เสียลูกแกะไปอีกหนึ่ง หุหุ
เมื่อคืนได้มีโอกาสดูรายการวูดดี้เกิดมาคุย ตอนสัมภาษณ์คุณมาลัวีลย์ เจมีน่า เธอให้สัมภาษณ์ว่าในอดีตเธอเป็นคาทอลิก แต่เมื่อคุณพ่อ คุณแม่เธอ
เสียไป จึงหันมาปฏิบัติธรรม อุทิศส่วนกุศลไปให้ เพราะคิดว่าท่านน่าจะได้รับผลบุญมากกว่า ใครดูมั่งคับ เราฟังสัมภาษณ์เค้าแล้วก้องงๆเหมือนกัน แต่
เอ่ยชื่อศาสนาออกทีวีอีกแล้วอ่านะ เฮ้อ!!! ต่อไปวัดพุทธคงมีแต่ดารา นักร้องคาทอลิกไปนั่งปฏิบัติธรรมนะครับ เศร้าจัง
เสียไป จึงหันมาปฏิบัติธรรม อุทิศส่วนกุศลไปให้ เพราะคิดว่าท่านน่าจะได้รับผลบุญมากกว่า ใครดูมั่งคับ เราฟังสัมภาษณ์เค้าแล้วก้องงๆเหมือนกัน แต่
เอ่ยชื่อศาสนาออกทีวีอีกแล้วอ่านะ เฮ้อ!!! ต่อไปวัดพุทธคงมีแต่ดารา นักร้องคาทอลิกไปนั่งปฏิบัติธรรมนะครับ เศร้าจัง
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
รู้สึกเสียดายด้วยครับ
ขอพระจิตเจ้าทรงนำเขาก็เเล้วกันค่ะ เหอะๆๆ
ดาราบนเวที....................พระสงฆ์บนพระเเท่น
ผู้สื่อข่าว.......................คนอ่านบทอ่าน
พิธีกร..........................พิธีกร บนพระเเท่น
นักร้อง.........................นักขับร้อง
เเละที่สำคัญ
มีสิ่งที่เเม้เเต่นักวิทยาศาสตร์ในรายการMega Clever ก็ไม่สามารถหาคำอธิบายได้.......นั่นก็คือ "ศีลมหาสนิท"
เเต่เสียดายจิตวิญญาณของตัวเขา เองมากกว่า...หวังว่าสักวันหนึ่ง เขาจะกลับมาเหมือนอุปมาเรื่องลูกล้างผลาญ
อันนี้ไม่เสียดายหรอกค่ะ เพราะยังไงวัดเราก็มีDe la Trinite เขียน: ต่อไปวัดพุทธคงมีแต่ดารา นักร้องคาทอลิกไปนั่งปฏิบัติธรรมนะครับ เศร้าจัง
ดาราบนเวที....................พระสงฆ์บนพระเเท่น
ผู้สื่อข่าว.......................คนอ่านบทอ่าน
พิธีกร..........................พิธีกร บนพระเเท่น
นักร้อง.........................นักขับร้อง
เเละที่สำคัญ
มีสิ่งที่เเม้เเต่นักวิทยาศาสตร์ในรายการMega Clever ก็ไม่สามารถหาคำอธิบายได้.......นั่นก็คือ "ศีลมหาสนิท"
เเต่เสียดายจิตวิญญาณของตัวเขา เองมากกว่า...หวังว่าสักวันหนึ่ง เขาจะกลับมาเหมือนอุปมาเรื่องลูกล้างผลาญ
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
ยังมี มาริโอ้ อยู่นะ อิอิ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ไม่เสียดายค่ะ เพราะคนที่ทิ้งพระ ปล่อยตัวไปตามกระแสโลก
ไม่มีความหนักแน่น วูบไหวไปตามสภาพแวดล้อม
ก็ไม่คู่ควรกับพระองค์ เป็นคุณค่า ที่เขาไม่คู่ควร
ก็หวังเพียงแต่ว่า พ่อแม่เขา คงจะต้องสวดให้หนักหน่อย
เพื่อจะได้รับพระเมตตาในนาทีสุดท้ายของชีวิต
ไม่มีความหนักแน่น วูบไหวไปตามสภาพแวดล้อม
ก็ไม่คู่ควรกับพระองค์ เป็นคุณค่า ที่เขาไม่คู่ควร
ก็หวังเพียงแต่ว่า พ่อแม่เขา คงจะต้องสวดให้หนักหน่อย
เพื่อจะได้รับพระเมตตาในนาทีสุดท้ายของชีวิต
- ทำไมดาราคาทอลิกไทยส่วนมากถึงถูกสันคลอนทางความเชื่อง่ายทั้งๆที่เรียนในร.ร.คาทอลิก ครอบครัวญาติพี่น้องเป็นคาทอลิก แถมยังดูเคร่งครัดและอยู่ในกรอบของศาสนามากกว่าคาทอลิกทางยุโรปเสียอีก
- ทำไมคาทอลิกไทยที่หันไปปฏิบัติธรรม หรือบวชดั๊นเคร่งกว่าคนพุทธแต่กำเนิดเสียอีก
- อยากรู้ว่าทำไมพวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้ซึมซับความเชื่อทางศาสนาคาทอลิกไปบ้างเลยหรืออย่างไร หรือว่าที่บ้านเค้าปล่อยกัน
- อยากให้ดารานักร้องคาทอลิก เข้มแข็งเหมือนคริสเตียนจัง เท่าที่เห็นมาไม่เคยได้ยินข่าวเลยว่าดารานักร้องคริสเตียน เปลี่ยนศาสนา ไปปฏิบัติธรรม10วัน หรือกล่าวเปรียบเทียบศาสนาผ่านทีวี
- คิดว่าพระสงฆ์ นักบวช หรือองค์กรคาทอลิกไทยควรจะมีบทบาทในการควบคุมพูดพาดพิงทางศาสนาผ่านสื่อของดารานักร้องคาทอลิกไหม???
