายใจ จงอย่ากระวนกระวานใจไปเลยคับ พระเจ้าไม่ทอดทิ้งคุณหรอกคับ
พระเจ้าอวยพรนะคับ
เพราะผมก็เป็นแบบคุณมาเมื่อไม่นานนี้เหมือนกัน ช่วงแรกๆท้อที่เหมือนว่าพระองค์ไม่ตอบรับเราเหรอ ป่าวเลยอ่ะครับพระองค์มอบทางที่ดีกว่าจริงๆ ผมจึงอธิษฐานบทวอนขอพระเยซูเจ้าทุกวัน เพื่อขอบคุณพระเป็นเจ้า โดยไม่ต้องร้อนรนในใจ ขอบคุณพระองค์ไปในทุกๆวันล่ะคับ ในที่สุดผมดีใจที่ตอนนี้ผมได้ทำงานที่ๆผมอยากทำจริงๆล่ะคับ ถ้าเรามัวแต่ไปคิด คาดหวังกะเกณฑ์ด้วยความต้องการของเราเอง เราเองที่จะกระวนกระวายใจ จงอย่ากระวนกระวานใจไปเลยคับ พระเจ้าไม่ทอดทิ้งคุณหรอกคับ
พระเจ้าอวยพรนะคับ
ก็มีทั้งอธิฐานขอเพราะความเชื่อน้อย กับอธิฐานไม่ถูกประสงค์กับที่พระเจ้าต้องการให้เป็น
พี่ก็เล่านิทานให้ฟังเช่นกัน มีพ่อคนหนึ่งอยู่บ้านหลังหนึ่งกับลูกชายสามคน วันนั้นอากาศหนาวจัดแล้วฟื้นก็ไม่พอที่จะเผาถ้าออกไปตัดฟืนตอนนี้ก็ไม่ได้แน่ เพราะอากาศข้างนอกหนาวเหลือเกิน และแล้วบิดาก็นึกขึ้นได้ว่าที่ห้องเก็บของมี เก้าอี้เก่าใช้ไม่ได้แล้วอยู่สามตัว จึงบอกให้ลุกชายสามคนช่วยกันรื้อถอนเก้าอีกสามตัวนั้นออก ลูกชายคนแรกรื้อถอนได้อย่างรวดเร็ว คนที่สองถอนพักหนึ่งจึงออก ส่วนคนที่สามถอนยังไงก็ถอนไม่ออก
ที่ถอนไม่ออกไม่ใช่ว่าเก้าอี้นั่นตอกแน่นหนากว่ากัน แต่ว่าอยู่ที่คนถอนเก้าอีไม่รู้จักวิธีการถอน
ว่าถอนอย่างไรมันจึงจะถอนออก ชีวิตภาวนาก็เช่นกันก็ต้อบรู้ว่าอะไรตรงกับจุดประสงค์ที่พระเจ้าประทานพร
พี่ก็เล่านิทานให้ฟังเช่นกัน มีพ่อคนหนึ่งอยู่บ้านหลังหนึ่งกับลูกชายสามคน วันนั้นอากาศหนาวจัดแล้วฟื้นก็ไม่พอที่จะเผาถ้าออกไปตัดฟืนตอนนี้ก็ไม่ได้แน่ เพราะอากาศข้างนอกหนาวเหลือเกิน และแล้วบิดาก็นึกขึ้นได้ว่าที่ห้องเก็บของมี เก้าอี้เก่าใช้ไม่ได้แล้วอยู่สามตัว จึงบอกให้ลุกชายสามคนช่วยกันรื้อถอนเก้าอีกสามตัวนั้นออก ลูกชายคนแรกรื้อถอนได้อย่างรวดเร็ว คนที่สองถอนพักหนึ่งจึงออก ส่วนคนที่สามถอนยังไงก็ถอนไม่ออก
ที่ถอนไม่ออกไม่ใช่ว่าเก้าอี้นั่นตอกแน่นหนากว่ากัน แต่ว่าอยู่ที่คนถอนเก้าอีไม่รู้จักวิธีการถอน
ว่าถอนอย่างไรมันจึงจะถอนออก ชีวิตภาวนาก็เช่นกันก็ต้อบรู้ว่าอะไรตรงกับจุดประสงค์ที่พระเจ้าประทานพร
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 21, 2008 9:03 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระเจ้าท่านทรง กำหนดชีวิตมนุษย์และ ให้พรแก่มนุษย์ เมื่อมนุษย์ ทำดีนะครับ พระเจ้าทรงเห็นเรา ทุกที่ว่าเราทำอะไร แต่ พระเจ้าท่านอาจจะให้ ชีวิตเราไปทางที่ดีกว่า ที่เป็นอยู่ก็ได้นะครับ แล้วผมจะสวดภาวนา ให้ด้วยนะ เพื่อ พี่น้องชาวคริสต์ พระอวยพรครับ
มนุษย์ก็เป็นแบบนี้ พอขออะไรก็จะต้องให้ได้ด่วนได้เร็วทุกอย่าง
แต่พอเรื่องอะไรที่พระขอให้ทำให้ก็ผลัดวันประกันพรุ่งทุกที
ไว้ใจในพระเถอะครับ ไม่มีพ่อคนไหนที่ใจแข็งพอจะไม่ให้ในสิ่งที่ลูกต้องการหรอกครับ
เพียงแต่ว่าจะมาเมื่อไหร่ ในรูปแบบไหน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมครับ
แต่พอเรื่องอะไรที่พระขอให้ทำให้ก็ผลัดวันประกันพรุ่งทุกที
ไว้ใจในพระเถอะครับ ไม่มีพ่อคนไหนที่ใจแข็งพอจะไม่ให้ในสิ่งที่ลูกต้องการหรอกครับ
เพียงแต่ว่าจะมาเมื่อไหร่ ในรูปแบบไหน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมครับ
น้องเคยถูกพ่อแม่บังคับให้กินผักไหม_Tetsuka_ เขียน: ตอนนี้ที่ผมไม่เข้าใจว่า ทำไม ผมอยากเป้นอาจารยืแล้ว สิ่งที่ผมอฐิษฐาน พระเจ้าตอบช้า หรอป่าวครับ
ในหลายๆๆอย่างในชีวิตผมนั้นอะ พระเจ้าตอยคำอฐิษฐานช้าเพราะอะไรครับ
ผักไม่เห็นอร่อยเลย แต่ก็ต้องกิน
แม่ทำด้วยความรัก มาบังคับให้กิน
เพื่อประโยชน์ของใคร
Do you understand?
