อ่านแล้ว สะเทือนใจแย่มาก
(เป็นบทความที่ผมเอามาจากเวปๆนึง)
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
เวลาประมาณบ่าย 5 โมงเย็น
มีรถบรรทุกหมูที่จะไปส่งโร! งฆ่าสัตว ์แล่นผ่านมา
ได้มีหมูตัวหนึ่ง ดิ้นรนหลุดออกจากกรง ตกลงมาจากรถกระบะ
ลงมาอยู่ที่ริมฟุตบาท ตรงหน้าแฟนผม
เกิดความสงสารสัตว์ที่จะถูกนำไปโรงฆ่า
เธอโทรศัพท์หาผม เราตกลงกันว่าจะติดต่อขอซื้อหมูตัวนั้น ในราคา 6000
บาท
แล้วให้นำไปส่งที่บ้าน ใน จ . สมุทรปราการ ที่อยู่ห่างไปประมาณ 10 กม .
มาวันแรกเค้ายังเดินไม่ได้ เนื่องจากเจ็บที่ขาหลังด้านขวา
อีกทั้งน้ำหนักมากถึง 107 กิโล ร่วมกับเพลียจากการเดินทาง
วันแรกจึงให้น้ำ
ให้อาหาร แล้วมันก็นอนพัก เราก็เป็นห่วง กลัวมันจะไม่สบาย
เราได้ตั้งชื่อมันว่า เจ้าสำโรง ตามสถานที่ที่พบมัน
เช้าวันต่อมา อาการมันดีขึ้น สดใสขึ้น กินน้ำได้มาก
เราได้ไปพาสัตวแพทย์ที่หน้าซอยบ้านมาตรวจ 2 ครั้ง
แพทย์บอกว่าเจ้าสำ! โรงอ่อนเพลีย และเจ็บที่ขา ตรวจแล้วกระดูกไม่หัก
แต่กล้ามเนื้ออักเสบ ให้นอนพักผ่อน
เนื่องจากเกรงใจเพื่อนบ้านที่ติดกันเนื่องจากหมูร้องเสียงดัง
จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ วัดสวนแก้ว จ . นนทบุรี
เนื่องจากเคยได้ยินว่ามีรับสัตว์ที่ไถ่ชีวิต
ทางวัดบอกว่ามีการรับเลี้ยงสั! ตว์ที่ไถ่ชิวิตจริงๆ
แต่ที่นนทบุรีเต็มแล้ว
ทางวัดมีสาขาที่ อ . กบิณทร์บุรี จ . ปราจีนบุรี
ชื่อมูลนิธิร่มโพธิ์แก้ว 2
( วัดนรก) รับเลี้ยงสัตว์ที่ถูกไถ่ชีวิตทางวัดที่นนทบุรี ส่งวัว ควาย
ไปไว้ที่นั่นแล้วสิบกว่าตัว รับเลี้ยงได้ จึงติดต่อให้ทางวัดนำรถมารับ
โดยจ่ายค่าขนส่ง 1000 บาท ตกลงให้มารับในวันเสาร์
ในวันเสาร์ วันนี้เป็นวันที่รถของทางวัดจะมารับเจ้าสำโ ! รง
วันนี้มันดีขึ้นมาก
พยายามลุกเดิน 3 ขา แต่ยังไม่ค่อยไหว กินอาหารได้ดีขึ้นมา! ก
เราเลี้ยงเจ้าสำโรงด้วยข้าว กล้วย ผักกาด ผักบุ้ง
วันนี้เราเลยได้รู้ว่าเจ้าสำโรงชอบกินผักบุ้งมาก
นึกแล้วก็ใจหายเหมือนกัน
เพราะวันนี้รถจะมารับมันไปแล้ว
วันนี้เจ้าของเขียงหมูที่เราซื้อเจ้าสำโรงมา
แวะมาเยี่ยมที่บ้านด้วย แล้วก็ให้คำแนะนำในการเลี้ยง
รวมทั้งถามอาการเจ็บขาของมัน
(เราเองก็คาดไม่ถึงว่าเจ้าของเขียงหมูจะเป็นห่วง
ตามมาเยี่ยมถึงบ้านด้วย เค้าบอกว่าพรุ่งนี้จะมาเยี่ยมอีก
เราบอกเค้าว่าวันนี้ทางวัดจะมารับมันไปเลี้ยงแล้ว
ไม่ต้องมาแล! ้วก็ได้ครับ ขอบคุณมากๆ )
ประมาณ บ่าย 3 โมง รถของทางวัดก็มารับ