- ทำไมคาทอลิกไทยที่หันไปปฏิบัติธรรม หรือบวชดั๊นเคร่งกว่าคนพุทธแต่กำเนิดเสียอีก
- อยากรู้ว่าทำไมพวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้ซึมซับความเชื่อทางศาสนาคาทอลิกไปบ้างเลยหรืออย่างไร หรือว่าที่บ้านเค้าปล่อยกัน
- อยากให้ดารานักร้องคาทอลิก เข้มแข็งเหมือนคริสเตียนจัง เท่าที่เห็นมาไม่เคยได้ยินข่าวเลยว่าดารานักร้องคริสเตียน เปลี่ยนศาสนา ไปปฏิบัติธรรม10วัน หรือกล่าวเปรียบเทียบศาสนาผ่านทีวี
- คิดว่าพระสงฆ์ นักบวช หรือองค์กรคาทอลิกไทยควรจะมีบทบาทในการควบคุมพูดพาดพิงทางศาสนาผ่านสื่อของดารานักร้องคาทอลิกไหม???
- ทำไมดาราคาทอลิกไทยส่วนมากถึงถูกสันคลอนทางความเชื่อง่ายทั้งๆที่เรียนในร.ร.คาทอลิก ครอบครัวญาติพี่น้องเป็นคาทอลิก แถมยังดูเคร่งครัดและอยู่ในกรอบของศาสนามากกว่าคาทอลิกทางยุโรปเสียอีก
-----ปัญหาของคริสตังนอนทะเบียนบ้าน...โดยเฉพาะดารา ซึ่งต้องตามเเฟชั่นอยู่เเล้ว
- ทำไมคาทอลิกไทยที่หันไปปฏิบัติธรรม หรือบวชดั๊นเคร่งกว่าคนพุทธแต่กำเนิดเสียอีก
-----อาการเดียวกับคริสตังยืน
- อยากรู้ว่าทำไมพวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้ซึมซับความเชื่อทางศาสนาคาทอลิกไปบ้างเลยหรืออย่างไร หรือว่าที่บ้านเค้าปล่อยกัน
-----หวังเหมือนกันว่าเขาจะไม่ได้ซึมซับอะไรไปเลย...อย่างน้อยก็กลายเป็นคนไม่รู้จักพระเจ้า ดีกว่าคนที่รู้จักพระเจ้าเเล้วทิ้ง
- อยากให้ดารานักร้องคาทอลิก เข้มแข็งเหมือนคริสเตียนจัง เท่าที่เห็นมาไม่เคยได้ยินข่าวเลยว่าดารานักร้องคริสเตียน เปลี่ยนศาสนา ไปปฏิบัติธรรม10วัน หรือกล่าวเปรียบเทียบศาสนาผ่านทีวี
-----ดาราคริสเตียนเข้มเเข็งอยู่เเล้ว ได้มีโอกาสนำร้องนมัสการที่โบสถ์ด้วย เเละหลายคนเป็นคริสเตียนรุ่นเเรก ก็เลยอาการเดียวกับคริสตังยืน
- คิดว่าพระสงฆ์ นักบวช หรือองค์กรคาทอลิกไทยควรจะมีบทบาทในการควบคุมพูดพาดพิงทางศาสนาผ่านสื่อของดารานักร้องคาทอลิกไหม???
-----เเน่นอนว่าเราไม่อยากให้พวกเขาพูด เเต่มันก็เป็นสิทธิของเขาที่จะพูด จะดูดีหรือไม่ดี ก็ตกอยู่ที่ลิ้นของเขาเอง เราก็อยู่ของเราไปเรื่อยๆได้
หากว่าคำพูดไม่กี่คำของดารานั้นทำให้คนบางคนมีอคติกับศาสนาเรา คนๆนั้นก็หูเบามากเหมือนกัน....ดังนั้น คิดว่าไม่จำเป็น
-----ปัญหาของคริสตังนอนทะเบียนบ้าน...โดยเฉพาะดารา ซึ่งต้องตามเเฟชั่นอยู่เเล้ว
- ทำไมคาทอลิกไทยที่หันไปปฏิบัติธรรม หรือบวชดั๊นเคร่งกว่าคนพุทธแต่กำเนิดเสียอีก
-----อาการเดียวกับคริสตังยืน
- อยากรู้ว่าทำไมพวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้ซึมซับความเชื่อทางศาสนาคาทอลิกไปบ้างเลยหรืออย่างไร หรือว่าที่บ้านเค้าปล่อยกัน
-----หวังเหมือนกันว่าเขาจะไม่ได้ซึมซับอะไรไปเลย...อย่างน้อยก็กลายเป็นคนไม่รู้จักพระเจ้า ดีกว่าคนที่รู้จักพระเจ้าเเล้วทิ้ง
- อยากให้ดารานักร้องคาทอลิก เข้มแข็งเหมือนคริสเตียนจัง เท่าที่เห็นมาไม่เคยได้ยินข่าวเลยว่าดารานักร้องคริสเตียน เปลี่ยนศาสนา ไปปฏิบัติธรรม10วัน หรือกล่าวเปรียบเทียบศาสนาผ่านทีวี
-----ดาราคริสเตียนเข้มเเข็งอยู่เเล้ว ได้มีโอกาสนำร้องนมัสการที่โบสถ์ด้วย เเละหลายคนเป็นคริสเตียนรุ่นเเรก ก็เลยอาการเดียวกับคริสตังยืน
- คิดว่าพระสงฆ์ นักบวช หรือองค์กรคาทอลิกไทยควรจะมีบทบาทในการควบคุมพูดพาดพิงทางศาสนาผ่านสื่อของดารานักร้องคาทอลิกไหม???