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
เห็นด้วยคับนิทานนิพนธ์ของคุณโจแซฟ ฟังแล้วผมสรุปออกมาได้ดังนี้
1. ขอแล้วได้ผมทันที
2. ขอแล้วนานหน่อยแต่ได้
3. ขอแล้วไม่ได้เลย
1. ขอแล้วได้ผมทันที
2. ขอแล้วนานหน่อยแต่ได้
3. ขอแล้วไม่ได้เลย
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
ผมเล่าเรื่องโจรสลัดบ้าง ตอนแรกผมถูกบาร์บอสซ่ามัดให้อยู่บนเกาะแล้วถ้าตอนนั้นผมสวดขอพระว่า ข้าแต่พระเจ้าอย่าให้ผมต้องถูกปล่อยเกาะเลย แต่พระเจ้าก็ให้ผมถูกปล่อยเกาะ สมใจยากแล้วสิพระเจ้าลูกขอให้อย่าโดนปล่อยเกาะก็โดน ปรากฏว่าพวกที่ไปกับเรือโดนคำสาปเป็นโครงกระดูกหมดครึ่งคนครึ่งผี กินก็ไม่ได้ เหอๆ แถมเกาะนั้นยังเป็นที่เก็บเหล้าเถื่อนอีกผมได้ดื่มเหล้าอิ่มไปเลย พอพวกขนเหล้าเถื่อนมาก็ได้กลับแผ่นดินอย่างปลอดภัยแล้ววางแผนกู้เรือคืนจากบาร์บอสซ่า
ยกนิทานในหนังมาอ้างอิงให้ฟังครับ อิอิ สอนให้รู้ว่า พระเจ้ามีแผนการที่เราคิดไม่ถึงเสมอ อย่าคิดว่าไรสาระนะพี่น้อง
ยกนิทานในหนังมาอ้างอิงให้ฟังครับ อิอิ สอนให้รู้ว่า พระเจ้ามีแผนการที่เราคิดไม่ถึงเสมอ อย่าคิดว่าไรสาระนะพี่น้อง
ผมได้แหวนวิเศษมาอันนึงใส่แล้วมันหายตัวได้ แต่เจ้าของแหวนมันตามทวงคืน ผมเลยต้องเอาไปทำลายในปล่องภูเขาไฟ จากนั้นก็ได้รู้ว่าจอมมารกลับคืนชีพและกำลังรวบรวมพรรคพวกเพื่อตามล้างแค้นเด็กน้อยที่เคยเอาชนะจอมมาร ใครจะไปรู้ว่าหลังตู้เสื้อผ้าจะมีอีกโลกนึง
คำตอบของแจ็ค คือสิ่งที่พระเจ้าไม่ให้แต่บางที่พระเจ้ารู้ดีว่าเราว่าให้แล้วอาจจะเป็นภัย อย่างคนทำงานที่คิดจะเดินทางกลับต่างจังหวัดแต่เผอิญไปติดธุระอะไรบางอย่างเลยทำให้ไปถึงรถไฟขบานนั้นช้า ก็ขอพระเจ้าว่า ข้าแต่พระเจ้าโปรดให้ข้าพระองค์ไปถึงรถไฟขบวนนั้นทันด้วยเถอะ แต่ว่าไปไม่ทันรถไฟออกไปเสียแล้ว ก็กลับรู้สึกน้อยใจพระเจ้าอยู่ในใจ แต่ปรากฏว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาได้ยินข่าวแจ้งมาว่ารถไฟขบวนนั้นได้ประสบอุบัติเหตุ เขาจึงนึกได้ก็ขอบคุณพระเจ้า ก็มีนะคนที่เจอปัญหาแบบนี้มีได้บ่อยๆ ไป
ใช่คะ เรื่องนี้คือเรื่องจริงที่เจอมากับตัวเองJoseph เขียน: คำตอบของแจ็ค คือสิ่งที่พระเจ้าไม่ให้แต่บางที่พระเจ้ารู้ดีว่าเราว่าให้แล้วอาจจะเป็นภัย อย่างคนทำงานที่คิดจะเดินทางกลับต่างจังหวัดแต่เผอิญไปติดธุระอะไรบางอย่างเลยทำให้ไปถึงรถไฟขบานนั้นช้า ก็ขอพระเจ้าว่า ข้าแต่พระเจ้าโปรดให้ข้าพระองค์ไปถึงรถไฟขบวนนั้นทันด้วยเถอะ แต่ว่าไปไม่ทันรถไฟออกไปเสียแล้ว ก็กลับรู้สึกน้อยใจพระเจ้าอยู่ในใจ แต่ปรากฏว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาได้ยินข่าวแจ้งมาว่ารถไฟขบวนนั้นได้ประสบอุบัติเหตุ เขาจึงนึกได้ก็ขอบคุณพระเจ้า ก็มีนะคนที่เจอปัญหาแบบนี้มีได้บ่อยๆ ไป