เราช่วยกันอุ้มเจ้าสำโรงขึ้นรถอย่างทุลักทุเล
วันนี้เจ้าสำโรงร้องดังมากๆ
เหมือนมันไม่อยากไป เราเองก็คิดถึงมัน เลยขอแผนที่ทางวัดไว้
เผื่อวัน! หลังจะตามไปเยี่ยม ตกเย็น ไปงานรับปริญญาน้องชายแฟน
กลับมานอนที่บ้าน
นอนไม่ค่อยหลับ เพราะคิดถึงเจ้าสำโรง มันรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก
น่าแปลกที่แฟนก็คิดเหมือนกัน
วันรุ่งขึ้นจึงตัดสินใจไปเยี่ยมมันที่โน่นเลย
เผื่อขาดเหลือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงจะได้ช่วยกัน
ไปถึงวัดตอนบ่ายๆ บริเวณมูลนิธิร่มโพธิ์แก้ว
จะมีลักษณะเป็นโรงจำหน่ายของที่รับบริจาคมา ละมีการทำสวนพืชไร่หลายชนิด
จึงไปติดต่อกับพระที่ดูแลที่นี่
บอกท่านว่ามาเยี่ยมเจ้าสำโรงที่รถนำมาส่งเมื่อวาน ระหว่างนั้น
เจ้าหน้าที่วัด
และพระรูปอื่น ทำหน้าแปลกๆ และซุบซิบกันไปมา
และได้เรียกพระท่านนี้เข้าห้องไปคุย ปิดประตูอยู่พักหนึ่ง ท่านก็ออกมา
ผมเลยบอกว่ารบกวนท่านบอกทางไปที่เลี้ยงสัตว์
เพราะว่าวันนี้ไปแวะซื้อผักบุ้งจากห้างมาหอบใหญ่
เพราะรู้ว่าเจ้าสำโรงชอบ
พระท่านบอกว่าเดี๋ยวพาไปเอง ท่านพาเดินดูที่นั่น ที่นี่ พาไปดูสวน
ผมก็บอกท่านว่าขอไปดูหมู ท่านก็บอกว่าทางนี้ พอไปถึงก็ไม่มี
ท่านก็บอกว่าอยู่อีกที่หนึ่ง วนไป วนมานานถึง 2 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบ
ระหว่างนั้นพระท่านนี้ก็เล่าว่า วัวที่นี่ไม่มีแล้ว
เนื่องจากนำไปจ่ายเป็นค่าตอบแทนชาวบ้านที่มาช่วยงานแทนเงินเดือน (แล้วถ้าหากชาวบ้านที่ได้นำไปขายหรือฆ่าล่ะ )
ระหว่างเดินอยู่ พบคอกเลี้ยงลูกหมูป่าคอกเล็ก ๆ ประมาณ 10 ตัว
ไม่พบวัวซักตัว
หลังจากเดินมานานก็ยังไม่พบ จึงถามพระ ท่านก็บอกว่าหมูเมื่อวานป่วย
นำไปส่งที่ปศุสัตว์แล้ว ผมเลยถามท่านว่าปศุสัตว์ไปทางไหน จะตามไปเยี ่ยม
ท่านก็บอกว่าวันหยุดราชการไม่เปิด
ผมก็ถามท่านว่าแล้วเมื่อวานวันหยุดราชการปศุสัตว์มาตรวจได้ยังไง
ท่านก็เงียบไปบ่ายเบี่ยงต่างๆ
แล้วบอกผมว่าเดี๋ยวต้องถามคนดูแลสัตว์อีกที
ผมก็บอกว่างั้นขอพบ พระบอกว่าคนนี้ไม่อยู่ กลับกรุงเทพ
ผมบอกว่างั้นจะรอพบ
สุดท้ายคนๆนี้ก็มา หลังจากรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง
มันบอกผมว่าหมูเมื่อวานป่วย เลยให้สัตวแพทย์มาดู
และนำไปส่งที่ปศุสัตว์แล้ว
ผมบอกจะตามไปดู ก็บอก ว่าปิดราชการ ไปไม่ได้
ผมถามว่าวั้นสัตวแพทย์มาได้ยังไง
มันตอบว่าสัตวแพทย์มาดูแล้ว บอกว่าอาการมันหนัก เลยจัดการไปแล้ว !!!
