อยากถามพี่น้องเกี่ยวกับเทววิทยาบางอย่างของคาทอลิกค่ะ (ด้วยความเคารพค่ะ)
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
อยากถามพี่น้องคาทอลิกว่าเราเข้าใจถูกไหมในเรื่องเหล่านี้ตามความเชื่อของพี่น้องคาทอลิก
คือตั้งแค่ที่เคยเรียนคริสตศาสตร์(คาทอลิก)มา ในระดับที่ไม่ใช่แค่การสอนคำสอนคริสตชนเชื่อใหม่
เข้าใจว่า..........
1. เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณในไฟชำระ เข้าใจว่าหมายถึงวิญญาณที่เป็นคริสต์ (เชื่อพระเจ้า) ที่รอทำความสะอาดวิญญาณเพื่อไปพบพระเจ้าเท่านั้น
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่ารวมไปถึงแม้กระทั้งคนต่างศาสนาด้วย และเห็นเขาขอมิสซาให้คนต่างศาสนาเพื่อให้พระเจ้าพาเขาไปสวรรค์
คำถาม- วิญญาณที่มีสิทธิอยู่ในไปชำระเพื่อรอทำความสะอาดวิญญาณก่อนไปพบพระเจ้าเฉพาะวิญญาณที่เชื่อพระเจ้า หรือรวมไปถึงผู้ปฏิเสธพระองค์ด้วย
- การขอมิสซาให้คนต่างศาสนาสามารถไหม แล้วคิดว่าจะไปถึงไหม(ตามความเชื่อคาทอลิก) ถ้าไม่ได้ทำไมบางวัดยังอนุญาตให้ขอ
2. เกี่ยวกับเรื่องความรอด เข้าใจว่าผู้ที่เชื่อในพระเยซูเท่านั้นที่รอดไปสวรรค์ แต่ความเชื่อยังต้องประกอบไปด้วยการกระทำ
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่าแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้จักและปฏิเสธพระเจ้า ถ้าเป็นคนดีก็รอดได้
คำถาม- คนดีที่ปฏิเสธพระนามของพระเจ้ารอดได้จริงหรือ (แบบนี้ข่าวดีจะมีค่าอะไร ถ้าคิดว่าทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีและไปสวรรค์ได้)
ค้วยความเคารพนะคะ
คือตั้งแค่ที่เคยเรียนคริสตศาสตร์(คาทอลิก)มา ในระดับที่ไม่ใช่แค่การสอนคำสอนคริสตชนเชื่อใหม่
เข้าใจว่า..........
1. เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณในไฟชำระ เข้าใจว่าหมายถึงวิญญาณที่เป็นคริสต์ (เชื่อพระเจ้า) ที่รอทำความสะอาดวิญญาณเพื่อไปพบพระเจ้าเท่านั้น
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่ารวมไปถึงแม้กระทั้งคนต่างศาสนาด้วย และเห็นเขาขอมิสซาให้คนต่างศาสนาเพื่อให้พระเจ้าพาเขาไปสวรรค์
คำถาม- วิญญาณที่มีสิทธิอยู่ในไปชำระเพื่อรอทำความสะอาดวิญญาณก่อนไปพบพระเจ้าเฉพาะวิญญาณที่เชื่อพระเจ้า หรือรวมไปถึงผู้ปฏิเสธพระองค์ด้วย
- การขอมิสซาให้คนต่างศาสนาสามารถไหม แล้วคิดว่าจะไปถึงไหม(ตามความเชื่อคาทอลิก) ถ้าไม่ได้ทำไมบางวัดยังอนุญาตให้ขอ
2. เกี่ยวกับเรื่องความรอด เข้าใจว่าผู้ที่เชื่อในพระเยซูเท่านั้นที่รอดไปสวรรค์ แต่ความเชื่อยังต้องประกอบไปด้วยการกระทำ
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่าแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้จักและปฏิเสธพระเจ้า ถ้าเป็นคนดีก็รอดได้
คำถาม- คนดีที่ปฏิเสธพระนามของพระเจ้ารอดได้จริงหรือ (แบบนี้ข่าวดีจะมีค่าอะไร ถ้าคิดว่าทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีและไปสวรรค์ได้)
ค้วยความเคารพนะคะ
- ทำได้ค่ะ ทั้งมิสซาสุขสำราญ เเละมิสซาผู้ตาย ถึงหรือเปล่า หรือคนๆนั้นจะไปพบพระเจ้าได้หรือเปล่าGrace de GL.Ch. เขียน: คำถาม- วิญญาณที่มีสิทธิอยู่ในไปชำระเพื่อรอทำความสะอาดวิญญาณก่อนไปพบพระเจ้าเฉพาะวิญญาณที่เชื่อพระเจ้า หรือรวมไปถึงผู้ปฏิเสธพระองค์ด้วย
- การขอมิสซาให้คนต่างศาสนาสามารถไหม แล้วคิดว่าจะไปถึงไหม(ตามความเชื่อคาทอลิก) ถ้าไม่ได้ทำไมบางวัดยังอนุญาตให้ขอ
เราไม่สามารถตัดสินได้ค่ะ เพราะเกินสติปัญญาของมนุษย์จะทราบ
- มีอีกหลายๆคนในโลกที่ยังไม่รู้จักพระเจ้าค่ะ....หลังสังคยานาวาติกันที่2 พระศาสนจักรยอมรับเรื่อง ความรอดนอกพระศาสนจักรGrace de GL.Ch. เขียน: คำถาม- คนดีที่ปฏิเสธพระนามของพระเจ้ารอดได้จริงหรือ (แบบนี้ข่าวดีจะมีค่าอะไร ถ้าคิดว่าทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีและไปสวรรค์ได้)
ในมุมมองของข้าพเจ้า (อันนี้เปรียบเทียบเฉยๆนะคะ)
ข้าพเจ้าเชื่อว่า คำสอนของพระเยซูเป็นเเนวทางปฏิบัติที่นำไปสู่ความรอด ถูกต้องตรงเผง 100%
เเต่ พี่น้องความเชื่ออื่นๆ ข้าพเจ้าไม่ทราบ อาจจะมีตั้งเเต่
100%
90%
80%
ฯลฯ
เเล้วถ้าเกิดคำสอนของบางลัทธิ ที่มีเปอร์เซนต์สอนถูกอยู่เพียง 20% ถึงเเม้ว่าคนที่นับถือนั้น จะทำตามคำสอนที่เขาได้เรียนรู้มา ครบ
ไม่บกพร่องเลยเเม้เเต่น้อย เขาอาจจะมีโอกาส ทราบความจริงอยู่เเค่20%
ดังนั้น
เเม้ว่าเราเชื่อเรื่อง "มีความรอดนอกพระศาสนจักร" เเต่การประกาศข่าวดี ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น.....มาก
เพื่อว่าคนอื่นๆ เมื่อกลับใจมาเชื่อพระเจ้าเเล้ว จะมีเเนวทางปฏิบัติที่นำไปสู่ความรอด ถูกเผง เเน่นอน 100%
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ จันทร์ เม.ย. 28, 2008 9:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
1.ขอได้ แต่ผลที่การขอก็สุดแท้แต่น้ำพระทัยพระเจ้าครับ
2.การที่เขายังไม่ยอมรับพระนามพระเจ้า ไม่ได้แปลว่าเขาปฎิเสธพระเจ้านะ
(เหมือนที่เราคริสตชนที่รับเชื่อเมื่อโตขึ้นก็เคยไม่ยอมรับพระนามนี้)
เราเชื่อว่าความรอดของพระเจ้านั้นล้ำลึกเกินความเข้าใจฝ่ายมนุษย์ของพระศาสนจักร
อย่างไรก็ตาม เมื่อการประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า(ที่ล้ำลึกเกินความเข้าใจพระศาสนจักรนั้น)ถึงที่สุดแล้วเขายังปฎิเสธ
นั่นก็คือบาปปฎิเสธพระจิตเจ้าซึ่งจะไม่ได้รับการอภัยแม้ในโลกหน้า (มธ12.32)
แต่ก็อย่างที่พระเยซูทรงสอนด้วยว่า อย่าตัดสินผู้อื่น
การที่คนผู้หนึ่งจะขึ้นสวรรค์หรือไม่ มีแต่พระองค์เท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินครับ
2.การที่เขายังไม่ยอมรับพระนามพระเจ้า ไม่ได้แปลว่าเขาปฎิเสธพระเจ้านะ
(เหมือนที่เราคริสตชนที่รับเชื่อเมื่อโตขึ้นก็เคยไม่ยอมรับพระนามนี้)
เราเชื่อว่าความรอดของพระเจ้านั้นล้ำลึกเกินความเข้าใจฝ่ายมนุษย์ของพระศาสนจักร
อย่างไรก็ตาม เมื่อการประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า(ที่ล้ำลึกเกินความเข้าใจพระศาสนจักรนั้น)ถึงที่สุดแล้วเขายังปฎิเสธ
นั่นก็คือบาปปฎิเสธพระจิตเจ้าซึ่งจะไม่ได้รับการอภัยแม้ในโลกหน้า (มธ12.32)
แต่ก็อย่างที่พระเยซูทรงสอนด้วยว่า อย่าตัดสินผู้อื่น