เมื่อกลางปีที่เกิดสึนามิ ได้เซ็นสัญญาออกแบบห้องสปาให้กับรีสอรท์แห่งหนึ่งในเขาหลัก รีสอรท์ห่างจากทะเลเพียง 600 เมตร
ในสัญญานั้นระบุการทำงานรับเงินเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกเขียนแบบเสร็จ รับเงินค่าเขียนแบบ ช่วงสอง คุ้มงานก่อสร้าง
ซึ่งต้องย้ายจากกรุงเทพไปอยู่ที่โน้นเลย คิดคำนวนว่าน่าจะใช้เวลา1-2 ปี กว่าจะสำเร็จ บ้าน 28 หลัง
ช่วงแรกผ่านไปด้วยดี ปลายเดือน พย.ลงไปดูไซด์งานอีกที เตรียมขนย้ายของจากกรุงเทพไปพักในรีสอรท์ต้นเดือนธันวาคม
ระหว่างนั้นเจ้าของรีสอรท์แจ้งมาว่าขอเลื่อนการเวลาการก่อสร้างไปก่อนแบบไม่มีกำหนดเพราะมีปัญหาเรื่องนำ้กร่อย
(ต้องตั้งโรงงานเปลี่ยนนำ้กร่อยให้เป็นนำ้จืดก่อน) ไม่งั้นอุปกรณ์ที่ใช้ในสปาจะเสียหาย
ในใจก็คิดแปลกใจว่าเค้าไม่รู้มาก่อนเหรอว่านำ้มันกร่อย อีตอนสร้างตัวตึกก็สร้างมาได้ยังไง
ประมาณ วันที่ 15 ธันวาคม ลงไปเขาหลักอีกครั้ง เช็คราคาวัสดุในพื้นที่และเตรียมสั่งของ เพื่อจะเริ่มงานหลังปีใหม่
แล้วก็กลับขึ้นมากรุงเทพวันที่ 20 ธ.ค.ไปเยี่ยมคุณแม่ของเพื่อนที่เพชรบูรณ์ กะรำ่ลาด้วย จะย้ายของและไปช่วงสิ้นปี ได้ฉลองปีใหม่ที่โน้นเลย
เจ้าของรีสอรท์โทรมาบอกให้เข้าไซด์งานหลังวันที่ 15 มค.เลย เพราะจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวเชียงใหม่
แม่เพื่อนขอร้องให้อยู่ต่ออีก 1 อาทิตย์ ครอบครัวของคุณแม่เป็นคาทอลิกคะ
ใจของเราลึกๆตอนนั้นรู้สึกว่า...อะไรเนี๊ย ทำไม ทำอะไรมันก็มีเหตุขัดขวางวุ่นวายไปหมด ใจน่ะไปแล้วเขาหลัก
วิวก็สวย ทะเลก็สวย ไฝ่ฝันมานานจะกลับมาทำงานที่ตัวเองเรียนมาในบรรยากาศดีๆอย่างนี้
ครั้งแรกที่ไปคุยกับเจ้าของรีสอร์ท รีบตอบรับทันทีที่เค้าชวน เซ็นสัญญาเลย กลับมากรุงเทพ เขียนแบบทุกๆวัน ทำงานอย่างมีความสุขมาก
3 อาทิตย์เสร็จ ส่งแบบ เขาโอนเงินมาให้ ใจพองโต กะว่าจะได้เดินเล่นริมหาดทุกวัน กลิ่นทะเลหอมชื่นใจ เตรียมจัดข้าวของหลายอย่าง
บางอย่างย้ายไปฝากไว้บ้านพี่ที่รู้จักกัน จัดการบอกคืนคอนโดที่เช่าไว้ ต้องแจ้งเค้าล่วงหน้า
ในใจกังวลเพียงอย่างเดียวคือ อยากเรียนคำสอนคาทอลิก อยากรู้จักพระเยซูเจ้า ไม่ใช่แค่จากในหนังสือ
แต่ยังไม่มีโอกาสเรียน ยังไม่มีโอกาสได้รู้จักพระองค์เลย และถ้าไปอยู่เขาหลัก จะเรียนที่ไหน
หลังจากเกิดสึนามิ คิดอยากทำบุญให้กับฝรั่งที่เสียชีวิตสูญหายในครั้งนั้น แล้วก็คิดว่า "เอ..ถ้าเราทำบุญแบบพุทธ
เค้าเป็นคริสต์ เค้าจะได้บุญมั้ยนะ" พอดีมีพี่ที่รู้จักกันทำงานที่อุดมสาส์น เลยโทรไปถามเค้า เค้าบอกว่า ถ้าเป็นวันนี้ ต้องไปที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ
อยู่ซอยเจริญกรุง 40 ซอยเดียวกับโรงแรมโอเรนเตล พี่เค้าให้นั่ง BTS ไปลงที่สถานีศาลาแดง (สีลม) และเดินมาวัด มาถึงได้ทำบุญสมใจ
ที่สำคัญคือ เห็นป้ายกระดาษเรียนคำสอนคาทอลิก !!