ผมตกใจมากถามว่าสัตวแพทย์ที่มาดูชื่ออะไร จะตามไปถาม ถามไปถามมา
สุดท้ายมันบอกผมว่ามันตัดสินใจฆ่าเอง โดยเชือดแบ่งเนื้อแจกจ่ายไปแล้ว
และมันบอกว่าขอรับผิดเอง มันอ้างว่าคาดไม่ถึงว่าผมจะตามไปดู
มันบอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีคนที่ไถ่ชิวิตสัตว์ตามไป! ดู มีผมเป็นคนแรก
ถ้ามันรู้ว่าผมมามันคงไม่ฆ่าหรอก ทั้งผม และแฟนผมเสียใจมาก
นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ในวัด
กับสัตว์ที่ไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่า คิดไม่ถึงว่ามาถึงที่นี่
มันไม่ให้เค้ากินน้ำกินอาหารด้วยซ้ำ กลับฆ่ามันเหมือนถูกส่งโรงฆ่าสัตว์
ผมและแฟนผมเสียใจม! าก เธอร้องไห้ตลอดเกือบทั้งวันหลังจากนนั้น
ผมจึงคิดว่าอย่างน้อยต้องประกาศให้สังคมรับรู้
ถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้น
และคงต้องพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ขอความเห็นใจจากสังคมด ้วยครับ
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
เวลาประมาณบ่าย 5 โมงเย็น
มีรถบรรทุกหมูที่จะไปส่งโร! งฆ่าสัตว ์แล่นผ่านมา
ได้มีหมูตัวหนึ่ง ดิ้นรนหลุดออกจากกรง ตกลงมาจากรถกระบะ
ลงมาอยู่ที่ริมฟุตบาท ตรงหน้าแฟนผม
เกิดความสงสารสัตว์ที่จะถูกนำไปโรงฆ่า
เธอโทรศัพท์หาผม เราตกลงกันว่าจะติดต่อขอซื้อหมูตัวนั้น ในราคา 6000
บาท
แล้วให้นำไปส่งที่บ้าน ใน จ . สมุทรปราการ ที่อยู่ห่างไปประมาณ 10 กม .
มาวันแรกเค้ายังเดินไม่ได้ เนื่องจากเจ็บที่ขาหลังด้านขวา
อีกทั้งน้ำหนักมากถึง 107 กิโล ร่วมกับเพลียจากการเดินทาง
วันแรกจึงให้น้ำ
ให้อาหาร แล้วมันก็นอนพัก เราก็เป็นห่วง กลัวมันจะไม่สบาย
เราได้ตั้งชื่อมันว่า เจ้าสำโรง ตามสถานที่ที่พบมัน
เช้าวันต่อมา อาการมันดีขึ้น สดใสขึ้น กินน้ำได้มาก
เราได้ไปพาสัตวแพทย์ที่หน้าซอยบ้านมาตรวจ 2 ครั้ง
แพทย์บอกว่าเจ้าสำ! โรงอ่อนเพลีย และเจ็บที่ขา ตรวจแล้วกระดูกไม่หัก
แต่กล้ามเนื้ออักเสบ ให้นอนพักผ่อน
เนื่องจากเกรงใจเพื่อนบ้านที่ติดกันเนื่องจากหมูร้องเสียงดัง
จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ วัดสวนแก้ว จ . นนทบุรี
เนื่องจากเคยได้ยินว่ามีรับสัตว์ที่ไถ่ชีวิต
ทางวัดบอกว่ามีการรับเลี้ยงสั! ตว์ที่ไถ่ชิวิตจริงๆ
แต่ที่นนทบุรีเต็มแล้ว
ทางวัดมีสาขาที่ อ . กบิณทร์บุรี จ . ปราจีนบุรี
ชื่อมูลนิธิร่มโพธิ์แก้ว 2
( วัดนรก) รับเลี้ยงสัตว์ที่ถูกไถ่ชีวิตทางวัดที่นนทบุรี ส่งวัว ควาย