-----เเน่นอนว่าเราไม่อยากให้พวกเขาพูด เเต่มันก็เป็นสิทธิของเขาที่จะพูด จะดูดีหรือไม่ดี ก็ตกอยู่ที่ลิ้นของเขาเอง เราก็อยู่ของเราไปเรื่อยๆได้
หากว่าคำพูดไม่กี่คำของดารานั้นทำให้คนบางคนมีอคติกับศาสนาเรา คนๆนั้นก็หูเบามากเหมือนกัน....ดังนั้น คิดว่าไม่จำเป็น
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
- ทำไมดาราคาทอลิกไทยส่วนมากถึงถูกสันคลอนทางความเชื่อง่ายทั้งๆที่เรียนในร.ร.คาทอลิก ครอบครัวญาติพี่น้องเป็นคาทอลิก แถมยังดูเคร่งครัดและอยู่ในกรอบของศาสนามากกว่าคาทอลิกทางยุโรปเสียอีก
+ เพราะสภาพแวดล้อมในการทำงาน มีแต่แบบนั้น แม้แต่เปิดกล้องก็ต้องมีบวงสรวง
เมื่อโดนชวนให้ร่วมมาก ๆ เข้า ถ้าไม่ได้มีความเชื่อที่หนักแน่น
อาจจะเพราะอาย รู้สึกแปลกแยก หรือ กลัวเขาหมั่นไส้ ไม่จ้าง ก็โดนกลืนไปโดยปริยาย
- ทำไมคาทอลิกไทยที่หันไปปฏิบัติธรรม หรือบวชดั๊นเคร่งกว่าคนพุทธแต่กำเนิดเสียอีก
ก็เหมือนกับคนคริสต์ที่กลับใจตอนโตค่ะ ศรัทธามากกว่า คริสต์แต่เกิดอยุ่แล้ว
เพราะเชื่อในขณะที่โตแล้ว ศึกษาจนมีศรัทธา ในขณะที่นับถือแต่เกิด ก็เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ
ไม่ได้ศึกษาอะไรเพิ่มเติม หรือ เรียกว่าชินชา จึงมีระดับความศรัทธาไม่เท่ากัน
- อยากรู้ว่าทำไมพวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้ซึมซับความเชื่อทางศาสนาคาทอลิกไปบ้างเลยหรืออย่างไร หรือว่าที่บ้านเค้าปล่อยกัน
สาเหตุหลัก คือ ที่บ้านละเลยในการอบรมความเชื่อที่เข้มแข็งค่ะ
ถ้ารากไม่ลึก ก็โดนโค่นง่ายอยุ่แล้ว
สาเหตุอื่น ๆ คนรอบข้าง เป็นปัจจัยรองค่ะ ที่สำคุญที่สุด คือ พื้นฐานที่มั่นคงที่ได้รับการปลูกฝังมา
ไม่ใช่สักแต่ว่า พาลูกไปวัด แล้วปล่อยให้มีศรัทธาไปเอง หรือ ปล่อยให้นักบวชดูแล สั่งสอนเอง
อย่าคิดว่า โตแล้วลูกจะมีสำนึก ศรัทธาเอง ไม่มีทางค่ะ
ถ้าพ่อแม่ไม่ปลูกฝั่ง สั่งสอนแต่เด็ก ส่วนใหญ่ ก็จะนับถือไปอย่างนั้น หรือ เสียความเชื่อไปในที่สุด
- อยากให้ดารานักร้องคาทอลิก เข้มแข็งเหมือนคริสเตียนจัง เท่าที่เห็นมาไม่เคยได้ยินข่าวเลยว่าดารานักร้องคริสเตียน เปลี่ยนศาสนา ไปปฏิบัติธรรม10วัน หรือกล่าวเปรียบเทียบศาสนาผ่านทีวี
สิ่งที่คาทอลิกขาด คือ ความต่อเนื่องในการส่งเสริมความเชื่อ
ที่คริสเตียนเข้มแข็งกว่าเรา เพราะเวลาไปโบสถ์จบแล้ว เขาไม่จบแค่นั้น
เขายังมีสนทนาธรรมกันต่อ มีทำกิจกรรมร่วมกัน แบ่งปันพระพรที่ได้รับจากพระเจ้า เกือบทั้งวัน
เรียกว่า อุทิศทั้งวันให้พระจริง ๆ
ในขณะที่คาทอลิก เลิกวัดก็รีบโกยอ้าวขึ้นรถ แยกย้ายกันหมด
ไม่มีการกระตุ้นความเชื่อ ความศรัทธา เมื่อมีปัญหา ก็ไม่มีใครให้กำลังใจ
เพราะไม่เคยมีการเข้ากลุ่ม อยู่แบบต่างคนต่างอยุ่
เมื่อไม่มีใครช่วยชี้ทาง ช่วยนำหาพระเจ้าเวลามีทุกข์
แล้วไปเจอเพื่อนต่างศาสนา มาแนมาชวน เมื่อหาทางออกไม่ได้ ก็ไปกะเขา
แล้วก็เข้าอีหลอบเดิม คือ เสียความเชื่อไปในที่สุด
- คิดว่าพระสงฆ์ นักบวช หรือองค์กรคาทอลิกไทยควรจะมีบทบาทในการควบคุมพูดพาดพิงทางศาสนาผ่านสื่อของดารานักร้องคาทอลิกไหม???
ไม่จำเป็นค่ะ ถ้าเข้าควบคุมแบบนั้น ก็พาลจะถูกมองว่าไม่ดี เผด็จการอีก
จริง ๆ แล้ว ควรจะมีการรณรงค์ส่งเสริมความเชื่อ และ ส่งเสริมให้ดาราที่เป็นคาทอลิก
ภูมิใจในความเป็นคาทอลิกของตนมากกว่า ใครที่เป็นคาทอลิก แล้วยังมีความเชื่อมั่นคง
ก็พูดเลย ว่าเป็น ภูมิใจที่จะประกาศ เหมือน ดาราคริสเตียนที่ไม่อายในการประกาศ
แต่ส่วนใหญ่ คาทอลิกไทย หน้าบางค่ะ อายที่จะพูด
ควรจะส่งเสริมให้มีความกล้า และ หน้าหนามากกว่านี้ ในการพูดเรื่องพระเจ้าค่ะ
ไม่ใช่ควบคุมไม่ให้พูดพาดพิง แต่ควรส่งเสริมให้พูดพาดพิง และภาคภูมิใจที่ได้พูด และ ได้เป็นคาทอลิก
ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
