มีใครดูรายการสุริวิภามั่งครับ

[L.M.N]

เมื่อ2ตอนที่ผ่านมามีใครมีโอกาสได้ดูบางครับ ตอนช่วงนี้จะเป็นช่วงที่พี่หนูแหม่มตระเวณไปสัมภาษณ์สาวไทยที่ประสบความสำเร็จในทวีปยุโรป ส่วน 2

อาทิตย์ที่ผ่านมาก้อไปที่สาธารณรัฐเชค ซึ่งท่าที่ได้ดูก้อคงจะทราบว่ามีสาวไทยที่ประสบความสำเร็จ แต่งงาน และได้รับตำแหน่ง Lady ของประเทศเชค

แล้วต่อมาก้อจะมีตอนที่พาไปเที่ยวปราสาทเก่าแก่ต่าง ในปราสาทนั้นก้อจะมี Chapel ที่เก็บเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา ผู้ที่จะเข้าไปในห้องนี้ได้ต้องจองล่วง

หน้ากว่า 2 เดือน แล้วก้อเข้าไปได้ทีละไม่เกิน 15 คน รวมทั้งมีการควบคุมลมหายใจด้วย พี่หนูแหม่มกับเลดี้ก้อเข้าไปใน ไม่แน่ใจว่าชื่อ St. Mary's

Chapel อ่ารึป่าว แต่เต็มไปด้วยรูปวาดบรรดานักบุญ พระแม่มารีอา พระเยซู แต่รู้สึกว่าเลดี้คนนั้นที่เป็นพุทธ จะมีความรู้มากกว่าพี่หนูแหม่มทางความเชื่อ

คาทอลิกอีกนะครับ แล้วก้อไม่เห็นพี่หนูแหม่มจะแสดงความเคารพตามความเชื่อคาทอลิกเลย อย่างน้อยแค่ไหว้ก้อยังดี ตามความคิดเรานะ แล้วตอนเมื่อวาน

ที่พี่หนูแหม่มพาไปที่หมู่บ้านพลัมที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหมู่บ้านพุทธศาสนา นิกายมหายาน(รึป่าว??) มีกิจกรรมมากมายครับ น่าสนใจดี ดูสงบกว่าเมือง

ไทยอีก ก้อเห็นพี่หนูแหม่มเข้าไปร่วมกิจกรรมอย่างดีเลยครับ สัมภาษณ์แม่ชีจีน แต่ผมยอมรับว่าก้อได้แนวคิดดีๆหลายอย่างจากการที่ฟังท่านแม่ชีพูดนะ

ครับ สิ่งที่รายการสุริวิภานำเสนอสะท้อนสถานการณ์อะไรหลายๆอย่างในทวีปยุโรปเลยว่ามั้ยครับ

1.ศาสนาคริสต์ไม่ว่าจะนิกาย คาทอลิก โปรเตสแตนท์ แองกลิกัน แทบจะไม่เป็นที่ยึดเหนี่ยวของพลเมืองอีกต่อไป คนยุโรปส่วนมากที่แต่งงานกับคนไทยแทบทั้งหมดจะหันมานับถือศาสนาพุทธตามฝั่งคนไทย

2.สะท้อนความเสื่อมของศาสนาคาทอลิกในฝรั่งเศส เพราะแม่ชีให้สัมภาษณ์ว่าช่วงปี 1983 ประชากรคาทอลิกที่เคร่งครัดต่อต้านการเข้ามาของท่าน และกล่าวร้ายป้ายสีต่างๆนานา แต่พอต่อมาคนเหล่านั้นก้อยอมรับ และหันมาปฏิบัติธรรมกับท่าน รวมถึงชักจูงคนอื่นๆมาด้วย นับวันยิ่งมากขึ้น (แว่วๆมาว่าปัจจุบันคาทอลิกฝรั่งเศสมีเพียงแค่ 50 % เท่านั้น และที่ปฏิบัติศาสนกิจสม่ำเสมอมีเพียงแค่25% เท่านั้น ยังไงผู้รู้ช่วยตรวจสอบข้อมูลอีกทีนะครับ)

3.ศาสนาคริสต์ในยุโรปเสื่อมเพราะ ประชาชนละทิ้งศาสนาเองเพราะวิทยาศาสตร์ก้าวหน้า หรือ ศาสนจักรละเลยในการสั่งสมความเชื่อให้แก่พวกเขา หรือ ประชาชนเหล่านั้นไม่เลื่อมใสในพระสงฆ์ นักบวช หรือบรรดาศาสนาจารย์

[ignatius]

อืม...เรื่องของรายการประมาณนี้อีกแล้ว จริงๆแทบทุกครั้งคุณสุริวิภา
ก็ไม่ได้แสดงความเป็นคริสต์หรือคาทอลิกให้ใครเห็นอยู่แล้ว
และจากรายการครั้งก่อนที่พี่ได้ดูเป็นช่วงที่คุณคนนี้พูดถึงตัวเอง
เปรียบเทียบหลักศาสนาคริสต์กับหลักพุทธศาสนา
ในมุมมองที่เป็นเฉพาะตัวเองรู้สึก และเปลี่ยนศาสนาจากคาทอลิกเป็นพุทธ
นอกนั้นก็ยังพูดทำนองสรุปความคิดของตัวเอง แต่ตีรวมเป็นสาธารณะไปเลย

จริงอยู่ คนเรามีสิทธิ์คิด พูด ทำอะไรก็ได้ แต่ต้องเคารพสิ่งนับถือและความคิดของผู้อื่นด้วย
โดยเฉพาะคนที่มีสื่อวิทยุโทรทัศน์ในมือแบบนี้
ความคิดส่วนตัวของคุณไม่ควรมาใช้ตัดสินคนอื่น หรือศาสนาที่คนอื่นนับถือ...
ดูแล้วไม่ค่อยพอใจน่ะคะ เปิดไปถึงตอนที่เค้าพูดอะไรเข้าข่าย นอกลู่นอกทางนี้ก็จะเปลี่ยนช่องเลย
ไม่ก็ปิด พร้อมความรู้สึกเซ็งเซ็ง เลยไม่ได้รู้อะไรอีก

[Isolation]

เขาจะเป็นอารายก็เรื่องของเขาบูชาเทพเจ้าอะไรก็เรื่องของเขาเเต่เราเป็นคาทอลิก
ครอบครัวผมเป็นพุทธทั้งหมด
ผมคนเดียวที่เป็นคาทอลิก
ดังนั้นจึงรักษาความเชื่อให้มั่นคงที่สุด
ผมเคยเห็นคนฝรั่งเศสคนหนึ่งมาอยู่ที่ไทยเเล้วเขาก็เปลี่ยนศาสนา
เขาเห็นผมเป็นคาทอลิกเขายังบอกว่าดีเลย
อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระเจ้าของท่าน  :cheesy:

[Pry-Kaew]

เขาจะเป็นอารายก็เรื่องของเขาบูชาเทพเจ้าอะไรก็เรื่องของเขาเเต่เราเป็นคาทอลิก
ครอบครัวผมเป็นพุทธทั้งหมด
ผมคนเดียวที่เป็นคาทอลิก
ดังนั้นจึงรักษาความเชื่อให้มั่นคงที่สุด
ผมเคยเห็นคนฝรั่งเศสคนหนึ่งมาอยู่ที่ไทยเเล้วเขาก็เปลี่ยนศาสนา
เขาเห็นผมเป็นคาทอลิกเขายังบอกว่าดีเลย
อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระเจ้าของท่าน  :cheesy:

ผมเห็นก็เหมือนกันครับ ตั้งแต่กลับใจจนล้างบาป ยันปัจจุบัน ก็เหงื่อและน้ำตาล้วนๆ กล้าพูดเลยว่าทุกวันนี้ยังรักพระ และสวดภาวนา อ่านพระคัมภีร์อยู่ เพราะความเชื่อ(ที่มาจากพระหรรษทาน)ล้วนๆครับ ศาสนาคาทอลิก คือความเชื่อแห่งความผูกพันและการภาวนาตีสนิทกับพระ ห่างเหินก็หลุดทันที(หากบุคคลอยู่ในสภาวะที่ไม่มีเหตุใดเลย ที่ส่งเสริมความเชื่อให้มั่นคงได้) ผมกับน้องโอ๊ต เจอการทดลองเดียวกันครับ แต่ผมหนักกว่า เคยคุยกับพี่อิ่ม(พี่สาวสุดสวยแห่งวัดรังสิต) ปัญหาแบบผมเจอ แบบโอ๊ตเจอ และแบบคุณวินเจอนั้น น้อยคนนักที่คริสตังด้วยกันจะเข้าใจ เกิดเป็นคริสตังไทย(โดยเฉพาะอย่างยิ่งคริสตังยืน ที่เป็นคนเดียวในครอบครัว ในตะกูล และในสังคมที่ตนเองอยู่ ไม่นับพวกคริสตังยืนที่เปลี่ยนจากการแต่งงานนะ)ต้องทรหดอดทน ทั้งกายและใจครับ เพราะสิ่งรอบตัวไม่เอื้อเลยสักนิดต่อการเติบโตในความเชื่อ(แถมบางคนยังมองความเชื่อเราในแง่ลบอีกต่างหาก) ไม่มีใครที่เราพึ่งได้นอกจากพระและการภาวนาครับ เป็นคริสตังไทย(ยืน) ต้องแลกด้วยน้ำตาและความปวดร้าวครับผม แม้กระทั่งคริสตังด้วยกันเอง ยังไม่ค่อยเข้าใจปัญหาเลย(เพราะไม่ได้โดนเอง เจอเอง) กล้าพูดเลย พระหรรษทานล้วนๆ จริงๆ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

[Holy Satan]

ทำไมไม่เห็นมีใครไปทำรายการที่หมู่บ้านเทเซ่บ้างเลย

มีอะไรที่น่าต้นหา น่าประทับใจมากมาย

[Pry-Kaew]

ทำไมไม่เห็นมีใครไปทำรายการที่หมู่บ้านเทเซ่บ้างเลย

มีอะไรที่น่าต้นหา น่าประทับใจมากมาย

ก็เพราะยังไม่มีคาทอลิกไทย ที่มีสื่อ มีโทรทัศน์ อยู่ในมือ(สักที)ไงครับ ดังนั้นเราทำ เราถ่าย เราชงเอง ขายเอง น่าจะตรงประเด็นมากกว่า และไม่ทำให้คนอื่นเขาเข้าใจผิดในความเชื่อจากการทำรายการที่ไม่ระมัดระวังเรื่องความรู้จริงของความเชื่อด้วย(ละเอียดอ่อนมาก)

ส่วนรายการของสุริวิภา โดยส่วนตัวแล้ว ทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่าข้าพเจ้า(พลายแก้วสุดหล่อ) ความเชื่อห่วยแตก และสิ่งต่างๆในชีวิตก็แทบไม่มีอะไรสักนิด ที่จะเอื้อต่อการเติบโตความเชื่อได้เลย(พูดได้ว่าความเชื่อห่วยที่สุดในบอรด์นี้) พอดูรายการของคุณสุริวิภาแล้ว แทบไม่อยากเชื่อเลย คนเคย(ขอย้ำ ว่าคนเคย)เป็นคาทอลิก จะเชื่อในเรื่องอะไรแบบนี้ อ้อ...ข้าพเจ้ามีกิ๊กเป็นสาวพุทธ เขาบอกว่า ทรงเจ้า เข้าผี และดูชะตา เดรัจฉานวิชาล้วนๆเลย แม้นว่าคุณสุริวิภาจะไปนับถือพุทธแล้ว แต่ดูท่าก็ยังห่างจะพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากนัก หากยังยึดติดกับภูติผี และตัญหาของกิเลสในความอยากต่างๆ โดยอาศัยสัพพะเวสี ในเรื่องทำให้สมหวัง ตามแรงกิเลสและตัญหาของตน แถมยังทำรายการให้คนยึดติด และคิดทำตามอีก

แม้นว่าข้าพเจ้าเป็นคริสตัง(แม้นจะว่าห่วยแตกก็ตามเหอะ) แต่หากดูธรรมะพระพยอมฯหรือใครบางคน ก็โอเคนะ ดูเยือกเย็นดี แต่........ดูรายการสุริวิภา ดูแล้วบอกคำเดียว ส่ายหัวครับ จะนับถืออะไรก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ทำให้ผู้ชมเข้าใจอะไรผิดๆไป(ไม่ว่าเรื่องคาทอลิก หรือเรื่องศาสนาอื่น)ผมว่าดาบสองคมนะ

เป็นคริสตังก็อย่าหวังสบาย เพราะก็ไม่เคยสบายอยู่แล้ว ไม่มีเวลาไปซ้อมเพลงหรือเข้าเงียบ และกิจกรรมกลุ่มเยาวชน แบบบางคนหรอก เพราะต้องทำมาหากิน ไม่งั้นอดตายก่อน

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

[~@Little lamb@~]

ไม่สนใจเธอ และ ไม่ดูรายการของเธอค่ะ 
เหะ เหะ เหะ

[อันตน]