ไปไว้ที่นั่นแล้วสิบกว่าตัว รับเลี้ยงได้ จึงติดต่อให้ทางวัดนำรถมารับ
โดยจ่ายค่าขนส่ง 1000 บาท ตกลงให้มารับในวันเสาร์
ในวันเสาร์ วันนี้เป็นวันที่รถของทางวัดจะมารับเจ้าสำโ ! รง
วันนี้มันดีขึ้นมาก
พยายามลุกเดิน 3 ขา แต่ยังไม่ค่อยไหว กินอาหารได้ดีขึ้นมา! ก
เราเลี้ยงเจ้าสำโรงด้วยข้าว กล้วย ผักกาด ผักบุ้ง
วันนี้เราเลยได้รู้ว่าเจ้าสำโรงชอบกินผักบุ้งมาก
นึกแล้วก็ใจหายเหมือนกัน
เพราะวันนี้รถจะมารับมันไปแล้ว
วันนี้เจ้าของเขียงหมูที่เราซื้อเจ้าสำโรงมา
แวะมาเยี่ยมที่บ้านด้วย แล้วก็ให้คำแนะนำในการเลี้ยง
รวมทั้งถามอาการเจ็บขาของมัน
(เราเองก็คาดไม่ถึงว่าเจ้าของเขียงหมูจะเป็นห่วง
ตามมาเยี่ยมถึงบ้านด้วย เค้าบอกว่าพรุ่งนี้จะมาเยี่ยมอีก
เราบอกเค้าว่าวันนี้ทางวัดจะมารับมันไปเลี้ยงแล้ว
ไม่ต้องมาแล! ้วก็ได้ครับ ขอบคุณมากๆ )
ประมาณ บ่าย 3 โมง รถของทางวัดก็มารับ
เราช่วยกันอุ้มเจ้าสำโรงขึ้นรถอย่างทุลักทุเล
วันนี้เจ้าสำโรงร้องดังมากๆ
เหมือนมันไม่อยากไป เราเองก็คิดถึงมัน เลยขอแผนที่ทางวัดไว้
เผื่อวัน! หลังจะตามไปเยี่ยม ตกเย็น ไปงานรับปริญญาน้องชายแฟน
กลับมานอนที่บ้าน
นอนไม่ค่อยหลับ เพราะคิดถึงเจ้าสำโรง มันรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก
น่าแปลกที่แฟนก็คิดเหมือนกัน
วันรุ่งขึ้นจึงตัดสินใจไปเยี่ยมมันที่โน่นเลย
เผื่อขาดเหลือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงจะได้ช่วยกัน
ไปถึงวัดตอนบ่ายๆ บริเวณมูลนิธิร่มโพธิ์แก้ว
จะมีลักษณะเป็นโรงจำหน่ายของที่รับบริจาคมา ละมีการทำสวนพืชไร่หลายชนิด
จึงไปติดต่อกับพระที่ดูแลที่นี่
บอกท่านว่ามาเยี่ยมเจ้าสำโรงที่รถนำมาส่งเมื่อวาน ระหว่างนั้น
เจ้าหน้าที่วัด
และพระรูปอื่น ทำหน้าแปลกๆ และซุบซิบกันไปมา
และได้เรียกพระท่านนี้เข้าห้องไปคุย ปิดประตูอยู่พักหนึ่ง ท่านก็ออกมา
ผมเลยบอกว่ารบกวนท่านบอกทางไปที่เลี้ยงสัตว์
เพราะว่าวันนี้ไปแวะซื้อผักบุ้งจากห้างมาหอบใหญ่
เพราะรู้ว่าเจ้าสำโรงชอบ
พระท่านบอกว่าเดี๋ยวพาไปเอง ท่านพาเดินดูที่นั่น ที่นี่ พาไปดูสวน
ผมก็บอกท่านว่าขอไปดูหมู ท่านก็บอกว่าทางนี้ พอไปถึงก็ไม่มี
ท่านก็บอกว่าอยู่อีกที่หนึ่ง วนไป วนมานานถึง 2 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบ
ระหว่างนั้นพระท่านนี้ก็เล่าว่า วัวที่นี่ไม่มีแล้ว
เนื่องจากนำไปจ่ายเป็นค่าตอบแทนชาวบ้านที่มาช่วยงานแทนเงินเดือน (แล้วถ้าหากชาวบ้านที่ได้นำไปขายหรือฆ่าล่ะ )
ระหว่างเดินอยู่ พบคอกเลี้ยงลูกหมูป่าคอกเล็ก ๆ ประมาณ 10 ตัว
