คริสตสัมพันธ์ระหว่างคาทอลิก กับ โปรเตสแตนต์

คริสตสัมพันธ์ เอกภาพในคริสตศาสนา
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ม.ค. 27, 2006 8:42 pm

คริสตสัมพันธ์ ระหว่าง คาทอลิก กับโปรเตสแตนต์
โดย โปรดปราน ( พีพี )


“ดูเถิด ...ซึ่งพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็เป็นการดีและน่าชื่นชมมากสักเท่าใด” (สดุดี ๑๓๓.๑ ) และ พระเยซูเจ้าตรัสว่า“บุคคลผู้ใดสร้างสันติ ผู้นั้นเป็นสุขเพราะว่าพระเจ้าทรงเรียกเขาว่าบุตร” ( มัทธิว ๕.๙ )

รูปภาพ


ดิฉันเกิดในครอบครัวที่นับถือพุทธ เราอยู่ร่วมกับชุมชนอิสลาม รับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนวัดซึ่งมีทั้งเด็กพุทธ และมุสลิมเรียนหนังสือร่วมกัน เราไม่เคยทะเลาะกันเพราะความเชื่อหรือหลักของศาสนา ชาวพุทธสามารถไปร่วมกินดื่มบ้านเพื่อนมุสลิมได้เสมอ แต่ชาวมุสลิมรับประทานอาหารบ้านคนพุทธไม่ได้เพราะว่าเรากินหมู ตอนนั้น ดิฉันคิดว่าในโลกนี้มีแค่ พุทธ กับอิสลาม ดีใจที่เกิดในครอบครัวชาวพุทธ จึงไม่ต้องถือศีลอด ไม่มีข้อห้ามเรื่องอาหาร และข้อปฏิบัติอีกมากมาย

หลังจากจบจากมหาวิทยาลัย ดิฉันได้รับเชื่อเป็นคริสต์ โดยไม่ได้เลือกนิกาย หรือคณะเอง เชื่อว่าพระเจ้าทรงวางดิฉันให้อยู่ในกรอบของนิกายโปรเตสแตนต์ คณะ เพรสไบทีเรียน แล้วมารับทราบภายหลังว่า คริสต์ ถูกแยก ออกเป็น ๓ นิกายใหญ่ๆ และมีกลุ่มอิสระอีกมากมาย นิกายของคริสต์ มี คาทอลิก ออร์เทอดอกซ์ และ โปรเตสแตนต์ แล้วทั้งสามนิกาย ไม่กินเส้นกันอีก บ่อยครั้ง คริสตชน ต่างนิกายทะเลาะวิวาทกันอย่างเปิดเผย จนเป็นที่ติฉินนินทาแก่ศาสนิกชนอื่นๆ ส่วนพวกที่ไม่ทะเลาะกัน ก็ ขุ่นเคือง หมางเมินกัน ไม่ยอมวิสาสะกัน ทั้งนี้เพราะ ต่างฝ่ายต่างเชื่อว่าความเชื่อ ความศรัทธาของตนเองเท่านั้นถูกต้อง ส่วน อีกสองนิกายนั้นความเชื่อผิดและคงจะไม่ได้รับความรอด ทั้งๆที่ ทั้งสามนิกาย ก็เชื่อจุดหลักเกี่ยวกับพระเจ้า คือเรื่อง “พระตรีเอกภาพ”
รูปภาพ

ทำให้ย้อนคิดว่า ตอนที่ดิฉันนับถือพุทธ อยู่ท่ามกลางชุมชนอิสลาม เราไม่เคยทะเลาะกัน แล้วยังไปมาหาสู่ เอื้อเฟื้อต่อกันเสมอ แต่ทำไมเมื่อเป็นคริสต์ จึงมีความบาดหมาง ระหว่างนิกาย หรือคณะ แล้วที่ว่าคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรักและให้อภัยนั้น จริงหรือ เมื่อกลับไปหาพระเจ้า ดิฉันจะตอบคำถามพระองค์อย่างไร ถ้าพระบิดาตรัสถามว่า “ทำไมคริสตชนทุกๆนิกายเป็นพี่-น้องกันจึงไม่คืนดีกัน ตอนมีชีวิตในโลกนี้ แล้วสิ่งที่ที่พวกเจ้าพล่ามสอนกันน่ะ ได้นำไปใช้ในชีวิตกันบ้างไหม ....ที่พวกเจ้ารับคำบัญชาของเราประกาศสั่งสอน ข่าวดี เรื่องความรักที่พระเยซูคริสต์ได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่พวกเจ้าให้รอด ข่าวดีนี้เป็นข่าวแห่งการคืนดีระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า โดยให้พระเยซูคริสต์ เป็นคนกลาง และเป็นข่าวแห่งการคืนดีของมนุษย์เองด้วย...พวกเจ้าทำการแพร่ธรรมนำคนมากลับใจใหม่เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า แต่พวกเจ้าเองเป็นคนหน้าซื่อใจคดไหม หน้าไหว้หลังหลอกไหม ฯลฯ” คำถามลักษณะนี้ติดค้างอยู่ในจิตใจ ของดิฉันเสมอ