แต่ผลกระทบที่มีต่อคริสตังมันเยอะในไทยก็เยอะพอสมควรนะครับ อย่างเช่นวันนี้ผมไปฉลองวัด(ภูเก็ต)กลับมา ก็เข้าประชุมหน้างานต่อ ระหว่างรอประชุมผมก็เอาหนังสือที่ระลึกจากวัดมาอ่านไปพลางๆ พวกคนอื่นก็เริ่มเลยครับ แม้จะเกรงใจไม่กล้าพูดตรงๆแต่ก็เล่นเอาสะอึกเหมือนกัน เขาพูดกันประมาณว่าดูรายการสุริวิภาเมื่อคืนนี้ไหม ฉอดๆๆๆๆ ฝรั่งยังมาเข้าเลย ฝรั่งชอบ แต่เขาเองก็ยอมรับว่าการไปเผยแพร่ศาสนาพุทธในเมืองนอกคนเข้าใจได้ง่ายกว่า การเทศนาธรรมในบ้านเรา เพราะว่าคนไทยฟังพระไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็คุยกันไปสักพักก่อนจะไปเข้าเรื่องอื่น
สำหรับผมแล้วสรุปว่า
1 ฝรั่งไม่แสวงหาพระ จนทิ้งศาสนาอย่างน่าเสียดาย
2 คนเอเซียก็เก่งหา เพราะเข้าไปในช่วงที่ฝรั่งกำลังขาดที่ยึดเหนี่ยวอย่างแท้จริง
3 แม่หนูแหม่มก็ขอให้พระอวยพรเธอแล้วกัน ดูอย่างนักบุญเปาโลยังกลับใจได้เลย เธอผู้ทำให้การเบียดเบียนเกิดขึ้นเล็กๆทั่วไปก็คงจะกลับใจได้สักวัน

[Jeab Agape]

ที่พี่หนูแหม่มพาไปที่หมู่บ้านพลัมที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหมู่บ้านพุทธศาสนา นิกายมหายาน(รึป่าว??) มีกิจกรรมมากมายครับ น่าสนใจดี ดูสงบกว่าเมือง

ไทยอีก ก้อเห็นพี่หนูแหม่มเข้าไปร่วมกิจกรรมอย่างดีเลยครับ สัมภาษณ์แม่ชีจีน แต่ผมยอมรับว่าก้อได้แนวคิดดีๆหลายอย่างจากการที่ฟังท่านแม่ชีพูดนะ

ครับ สิ่งที่รายการสุริวิภานำเสนอสะท้อนสถานการณ์อะไรหลายๆอย่างในทวีปยุโรปเลยว่ามั้ยครับ

ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจี อากาศบริสุทธิ์ สัมผัสได้ถึงความงดงามของธรรมชาติ
เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านพลัม (Plum Village)

ท่านติช นัท ฮันห์ พระมหาเถระฝ่ายมหายานนิกายเซน ชาวเวียดนาม ก่อตั้งหมู่บ้านพลัมขึ้นเมื่อ พ.ศ.2525 เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เจริญสติภาวนาในชีวิตประจำวัน แก่ผู้คนทุกเพศวัยโดยไม่มีเส้นแบ่งทางศาสนา

ที่มาของชื่อหมู่บ้าน "พลัม" เกิดจากท่านติช นัท ฮันห์ มีความประสงค์จะสร้างชุมชนปฏิบัติธรรมขึ้น ครั้งนั้นมีภิกษุเสนอให้ตั้งชื่อว่า
หมู่บ้านโรงเรียนสำหรับหนุ่มสาวเพื่อรับใช้สังคม

แต่ท่านติช นัท ฮันห์ เสนอให้ใช้ชื่อ "หมู่บ้านพลัม" เพราะพื้นที่ดังกล่าวปลูกต้นพลัมนับพันต้น เพื่อให้ออกผลให้ผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามซึ่งอพยพเข้ามาอยู่ในฝรั่งเศสเก็บรับประทาน และคำว่า "พลัม" ฟังดูน่ารักและเบาสบาย เหมาะเป็นที่พักทางจิตวิญญาณ

ภายในหมู่บ้านพลัมประกอบด้วยวัดของภิกษุและภิกษุณีรวม 4 วัด คือ อัพเพอร์ แฮมเล็ท โลเวอร์ แฮมเล็ท นิว แฮมเล็ท และ โลเวอร์ เมาน์เทน แฮมเล็ท มีภิกษุและภิกษุณีซึ่งเป็นชาวต่างชาตินับสิบประเทศ รวมประมาณ 130 รูป และมีฆราวาสจากแทบทุกมุมโลกมาฝึกเจริญสติที่หมู่บ้านพ

[Chartres]

ดูเหมือนกันค่ะ แอบตะขิดตะขวงใจนิดส์ๆเหมือนกัน ตอนเข้าไปใน Chapel คาทอลิก พี่หนูแหม่มไม่ได้แสดงว่าตัวเธอเองเป็นคาทอลิกเลยค่ะ เหมือนฟังแขกรับเชิญอธิบายเฉยๆเกี่ยวกับประวัติรูปวาดนักบุญต่างๆ ที่จิงตัวเธอเองน่าจะแสดงความเคารพบ้างก้อยังดี เพราะก้อมองเห็นรูปพระเยซู แม่พระด้วย ถ้าครั้งหน้าให้สัมภาษณ์รายการไหนว่าชีเป็นคริสต์ที่เคร่ง หรือออกตัวว่าเป็นคาทอลิกที่หาแสงสว่างแห่งปัญญาไม่เจออีกนี่คงไม่ไหวแล้วนะค้าเจ๊

[Pry-Kaew]

1 ฝรั่งไม่แสวงหาพระ จนทิ้งศาสนาอย่างน่าเสียดาย
2 คนเอเซียก็เก่งหา เพราะเข้าไปในช่วงที่ฝรั่งกำลังขาดที่ยึดเหนี่ยวอย่างแท้จริง
3 แม่หนูแหม่มก็ขอให้พระอวยพรเธอแล้วกัน ดูอย่างนักบุญเปาโลยังกลับใจได้เลย เธอผู้ทำให้การเบียดเบียนเกิดขึ้นเล็กๆทั่วไปก็คงจะกลับใจได้สักวัน

ขอตอบข้อหนึ่งก่อน
1.เคยคุยกับฝรั่ง(อเมริกัน)หลายคน พวกมันบอกว่าเคยเข้าวัด(คาทอลิก)สมัยตอนเด็กๆเพียงเท่านั้น(แถมโดนยาย โดนตาพวกมันบังคับด้วยซ้ำ) และก็เข้าอีกที ตอนแต่งงาน และสุดท้าย มาเข้าอีกที ตอนลงหลุมและบาทหลวงทำพิธีให้ครับ สรุปเลย นับถือตามสังคม ตามประเพณี และการจำยอมทางครอบครัวครับ หากได้เข้าถึง ถึงพระหรรษทานและประสบการณ์ส่วนบุคคลกับพระไม่(ฝรั่งอเมริกันโดยส่วนใหญ่ ไม่รวมโปรแตสแตนด์นะครับ พวกนี้ คริสเตียนตัวอย่างเลย)

