ทำไม จึงเปลี่ยนวันบริสุทธิ์ จากวันเสาร์มาเป็นวันอาทิตย์

คริสตสัมพันธ์ เอกภาพในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
siangsawan

อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 3:54 pm

สงสัยครับ
ว่าทำไม จึงเปลี่ยนการ นับถือวันบริสุทธิ์ ของพระเจ้าจาก วันเสาร์ [วันที่ 7] มาเป็น วันอาทิตย์
มีบทบัญญัติข้อไหน ให้เปลี่ยนครับ
และทำไม จึงเปลี่ยน กฏบัญญัติของพระเจ้า [บัญญัติ สิบประการ]

ช่วยอธิบายให้กระจ่างด้วยครับ

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 4:39 pm

วันอาทิตย์

Q : จริงหรือที่จักพรรดิคอนสแตนตินเป็นผู้เลื่อนวันสำหรับนมัสการพระเจ้าจากวันเสาร์เป็นวันอาทิตย์ ?

A : ไม่เป็นความจริง วันอาทิตย์เป็นวันของพระเจ้ามาแต่ช้านานแล้ว
สิ่งเดียวที่จักพรรดิคอนสแตนตินได้ทรงทำเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือตั้งให้หนึ่งสัปดาห์มีวันอาทิตย์เป็นวันแห่งการหยุดพักผ่อนทั่วราชอาณาจักรเท่านั้น

ในช่วงเวลายุคนั้นมีการตั้งวันโดยอ้างอิงกับวันหลักสามวันในเดือน คือ คาเลนดส์ (Kalends) เป็น แรก โนเนส (Nones) เป็น เจ็ด และ ไอเดส (Ides) เป็น สิบห้า
ชาวยิวและเพแกนบางกลุ่มที่บูชาดาวเสาร์ได้ถือวันเสาร์เป็นวันแห่งการหยุดพักผ่อน
แต่จักพรรดิคอนสแตนตินกำหนดวันอาทิตย์ให้เป็นมาตรฐานแทนเพื่อเอาตามอย่างปฏิทินของโรมัน


Q : จริงหรือที่ว่าการกำหนดวันอาทิตย์เป็นวันของพระเจ้าในคริสตศาสนา เอามาจากความเชื่อของโรมันโบราณ?

A : ไม่เป็นความจริง
การกำหนดวันอาทิตย์เป็นวันหลักในการประกอบพิธีกรรมเริ่มสมัยจักพรรดิโรมัน ทราจาน (Trajan ค.ศ. 98-117) ที่กำหนดวันเสาร์เป็นวันสะปาโต และ วันอาทิตย์เป็นวันสำหรับพระเจ้า ซึ่งมีกล่าวในพระคัมภีร์ (กิจการ 20 : 7 , 1 โครินธ์ 16 : 2 )

วันอาทิตย์ได้รับการยอมรับเป็นวันของพระเจ้าเพราะ

เป็นวันที่พระเยซูทรงกลับคืนพระชนม์ (มัทธิว 28 : 1 )

เป็นวันที่พระองค์ทรงปรากฏต่อบรรดาสานุศิษย์ของพระองค์ (ยอห์น 20 : 26 )

และเป็นวันที่พระจิตเสด็จมา (กิจการ 2 : 1)

นอกจากยังมีหลักฐานอื่น ๆ ที่สนับสนุนว่าวันอาทิตย์เป็นวันของพระเจ้าก่อนยุคของ
จักพรรดิคอนสแตนตินอีกหลายหลักฐาน



http://www.newmana.com/important/DaVinci21.htm


มธ 12:1-8 บรรดาศิษย์เด็ดรวงข้าวในวันสับบาโต12 (1)ครั้งหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านนาข้าวสาลีในวันสับบาโต บรรดาศิษย์รู้สึกหิว จึงเด็ดรวงข้าวมากิน (2)เมื่อชาวฟาริสีสังเกตเห็นดังนั้น จึงทูลพระองค์ว่า “ดูซิ ศิษย์ของท่านกำลังทำสิ่งต้องห้ามในวันสับบาโต” (3)พระองค์ตรัสตอบว่า “ท่านไม่ได้อ่านในพระคัมภีร์หรือว่ากษัตริย์ดาวิดและผู้ติดตามได้ทำสิ่งใดเมื่อหิวโหย (4)พระองค์เสด็จเข้าไปในพระนิเวศน์ของพระเจ้า เสวยขนมปังที่ตั้งถวายพร้อมกับบรรดาผู้ติดตาม ขนมปังนั้นผู้ใดจะกินไม่ได้ นอกจากบรรดาสมณะเท่านั้น (5)ท่านไม่ได้อ่านในธรรมบัญญัติหรือว่า ในวันสับบาโตนั้น บรรดาสมณะในพระวิหารย่อมละเมิดวันสับบาโตได้โดยไม่มีความผิด (6)เราบอกท่านทั้งหลายว่า ที่นี่มีสิ่งยิ่งใหญ่กว่าพระวิหารเสียอีก (7)ถ้าท่านเข้าใจความหมายของข้อความที่ว่า ‘เราพอใจความเมตตากรุณา มิใช่พอใจเครื่องบูชา’ ท่านคงจะไม่กล่าวโทษผู้ไม่มีความผิด (8)เพราะบุตรแห่งมนุษย์เป็นนายเหนือวันสับบาโต”

