ภาพสลักเทิดเกียรติแด่พระแม่มารีย์และบรรดาสหพันธ์นักบุญ ใน โปรแตสแตนท์
The Protestant "Graven Images" Honoring Mary and The Saints
ภาพสลักเทิดเกียรติแด่พระแม่มารีย์และบรรดาสหพันธ์นักบุญ ใน โปรแตสแตนท์
หน้าเปิดของหนังสือบทภาวนาทั่วไปในปี 1838
ภาพแสดงถึงเหตุแห่งการใช้บทภาวนานี้ในศาสนพิธีกรรม
พบในการพิมพ์ยุคแรก ๆ ของพระคัมภีร์โปรแตสแตนท์ รวมถึงในฉบับ King James และในหนังสือบทภาวนาทั่วไป
การเคารพหรือให้ความสำคัญกับรูปเคารพของมนุษย์ที่ไม่ใช่พระเจ้า เป็นสิ่งที่โปรแตสแตนท์ในปัจจุบันมองเรื่องนี้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เป็นการกราบไหว้รูปเคารพ และเป็นเรื่องนอกรีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคารพบูชาหรือให้ความสำคัญกับรูปสลักของบรรดานักบุญอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้ง เป็นสิ่งซึ่งทางโปรแตสแตนท์ไม่อาจยอมรับได้
แต่กระนั้นก็ดี หากเราลองมองย้อนกลับไปดูในประวัติศาสตร์ของทางโปรแตสแตนท์แล้ว เราอาจจะพบได้ว่า ในพระคัมภีร์ของทางโปรแตสแตนท์เองก็มีรูปสลักที่แสดงถึงการเคารพเทิดเกียรติแด่บรรดานักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์และแม่พระด้วยเช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่น พระคัมภีร์บิชอปฉบับปี 1577 มีรูปสลักเกี่ยวกับนักบุญทั้งหลายอยู่ด้วยกันทั้งหมด 123 รูป เช่นเดียวกันกับหนังสือบทภาวนาทั่วไปอื่น ๆ ซึ่งหนังสือภาวนาเหล่านี้เป็นหนังสือที่ใช้ในงานศาสนพิธีกรรมในโบสถ์แห่งอังกฤษ
ในพระคัมภีร์ฉบับ King James ตีพิมพ์ออกมาแรก ๆ ได้มีการเทิดทูนให้เกียรติต่อบรรดานักบุญและแม่พระ โดยไม่ได้เพียงแค่ยกย่องเทิดทูนผ่านบทเพลงในช่วงการสักการะเท่านั้น หากแต่รวมถึงการแสดงปฏิทินพิธีกรรมระบุวันสำคัญศักดิ์สิทธิ์ของบรรดานักบุญทั้งหลายด้วย
ในปี 1611 พระคัมภีร์ฉบับ KingJames ได้เริ่มแยกแยะนักบุญแต่ละท่านให้มีวันฉลองประจำของแต่ละคนเอง ยกตัวอย่างเช่น วันฉลองนักบุญฟิลิป มัทธิว เปโตร บาร์โธโลมิว รวมถึงอัครเทวดามีคาเอลที่ถูกเทิดเกียรติเป็นนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย
ในปฏิทินหรือปฏิทิน 100 ปี [พบในปี 1611] เราพบว่ามีบรรดานักบุญมากมายที่นามของท่านไม่ได้ปรากฏในพระคัมภีร์ แต่ได้รับเกียรติมีวันฉลองของแต่ละคนปรากฏอยู่ในปฏิทินด้วย ทั้งหมดนี้ถูกตีพิมพ์โดย Robert Barker ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี 1613
และเป็นความจริงที่ว่าปฏิทินที่เป็นส่วนหนึ่งของพระคัมภีร์ฉบับ King James นี้ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากองค์พระมหากษัตริย์ด้วย
"สำหรับบรรดานักบุญผู้ล่วงลับไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าเทิดทูนระลึกถึงท่าน และเพื่อเป็นเกียรติต่อท่านทั้งหลาย เราในศาสนจักรของเราขอย้อนกลับไปสำรวจวันเวลาของพวกท่านทั้งหลาย เหมือนที่พระคัมภีร์ได้รับรองพวกท่านเป็นนักบุญ"
[A Premonition to All Most Mighty Monarchs, Kings, Free Princes, and States of Christendom Works, ed. James Montague, Bp. of Winchester (1616), pp. 301-308.]
ภาพสลักเทิดเกียรติแด่พระแม่มารีย์และบรรดาสหพันธ์นักบุญ ใน โปรแตสแตนท์
หน้าเปิดของหนังสือบทภาวนาทั่วไปในปี 1838
ภาพแสดงถึงเหตุแห่งการใช้บทภาวนานี้ในศาสนพิธีกรรม
พบในการพิมพ์ยุคแรก ๆ ของพระคัมภีร์โปรแตสแตนท์ รวมถึงในฉบับ King James และในหนังสือบทภาวนาทั่วไป
การเคารพหรือให้ความสำคัญกับรูปเคารพของมนุษย์ที่ไม่ใช่พระเจ้า เป็นสิ่งที่โปรแตสแตนท์ในปัจจุบันมองเรื่องนี้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เป็นการกราบไหว้รูปเคารพ และเป็นเรื่องนอกรีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคารพบูชาหรือให้ความสำคัญกับรูปสลักของบรรดานักบุญอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้ง เป็นสิ่งซึ่งทางโปรแตสแตนท์ไม่อาจยอมรับได้
แต่กระนั้นก็ดี หากเราลองมองย้อนกลับไปดูในประวัติศาสตร์ของทางโปรแตสแตนท์แล้ว เราอาจจะพบได้ว่า ในพระคัมภีร์ของทางโปรแตสแตนท์เองก็มีรูปสลักที่แสดงถึงการเคารพเทิดเกียรติแด่บรรดานักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์และแม่พระด้วยเช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่น พระคัมภีร์บิชอปฉบับปี 1577 มีรูปสลักเกี่ยวกับนักบุญทั้งหลายอยู่ด้วยกันทั้งหมด 123 รูป เช่นเดียวกันกับหนังสือบทภาวนาทั่วไปอื่น ๆ ซึ่งหนังสือภาวนาเหล่านี้เป็นหนังสือที่ใช้ในงานศาสนพิธีกรรมในโบสถ์แห่งอังกฤษ
ในพระคัมภีร์ฉบับ King James ตีพิมพ์ออกมาแรก ๆ ได้มีการเทิดทูนให้เกียรติต่อบรรดานักบุญและแม่พระ โดยไม่ได้เพียงแค่ยกย่องเทิดทูนผ่านบทเพลงในช่วงการสักการะเท่านั้น หากแต่รวมถึงการแสดงปฏิทินพิธีกรรมระบุวันสำคัญศักดิ์สิทธิ์ของบรรดานักบุญทั้งหลายด้วย
ในปี 1611 พระคัมภีร์ฉบับ KingJames ได้เริ่มแยกแยะนักบุญแต่ละท่านให้มีวันฉลองประจำของแต่ละคนเอง ยกตัวอย่างเช่น วันฉลองนักบุญฟิลิป มัทธิว เปโตร บาร์โธโลมิว รวมถึงอัครเทวดามีคาเอลที่ถูกเทิดเกียรติเป็นนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย
ในปฏิทินหรือปฏิทิน 100 ปี [พบในปี 1611] เราพบว่ามีบรรดานักบุญมากมายที่นามของท่านไม่ได้ปรากฏในพระคัมภีร์ แต่ได้รับเกียรติมีวันฉลองของแต่ละคนปรากฏอยู่ในปฏิทินด้วย ทั้งหมดนี้ถูกตีพิมพ์โดย Robert Barker ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี 1613
และเป็นความจริงที่ว่าปฏิทินที่เป็นส่วนหนึ่งของพระคัมภีร์ฉบับ King James นี้ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากองค์พระมหากษัตริย์ด้วย
"สำหรับบรรดานักบุญผู้ล่วงลับไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าเทิดทูนระลึกถึงท่าน และเพื่อเป็นเกียรติต่อท่านทั้งหลาย เราในศาสนจักรของเราขอย้อนกลับไปสำรวจวันเวลาของพวกท่านทั้งหลาย เหมือนที่พระคัมภีร์ได้รับรองพวกท่านเป็นนักบุญ"
[A Premonition to All Most Mighty Monarchs, Kings, Free Princes, and States of Christendom Works, ed. James Montague, Bp. of Winchester (1616), pp. 301-308.]
แก้ไขล่าสุดโดย Nihil เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 15, 2007 4:32 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพจากหนังสือต่อไปนี้เป้นภาพจากพระคัมภีร์และหนังสือที่ตีพิมพ์โดยโปรแตสแตนท์ในยุคแรกเริ่ม
ภาพเหตุการณ์เทศกาลเปนเตกอสต์ แสดงภาพของบรรดาอัครสาวกรายล้อมรอบแม่พระมีรัศมีที่ศีรษะที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ เป็นองค์ประธาน
ภาพหน้าปกในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ และหน้าเปิดหน้าแรกของพระวรสารนักบุญมัทธิว เป็นพระคัมภีร์ฉบับ Tyndale ที่ตีพิมพิ์ในปี 1526
ภาพพิมพ์ไม้แสดงภาพของบรรดาอัครสาวกที่รวมถึงนักบุญเปโตร และนักบุญเปาโลด้วย และในส่วนของหน้าเปิดหน้าแรกก็แสดงภาพของนักบุญมัทธิวกำลังเขียนพระวรสารอยู่
ภาพหน้าปกในพระคัมภีร์ฉบับ Coverdale ในปี 1535
ภาพพิมพ์ไม้แสดงรูปของ อดัม อีฟ ทูตสวรรค์ และพระเยซูทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ
ต่ำลงมาเป็นภาพของโมเสสได้รับบัญญัติ 10 ประการ [รวมถึงข้อความที่ว่า "ท่านจะไม่กราบไหว้บูชารูปเคารพอื่นใด" ด้วย] ถัดมาเป็นรูปพระเยซูสั่งสอนบรรดาอัครสาวก นักบุญเปโตรสั่งสอนผู้คนในช่วงเทศกาลเปนเตกอสต์ ภาพรูปปั้นของกษัตริย์ดาวิด และนักบุญเปาโล
ภาพเหตุการณ์เทศกาลเปนเตกอสต์ แสดงภาพของบรรดาอัครสาวกรายล้อมรอบแม่พระมีรัศมีที่ศีรษะที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ เป็นองค์ประธาน
ภาพหน้าปกในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ และหน้าเปิดหน้าแรกของพระวรสารนักบุญมัทธิว เป็นพระคัมภีร์ฉบับ Tyndale ที่ตีพิมพิ์ในปี 1526
ภาพพิมพ์ไม้แสดงภาพของบรรดาอัครสาวกที่รวมถึงนักบุญเปโตร และนักบุญเปาโลด้วย และในส่วนของหน้าเปิดหน้าแรกก็แสดงภาพของนักบุญมัทธิวกำลังเขียนพระวรสารอยู่
ภาพหน้าปกในพระคัมภีร์ฉบับ Coverdale ในปี 1535
ภาพพิมพ์ไม้แสดงรูปของ อดัม อีฟ ทูตสวรรค์ และพระเยซูทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ
ต่ำลงมาเป็นภาพของโมเสสได้รับบัญญัติ 10 ประการ [รวมถึงข้อความที่ว่า "ท่านจะไม่กราบไหว้บูชารูปเคารพอื่นใด" ด้วย] ถัดมาเป็นรูปพระเยซูสั่งสอนบรรดาอัครสาวก นักบุญเปโตรสั่งสอนผู้คนในช่วงเทศกาลเปนเตกอสต์ ภาพรูปปั้นของกษัตริย์ดาวิด และนักบุญเปาโล
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 25, 2007 5:55 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพปกด้านในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ตีพิมพ์ในปี 1549
ภาพไม้ตัดแสดงถึงภาพของนักบุญ มัทธิว มาระโก และ ลูกา เขียนพระวรสารของพวกท่าน เช่นเดียวกับภาพของบรรดาทูตสวรรค์ทั้งหลาย ส่วนล่างของหนังสือฉีกขาดหายไป ทำให้ภาพของนักบุญ ยอห์น ขาดหายไป
ภาพวาดประกอบพระคัมภีร์บิชอป (ลอนดอน ปี 1574)
ปรากฏเป็นหน้าแรกของพระวรสารนักบุญลูกา ภาพพิมพ์นี้แสดงภาพของนักบุญลูกากำลังเขียนพระวรสารของท่านอยู่ พระคัมภีร์บิชอปเป็นพระคัมภีร์ที่มีมาก่อนพระคัมภีร์ฉบับ King James ในปี 1611
ภาพวาดประกอบพระคัมภีร์บิชอป (ลอนดอน ปี 1578)
ภาพแสดงถึงโมเสสกับบรรดาบุคคลต่าง ๆ และเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในหนังสือ กันดารวิถี ส่วนอีกภาพหนึ่งแสดงถึงประกาศกทั้ง 6 ท่าน
หน้าปกในพระคัมภีร์ฉบับ Geneva ตีพิมพ์ที่มหาวิทยาลัย Cambridge ในปี 1591
ภาพพิมพ์แสดงภาพสลักของทูตสวรรค์
หน้าปกในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ฉบับ Geneva ตีพิมพ์ในปี 1608
ภาพพิมพ์แสดงรูปของบรรดานักบุญทั้งหลาย ซึ่งแสดงภาพของนักบุญเปโตรถือกุญแจสวรรค์อยู่ด้วย
ภาพประกอบพระคัมภีร์ฉบับ Geneva ตีพิมพ์ใน Edinburgh ปี 1610
ภาพแสดงถึงอารอนกำลังถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าอยู่
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 25, 2007 5:38 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
หน้าปกในของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ เป็นภาพวาดต้นแบบจากพระคัมภีร์ฉบับ King James ในปี 1611
ภาพพิมพ์ไม้แสดงถึงรูปปั้นของโมเสสถือบัญญัติ 10 ประการ เช่นเดียวกับรูปปั้นของอารอนและบรรดาอัครสาวกที่รวมนักบุญ เปโตร และ เปาโล ร่วมเข้าไป ซึ่งนักบุญเปโตรได้ถือกุญแจสวรรค์ไว้ในมือของท่านด้วย
ภาพพิมพ์ฉบับ King James ในปี 1611 นี้ มีขนาดใหญ่โตมาก คือมีขนาด 16" x 10.5" x 5" และหนักร่วม 16 ปอนด์ นี่เป็นฉบับของนักเทศน์ที่ใช้สำหรับศาสนบริการในการประกอบพิธีสักการะบูชาพระเจ้าในโบสถ์
หน้าปกในของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ เป็นภาพวาดต้นแบบจากพระคัมภีร์ฉบับ King James ในปี 1612
ภาพพิมพ์ไม้แสดงภาพของบรรดานักบุญทั้งหลาย ภาพค่อนข้างมีความใกล้เคียงกับภาพในพระคัมภีร์ฉบับ Geneva มาก และเช่นเดียวกันที่เราจะเห็นภาพของนักบุญเปโตรถือกุญแจสวรรค์อยู่
หน้าปกในของพระคัมภีร์ฉบับ King James ในปี 1629 ฉบับนี้ตีพิมพ์โดย Thomas กับ John Buck จัดพิมพ์โดยมหาวิทยาลัย Cambridge
ภาพพิมพ์แสดงรูปปั้นของโมเสสกับบัญญัติ 10 ประการ และ รูปปั้นกษัตริย์ดาวิดกำลังเล่นพิณอยู่ ส่วนด้านล่างของภาพแสดงผู้ประพันธ์พระวรสารทั้ง 4 ฉบับ คือ มัทธิว มาระโก ลูกา และ ยอห์น