2.ไม่แปลกใจหรอกครับ ว่าทำไมความเชื่อแบบเอเชีย ไม่ว่าพุทธ เต๋า ขงจื้อ และฯลฯ จึงได้รับความนิยมในสังคมฝรั่ง(โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกไอ้กัน อเมริโกย)ก็พวกมันNo Root ,No Believe และสังคมไม่มีลักษณะความเป็นพี่น้อง ไม่แปลกใจหรอกครับ ที่ความเชื่อแบบเอเชียจึงได้รับความนิยม และอีกอย่าง คริสตจักรในอเมริกา(โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐทางใต้)ไม่สามารถเป็นที่พึ่งกับประชาชนได้เลย แม้กระทั่งด้านจิตใจ มีการแบ่งแยกสีผิวกันในหมู่สัตบุรุต การนำเรื่องสีผิวมาเป็นตัวกีดกันตำแหน่งของพระสงฆ์คาทอลิก และฯลฯ ทำให้คนมองไม่เห็นพระเจ้าแห่งความรักในคริสตจักร เมื่อมองไม่เห็น แถมตัวเองก็ไร้รากแห่งความเชื่อ ดังนั้นการละทึ้งความเชื่อ ไปสู่หนทางใหม่ จึงเกิดขึ้นง่ายดาย

3.ส่วนหนูแหม่ม หากบอกว่าตัวเองเป็นคนไทยพุทธ โดยไม่อ้างว่าตัวเองเป็นคาทอลิกมาก่อน ก็ไม่เห็นมีใครว่านิ คริสตังยืนส่วนใหญ่ต้องดำเนินความเชื่อด้วยความปวดร้าวและเจ็บปวดจากปากหอยปากปู และไม่ราบรื่นในการเติบโตความเชื่อ ก็เพราะคนที่เป็นคาทอลิกแบบทะเบียนบ้าน แล้วเปลี่ยนนี้แหละ ทำให้คนเขารักของเขาจริง ต้องมาถูกหักหัวใจด้วยคำพูดของคนที่นำชื่อเธอ(และคนกลุ่มเดียวกับประเภทของเธอ)มาอ้างหักล้าง ละเมิดน้ำใจ คริสตังยืน

ทำให้นึกถึงคำพูดของอาจารย์(คริสเตียน)ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า " ความเชื่อในพระเจ้า และการเป็นคริสตชน ไม่สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม" ขอบคุณครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

[Holy]

ผมมีกระทู้แนะนำที่เคยลงไว้นานพอสมควร เกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส

พระเจ้าทรงเห็นล่วงหน้าถึงความตกต่ำของธิดาหัวปีของพระสาสนจักรนี้แน่นอน

†วิกฤตศรัทธาในฝรั่งเศส และการประจักษ์ของพระเยซูเจ้า†

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=5391.0

[Like a Heaven]

อื้ม...ไม่รู้ว่ามันเปนอะไรเหมือนกันนะครับ

พอผมเหนพิธีกรรายการนี้ในทีวีทีไร







มันปวดท้องหนักขึ้นมาทันทีเลยอ่ะครับ

[L.M.N]

เธอจะรู้ม้ยน้า ว่าเธอและดาราคริสตังนอนหลายๆคนมีส่วนมากเลยทีเดียวที่ทำให้คริสตังในประเทศไทยเค้าปั่นป่วน โดยเฉพาะคริสตังยืน และคนที่สนใจใน

ศาสนาคริสตัง เขาเหล่านั้นอาจจะโดนคนรอบข้างพูดว่า ดูอย่างหนูแหม่มสิ ยังหันมาปฏิบัติธรรม อ่านหนังสือธรรมะเลย ทั้งๆที่เป็นคริสต์ที่เคร่งมั่กกกกกกๆๆๆ

มาก่อน ดูอย่างดาราคนนั้นสิ คนนู้นสิ เป็นคริสตังยังมาบวชพระเลย คนนั้น คนนนี้ยังห้อยพระ ทอดผ้าป่า และ บลาๆๆๆ อีกหลายกรณี อันนี้เท่าที่เคยเจอมา

กับตนเองนะคับ

[Pry-Kaew]

เธอจะรู้ม้ยน้า ว่าเธอและดาราคริสตังนอนหลายๆคนมีส่วนมากเลยทีเดียวที่ทำให้คริสตังในประเทศไทยเค้าปั่นป่วน โดยเฉพาะคริสตังยืน และคนที่สนใจใน

ศาสนาคริสตัง เขาเหล่านั้นอาจจะโดนคนรอบข้างพูดว่า ดูอย่างหนูแหม่มสิ ยังหันมาปฏิบัติธรรม อ่านหนังสือธรรมะเลย ทั้งๆที่เป็นคริสต์ที่เคร่งมั่กกกกกกๆๆๆ

มาก่อน ดูอย่างดาราคนนั้นสิ คนนู้นสิ เป็นคริสตังยังมาบวชพระเลย คนนั้น คนนนี้ยังห้อยพระ ทอดผ้าป่า และ บลาๆๆๆ อีกหลายกรณี อันนี้เท่าที่เคยเจอมา

กับตนเองนะคับ

ใช่ครับ ดาราคริสตังนอนพวกนี้ เขารู้ไหม เขาได้สร้างกางเขนเห็นความเจ็บปวดและชอกช้ำ กับคริสตังยืนที่กลับใจเพราะรักพระ(ด้วยตัวเขาเอง)อย่างมาก เพราะการประพฤติต่างๆดาราคริสตังนอนพวกนี้ ได้ถูกนำมาหยิบยกเพื่อใช้ในการเหน็บแนม ดูถูก เสียดสี เหยียดหยาม ดูหมิ่น หักหัวใจ และข่มเหงทางคำพูดและการกระทำต่อคริสตังยืนที่กลับใจด้วยใจศรัทธา แต่กลับถูกครหาจากคนต่างศาสนา ทำไมหนอ เราไม่เคยล้ำเส้นใคร(คริสตังไม่มีการเผยแพร่ศาสนาแน่นอน ใครจะมากลับใจ ต้องติดต่อเอง เรียนเอง จ่ายเอง สอบเอง ฯลฯ ดังนั้นกล้าพูดเลย ไม่เคยไปพูดเรื่องพระให้คนที่ไม่สนใจฟังเหมือนนิกายอื่นๆ) แต่พวกเรามักถูกล้ำเส้นเสมอ เหมือนกับการได้อยู่กับพระคริสตเยชูและแม่พระอันเป็นที่รัก ต้องมีของแถมเป็นความเจ็บปวดเสมอ(ความเจ็บปวดทางความศรัทธา และการล้ำเส้นทางศาสนา เป็นเรื่องเจ็บปวดมากที่สุด ต้องเจอเอง โดนเอง จึงจะรู้รส)