มก 2:27
แล้วพระเยซูเจ้าทรงเสริมว่า “วันสับบาโตมีไว้เพื่อมนุษย์ มิใช่มนุษย์มีไว้เพื่อวันสับบาโต ดังนั้น บุตรแห่งมนุษย์จึงเป็นนายเหนือแม้กระทั่งวันสับบาโตด้วย”
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 11:53 pm

ไม่ได้เปลี่ยนพระบัญญัตินะคะ
ในบัญญัติบอกว่า ให้ถือรักษาวันสะบาโต เป็นวันบริสุทธิ์ แต่ในพระบัญญัติไม่ได้บอกว่า วันสะบาโตต้องเป็นวันเสาร์เท่านั้นเสียหน่อยนี่คะ

วันที่ว่าจะตรงกับวันไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่า ใช้ปฏิทินของใครด้วยค่ะ
เหมือนที่การนับเวลาของยิว นับการสิ้นสุดวันที่ 6 โมงเย็น
แต่ปัจจุบันเรานับที่เที่ยงคืน

ปัจจุบันนี้ตามหลักสากลเราถือให้เป็นวันอาทิตย์ค่ะ

แต่ก็ยังมีบางคริสตจักรถือวันเสาร์นะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

จันทร์ มิ.ย. 05, 2006 9:13 am

ที่ผมรู้ ก็มีคริสตจักร 7 เดย์ แอดเวนติสต์ ที่มีการนมัสการในวันเสาร์ ถือเป็นวันสับบาโตแบบชาวยิว
และยังมีข้อห้ามไม่รับประทานเนื้อสัตว์ โดยอ้างจากหนังสือปฐมกาล บทที่ 1 ข้อ 29 ที่ว่า

พระเจ้ายังตรัสอีกว่า “ดูซิ เราให้ข้าวทุกชนิดซึ่งอยู่บนแผ่นดิน และผลไม้ที่มีเมล็ดเป็นอาหารสำหรับท่าน"

แต่ความจริงแล้วพระเจ้าทรงอนุญาตให้มนุษย์รับประทานเนื้อสัตว์ได้ด้วย ในหนังสือปฐมกาล บทที่ 9 ข้อ 2-3 ที่ว่า

บรรดาสัตว์ทั้งปวงบนแผ่นดิน บรรดานกในท้องฟ้า บรรดาสิ่งที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน และปลาทั้งสิ้นในทะเลจะกลัวท่าน เรามอบสัตว์ทั้งปวงไว้ในอำนาจของท่าน” สิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวทั้งหมดจะเป็นอาหารของท่าน ดังที่เราให้พืชเขียวเป็นอาหารแก่ท่านแล้ว
lordtole
โพสต์: 131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima

จันทร์ มิ.ย. 05, 2006 3:34 pm

เรานับวันแรกของสัปดาห์คือวันอะไรครับ วันอาทิตย์หรือวันจันทร์ แต่ถ้าตามหลักการของพระเจ้าแล้ว วันที่ 7 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายหลังจาก 6 วันที่พระองค์ทำงาน วันที่ 7 จะเป็นวันพักผ่อน เป็นวันศักดิ์สิทธิ์
(ปฐก.2:2-3) (2) วันที่เจ็ด พระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงกระทำมานั้น ในวันที่เจ็ดนั้นก็ทรงพักการงานทั้งสิ้นของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำ (3) พระเจ้าจึงทรงอวยพระพรแก่วันที่เจ็ด ทรงตั้งไว้เป็นวันบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ เพราะในวันนั้นพระองค์ทรงหยุดพักจากการงานทั้งปวงที่พระองค์ทรงกระทำในการเนรมิตสร้าง