สรุป...จบเลย ไม่ได้ไปเขาหลัก ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น
แต่ได้มาเรียนคำสอนกับคุณพ่อวีระ อาภรณ์รัตน์ และคุณครูทัศนีย์ มธุรสสุวรรณ ที่อัสสัมชัญ บางรัก
ได้รู้จักความรักขององค์พระคริสตเจ้า เรียนจนจบคอร์ส รับศีลล้างบาป รับศีลมหาสนิทมาเป็นลูกพระอยู่ทุกวันนี้ เพราะพระองค์แท้ๆที่ช้อนเอา
"ลูกแกะดำตัวใหญ่จากคลื่นสึนามิ"
ขอถวายพระเกียรติแด่ องค์พระบิดา พระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรแต่เพียงพระองค์เดียวของพระองค์ และพระจิตเจ้า ข้าแต่พระมารดาที่น่ารักยิ่ง
นักบุญยอแซฟ และนักบุญทั้งหลายชายหญิงของพระเจ้า
อาเมน
แล้วภูเขาไฟก็หายไป พร้อมจอมมาร คิคิ (คนใส่ยังหายภูเขาไฟใส่ก็ต้องหาย หามะเจอด้วยนะ ชนะแล้วเรื่องนี้ก็จบ) แล้วหลังตู้เสื้อผ้ามีโลกของตุ๊กแก(มันเข้าไปทำรัง) น่ากลัวมากครับ สยอง งิงิ สร้างสรรค์ แบบ กวนๆjoruno เขียน: ผมได้แหวนวิเศษมาอันนึงใส่แล้วมันหายตัวได้ แต่เจ้าของแหวนมันตามทวงคืน ผมเลยต้องเอาไปทำลายในปล่องภูเขาไฟ จากนั้นก็ได้รู้ว่าจอมมารกลับคืนชีพและกำลังรวบรวมพรรคพวกเพื่อตามล้างแค้นเด็กน้อยที่เคยเอาชนะจอมมาร ใครจะไปรู้ว่าหลังตู้เสื้อผ้าจะมีอีกโลกนึง
แก้ไขล่าสุดโดย Davud เมื่อ พุธ มิ.ย. 25, 2008 10:59 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ignatius เขียน:ใช่คะ เรื่องนี้คือเรื่องจริงที่เจอมากับตัวเองJoseph เขียน: คำตอบของแจ็ค คือสิ่งที่พระเจ้าไม่ให้แต่บางที่พระเจ้ารู้ดีว่าเราว่าให้แล้วอาจจะเป็นภัย อย่างคนทำงานที่คิดจะเดินทางกลับต่างจังหวัดแต่เผอิญไปติดธุระอะไรบางอย่างเลยทำให้ไปถึงรถไฟขบานนั้นช้า ก็ขอพระเจ้าว่า ข้าแต่พระเจ้าโปรดให้ข้าพระองค์ไปถึงรถไฟขบวนนั้นทันด้วยเถอะ แต่ว่าไปไม่ทันรถไฟออกไปเสียแล้ว ก็กลับรู้สึกน้อยใจพระเจ้าอยู่ในใจ แต่ปรากฏว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาได้ยินข่าวแจ้งมาว่ารถไฟขบวนนั้นได้ประสบอุบัติเหตุ เขาจึงนึกได้ก็ขอบคุณพระเจ้า ก็มีนะคนที่เจอปัญหาแบบนี้มีได้บ่อยๆ ไป
เมื่อกลางปีที่เกิดสึนามิ ได้เซ็นสัญญาออกแบบห้องสปาให้กับรีสอรท์แห่งหนึ่งในเขาหลัก รีสอรท์ห่างจากทะเลเพียง 600 เมตร
ในสัญญานั้นระบุการทำงานรับเงินเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกเขียนแบบเสร็จ รับเงินค่าเขียนแบบ ช่วงสอง คุ้มงานก่อสร้าง
ซึ่งต้องย้ายจากกรุงเทพไปอยู่ที่โน้นเลย คิดคำนวนว่าน่าจะใช้เวลา1-2 ปี กว่าจะสำเร็จ บ้าน 28 หลัง
ช่วงแรกผ่านไปด้วยดี ปลายเดือน พย.ลงไปดูไซด์งานอีกที เตรียมขนย้ายของจากกรุงเทพไปพักในรีสอรท์ต้นเดือนธันวาคม
ระหว่างนั้นเจ้าของรีสอรท์แจ้งมาว่าขอเลื่อนการเวลาการก่อสร้างไปก่อนแบบไม่มีกำหนดเพราะมีปัญหาเรื่องนำ้กร่อย
(ต้องตั้งโรงงานเปลี่ยนนำ้กร่อยให้เป็นนำ้จืดก่อน) ไม่งั้นอุปกรณ์ที่ใช้ในสปาจะเสียหาย
ในใจก็คิดแปลกใจว่าเค้าไม่รู้มาก่อนเหรอว่านำ้มันกร่อย อีตอนสร้างตัวตึกก็สร้างมาได้ยังไง
ประมาณ วันที่ 15 ธันวาคม ลงไปเขาหลักอีกครั้ง เช็คราคาวัสดุในพื้นที่และเตรียมสั่งของ เพื่อจะเริ่มงานหลังปีใหม่