ผมเองไม่เคยมีอคติต่อศาสนาอื่นเลยนะ เพราะกลุ่มเพื่อนๆที่ไปฝึกทหารด้วยกันก็คนไทยพุทธหมด บรรดากิ๊ก(ทั้งหมด)ก็คนไทยพุทธหมด และเพื่อนๆในวงการธุรกิจและวงการอื่นๆก็คนไทยพุทธหมด แต่เรามีอะไรที่ชอบเหมือนๆกัน คล้ายๆกัน มีรสนิยม ทางด้านกีฬา ดนตรี การแต่งกาย รวมทั้งสนใจและชอบในสิ่งเดียวกัน และLivestyleที่เป็นในแนวเดียวกัน และเขาก็ไม่มาพูดหักหาญน้ำใจในความเชื่อของเรา และเราก็ไม่ได้ไปลบหลู่หรือล้ำเส้นในความเชื่อของเขา เราก็คนไทยเหมือนกันนั้นแหละ

หากพวกดาราคริสตังนอน ไม่บอกว่าตัวเองเคยเป็นคริสตัง หรือเป็นคริสตัง จะดีต่อผู้อื่นไม่น้อยเลยทีเดียว นับถือศาสนาอะไร เป็นเรื่องน่าสรรเสริญน่าความเชื่อความศรัทธานั้นๆไม่ละเมิดจิตใจผู้อื่น แต่สิ่งที่ดาราเหล่านั้นทำ ขอใช้ภาษาคนไทยพุทธก็แล้วกัน เขาได้สร้างกรรมกับคริสตังยืนไทย ทุกคนบนแผ่นดินนี้ ให้ต้องเป็นคริสตังด้วยความยากลำบาก พระพุทธองค์คงไม่พอใจหรอก หากคนที่นับถือพระองค์ท่าน ได้กล่าววาจาที่เหมือนลักษณะเบียดเบียนหัวใจของผู้อื่น แถมบางคนยังใช้คำพูดของพวกท่าน เป็นเครื่องมือในการเบียนเบียดด้วยวาจา ต่อคริสตังยืนด้วยแล้ว แบบนี้เขาเรียกว่า สร้างบุญหรือสร้างกรรมละ

อย่ามาอ้างว่าเรื่องเผยแพร่ความเชื่อ เพราะคริสตังไม่เคยเผยแพร่ คนเป็นคริสตังยืน ต้องติดต่อเอง หาเอง วิ่งเอง เรียนเอง จ่ายเงินเอง ไม่มีใคร คณะใด และองค์กรใดใดสนับสนุนทั้งสิ้น ขนาดผมเอง อยากเข้าบ้านเณร แต่ไม่มีเงิน ไม่มีคนส่งเงิน ยังหมดหวังเลย เลยต้องทำมาหากิน ปากกัดตีนถีบ เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
เพื่อให้ชีวิตอยู่รอด และมีเงินเติมน้ำมันขับรถไปวัด(จริงๆแล้วอยากไปทุกวัน)ด้วยซ้ำ ดังนั้นกล้าพูดเลยว่า คริสตังไม่เคยล้ำเส้นและหักหาญน้ำใจใคร แต่ผู้อื่นมักหักหาญน้ำใจคริสตังเสมอ(หมายถึงคริสตังยืน ที่กลับใจด้วยตัวเอง และไม่เกี่ยวกับคริสตังยืนที่มาจากการแต่งงาน พวกนั้นEasyมาก)

เป็นคริสตังอย่าหวังสบาย ก็เพราะไม่เคยสบายอยู่แล้ว ยังศรัทธาอยู่ เพราะความรักพระล้วนๆ จริงๆ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

[Jeab Agape]

เธอจะรู้ม้ยน้า ว่าเธอและดาราคริสตังนอนหลายๆคนมีส่วนมากเลยทีเดียวที่ทำให้คริสตังในประเทศไทยเค้าปั่นป่วน โดยเฉพาะคริสตังยืน
และคนที่สนใจใน ศาสนาคริสตัง เขาเหล่านั้นอาจจะโดนคนรอบข้างพูดว่า ดูอย่างหนูแหม่มสิ ยังหันมาปฏิบัติธรรม อ่านหนังสือธรรมะเลย
ทั้งๆที่เป็นคริสต์ที่เคร่งมั่กกกกกกๆๆๆ มาก่อน ดูอย่างดาราคนนั้นสิ คนนู้นสิ เป็นคริสตังยังมาบวชพระเลย คนนั้น คนนนี้ยังห้อยพระ
ทอดผ้าป่า และ บลาๆๆๆ อีกหลายกรณี อันนี้เท่าที่เคยเจอมา กับตนเองนะคับ


เจี๊ยบตอบ

// ถึงเธอรู้ก็คงไม่สนใจเพราะเธอตั้งใจหลงไปจากพระบิดาเจ้า    ส่วนคริสตังยืนคงชินแล้วไม่หวั่นไหวนะครับ เรามาติดตามพระเยซูเจ้าไม่ได้ติดตามดาราหลงทาง  ใครเห็นเธอทำอย่างนั้นก็ดูถูกเท่านั้นเอง ไม่ได้เอามาเป็นสาระว่าจะเอาเป็นแบบเลย  ส่วนที่บอกว่าเคร่งมากน่ะ ตัวเองบอก ไม่เคย
เห็นใครบอกว่าเธอเคร่ง ศาสนิกอื่นฟังแล้วอาจจะนึกสมเพชน่ะมากกว่าครับ

ส่วนดาราที่ไปบวชพระ ห้อยพระองค์โตๆ ทอดผ้าป่า ถวายสังฆทาน และบลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดว่า ไม่มีใครสนใจเขามากหรอก เพียงแต่เสียดาย
โอกาส ที่พระเจ้าทรงอวยพรแล้ว เขาไม่สามารถเป็นท่อพระพรนำคนอื่นๆมารับพระพรของพระเยซูเจ้า นะครับ

[Batholomew]

ไม่สนใจเธอ และ ไม่ดูรายการของเธอค่ะ 
เหะ เหะ เหะ

ด้วยคนครับ บอกตามตรง ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ลึก ๆ เหมือนพยายามโจมตีศาสนา

[canon]

หนูแหม่มโชคดีที่ได้รับความเอื้อเฟื้อและความปรารถนาดีจากคนที่มาสัมภาษณ์เสมอค่ะ พอคุยด้วยและรู้ว่า เราไม่ได้รักการอ่าน ก็จะให้เล่มเล็ก ๆ มา เวิร์กมาก ในชีวิตหนังสือเล่มเดียว ที่ซื้อที่ไม่ใช่นิตยสารก็คือ

[Jeab Agape]