รูปภาพ


เบื้องหลัง การพัฒนาของเอกสัมพันธ์

ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 20 คริสตจักรของโปรเตสแตนต์ผ่านพ้นยุคที่ดุดัน ไม่ยอมรอมชอมกับใคร จากท่าทีของคณะต่างๆที่ยึดมั่นว่าตัวเองเท่านั้นเป็นฝ่ายถูก และปิดกั้นอยู่เฉพาะกลุ่มของตัวเอง จึงมีการรวมตัวของคริสตชนต่างคณะเป็นขบวนการเพื่อเอกภาพ ( Ecumenical Movement ) และมีศูนย์กลางระดับนานาชาติชื่อว่า “เวิร์ด เคาน์ซิล ออฟเชิร์ช ( World Council of Churches ) เป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1948 สำนักงานใหญ่อยู่ที่เจนีวา มีสมาชิกโปรเตสแตนต์ คณะต่างๆ และนิกายออร์ทอดอกซ์ตะวันออก ในขบวนการเพื่อเอกภาพ เป็นที่ประทับใจเพราะเป็นอุดมคติของหนุ่มสาวทุกคณะนิกายที่รักเอกภาพ จึงมาที่ศูนย์รวม “เทเซ่” (Taize) ซึ่งเป็นชื่อชุมชน/อารามในฝรั่งเศส ผู้ก่อตั้งเป็นผู้รับใช้พระเจ้าของโปรเตสแตนต์ อาราม เทเซ่ ดึงดูดคริสตชนมาร่วมกันภาวนาเพื่อเอกภาพ หรือความเป็นหนึ่งเดียวในพระกายของพระเยซูคริสต์ กิจกรรม หรือพิธีกรรมที่จัดไม่เน้น นิกายหรือคณะของนิกาย
คำนิยามของ Ecumenism มาจากภาษากรีก OIKOUMENE_-- oikos + mene ( household + manage ) โลกทั้งใบคือบ้านของพระเจ้า มาดูด้านพระคัมภีร์ ในหนังสือ ยอห์น ๑๗.๒๑ “เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน” เหมือนพระเยซูคริสต์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดา คำอธิษฐานนี้ ทำให้เข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า และการเชื่อฟังของพระคริสต์ พระบิดา ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบุตร เหมือนที่อัครทูตเปาโลได้อธิษฐานระหว่างท่านเองกับคริสตจักร (พระศาสนจักร) คือ มีความคิดอย่างเดียวกัน มีความรักอย่างเดียวกัน มีใจรู้สึกและคิดพร้อมเพรียงกัน” ( ฟป.๒.๒ ) ในเมื่อคริสตชนมีหลากกลุ่มคณะหรือนิกาย ด้าน ศาสนศาสตร์ (theology )ก็ยังมุ่งปกป้องความเชื่อ แต่ต้องปรับความสมดุลระหว่างนิกายหรือคณะ ดังนั้น ก่อนจะพูดว่าใครผิดใครถูกขอให้เรามาดูหลักข้อเชื่อที่เรายึดมั่นร่วมกันดังนี้

๑ เชื่อในเรื่องพระตรีเอกภาพ(คาทอลิก) หรือพระตรีเอกานุภาพ (โปรเตสแตนต์) คือ

-พระบิดา คือ พระผู้สร้าง -พระบุตร คือ พระผู้ไถ่-พระจิต(คาทอลิก)หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ (โปรเตสแตนต์) คือ ผู้สถิตและช่วยมนุษย์

๒ เชื่อในสากลคริสตจักร( พระศาสนจักร)บริสุทธิ์ซึ่งมีพระเยซูคริสต์เป็นประมุข และเชื่อในการร่วมสมานฉันท์ระหว่างธรรมิกชน( คริสตชน )

๓ เชื่อว่ามีวันพิพากษา มนุษย์ทุกคนทั้งผู้ที่มีชีวิตอยู่และผู้ที่ตายไปแล้วต้องกลับมารับการพิพากษาพร้อมกัน

๔ เชื่อว่ามีสวรรค์นิรันดร

๕ ยอมรับหลักข้อเชื่อสากลร่วมกัน ๓ บท คือ หลักข้อเชื่อของอัครสาวก (Apostles’ Creed )

หลักข้อเชื่อไนเซีย ( Nicene Creed ) และหลักข้อเชื่ออะทาเนเซียน (Athanasian Creed )

นอกจากนี้ก็ยอมรับหลักข้อเชื่อสากลร่วมกัน ๓ บท คือ หลักข้อเชื่อของอัครสาวก

(Apostles’Creed ) หลักข้อเชื่อไนเซีย ( Nicene Creed ) และหลักข้อเชื่ออะทาเนเซียน
(Athanasian Creed )
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ พุธ ก.พ. 14, 2007 11:26 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ม.ค. 27, 2006 8:49 pm



แนวทางของคริสต์สัมพันธ์ ระหว่างคาทอลิก และโปรเตสแตนต์ (ในประเทศไทย )


รูปภาพ

ดิฉันขอเสนอแนวทางที่คิดว่าปฏิบัติได้ไม่ยาก หากตั้งใจ จะแก้ไขความผิดพลาดที่ผ่านมา ดังนี้

๑.การอธิษฐานภาวนาเพื่อเอกภาพด้วยกัน

การอธิษฐานภาวนาเพื่อเอกภาพ ปัจจุบันก็ได้ทำไปบ้างแล้ว เช่นกลุ่มสตรีคริสตชน กลุ่มคาทอลิก กับ คริสเตียน ทุกๆฝ่ายในสัปดาห์ อธิษฐานสากลเพื่อเอกภาพในเดือนมกราคม และควรจะมีการพัฒนาการอธิษฐานภาวนาร่วมกันมากขึ้น ขยายกลุ่มเป้าหมาย ทุกระดับ

รูปภาพ

๒. เปลี่ยนจากคู่แข่ง มาเป็นผู้ร่วมมือกัน

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง นิกาย หรือคณะของคริสต์นั้น บ่อยครั้งเกิดจากการแข่งขัน ของกลุ่มคริสตชน ยกตัวอย่างในกลุ่มคริสเตียน คณะต่างๆ มีการประกาศ ข่าวดี หรือแพร่ธรรมทับเส้นกัน หรือบางครั้งถึงกับแย่งลูกแกะ ความจริงแล้วการที่พวกเราใส่ร้าย ป้ายสีกันเองมากเท่าไหร่ เป็นการ นำความเสื่อมเสียให้กับ คริสตชนทั้งหมด พวกเราไม่จำเป็นต้องแข่งขันกัน ไม่จำเป็นต้องอวดว่ากลุ่มเราดีกว่ากลุ่มอื่นๆ เพราะยังมีพันธกิจมากมายในสังคม คนไทยเกือบ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้รู้จักพระเจ้า ยังไม่ได้รับความรอดโดยโลหิตของพระเยซูคริสต์ มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือของคนในสังคมทุกหัวระแหง พวกเราควรจะจับมือทำงานด้วยกัน ประกาศพระนามพระเยซูเจ้าด้วยกันเพราะทั้งคริสตังและคริสเตียนรับใช้ เจ้านายองค์เดียวกัน