การที่คนผู้หนึ่งจะขึ้นสวรรค์หรือไม่ มีแต่พระองค์เท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ เม.ย. 28, 2008 10:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
จากหนังสือ ประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 433. (หน้า256)
ทำไมการประกาศพระวรสารจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตทางศีลธรรมของคริสตชน
เพราะว่า ด้วยการเจริญชีวิตตามเเบบพระเยซูเจ้า
บรรดาคริสตชนสามารถดึงดูดผู้อื่นให้มาสู่ความเชื่อในพระเจ้าเที่ยงเเท้ได้
ช่วยสร้างเสริมพระศาสนจักร
ประกาศให้โลกรู้ด้วยจิตตารมณ์เเห่งพระวรสาร
เเละเร่งให้ถึงพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้า
ทำไมการประกาศพระวรสารจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตทางศีลธรรมของคริสตชน
เพราะว่า ด้วยการเจริญชีวิตตามเเบบพระเยซูเจ้า
บรรดาคริสตชนสามารถดึงดูดผู้อื่นให้มาสู่ความเชื่อในพระเจ้าเที่ยงเเท้ได้
ช่วยสร้างเสริมพระศาสนจักร
ประกาศให้โลกรู้ด้วยจิตตารมณ์เเห่งพระวรสาร
เเละเร่งให้ถึงพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้า
จากหนังสือ ประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 171. (หน้า124)
คำยืนยันที่ว่า "นอกพระศาสนจักรไม่มีความรอดพ้น" นั้นหมายความว่าอย่างไร
หมายความว่า ความรอดทั้งหมดมาจากพระคริสตเจ้าผู้เป็นหัวหน้า
โดยอาศัยพระศาสนจักร ซึ่งเป็นพระกายของพระองค์
ดังนั้น ผู้ที่รู้ว่าพระศาสนจักรได้รับการก่อตั้งจากพระคริสตเจ้า เเละจำเป็นสำหรับความรอดพ้น
เเต่ไม่ยอมเข้าร่วมหรือไม่ยอมพากเพียร ก็จะไม่สามารถเอาตัวรอดได้
ในขณะเดียวกัน โดยอาศัยพระบารมีของพระคริสตเจ้า เเละของพระศาสนจักร
เเม้บางคนที่ไม่รู้ข่าวดีของพระคริสตเจ้า เเละของพระศาสนจักร โดยไม่ใช่ความผิดของพวกเขา
เเต่เเสวงหาพระเป็นเจ้าด้วยความจริงใจ ภายใต้อิทธิพลเเห่งพระหรรษทาน
การบังคับนําใจของตนให้กระทำตามคำสั่งของมโนธรรม ก็สามารถเข้าสู่ความรอดนิรันดรได้
คำยืนยันที่ว่า "นอกพระศาสนจักรไม่มีความรอดพ้น" นั้นหมายความว่าอย่างไร
หมายความว่า ความรอดทั้งหมดมาจากพระคริสตเจ้าผู้เป็นหัวหน้า
โดยอาศัยพระศาสนจักร ซึ่งเป็นพระกายของพระองค์
ดังนั้น ผู้ที่รู้ว่าพระศาสนจักรได้รับการก่อตั้งจากพระคริสตเจ้า เเละจำเป็นสำหรับความรอดพ้น
เเต่ไม่ยอมเข้าร่วมหรือไม่ยอมพากเพียร ก็จะไม่สามารถเอาตัวรอดได้
ในขณะเดียวกัน โดยอาศัยพระบารมีของพระคริสตเจ้า เเละของพระศาสนจักร
เเม้บางคนที่ไม่รู้ข่าวดีของพระคริสตเจ้า เเละของพระศาสนจักร โดยไม่ใช่ความผิดของพวกเขา
เเต่เเสวงหาพระเป็นเจ้าด้วยความจริงใจ ภายใต้อิทธิพลเเห่งพระหรรษทาน
การบังคับนําใจของตนให้กระทำตามคำสั่งของมโนธรรม ก็สามารถเข้าสู่ความรอดนิรันดรได้
สวัสดีคะ
คำตอบของข้อ 2 อยู่ในนี้คะ ถ้าอยากอ่านเพิ่มเติม รายละเอียดของสังคายนาวาติกันที่ 2
อ่านได้ที่ www.newmana.com/yabb/index.php?topic=8103.0
ขอพระเจ้าอวยพรนะคะ
คำตอบของข้อ 2 อยู่ในนี้คะ ถ้าอยากอ่านเพิ่มเติม รายละเอียดของสังคายนาวาติกันที่ 2
อ่านได้ที่ www.newmana.com/yabb/index.php?topic=8103.0
ขอพระเจ้าอวยพรนะคะ
การทำสิ่งนี้ให้คนต่างศาสนาที่เรารักและรู้จักเป็นเรื่องของความหวังใจในพระเมตตาของพระเจ้าGrace de GL.Ch. เขียน: อยากถามพี่น้องคาทอลิกว่าเราเข้าใจถูกไหมในเรื่องเหล่านี้ตามความเชื่อของพี่น้องคาทอลิก
คือตั้งแค่ที่เคยเรียนคริสตศาสตร์(คาทอลิก)มา ในระดับที่ไม่ใช่แค่การสอนคำสอนคริสตชนเชื่อใหม่
เข้าใจว่า..........
1. เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณในไฟชำระ เข้าใจว่าหมายถึงวิญญาณที่เป็นคริสต์ (เชื่อพระเจ้า) ที่รอทำความสะอาดวิญญาณเพื่อไปพบพระเจ้าเท่านั้น
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่ารวมไปถึงแม้กระทั้งคนต่างศาสนาด้วย และเห็นเขาขอมิสซาให้คนต่างศาสนาเพื่อให้พระเจ้าพาเขาไปสวรรค์
คำถาม- วิญญาณที่มีสิทธิอยู่ในไปชำระเพื่อรอทำความสะอาดวิญญาณก่อนไปพบพระเจ้าเฉพาะวิญญาณที่เชื่อพระเจ้า หรือรวมไปถึงผู้ปฏิเสธพระองค์ด้วย
- การขอมิสซาให้คนต่างศาสนาสามารถไหม แล้วคิดว่าจะไปถึงไหม(ตามความเชื่อคาทอลิก) ถ้าไม่ได้ทำไมบางวัดยังอนุญาตให้ขอ
1คร 15:29
บางท่านรับศีลล้างบาปเพื่อผู้ตาย ถ้าผู้ตายไม่กลับคืนชีพ จะมีประโยชน์ใดที่จะรับศีลล้างบาปเพื่อเขาเหล่านั้น ถ้าไม่มีการกลับคืนชีพ
ถ้าถึงขั้นลงทุนปฏิเสธทั้งที่รู้ความจริง ก็เท่ากับปฏิเสธพระจิตเจ้าแล้วล่ะครับ ผมว่าคนแถวบ้านคุณน่าจะหมายความถึงคนที่ไม่มีโอกาสได้รู้ความจริงตั้งแต่เกิดจนตายแต่เป็นคนดีมากกว่านะครับGrace de GL.Ch. เขียน:
2. เกี่ยวกับเรื่องความรอด เข้าใจว่าผู้ที่เชื่อในพระเยซูเท่านั้นที่รอดไปสวรรค์ แต่ความเชื่อยังต้องประกอบไปด้วยการกระทำ
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่าแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้จักและปฏิเสธพระเจ้า ถ้าเป็นคนดีก็รอดได้
คำถาม- คนดีที่ปฏิเสธพระนามของพระเจ้ารอดได้จริงหรือ (แบบนี้ข่าวดีจะมีค่าอะไร ถ้าคิดว่าทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีและไปสวรรค์ได้)
ค้วยความเคารพนะคะ
- NostalgicPAT
- โพสต์: 11
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 31, 2008 11:20 pm
ขอออกความเห็นหน่อยละกัน อืมเราเป็นโปรเตสแตนท์ ไม่ใช่คาทอลิกนะ แต่ถ้าตามความเข้าใจของเราล่ะก็
ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลยด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้
ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่งใต้ฟ้า กิจการ4:12
ในผู้อื่นความรอดไม่มีเลยด้วยว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้
ไม่ทรงโปรดให้มีในท่ามกลางมนุษย์ทั่งใต้ฟ้า กิจการ4:12
เพิ่มเติมคำตอบข้อ2นะครับ พระเยซูเจ้าตรัสถึงการให้อภัยในชีวิตหลังความตาย
มธ 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า
---นั่นหมายความว่า บางอย่างอาจได้รับการอภัยในโลกหน้า ซึ่งถ้าถึงเวลานั้นคนนั้นยังปฎิเสธอยู่ดี ก็เท่ากับปฎิเธพระจิตเจ้า ซึ่งต่อให้ทำความดีมายังไง คนที่จะได้เข้าบ้านคือคนที่ยอมรับเจ้าของบ้านนะครับ
มธ 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า