+ เพราะสภาพแวดล้อมในการทำงาน มีแต่แบบนั้น แม้แต่เปิดกล้องก็ต้องมีบวงสรวง
เมื่อโดนชวนให้ร่วมมาก ๆ เข้า ถ้าไม่ได้มีความเชื่อที่หนักแน่น
อาจจะเพราะอาย รู้สึกแปลกแยก หรือ กลัวเขาหมั่นไส้ ไม่จ้าง ก็โดนกลืนไปโดยปริยาย
- ทำไมคาทอลิกไทยที่หันไปปฏิบัติธรรม หรือบวชดั๊นเคร่งกว่าคนพุทธแต่กำเนิดเสียอีก
ก็เหมือนกับคนคริสต์ที่กลับใจตอนโตค่ะ ศรัทธามากกว่า คริสต์แต่เกิดอยุ่แล้ว
เพราะเชื่อในขณะที่โตแล้ว ศึกษาจนมีศรัทธา ในขณะที่นับถือแต่เกิด ก็เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ
ไม่ได้ศึกษาอะไรเพิ่มเติม หรือ เรียกว่าชินชา จึงมีระดับความศรัทธาไม่เท่ากัน
- อยากรู้ว่าทำไมพวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้ซึมซับความเชื่อทางศาสนาคาทอลิกไปบ้างเลยหรืออย่างไร หรือว่าที่บ้านเค้าปล่อยกัน
สาเหตุหลัก คือ ที่บ้านละเลยในการอบรมความเชื่อที่เข้มแข็งค่ะ
ถ้ารากไม่ลึก ก็โดนโค่นง่ายอยุ่แล้ว
สาเหตุอื่น ๆ คนรอบข้าง เป็นปัจจัยรองค่ะ ที่สำคุญที่สุด คือ พื้นฐานที่มั่นคงที่ได้รับการปลูกฝังมา
ไม่ใช่สักแต่ว่า พาลูกไปวัด แล้วปล่อยให้มีศรัทธาไปเอง หรือ ปล่อยให้นักบวชดูแล สั่งสอนเอง
อย่าคิดว่า โตแล้วลูกจะมีสำนึก ศรัทธาเอง ไม่มีทางค่ะ
ถ้าพ่อแม่ไม่ปลูกฝั่ง สั่งสอนแต่เด็ก ส่วนใหญ่ ก็จะนับถือไปอย่างนั้น หรือ เสียความเชื่อไปในที่สุด
- อยากให้ดารานักร้องคาทอลิก เข้มแข็งเหมือนคริสเตียนจัง เท่าที่เห็นมาไม่เคยได้ยินข่าวเลยว่าดารานักร้องคริสเตียน เปลี่ยนศาสนา ไปปฏิบัติธรรม10วัน หรือกล่าวเปรียบเทียบศาสนาผ่านทีวี
สิ่งที่คาทอลิกขาด คือ ความต่อเนื่องในการส่งเสริมความเชื่อ
ที่คริสเตียนเข้มแข็งกว่าเรา เพราะเวลาไปโบสถ์จบแล้ว เขาไม่จบแค่นั้น
เขายังมีสนทนาธรรมกันต่อ มีทำกิจกรรมร่วมกัน แบ่งปันพระพรที่ได้รับจากพระเจ้า เกือบทั้งวัน
เรียกว่า อุทิศทั้งวันให้พระจริง ๆ
ในขณะที่คาทอลิก เลิกวัดก็รีบโกยอ้าวขึ้นรถ แยกย้ายกันหมด
ไม่มีการกระตุ้นความเชื่อ ความศรัทธา เมื่อมีปัญหา ก็ไม่มีใครให้กำลังใจ
เพราะไม่เคยมีการเข้ากลุ่ม อยู่แบบต่างคนต่างอยุ่
เมื่อไม่มีใครช่วยชี้ทาง ช่วยนำหาพระเจ้าเวลามีทุกข์
แล้วไปเจอเพื่อนต่างศาสนา มาแนมาชวน เมื่อหาทางออกไม่ได้ ก็ไปกะเขา
แล้วก็เข้าอีหลอบเดิม คือ เสียความเชื่อไปในที่สุด
- คิดว่าพระสงฆ์ นักบวช หรือองค์กรคาทอลิกไทยควรจะมีบทบาทในการควบคุมพูดพาดพิงทางศาสนาผ่านสื่อของดารานักร้องคาทอลิกไหม???
ไม่จำเป็นค่ะ ถ้าเข้าควบคุมแบบนั้น ก็พาลจะถูกมองว่าไม่ดี เผด็จการอีก
จริง ๆ แล้ว ควรจะมีการรณรงค์ส่งเสริมความเชื่อ และ ส่งเสริมให้ดาราที่เป็นคาทอลิก
ภูมิใจในความเป็นคาทอลิกของตนมากกว่า ใครที่เป็นคาทอลิก แล้วยังมีความเชื่อมั่นคง
ก็พูดเลย ว่าเป็น ภูมิใจที่จะประกาศ เหมือน ดาราคริสเตียนที่ไม่อายในการประกาศ
แต่ส่วนใหญ่ คาทอลิกไทย หน้าบางค่ะ อายที่จะพูด
ควรจะส่งเสริมให้มีความกล้า และ หน้าหนามากกว่านี้ ในการพูดเรื่องพระเจ้าค่ะ
ไม่ใช่ควบคุมไม่ให้พูดพาดพิง แต่ควรส่งเสริมให้พูดพาดพิง และภาคภูมิใจที่ได้พูด และ ได้เป็นคาทอลิก
ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
พี่ก็เคยเป็นถูกซาตานใส่ความคิดให้ทิ้งพระเจ้าให้ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า พี่คิดว่าโลกนี้ไม่น่าจะมีพระเจ้าได้ ตอนเป็นเด็กๆ แม่พี่ชอบเล่านิทานให้ฟังตั้งแต่พี่ก่อนเข้าอนุบาลเรื่องเกี่ยวกับอาดัมเอวาห์ กาอิน อาเบล ฯลฯ ฟังจนจำได้หมดเลย แต่ก็คิดว่ามันเป็นแค่นิทานเรื่องหนึ่งเท่านั้น ถ้าไม่ได้คริสตจักรความหวังเป็นพยานก็คงไม่ได้มารู้จักพระเจ้าเพราะตอนพี่เข้าไปคุยในคริสตจักรใหม่ๆ มีคำถามและข้อสงสัยมากมายเลยเกี่ยวกับพระเจ้าเพราะไม่เชื่อว่าจะมีจริง พวกความหวังก็พยายามอธิบายให้ฟัง พี่ถามมากที่สุดเลยแต่เขาก็อธิบายจนพี่ยอมเชื่อได้ พี่เป็นคริสตังค์นอน เป็นคาทอลิกแต่ก็ได้ไปรับเชื่อใหม่อีกทีที่ คริสตจักรความหวัง แล้วก็พยายามเรียนศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าที่นั่น