รูปภาพ

๓.เลิกตำหนิ ติเตียนกัน หันมาเสวนาแทน

ควรลบภาพของคริสตชนในอดีต ที่เคยขัดแย้งกัน หรือการ มีอคติ ต่อคริสตชน กลุ่มอื่นๆคือเชื่อว่า ความเชื่อของตนเองจริง แล้วประณามว่าความเชื่อของนิกายอื่นหรือคณะอื่น เท็จ/ผิด เรา ควรเปลี่ยนมาเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดกัน โดยเฉพาะในประเทศไทยคริสตชนคือ คนกลุ่มน้อยในสังคม คริสตศาสนา ถูกมองว่าเป็นศาสนาของฝรั่ง เราต้องหันมาพูดคุยกัน ว่าทำอย่างไร ที่ จะให้มีความเข้าใจว่า คริสตศาสนา เกิดในเอเชีย และ “พระเยซูเจ้า” เป็นคนเอเชีย ในท่ามกลางสังคมที่ซับซ้อนมากขึ้น การรับข้อมูลข่าวสารหลากหลายขึ้น ผู้รับ ก็มีหลาย วัฒนธรรม หลากภาษา และลัทธิความเชื่อ ดังนั้นเป็นความจำเป็นที่ คริสตชน คือ ระหว่าง คาทอลิก และโปรเตสแตนต์ ต้องเสวนาเพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หาแนวทางในการเป็นพระฉายของพระเจ้า เป็นตัวแทนของพระเยซูคริสต์ ร่วมกันทำพันธกิจของพระองค์

รูปภาพ

๔.เลิกแยกตัว หันมาร่วมมือกัน

ปัจจุบันในสังคมไทยของเรามักจะมีการพูดถึงการเคลื่อนไหวของประชาชน ( People movement) ซึ่งมีหลายกลุ่มด้วยกัน โดยเฉพาะกลุ่ม “เอ็น จี โอ” มีการเคลื่อนไหวระดับต่างๆ เช่น มี การเคลื่อนไหว เพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวเรื่องสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ขณะนี้มีเคลื่อนไหวเรียกร้องของ กลุ่มต่างๆมากมาย ทั้งสนับรัฐบาล และคมช.และกลุ่มต่อต้าน รัฐบาล และคมช. จนมีการวางระเบิดไปทั่ว และคาดว่าจะมีกลุ่ม เคลื่อนไหวอีกหลายกลุ่ม ดังนั้นมาดูในกลุ่มคริสตชนเอง ในเมื่อเราเป็นชนกลุ่มน้อยของสังคม ถ้าแยกตัวกัน หรือต่างคนต่างอยู่ จะเป็นผลเสียมากกว่า เพราะการรวมกลุ่มกัน ก็สามารถต่อรอง บางสิ่ง บางอย่างได้ หรือพวกเราสามารถ เป็นตัวแทนของกลุ่มความเชื่อได้ โดยเฉพาะคริสตชนเป็นคนกลุ่มน้อยในสังคมไทย การร่วมมือกัน จะสามารถนำการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ หรือสามารถเป็นเครื่องต่อรองของสังคม เช่นมีสิทธิ์ มีเสียง ในการ ออกกฎหมาย การให้คำแนะนำแก่สังคม การเป็นผู้นำของสังคม หรือชุมชน ให้ทำแต่สิ่งดีๆตามคำสอนของพระเยซู เจ้า

รูปภาพ

๕. ร่วมมือกันจัดหลักสูตรการศึกษา

ยุคนี้เป็นยุคที่เราต้องเป็นพันธมิตรกัน คงยอมรับว่าศตวรรษที่ 21 นี้ไม่มีอะไรมาปิดกั้นโลก เรื่องศาสนาลัทธิความเชื่อต่างๆไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัวอีกแล้ว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือระบบ/ลัทธิ ทุนนิยม วัตถุนิยม บริโภคนิยม ขบวนการเอกสัมพันธ์ช่วยสร้างส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้ไปในทิศทางเดียวกัน คือยึดมั่นในพระเจ้าที่มีพระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะผู้รับใช้พระเจ้า ต้องมีบทบาทและรับผิดชอบต่อสังคม ช่วยฟื้นฟูชีวิตจิตวิญญาณของคนในชาติ เราต้องท้าทาย ให้คนรุ่นใหม่ ทั้ง ผู้นำของพระศาสนจักร และคริสตจักร สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยยึดจุดศูนย์กลางฝ่ายจิตวิญญาณเดียวกัน คือพระเยซูคริสต์ หลักสูตรทางการศึกษาสามารถร่วมมือกันได้ เช่น เรื่องหลักข้อเชื่อ เรื่องจริยธรรม เรื่องสตรี เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องกลุ่มผู้ด้อยโอกาส เรื่องวัฒนธรรม เรื่องHIV/AIDS เรื่องการสอนพระคัมภีร์แก่ชุมชน เรื่องการอธิษฐานภาวนา การสัมมนาทางวิชาการ เน้นที่ประเด็นที่เป็นปัญหา หรือสงสัย เป็นต้น

๖.มองการทรงสร้างของพระเจ้าในภาพรวมไม่ใช่แยกส่วน

มีConcept เรื่อง oikoumene ว่า “คนบ้านเดียวกัน” ดังนั้นโลกใบนี้ไม่ใช่ เป็นของมนุษย์อย่างเดียว แต่เป็นของสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างด้วย ด้านเอกสัมพันธ์มองถึง การปรองดอง ความสัมพันธ์ ระหว่าง มนุษย์ คือ ชาย และ หญิง ความกลมเกลียวกันระหว่างมนุษย์กับสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง ซึ่งเรื่องเอกสัมพันธ์ไม่มองเพียงความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างมนุษย์ด้วยกัน แต่มองถึงความเป็นหนึ่งเดียวของการทรงสร้างทั้งหมด เช่นพวกสิ่งแวดล้อม สิทธิของสัตว์ เป็นต้น