---นั่นหมายความว่า บางอย่างอาจได้รับการอภัยในโลกหน้า ซึ่งถ้าถึงเวลานั้นคนนั้นยังปฎิเสธอยู่ดี ก็เท่ากับปฎิเธพระจิตเจ้า ซึ่งต่อให้ทำความดีมายังไง คนที่จะได้เข้าบ้านคือคนที่ยอมรับเจ้าของบ้านนะครับ
บางครั้งผมว่าลำพังอ่านออกว่าพระคัมภีร์เขียนว่าอย่างไร ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะเข้าใจพระเจ้าได้มากพอนะครับว่า พระองค์ทรงไถ่ใครได้ไม่ได้ หรือไถ่ใครแบบไหนอย่างไร ที่สำคัญ มันคงไม่ได้ถึงขนาดสามารถไปจำกัดสิทธิ์ของพระเจ้าเองว่าทรงสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้มากน้อยแค่ไหน
นั่นคงเป้นเหตุให้คาทอลิคมีความหวังใจลึกๆในพระเมตตาของพระเจ้าว่า จะทรงเมตตาต่อดวงวิญญาณที่เขาอาจไม่มีโอกาศได้รับเชื่ออย่างเป็นทางการในโลกนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม
สำหรับคำถามที่คุณเจ้าของกระทู้ถามมา ว่า ถ้าแค่ทำความดีศาสนาไหนก็รอดได้ จะประกาศพระวรสารไปทำไม
ผมเองก็คิดแบบนั้น
คำว่าความรอดนอกพระศาสนจักรผมชอบใช้มาก แต่ใช้กับคน2กลุ่มคือ พี่น้องในพระคริสต์นิกายอื่น และ ผู้ที่ไม่มีโอกาสที่จะได้รู้จักความจริงเรื่องความรอดในพระเยซูคริสต์
รม 2:12-24 ธรรมบัญญัติไม่ช่วยให้รอดพ้น
ทุกคนที่ทำบาปโดยไม่รู้จักธรรมบัญญัติจะพินาศไปโดยไม่มีธรรมบัญญัติ แต่ผู้ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติและกระทำบาป จะถูกพิพากษาตามธรรมบัญญัติ เพราะผู้ที่พระเจ้าจะทรงบันดาลความชอบธรรมนั้น ไม่ใช่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังธรรมบัญญัติเท่านั้น แต่เป็นผู้ที่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติด้วย ดังนั้น เมื่อคนต่างชาติซึ่งไม่รู้จักธรรมบัญญัติ และประพฤติตามข้อกำหนดของธรรมบัญญัติจากสามัญสำนึก แม้พวกเขาจะไม่รู้จักธรรมบัญญัติ พวกเขาก็เป็นธรรมบัญญัติสำหรับตนเอง พวกเขาแสดงให้เห็นสิ่งที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ในใจตามมโนธรรมและบางครั้งความคิดตามเหตุผลที่กล่าวโทษก็ป้องกันพวกเขา ในวันที่พระเจ้าทรงตัดสินพิพากษาความคิดที่เร้นลับของมนุษย์ทุกคนด้วยเดชะพระเยซูคริสตเจ้า ตามข่าวดีที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้
-------------เห็นได้ว่าสำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักพระเจ้าเลย พระองค์ก็ทรงตัดสินด้วยและทรงมีพระเมตตาไม่ตัดสินในสิ่งที่เขาไม่รู้ แต่ถ้าเขารู้และยังปฏิเสธ ผมก็ไม่มีคำตอบให้หรอกครับยกให้เป็นหน้าที่ของพระเจ้าในการตัดสินจะดีกว่า
นั่นคงเป้นเหตุให้คาทอลิคมีความหวังใจลึกๆในพระเมตตาของพระเจ้าว่า จะทรงเมตตาต่อดวงวิญญาณที่เขาอาจไม่มีโอกาศได้รับเชื่ออย่างเป็นทางการในโลกนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม
สำหรับคำถามที่คุณเจ้าของกระทู้ถามมา ว่า ถ้าแค่ทำความดีศาสนาไหนก็รอดได้ จะประกาศพระวรสารไปทำไม
ผมเองก็คิดแบบนั้น
คำว่าความรอดนอกพระศาสนจักรผมชอบใช้มาก แต่ใช้กับคน2กลุ่มคือ พี่น้องในพระคริสต์นิกายอื่น และ ผู้ที่ไม่มีโอกาสที่จะได้รู้จักความจริงเรื่องความรอดในพระเยซูคริสต์
รม 2:12-24 ธรรมบัญญัติไม่ช่วยให้รอดพ้น
ทุกคนที่ทำบาปโดยไม่รู้จักธรรมบัญญัติจะพินาศไปโดยไม่มีธรรมบัญญัติ แต่ผู้ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติและกระทำบาป จะถูกพิพากษาตามธรรมบัญญัติ เพราะผู้ที่พระเจ้าจะทรงบันดาลความชอบธรรมนั้น ไม่ใช่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังธรรมบัญญัติเท่านั้น แต่เป็นผู้ที่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติด้วย ดังนั้น เมื่อคนต่างชาติซึ่งไม่รู้จักธรรมบัญญัติ และประพฤติตามข้อกำหนดของธรรมบัญญัติจากสามัญสำนึก แม้พวกเขาจะไม่รู้จักธรรมบัญญัติ พวกเขาก็เป็นธรรมบัญญัติสำหรับตนเอง พวกเขาแสดงให้เห็นสิ่งที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ในใจตามมโนธรรมและบางครั้งความคิดตามเหตุผลที่กล่าวโทษก็ป้องกันพวกเขา ในวันที่พระเจ้าทรงตัดสินพิพากษาความคิดที่เร้นลับของมนุษย์ทุกคนด้วยเดชะพระเยซูคริสตเจ้า ตามข่าวดีที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้
-------------เห็นได้ว่าสำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักพระเจ้าเลย พระองค์ก็ทรงตัดสินด้วยและทรงมีพระเมตตาไม่ตัดสินในสิ่งที่เขาไม่รู้ แต่ถ้าเขารู้และยังปฏิเสธ ผมก็ไม่มีคำตอบให้หรอกครับยกให้เป็นหน้าที่ของพระเจ้าในการตัดสินจะดีกว่า
- homo dei
- โพสต์: 86
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2008 12:08 am
- ที่อยู่: 70/3 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี 70000
- ติดต่อ:
ผมขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่า ผมเป็นนักศึกษาเทวศาสตร์คาทอลิก แต่เป็นเทวศาสตร์และข้อความเชื่อดั้งเดิมของคาทอลิก จากคณะเบเนดิกตินและดอมินิกัน (เอาเป็นว่าเป็นของเก่าแก่ดั้งเดิม เชื่อถือได้ 1000000 % ) เทววิทยาใหม่เดียวนี้ หลังสังคายนาวาติกัน จะสอนอีกแบบ แต่ก็น่าศึกษา
ตอบ คำถามที่1 การขอมมิสซาให้คนตาย ต้องแยกออกเป็น 2แบบครับ
1คนที่เป็นคาทอลิก-โปร-นิกายต่างๆ เรามีความเชื่อถึงไฟชำระ ต้องไปสู่ที่นั้นเพื่อชำระบาปต่างๆ
ให้บริสุทธิ์ แต่ !!! โปรรอดไปสวรรค์มั๊ย คาทอลิก100 โปรก็ลดลงมาตามความเชื่อนะ
(ไม่อยากพูดมากเดียวกระทบหลายๆคน)
และ คนพุทธ อิสลาม 999 ล่ะอยู่ที่ไหน
อยู่ไฟชำระป่าว! ขอตอบเลยว่าไม่ได้อยู่ในไฟชำระนะครับ
มีอีกสถานที่หนึ่งเรียกว่า "ลิมโบ"
เป็นสถานที่อยู่ใต้บาดาล
เป็นสถานที่มึด เป็นที่อยู่ของผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า (ตามความเชื่อคาทอลิกดั้งเดิม)
รอวันเวลาที่พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อหวังจะได้รอด แต่ในลิมโบไม่มีการใช้โทธบาป และ"ขึ้นสวรรค์" ไม่ได้เหมือนไฟชำระ
ขอมิสซาให้คนในลิมโบส่วนบุญนั้น ไม่ได้นะครับ ยังมีแยกอีก 1คนที่เคยได้รับการประกาศความรอด (เคยได้ยินเรื่องของพระเยซู) แต่ไม่สนใจ ไม่เชื่อ หมายความว่ามีโอกาสรอดแล้วแต่ไม่ไขว่คว้า บาปมากๆ แต่คนที่ไม่เคยได้ยิน ได้รู้จักเลย ก็ถือว่าเขาไม่ได้ปฎิเสธพระองค์ แต่ไม่รู้จัก
.......................................................................