ไม่พบวัวซักตัว
หลังจากเดินมานานก็ยังไม่พบ จึงถามพระ ท่านก็บอกว่าหมูเมื่อวานป่วย
นำไปส่งที่ปศุสัตว์แล้ว ผมเลยถามท่านว่าปศุสัตว์ไปทางไหน จะตามไปเยี ่ยม
ท่านก็บอกว่าวันหยุดราชการไม่เปิด
ผมก็ถามท่านว่าแล้วเมื่อวานวันหยุดราชการปศุสัตว์มาตรวจได้ยังไง
ท่านก็เงียบไปบ่ายเบี่ยงต่างๆ
แล้วบอกผมว่าเดี๋ยวต้องถามคนดูแลสัตว์อีกที
ผมก็บอกว่างั้นขอพบ พระบอกว่าคนนี้ไม่อยู่ กลับกรุงเทพ
ผมบอกว่างั้นจะรอพบ
สุดท้ายคนๆนี้ก็มา หลังจากรออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง
มันบอกผมว่าหมูเมื่อวานป่วย เลยให้สัตวแพทย์มาดู
และนำไปส่งที่ปศุสัตว์แล้ว
ผมบอกจะตามไปดู ก็บอก ว่าปิดราชการ ไปไม่ได้
ผมถามว่าวั้นสัตวแพทย์มาได้ยังไง
มันตอบว่าสัตวแพทย์มาดูแล้ว บอกว่าอาการมันหนัก เลยจัดการไปแล้ว !!!
ผมตกใจมากถามว่าสัตวแพทย์ที่มาดูชื่ออะไร จะตามไปถาม ถามไปถามมา
สุดท้ายมันบอกผมว่ามันตัดสินใจฆ่าเอง โดยเชือดแบ่งเนื้อแจกจ่ายไปแล้ว
และมันบอกว่าขอรับผิดเอง มันอ้างว่าคาดไม่ถึงว่าผมจะตามไปดู
มันบอกว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีคนที่ไถ่ชิวิตสัตว์ตามไป! ดู มีผมเป็นคนแรก
ถ้ามันรู้ว่าผมมามันคงไม่ฆ่าหรอก ทั้งผม และแฟนผมเสียใจมาก
นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ในวัด
กับสัตว์ที่ไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่า คิดไม่ถึงว่ามาถึงที่นี่
มันไม่ให้เค้ากินน้ำกินอาหารด้วยซ้ำ กลับฆ่ามันเหมือนถูกส่งโรงฆ่าสัตว์
ผมและแฟนผมเสียใจม! าก เธอร้องไห้ตลอดเกือบทั้งวันหลังจากนนั้น
ผมจึงคิดว่าอย่างน้อยต้องประกาศให้สังคมรับรู้
ถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้น
และคงต้องพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ขอความเห็นใจจากสังคมด ้วยครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
แย่มาก
นี่หรือครับที่มนุษย์ตอบเเทนกับสิ่งที่เรียกว่า "เพื่อนร่วมโลก"nikcolous เขียน: ช่ายแล้วครับ
หนี้หรือครับที่มนุดตอบแทนกับสิ่งที่เรีกว่าเพื่อนร่วมโลก
แก้นิดหน่อยค่ะ เด็กรุ่นใหม่ ใส่ใจในการเขียน
ไม่เป็นไรคับ
เจ้าสำโรง มีความสุขมาก ในเวลาที่ได้อยู่กับคุณและแฟน
พวกคุณทำดีที่สุดแล้ว และในเจตนา ที่จะไถ่ชีวิต เจ้าสำโรง
มันซาบซึ้งได้ ถึงแม้มันยังจะต้องถูกฆ่าและนำเนื้อแจกจ่าย
แต่วิญญาณของมันได้ถูกไถ่แล้ว~
ทางวัดนั้น ตะบัดสัตย์(ขอรบกวนผู้รู้แก้คำให้ถูกที)
ถึงแม้จะทำเพื่อปากท้องชาวบ้าน
แต่นี้มันยุคไหนแล้ว!!
ขอให้พระองค์อภัยให้พวกเค้าเทอญ
เจ้าสำโรง มีความสุขมาก ในเวลาที่ได้อยู่กับคุณและแฟน
พวกคุณทำดีที่สุดแล้ว และในเจตนา ที่จะไถ่ชีวิต เจ้าสำโรง
มันซาบซึ้งได้ ถึงแม้มันยังจะต้องถูกฆ่าและนำเนื้อแจกจ่าย
แต่วิญญาณของมันได้ถูกไถ่แล้ว~
ทางวัดนั้น ตะบัดสัตย์(ขอรบกวนผู้รู้แก้คำให้ถูกที)
ถึงแม้จะทำเพื่อปากท้องชาวบ้าน
แต่นี้มันยุคไหนแล้ว!!
ขอให้พระองค์อภัยให้พวกเค้าเทอญ
... อ่านแล้วเศร้ามากครับ ปกติผมเป็นคนกลัวหมูตัวใหญ่(เพราะมันร้องเสียงดัง มันชอบกรี๊ด) แต่พอมาอ่านแล้วรู้สึกเอ็นดูมันขึ้นทันตา
... แต่อย่าเพิ่งไปประณาม ทางวัดเขามากเลย เพราะเรายังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
... ถ้าเป็นเรื่องจริงคงเศร้าน่าดู และก็ต้องให้อภัยคนกระทำเช่นนั้นด้วยเนอะ เพราะเขาทั้งโกหก ไม่ซื่อสัตย์
และฆ่าสัตว์ที่สมควรได้รับการเลี้ยงดู(เพราะมีเจ้าของ) และก็ต้องภาวนาเพื่อเขาเหล่านั้นจะกลับใจ และปฎิบัติตามธรรมะที่เขานับถือ อย่างเคร่งครัดจริงจังด้วยครับ
... แต่อย่าเพิ่งไปประณาม ทางวัดเขามากเลย เพราะเรายังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
... ถ้าเป็นเรื่องจริงคงเศร้าน่าดู และก็ต้องให้อภัยคนกระทำเช่นนั้นด้วยเนอะ เพราะเขาทั้งโกหก ไม่ซื่อสัตย์
และฆ่าสัตว์ที่สมควรได้รับการเลี้ยงดู(เพราะมีเจ้าของ) และก็ต้องภาวนาเพื่อเขาเหล่านั้นจะกลับใจ และปฎิบัติตามธรรมะที่เขานับถือ อย่างเคร่งครัดจริงจังด้วยครับ
นี่ละน้าความน่ากลัวของฟอร์เวิร์ดเมล์
นำพาคำสาปแช่งไม่จบไม่สิ้น ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
เรื่องนี้เป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ มาตั้ง3-4ปีแล้วครับ
แต่พระพยอมท่านก็พึ่งออกมาชี้แจงเมื่อปีนี้เอง
ท่านเล่าว่า
เมื่อมีโยมมาถวายหมู ก็เห็นหมูมีอาการไม่สบาย
จึงได้ตาม สัตว์แพทย์มา
ซึ่งสัตวแพทย์พบว่า
"กระดูกซี่โครงหมูได้ทิ่มปอดรั่ว ซึ่งคาดว่ามาจากตอนที่หมุกระแทกพื้นตอนตกรถ"
ด้วยเหตุนี้ หมูก็เลยป่วยตาย
ในเมื่อหมูตายแล้วจะให้ฝังเปล่าๆหรือ?
ตรงกันข้าม ทำไมคนที่ถวายหมูจึงผูกใจเจ็บ
ไม่ปล่อยวางว่าได้ถวายหมูไปแล้ว
กลับเขียนฟอร์เวิร์ดเมลล์มา สาปแช่งศาสนาแบบนี้
________
จึ่งแจ้งมาเพื่อทราบ
นำพาคำสาปแช่งไม่จบไม่สิ้น ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
เรื่องนี้เป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ มาตั้ง3-4ปีแล้วครับ
แต่พระพยอมท่านก็พึ่งออกมาชี้แจงเมื่อปีนี้เอง
ท่านเล่าว่า
เมื่อมีโยมมาถวายหมู ก็เห็นหมูมีอาการไม่สบาย
จึงได้ตาม สัตว์แพทย์มา
ซึ่งสัตวแพทย์พบว่า
"กระดูกซี่โครงหมูได้ทิ่มปอดรั่ว ซึ่งคาดว่ามาจากตอนที่หมุกระแทกพื้นตอนตกรถ"
ด้วยเหตุนี้ หมูก็เลยป่วยตาย
ในเมื่อหมูตายแล้วจะให้ฝังเปล่าๆหรือ?
ตรงกันข้าม ทำไมคนที่ถวายหมูจึงผูกใจเจ็บ
ไม่ปล่อยวางว่าได้ถวายหมูไปแล้ว
กลับเขียนฟอร์เวิร์ดเมลล์มา สาปแช่งศาสนาแบบนี้
________
จึ่งแจ้งมาเพื่อทราบ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบใจยศที่นำข้อเท็จจริงมานำเสนอครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: นี่ละน้าความน่ากลัวของฟอร์เวิร์ดเมล์
นำพาคำสาปแช่งไม่จบไม่สิ้น ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
เรื่องนี้เป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ มาตั้ง3-4ปีแล้วครับ
แต่พระพยอมท่านก็พึ่งออกมาชี้แจงเมื่อปีนี้เอง
ท่านเล่าว่า
เมื่อมีโยมมาถวายหมู ก็เห็นหมูมีอาการไม่สบาย
จึงได้ตาม สัตว์แพทย์มา
ซึ่งสัตวแพทย์พบว่า
"กระดูกซี่โครงหมูได้ทิ่มปอดรั่ว ซึ่งคาดว่ามาจากตอนที่หมุกระแทกพื้นตอนตกรถ"
ด้วยเหตุนี้ หมูก็เลยป่วยตาย
ในเมื่อหมูตายแล้วจะให้ฝังเปล่าๆหรือ?
ตรงกันข้าม ทำไมคนที่ถวายหมูจึงผูกใจเจ็บ
ไม่ปล่อยวางว่าได้ถวายหมูไปแล้ว
กลับเขียนฟอร์เวิร์ดเมลล์มา สาปแช่งศาสนาแบบนี้
________
จึ่งแจ้งมาเพื่อทราบ
... และก็เกือบทำให้ใจตนเองมีอคติที่ไม่ดี ตามข้อความที่ไม่มีมูลเหตุสมควรตามหลักฐาน ... มาครอบงำใจเรา
โอ้วเกือบไปแล้ว ดีนะที่เฉลียวใจทัน
สงสารอยู่เหมือนกัน
แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างใครนะครับ
ปัญหาทุกอย่างมันคงจะซับซ้อนหลายมิติเกินกว่าที่เราจะมองออก
ทุอย่างมันคงมีเหตุผลของตัวมันเอง
ดูจากตัวเจ้าสำโรงเอง ดูจากคนที่ซื้อชีวิตมันไว้ ดูจากคนดูแลสัตว์ ดูจากพระ ดูจากเราทั้งหลายที่ยังกินสัตว์เหล่านี่อยู่
แต่วัดนั่นก็เกินไปนะครับ หลอกชาวบ้านป่ะเนี่ย?
แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างใครนะครับ
ปัญหาทุกอย่างมันคงจะซับซ้อนหลายมิติเกินกว่าที่เราจะมองออก
ทุอย่างมันคงมีเหตุผลของตัวมันเอง
ดูจากตัวเจ้าสำโรงเอง ดูจากคนที่ซื้อชีวิตมันไว้ ดูจากคนดูแลสัตว์ ดูจากพระ ดูจากเราทั้งหลายที่ยังกินสัตว์เหล่านี่อยู่
แต่วัดนั่นก็เกินไปนะครับ หลอกชาวบ้านป่ะเนี่ย?
รับทราบจ๊ะยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: นี่ละน้าความน่ากลัวของฟอร์เวิร์ดเมล์
นำพาคำสาปแช่งไม่จบไม่สิ้น ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
เรื่องนี้เป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ มาตั้ง3-4ปีแล้วครับ
แต่พระพยอมท่านก็พึ่งออกมาชี้แจงเมื่อปีนี้เอง
ท่านเล่าว่า
เมื่อมีโยมมาถวายหมู ก็เห็นหมูมีอาการไม่สบาย
จึงได้ตาม สัตว์แพทย์มา
ซึ่งสัตวแพทย์พบว่า
"กระดูกซี่โครงหมูได้ทิ่มปอดรั่ว ซึ่งคาดว่ามาจากตอนที่หมุกระแทกพื้นตอนตกรถ"
ด้วยเหตุนี้ หมูก็เลยป่วยตาย
ในเมื่อหมูตายแล้วจะให้ฝังเปล่าๆหรือ?
ตรงกันข้าม ทำไมคนที่ถวายหมูจึงผูกใจเจ็บ
ไม่ปล่อยวางว่าได้ถวายหมูไปแล้ว
กลับเขียนฟอร์เวิร์ดเมลล์มา สาปแช่งศาสนาแบบนี้
________
จึ่งแจ้งมาเพื่อทราบ
เฮ้อ...สรุปว่า เรื่องทุกเรื่องจากฟอร์เวิร์ดเมลล์ สามารถเชื่อถือได้แค่ไหนหนอ??
sGunKk เขียน: ตะบัดสัตย์(ขอรบกวนผู้รู้แก้คำให้ถูกที)
มาตามคำเรียกร้องจ๊ะ
ที่ถูกคือ "ตระบัดสัตย์" จ้า
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ เสาร์ ก.ย. 27, 2008 6:26 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
น่าเศร้านะครับ
แน่ใจเหรอครับผม ว่า รับ"เลี้ยง"
เห้อออ น่าสงสารที่สุด ทั้งเจ้าหมูและเจ้าของ
เห้อออ น่าสงสารที่สุด ทั้งเจ้าหมูและเจ้าของ
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
เรื่องนี้สอนว่าอย่าวางใจใคร
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
มีใครได้อ่านที่ยศได้นำมาเพิ่มเติมหรือยังหว่า - -
ขอบคุณมากฮะ ขอบคุณลูกพี่ยศด้วยViridian เขียน:รับทราบจ๊ะยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: นี่ละน้าความน่ากลัวของฟอร์เวิร์ดเมล์
นำพาคำสาปแช่งไม่จบไม่สิ้น ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
เรื่องนี้เป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ มาตั้ง3-4ปีแล้วครับ
แต่พระพยอมท่านก็พึ่งออกมาชี้แจงเมื่อปีนี้เอง
ท่านเล่าว่า
เมื่อมีโยมมาถวายหมู ก็เห็นหมูมีอาการไม่สบาย
จึงได้ตาม สัตว์แพทย์มา
ซึ่งสัตวแพทย์พบว่า
"กระดูกซี่โครงหมูได้ทิ่มปอดรั่ว ซึ่งคาดว่ามาจากตอนที่หมุกระแทกพื้นตอนตกรถ"
ด้วยเหตุนี้ หมูก็เลยป่วยตาย
ในเมื่อหมูตายแล้วจะให้ฝังเปล่าๆหรือ?
ตรงกันข้าม ทำไมคนที่ถวายหมูจึงผูกใจเจ็บ
ไม่ปล่อยวางว่าได้ถวายหมูไปแล้ว
กลับเขียนฟอร์เวิร์ดเมลล์มา สาปแช่งศาสนาแบบนี้
________
จึ่งแจ้งมาเพื่อทราบ
เฮ้อ...สรุปว่า เรื่องทุกเรื่องจากฟอร์เวิร์ดเมลล์ สามารถเชื่อถือได้แค่ไหนหนอ??
sGunKk เขียน: ตะบัดสัตย์(ขอรบกวนผู้รู้แก้คำให้ถูกที)
มาตามคำเรียกร้องจ๊ะ
ที่ถูกคือ "ตระบัดสัตย์" จ้า
ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละว่ามันคือฟอร์เวิร์ดเมลล์ การถูกอารมณ์ครอบงำนี่มันน่ากลัวจิงๆ