Buddy เขียน:
คำว่าอิสระในที่นี้คงจะเป็นคนละเรื่องกับที่พี่ส้มหมายถึงล่ะค่ะ คงหมายถึงเรื่องแบบแผนอีกแหละค่ะ ส่วนมากคาทอลิกจะกำหนดมาแล้วเป็นสูตร เช่น บทภาวนา ต้องท่องอะไรก่อน ต่อด้วยอะไร อันนู้นกี่จบอันนี้กี่จบ แต่ถ้าโปรฯนอกจากบทข้าแต่พระบิดาแล้ว ส่วนมากจะปล่อยให้ใช้คำพูดอิสระ
คือไม่ได้หมายถึงเรื่องเต้นอ่ะค่า หมายถึง พวกระเบียบแบบแผน คือหนูมักจะเป็นตัวของตัวเอง บางครั้งก็ใส่แบบฉบับของตัวเอง สไตล์ของตัวเอง เช่นการนำนมัสการ หรือการแบ่งปัน ถ้ามีแบบแผนตายตัวแบบคาทอลิกหนูก็ไม่ไหว และบทบาทบางอย่างพระศาสนจักรก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงทำ แต่ถ้าไม่มีระเบียบแบบแผนเลย จับฉ่าย อะไรก็ได้ แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ
อ้าวงั้นที่พี่สวดอยู่ทุกวันนี้ก็ผิดหลักคาทอลิกอะดิ
พี่ว่าเหตุผลหลักของเราคืออันหลังนะ แต่พี่ก็ไม่เข้าใจคำว่า ที่ออกไปจากกรอบนึงเพื่อไปอยู่อีกกรอบเนี่ยเรียกอิสระ :huh:
ถ้าเราไม่ได้รับศีลแต่แรก พี่จะไม่พูดแบบนี้ เราจะได้อยู่บ้านเดียวกัน ...... แต่อันนี้บอกตรงๆนะคะว่า พี่ไม่แน่ใจ เพราะด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณเราจะถูกฟอร์มขึ้นใหม่ เป็นวิญญาณที่โตได้ด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ อย่างที่พี่พีพีเคยพูดว่า คาทอลิกเติบโตได้ด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ เหมือนพระเจ้าสร้างดอกบัวให้อยู่ในน้ำ วันนึงดอกบัวบอกว่า จะไปอยู่บนบก ถามว่า ดอกบัวจะโตได้มั้ย บัวจะโตได้ก็ต่อเมื่อกลับมาอยู่ในน้ำ
ที่พูดว่า วันนึงจะกลับบ้าน หมายถึง บ้านคาทอลิกนะคะ ไม่ใช่วันสองวันนี้ แต่อาจเป็นสิบ ยี่สิบปี วันนี้เราต้องออกไปเรียนรู้ก็ขอให้ไป แต่วันนึงจะกลับมา พระองค์จะดึงให้กลับมา และวันนั้นจะเป็นวันที่เราเข้าใจเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ เข้าใจความเป็นสงฆ์ อย่างถ่องแท้ และวันนั้นจะเป็นวันที่เรานบนอบต่อพระเป็นเจ้าอย่างถึงที่สุด และสัมผัสกับพระองค์อย่างที่ไม่เคยมาก่อน
ง่า.....พี่ส้มข๋า
ทั้งหมดนี้พี่คงไม่รู้รายละเอียด จิงๆแล้วหนูมีเบื้องหลังที่มีไม่กี่คนรู้ คือก่อนที่หนูรับศีลล้างบาปคาทอลิก หนูผ่านบัพติสมาโปรฯมาก่อนอ่ะค่ะ (มันซับซ้อนมากเกินบรรยาย พี่คงไม่เข้าใจ
) แต่ทุกสิ่งที่พระองค์อนุญาตให้เกิดขึ้นไม่มีอะไรบังเอิญ พระองค์มีแผนการที่เราคาดไม่ถึง และถึงยังไงหนูก็ค่อนข้างแน่ใจว่าพระเจ้าคงไม่แยกบ้านเราหรอกค่ะ ในโลกนี้อาจจะดูเหมือนคนละบ้าน ในด้านกรอบความคิดของมนุษย์เรา แต่บ้านพระองค์มีบ้านเดียวสำหรับทุกคนที่เชื่อในพระองค์
Buddy เขียน:
จะว่าไป .... พี่ก็มานั่งนึกนะว่า ผู้หญิงทำอะไรไม่ได้บ้่าง ก็นึกไม่ออก นอกจากการเสกศีล โปรดศีลนี่แหละ เราส่งศีลได้ วางแผนงานอภิบาลได้ เทศน์ในมิสซาได้ (ที่นี่ทำกันนะคะ) เป็นผู้นำวิญญาณได้ คุณพ่อที่นี่หลายองค์มีผู้นำวิญญาณเป็นผู้หญิง (ไม่ใช่นักบวชนะคะ สัตบุรุษนี่แหละ)
ไม่แน่ใจว่า กรอบที่อึดอัดนี่ คือกรอบคาทอลิกหรือกรอบวัฒนธรรมคะ
อืม...อันนี้ก้อเพิ่งรุเหมือนกันนะคะว่ามีผู้หญิงวางแผนงานอภิบาล และที่สำคัญเทศน์ในมิสซาด้วย
ที่เรียนเคยมาคือทำไม่ได้อ่ะค่ะ(เอ....หรือเราเข้าใจผิดเอง
)
ง่ะ...แต่หนูมีหลายเหตุผลค่ะพี่ พระเจ้าสำแดงกับแต่ละคนไม่เหมือนกัน พี่คงไม่เข้าใจเรื่องระหว่างหนูกับพระเจ้า
และถ้าเปนพี่กับพระเจ้าหนูก็คงจะไม่เข้าใจเหมือนกัน
คืออย่าเรียกว่าอึดอัดเลยคะ ไม่ถึงขนาดนั้น เรียกว่าหนูคล่องตัวกับหนทางอีกสายนึงมากกว่าดีกว่า
แต่ยังไงปลายทางก็ยังเปนที่เดียวกัน ถ้าไม่ได้ออกนอกทางพระเจ้าไปเสียก่อน
ก้อเหมือนขับรถถึงจะขับคนละเลนแต่ก็ขนานกันไปที่เดียวกัน
ตราบใดที่ยังไม่ได้เลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย หรือกลับรถ รถก็ยังมุ่งไปจุดหมายปลายทางข้างหน้าเดียวกัน
คือตอนที่หนูกำลังจะกลับไปเปนโปรฯ ตอนนั้นยังเรียนคริสตศาสตร์อยู่บ้านเณรฯ
เพื่อนรุ่นพี่เค้าก็คิดแบบเดียวกับที่พี่ส้มคิดอ่ะค่ะ พอดีตอนนั้นในวิชานั้นคุณพ่อเรียกพบนศ.ทุกคนทีละกลุ่ม
เพื่อนรุ่นพี่หนูที่อยู่บ้านเดียวกันเค้าก็ถามคุณพ่อประมาณว่า ไปแบบนี้จะเปนไรไหม? ถือว่าทิ้งพระรึเปล่า?
คุณพ่อตอบน่ารักมากนะคะ พ่อบอก "ไม่ๆ" แล้วยังอวยพรให้ด้วยค่ะ
ถึงตอนนี้หนูก็ยังติดต่อกับพี่คนนั้นอยู่เลยหละค่ะ ว่างๆว่าจะไปเยี่ยมเพื่อนพี่น้อง คุณพ่อ และซิสเตอร์เหมือนกันค่ะ
Gray Cat Mobster เขียน:
อ้อ แล้ว คริสตจักรลูเธอแรน นี่ อยู่ตรงไหนงับ (ใช่ลาดพร้าว48หรือเปล่าเอ่ย) ช่วยชี้ทางเข้าทีงับ
เผื่อแวะแวะไปหา(ทำไมดปรแกรมเที่ยวชั้นเยอะจริงๆ ชอบๆ)
มีหลายที่อยู่นะ ถ้า48ก็ รามฯ48(ที่วันก่อนพี่แมวไป) เข้า ซ.ไม่ถึง100เมตร (ลงรถผิดป้าย เดินหาจนแทบเป็นลม)
แต่ถ้าลาดพร้าวจะเปน ลาดพร้าว58นะ เข้าซ.ไม่ถึง100เมตรเหมือนกัน
ถ้าชอบบรรยากาศแบบโฮลี่ๆที่ลาดพร้าวจะดูโฮลี่กว่า(แต่ทั้งนี้ความศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ใจ
)
โปรมแกรมเที่ยวโบสถ์เยอะไม่เปนไรนะ ดีซะอีกไปศึกษา
แต่ถ้าโปรแกรมเที่ยวทางโลกเยอะนี่ไม่ไหวนะ คงต้องสวดมากๆหน่อยนะน้องแมวเทา
พี่แมวก้อโปรแกรมเที่ยว(โบสถ์)เยอะ เยอะวางแผน แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปจริงๆ
แต่ต่อไปหลังจากเปิดเทอมปีนี้คงได้มีโอกาสไปสารพันคริสตจักรที่ไม่เคยไปอย่างจุใจทุกอาทิตย์เลยหละ (ไม่รู้จะไปติดใจโบสถ์ที่ไหนอีกรึเปล่า)