ลองเอาง่ายๆถ้าเราไม่รู้จักใครเราจะให้เขาเข้าบ้านมั๊ย
และคำถามที่ว่านอกพระศาสนจักรไม่มีความรอด
ตอบว่า จริง ครับ พระเยซูเจ้าเคยตรัสไว้ "เราคือหนทางความจริงและชีวิต ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้นอกจากทางเรา" แต่ในการสอนเทววิทยาจิงๆแล้ว คนที่ทำดี ประพฤติตัวดี
ในศาสนาอื่นๆเขาก็น่าจะรอดบ้าง เพราะความดีของเขานั่นแหละเป็นรางวัลที่ไปต่อรองกะพระเป็นเจ้าได้(บ้าง)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ส่งข้อความมานะครับ ยินดีตอบเสมอ
ตอบ คำถามที่1 การขอมมิสซาให้คนตาย ต้องแยกออกเป็น 2แบบครับ
1คนที่เป็นคาทอลิก-โปร-นิกายต่างๆ เรามีความเชื่อถึงไฟชำระ ต้องไปสู่ที่นั้นเพื่อชำระบาปต่างๆ
ให้บริสุทธิ์ แต่ !!! โปรรอดไปสวรรค์มั๊ย คาทอลิก100 โปรก็ลดลงมาตามความเชื่อนะ
(ไม่อยากพูดมากเดียวกระทบหลายๆคน)
และ คนพุทธ อิสลาม 999 ล่ะอยู่ที่ไหน
อยู่ไฟชำระป่าว! ขอตอบเลยว่าไม่ได้อยู่ในไฟชำระนะครับ
มีอีกสถานที่หนึ่งเรียกว่า "ลิมโบ"
เป็นสถานที่อยู่ใต้บาดาล
เป็นสถานที่มึด เป็นที่อยู่ของผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า (ตามความเชื่อคาทอลิกดั้งเดิม)
รอวันเวลาที่พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อหวังจะได้รอด แต่ในลิมโบไม่มีการใช้โทธบาป และ"ขึ้นสวรรค์" ไม่ได้เหมือนไฟชำระ
ขอมิสซาให้คนในลิมโบส่วนบุญนั้น ไม่ได้นะครับ ยังมีแยกอีก 1คนที่เคยได้รับการประกาศความรอด (เคยได้ยินเรื่องของพระเยซู) แต่ไม่สนใจ ไม่เชื่อ หมายความว่ามีโอกาสรอดแล้วแต่ไม่ไขว่คว้า บาปมากๆ แต่คนที่ไม่เคยได้ยิน ได้รู้จักเลย ก็ถือว่าเขาไม่ได้ปฎิเสธพระองค์ แต่ไม่รู้จัก
.......................................................................
ลองเอาง่ายๆถ้าเราไม่รู้จักใครเราจะให้เขาเข้าบ้านมั๊ย
และคำถามที่ว่านอกพระศาสนจักรไม่มีความรอด
ตอบว่า จริง ครับ พระเยซูเจ้าเคยตรัสไว้ "เราคือหนทางความจริงและชีวิต ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้นอกจากทางเรา" แต่ในการสอนเทววิทยาจิงๆแล้ว คนที่ทำดี ประพฤติตัวดี
ในศาสนาอื่นๆเขาก็น่าจะรอดบ้าง เพราะความดีของเขานั่นแหละเป็นรางวัลที่ไปต่อรองกะพระเป็นเจ้าได้(บ้าง)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ส่งข้อความมานะครับ ยินดีตอบเสมอ
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
เรื่องนี้ละไว้ในฐานที่แต่ละคนจะเชื่อและเข้าใจ เคารพความเชื่อกันและกันค่ะพระยุติธรรมของพระเจ้า เขียน: ผมขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่า ผมเป็นนักศึกษาเทวศาสตร์คาทอลิก แต่เป็นเทวศาสตร์และข้อความเชื่อดั้งเดิมของคาทอลิก จากคณะเบเนดิกตินและดอมินิกัน (เอาเป็นว่าเป็นของเก่าแก่ดั้งเดิม เชื่อถือได้ 1000000 % ) เทววิทยาใหม่เดียวนี้ หลังสังคายนาวาติกัน จะสอนอีกแบบ แต่ก็น่าศึกษา
ตอบ คำถามที่1 การขอมมิสซาให้คนตาย ต้องแยกออกเป็น 2แบบครับ
1คนที่เป็นคาทอลิก-โปร-นิกายต่างๆ เรามีความเชื่อถึงไฟชำระ ต้องไปสู่ที่นั้นเพื่อชำระบาปต่างๆ
ให้บริสุทธิ์ แต่ !!! โปรรอดไปสวรรค์มั๊ย คาทอลิก100 โปรก็ลดลงมาตามความเชื่อนะ
(ไม่อยากพูดมากเดียวกระทบหลายๆคน)
นั่นแหละที่เรียนมาและเข้าใจว่าพี่น้องคาทอลิกเชื่อแบบนี้ แต่ที่สงสัยคือคนที่รู้จักส่วนใหญ่ไม่ได้เชื่อแบบนี้พระยุติธรรมของพระเจ้า เขียน: และ คนพุทธ อิสลาม 999 ล่ะอยู่ที่ไหน
อยู่ไฟชำระป่าว! ขอตอบเลยว่าไม่ได้อยู่ในไฟชำระนะครับ
มีอีกสถานที่หนึ่งเรียกว่า "ลิมโบ"
เป็นสถานที่อยู่ใต้บาดาล
เป็นสถานที่มึด เป็นที่อยู่ของผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า (ตามความเชื่อคาทอลิกดั้งเดิม)
รอวันเวลาที่พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อหวังจะได้รอด แต่ในลิมโบไม่มีการใช้โทธบาป และ"ขึ้นสวรรค์" ไม่ได้เหมือนไฟชำระ
ขอมิสซาให้คนในลิมโบส่วนบุญนั้น ไม่ได้นะครับ ยังมีแยกอีก 1คนที่เคยได้รับการประกาศความรอด (เคยได้ยินเรื่องของพระเยซู) แต่ไม่สนใจ ไม่เชื่อ หมายความว่ามีโอกาสรอดแล้วแต่ไม่ไขว่คว้า บาปมากๆ แต่คนที่ไม่เคยได้ยิน ได้รู้จักเลย ก็ถือว่าเขาไม่ได้ปฎิเสธพระองค์ แต่ไม่รู้จัก
.......................................................................
ลองเอาง่ายๆถ้าเราไม่รู้จักใครเราจะให้เขาเข้าบ้านมั๊ย
สำหรับเรื่องต่อรองนี้ก็แล้วแต่คริสต์แต่ละสายจะเชื่อแบบไหน เคารพความเชื่อกันและกัน แต่ส่วนตัวเชื่อว่ามนุษย์ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อรองกับพระเจ้าได้พระยุติธรรมของพระเจ้า เขียน: และคำถามที่ว่านอกพระศาสนจักรไม่มีความรอด
ตอบว่า จริง ครับ พระเยซูเจ้าเคยตรัสไว้ "เราคือหนทางความจริงและชีวิต ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้นอกจากทางเรา" แต่ในการสอนเทววิทยาจิงๆแล้ว คนที่ทำดี ประพฤติตัวดี
ในศาสนาอื่นๆเขาก็น่าจะรอดบ้าง เพราะความดีของเขานั่นแหละเป็นรางวัลที่ไปต่อรองกะพระเป็นเจ้าได้(บ้าง)
ในฐานะนักศึกษาเทววิทยา(ศาสนศาสตร์) เป็นการดี เป็นความจำเป็นพระยุติธรรมของพระเจ้า เขียน: สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ส่งข้อความมานะครับ ยินดีตอบเสมอ
และถือเป็นเกียรติที่ได้ถามตอบแลกเปลี่ยนเรื่องเทววิทยากับผู้รับใช้ด้วยกัน
แม้จะต่างคณะนิกาย เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องต่อพี่น้องในพระคริสต์
ถ้ามีโอกาสหรือมีคำถามจะติดต่อไปค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพร
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร เม.ย. 29, 2008 7:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ใช่ครับ มีแต่เซียนคริสตัง(คาทอลิก) กับเซียนคริสเตียน(โปรแตสแตนด์) มาถกเถียงกันเรื่องความเชื่อ แต่การถกเถียงของพี่น้องในพระคริสต์นั้น ทำให้เกิดปัญญา ในการนำไปสู่แนวทางที่ถูกต้องครับ ส่วนผม(หมวดพลายแก้ว คริสตังที่ความเชื่อห่วยแตกและการกระทำห่วยแตกที่สุดในบอรด์นี้ และในวัด) คงตอบได้เพียงว่า น้ำพระทัยของพระนั้น เน้นความรัก และความเมตตาต่อผู้อื่น มากกว่าความเชื่อ(แต่ความเชื่อก็สำคัญนะครับ) เน้นการให้อภัย อดทน และมองข้ามสิ่งห่วยของเขา มองแต่ส่วนดีของเขา(แม้ว่าบางคนมันจะแสนน่ากระทืบก็ตาม หรือบางคนเป็นลักษณะที่ว่า ทำคุณบูชาโทษก็ตาม) เน้นการให้โอกาส ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น สิ่งที่เขาเชื่อ และเห็นใจผู้อื่น(แม้ว่าเขาจะไม่ยอมรับเราแบบเราเป็น แบบเราเชื่อก็ตาม แต่เราก็ต้องอดทน และมุ่งหน้าทำความดี รวมทั้งเป็นคริสตชนในแบบเส้นทางของเราให้ดีที่สุด)AVE_MARIA เขียน: ผมชอบกระทู้แบบนี้จริงๆ ปราชญ์สนทนากัน !!