แล้วก็กลับขึ้นมากรุงเทพวันที่ 20 ธ.ค.ไปเยี่ยมคุณแม่ของเพื่อนที่เพชรบูรณ์ กะรำ่ลาด้วย จะย้ายของและไปช่วงสิ้นปี ได้ฉลองปีใหม่ที่โน้นเลย
เจ้าของรีสอรท์โทรมาบอกให้เข้าไซด์งานหลังวันที่ 15 มค.เลย เพราะจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวเชียงใหม่
แม่เพื่อนขอร้องให้อยู่ต่ออีก 1 อาทิตย์ ครอบครัวของคุณแม่เป็นคาทอลิกคะ
ใจของเราลึกๆตอนนั้นรู้สึกว่า...อะไรเนี๊ย ทำไม ทำอะไรมันก็มีเหตุขัดขวางวุ่นวายไปหมด ใจน่ะไปแล้วเขาหลัก
วิวก็สวย ทะเลก็สวย ไฝ่ฝันมานานจะกลับมาทำงานที่ตัวเองเรียนมาในบรรยากาศดีๆอย่างนี้
ครั้งแรกที่ไปคุยกับเจ้าของรีสอร์ท รีบตอบรับทันทีที่เค้าชวน เซ็นสัญญาเลย กลับมากรุงเทพ เขียนแบบทุกๆวัน ทำงานอย่างมีความสุขมาก
3 อาทิตย์เสร็จ ส่งแบบ เขาโอนเงินมาให้ ใจพองโต กะว่าจะได้เดินเล่นริมหาดทุกวัน กลิ่นทะเลหอมชื่นใจ เตรียมจัดข้าวของหลายอย่าง
บางอย่างย้ายไปฝากไว้บ้านพี่ที่รู้จักกัน จัดการบอกคืนคอนโดที่เช่าไว้ ต้องแจ้งเค้าล่วงหน้า
ในใจกังวลเพียงอย่างเดียวคือ อยากเรียนคำสอนคาทอลิก อยากรู้จักพระเยซูเจ้า ไม่ใช่แค่จากในหนังสือ
แต่ยังไม่มีโอกาสเรียน ยังไม่มีโอกาสได้รู้จักพระองค์เลย และถ้าไปอยู่เขาหลัก จะเรียนที่ไหน
หลังจากเกิดสึนามิ คิดอยากทำบุญให้กับฝรั่งที่เสียชีวิตสูญหายในครั้งนั้น แล้วก็คิดว่า "เอ..ถ้าเราทำบุญแบบพุทธ
เค้าเป็นคริสต์ เค้าจะได้บุญมั้ยนะ" พอดีมีพี่ที่รู้จักกันทำงานที่อุดมสาส์น เลยโทรไปถามเค้า เค้าบอกว่า ถ้าเป็นวันนี้ ต้องไปที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ
อยู่ซอยเจริญกรุง 40 ซอยเดียวกับโรงแรมโอเรนเตล พี่เค้าให้นั่ง BTS ไปลงที่สถานีศาลาแดง (สีลม) และเดินมาวัด มาถึงได้ทำบุญสมใจ
ที่สำคัญคือ เห็นป้ายกระดาษเรียนคำสอนคาทอลิก !!
สรุป...จบเลย ไม่ได้ไปเขาหลัก ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น
แต่ได้มาเรียนคำสอนกับคุณพ่อวีระ อาภรณ์รัตน์ และคุณครูทัศนีย์ มธุรสสุวรรณ ที่อัสสัมชัญ บางรัก
ได้รู้จักความรักขององค์พระคริสตเจ้า เรียนจนจบคอร์ส รับศีลล้างบาป รับศีลมหาสนิทมาเป็นลูกพระอยู่ทุกวันนี้ เพราะพระองค์แท้ๆที่ช้อนเอา
"ลูกแกะดำตัวใหญ่จากคลื่นสึนามิ"
ขอถวายพระเกียรติแด่ องค์พระบิดา พระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรแต่เพียงพระองค์เดียวของพระองค์ และพระจิตเจ้า ข้าแต่พระมารดาที่น่ารักยิ่ง
นักบุญยอแซฟ และนักบุญทั้งหลายชายหญิงของพระเจ้า
อาเมน
ผมชอบนิทานเรื่องนี้จังเลยjoruno เขียน: ผมจะเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง
มีชายคนหนึ่งซึ่งบ้านของเค้าถูกน้ำท่วม เมื่อเพื่อนบ้านเค้าจะจากไปก็ได้ชวนชายคนนั้นมาด้วย ชายคนนั้นกลับบอกว่า ไม่!ข้าจะรอให้พระเจ้ามาช่วย
แล้วน้ำก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ชายอีกคนบนหลังอูฐผ่านมาบอกว่า นี่เจ้า!มาเถอะเอาตัวรอดซี่.. เค้าบอกว่าไม่!ข้าจะรอพระเจ้ามาช่วย ต่อมาน้ำก็ท่วมสูงถึงหลังคาบ้าน
ชายคนหนึ่งพายเรือผ่านมา เค้าก็ยังปฏิเสธที่จะลงเรือพร้อมยืนยันคำเดิมว่า ข้าจะรอให้พระเจ้ามาช่วย!