พระคัมภีร์ฉบับ King James ฉบับ Octavo ตีพิมพ์ในลอนดอน โดย Robert Barker ในปี 1634
ภาพแรกแสดงถึงเหตุการณ์พระกายาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูเจ้า ส่วนภาพที่สองแสดงถึงเหตุการณ์พระเยซูสั่งสอนบรรดาอัครสาวก
หน้าปกในพระคัมภีร์ฉบับ King James ตีพิมพ์โดย Thomas Buck และ Roger Daniel ที่มหาวิทยาลัย Cambridge ในปี 1638
ภาพพิมพ์สลักสีแสดงภาพรูปปั้นของโมเสสกับบัญญัติ 10 ประการ และ รูปปั้นกษัตริย์ดาวิดกำลังเล่นพิณอยู่ ส่วนด้านล่างของภาพแสดงผู้ประพันธ์พระวรสารทั้ง 4 ฉบับ คือ มัทธิว มาระโก ลูกา และ ยอห์น
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 25, 2007 5:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
หน้าปกในพระคัมภีร์ฉบับ King James ปี 1646 ตีพิมพ์ใน London
เป็นพระคัมภีร์หายากที่มีขนาดเท่ากับพ็อกเกตบุ้ค หน้าปกนี้โชว์ภาพของกษัตริย์ดาวิดเล่นพิณอยู่ ฉบับที่ตีพิมพ์นี้จัดทำออกมาแบบ 2 สี คือ แบบสีดำกับสีแดง
หน้าปกในพระคัมภีร์ฉบับ King James ในปี 1648 ขนาด 9" x 7" ตีพิมพ์ในลอนดอน โดย Miles Flesher สำหรับ Nicholas Fussell
หน้าปกแสดงภาพรูปปั้นของโมเสสถือบัญญัติ 10 ประการ กับ อาร่อน กับเครื่องกำยานถวายพระเจ้า ส่วนในมุมทั้ง 4 จะเป็นภาพของผู้เขียนพระวรสารทั้ง 4 คือ มัทธิว มาระโก ลูกา ยอห์น
หน้าปกในพระคัมภีร์ฉบับ King James ตีพิมพ์ในปี 1660
ภาพนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของภาพรูปปั้นบุคคลสำคัญและนักบุญของพระคัมภีร์ฉบับ King James ในช่วงแรก ๆ ภาพนี้แสดงถึงรูปปั้นของโมเสสถือบัญญัติ 10 ประการอยู่ ส่วนอื่น ๆ ของภาพยังแสดงถึงรูปของกษัตริย์ดาวิด อารอน และประกาศกอีก 2 คนด้วย
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 25, 2007 5:59 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
หน้าจากพระคัมภีร์ฉบับ King James ฉบับแรก ๆ ที่ถูกตีพิมพ์หลังการฟื้นฟูของพระเจ้าชาร์ลที่ 2 ในปี 1660 แสดงภาพเทิดทูนพระแม่มารีย์ และนักบุญยอแซฟ
ทั้ง 2 ภาพนี้มาจากหนังสือภาวนาอังกฤษในปี 1662
เป็นภาพที่ถูกตีพิมพ์ และรวมอยู่ในพระคัมภีร์ฉบับ King James แสดงภาพของนักบุญ ฟิลิป และ โทมัส
หนังสือภาวนาเป็นหนังสือแรก ๆ ที่ถูกระบุให้ใช้ในวจนพิธีกรรมต่าง ๆ โดยพิธีกรรมการภาวนาก่อนหน้านั้นทำตามคำสั่งของศาสนจักรมาโดยตลอด และไม่มีอำนาจผูกมัดกับกฎหมายของรัฐนั้น ๆ
ภาพแสกนจากพระคัมภีร์ฉบับ King James ในปี 1678
แสดงภาพของพระแม่มารีย์ นักบุญยอแซฟ และนางเอลีซาเบ็ธ โดยจะสังเกตุว่า พระแม่มารีย์ จะมีรัศมีรอบศีรษะพิเศษกว่าคนอื่น
ภาพพิมพ์สลักจากหน้าเปิดของพระคัมภีร์ฉบับ King James ในปี 1683 ถูกตีพิมพ์ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ
แสดงภาพของโมเสสถือบัญญัติ 10 ประการ กับอารอนกำลังเผากำยานถวายพระเจ้า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 25, 2007 5:44 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ตีพิมพ์ที่ Oxford ด้วยแท่นพิมพ์ของมหาวิทยาลัย ในปี 1701
เป็นหนังสือแบบ Elephant Folio (หนังสือที่มีความสูงประมาณ 61 - 63.5 ซม. (24 - 25 นิ้ว) ) มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พระคัมภีร์ฉบับนักเทศน์ เพราะศาสนบริกรจะใช้ระหว่างทเทศน์ในยุคนั้น
หน้าปกทั่วไปแสดงภาพของทูตสวรรค์แห่งหีบพันธสัญญา โดยมีเหตุการณ์การตรึงกางเขนเป็นรูปประกอบข้างหลัง
ส่วนหน้าปกของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ แสดงภาพของทูตสวรรค์ดลใจหนึ่งในบรรดาอัครสาวกให้เขียนพระวรสาร
ภาพหน้าปกทั่วไป
ภาพหน้าปกภาคพันธสัญญาใหม่
ภาพปกในของหนังสือภาวนาทั่วไป ในปี 1710
แสดงภาพของบรรดาผู้คนแห่แหนกันมาเข้าโบสถ์เพื่อนมัสการพระเจ้า ขณะที่ส่วนยอดของโบสถ์ ถูกประดับประดาด้วยรูปปั้นของบรรดานักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์
ภาพพิมพ์สลักจากหน้าเปิดของหนังสือ Geniuses ตีพิมพ์ในปี 1715
แสดงภาพของพระเยซูเจ้า พระจิตเจ้า (นกพิราบ) พร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ทั้งหลาย ตรงกลางของภาพแสดงภาพของโมเสสถือบัญญัติ 10 ประการ กับ อารอนถือกำยานถวายเครื่องบูชา ส่วนด้านล่างของภาพเป็นภาพของบรรดาอัครสาวก มัทธิว มาระโก ลูกา ยอห์น และอัครสาวกคนอื่น ๆ
ภาพ พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ โดยมีบรรดาอัครสาวกและพระแม่มารีย์ร่วมอยู่ในภาพด้วย สังเกตุดูจะพบว่า พระแม่มารีย์ และพระเยซูเจ้าเท่านั้นที่มีรัศมีที่ศีรษะอย่างพิเศษกว่าคนอื่นๆ
ส่วนภาพต่อมาเป็นภาพของนักบุญ ซีโมน
ทั้ง 2 ภาพนี้มาจากหนังสือภาวนาทั่วไป ตีพิมพ์ในปี 1726
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 25, 2007 6:00 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพของพระแม่มารีย์ นักบุญยอแซฟ และพระกุมารเยซู ซึ่งพระแม่และพระกุมารมีรัศมีรอบศีรษะ
ภาพจากหนังสือภาวนาทั่วไป ตีพิมพ์ใน Cambridge โดย Joseph Bentham ในปี 1757 ในขนาด 7" x 4.5"
ฉบับที่ตีพิมพ์นี้มีภาพสีประกอบในเล่มรวมกว่า 55 ภาพ ภาพทั้งหมดลงสีด้วยมือ และในหลาย ๆ ส่วนของภาพถูกประดับตกแต่งด้วยทองคำแท้ !!!
ภาพนักบุญยอห์น บัพติสมา
ภาพจากหนังสือภาวนาทั่วไป ตีพิมพ์ในปี 1774 ที่ Oxford ในขนาด 15 x 9 เซนติเมตร ฉบับนี้มีการประดับตกแต่งด้วยทองแดงสลักมากมาย
ภาพพิมพ์สลักจากหนังสือภาวนาทั่วไปในปี 1780 แสดงเหตุการประสูติของพระเยซูคริสต์ ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์มีรัศมีทุกคน
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 25, 2007 5:47 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพจากพระคัมภีร์ฉบับ King James ในปี 1788 ตีพิมพ์โดย Pearson & Rollason แห่งลอนดอน
แสดงภาพของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ อันประกอบไปด้วย พระแม่มารีย์ นักบุญยอแซฟ และพระกุมารเยซู
ภาพจากพระคัมภีร์ฉบับ King James ในปี 1793 ตีพิมพ์โดย Zachariah Jackson
ที่ดับลิน ไอร์แลนด์
แสดงภาพประกาศดาเนียล และ นักบุญเปโตรกับทูตสวรรค์
ในฉบับนี้ยังมีภาพพิมพ์ของบรรดานักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีรายชื่อปรากฏตั้งแต่ปฐมกาล ไปจนถึงวิวรณ์
ฉบับที่ตีพิมพ์ออกมานี้ มีขนาดที่ใหญ่ คือ สูง 17" และหนา 3 1/4"
ภาพสีลงมือนี้มาจากหนังสือภาวนาทั่วไปในปี 1838
ภาพแรกแสดงถึงพระแม่มารีย์ นักบุญยอแซฟ และ พระกุมารเยซู
ส่วนภาพที่สอง แสดงภาพของกษัตริย์ดาวิดและทูตสวรรค์ 3 องค์
ภาพเหตุการณ์ประสูติของพระเยซูเจ้า
ปกในแสดงภาพของ พระเยซู โมเสส อารอน และทูตสวรรค์
ทั้ง 2 ภาพนี้มาจากหนังสือภาวนาทั่วไปที่ตีพิมพ์ในลอนดอน โดย Allan Bell, & Co.ในปี 1838
ภาพแรกแสดงถึงเหตุการประสูติของพระเยซูเจ้า โดยมีพระแม่มารีย์ นักบุญยอแซฟ และพระกุมารเยซูอยู่ในภาพ
ภาพที่สองเป็นภาพหน้าปกในที่แสดงถึงพระเยซูคริสต์ และศีลมหาสนิท มีรูปปั้นโมเสสถือบัญญัติ 10 ประการ และ อารอน ประดับ ส่วนหน้าอีกด้านหนึ่งแสดงถึงทูตสวรรค์ดลใจอัครสาวกเขียนพระวรสาร
ในปี 1879 จำนวนภาพพิมพ์สลักในพระคัมภีร์ฉบับ King James ได้เพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว จนถึงขนาดที่ว่า ในบางฉบับที่ตีพิมพ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตีพิมพ์โดย The Richardson Co. แห่งบอสตัน ได้ลงคำนิยามโฆษณาไว้ที่หน้าปกว่า "มีภาพประกอบ 2,000 ภาพ"
พระคัมภีร์และหนังสือทั้งหมดนี้ ตีพิมพ์และออกแบบโดยโปรแตสแตนท์ยุคแรกๆเมื่อแยกนิกายใหม่ๆ จะเห็นว่าโปรแตสแตนท์ยุคแรกเริ่มนั้น มีมุมมองของเรื่องรูปเคารพและพระแม่มารีย์ต่างจากโปรแตสแตนท์ในปัจจุบันอย่างมาก
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 25, 2007 6:02 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 6
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 05, 2006 10:52 pm