รูปภาพ

๗.เราต้องให้เกียรติละยอมรับซึ่งกันและกัน

เมื่อ เดือนกันยายน 2006 ดิฉันได้ร่วมเสวนา หนึ่งของ เอกสัมพันธ์ในเอเชีย ผู้แทนคือคริสตชน สองนิกาย ของคาทอลิกระดับพระคุณเจ้า แต่โปรเตสแตนต์มาจากหลายกลุ่ม ในที่ประชุม แต่ละคน ก็เล่าให้ฟังว่าแท้จริงแล้ว เราไม่ต่างกันเลย ถ้าเรายอมรับฟังกันละกัน เช่น ศิษยาภิบาลจากคณะเพ็นเทคอส ฟิลิปปินส์ ได้สารภาพว่า คริสตจักรของเพรสไบทีเรียน ก็มีพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วย ส่วนศาสนาจารย์จากอินเดีย ก็สารภาพว่าเพิ่งเข้าใจว่าคริสตจักรเพ็นเทคอส ก็เชื่อพระบิดา และพระเยซู อีกท่านหนึ่ง เป็นฆราวาสสตรีคาทอลิก หลังจากลูกเป็นเพื่อนกับคริสเตียน เมโธดิส เธอจึงรู้ว่าคริสเตียน นับถือพระตรีเอกภาพ ศาสนาจารย์อีกท่านจากกลุ่มอีแวนจิลิคอล บอกว่าเมื่อมีโอกาสร่วมมิสซาหนึ่งของคาทอลิก จึงเข้าใจว่า คาทอลิก ก็เชื่อพระเยซูคริสต์นะ เมื่อก่อนท่านเข้าใจว่า คาทอลิก นับถือแต่พระนางมารีย์ กับนักบุญเท่านั้น ฯลฯ และจากเสวนาครั้งนั้น มีหลายคนพูดว่า น่าเสียดายที่เราโปรเตสแตนต์ เมื่อเสวนากับใครเราชอบตำหนิคนอื่นแล้วพยายามชักชวนให้คนอื่นกลับใจเชื่อตามตัวเอง

ดิ ฉันได้เชิญเพื่อนคนภาคกลางคนหนึ่ง ไปรับประทานอาหารที่บ้าน เนื่องจากเราเป็นคนปักษ์ใต้ จึงปรุงอาหารภาคใต้ หลายอย่าง มีแกงส้มด้วย แต่เพื่อนบอกว่า ไม่ใช่ แกงส้ม เธอพยายาม ยัดเยียดให้เรียกว่า “แกงเหลือง” เธอบอกสูตรของแกงส้ม ว่าต้อง มีส่วนผสม อย่างไร ...ดิ ฉัน ก็ยืนยันสูตร แกงส้ม ของคนภาคใต้ไป แต่เธอก็ยังบอกว่าไม่ใช่ จนบัดนี้ ฉัน และสมาชิกที่บ้านไม่เรียก แกงส้มของคนปักษ์ใต้ ว่า “แกงเหลือง” ตามที่ เพื่อนรักเรียก และยัดเยียดให้เรียก ทั้งที่ทราบว่าคนภาคอื่นๆ เรียกแกงส้มของคนภาคใต้ว่า “แกงเหลือง” ซึ่งดิฉันทราบดีว่า ส่วนผสมของแกงส้มของคนภาคใต้ กับแกงส้มของคนภาคอื่นๆต่างกัน หลายอย่าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด มาดูสิ่งที่เหมือนกัน เช่น มีเนื้อปลา/กุ้ง มีผัก มีพริกแกง มีหอมแดง มีเกลือ มีกะปิ มีมะขามเปียก (หรือพืชที่ให้รสเปรี้ยว ) เป็นต้น ที่ต่างกันชัดเจนคือ แกงส้มของคนภาคใต้ มี ขมิ้น จึงทำให้แกงส้มของเขาสีเหลืองอ๋อยที่ทำให้คนอื่นเรียกแกงเหลือง!!??
จะเรียก แกงส้ม หรือแกงเหลือง ก็มุ่งไปหาเป้าหมายเดียวกัน จึงให้ข้อคิดแก่ฉันว่า เราควรยอมรับกัน ว่าแม้เรียกชื่อเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นใช้สูตรเดียวกัน เรื่องนี้สอนดิฉันว่าเราควรยอมรับคนอื่นในความแตกต่าง เราคริสตชนต่างนิกายหรือต่างคณะ ต้องคุยกันว่า แต่ละกลุ่ม เรามีอะไรที่เหมือนกันบ้าง เพื่อเราจะจับมือเดินไปด้วยกัน ตามพระมรรคาของการรับใช้องค์พระเยซูเจ้า และในส่วนที่แตกต่าง เราควรยอมรับถึงเบื้องหลังของกันและกัน เพราะเราคริสตชน ทุกนิกาย หรือทุกคณะ คือลูกของพระเจ้า ราคาชีวิตของเราแต่ละคน ไม่ว่าจะอยู่ในกรอบนิกายใด ก็เท่ากับ ชีวิตพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน

บทสรุป

ดังนั้น ตามความคิดของ คริสตสัมพันธ์ยุคใหม่ คริสตชน ทุกนิกาย หรือทุกคณะ ถึงแม้ว่าเรามีหลักศาสนศาสตร์ ( เทวศาสตร์ )ที่ต่างกัน ขอให้เรากลับมาหากัน ในหลักของ พระตรีเอกภาพ เราต้องพูดคุยทำความเข้าใจกัน ส่งเสริมร่วมมือกัน เป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ ในองค์ พระเยซูคริสต์ พระมหาไถ่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราแตกต่างกัน ใน พิธีกรรม วิธีปฏิบัติ ที่ช่วยให้เราใกล้ชิดกับองค์พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น หรือเรามีวิธีที่ทำให้เราเข้าถึงพระทัยของพระเยซูเจ้า หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเคลื่อนไหว ในชีวิตเราแต่ละนิกาย หรือคณะในรูปแบบที่ต่างกัน แต่พวกเรายังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เหมือนกันซึ่งสามารถร่วมมือกันได้ เพราะเรารับใช้ พระผู้ไถ่องค์เดียวกัน เราต้องมาพิจารณาดูว่า เราเหมือน หรือคล้ายกันบ้าง ขอให้เริ่มต้นจากจุดนั้น เพราะแท้จริงแล้วเรามีสิ่งที่เหมือนกันและสำคัญที่สุด คือ พระเยซูคริสต์ ที่เป็นศูนย์กลางในชีวิตและพันธกิจของพวกเรา ผู้รับใช้พระเจ้า “บาทหลวง และศิษยาภิบาล”