และสุดท้ายเค้าก็จมน้ำตาย.....
เค้ารู้สึกโกรธมากเมื่อได้พบพระเจ้า เค้าถามพระองค์ว่า ทำไม!..พระองค์จึงไม่ช่วยข้า ทำไมถึงปล่อยให้ข้าจมน้ำตาย
พระเจ้าตอบว่า.. ข้าส่งเพื่อนบ้านไปให้ ข้าส่งอูฐไปให้ ข้าส่งเรือไปให้ แล้วเจ้า..ยังต้องการอะไรอีก
เพราะมีคนเคยบอกผมว่า ที่เรารู้สึกว่าพระเจ้าไม่รักเรา เพราะพระเจ้าอยู่กับเราจนชินต่างหาก
แก้ไขล่าสุดโดย ŤaşArĐűŕ เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 04, 2008 10:48 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
ได้อ่าน autobiography ของพี่ท่านแล้วทีนี้ignatius เขียน:ใช่คะ เรื่องนี้คือเรื่องจริงที่เจอมากับตัวเองJoseph เขียน: คำตอบของแจ็ค คือสิ่งที่พระเจ้าไม่ให้แต่บางที่พระเจ้ารู้ดีว่าเราว่าให้แล้วอาจจะเป็นภัย อย่างคนทำงานที่คิดจะเดินทางกลับต่างจังหวัดแต่เผอิญไปติดธุระอะไรบางอย่างเลยทำให้ไปถึงรถไฟขบานนั้นช้า ก็ขอพระเจ้าว่า ข้าแต่พระเจ้าโปรดให้ข้าพระองค์ไปถึงรถไฟขบวนนั้นทันด้วยเถอะ แต่ว่าไปไม่ทันรถไฟออกไปเสียแล้ว ก็กลับรู้สึกน้อยใจพระเจ้าอยู่ในใจ แต่ปรากฏว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาได้ยินข่าวแจ้งมาว่ารถไฟขบวนนั้นได้ประสบอุบัติเหตุ เขาจึงนึกได้ก็ขอบคุณพระเจ้า ก็มีนะคนที่เจอปัญหาแบบนี้มีได้บ่อยๆ ไป
เมื่อกลางปีที่เกิดสึนามิ ได้เซ็นสัญญาออกแบบห้องสปาให้กับรีสอรท์แห่งหนึ่งในเขาหลัก รีสอรท์ห่างจากทะเลเพียง 600 เมตร
ในสัญญานั้นระบุการทำงานรับเงินเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกเขียนแบบเสร็จ รับเงินค่าเขียนแบบ ช่วงสอง คุ้มงานก่อสร้าง
ซึ่งต้องย้ายจากกรุงเทพไปอยู่ที่โน้นเลย คิดคำนวนว่าน่าจะใช้เวลา1-2 ปี กว่าจะสำเร็จ บ้าน 28 หลัง
ช่วงแรกผ่านไปด้วยดี ปลายเดือน พย.ลงไปดูไซด์งานอีกที เตรียมขนย้ายของจากกรุงเทพไปพักในรีสอรท์ต้นเดือนธันวาคม
ระหว่างนั้นเจ้าของรีสอรท์แจ้งมาว่าขอเลื่อนการเวลาการก่อสร้างไปก่อนแบบไม่มีกำหนดเพราะมีปัญหาเรื่องนำ้กร่อย
(ต้องตั้งโรงงานเปลี่ยนนำ้กร่อยให้เป็นนำ้จืดก่อน) ไม่งั้นอุปกรณ์ที่ใช้ในสปาจะเสียหาย
ในใจก็คิดแปลกใจว่าเค้าไม่รู้มาก่อนเหรอว่านำ้มันกร่อย อีตอนสร้างตัวตึกก็สร้างมาได้ยังไง
ประมาณ วันที่ 15 ธันวาคม ลงไปเขาหลักอีกครั้ง เช็คราคาวัสดุในพื้นที่และเตรียมสั่งของ เพื่อจะเริ่มงานหลังปีใหม่
แล้วก็กลับขึ้นมากรุงเทพวันที่ 20 ธ.ค.ไปเยี่ยมคุณแม่ของเพื่อนที่เพชรบูรณ์ กะรำ่ลาด้วย จะย้ายของและไปช่วงสิ้นปี ได้ฉลองปีใหม่ที่โน้นเลย
เจ้าของรีสอรท์โทรมาบอกให้เข้าไซด์งานหลังวันที่ 15 มค.เลย เพราะจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวเชียงใหม่
แม่เพื่อนขอร้องให้อยู่ต่ออีก 1 อาทิตย์ ครอบครัวของคุณแม่เป็นคาทอลิกคะ
ใจของเราลึกๆตอนนั้นรู้สึกว่า...อะไรเนี๊ย ทำไม ทำอะไรมันก็มีเหตุขัดขวางวุ่นวายไปหมด ใจน่ะไปแล้วเขาหลัก
วิวก็สวย ทะเลก็สวย ไฝ่ฝันมานานจะกลับมาทำงานที่ตัวเองเรียนมาในบรรยากาศดีๆอย่างนี้
ครั้งแรกที่ไปคุยกับเจ้าของรีสอร์ท รีบตอบรับทันทีที่เค้าชวน เซ็นสัญญาเลย กลับมากรุงเทพ เขียนแบบทุกๆวัน ทำงานอย่างมีความสุขมาก