ผมตอบได้แค่นี้แหละครับพี่น้อง ตามประสาคนอ่อนความเชื่อ ศรัทธาเกือบลงเหว แถมทำตัวหากเจอพวกปากคาบพระคัมภีร์ จิตใจคับแคบ คงมองผมเหมือนคนไม่มีพระเจ้า แต่.........เห็นความเชื่อลงเหวแบบนี้ แต่ชอบการภาวนา อ่านพระคัมภีร์ และจริงใจกับพี่น้องมากที่สุดนะครับ(กล้าพูด)
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ญาติ-เพื่อน-คนเเถวบ้าน ยึดคำสอนเเบบหลังสังคยานาวาติกัน2กระมังคะGrace de GL.Ch. เขียน:นั่นแหละที่เรียนมาและเข้าใจว่าพี่น้องคาทอลิกเชื่อแบบนี้ แต่ที่สงสัยคือคนที่รู้จักส่วนใหญ่ไม่ได้เชื่อแบบนี้พระยุติธรรมของพระเจ้า เขียน: และ คนพุทธ อิสลาม 999 ล่ะอยู่ที่ไหน
อยู่ไฟชำระป่าว! ขอตอบเลยว่าไม่ได้อยู่ในไฟชำระนะครับ
มีอีกสถานที่หนึ่งเรียกว่า "ลิมโบ"
เป็นสถานที่อยู่ใต้บาดาล
เป็นสถานที่มึด เป็นที่อยู่ของผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า (ตามความเชื่อคาทอลิกดั้งเดิม)
รอวันเวลาที่พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อหวังจะได้รอด แต่ในลิมโบไม่มีการใช้โทธบาป และ"ขึ้นสวรรค์" ไม่ได้เหมือนไฟชำระ
ขอมิสซาให้คนในลิมโบส่วนบุญนั้น ไม่ได้นะครับ ยังมีแยกอีก 1คนที่เคยได้รับการประกาศความรอด (เคยได้ยินเรื่องของพระเยซู) แต่ไม่สนใจ ไม่เชื่อ หมายความว่ามีโอกาสรอดแล้วแต่ไม่ไขว่คว้า บาปมากๆ แต่คนที่ไม่เคยได้ยิน ได้รู้จักเลย ก็ถือว่าเขาไม่ได้ปฎิเสธพระองค์ แต่ไม่รู้จัก
.......................................................................
ลองเอาง่ายๆถ้าเราไม่รู้จักใครเราจะให้เขาเข้าบ้านมั๊ย
เพราะในห้องเรียนคำสอนปัจจุบัน ก็สอนเเนวเดียวกัน
มองในทางที่ว่า ญาติ-เพื่อน-คนเเถวบ้าน คิดว่าปฏิเสธ คือ ไม่รู้จัก หรือ มีคนชวนมารู้จัก...Holy เขียน:จริงเหรอ ขนาดว่าปฏิเสธก็ได้เหรอM.L. Ecclēsia เขียน: ญาติ-เพื่อน-คนเเถวบ้าน ยึดคำสอนเเบบหลังสังคยานาวาติกัน2กระมังคะ
เพราะในห้องเรียนคำสอนปัจจุบัน ก็สอนเเนวเดียวกัน
เเล้วปฏิเสธเพราะยังศรัทธาของเดิมอยู่ หรือเพราะรู้จักพระเจ้าดีไม่พอ ฯลฯ เเต่ตัวเขาเองก็ประพฤติตนดี๊ดี น่ะค่ะ
ซึ่งคิดว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของพระเจ้าตัดสิน....เเต่มีโอกาสไหม ก็น่าจะมีโอกาสเหมือนกัน
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ อังคาร เม.ย. 29, 2008 4:53 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
แบบว่า เป็นคริสเตียนน่ะครับ
พ้ม!...เอ่อ ไม่รู้สิ เรื่องความรอดนี่มันเกินสติปัญญาของมนุษย์จริงๆละนะ (เอดส์ยังไม่มีปัญญารักษา ริจะเข้าใจพระเจ้า ปู่โธ่)
แต่สำหรับผม "ที่ท่านทั้งหลายรอดก็โดยความเชื่อ ไม่ใช่ด้วยการกระทำ เพื่อไม่ให้มีผู้หนึ่งผู้ใดอวดอ้างได้" (จากพระธรรมข้อไหนลืมแล้ว )
คิดว่า(ส่วนตัวนะครับ อาจจะผิดก็ได้) สำหรับกรณีสุดวิสัยไม่ได้รับข่าวประเสริฐจริงๆ (อย่างคนที่เกิดก่อนยุคพระเยซู ไม่ก็คนป่าคนดอย) อันนี้แล้วแต่พระเจ้า(ผมมันโง่) แต่ถ้าคนในยุคนี้ เกือบทั้งหมดรู้จักข่าวประเสริฐกันแล้วนะครับ ถ้ารู้แล้วยังไม่ยอมกลับใจ ผมว่าแบบนี้ก็ไม่น่ารอดแฮะ (ถึงงั้นก็ยังไม่ทุกคนล่ะนะ เพราะถ้า "ข่าวประเสริฐถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกมุมโลก" ตอนก็วันพิพากษาพอดิบพอดี )
พ้ม!...เอ่อ ไม่รู้สิ เรื่องความรอดนี่มันเกินสติปัญญาของมนุษย์จริงๆละนะ (เอดส์ยังไม่มีปัญญารักษา ริจะเข้าใจพระเจ้า ปู่โธ่)
แต่สำหรับผม "ที่ท่านทั้งหลายรอดก็โดยความเชื่อ ไม่ใช่ด้วยการกระทำ เพื่อไม่ให้มีผู้หนึ่งผู้ใดอวดอ้างได้" (จากพระธรรมข้อไหนลืมแล้ว )
คิดว่า(ส่วนตัวนะครับ อาจจะผิดก็ได้) สำหรับกรณีสุดวิสัยไม่ได้รับข่าวประเสริฐจริงๆ (อย่างคนที่เกิดก่อนยุคพระเยซู ไม่ก็คนป่าคนดอย) อันนี้แล้วแต่พระเจ้า(ผมมันโง่) แต่ถ้าคนในยุคนี้ เกือบทั้งหมดรู้จักข่าวประเสริฐกันแล้วนะครับ ถ้ารู้แล้วยังไม่ยอมกลับใจ ผมว่าแบบนี้ก็ไม่น่ารอดแฮะ (ถึงงั้นก็ยังไม่ทุกคนล่ะนะ เพราะถ้า "ข่าวประเสริฐถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกมุมโลก" ตอนก็วันพิพากษาพอดิบพอดี )
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
เอาเป็นว่าให้ใครสักคนไปถาม พระสงฆ์ ครูสอนเทววิทยา หรือ ใครก็ได้ที่รู้จริง เอาแบบถูกต้องและชัวนะ แล้วมาตอบดีกว่าไหม เพราะเรื่องเหล่านี้ค่อนข้างละเอียดอ่อนและมีผลกระทบต่อความเชื่อ แต่อยากได้ข้อมูลแบบคาทอลิก เพราะเราเป็นคาทอลิก 55+
แน่นอนว่าแทบทุกศาสนาจะทีประมาณว่า
ไม่ปฏิญาณตนรับศาสดาองค์สุดท้ายท่านหนึ่งจะไม่มีทางขึ้นสวรรค์
ถ้าปฏิเสธการเวียนว่ายตายเกิดต้องตกนรก
ผมว่าทุกอย่าง พระเจ้าตัดสินครับ
มนุษย์ไม่มีสิทธิ์เป็นตุลาการตัดสินวิญญาณ ดังนั้นจึงไม่ควรฟันธงไปว่ายังไง
ไม่ปฏิญาณตนรับศาสดาองค์สุดท้ายท่านหนึ่งจะไม่มีทางขึ้นสวรรค์
ถ้าปฏิเสธการเวียนว่ายตายเกิดต้องตกนรก
ผมว่าทุกอย่าง พระเจ้าตัดสินครับ
มนุษย์ไม่มีสิทธิ์เป็นตุลาการตัดสินวิญญาณ ดังนั้นจึงไม่ควรฟันธงไปว่ายังไง
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
(1)เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณในไฟชำระGrace de GL.Ch. เขียน: อยากถามพี่น้องคาทอลิกว่าเราเข้าใจถูกไหมในเรื่องเหล่านี้ตามความเชื่อของพี่น้องคาทอลิก
คือตั้งแค่ที่เคยเรียนคริสตศาสตร์(คาทอลิก)มา ในระดับที่ไม่ใช่แค่การสอนคำสอนคริสตชนเชื่อใหม่
เข้าใจว่า..........
1. เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณในไฟชำระ เข้าใจว่าหมายถึงวิญญาณที่เป็นคริสต์ (เชื่อพระเจ้า) ที่รอทำความสะอาดวิญญาณเพื่อไปพบพระเจ้าเท่านั้น
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่ารวมไปถึงแม้กระทั้งคนต่างศาสนาด้วย และเห็นเขาขอมิสซาให้คนต่างศาสนาเพื่อให้พระเจ้าพาเขาไปสวรรค์
คำถาม- วิญญาณที่มีสิทธิอยู่ในไปชำระเพื่อรอทำความสะอาดวิญญาณก่อนไปพบพระเจ้าเฉพาะวิญญาณที่เชื่อพระเจ้า หรือรวมไปถึงผู้ปฏิเสธพระองค์ด้วย
- การขอมิสซาให้คนต่างศาสนาสามารถไหม แล้วคิดว่าจะไปถึงไหม(ตามความเชื่อคาทอลิก) ถ้าไม่ได้ทำไมบางวัดยังอนุญาตให้ขอ
2. เกี่ยวกับเรื่องความรอด เข้าใจว่าผู้ที่เชื่อในพระเยซูเท่านั้นที่รอดไปสวรรค์ แต่ความเชื่อยังต้องประกอบไปด้วยการกระทำ
แต่ ฟังจากคนรอบตัวที่เป็นฆารวาสคาทอลิก(ญาติ-เพื่อน-คนแถวบ้าน) หลายคนบอกว่าแม้แต่คนต่างศาสนาที่ไม่รู้จักและปฏิเสธพระเจ้า ถ้าเป็นคนดีก็รอดได้
คำถาม- คนดีที่ปฏิเสธพระนามของพระเจ้ารอดได้จริงหรือ (แบบนี้ข่าวดีจะมีค่าอะไร ถ้าคิดว่าทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีและไปสวรรค์ได้)
ค้วยความเคารพนะคะ
ตอบ:แนะนำให้คุณไปอ่านหนังสือของคุณพ่อ ดร.ฟรังซิส ไกส์ นักเทววิทยา ของวิทยาลัยแสงธรรมเป็นฐานก่อนนะ(และคุณพ่อท่านบอกเองว่า นักเทววิทยาทั่วโลกบางคน ก็ยังไม่ได้สรุปเรื่องนี้)
*ในหนังสือนั้นจะกล่าวถึงระบบของยิวด้วยนิดหน่อย ก็ให้ดูบริบทดีดี
(2)การขอมิสซาให้คนต่างศาสนาสามารถไหม
ตอบ:
(1)ถวายมิสซาแก่ผู้ล่วงลับหน้าศพสำหรับบุคคลต่างศาสนา ไม่สามารถกระทำที่บ้านของเขา แม้ว่าเขาจะมีความผูกพันกับศาสนาคริสต์ มาช่วยงานพระศาสนจักรบ่อยๆ แต่บุคคลนั้นยังไม่ได้รับศีลล้างบาป จึงไม่ควรทำ แต่พระสงฆ์สามารถอุทิศมิสซาให้เขาได้ที่วัดของเรา
(2)เมื่อฝ่ายพุทธเสียชีวิตฝ่ายคาทอลิกสามารถขอมิสซาให้ได้ แต่หากฝ่ายคริสต์เสียชีวิต ฝ่ายพุทธจะนำพระมาสวดให้ก็ได้
(3)สถานที่ของคนต่างศาสนาไม่เหมาะที่จะไปทำพิธีทางการ พิธีมิสซามิใช่กิจกรรมด้านสังคม อย่านำพิธีกรรมไปปะปนกับเรื่องของสังคม ไม่จำเป็นต้องทำมิสซาหน้าศพที่ที่พักศพ ทำมิสซาในวัดก็ได้นอกจากวันปลกศพก็ทำได้ แต่สามารถไปสวดหน้าศพที่วัดพุทธได้
*คำแนะนำและแนวทางปฏิบัติพิธีบูชาขอบพระคุณสำหรับพระสงฆ์ จาก คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม
(3)แล้วคิดว่าจะไปถึงไหม(ตามความเชื่อคาทอลิก)
ตอบ:ไม่ถึงคงไม่ทำครับ ในเมื่อพระศาสนจักร(หลังสังคายนาวาติกัน 2)เปิดกว้างทางพระหรรษทานล้นเหลือมากขึ้น จึงขอ"มิสซา"ได้ ถ้าขอ"มิสซา"ได้ย่อมถึงแน่ๆครับ
(4)เกี่ยวกับเรื่องความรอด เข้าใจว่าผู้ที่เชื่อในพระเยซูเท่านั้นที่รอดไปสวรรค์ แต่ความเชื่อยังต้องประกอบไปด้วยการกระทำ
ตอบ:มารู้จักเรื่องของความเชื่อสักนิดก่อนนะครับ เราดูที่กิจการความเชื่อนั้น
(ซึ่งผมพูดไปบ้างแล้วในกระทู้เก่าๆ)
(1) Credo Deum=พระทรงเป็น(เชื่อว่าทรงมีชีวิต มีตัวตน)
(2) Credo Deo = การยอมรับว่า"พระวาจา"เป็นความจริง(เชื่อว่าจริง)
(3) Credo in Deum = การยอมรับว่าเป็นหนทางรอด(จากบาป) (เชื่อว่าทรงเป็นหนทาง)
*เทียบ ทรงเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต(ยอห์น 14:6)
ตรงนี้มีเอกสารกล่าวไว้ เดี๋ยวจะกล่าวต่อไป
(5)คนดีที่ปฏิเสธพระนามของพระเจ้ารอดได้จริงหรือ
ตอบ:คำถามนี้หยาบไปครับ ตอบไม่ได้เลย เขาปฏิเสธอย่างไร?
