วันนี้นักบุญยากอบเตือนเรื่องความขัดแย้งกันระหว่างความเชื่อกับกิจการ
เหตุที่นักบุญเปาโลสอนว่า เราได้รับความรอดโดยอาศัยความเชื่อแต่อย่างเดียว เราต้องเข้าใจข้อความนี้ให้ถูกต้อง ว่าในยุคแรกเริ่มของพระศาสนจักรมีความขัดแย้งเกี่ยวกับการรับสมาชิกใหม่เพราะพระศาสนจักรเริ่มต้นมาจากชาวยิวถือปฏิบัติศาสนาแบบยิวพวกเขาบางคน คิดว่าคริสตชนที่ไม่ใช่ยิวจำเป็นต้องเป็นยิวเสียก่อนแล้วจึงปฏิบัติตามธรรมเนียมของชาวยิวดังนั้นคนที่ไม่ใช่ยิวเมื่อจะข้ามาเป็นสมาชิกในพระศาสนจักรจำเป็นต้องเข้าพิธีสุหนัตและงดเว้นรับประทานอาหารบางชนิด นักบุญเปาโลจึงโต้แย้งในเรื่องนี้ว่า ความเชื่อในพระเยซูคริสเจ้าเท่านั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น สำคัญกว่ากิจศรัทธาภายนอกเสียอีก เมื่อมีการประชุมสังคายนาที่กรุงเยรูซาเล็มปี ค.ศ. 50 จึงมีการลงความเห็นคามที่นักบุญเปาโลเสนอ จึงเกิดคำสอนที่ว่า คนต่างศาสนาที่กลับใจจึงไม่จำเป็นต้องถือธรรมเนียมปฏิบัติของชาวยิว มีความเชื่อในพระเยซูเจ้าก็พอแล้ว
แต่บางคนก็ยังสอนเกินจริงอยู่ว่า
เราได้รับความรอดโดยอาศัยความเชื่อแต่อย่างเดียว?
เป็นที่มาของสำนวน
"Prayer like faith, without deed is dead"
ซินะครับ
"Prayer like faith, without deed is dead"
ซินะครับ
เชื่อ แล้วก็ต้องทำ บางคนเชื่อแต่ไม่ทำมันก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่ความเชื่อก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการกระทำเช่นเดียวกัน แยกจากกันมันก็ไมได้อยู่ดี : xemo026 :
แก้ไขล่าสุดโดย nataca_x เมื่อ ศุกร์ ก.ย. 22, 2006 7:16 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณครับ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ตามนั้นครับnataca_x เขียน: เชื่อ แล้วก็ต้องทำ บางคนเชื่อแต่ไม่ทำมันก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่ความเชื่อก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการกระทำเช่นเดียวกัน แยกจากกันมันก็ไมได้อยู่ดี
-
- โพสต์: 740
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm
ใช่ๆครับBoYz - The Series เขียน:ตามนั้นครับnataca_x เขียน: เชื่อ แล้วก็ต้องทำ บางคนเชื่อแต่ไม่ทำมันก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่ความเชื่อก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการกระทำเช่นเดียวกัน แยกจากกันมันก็ไมได้อยู่ดี