3 อาทิตย์เสร็จ ส่งแบบ เขาโอนเงินมาให้ ใจพองโต กะว่าจะได้เดินเล่นริมหาดทุกวัน กลิ่นทะเลหอมชื่นใจ เตรียมจัดข้าวของหลายอย่าง
บางอย่างย้ายไปฝากไว้บ้านพี่ที่รู้จักกัน จัดการบอกคืนคอนโดที่เช่าไว้ ต้องแจ้งเค้าล่วงหน้า
ในใจกังวลเพียงอย่างเดียวคือ อยากเรียนคำสอนคาทอลิก อยากรู้จักพระเยซูเจ้า ไม่ใช่แค่จากในหนังสือ
แต่ยังไม่มีโอกาสเรียน ยังไม่มีโอกาสได้รู้จักพระองค์เลย และถ้าไปอยู่เขาหลัก จะเรียนที่ไหน
หลังจากเกิดสึนามิ คิดอยากทำบุญให้กับฝรั่งที่เสียชีวิตสูญหายในครั้งนั้น แล้วก็คิดว่า "เอ..ถ้าเราทำบุญแบบพุทธ
เค้าเป็นคริสต์ เค้าจะได้บุญมั้ยนะ" พอดีมีพี่ที่รู้จักกันทำงานที่อุดมสาส์น เลยโทรไปถามเค้า เค้าบอกว่า ถ้าเป็นวันนี้ ต้องไปที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ
อยู่ซอยเจริญกรุง 40 ซอยเดียวกับโรงแรมโอเรนเตล พี่เค้าให้นั่ง BTS ไปลงที่สถานีศาลาแดง (สีลม) และเดินมาวัด มาถึงได้ทำบุญสมใจ
ที่สำคัญคือ เห็นป้ายกระดาษเรียนคำสอนคาทอลิก !!
สรุป...จบเลย ไม่ได้ไปเขาหลัก ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น
แต่ได้มาเรียนคำสอนกับคุณพ่อวีระ อาภรณ์รัตน์ และคุณครูทัศนีย์ มธุรสสุวรรณ ที่อัสสัมชัญ บางรัก
ได้รู้จักความรักขององค์พระคริสตเจ้า เรียนจนจบคอร์ส รับศีลล้างบาป รับศีลมหาสนิทมาเป็นลูกพระอยู่ทุกวันนี้ เพราะพระองค์แท้ๆที่ช้อนเอา
"ลูกแกะดำตัวใหญ่จากคลื่นสึนามิ"
ขอถวายพระเกียรติแด่ องค์พระบิดา พระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรแต่เพียงพระองค์เดียวของพระองค์ และพระจิตเจ้า ข้าแต่พระมารดาที่น่ารักยิ่ง
นักบุญยอแซฟ และนักบุญทั้งหลายชายหญิงของพระเจ้า
อาเมน
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
พระองค์ไม่เคยตอบช้า แต่เรานั่นแหละเข้าใจคำตอบพระองค์ช้า
Man of Macedonia เขียน:ได้อ่าน autobiography ของพี่ท่านแล้วทีนี้ignatius เขียน:ใช่คะ เรื่องนี้คือเรื่องจริงที่เจอมากับตัวเองJoseph เขียน: คำตอบของแจ็ค คือสิ่งที่พระเจ้าไม่ให้แต่บางที่พระเจ้ารู้ดีว่าเราว่าให้แล้วอาจจะเป็นภัย อย่างคนทำงานที่คิดจะเดินทางกลับต่างจังหวัดแต่เผอิญไปติดธุระอะไรบางอย่างเลยทำให้ไปถึงรถไฟขบานนั้นช้า ก็ขอพระเจ้าว่า ข้าแต่พระเจ้าโปรดให้ข้าพระองค์ไปถึงรถไฟขบวนนั้นทันด้วยเถอะ แต่ว่าไปไม่ทันรถไฟออกไปเสียแล้ว ก็กลับรู้สึกน้อยใจพระเจ้าอยู่ในใจ แต่ปรากฏว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาได้ยินข่าวแจ้งมาว่ารถไฟขบวนนั้นได้ประสบอุบัติเหตุ เขาจึงนึกได้ก็ขอบคุณพระเจ้า ก็มีนะคนที่เจอปัญหาแบบนี้มีได้บ่อยๆ ไป
เมื่อกลางปีที่เกิดสึนามิ ได้เซ็นสัญญาออกแบบห้องสปาให้กับรีสอรท์แห่งหนึ่งในเขาหลัก รีสอรท์ห่างจากทะเลเพียง 600 เมตร
ในสัญญานั้นระบุการทำงานรับเงินเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกเขียนแบบเสร็จ รับเงินค่าเขียนแบบ ช่วงสอง คุ้มงานก่อสร้าง
ซึ่งต้องย้ายจากกรุงเทพไปอยู่ที่โน้นเลย คิดคำนวนว่าน่าจะใช้เวลา1-2 ปี กว่าจะสำเร็จ บ้าน 28 หลัง