แม่พี่ก็เป็นกังวลที่ลูกไปเป็นคริสเตียนก็สวดขอพระหลายแห่ง แล้วก็ไปขอ นักบุญแอนนา ประเทศมาเลเซียวอนขอให้พี่กลับมา พอพี่กลับมาแม่พี่ดีใจใหญ่บอกว่าเซนต์แอนศักดิ์สิทธิ์พี่จึงกลับมา แต่ที่จริงพี่รู้สึกว่าก็หลายอย่างในนั้นทำให้พี่กลับมา อาจจะเป็นที่ว่าพี่ทิ้งพระเจ้าแต่พระเจ้ายังไม่ถิ้งพี่ยังใช้ความหวังไปดึงพี่ไปเข้าาแล้วก็ให้พี่กลับมาอยู่คาทอลิกอีกครั้ง ก็เลยเป็นคนที่รู้จักพระเ้จ้าแล้วเ้ข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง อย่างแท้จริง
ที่จริงแล้วพระเจ้าอาจใช้ศาสนาหรือลัทธิอะไรก็ได้ที่เข้มแข็งอยู่ตอนนั้นมาดึงให้พี่่กลับมา เพราะถ้าพูดถึงคำถามปัญหาเรื่องพระเจ้าแล้วความหวังก็เป็นกลุ่มที่รับมือตรงนี้ได้ดีที่สุด
แม่พี่ก็เป็นกังวลที่ลูกไปเป็นคริสเตียนก็สวดขอพระหลายแห่ง แล้วก็ไปขอ นักบุญแอนนา ประเทศมาเลเซียวอนขอให้พี่กลับมา พอพี่กลับมาแม่พี่ดีใจใหญ่บอกว่าเซนต์แอนศักดิ์สิทธิ์พี่จึงกลับมา แต่ที่จริงพี่รู้สึกว่าก็หลายอย่างในนั้นทำให้พี่กลับมา อาจจะเป็นที่ว่าพี่ทิ้งพระเจ้าแต่พระเจ้ายังไม่ถิ้งพี่ยังใช้ความหวังไปดึงพี่ไปเข้าาแล้วก็ให้พี่กลับมาอยู่คาทอลิกอีกครั้ง ก็เลยเป็นคนที่รู้จักพระเ้จ้าแล้วเ้ข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง อย่างแท้จริง
ที่จริงแล้วพระเจ้าอาจใช้ศาสนาหรือลัทธิอะไรก็ได้ที่เข้มแข็งอยู่ตอนนั้นมาดึงให้พี่่กลับมา เพราะถ้าพูดถึงคำถามปัญหาเรื่องพระเจ้าแล้วความหวังก็เป็นกลุ่มที่รับมือตรงนี้ได้ดีที่สุด
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ ก.ค. 28, 2008 6:48 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เสริมอีกนิด หลายคนที่เป็นคริสตัุงค์ ได้รับศีลล้างบาปแล้ว ในสังคมทุกวันนี้กี่คนที่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง เราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับสังคมเพื่อนฝูง อยู่กับสังคมคนที่ไม่ได้รู้จักพระเจ้า พอมีความคิดอะไรเกี่ยวกับพระเจ้าก็เริ่มแตกต่างจากเขาแล้ว หลายคนที่เป็นคาทอลิกเชื่อพระเจ้าแต่เชื่อแค่ 20 เปอร์เซนต์ ที่เหลือคือไม่ค่อยแน่ใจ ถ้าถามย้ำลงไปจริงๆ ก็คงตอบไม่ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ แล้วยิ่งเสียสละอะไรให้กับสิ่งที่ตัวเองยังไมได้ปักใจเชื่อยิ่งยากใหญ่ พวกดาราพวกนางแบบหลายคนที่ทิ้งวัด เขาก็มีคำสงสัยอยู่ในใจเกี่ยวกับพระเจ้าว่า มีจริงหรือ แต่้ว่าไมได้แสดงออกมา
คาทอลิกบางคนบอกผมเป็นพุทธ์ก็ได้เป็นคริสต์ก็ได้ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าเขาไม่เชื่อแล้วไง แต่เวลาเจอคนคาทอลิกก็บอกว่าผมเป็นคาทอลิก แต่พอเจอคนพุทธก็เขัากับพุทธพระองค์ไหนว่าดีก็เอามาห้อย ก็เพราะว่าเขาหมดความเชื่อในพระเจ้าไง
ท่อนหลังนี่พึ่งนึกได้เลยเอามาเติมให้ฟัง
คาทอลิกบางคนบอกผมเป็นพุทธ์ก็ได้เป็นคริสต์ก็ได้ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่าเขาไม่เชื่อแล้วไง แต่เวลาเจอคนคาทอลิกก็บอกว่าผมเป็นคาทอลิก แต่พอเจอคนพุทธก็เขัากับพุทธพระองค์ไหนว่าดีก็เอามาห้อย ก็เพราะว่าเขาหมดความเชื่อในพระเจ้าไง
ท่อนหลังนี่พึ่งนึกได้เลยเอามาเติมให้ฟัง
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ ก.ค. 28, 2008 6:41 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อีกนัยหนึ่ง คริสตังดีไม่ค่อยไปเป็นดารา อาจจะเพราะพอแข็งที่ไม่โอนอ่อนตามในบางเรื่องก็ไม่เกิดในวงการ เราจึงเห็นแต่คริสตังเรื่อยๆ(ไม่ใช่เขาไม่ดีนะ)เข้าวงการเพราะโอนอ่อนไปเรื่อย แต่ขณะที่ดาราที่เป็นคริสเตียนโดยมากรับเชื่อตอนที่เป็นดาราแล้ว หรือเรียกว่าติดวงการแล้ว ผู้จัดผู้กำกับเลยต้องง้อ ดาราคริสเตียนจึงพอมีโอกาสที่จะประกาศความเชื่อของตนเองได้
มันก็หลายๆองค์ประกอบแหละครับ เพียงแต่ว่าคุณเห็นเหตุการเช่นนั้นแล้วคุณคิดยังไงกับคริสตังเราแค่นั้นเอง หมดหวังหรือว่ายิ่งจุดประกายความหวัง
มันก็หลายๆองค์ประกอบแหละครับ เพียงแต่ว่าคุณเห็นเหตุการเช่นนั้นแล้วคุณคิดยังไงกับคริสตังเราแค่นั้นเอง หมดหวังหรือว่ายิ่งจุดประกายความหวัง
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
แต่ว่าพอจะมีใครแนะนำได้ไหมว่าการอบรมสั่งสอนลูก ควรจะต้องทำยังไงให้ลุกมั่นคงในความเชื่อ (เอาไว้อนาคต เวลามีลูกจะได้เปิดเว็ปมาอ่าน อิอิ)
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
บุญเค้ามีน้อยไปค่ะ
เจอหนทางและความจริงแล้วแต่ยังไปทางอื่น
เจอหนทางและความจริงแล้วแต่ยังไปทางอื่น
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไม่จริง ผมคนหนึ่งอ่ะที่ไม่ใช่อันตน เขียน: อีกนัยหนึ่ง คริสตังดีไม่ค่อยไปเป็นดารา
เป็นทั้งดาราและเป็นทั้งคริสตังที่ดี
เขาไม่ได้มีบุญมากหรือบุญน้อยหรอก ใจเขากระด้างมากไปต่างหาก เพราะถ้าบอกว่าบุญมากไปน้อยไป เท่ากับว่ามีชาติโน้นมากำกับ เท่ากับว่าผิดหลักข้อเชื่อของเราJacqueline เขียน: บุญเค้ามีน้อยไปค่ะ
เจอหนทางและความจริงแล้วแต่ยังไปทางอื่น
"ผู้ที่พระองค์ทรงเรียกนั้น พระองค์ทรงบัลดาลให้เป็นผู้ชอบธรรม" รม.8-30
ข้อความนี้น่าจะเล็งไปที่ตัวเขาเอง พระเรียกแล้วแต่เขาไม่ตอบสนองกระแสเรียกเอง อาจจะเพราะเขาสนใจเสียงอื่นเสียจนเพลิน
"ข้าจะยกย่องบรรดาผู้เรืองนาม ผู้เป็นบรรพบุรุษของเราตามลำดับมา คนเหล่านี้เป็นผู้ประพฤติดี คุณความดีของเขาดำรงอยู่ไม่รู้เลือน ทรัพย์สมบัติของเขาอยู่ในครอบครัว มรดกตกอยู่กับลูกหลาน ลูกหลานเขาสัตย์ซื่อต่อพันธสัญญาเพราะเขา ลูกหลานต่อไปก็สัตย์ซื่อเช่นกัน เชื้อสายของเขาจะดำรงอยู่ชั่วกาลนาน เกียรติของเขาจะไม่เสื่อมลงเลย ศพของเขาฝังไว้อย่างสันติสุข แต่ชื่อเสียงจะอยู่ชั่วกาลนาน ชุมนุมชนจะประกาศความเฉลียวฉลาดของเขา ที่ประชุมจะยกเกียรติเขา" บสร.44-10-15
ข้อความนี้เล็งถึงทุกคนที่มีลูกหลานต่อไปในอนาคต ผมว่าพระคัมภีร์สองบทนี้ทำให้เห็นภาพได้ดีทีเดียวเลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ฃBatholomew เขียน:ไม่จริง ผมคนหนึ่งอ่ะที่ไม่ใช่อันตน เขียน: อีกนัยหนึ่ง คริสตังดีไม่ค่อยไปเป็นดารา
เป็นทั้งดาราและเป็นทั้งคริสตังที่ดี
คร้าบ พ่อบัวลอย อ้อ แล้วอย่าลืมคิดตังให้ดีด้วยละ จะได้เก็บเงินไว้ซื้อม่าม่ามาต้มกินเย็นนี้กับเงินเติมน้ำมันรถเครื่องพรุ่งนี้ได้ถูก
-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
โหย ลองไอซ์เป็นดาราดิ จะแพร่ธรรม ให้แมร่งกลับใจไปทั้งกองเลย
ไอซืก็มีเพื่อนเป็นดารา มายด์อ่า ที่ แสดงเรื่องสังค์ทองเป็น รจนา อ่า
วันนั้นไปงานศพ เพื่อน (พุทธ) ไปกินข้าว ไอซ์ก็เดชะพระนาม แล้วมันก็แซว ว่า ต้องทำแน่ๆเลย อะไรประมานนี้อ่า
อ่า ถึวแซว เราก็ไม่อาย ยังดีซะอีก ที่เค้าเห็นพฤติกรรม ที่เราแสดงว่าเราอยู่กับ เรา ตรงนั้น
อ่า ถ้าเป็นดารา จิงๆอ่า กลับใจทั้งกอง 555+ เอาฮา นะ เอ๊กๆ
ไอซืก็มีเพื่อนเป็นดารา มายด์อ่า ที่ แสดงเรื่องสังค์ทองเป็น รจนา อ่า
วันนั้นไปงานศพ เพื่อน (พุทธ) ไปกินข้าว ไอซ์ก็เดชะพระนาม แล้วมันก็แซว ว่า ต้องทำแน่ๆเลย อะไรประมานนี้อ่า
อ่า ถึวแซว เราก็ไม่อาย ยังดีซะอีก ที่เค้าเห็นพฤติกรรม ที่เราแสดงว่าเราอยู่กับ เรา ตรงนั้น
อ่า ถ้าเป็นดารา จิงๆอ่า กลับใจทั้งกอง 555+ เอาฮา นะ เอ๊กๆ
Batholomew เขียน:ไม่จริง ผมคนหนึ่งอ่ะที่ไม่ใช่อันตน เขียน: อีกนัยหนึ่ง คริสตังดีไม่ค่อยไปเป็นดารา
เป็นทั้งดาราและเป็นทั้งคริสตังที่ดี
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
คริสตังพี่ ไม่ใช่คิดตังอันตน เขียน:คร้าบ พ่อบัวลอย อ้อ แล้วอย่าลืมคิดตังให้ดีด้วยละ จะได้เก็บเงินไว้ซื้อม่าม่ามาต้มกินเย็นนี้กับเงินเติมน้ำมันรถเครื่องพรุ่งนี้ได้ถูกBatholomew เขียน:ไม่จริง ผมคนหนึ่งอ่ะที่ไม่ใช่อันตน เขียน: อีกนัยหนึ่ง คริสตังดีไม่ค่อยไปเป็นดารา
เป็นทั้งดาราและเป็นทั้งคริสตังที่ดี
แหม มุข ๆ
-
- โพสต์: 137
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 07, 2005 1:38 pm
- ที่อยู่: Bangkok
แต่ She ก็แสดงความฉลาดพอประมาณว่าน้อย (ถึงน้อยที่สุด)
ที่บอกว่า สามารถส่งผลบุญให้กับบิดามารดรที่ล่วงลับได้ดีกว่า
ไม่ทราบว่า เอาเครื่องวัดหรือมิเตอร์ยี่ห้อไรไปวัดเนี้ย ฮึ แม่ฉาบ (คิดว่า ขำๆ อย่าซีเรียส 555555555)
ที่บอกว่า สามารถส่งผลบุญให้กับบิดามารดรที่ล่วงลับได้ดีกว่า
ไม่ทราบว่า เอาเครื่องวัดหรือมิเตอร์ยี่ห้อไรไปวัดเนี้ย ฮึ แม่ฉาบ (คิดว่า ขำๆ อย่าซีเรียส 555555555)
เห็นว่าการประปาส่วนภูมิภาคไปติดให้minirosary เขียน: แต่ She ก็แสดงความฉลาดพอประมาณว่าน้อย (ถึงน้อยที่สุด)
ที่บอกว่า สามารถส่งผลบุญให้กับบิดามารดรที่ล่วงลับได้ดีกว่า
ไม่ทราบว่า เอาเครื่องวัดหรือมิเตอร์ยี่ห้อไรไปวัดเนี้ย ฮึ แม่ฉาบ (คิดว่า ขำๆ อย่าซีเรียส 555555555)
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตมากกว่าอันตน เขียน:เห็นว่าการประปาส่วนภูมิภาคไปติดให้minirosary เขียน: แต่ She ก็แสดงความฉลาดพอประมาณว่าน้อย (ถึงน้อยที่สุด)
ที่บอกว่า สามารถส่งผลบุญให้กับบิดามารดรที่ล่วงลับได้ดีกว่า
ไม่ทราบว่า เอาเครื่องวัดหรือมิเตอร์ยี่ห้อไรไปวัดเนี้ย ฮึ แม่ฉาบ (คิดว่า ขำๆ อย่าซีเรียส 555555555)
อ่านแล้วมองดูตัวเอง เค้าเปลี่ยนไปนับถือพุทธ ก็คงไม่ห่างจากที่เราเปลี่ยนจากพุทธมาเป็นคาทอลิก
จุดสำคัญไม่ได้อยู่ที่เราจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน จะนับถือศาสนาอะไร
สิ่งสำคัญมีเพียงว่า เมื่อเข้ามาแล้ว...จะไม่ทำให้ศาสนาเสียหายเพราะความประพฤติที่ไม่ดีของเรา
อย่างพี่ที่เคยเป็นคนพุทธ คนพุทธอื่นๆที่ไม่ใช่เพื่อนและรู้จักเราเพียงผิวเผินก็จะบอกว่า
เออ....เป็นพุทธอยู่ดีๆ ไม่ชอบ ชอบไปเป็นคริสต์ตามสมัยนิยม ประมาณว่าเป็นคริสต์แล้วเท่ห์
แต่ถ้าเป็นเพื่อนๆก็จะบอกว่า...เออ นิสัยดีขึ้นฟ่ะ...ทำไมดีขึ้นขนาดเนี๊ย...ใจเย็นขึ้น
พูดจาเป็นงานเป็นการ เข้าใจคนอื่นมากขึ้น เออ....ดี ดี ดี...
แต่เพื่อนเหล่านั้นก็ยังคงความเป็นพุทธแบบตามกระแสโลกนะ คืออะไรก็ดีหมด
จุดสำคัญของความคิดนี้เท่าที่พี่คิดได้ตอนนี้คือ
ไม่ว่าเราจะนับถืออะไรหรือเป็นอะไร เราควรศึกษาและปฏิบัติอย่างจริงจังสมำ่เสมอ
นอกจากนั้นเราควรจริงใจทั้งต่อตัวเองและคนอื่นๆด้วยนะ
การที่เค้าประกาศว่าเค้าเคยเป็น = ตอนนี้ไม่เป็นแล้ว ก็ยังดีกว่าที่มีดาราบางคนบอกว่าเป็นคริสต์
แต่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับการที่ประกาศว่าเป็นคริสต์
ศาสนาเป็นของกลางนะคะ ใครก็มีสิทธิ์เลือกตามแต่ใจจะคิด จะชอบ
เราทำได้แต่เพียงสวดภาวนาให้เค้าค้นพบพระเจ้าแนวทางที่ดีที่สุด
คราวนี้สิ่งที่เค้าเลือกที่จะ"ละทิ้ง"นั่นแหละ
นี่ล่ะ...น่าเสียดายจริงๆ
จุดสำคัญไม่ได้อยู่ที่เราจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน จะนับถือศาสนาอะไร
สิ่งสำคัญมีเพียงว่า เมื่อเข้ามาแล้ว...จะไม่ทำให้ศาสนาเสียหายเพราะความประพฤติที่ไม่ดีของเรา
อย่างพี่ที่เคยเป็นคนพุทธ คนพุทธอื่นๆที่ไม่ใช่เพื่อนและรู้จักเราเพียงผิวเผินก็จะบอกว่า
เออ....เป็นพุทธอยู่ดีๆ ไม่ชอบ ชอบไปเป็นคริสต์ตามสมัยนิยม ประมาณว่าเป็นคริสต์แล้วเท่ห์
แต่ถ้าเป็นเพื่อนๆก็จะบอกว่า...เออ นิสัยดีขึ้นฟ่ะ...ทำไมดีขึ้นขนาดเนี๊ย...ใจเย็นขึ้น
พูดจาเป็นงานเป็นการ เข้าใจคนอื่นมากขึ้น เออ....ดี ดี ดี...
แต่เพื่อนเหล่านั้นก็ยังคงความเป็นพุทธแบบตามกระแสโลกนะ คืออะไรก็ดีหมด
จุดสำคัญของความคิดนี้เท่าที่พี่คิดได้ตอนนี้คือ
ไม่ว่าเราจะนับถืออะไรหรือเป็นอะไร เราควรศึกษาและปฏิบัติอย่างจริงจังสมำ่เสมอ
นอกจากนั้นเราควรจริงใจทั้งต่อตัวเองและคนอื่นๆด้วยนะ
การที่เค้าประกาศว่าเค้าเคยเป็น = ตอนนี้ไม่เป็นแล้ว ก็ยังดีกว่าที่มีดาราบางคนบอกว่าเป็นคริสต์
แต่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับการที่ประกาศว่าเป็นคริสต์
ศาสนาเป็นของกลางนะคะ ใครก็มีสิทธิ์เลือกตามแต่ใจจะคิด จะชอบ
เราทำได้แต่เพียงสวดภาวนาให้เค้าค้นพบพระเจ้าแนวทางที่ดีที่สุด
คราวนี้สิ่งที่เค้าเลือกที่จะ"ละทิ้ง"นั่นแหละ
นี่ล่ะ...น่าเสียดายจริงๆ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
มาถามแม่ฉันสิ เหอ เหอImmanuel (MichaelPaul) เขียน: แต่ว่าพอจะมีใครแนะนำได้ไหมว่าการอบรมสั่งสอนลูก ควรจะต้องทำยังไงให้ลุกมั่นคงในความเชื่อ (เอาไว้อนาคต เวลามีลูกจะได้เปิดเว็ปมาอ่าน อิอิ)
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เมื่อ อาทิตย์ก่อนโน่น ได้มีโอกาสไปวัดคาทอลิก ที่วัดหนึ่ง ขณะที่คุณพ่อเทศน์ เด็กๆ ก็วิ่งไปมา เด็กบางคนนั่งหลับคาอกแม่
บางคน (คงสองคนพี่น้อง) นอน หลับข้างๆย่า/ยาย เจี๊ยบพยายามนับเด็ก พวกวัยอนุบาล ป.1-3 ประมาณนี้ มีเด็กร่วม 10 คน
เจี๊ยบคิดในใจว่า ทำไมเขาไม่เปิดชั้นเรียนพระคัมภีร์ ที่เราโปรฯเรียกว่า "รวีวารศึกษา" มีประโยชน์ ดังนี้
1.พ่อ-แม่/ย่า-ยาย ได้มิสซา อย่างสุขใจ ไม่ต้องคอยจุ๊ปากับเด็กๆ ซึ่งเขาก็ไม่เคยฟัง
2.คนอื่นๆที่ร่วมมิสซา ก็พลอยสุขใจ ไม่มีใครมาขัดขวางจิตใจขณะมิสซา
3.คุณพ่อที่เทศน์ ก็สุขใจ เพราะไม่มีใครมาขัดขวางการถวายมิสซาของท่าน
4.เด็กได้เรียนพระคัมภีร์ เป็นลำดับขั้นตอน พวกเขาจะได้เติบโตในความเชื่อ ทำให้ไม่หลงไปโดยง่าย
5.ครู ผู้สอน ก็จะเติบโตในความเชื่อด้วย
6.ทำให้เด็กๆที่มาวัดแล้วมีความหมายต่อพวกเขา ไม่ใช่สร้างความน่าเบื่อให้เขาแต่เยาวัย
ดังพระคัมภีร์สดุดีได้บันทึกว่า
"จงสอนเด็กในทางที่เขาควรเดิน เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะไม่พลาดจากทางนั้น"
"พระวจนะคือประทีปส่องเท้าของเขา"
บางคน (คงสองคนพี่น้อง) นอน หลับข้างๆย่า/ยาย เจี๊ยบพยายามนับเด็ก พวกวัยอนุบาล ป.1-3 ประมาณนี้ มีเด็กร่วม 10 คน
เจี๊ยบคิดในใจว่า ทำไมเขาไม่เปิดชั้นเรียนพระคัมภีร์ ที่เราโปรฯเรียกว่า "รวีวารศึกษา" มีประโยชน์ ดังนี้
1.พ่อ-แม่/ย่า-ยาย ได้มิสซา อย่างสุขใจ ไม่ต้องคอยจุ๊ปากับเด็กๆ ซึ่งเขาก็ไม่เคยฟัง
2.คนอื่นๆที่ร่วมมิสซา ก็พลอยสุขใจ ไม่มีใครมาขัดขวางจิตใจขณะมิสซา
3.คุณพ่อที่เทศน์ ก็สุขใจ เพราะไม่มีใครมาขัดขวางการถวายมิสซาของท่าน
4.เด็กได้เรียนพระคัมภีร์ เป็นลำดับขั้นตอน พวกเขาจะได้เติบโตในความเชื่อ ทำให้ไม่หลงไปโดยง่าย
5.ครู ผู้สอน ก็จะเติบโตในความเชื่อด้วย
6.ทำให้เด็กๆที่มาวัดแล้วมีความหมายต่อพวกเขา ไม่ใช่สร้างความน่าเบื่อให้เขาแต่เยาวัย
ดังพระคัมภีร์สดุดีได้บันทึกว่า
"จงสอนเด็กในทางที่เขาควรเดิน เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะไม่พลาดจากทางนั้น"
"พระวจนะคือประทีปส่องเท้าของเขา"
-
- โพสต์: 137
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 07, 2005 1:38 pm
- ที่อยู่: Bangkok
น่ะ เอาเข้าไป อิอิอันตน เขียน:เห็นว่าการประปาส่วนภูมิภาคไปติดให้minirosary เขียน: แต่ She ก็แสดงความฉลาดพอประมาณว่าน้อย (ถึงน้อยที่สุด)
ที่บอกว่า สามารถส่งผลบุญให้กับบิดามารดรที่ล่วงลับได้ดีกว่า
ไม่ทราบว่า เอาเครื่องวัดหรือมิเตอร์ยี่ห้อไรไปวัดเนี้ย ฮึ แม่ฉาบ (คิดว่า ขำๆ อย่าซีเรียส 555555555)
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
พวกดาราไม่เห็นมีใครจริงใจกับพระสักคน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พูอแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เพราะคาทอลิกที่เป็นดาราหลายคนก็ศรัทธาในพระนะครับJack Sparrow เขียน: พวกดาราไม่เห็นมีใครจริงใจกับพระสักคน
ยกตัวอย่างเช่น คุณเอ สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ, มาริโอ้, น้องแพรทริก, คุณสาธิต กรีกุล ฯลฯ
อย่าไปเหมารวมเลยครับ
ที่จริงก้อพอมีอยู่บ้างครับแต่น้อยมากกก เท่าที่เห็นๆก้อคงมีคุณจอห์น นูโว คุณนิหน่า คุณซูโม่กิ๊ก นอกนั้นก้อ..นะ เห็นๆกันอยู่ แยกย้ายกันไปไหว้พระไหว้เจ้า นุ่งขาวห่มขาวกันเป็นแถว จริงๆคาทอลิกไทยถึงมีจำนวนน้อยแต่ได้รับพระพรในโลกมายาหลายคนนะครับ แต่ก้ออย่างว่าครับดาราคริสตังส่วนมากเกือบทั้งหมดเป็นคริสตังนอน นับถือตามๆกันมาตามบรรพบุรุษ เห็นจะมีคุณนิหน่าที่เป็นคริสตังยืนและศรัทธาจริงๆ