ตามหลักฐานทางพระคัมภีร์แล้ว พระองค์ถือว่าวันที่เจ็ดเป็นวันสุดท้าย มิใช่วันเริ่มต้น แต่มนุษย์ได้นับวันอาทิตย์เป็นวันที่เริ่มต้นของสัปดาห์ ดังนั้นวันที่ 7 จึงกลายเป็นวันเสาร์ แต่ในพระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่าวันใดเป็นวันที่ 7 หรือวันสะบาโต วันอาทิตย์หรือวันเสาร์ แต่มันสำคัญอยู่ที่ว่า การงานของมนุษย์นั้นปกติจะเริ่มทำวันจันทร์ - วันเสาร์ แล้ววันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่7 ซึ่งจะหยุดพัก ซึ่งจะตรงตามกับการเนรมิตทรงสร้างของพระเจ้าพอดี เราจึงถือว่าวันอาทิตย์เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ (คงจะมีน้อยที่มนุษย์ทำงานวันอาทิตย์ - วันศุกร์ แล้ววันเสาร์หยุด) จริงมั้ยยยงับ อิอิ
Dhandol Viramitchai

อังคาร พ.ค. 01, 2007 1:19 pm

พระคัมภีร์เท่านั้นที่จะเป็นคำตอบที่สำคัญของเรื่องนี้ คำตอบที่มิได้มาจากพระคัมภีร์นั้นอาจทำให้เกิดข้อสงสัยได้ (อ้างอิงจากพระคัมภีร์ฉบับ KING JAME)

วันที่เจ็ดเป็นวันบริสุทธิ์ครับ...
(พระธรรมปฐมกาล 2:2-4)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร พ.ค. 01, 2007 5:18 pm

แหมยกซะยืดยาว ทั้งๆที่คำนี้คำเดียวก็สรุปทุกอย่างได้แล้ว

มาระโก 2:27
วันสะบาโตนั้นทรงตั้งไว้เพื่อมนุษย์ มิใช่ทรงสร้างมนุษย์ไว้สำหรับวันสะบาโต

แต่ทำไมคนสมัยนี้ ยังชอบทำแบบฟาริสี ที่ยึดพระคัมภีร์ตามตัวอักษร ไม่เคยเข้าใจ จุดประสงค์ และเหตุผลของมันว่าพระเจ้าตั้งทำไม ไปยึดว่าต้องเป็นวันนั้นวันนี้ คนกำหนดปฎิทินน่ะ มนุษย์นะครับ ไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้าไม่ได้ประทานวิธีนับวันนับเดือนนับปี แต่เป็นเทคโนโลยีโบราณที่มนุษย์คิดขึ้น พระเยซูเจ้าตรัสชัดว่าพระบิดาทำงานทุกวัน เพื่อตอบคนที่อ่านพระคัมภีร์อย่างงมงายตามตัวอักษรแล้วเข้าใจว่า พระเจ้าหยุดงานวันสุดท้ายของการทรงสร้าง พระเจ้าไม่ได้เหนื่อยเป็นแบบมนุษย์นะครับ ดังนั้นเราอ่านพระคัมภีร์ พยายามเข้าใจด้วยว่าพระเจ้าประสงค์สิ่งใด (อฟ 5:17)อย่าเป็นคนโง่เขลา แต่จงพยายามเข้าใจว่าพระเจ้าทรงประสงค์สิ่งใด



มธ 12:9-14 พระเยซูเจ้าทรงรักษาชายมือลีบ
พระเยซูเจ้าเสด็จจากที่นั่นเข้าไปในศาลาธรรม ทรงพบชายมือลีบคนหนึ่ง ประชาชนบางคนถามพระองค์ว่า “ธรรมบัญญัติอนุญาตให้รักษาโรคในวันสับบาโตหรือไม่” ทั้งนี้เพื่อจะหาเหตุกล่าวโทษพระองค์ แต่พระองค์ทรงตอบเขาว่า “ท่านใดมีแกะอยู่ตัวเดียว และแกะนั้นตกบ่อในวันสับบาโต เขาจะไม่ไปจับมันและฉุดขึ้นมาดอกหรือ มนุษย์คนหนึ่งย่อมมีค่ากว่าแกะมากนัก ดังนั้น ธรรมบัญญัติจึงอนุญาตให้ทำความดีในวันสับบาโตได้” แล้วพระองค์ตรัสกับชายผู้นั้นว่า “จงเหยียดมือซิ เขาจึงเหยียดมือ และมือนั้นก็กลับเป็นปรกติเหมือนกับมืออีกข้างหนึ่ง ชาวฟาริสีจึงไปชุมนุมปรึกษากันว่าจะกำจัดพระองค์ได้อย่างไร

---พระเยซูเจ้าเองที่ทรงกระทำให้เกิดวันพระเจ้าวันใหม่คือวันอาทิตย์ เมื่อพระองค์ทรงกลับคืนชีพและกระทำวันนั้นให้ศักดิ์สิทธิ์