ช่วงแรกผ่านไปด้วยดี ปลายเดือน พย.ลงไปดูไซด์งานอีกที เตรียมขนย้ายของจากกรุงเทพไปพักในรีสอรท์ต้นเดือนธันวาคม
ระหว่างนั้นเจ้าของรีสอรท์แจ้งมาว่าขอเลื่อนการเวลาการก่อสร้างไปก่อนแบบไม่มีกำหนดเพราะมีปัญหาเรื่องนำ้กร่อย
(ต้องตั้งโรงงานเปลี่ยนนำ้กร่อยให้เป็นนำ้จืดก่อน) ไม่งั้นอุปกรณ์ที่ใช้ในสปาจะเสียหาย
ในใจก็คิดแปลกใจว่าเค้าไม่รู้มาก่อนเหรอว่านำ้มันกร่อย อีตอนสร้างตัวตึกก็สร้างมาได้ยังไง
ประมาณ วันที่ 15 ธันวาคม ลงไปเขาหลักอีกครั้ง เช็คราคาวัสดุในพื้นที่และเตรียมสั่งของ เพื่อจะเริ่มงานหลังปีใหม่
แล้วก็กลับขึ้นมากรุงเทพวันที่ 20 ธ.ค.ไปเยี่ยมคุณแม่ของเพื่อนที่เพชรบูรณ์ กะรำ่ลาด้วย จะย้ายของและไปช่วงสิ้นปี ได้ฉลองปีใหม่ที่โน้นเลย
เจ้าของรีสอรท์โทรมาบอกให้เข้าไซด์งานหลังวันที่ 15 มค.เลย เพราะจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวเชียงใหม่
แม่เพื่อนขอร้องให้อยู่ต่ออีก 1 อาทิตย์ ครอบครัวของคุณแม่เป็นคาทอลิกคะ
ใจของเราลึกๆตอนนั้นรู้สึกว่า...อะไรเนี๊ย ทำไม ทำอะไรมันก็มีเหตุขัดขวางวุ่นวายไปหมด ใจน่ะไปแล้วเขาหลัก
วิวก็สวย ทะเลก็สวย ไฝ่ฝันมานานจะกลับมาทำงานที่ตัวเองเรียนมาในบรรยากาศดีๆอย่างนี้
ครั้งแรกที่ไปคุยกับเจ้าของรีสอร์ท รีบตอบรับทันทีที่เค้าชวน เซ็นสัญญาเลย กลับมากรุงเทพ เขียนแบบทุกๆวัน ทำงานอย่างมีความสุขมาก
3 อาทิตย์เสร็จ ส่งแบบ เขาโอนเงินมาให้ ใจพองโต กะว่าจะได้เดินเล่นริมหาดทุกวัน กลิ่นทะเลหอมชื่นใจ เตรียมจัดข้าวของหลายอย่าง
บางอย่างย้ายไปฝากไว้บ้านพี่ที่รู้จักกัน จัดการบอกคืนคอนโดที่เช่าไว้ ต้องแจ้งเค้าล่วงหน้า
ในใจกังวลเพียงอย่างเดียวคือ อยากเรียนคำสอนคาทอลิก อยากรู้จักพระเยซูเจ้า ไม่ใช่แค่จากในหนังสือ
แต่ยังไม่มีโอกาสเรียน ยังไม่มีโอกาสได้รู้จักพระองค์เลย และถ้าไปอยู่เขาหลัก จะเรียนที่ไหน
หลังจากเกิดสึนามิ คิดอยากทำบุญให้กับฝรั่งที่เสียชีวิตสูญหายในครั้งนั้น แล้วก็คิดว่า "เอ..ถ้าเราทำบุญแบบพุทธ
เค้าเป็นคริสต์ เค้าจะได้บุญมั้ยนะ" พอดีมีพี่ที่รู้จักกันทำงานที่อุดมสาส์น เลยโทรไปถามเค้า เค้าบอกว่า ถ้าเป็นวันนี้ ต้องไปที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ
อยู่ซอยเจริญกรุง 40 ซอยเดียวกับโรงแรมโอเรนเตล พี่เค้าให้นั่ง BTS ไปลงที่สถานีศาลาแดง (สีลม) และเดินมาวัด มาถึงได้ทำบุญสมใจ
ที่สำคัญคือ เห็นป้ายกระดาษเรียนคำสอนคาทอลิก !!
สรุป...จบเลย ไม่ได้ไปเขาหลัก ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้น
แต่ได้มาเรียนคำสอนกับคุณพ่อวีระ อาภรณ์รัตน์ และคุณครูทัศนีย์ มธุรสสุวรรณ ที่อัสสัมชัญ บางรัก
ได้รู้จักความรักขององค์พระคริสตเจ้า เรียนจนจบคอร์ส รับศีลล้างบาป รับศีลมหาสนิทมาเป็นลูกพระอยู่ทุกวันนี้ เพราะพระองค์แท้ๆที่ช้อนเอา
"ลูกแกะดำตัวใหญ่จากคลื่นสึนามิ"
ขอถวายพระเกียรติแด่ องค์พระบิดา พระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรแต่เพียงพระองค์เดียวของพระองค์ และพระจิตเจ้า ข้าแต่พระมารดาที่น่ารักยิ่ง
นักบุญยอแซฟ และนักบุญทั้งหลายชายหญิงของพระเจ้า
อาเมน