%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

*** เป็นบทความที่แก้ไขใหม่จากปี 2006 ซึ่งผู้เขียนปรับปรุงใหม่เพื่อใช้ บรรยายในค่าย สัมมนาหลักข้อเชื่อ ระหว่าง นักศึกษาพระคริสตธรรม และบราเด้อ เมื่อ วันที่ 12-14 มกราคม 2007 ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน


@@: ตีพิมพ์ในอิสระรายปักษ์ ฉบับที่ 59 ปักษ์หลัง เดือน มกราคม 2006 หน้า 5-8[/color][/b]
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ พุธ ก.พ. 14, 2007 11:40 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ม.ค. 27, 2006 8:53 pm

น้องโฮลี่ คะ หารูป อันสวยงามใส่ให้ด้วยค่ะ และพิจารณา ขึ้นบอร์ด บทความด้วยค่ะ :-*
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ ม.ค. 28, 2006 1:13 am

เมื่อวานว่าจะโทรหาพี่พีพีให้ช่วยเขียนบทความเอกสัมพันธ์ ไม่น่าเชื่อว่ายังไม่ได้โทรก็ได้อ่าน

ขนลุก
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ม.ค. 28, 2006 6:03 am

Holy เขียน: เมื่อวานว่าจะโทรหาพี่พีพีให้ช่วยเขียนบทความเอกสัมพันธ์ ไม่น่าเชื่อว่ายังไม่ได้โทรก็ได้อ่าน

ขนลุก
อืมม์ พระจิตทรงดลใจกระมัง เพราะปกติ พี่มักจะใช้เวลาวันเสาร์ โพสต์บทความใหม่

พอดีกลับจากข้างนอก เห็นหนังสืออิสระ ที่โต๊ะทำงาน เปิด ดูมีบทความนี้ลงด้วย

ทั้งๆตอนที่ส่งไปสายมาก เพราะได้ข่าวว่าพ่อกำลังปิดเล่มอยู่ แต่ยังส่งไป ในใจอยากจะ
ให้ตีพิมพ์ เดือนนี้ เพราะว่า เป็นเดือนที่มีการภาวนาสากล ( เมื่อ 22 มค. ) พระเจ้า
ทรงทำงานในจิตใจทุกๆคนนะ เพราะบรรณาธิการอ่านดู อาจจะ ดึงบทความอื่นๆออก
แล้วใส่บทความนี้แทนมั้ง ( แต่ไม่กล้าถาม )

รูปสวยมากค่ะ อยากให้เป็นไปได้จริงๆนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ ม.ค. 28, 2006 8:17 pm

ขอบคุณคะ + รูปสวยจัง +inlove
Little Puppet
โพสต์: 100
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 18, 2005 12:25 pm
ที่อยู่: กรุงเทพ

อังคาร ก.พ. 07, 2006 6:12 pm

สวัสดีครับพี่พีพีและทุกท่าน

เขียนได้น่าอ่านเสมอครับผม ไม่เสียแรงที่กลับมาแล้วยังได้เห็นพี่ยังอยุ่ตรงนี้เสมอ ดีใจมากๆ

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับกระแสเรียกของพี่นะครับ
และขอบคุณพระเจ้าสำหรับแบบอย่างในการรับใช้พระเจ้าที่ดีเสมอๆ

:-)
lordtole
โพสต์: 131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima

พุธ ก.พ. 15, 2006 11:43 am

ผมเป็นคนหนึ่งครับที่มีนิมิตรหมายเหมือนกับ prod pran ผมเป็นคนหนึ่งที่คลุกคลีกับคาทอลิกมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งผมหิวกระหายพระเจ้าในช่วงเวลาเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วอย่างมาก จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วผมได้เข้าผูกพันตัวกับคริสตจักรความหวัง(คลองเตย) ผมมีความประทับใจทั้ง คริสเตียนและคริสตัง และผมก็เคยอยากเป็นบาทหลวงด้วย แต่ว่าเมื่อผมมาอยู่จุดนี้ผมว่า เป็นน้ำพระทัยของพระองค์ที่นำพาผมมาที่ โปร อย่างแน่นอน ในระยะเวลาที่ผมอยู่กับพี่น้องคริสเตียน และร่วมนมัสการกัน ผมยังคิดเลยว่า หากโบสถ์คริสเตียนมี กางเขนพระเยซูใหญ่ๆ เพื่อระลึกถึงพระคุณก็คงจะดี หรืออาจจะมีบาทหลวงมาเทศน์ให้ฟังบ้างเป็นครั้งคราว และผมก็นึกไปถึงวัดของคาทอลิก ทางวัดก็น่าจะมีการนมัสการพระเจ้าแบบสุดใจแบบคริสเตียน มีพระคัมภีร์เป็นของตัวเอง และมีกลุ่มแคร์ ที่อบอุ่นบ้าง ก็คงจะดี แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราก็มีความต่างกัน แต่ มีพระเจ้าองค์เดียวกัน เหมือนกับเรามีของประทานแตกต่างกันแต่มีพระวิญญาณ(พระจิต)องค์เดียวกัน ขอสันติสุข และความปรองดองกัน หันหน้าเข้าหากัน เดินตามพระเยซูไปด้วยกันนะคร๊าบบ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ก.พ. 15, 2006 2:48 pm

Thanks for reading. Just begin from yourself as I am doing.