^
^
ขอบคุณครับพี่แคนนอน ที่ลอก บทสัมภาษณ์ของพี่หนูแหม่ม มาให้อ่าน ก็อะนะ เธอมีความเชื่อแบบผสมผสาน โดยลืมพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
ว่าไปก็คือ อยู่กับคริสต์ แต่ไม่มีโอกาส อ่านพระคัมภีร์ (ยิ่งบอกว่าขี้เกียจอ่านอีก เฮ้อ ) ซึ่งเป็นพระวาจา ที่ทรงชีวิต.......คำตอบของพี่เธอ
อาจจะถูกใจชาวพุทธ แต่ขัดใจเราชาวคริสต์ครับ

[Dis volentibus]

^
^
ขอบคุณครับพี่แคนนอน ที่ลอก บทสัมภาษณ์ของพี่หนูแหม่ม มาให้อ่าน ก็อะนะ เธอมีความเชื่อแบบผสมผสาน โดยลืมพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
ว่าไปก็คือ อยู่กับคริสต์ แต่ไม่มีโอกาส อ่านพระคัมภีร์ (ยิ่งบอกว่าขี้เกียจอ่านอีก เฮ้อ ) ซึ่งเป็นพระวาจา ที่ทรงชีวิต.......คำตอบของพี่เธอ
อาจจะถูกใจชาวพุทธ แต่ขัดใจเราชาวคริสต์ครับ

จริงค่ะ 

[ignatius]

มีครั้งแรกที่พี่ดูรายการหนึ่งที่สัมภาษณ์คุณแหม่มเรื่องการขอเด็กมาเลี้ยงแทนที่เธอไม่สามารถมีลูกได้เอง
ครั้งนั้นรู้สึกเห็นใจเธอเป็นกำลัง

ต่อมาอีกไม่นานเป็นรายการของเธอที่พูดเรื่องหลักธรรมในคริสตศาสนา และหลักพุทธเปรียบเทียบกัน
ซึ่งเธอเองได้ละเลยที่จะอ่านพระคัมภีร์หรือเฉยเมย จนเป็นเหตุให้เธอปักใจอย่างผิดๆแบบที่เธอให้สัมภาษณ์นั้นแหละ

ตอนนั้นฟังแล้วขัดใจ..รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ใช้สื่อในการกระจายความคิดของตัวเองแบบไม่ถูกต้อง
โดยการนำเอาความคิดตัวเองมาสรุปว่าทุกคนคิดเหมือนตัวเองทั้งหมด

หลังจากนั้นก็ไม่อยากดูรายการเธออีก..รู้สึกขัดตา ขัดใจ พยายามคิดว่าไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ก็อดไม่ได้
เพราะเรา -พี่กับแหม่ม- เดินสวนทางกัน มุมมองในความคิดแตกต่างกันมาก จุดที่เหมือนกันคือ เราเปลี่ยนศาสนา
ที่ว่ามุมมองต่างกันคือ ถ้าเราเปลี่ยนจากศาสนาเดิมเป็นศาสนาอะไรก็แล้วแต่

ในความเป็นจริงและถูกต้องตามหลักมโนธรรม ไม่ว่านับถือศาสนาไหน คุณควรให้เกียรติทุกๆศาสนาเท่าๆกัน
เพราะการที่คุณเปลี่ยนศาสนาไม่ใช่เพราะหลักคำสอนของศาสนานั้นๆบกพร่อง
แต่เป็นเพราะตัวคุณเองเลือกที่จะตัดสินใจ เลือกทางเดินชีวิตใหม่ ที่แตกต่างจากเดิม

ดังนั้นคุณไม่มีสิทธิ์จะกล่าวโทษศาสนาใดๆ ที่คุณก้าวออกมา
ซึ่งการกระทำแบบที่แหม่มทำ อาการเช่นนี้ก็เป็นการแสดงออกถึงจิตใจ มโนธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ของคนคนนั้นว่าดีงามหรือหย่อนยานเพียงไร
ผู้กระทำนั้นมักทำตามใจคิด...เค้าคงชิน...และคุ้นเคย

พวกเราคงทำได้แต่สวดภาวนาให้เค้าปฎิบัติตนให้ถูกต้องตามหลักธรรมนั้นๆ อย่าได้หลงไปในวังวนอื่นๆอีกเลย

ส่วนเราที่เป็นคริสตชนใหม่หลายๆคน หรือคริสตังยืนทุกคนก็ได้รู้จักที่จะรักพระองค์และเลือกหนทาง ความจริง และชีวิต ตามองค์พระเยซูเจ้าแล้ว
เราจึงกำลังเป็นจุดรวมสายตาของคน ที่มองเราว่าจะไปได้สักกี่นำ้...

ขอพระจิตเจ้าประทานความรักไว้ในใจเรา

เพื่อที่เราจะได้รักให้สมกับที่พระองค์ยอมแลกชีวิตของพระองค์เพื่อเราคนบาป

ขอพระจิตเจ้าประทานความวางใจ ให้กับเรา

เพื่ิอที่เราจะได้มอบกิจการต่างๆในชีวิตไว้กับพระองค์ ในองค์พระบิดา พระเยซูเจ้า และแม่พระอย่างหมดหัวใจ

ขอพระจิตเจ้าประทานความเชื่ออันร้อนรน และความอดทน

เพื่อที่ว่าเราจะได้ปฎิบัติตนตามแบบอย่างในหนทางขององค์พระเยซูคริสตเจ้า

องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทั้งหลายผู้ทรงไถ่บาปและนำเราไปสู่ทางรอดพ้น อาเมน.

[Pry-Kaew]

^
^
ขอบคุณครับพี่แคนนอน ที่ลอก บทสัมภาษณ์ของพี่หนูแหม่ม มาให้อ่าน ก็อะนะ เธอมีความเชื่อแบบผสมผสาน โดยลืมพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
ว่าไปก็คือ อยู่กับคริสต์ แต่ไม่มีโอกาส อ่านพระคัมภีร์ (ยิ่งบอกว่าขี้เกียจอ่านอีก เฮ้อ ) ซึ่งเป็นพระวาจา ที่ทรงชีวิต.......คำตอบของพี่เธอ
อาจจะถูกใจชาวพุทธ แต่ขัดใจเราชาวคริสต์ครับ

อ่านหนังสือธรรมะศาสนาพุทธไม่ผิดหรอก(ผมว่าดีด้วยซ้ำนะ) แต่ที่ไม่ค่อยพอใจ ทีจะอ่านพระคัมภีร์บ้าง ดันบอกว่าขึ้เกียจ หรือฯลฯ การที่เธอบอกว่าเชื่อแบบผสมผสานนั้น คิดว่าเธอเป็นพุทธแน่นอนครับ(ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ทางใครทางมันก็แล้วกันท่านผู้ชม) แต่เนื่องจากญาติพี่น้องบางส่วนคงเป็นคริสตัง เลยต้องร่วมพิธีแบบคริสตัง(ด้วยเหตุผลทางมารยาท แต่ศรัทธาหรือไม่ ไม่ขอตอบ) สรุปเลย เธอเป็นสาวชาวไทยพุทธเต็มตัวแล้ว แต่ยังจำใจ จำยอม ต้องร่วมพิธีทางศาสนาคริสตัง เนื่องจากเหตุผลทางมารยาทมากกว่า

จริงๆแล้วไม่น่าตอบว่าเชื่อแบบผสมผสานเลย ไม่ศรัทธา ก็ไม่มีใครเขาว่านิ ที่ต้องบอกว่าเชื่อผสมผสาน เพราะเรื่องมารยาททางสังคมมากกว่าครับ

ขอพระอวยพร

[canon]

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าครอบครัวเธอมีคุณพ่อเป็นคริสตังคนเดียว หรือว่าเป็นทั้งพ่อและแม่ แต่ที่แน่ๆลูกๆเป็นคริสตังหมดนะครับ อาจจะเป็นเพราะว่าพ่อเธอเป็น

คริสตังฝ่ายเดียวรึป่าว พอพ่อเธอเสียบวกกับคนในครอบครัวก้อไม่ได้ศรัทธาเป็นทุนเดิม ก้อเลยไม่ได้มีใครสืบทอดทางศาสนาเลย แต่ถ้าอยู่ท่าแร่นี่น่าจะ

เคร่งนะครับ เห็นชุมชนที่นั่นเป็นคริสตังที่เข้มแข็งที่สุดในประเทศเลยก้อว่าได้ ใครเป็นคนท่าแร่และพอจะรู้เรื่องราวพี่หนูแหม่มช่วยตอบด้วยละกันนะครับ

[Kichinto]

ขอให้พี่หนูแหม่ม มีความรัก  รักในแสงสว่าง ความดีงาม และเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็เพียงพอแล้ว ... นอกจากนั้นก็อย่าไปตัดสินเค้าเลย

สวดภาวนาช่วยเหลือเค้าจะดีกว่าเน้อ
...เมื่อเอาบทความประเภทนี้ มาลงแล้วก็ขอให้ช่วยกันสวดตามหลังอ่านด้วย ...

บทความที่สะดุดใจเหล่านี้ ขอให้เป็นข้อมูลที่รับทราบ และหลังจากนั้นก็ช่วยกันสวดเน้อ... ขอให้คิดกันอย่างนี้เน้อ

[love.na]

"โอ้พระบิดาเจ้าข้า  ขอโปรดอภัยโทษเขาเพราะว่า เขาไม่รู้ว่า เขาทำอะไร"

[ShibuyaBammy]

เคยดูสัมภาษณ์พี่หนูแหม่มรายการอะไรจำไม่ได้เช่นกัน
จนตัวเองอยากเขียนจม ไปที่โพลีพลัส บอกพี่หนูแหม่มจังเลย
เขาหลงทางรึเปล่าเนี่ย

[taiyo]

ผมก็เคยดูรายการการ คุณแหม่มที่คุณแหม่มมาปรับทุกข์แล้วเปลี่ยนศาสนา มีอยู่ตอนหนึ่ง ที่พูดถึงหลักการให้อภัยในศาสนาคริสต์ แต่แกพูดยังกับว่า ว่าหลักนี้มาจากศาสนาพุทธ ซึ่งผมฟังที่เธอพูดแล้วก็คิดในใจว่า เฮ้ย นี่มันหลักการของคริสต์นี่หว่า ที่แกพูดมาว่า จงรักผู้อื่นเหมือนรักตัวเอง... มันอยู่ในไบเบิ้ลชัดๆ แล้วไหงแกไปพูดทำนองแบบนั้น ผมก็เลยรู้สึกแย่ๆที่เธอทำแบบนั้น

[Pry-Kaew]

ผมก็เคยดูรายการการ คุณแหม่มที่คุณแหม่มมาปรับทุกข์แล้วเปลี่ยนศาสนา มีอยู่ตอนหนึ่ง ที่พูดถึงหลักการให้อภัยในศาสนาคริสต์ แต่แกพูดยังกับว่า ว่าหลักนี้มาจากศาสนาพุทธ ซึ่งผมฟังที่เธอพูดแล้วก็คิดในใจว่า เฮ้ย นี่มันหลักการของคริสต์นี่หว่า ที่แกพูดมาว่า จงรักผู้อื่นเหมือนรักตัวเอง... มันอยู่ในไบเบิ้ลชัดๆ แล้วไหงแกไปพูดทำนองแบบนั้น ผมก็เลยรู้สึกแย่ๆที่เธอทำแบบนั้น

ก็ใช่นะสิครับ แค่จุดนี้แหละ ที่ผมไม่พอใจอย่างมากเลย จะนับถือความเชื่อศาสนาใดๆ ก็แล้วแต่ใจ ทางใครทางมัน หลักการให้อภัย เป็นพื้นฐานของทุกศาสนาและความเชื่ออยู่แล้วครับ(การให้อภัยถือเป็น output) แต่ขึ้นอยู่กับว่า input และ process อาจแตกต่างกัน แต่output ก็อันเดียวกันนี้น่า

จงรักผู้อื่น เหมือนรักตัวเอง(พระวาจาจากพระวรสาร) หากใครผ่านห้องเรียนคำสอนของคริสตัง(คาทอลิก) หรือผ่านห้องเรียนคำสอนรวีวารศึกษาของคริสเตียน(โปรแตสแตนด์) ก็รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นคำสอนเอกที่สำคัญของพระเยชูเจ้า ไม่ว่าคำสอนระดับอนุบาล หรือคำสอนระดับผู้ใหญ่ หรือหากบาปหนาจริงๆ ไม่เคยเลยที่จะผ่านห้องเรียนคำสอน แต่ยังอ่านพระคริสต์ธรรมคัมภีร์อยู่บ้าง พระวาจาข้อดังกล่าว ต้องผ่านหูผ่านตาบ้างแหละนา(เพราะพระเยชูเจ้าพูดในพระวรสารทุกเล่ม) หรือหากบาปหนาและตกเหวในความเชื่อ คัมภีร์ไม่เคยอ่าน ห้องเรียนคำสอนไม่เคยเข้า แต่ยังไปวัด(คาทอลิก)ไปวา อยู่บ้าง(แม้นนานๆที่ก็ตาม) พระสงฆ์(คาทอลิก)ก็จะเน้นพระวาจาข้อนี้ตลอด หรือบางวัด มีพระวาจาข้อนี้ ทำเป็นป้าย(หรือข้อความที่เห็นได้เห็น) ติดไว้ในตัววัด หรือโรงเรียนในสังกัดวัดเลย(ในทุกจุดที่เห็นได้ชัดเจน) พระวาจาข้อนี้ ขนาดคริสตังอนุบาลยังรู้เลย หากอ้างว่าตนเองเป็นคริสตชนแล้ว ไม่รู้ว่าพระวาจาข้อนี้ เป็นคำพูดของพระเยชูเจ้าในพระวรสารแล้ว ดูท่า........หนักยิ่งกว่าคริสตังนอน ทะเบียน และทึ้งวัดอีกนะ(บางคนทึ้งวัดไปแล้ว คิดว่าถามว่าพระวาจานี้ มาจากพระวรสารเล่มใด คงตอบได้ เพราะพื่นฐานมากเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ เหมือนถามชาวพุทธว่าศีลห้ามีอะไรบ้าง ตอบไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่าอะไรแล้ว)