คาทอลิคนั้นโชคดี พระเจ้ารักมาก ทรงประทานให้มีมิซซามันทุกวันเลย สามารถไปร่วมมิซซาได้ทุกวันไม่เฉพาะวันอาทิตย์ โดยเฉพาะบรรดานักบวชทั้งชายหญิง มีระเบียบพึงกระทำคือการร่วมมิซซาทุกวัน และฆารวาสบางคนที่บ้านใกล้วัดก็มักร่วมมิซซาในวันอื่นนอกจากวันอาทิตย์ด้วย โดยเฉพาะในวันศุกร์และวันเสาร์ เท่ากับคาทอลิค ยกทุกวันถวายคืนพระเจ้าได้หมดทุกวัน ไม่ใช่เฉพาะวันใดวันหนึ่งของสัปดาห์
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อังคาร พ.ค. 01, 2007 5:54 pm

จาก 10 เหตุผลที่คริสตชนเชื่อว่า เรื่องอีสเตอร์เป็นเรื่องจริง : xemo026 :

7.ผู้เชื่อชาวยิวได้เปลี่ยนวันนมัสการ

วันสะบาโตเพื่อการพักผ่อน และการนมัสการนั้น ถือเป็นพื้นฐานวิถีชีวิตของชาวยิว เพราะถ้ายิวคนใดไม่ถือวันสะบาโต ก็มีความผิดต่อบัญญัติของโมเสส แต่ชาวยิวที่เป็นสาวกของพระเยซูคริสต์และผู้เชื่อชาวต่างชาติ เริ่มนมัสการพระเจ้าในวันใหม่คือ วันแรกของสัปดาห์ นั่นคือวันอาทิตย์  ( ดู 1 โครินธ์ 16:1-4 )  วันอาทิตย์ คือวันที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นวันที่พระเยซูคริสต์เป็นขึ้นจากความตาย ใช้แทนวันเสาร์ สะบาโต  สำหรับชาวยิวแล้ว การที่เขากล้าเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ถือว่าสำคัญมาก สำคัญต่อชีวิตที่เปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจาก ขนบธรรมเนียมประเพณีเดิม หรือบัญญัติของโมเสส  การเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างสิ้นเชิงแบบนี้เพราะว่าพวกเขาได้กลับใจแบบคริสเตียน บัพติสมา ประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจ มีความเชื่อว่า การเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริสต์นั้นสำคัญมาก เพราะพวกเขาเชื่อว่าโดยความตายของพระเยซูคริสต์ นั้นประตูแห่งความสัมพันธ์ใหม่ กับพระเจ้าได้เปิดออก วิถีชีวิตใหม่นี้ไม่ใช่การถือธรรมบัญญัติของโมเสส แต่ตั้งอยู่บนความเชื่อ การได้รับความช่วยเหลือในการยกโทษบาป และได้รับชีวิตใหม่ในพระคริสต์ นั่นคือได้รับความรอด และมีความหวังใจถึงชีวิตนิรันดร์ ที่พวกเขาได้รับเพราะความตายของพระเยซู และการเป็นขึ้นจากความตายนั่นคือชัยชนะศัตรู คือมารซาตานที่พระเยซูได้รับชัยชนะ และผู้เชื่อและวางใจในพระองค์จะได้มีส่วนในมรดกนี้ด้วย

อ่านทั้งหมดที่ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=473.0

ซึ่งคุณพี่ คห.5 ที่มาจากคริสตจักรวันเสาร์ มาตอบก็ขอบคุณมากๆ แต่พี่น่าพิจารณานะครับว่า

ทำไมคริสตชนทั่วโลก  (รวมทุกนิกาย ) เกือบ 3 พันล้านคน ถึงเชื่อว่าวันอาทิตย์ คือวันขององค์พระผู้เป็นเจ้า
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ อังคาร พ.ค. 01, 2007 5:55 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร พ.ค. 01, 2007 11:38 pm

ขอบคุณครับ ใครถามจะได้ตอบได้ (แต่อาจจะลืมนะ)
Forza_Nerrazuri

พุธ พ.ค. 02, 2007 11:11 am

ใช่แล้วเพราะ Jesus ฟื้นจากความตายวันอาทิตย์ และถ้าพระเยซูไม่ได้ฟื้นจริงจะไม่มียิวหน้าไหนเลยที่เปลี่ยนวันสะบาโตมาเป็นวันอาทิตย์เพราะพวกนั้นเชื่อฟังประเพณีโบราณสุด ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
*~glossolalia~*
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 30, 2007 7:14 pm

พุธ พ.ค. 09, 2007 1:54 am

ทำไมคุณ siangsawan ขี้สงสัยใจ 555+
เราก็ไม่รู้เหมือนกัน เเต่ต้องนี้รู้เเหละ
ตอบกลับโพส