Then continue to pray for ecumenism.

Now the forum I am attening so-called ecumenism forum.

Praise God for this 9th Assembly we Christian all denominations and free Churches come together
to live and transform the world.

Check our website

http//: www.wcc-assembly.info
Hannah
.
.
โพสต์: 60
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 20, 2005 11:28 pm
ที่อยู่: พระนิเวศน์

อาทิตย์ เม.ย. 09, 2006 11:37 pm

มาอ่าน และะมาขอบคุณพระเจ้า
oata_kung
~@
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 16, 2005 10:36 pm
ที่อยู่: Bangkok, Thailand

จันทร์ พ.ค. 22, 2006 5:09 pm

ความหวังให้เกิดสันติภาพในหมู่พี่น้องคริสตชนนั้น เป็นความหวังและความฝันของเราๆท่านหลายท่านด้วยกันและผมเชื่อว่าวันหนึ่งข้างหน้า พระจะทรงรวมพวกเราให้เป็นหนึ่งทั้งนี้อาศัยพวกเราต้อองร่วมมือกันด้วยครับ
ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังปรารถนาให้เราทุกคนร่วมกันฝันที่จะเห็นสันติสุขในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
พี่น้องไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่กำลังเผชิญหน้ากับความรุนแรงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ช่วยกันส่งแรงใจและแรงสวดไปให้เขาเหล่านั้นด้วยเถอะนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Stephen
โพสต์: 117
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 07, 2006 2:07 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 07, 2006 3:03 pm

ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามนำพระทัย อาเมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:18 am

ถึงจะแบ่งแยกจริง แต่ก็ยังคงแบ่งแต่เพียงชื่อภายนอก แท้จริงแล้ว เราก็ยังคงมีพระบิดาองค์เดียวกัน
เราก็ยังคงมีพระอาจารย์องค์เดียวกัน และเราก็เป็นพี่น้องกันเสมอมา

พระองค์ไม่แบ่งแยกผู้ที่อยู่ฝ่ายเดียวกันกับพระองค์...
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ก.พ. 14, 2007 11:43 pm

บทความนี้ได้ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้ข้อมูลสมบูรณ์มากขึ้น
Thai_DeSeRT

เสาร์ มี.ค. 17, 2007 11:21 am

................


ผมชอบคำพูดนี้ครับ



ควรลบภาพของคริสตชนในอดีต ที่เคยขัดแย้งกัน หรือการ มีอคติ ต่อคริสตชน กลุ่มอื่นๆคือเชื่อว่า ความเชื่อของตนเองจริง  แล้วประณามว่าความเชื่อของนิกายอื่นหรือคณะอื่น เท็จ/ผิด  เรา ควรเปลี่ยนมาเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดกัน



รูปภาพ



เพราะเราคือพี่น้องกัน เราทุกๆ คนบนโลกนี้ ไม่ว่าชนชาติใด ศาสนาไหน คนที่เกิดมาทุกหนทุกแห่งของโลกนี้ เราล้วนเป็นลูกๆ ของพระองค์
มาเถิดเด็กน้อย มาเรียนรู้ร่วมกัน สิ่งที่ถูกต้องสารพัน สารพัน......


...............
คัธริน

เสาร์ มี.ค. 17, 2007 3:12 pm

บทความนี้โดนใจมากค่ะ เพราะตัวเองเคยอยู่ในบรรยากาศความขัดแย้งของสองนิกาย มีเพื่อนคาทอลิกจะแต่งงานกับแฟนซึ่งเป็นโปรเตสแตนต์ กว่าจะลงเอยเรื่องพิธีกรรม ยุ่งยากมากตั้งแต่จะเข้าโบสถ์ของใคร พระฝ่ายไหนจะเป็นผู้ประกอบพิธี จะประกอบพิธีอย่างไร ผิดกับเพื่อนคาทอลิกที่แต่งกับแฟนพุทธ
Forza_Nerrazuri

อังคาร เม.ย. 24, 2007 3:16 pm

ภาพที่เอามานี้เป็นของ เยโฮวาห์ witness หรือเปล่าครับ

แล้วจะจัดการสอนร่วมกันได้อย่างไรในเมื่อเราเชื่อไม่เหมือนกับเค้าการค้นหาความจริงก็ไม่เหมือนกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

อังคาร เม.ย. 24, 2007 5:59 pm

อ่านแล้ว ฮึ ฮึ สะอึก สะอื้น ซึ้ง : xemo023 : รัก : xemo026 : รักพี่น้องในพระคริสต์ทุกคนเลยยยยยยยยย ::008:: : xemo026 :::014::
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร เม.ย. 24, 2007 6:01 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร เม.ย. 24, 2007 6:08 pm

Forza_Nerrazuri เขียน: ภาพที่เอามานี้เป็นของ เยโฮวาห์ witness หรือเปล่าครับ

แล้วจะจัดการสอนร่วมกันได้อย่างไรในเมื่อเราเชื่อไม่เหมือนกับเค้าการค้นหาความจริงก็ไม่เหมือนกัน
ตอบแทนเจ้าของกระทู้ละกัน

1. ไม่ทราบว่าภาพประกอบหรือเปล่า ถ้าใช่ ให้พี่โฮลี่ ตอบ 555 : emo038 :

2.จะจัดสอนร่วมกันอย่างไร ต้องมีการเสวนา ดูจากอันไหนเหมือนกัน มั้ง เพราะถ้าได้คุยกันแล้วเรามีมากมายที่เหมือนกัน
แต่ถ้าจะเอาเป็นเอาตายว่า ต้องเชื่อแบบชั้นเท่านั้นถูก ก็สงครามระหว่างนิกาย หรือคณะ  : xemo026 : : emo036 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ เม.ย. 25, 2007 4:28 am

Jeab Agape เขียน:
Forza_Nerrazuri เขียน: ภาพที่เอามานี้เป็นของ เยโฮวาห์ witness หรือเปล่าครับ