แค่นี้ก็แสดงให้เห็นพื้นฐานทางความเชื่อ ทางคำสอน และภูมิหลังของพิธีกรอ้วนคนนี้ ว่าเป็นเช่นไร จริงๆแล้ว หากนำความเชื่อศาสนาหนึ่ง ไปเปรียบเทียบ หรืออธิบายให้คล้องจ้องกับศาสนาหนึ่ง(เพื่อความสันติและความเข้าใจต่อกันและกัน) ผู้พูด ต้องมีความรู้ทั้งสองความเชื่อศาสนานั้นๆ เป็นอย่างดี(มากๆ) เพราะละเอียดอ่อนและเสี่ยงต่อการผิดใจกันได้ง่ายมาก คำสอนทางพุทธ ข้าพเจ้าไม่ขอวิจารณน์ แต่คำสอนทางคริสต์ที่ออกจากปากพิธีกรอ้วนคนนี้ บอกตรงๆ คริสตังที่เป็นเด็กอนุบาล ที่พ่อแม่มาฝากให้ซีลเตอร์หรือมาเซอร์เลี้ยงนั้น เผลอๆอาจมีความรู้ในเรื่องพระคริสตศาสนา และคำสอนพระเยชู มากกว่าพิธีกรอ้วนคนนี้มากนัก ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆครับ

นับถืออะไร ศรัทธาอะไร เข้าถึงสิ่งใด และมีความสุขกับสิ่งไหน ไม่มีใครว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคลและจิตใจล้วนๆ คุณมีความสุข ผมก็มีความสุขด้วย คุณพ้นทุกข์และปลง หรือละ ลด เลิก และปล่อยวาง รวมทั้งเข้าถึงธรรมจนดื่มดำรสพระธรรม ผมยินดีด้วย เพื่อนพี่น้องมีความสุข ทำไมผมจะไม่สุขด้วยล่ะครับ(คริสตังเราสอนว่าแม้นผู้อื่น จะไม่ได้เชื่อเหมือนเรา และต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม หรือฯลฯ แต่เราและคุณก็คือพี่น้องกัน ที่อยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน ควรรักและเมตตาต่อกัน คุณมีความสุข ผมก็สุขด้วย)

แต่............พิธีกรอ้วนคนนี้ มาวิจารณ์ ในสิ่งที่ตัวเองไม่มีความรู้ดีพอ(แม้นกระทั่งความรู้พื้นฐาน) แม้นจะไร้ศรัทธาในคริสตัง ไม่เป็นไรหรอก แต่ทำไมหนอ กล้าวิจารณ์ และเปรียบเทียบ ในสิ่งที่ตนเองขาดความรู้ และศรัทธา มันดูไม่ดีเลย(ต่อตัวเขาเอง) ขนาดศาสนาพุทธเอง มีพระสงฆ์พุทธองค์ใด นอกรีต นอกรอย เทศนาและสอนในสิ่งที่แตกต่างหรืออุตริจากพระธรรม(ของทางพุทธ) ยังได้รับการเตือนและร้องเรียนเลย ฉันใดก็ฉันนั้นแหละครับ

ขนาดผมว่าเป็นคริสตังที่ความเชื่อห่วยแตกที่สุดในบอรด์ เป็นคริสตชนที่มาตราฐานต่ำมาก และบาปต้น รวมทั้งพยศชั่ว ผิดแม่งทุกข้อ แถมอยู่ใกล้ผม บางทีอาจรู้สึกอยู่ใกล้ลูซิเฟอร์ มากกว่ารู้สึกอยู่ใกล้พระเยชูเจ้า ยังรู้เลยว่า พระวาจาที่ว่านั้น เป็นพระดำรัสของพระเยชูเจ้าในพระวรสาร และหากเป็นความเชื่อในศาสนาอื่นๆ ข้าพเจ้าจะไม่วิจารณ์ทั้งสิ้น เพราะไม่รู้จริง พูดไป ตัวเองเจ็บตัว หรือเปลืองตัว ผมว่านะ ทางใครทางมัน สุขใครสุขมัน ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว เอามาเทียบกับผสานไม่ได้หรอก เพราะมันไม่เหมือนกันเลยอย่างสิ้นเชิง แต่อยู่ด้วยกันด้วยความรัก ความเมตตา และเข้าใจต่อกันและกัน น่าจะดีกว่านะครับ

ขอพระอวยพรทุกท่าน

[Little Puppet]

เรื่องคุณแหม่ม ไม่มีความเห็น...แต่ก็ไม่ดูเหมือนกัน

ดูแค่ตอนสัมภาษณ์ท่านดิช นัท ฮันท์ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

ติดตรงที่ว่า คุณแหม่มคงไม่ได้นับถือศาสนาแบบผสมผสานหรอกครับ
เพราะพุทธศาสนา มีลักษณะเป็นปรัชญา มากกว่า ศาสนา เหมือนกับเราศึกษาปรัชญาของกฤษณมูรติ คาลิล ยิบราน หรือ รพินทรนาถ ฐากูร
อะไรพวกนั้น แม้เราเป็นคริสต์ เราก็ยังศึกษาคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ ฟังพระพยอม ว วชิรเมธีได้อย่างสบายใจ

นี่สิถึงเรียกว่าการศึกษาศาสนาแบบรอบด้าน ไม่ใช่การเอาศาสนาหนึ่งมาข่มศาสนาหนึ่ง แบบที่คุณแหม่ม และปูหรือดาราคาทอลิกหลายๆ คนทำ

ดูแล้วนึกถึงคริส เบญจกุล ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคาทอลิก ตอนนี้กลับทำบุญไปทอดกฐิน ไหนจะไปบวชอีก สุดท้ายพระเลยสั่งสอนให้ต้องบาดเจ็บอีกครั้ง
ส่วนตัวคิดว่า พระคงเตรียมไม้ไว้ตีแกะหลงเหล่านี้ด้วยความรักอยู่แล้วหละครับ

อ้อ

คุณแก้ว คุณว่าคุณแก้วเป็นคริสตชนมาตรฐานต่ำเหรอครับ ยังหรอก ยังมีผมต่างหาก ที่ต่ำกว่าคุณมากเลยอะ
ไม่ใช่มีแต่คุณแก้วคนเดียวซักหน่อย

ระลึกถึงทุกท่านในคำภาวนาครับ
:-)

[Like a Heaven]

เข้ามาดูอีกที

ยาวซะแล้ว