ปฏิเสธว่าไม่ใช่หนทางของเขา หรือ ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง หรือ ปฏิเสธแบบอคติ หรือ ปฏิเสธด้วยเพราะเหตุอื่นๆ
แต่อย่างที่ผมกล่าวไป(และ/หรือ ดูกระทู้คุณ Ignatius ประกอบ)
"สำหรับบุคคลอื่น ๆ ที่อยู่ในเงาในภาพแห่งการแสวงหาพระเป็นเจ้าที่เขาไม่รู้จัก, พระเป็นเจ้าเองก็ทรงไม่ห่างจากคนพวกนี้ เพราะว่าพระองค์ประทานให้ทุก ๆ คนมีชีวิต, มีความดลบันดาลใจและมีสารพัด (เทียบ กิจการ. 17,25-28) และพระผู้กอบกู้ทรงมีพระประสงค์ให้มนุษย์ทุกคนเอาตัวรอด (เทียบ 1ทิโมธี2,4)แต่บางครั้งคนเหล่านี้ไม่รู้ถึงพระวรสารของพระคริสตเจ้า, ไม่รู้ถึงพระศาสนจักรของพระองค์ จึงไม่มีความผิด,ถึงกระนั้นเขาก็แสวงหาพระเป็นเจ้า[ของเขา]ด้วยใจอันสุจริต และน้ำพระทัยของพระองค์ที่เขาทราบโดยการบอกกล่าวของมโนธรรมและภายใต้อิทธิพลของพระหรรษทาน เขาพยายามสนองตามนั้นด้วยกิจการของตนตามวัฒนธรรมของตน, เขาก็อาจบรรลุถึงความรอดตลอดนิรันดร์ ทั้งพระญาณสอดส่องของพระเป็นเจ้าก็ไม่เพิกเฉยต่อคนเหล่านั้น พระองค์ประทานความช่วยเหลืออันจำเป็นสำหรับความรอดแก่พวกเหล่านั้นเพราะพวกเขาไม่มีความผิด,"
*หมายเหตุ.แท้จริง ขึ้นกับพระวินิจฉัยของพระเป็นเจ้าเป็นพระราชอำนาจซึ่งเราไม่มีสิทธิละเมิดแต่ทว่าคำว่าอาจถึงความรอดได้ และ พระญาณสอดส่องของพระเป็นเจ้าก็ไม่เพิกเฉยต่อคนเหล่านั้น เป็นสิ่งแสดงให้เห็นพระเมตตาล้นเหลือครับ
พระศาสนจักรและสมาชิกในพระศาสนจักรเป็นผู้รับใช้โลกครับ เรารับใช้มนุษย์ผู้มีบาปนั่นล่ะ ผู้ปฏิเสธพระองค์นั่นล่ะ เราหยิบยื่นความรอดให้ผู้ที่ไม่รู้จักแสวงหาน้ำพระทัย เราหนุนใจผู้ที่มีมโนธรรมและทำกิจการสารพัดภายใต้อิทธิพลของพระหรรษทาน เช่น ศาสนาที่ดีอื่นๆ (เพราะถ้าเขาเข้าใจความจริงแท้ๆจะคุยกันรู้เรื่องครับ เทียบ เอกสารการเสวนากับศาสนาอื่น) ขอให้คาทอลิกย้อนกลับไปคิดถึงความสำคัญของพิธีล้างเท้าครับ ท่านจะเข้าใจมากขึ้นในจุดของ"เราคือผู้รับใช้" เราไม่ได้มองว่าเรารอดมั้ย(ขึ้นกับน้ำพระทัย แต่แน่ๆล่ะ เราคงรอด) เรามองข้ามจุดนั้นไปแล้วครับ เมื่อเราเกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิต เราคือผู้รับใช้พระเจ้า และทำกิจการสารพัดที่สนองงานพระองค์
ขออภัยที่มาตอบช้า
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
กาลครั้งหนึ่ง ผมไป งานศพที่วัดนักบุณอันดรู เค้ามีงานศพ เค้ายังใช้ธูปปักเลย(1 ดอก)
และก็ผมฟังมาจากคุณพ่อว่า ต้องมีการชดใช้สำหรับคนที่ไม่มีความเชื่อแต่เป็นคนที่ดี(พอ)
ตามความเห็นของผู้ไม่เข้าใจ
ไม่ทราบว่า เป็นพระธรรมล้ำลึกหรือเปล่าครับที่ตายแล้วไปไหน
เพราะเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงตัดสิน มนุษย์ไม่ใช้ผู้พิพากษา
และอยากให้ขยายความ 1 โครินทร์
3:10 โดยพระคุณของพระเจ้าซึ่งได้ทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้วางรากลงแล้วเหมือนนายช่างผู้ชำนาญ และอีกคนหนึ่งก็มาก่อขึ้น ขอทุกคนจงระวังให้ดีว่าเขาจะก่อขึ้นมาอย่างไร
3:11 เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์
3:12 แล้วบนรากนั้นถ้าผู้ใดจะก่อขึ้นด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง
ทรงทดลองการของเราทุกคน
3:13 การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฏให้เห็น เพราะเวลาวันนั้นจะให้เห็นได้ชัดเจน เพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร
3:14 ถ้าการงานของผู้ใดที่ก่อขึ้นทนอยู่ได้ ผู้นั้นก็จะได้ค่าตอบแทน (คือความดีหรือเปล่า)
3:15 ถ้าการงานของผู้ใดถูกเผาไหม้ไป ผู้นั้นก็จะขาดค่าตอบแทนแต่ตัวเขาเองจะรอด แต่เหมือนดังรอดจากไฟ
วางด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง คือ ความเชื่ออื่นใช่ไหม ครับ -/-
และก็ผมฟังมาจากคุณพ่อว่า ต้องมีการชดใช้สำหรับคนที่ไม่มีความเชื่อแต่เป็นคนที่ดี(พอ)
ตามความเห็นของผู้ไม่เข้าใจ
ไม่ทราบว่า เป็นพระธรรมล้ำลึกหรือเปล่าครับที่ตายแล้วไปไหน
เพราะเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงตัดสิน มนุษย์ไม่ใช้ผู้พิพากษา
และอยากให้ขยายความ 1 โครินทร์
3:10 โดยพระคุณของพระเจ้าซึ่งได้ทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้วางรากลงแล้วเหมือนนายช่างผู้ชำนาญ และอีกคนหนึ่งก็มาก่อขึ้น ขอทุกคนจงระวังให้ดีว่าเขาจะก่อขึ้นมาอย่างไร
3:11 เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์
3:12 แล้วบนรากนั้นถ้าผู้ใดจะก่อขึ้นด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง
ทรงทดลองการของเราทุกคน
3:13 การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฏให้เห็น เพราะเวลาวันนั้นจะให้เห็นได้ชัดเจน เพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร
3:14 ถ้าการงานของผู้ใดที่ก่อขึ้นทนอยู่ได้ ผู้นั้นก็จะได้ค่าตอบแทน (คือความดีหรือเปล่า)
3:15 ถ้าการงานของผู้ใดถูกเผาไหม้ไป ผู้นั้นก็จะขาดค่าตอบแทนแต่ตัวเขาเองจะรอด แต่เหมือนดังรอดจากไฟ
วางด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง คือ ความเชื่ออื่นใช่ไหม ครับ -/-
แก้ไขล่าสุดโดย holy holy holy เมื่อ อังคาร เม.ย. 29, 2008 10:09 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
ขอบังอาจแสดงความเห็นเล็กน้อยนะครับพระยุติธรรมของพระเจ้า เขียน: ผมขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่า ผมเป็นนักศึกษาเทวศาสตร์คาทอลิก แต่เป็นเทวศาสตร์และข้อความเชื่อดั้งเดิมของคาทอลิก จากคณะเบเนดิกตินและดอมินิกัน (เอาเป็นว่าเป็นของเก่าแก่ดั้งเดิม เชื่อถือได้ 1000000 % ) เทววิทยาใหม่เดียวนี้ หลังสังคายนาวาติกัน จะสอนอีกแบบ แต่ก็น่าศึกษา
ตอบ คำถามที่1 การขอมมิสซาให้คนตาย ต้องแยกออกเป็น 2แบบครับ
1คนที่เป็นคาทอลิก-โปร-นิกายต่างๆ เรามีความเชื่อถึงไฟชำระ ต้องไปสู่ที่นั้นเพื่อชำระบาปต่างๆ
ให้บริสุทธิ์ แต่ !!! โปรรอดไปสวรรค์มั๊ย คาทอลิก100 โปรก็ลดลงมาตามความเชื่อนะ
(ไม่อยากพูดมากเดียวกระทบหลายๆคน)
และ คนพุทธ อิสลาม 999 ล่ะอยู่ที่ไหน
อยู่ไฟชำระป่าว! ขอตอบเลยว่าไม่ได้อยู่ในไฟชำระนะครับ
มีอีกสถานที่หนึ่งเรียกว่า "ลิมโบ"
เป็นสถานที่อยู่ใต้บาดาล
เป็นสถานที่มึด เป็นที่อยู่ของผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า (ตามความเชื่อคาทอลิกดั้งเดิม)
รอวันเวลาที่พระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อหวังจะได้รอด แต่ในลิมโบไม่มีการใช้โทธบาป และ"ขึ้นสวรรค์" ไม่ได้เหมือนไฟชำระ
ขอมิสซาให้คนในลิมโบส่วนบุญนั้น ไม่ได้นะครับ ยังมีแยกอีก 1คนที่เคยได้รับการประกาศความรอด (เคยได้ยินเรื่องของพระเยซู) แต่ไม่สนใจ ไม่เชื่อ หมายความว่ามีโอกาสรอดแล้วแต่ไม่ไขว่คว้า บาปมากๆ แต่คนที่ไม่เคยได้ยิน ได้รู้จักเลย ก็ถือว่าเขาไม่ได้ปฎิเสธพระองค์ แต่ไม่รู้จัก
.......................................................................