ขอตอบเท่าที่รู้นะคับ ในฐานะที่ที่ผมเป็นเเองลิกั่นคนนึง พวกเรามี Saint นะคับเป็นการยกย่องพวกผู้ประกาศในยุคเเรกๆ สังเกตุได้จากคริสจักรเเม่ของคริสจักรไคร์ชเชิร์ช(นิกายเเองลิกั่น) ที่ประเทศสิงคโปร์ก็มีชื่อว่า Saint Andrew's Church คับ
อันนี้น่าจะมาจากสาเหตุหลัก ที่ว่าการแยกนิกายของแองกลีกัน ไม่ได้มาจากปัญหาเรื่องหลักข้อเชื่อเลย แต่มาจากปัญหาส่วนตัวของกษัตริย์อังกฤษ+การเมือง จึงไม่ทำให้มีข้อแตกต่างทางหลักข้อเชื่อมากนักGod love us เขียน: ขอตอบเท่าที่รู้นะคับ ในฐานะที่ที่ผมเป็นเเองลิกั่นคนนึง พวกเรามี Saint นะคับเป็นการยกย่องพวกผู้ประกาศในยุคเเรกๆ สังเกตุได้จากคริสจักรเเม่ของคริสจักรไคร์ชเชิร์ช(นิกายเเองลิกั่น) ที่ประเทศสิงคโปร์ก็มีชื่อว่า Saint Andrew's Church คับ
เห็นด้วยครับ อันนี้เรื่องจริงHoly เขียน:อันนี้น่าจะมาจากสาเหตุหลัก ที่ว่าการแยกนิกายของแองกลีกัน ไม่ได้มาจากปัญหาเรื่องหลักข้อเชื่อเลย แต่มาจากปัญหาส่วนตัวของกษัตริย์อังกฤษ+การเมือง จึงไม่ทำให้มีข้อแตกต่างทางหลักข้อเชื่อมากนักGod love us เขียน: ขอตอบเท่าที่รู้นะคับ ในฐานะที่ที่ผมเป็นเเองลิกั่นคนนึง พวกเรามี Saint นะคับเป็นการยกย่องพวกผู้ประกาศในยุคเเรกๆ สังเกตุได้จากคริสจักรเเม่ของคริสจักรไคร์ชเชิร์ช(นิกายเเองลิกั่น) ที่ประเทศสิงคโปร์ก็มีชื่อว่า Saint Andrew's Church คับ
ที่เค้าว่าอยากเเต่งงานใหม่หรือเปล่า?? เริ่มไม่เเน่ใจHoly เขียน:อันนี้น่าจะมาจากสาเหตุหลัก ที่ว่าการแยกนิกายของแองกลีกัน ไม่ได้มาจากปัญหาเรื่องหลักข้อเชื่อเลย แต่มาจากปัญหาส่วนตัวของกษัตริย์อังกฤษ+การเมือง จึงไม่ทำให้มีข้อแตกต่างทางหลักข้อเชื่อมากนักGod love us เขียน: ขอตอบเท่าที่รู้นะคับ ในฐานะที่ที่ผมเป็นเเองลิกั่นคนนึง พวกเรามี Saint นะคับเป็นการยกย่องพวกผู้ประกาศในยุคเเรกๆ สังเกตุได้จากคริสจักรเเม่ของคริสจักรไคร์ชเชิร์ช(นิกายเเองลิกั่น) ที่ประเทศสิงคโปร์ก็มีชื่อว่า Saint Andrew's Church คับ
ใช่ง้าบ อยากแต่งงานใหม่ แล้วทางสันตะสำนักสมัยนั้นไม่อนุญาติ ก็เลยแยกตัวซะเลยEcclesia เขียน:ที่เค้าว่าอยากเเต่งงานใหม่หรือเปล่า?? เริ่มไม่เเน่ใจHoly เขียน:อันนี้น่าจะมาจากสาเหตุหลัก ที่ว่าการแยกนิกายของแองกลีกัน ไม่ได้มาจากปัญหาเรื่องหลักข้อเชื่อเลย แต่มาจากปัญหาส่วนตัวของกษัตริย์อังกฤษ+การเมือง จึงไม่ทำให้มีข้อแตกต่างทางหลักข้อเชื่อมากนักGod love us เขียน: ขอตอบเท่าที่รู้นะคับ ในฐานะที่ที่ผมเป็นเเองลิกั่นคนนึง พวกเรามี Saint นะคับเป็นการยกย่องพวกผู้ประกาศในยุคเเรกๆ สังเกตุได้จากคริสจักรเเม่ของคริสจักรไคร์ชเชิร์ช(นิกายเเองลิกั่น) ที่ประเทศสิงคโปร์ก็มีชื่อว่า Saint Andrew's Church คับ
ไปหามาจากไหนอะครับ สวยจัง