แล้วจะจัดการสอนร่วมกันได้อย่างไรในเมื่อเราเชื่อไม่เหมือนกับเค้าการค้นหาความจริงก็ไม่เหมือนกัน
ตอบแทนเจ้าของกระทู้ละกัน

1. ไม่ทราบว่าภาพประกอบหรือเปล่า ถ้าใช่ ให้พี่โฮลี่ ตอบ 555 : emo038 :

2.จะจัดสอนร่วมกันอย่างไร ต้องมีการเสวนา ดูจากอันไหนเหมือนกัน มั้ง เพราะถ้าได้คุยกันแล้วเรามีมากมายที่เหมือนกัน
แต่ถ้าจะเอาเป็นเอาตายว่า ต้องเชื่อแบบชั้นเท่านั้นถูก ก็สงครามระหว่างนิกาย หรือคณะ  : xemo026 : : emo036 :
หมายถึงภาพของคุณ Thai_DeSeRT  หรือเปล่า
terasphere

อังคาร พ.ค. 29, 2007 12:26 am

เป็นบทความที่ดีเข้ากับยุคที่ต้องการความสมานฉันท์อย่างมากครับ

บางทีก็งงๆว่า ทำมั้ย ทำไม คริสตศาสนิกต้องทะเลาะกันเอง(ผมเป็นพุทธ มหายานกะหินยานไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนในไทยธรรมยุติกับมหานิกายก็เหมือนจะลงรอยกันดีแม้นานๆทีจะขัดกันด้วยเรื่องเล็กน้อยบ้าง ส่วนลัทธิที่ออกนอกเขตพระพุทธธรรมอย่างUFO รังสิต ไม่เกี่ยวครับ)

เพราะเห็นว่าก็นับถือองค์พระเยซูคริสต์ พระตรีเอกานุภาพ และเชื่อในความดีเสมอกัน

บทความนี้สมควรได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนมากๆขึ้นครับ
สาธุฯ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร พ.ค. 29, 2007 6:41 am

Terasphere เขียน: เป็นบทความที่ดีเข้ากับยุคที่ต้องการความสมานฉันท์อย่างมากครับ

บางทีก็งงๆว่า ทำมั้ย ทำไม คริสตศาสนิกต้องทะเลาะกันเอง(ผมเป็นพุทธ มหายานกะหินยานไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนในไทยธรรมยุติกับมหานิกายก็เหมือนจะลงรอยกันดีแม้นานๆทีจะขัดกันด้วยเรื่องเล็กน้อยบ้าง ส่วนลัทธิที่ออกนอกเขตพระพุทธธรรมอย่างUFO รังสิต ไม่เกี่ยวครับ)

เพราะเห็นว่าก็นับถือองค์พระเยซูคริสต์ พระตรีเอกานุภาพ และเชื่อในความดีเสมอกัน

บทความนี้สมควรได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนมากๆขึ้นครับ
สาธุฯ
การทะเลาะกันเกิดจากการถือดี และอคติค่ะ  การคืนดีเป็นสิ่งที่ยาก แต่ต้องทำหาวิธีการที่จะทำ

พระเยซูทรงสอนเรื่องการสร้างสันติ พระองค์ เป็นองค์รวมของสันติภาพ หรือสันติสุข  แต่การสร้างสันติยากกว่านั้นต้องอาศัยความรัก ความอดทน อดกลั้น และเชื่อในส่วนที่ดีของคนอื่นเสมอ  :wink: การทำลายสันติ หรือมิตรภาพนั้นง่ายมาก ไม่ต้องอาศัยความพยายาม แค่ใส่อารมณ์ชั่วพริบตา ก็ทำให้สัมพันธภาพพินาศได้ :cheesy:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ค. 30, 2007 11:06 am

Terasphere เขียน: เป็นบทความที่ดีเข้ากับยุคที่ต้องการความสมานฉันท์อย่างมากครับ

บางทีก็งงๆว่า ทำมั้ย ทำไม คริสตศาสนิกต้องทะเลาะกันเอง(ผมเป็นพุทธ มหายานกะหินยานไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนในไทยธรรมยุติกับมหานิกายก็เหมือนจะลงรอยกันดีแม้นานๆทีจะขัดกันด้วยเรื่องเล็กน้อยบ้าง ส่วนลัทธิที่ออกนอกเขตพระพุทธธรรมอย่างUFO รังสิต ไม่เกี่ยวครับ)

เพราะเห็นว่าก็นับถือองค์พระเยซูคริสต์ พระตรีเอกานุภาพ และเชื่อในความดีเสมอกัน

บทความนี้สมควรได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณชนมากๆขึ้นครับ
สาธุฯ
จริงๆแล้วในเรื่องแบบนี้ ทั้งพุทธและคริสต์ และศาสนาที่มีนิกายต่างกันก็มีปัญหาเหมือนๆกันคือ ถ้าพูดกันในเรื่องปลีกย่อยที่แตกต่าง จะมีปัญหากันถกเถียงกัน และไม่เข้าใจกัน เพราะถือว่าส่วนของตัวถูก ส่วนที่ต่างไปนั้นผิด เช่นกรณีภิกษุณีที่บวชจากทางมหายานเมืองนอกมา แล้วเถรวาทเมืองไทยก็ไม่ยอมรับเป็นพระสงฆ์ เป็นต้น

ทางพุทธศาสนา การแยกตัวของมหายานเกิดสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อสังคยานา สิ่งที่ทำเพียงเนรเทศกลุ่มพระภิกษุที่มีหลักข้อเชื่อแตกต่างไปอยู่ในส่วนชมพูทวีป(เมื่อพระถังซัมจั๋งไปอัญเชิญพระไตรปิฏกชมพูทวีปจีนจึงได้แนวมหายานมา ในขณะที่พระเจ้าอโศกส่งพระเถรวาทที่ตนคัดแล้วมาไทย ไทยเลยเป็นเถรวาท) แล้วก็แยกกันไปต่างคนต่างอยู่เท่านั้น

แต่สำหรับคริสตศาสนา เมื่อแรกเริ่มการแยกนิกายมีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องมาก ขนาดเรียกได้ว่าเป็นตัวการขับเคลื่อนสำคัญ และนำเรื่องนิกายไปใช้เป็นเครื่องมือจนเกิดสงครามกลางเมืองย่อยๆตั้งแต่แรกเริ่ม จึงทำให้เกิดความเคืองในอดีตติดมา

ต่อมาจนถึงยุคปัจจุบันเมื่อกระแส anti-catholic ของกลุ่มโปรแตสแตนท์ Fundamentalist ในอเมริกา และกระแสการเกิดโปรแตสแตนท์นิกายใหม่ๆในคริสตศาสนางอกราวดอกเห็ด จึงทำให้เกิดการสอนจุดต่างของนิกายอื่นในทางลบ เพื่อป้องกันไม่ให้สมาชิกนิกายตนไหลออก และเพื่อโน้มน้าวนิกายอื่นให้เข้ามาทางตน จึงเกิดพฤติกรรม กรูถูกคนเดียวคนอื่นผิดและตกนรกหมด ขึ้น ในโปรแตสแตนท์สายย่อยและเกิดใหม่เป็นจำนวนมาก พฤติกรรม"คริสตจักรฉันเท่านั้นที่ถูกและไปสวรรค์ได้"นี้ ไม่เพียงแต่เฉพาะใช้เหยียดนิกายหรือคริสตจักรอื่น แต่รวมศาสนาอื่นด้วย

ซึ่งในทางพุทธ หรือคริสตสายหลักๆเช่นคาทอลิคปัจจุบัน แองกลีกัน หรือออธโธดอก จะไม่มีการสอนว่าคนอื่นต่างจากเรา(แปลว่าผิด)ตรงไหน เมื่อไม่มีความรู้ว่ามีอะไรต่างกันตรงไหนก็ไม่มีอะไรมาด่ากันมากมาย ต่างกับคริสตจักรย่อยยิบที่นอกจากจะสอนว่าคนอื่นผิดแล้ว ยังถึงขนาดมีการใส่ความ ยัดเยียดคำสอนเท็จให้นิกายอื่นหน้าตาเฉย หรือแม้แต่จงใจเข้าใจผิดในทางลบ เพื่อประนามว่าของคนอื่นผิด แย่ อย่าหลงไปเข้า บาป ตกนรกแน่นอน เพื่อเสริมให้ดูว่าของตูดีกว่า ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกใจที่เกิดการทะเลาะขึ้นในระหว่างนิกายขึ้นในคริสตศาสนา

ดังนั้นเราแบ่งคร่าวๆได้ดังนี้

1.ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้สนใจอะไรนิกายอื่น - ไม่ทะเลาะกัน และรู้แค่ว่าต่างกัน แต่ไม่รู้อะไรของอีกฝ่ายมากนัก ไม่มีเรื่องกัน
2.ต่างคนต่างอยู่ แต่แอบสอนว่าคนอื่นผิดยังไง - ไม่ทะเลาะกัน แต่ไม่มองหน้ากัน ไม่คบกัน ดูถูกกลุ่มอื่นอยู่ลึกๆ
3.เสี้ยมสอนและใส่ความว่าคนอื่นผิดยังไง แถมออกมาด่า มาดึงคนอีกฝ่ายเข้าฝ่ายของตัวเอง - ทะเลาะกัน ด่ากัน น่าเกลียดในสายตาคนอื่นและพระเจ้า

และแบบสุดท้ายที่กระทู้นี้และบอร์ดนี้ได้พยายามนำเสนอ

4.ต่างหันหน้าเข้าหากัน และพยายามศึกษาเข้าใจกันเลยกัน - ให้เกียรติกันและเข้าใจกันมากขึ้น
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ พ.ค. 30, 2007 11:09 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
lala
โพสต์: 8
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 13, 2007 5:35 pm

อังคาร มิ.ย. 19, 2007 6:02 pm

ประทับใจค่ะ!  เห็นด้วย จะอธิษฐานเผื่อ และจะเริ่มต้นจากตัวเอง (ตั้งใจเช่นนั้น)
syaorankun02
โพสต์: 16
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 5:57 pm

อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 7:51 pm

พี่ Prod Pran ครับ ผมอยากเป็น โปรเตสแตนต์ นะครับ แต่แถวบ้านมี คาทอลิกนะครับ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 8:00 pm

syaorankun02 เขียน: พี่ Prod Pran ครับ ผมอยากเป็น โปรเตสแตนต์ นะครับ แต่แถวบ้านมี คาทอลิกนะครับ
ลองเข้าคาทอลิกก่อน ไหม ขณะที่หาโบสถ์ ให้ IM ที่อยู่ให้พี่ จะลองดูจาก ไดเร็กทอรี่ ว่าน้องอยู่ใกล้ โบสถ์ไหนบ้างค่ะ : emo038 :
syaorankun02
โพสต์: 16
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 5:57 pm

อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 8:02 pm

2 โบร์สนี้นะครับ

1.อาสนวิหาร แม่พระบังเกิด บางนกแขวก คุณพ่อปรีชา เจ้าอาวาส
2.วัดนักบุญยาโกเบ แม่กลอง คุณพ่อสุรินทร์ เจ้าอาวาส
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 8:05 pm

syaorankun02 เขียน: 2 โบร์สนี้นะครับ

1.อาสนวิหาร แม่พระบังเกิด บางนกแขวก คุณพ่อปรีชา เจ้าอาวาส
2.วัดนักบุญยาโกเบ แม่กลอง คุณพ่อสุรินทร์ เจ้าอาวาส
พี่หมายถึงให้ ส่งที่อยู่ให้ พี่จะไปตรวจสอบกับ ไดเร็กทอรี่ ว่าน้องพอจะใกล้โบสถ์ โปรเตสแตนต์ ไหนบ้างค่ะ : emo038 :
syaorankun02
โพสต์: 16
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 30, 2007 5:57 pm

อาทิตย์ ก.ค. 01, 2007 8:08 pm

อยู่จังหวัดสมุทรสงคราม นะครับ ต. อัมพวา อ.อัมพวา นะครับ
ตอบกลับโพส