ลองเอาง่ายๆถ้าเราไม่รู้จักใครเราจะให้เขาเข้าบ้านมั๊ย
และคำถามที่ว่านอกพระศาสนจักรไม่มีความรอด
ตอบว่า จริง ครับ พระเยซูเจ้าเคยตรัสไว้ "เราคือหนทางความจริงและชีวิต ไม่มีใครไปหาพระบิดาได้นอกจากทางเรา" แต่ในการสอนเทววิทยาจิงๆแล้ว คนที่ทำดี ประพฤติตัวดี
ในศาสนาอื่นๆเขาก็น่าจะรอดบ้าง เพราะความดีของเขานั่นแหละเป็นรางวัลที่ไปต่อรองกะพระเป็นเจ้าได้(บ้าง)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ส่งข้อความมานะครับ ยินดีตอบเสมอ
ในทางจริยศาสตร์ความเชื่อ,หรือเทวศาสตร์ที่เข้มข้น ผมเข้าใจว่าไม่น่ามีอะไรพลาด เพราะมาจากพระคัมภีร์
แต่ทว่า พระศาสนจักร(เอ่อ เอาเป็นว่า ในสมณสมัยพระสันตะปาปายอห์น ที่ 23) ได้มีนักเทววิทยากลุ่มหนึ่งพยายามผลักดันเรื่องพระหรรษทานนอกพระศาสนจักร(อธิบายคำกล่าวของนักบุญไซเปรียนให้ชัดเจนขึ้น)ผมคิดว่าตรงนี้น่าสนใจ เพราะเป็นการเปิดให้เราทำงานของพระง่ายขึ้น มีความเข้าใจมากขึ้น และเรามอบอำนาจกลับไปให้พระ(ทรงตัดสินมากขึ้น)เพราะอิทธิพลสมัยสังคายนาวาติกันครั้งที่ 1 ที่ทำให้ "แนวคิดเรื่องความไม่รู้จักพลาดพลั้ง"ติดสมองผู้รับใช้หลายท่านในโลก จากครั้งที่ 1 นั้นล่ะครับทำให้เรามี "สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2"
เพื่อให้เราเน้น"ความรัก"และ"การรับใช้"โลก เหมือนที่พระทรงบอกว่า"จงทำการนี้เพื่อระลึกถึงเราเถิด"
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
(1)เพราะเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงตัดสินมนุษย์ไม่ใช้ผู้พิพากษาholy holy holy เขียน: กาลครั้งหนึ่ง ผมไป งานศพที่วัดนักบุณอันดรู เค้ามีงานศพ เค้ายังใช้ธูปปักเลย(1 ดอก)
และก็ผมฟังมาจากคุณพ่อว่า ต้องมีการชดใช้สำหรับคนที่ไม่มีความเชื่อแต่เป็นคนที่ดี(พอ)
ตามความเห็นของผู้ไม่เข้าใจ
ไม่ทราบว่า เป็นพระธรรมล้ำลึกหรือเปล่าครับที่ตายแล้วไปไหน
เพราะเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงตัดสิน มนุษย์ไม่ใช้ผู้พิพากษา
และอยากให้ขยายความ 1 โครินทร์
3:10 โดยพระคุณของพระเจ้าซึ่งได้ทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้วางรากลงแล้วเหมือนนายช่างผู้ชำนาญ และอีกคนหนึ่งก็มาก่อขึ้น ขอทุกคนจงระวังให้ดีว่าเขาจะก่อขึ้นมาอย่างไร
3:11 เพราะว่าผู้ใดจะวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์
3:12 แล้วบนรากนั้นถ้าผู้ใดจะก่อขึ้นด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง
ทรงทดลองการของเราทุกคน
3:13 การงานของแต่ละคนก็จะได้ปรากฏให้เห็น เพราะเวลาวันนั้นจะให้เห็นได้ชัดเจน เพราะว่าจะเห็นชัดได้ด้วยไฟ ไฟนั้นจะพิสูจน์ให้เห็นการงานของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร
3:14 ถ้าการงานของผู้ใดที่ก่อขึ้นทนอยู่ได้ ผู้นั้นก็จะได้ค่าตอบแทน (คือความดีหรือเปล่า)
3:15 ถ้าการงานของผู้ใดถูกเผาไหม้ไป ผู้นั้นก็จะขาดค่าตอบแทนแต่ตัวเขาเองจะรอด แต่เหมือนดังรอดจากไฟ
วางด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้งหรือฟาง คือ ความเชื่ออื่นใช่ไหม ครับ -/-
พระองค์ตรัสตอบว่า"มิใช่ธุระของพวกท่าน ที่จะรู้เวลาและวาระซึ่งพระบิดาทรงกำหนดไว้แต่ลำพังพระองค์ แต่ท่านจะรับพระจิตที่เสด็จมาเหนือท่าน ประทานพละกำลังเพื่อท่านจะเป็นพยานยืนยันถึงเรา"
ผมแนะให้อ่าน http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=8030.0
(2)ถ้าพระจิตทรงนำคุณว่า"ความเชื่ออื่น"ก็โอเคนะครับ เพราะ "ผู้นั้นก็จะขาดค่าตอบแทน(*)แต่ตัวเขาเองจะรอด แต่เหมือนดังรอดจากไฟ(**)"
(*)บำเหน็จในสวรรค์"ผู้นั้นก็จะได้ค่าตอบแทน=ไม่ใช่เฉพาะความดีทั่วไปแต่ต้องพูดว่าความดีตามหนทางของพระ"(ดังนั้น อีกนัยหนึ่งคือ มีความดีอื่นๆนะที่ทำให้อาจรอด แต่จะไม่ได้ค่าตอบแทนนะ)
(**)ไฟนรก
ผมอ่านแล้วก็พอเข้าใจตามนั้นได้ แต่จริงๆตีในทางสร้างสรรค์ได้อีกมากลองไปทำ Lectio Divina ดู
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ป้าเกรซ เปลี่ยนชื่ออีกแล้ว ฮึ่มๆๆๆ
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
Lectio Divina คืออะไรหรือ :huh:9
เป็นการอ่านพระคัมภีร์อย่างใคร่ครวญหน่ะholy holy holy เขียน: Lectio Divina คืออะไรหรือ :huh:9
จะมี5ขั้นตอน คร่าวๆดังนี้
1.Lectio อ่านพระคัมภีร์โดยเลือกตอนหนึ่ง
2.Meditatio รำพึง(พระเจ้าตรัสอะไรกับฉัน)
3.Oratio ภาวนา (สนทนากับพระเจ้า)
4.Contemptatio เพ่งญาณ (เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า)
5.Actio ปฎิบัติ (นำคำสอนของพระเจ้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ เม.ย. 30, 2008 6:51 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
โอว พี่ยศเก่งจังเลย จบป.ตรีแล้ว น่าจะเข้าบ้านเณร นะฮะยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน:เป็นการอ่านพระคัมภีร์อย่างใคร่ครวญหน่ะholy holy holy เขียน: Lectio Divina คืออะไรหรือ :huh:9
จะมี5ขั้นตอน คร่าวๆดังนี้
1.Lectio อ่านพระคัมภีร์โดยเลือกตอนหนึ่ง
2.Meditatio รำพึง(พระเจ้าตรัสอะไรกับฉัน)
3.Oratio ภาวนา (สนทนากับพระเจ้า)
4.Contemptatio เพ่งญาณ (เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า)
5.Actio ปฎิบัติ (น้ำคำสอนของพระเจ้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน)
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เห็นด้วยครับJeab Agape เขียน:โอว พี่ยศเก่งจังเลย จบป.ตรีแล้ว น่าจะเข้าบ้านเณร นะฮะยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน:เป็นการอ่านพระคัมภีร์อย่างใคร่ครวญหน่ะholy holy holy เขียน: Lectio Divina คืออะไรหรือ :huh:9
จะมี5ขั้นตอน คร่าวๆดังนี้
1.Lectio อ่านพระคัมภีร์โดยเลือกตอนหนึ่ง
2.Meditatio รำพึง(พระเจ้าตรัสอะไรกับฉัน)
3.Oratio ภาวนา (สนทนากับพระเจ้า)
4.Contemptatio เพ่งญาณ (เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า)
5.Actio ปฎิบัติ (น้ำคำสอนของพระเจ้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน)
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
เทอมหน้าเรียนภาษากรีก เลยตั้งชื่อเตรียมตัวไว้ก่อน(ถูกป่าวก็ไม่รู้)Jeab Agape เขียน:
ป้าเกรซ เปลี่ยนชื่ออีกแล้ว ฮึ่มๆๆๆ
ปล. มาทำเป็นเรียกป้า ใครแก่กว่ารู้อยู่แก่ใจ
นั่นดิ เห็นด้วยเหมือนกัน รู้สึกว่าพี่แกจะมองๆ อยู่ อีกหน่อยเราคงได้เรียกว่าบาเด้อยศBatholomew เขียน:เห็นด้วยครับJeab Agape เขียน:โอว พี่ยศเก่งจังเลย จบป.ตรีแล้ว น่าจะเข้าบ้านเณร นะฮะยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: เป็นการอ่านพระคัมภีร์อย่างใคร่ครวญหน่ะ
จะมี5ขั้นตอน คร่าวๆดังนี้
1.Lectio อ่านพระคัมภีร์โดยเลือกตอนหนึ่ง
2.Meditatio รำพึง(พระเจ้าตรัสอะไรกับฉัน)
3.Oratio ภาวนา (สนทนากับพระเจ้า)
4.Contemptatio เพ่งญาณ (เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า)
5.Actio ปฎิบัติ (น้ำคำสอนของพระเจ้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน)