ผมศึกษากับพยานพระยะโฮวาครับอยากแลกเปลี่ยนความรู้หน่อยครับ

คริสตสัมพันธ์ เอกภาพในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ผู้สนใจศึกษา
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 05, 2008 7:16 pm

เสาร์ ม.ค. 05, 2008 10:18 pm

สวัสดีครับผม ขออนุญาตไม่ใช้ชื่อจริงนะครับผมกำลังศึกษาพระคัมภีร์ไบเบิลอยู่ครับ(เป็นพุทธมาก่อน)หลังจากศึกษากับพยานฯแล้วได้รู้จักพี่น้องคริสเตียนหลายคน
ซึ่งเคยเป็นคาทอลิกมาก่อนและได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับคาทอลิกหลายๆเรื่องทำให้ผมสนใจที่จะแลกเปลียนความเข้าใจกับเพื่อนชาวคาทอลิกครับจุดประสงค์ก็เพื่อ
ให้เรามีความเข้าใจไบเบิลอย่างแท้จริงครับ ด้วยเจตนาดีจริงๆครับ ข้อมูลที่ผมได้ยินมาประกอบกับที่ผมได้หาข้อมูลด้วยตัวเองทำให้รู้สึกว่า ทั้งพวกเราเองและ
ชาวคาทอลิกยังไม่ค่อยรู้จักกันและกันเท่าไหร่ ขอออกตัวไว้ก่อนครับว่าผมยังไม่อยู่ในระดับที่เชี่ยวชาญในพระคัมภีร์นะครับ แต่อยากเพื่อนๆได้ลองทำความรู้จักกับกับพวกเราดู ผมเชื่อว่าเพื่อนๆจะประทับใจครับ ขอให้บรรยากาศการคุยกันในครั้งนี้เป็นมิตรนะครับหวังอย่างนี้จริงๆ
ก่อนอื่นขอดึงเอาข้อความบางส่วนที่พยานฯถูกนิยามไว้ให้เพื่อนๆอ่านก่อนครับ
________________________________________
พยานพระยะโฮวาห์เป็นใคร? และพวกเขาเชื่ออะไร?

คำตอบ: นิกายที่เป็นที่รู้จักกันดีในนามของพยานพระยะโฮวาห์ในปัจจุบัน เริ่มขึ้นที่รัฐเพนซิลเวเนียในปี 1870 โดยเริ่มต้นด้วยการเปิดเป็นชั้นเรียนพระคัมภีร์โดย Charles Taze Russell รัซเซลตั้งชื่อกลุ่มว่า “Millennial Dawn Bible Study” ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต Charles T. Russell ได้เขียนหนังสือออกมาชุดหนึ่งที่เขาตั้งชื่อว่า "The Millennial Dawn" ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหกเล่ม หนังสือชุดนี้มีหลักศาสนศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ชาวลัทธิพยานพระยะโฮวาห์ยึดเป็นหลักในปัจจุบัน หลังจากที่รัซเซลเสียชีวิตลงในปี ค.ศ 1916 Judge J. F. Rutherford ผู้เป็นทั้งเพื่อนและผู้สืบทอดตำแหน่งของเขาได้เขียนหนังสือเล่มที่เจ็ดซึ่งเป็นเล่มสุดท้ายในชุด "The Millennial Dawn" ขึ้นมาในปี ค.ศ 1917 ชื่อ "The Finished Mystery" ต่อมาในปี ค.ศ 1886 สมาคมพระคัมภีร์หอสังเกตการณ์ ได้ถูกก่อตั้งขึ้น และได้กลายเป็นสื่อที่คณะ “Millennial Dawn” ใช้ในการเผยแพร่แนวความคิดของพวกเขา คนกลุ่มนี้ใช้ชื่อว่า “Russellites” จนกระทั่งถึงปี ค.ศ 1931 จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “พยานพระยะโฮวาห์” เนื่องจากเกิดการแตกแยกกันในกลุ่ม กลุ่มที่เหลือหลังจากที่กลุ่มพยานพระยะโฮวาห์แยกตัวออกมาเรียกตัวเองว่า “the Bible students”

พยานพระยะโฮวาห์เชื่อในอะไร? จากการพิจารณาคำสอนของพวกเขาเกี่ยวกับความเป็นพระเจ้าของพระเยซู, ความรอด, ตรีเอกานุภาพ, พระวิญญาณบริสุทธิ์, การชดเชยบาป ฯลฯ อย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าพวกเขาไม่ได้ยึดหลักความเชื่อที่คริสเตียนยึดถือเลยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ พยานพระยะโฮวาห์มองว่าพระเยซูคืออัครเทวทูตาธิบดีมีคาเอล ผู้เป็นสิ่งทรงสร้างสูงสุด ความเชื่อนี้ขัดแย้งกับข้อพระคัมภีร์หลาย ๆ ข้อที่บอกอย่างชัดเจนว่าพระเยซูคือพระเจ้า (ยอห์น1:1,14; 8:58; 10:30) พยานพระยะโฮวาห์เชื่อว่าความรอดเกิดขึ้นโดยทางความเชื่อ, การทำความดี, และการมีความเชื่อฟังผสมผสานกัน ความเชื่อนี้ขัดแย้งกับคำสอนในพระคัมภีร์ที่บอกไว้หลายครั้งจนนับไม่ถ้วนว่าความรอดมาถึงเราได้โดยความเชื่อ (ยอห์น 3:16; เอเฟซัส 2:8-9; ทีตัส 3:5) พยานพระยะโฮวาห์ปฏิเสธตรีเอกานุภาพ โดยเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมา และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพลังของพระเจ้า พยานพระยะโฮวาห์ไม่ยอมเชื่อว่าพระคริสต์คือตัวแทนลบบาปของเราแต่กลับเชื่อในทฤษฎีที่ไม่มีที่มาที่ไปว่าการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคือการไถ่บาปของอาดัม

พยานพระยะโฮวาห์เอาอะไรมายืนยันคำสอนที่ไม่ได้มาจากพระคัมภีร์เหล่านี้? (1) พวกเขาอ้างว่าคริสตจักรบิดเบือนพระคัมภีร์มาเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว (2) พวกเขาได้แปลพระคัมภีร์ขึ้นมาใหม่แล้วเรียกว่า the New World Translation สมาคมหอสังเกตการณ์ได้แก้ไขข้อความในพระคัมภีร์ให้สอดคล้องกับคำสอนของพวกเขา แทนที่จะยึดหลักข้อเชื่อตามพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ฉบับ New World Translation ได้ถูกแก้ไขหลายครั้งเมื่อชาวพยานพระยะโฮวาห์พบว่าข้อพระคัมภีร์ขัดแย้งกับหลักคำสอนของพวกเขา

พยานพระยะโฮวาห์ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาเป็นลัทธิเทียมเท็จที่ยึดถือข้อพระคัมภีร์อย่างไม่เอาจริงเอาจังอะไรนัก พวกหอสังเกตการณ์ยึดความเชื่อและหลักคำสอนดั้งเดิมและที่ต่อเติมขึ้นมาเองของ Charles Taze Russell, Judge Joseph Franklin Rutherford, และผู้สืบทอดคนอื่น ๆ ของพวกเขา คณะกรรมการปกครองของสมาคมหอสังเกตการณ์เป็นเพียงคณะกรรมการในลัทธิที่อ้างสิทธิอำนาจในการตีความหมายพระคัมภีร์ หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ สิ่งที่คณะกรรมการของพวกเขาพูดเกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์ใด ๆ ถือว่าเป็นคำขาด และความคิดเห็นใดที่นอกเหนือไป จากนั้นพวกเขาไม่สนับสนุนให้เกิดขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ท่านอาจารย์เปาโลได้ตักเตือนทิโมธี (และพวกเราด้วย) ว่าให้หมั่นศึกษาค้นคว้าเพื่อสำแดงตนเองให้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า เป็นคนงานที่ไม่ต้องละอาย แยกแยะพระวจนะแห่งความจริงนั้นได้อย่างถูกต้อง คำตักเตือนที่อยู่ในข้อพระคัมภีร์ 2 ทิโมธี 2:15 นี้เป็นคำตักเตือนของพระเจ้าถึงลูก ๆ ของพระองค์ในพระกายอย่างชัดเจนว่าให้เป็นเหมือนคนบาเรียนและให้ค้นคว้าพระคัมภีร์ทุกวันเพื่อค้นหาว่าสิ่งที่ได้รับมาถูกต้องตรงกับพระวจนะของพระองค์หรือไม่

พวกพยานพระยะโฮวาห์ควรได้รับคำชมเชยใน “ความพยายามในการประกาศ” คงไม่มีกลุ่มศาสนากลุ่มไหนที่มีความสัตย์ซื่อในการประกาศเท่ากับกลุ่มพยานพระยะโฮวาห์ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าข่าวสารที่พวกเขาประกาศออกไปนั้นเต็มไปด้วยความบิดเบือน หลอกลวง และหลักคำสอนเทียมเท็จ ขอพระเจ้าทรงเปิดตาของพวกเขาให้ได้เห็นความจริงของพระกิตติคุณและคำสอนที่แท้จริงจากพระวจนะของพระเจ้าด้วยเถิด
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านแล้วต้องยอมรับว่ามุมมองของคริสตรจักรต่อพยานฯนั้นแย่จริงๆแต่ดูเหมือนเข้าใจผิดหลายข้อครับแต่จะแจกแจงให้ทราบทีละข้อในตอนหลังนะครับ คงจะยาวพอดูแน่ๆเลย
    ตอนนี้รบกวนเพื่อนๆช่วยดูไบเบิลของเพื่อนๆหน่อยครับ แล้วช่วยบอกผมให้หน่อยว่าพระนามพระยะโฮวาของพระเจ้าในพันธสัญญาใหม่ในไบเบิลของเพื่อนๆไม่มีหรือหายไปจริงหรือเปล่าครับ(ผมได้ยินมาอย่างนั้น) ทราบหรือไม่ครับว่าจริงๆแล้วแค่เฉพาะในพันธสัญญาใหม่ก็มีการกล่าวพระนามนี้ถึง237ครั้งทีเดียวอันนี้เราไม่ได้ต่อเติมนะครับแต่เราดูที่สำเนาแบับเก่าแก่
ซึ่งมีรวมกันแล้วกว่า13,000ฉบับเลยนะครับ(ภาษากรีกราวๆ5000ฉบับ)นี่จึงเป็นที่มาของพระคัมภีร์ฉบับ New World Translation(เราเรียกกันว่าฉบับแปลโลกใหม่ครับ)ที่สำคัญๆก็อย่างในมัทธาย(มัทธิว)4:10พระเยซูทรงบอกซาตานให้นมัสการพระยะโฮวา!คิดดูครับ
ซาตานพญามารเองยังถูกไล่ให้ไปนมัสการพระยะโฮวาเลย!แล้วพวกเราล่ะพระองค์จะว่าอย่างไร?หรือในกิจ2:21และโรม10:13บอกว่า"ผู้ออกพระนาม
พระยะโฮวาจะรอด" เป็นต้น ยังมีอีกหลายข้อนะครับที่ยืนยันว่าพระเจ้าเที่ยงแท้คือพระยะโฮวา อยากให้เพื่อนมาลองศึกษาดูครับ มีข้อพระคัมภีร์อีกข้อหนึ่งที่น่าสนใจคือโยฮัน17:21,26ที่ทำให้เรารู้ว่าคำว่า"เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน" ไม่ได้แปลว่าเป็นคนๆเดียวกันเพราะนอกจากพระเยซู
จะตรัสว่าพระองค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระบิดาแล้ว พระองค์ยังตรัสว่าทรงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเหล่าอัครสาวกอีกด้วย หมายความว่าเหล่าอัครสาวก เป็นคนๆเดียวกับพระเยซูและพระบิดาหรือเปล่า?ไม่น่าใช่จริงมั้ยครับ?
  วันนี้ขอแค่นี้ก่อนครับเพื่อนๆช่วยมาแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ ขอบคุณที่ช่วยอ่านครับ วันหลังจะมาโพสใหม่จ้ะ ::001::
**ปล.ชอบบรรยากาศเป็นมิตรในเว็บนี้จัง
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

เสาร์ ม.ค. 05, 2008 11:37 pm

ไม่ขอออกความเห็นอะ มาอ่านเฉยๆ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 12:49 am

ขอบคุณที่มาแลกเปลี่ยนนะคะ  แต่คาทอลิกเรา  รวมถึงโปร  ก็เห็นตรงกันเรื่องพระตรีเอกภาพนะคะ  เราไม่ได้ดูแค่พระคัมภีร์แค่นั้นและก็มาตีความ  เชื่อในพระตรีเอกภาพ  เรื่องมันยาวตั้งแต่ ปี คศ ประมาณ 300 ได้มั้ง  เดี๋ยวลองไปหาให้ดู  และก็มีการยืนยันมาเรื่อยๆถึงความเชื่อนี้  และการเผยแสดง  เราเข้าใจมากขึ้น  แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นรหัสธรรมอยู่  คือยังลึกลับ  และต้องอาศัยความเชื่อเป็นอย่างมากในการเข้าใจ  ::001:: 

เดี๋ยวก็อาจจะมีคนเอาพระคัมภีร์มาคุยให้ฟังนะคะว่า  ทำไมเราเชื่อแบบนี้  แต่ก็นั่นแหละ  อย่างที่คุณบอกว่า  พระคัมภีร์ใช้กันคนละเล่ม  ก็จะคุยกันยากนิดนึงนะคะ  บอกไว้ก่อน  ::001::

เราแลกเปลี่ยนกันแค่ว่า  เราเชื่อพระตรีเอกภาพ  เชื่อว่า  พระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้  ส่วนคุณไม่เป็นแบบนั้น  แค่นั้นละกันนะคะ  ::001::

และก็ขอแลกเปลี่ยนนิดนึงว่า  แต่ก่อนเป็นพุทธก็ไม่รู้เหมือนกันว่า  พระเยซูคือพระเจ้า  ตอนแรกก็จะงงๆ  แต่ต่อมา  พระขัดเกลา  และเอาบาปอย่างนึงออกไป  คือ  "ความจองหอง"  นั่นแหละ  ถึงเชื่อได้ว่า  พระเยซูคือพระเจ้า ... 

คาทอลิกเชื่อว่า  ความเชื่อเป็นพระหรรษทานจากพระเป็นเจ้า  เอาง่ายๆเลยคือ  เป็นพระพรจากพระ  การจะได้รับพระพร หรือจะเชื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หลายครั้งต้องมีการขัดเกลา  เอาง่ายๆนะคะ  คนที่โกงคนอื่นจนเป็นนิสัยแล้วได้ดี  เค้าจะไม่เชื่อเรื่องความซื่อสัตย์เลย  เค้าจะไม่เห็นค่าของความซื่อสัตย์และไม่เห็นว่า  มันมีอยู่จริง  ไม่ว่าจะมีคนสอนเค้าแค่ไหน  เค้าก็จะมองว่า  เป็นเรื่องของเด็กอนุบาล  ในโลกความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น

เราเป็นมิตร  เราใจดีนะคะ เรารักและเคารพทุกคน และรับฟังความเห็นและเหตุผลในความเชื่อของคุณ  และก็ขอบคุณมากๆที่แบ่งปัน  ได้ให้เราเข้าใจคนมากขึ้น  ::001::  แต่เราไม่เคยประนีประนอมกับความเชื่อเรานะคะ  และถ้าใครมาทำให้ความเชื่อเราบั่นทอน  เราสู้ตายค่ะ  ::013:: อย่าหาว่า  ไม่เตือนนะคะ  ::001::
ผู้สนใจศึกษา
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 05, 2008 7:16 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 2:00 am

      ขอบคุณที่ตอบครับผมยังอยากรู้เกี่ยวกับคาทอลิกรวมถึงนิกายใหญ่ๆอีกครับว่าแต่ละนิกายต่างกันอย่างไรบ้างและทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกเป็นคาทอลิก
ละ่ครับ ช่วยอธิบายเรื่องต่างๆดังนี้ด้วยครับ
-ความเชื่อเรื่องพระแม่มาเรีย
-ที่มาของพระคัมภีร์ที่ชาวคาทอลิกใช้(ที่จริงแล้วผมเชื่อว่าที่มาน่าจะมาจากแหล่งเดียวกันนะครับ)
-ตามที่เราทราบกันว่าพระเจ้าทรงเป็นความรักนั้น เป็นเรื่องสมเหตุสมผลหรือไม่ที่เราจะถูกทรมานตลอดกาลในนรกหากเราทำบาป
เอาเท่านี้ก่อนแล้วกันนะครับ ดึกแล้วขอไปนอนก่อนครับ
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 2:15 am

ไว้ ลูเธอร์แรน จามาชี้แจง ตอนนี้ง่วง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 4:13 am

สรุปช่วงเวลาต่างๆของคริสตศาสนา จนถึงค.ศ.500


2000ปี ก่อน ค.ศ. พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับพระธรรมเก่าถูกเขียนขึ้น

3ศตวรรษ ก่อน ค.ศ. พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับพระธรรมเก่าฉบับทะเลตาย (Dead Sea Scrolls) ถูกเขียน

3ปีก่อนค.ศ.-ค.ศ.0 พระเยซูประสูติ

ช่วงราวค.ศ. 30   พระเยซูเจ้าถูกตรึงกางเขน


ค.ศ. 49-62   นักบุญ เปาโล เขียนจดหมายถึงคริสตชนตามเมืองต่างๆ

ค.ศ. 64-68   จักพรรดิเนโร เบียดเบียนพระศาสนจักร

ค.ศ. 65-69   พระคัมภีร์ไบเบิ้ลเล่าถึงประวัติและคำสอนของพระเยซูเจ้าบันทึกโดย นักบุญมาระโก นักบุญมัทธิว นักบุญลูกา และ นักบุญยอห์น

ค.ศ.90-200 เริ่มมีการแปลพระคัมภีร์ไบเบิ้ลในภาษาต่างๆ เช่น ซีเรีย ลาติน คอปติก และ อาราเมอิก

ช่วงศตรววษที่2 คริสตศาสนาเผยแผ่ไปถึง เอเชียไมเนอร์ กรีซ มาสิโดเนีย อียิปต์ อินเดีย ทั่วยุโรป และแอฟริกาเหนือ

ค.ศ. 95   จักพรรดิ ดิโดมิเซียน เบียดเบียนศาสนจักร

ช่วงปี ค.ศ. 100-300  ยุคแห่งมรณสักขี(คาดว่ามีคริสตชนตายเพราะการถูกเบียดเบียนศาสนาของจักรวรรดิ์โรมันถึง200,000คน)

ค.ศ 100-130 ลัทธินอกสติกแบบที่นำความเชื่อทางคริสตศาสนาเข้าไปประสมเริ่มเฟื่องฟู

ค.ศ. 107   ทราจานเบียดเบียนศาสนจักร

ค.ศ. 150-200   ไบเบิ้ลที่บันทึกโดย มาระโก มัทธิว ลูกา และ ยอห์น ถูกถือว่าเป็นพระคัมภีร์ของมวลคริสตชนอย่างเป็นทางการ

ค.ศ. 150-250 ลัทธินอสติกเขียนคัมภีร์ฉบับฟิลลิป มารีย์ มักดาเลนา และชุดเอกสารนักฮัมบาดี

ค.ศ. 177-180   จักพรรดิ์มาร์คุส เอาเรลีอุส เบียดเบียนศาสนจักร

ค.ศ. 180   อีรีเนอุส บิชอปแห่งลียงประณามคำสอนของพวกนอสติค

ค.ศ. 249-251   จักพรรดิ เดซิอุส เบียดเบียนศาสนจักรทั่วไป

ค.ศ. 257   จักพรรดิ วาเลเรียน เบียดเบียนศาสนจักร

ค.ศ. 305   จักพรรดิ ดีโอเกลเซียน เบียดเบียนศาสนจักรอย่างรุนแรง

ค.ศ. 312   จักพรรดิคอนแสตนตินขึ้นครองราชย์

ค.ศ. 313   จักพรรดิคอนแสตนตินออกพระราชกฤษฎีกาแห่งเมืองมิลานเพื่อคุ้มครองคริสตศาสนา และ คริสตศาสนิกชน

ค.ศ. 320   จักพรรดิคอนแสตนตินย้ายราชธานีไปที่เมืองบีซานซีอุม และเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น คอนแสตนติโนเปิล


ค.ศ. 325   การสังคยนาสากลที่ ไนซีอา ยืนยันว่าพระเยซูเป็นทั้งพระเจ้า และมนุษย์

ค.ศ. 367   อเธนาเชียส บิชอปแห่งอเล็กซานเดรียบรรจุรายชื่อหนังสือของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ทั้ง 27 เล่ม

ค.ศ. 381   การสังคยนาที่กรุงคอนแสตนติโนเปิล / จักพรรดิทีโอโดซิอุส ทรงประกาศให้คริสตศาสนาเป็นศาสนาประจำจักวรรดิโรมัน

ค.ศ. 384 นักบุญ เยโรม รวบรวมคัมภีร์ทั้งหมดที่ยอมรับกัน แปลเป็นภาษาละตินอย่างเป็นทางการ และเรียกส่วนที่เป็นสาระบบรอง ว่า อธิกธรรม(Aprocypha) และพระคัมภีร์ไบเบิ้ลในการแปลครั้งนี้เป็นฉบับมาตรฐานของพระศาสนจักรคาทอลิคจนปัจจุบันและใช้แปลเป็นภาษาต่างๆอย่างแพร่หลายในสมัยนั้น

ค.ศ. 395   หลังการสิ้นพระชนม์ของจักพรรดิ ทีโอโดซิอุส อาณาจักรโรมันถูกแบ่งออกเป็นโรมันตะวันตก กับ โรมันตะวันออก

ค.ศ. 431   การสังคยนาที่เมืองเอเฟซัส ประกาศย้ำว่าพระเยซูมีทั้งธรรมชาติพระเจ้า และธรรมชาติมนุษย์ และประกาศว่าพระมารดามารีย์มีฐานะ "มารดาพระเจ้า"

ค.ศ. 451   การสังคยนาที่เมืองคาลเซโดเนีย

ค.ศ. 476   อวสานจักรวรรดิโรมันตะวันตก เหลือแต่โรมันตะวันออก

ค.ศ.496 ฝรั่งเศสเข้าเป็นประเทศคริสตศาสนา และถูกขนานนามว่า "ธิดาหัวปีของพระศาสนจักร"
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 4:31 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 4:14 am

คริสตศาสนานิกายต่างๆ

พระศาสนจักรในยุคเริ่มแรกมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ได้มีการแยกเป็นนิกายต่างๆเหมือนในปัจจุบัน  ต่อมาในศตวรรษที่ 11 เกิดความขัดแย้ง ระหว่างพระศาสนจักรทางตะวันออก  พระศาสนจักรในโรมจึงแยกตัวออกไป เกิดเป็นนิกายออโธดอกซ์ขึ้นมา

และ ต่อมา ในศตวรรษที่16 ในพระศาสนจักร ได้ประสบปัญหาต่างๆมากมาย(ยุคมืดของพระศาสนจักร) ทั้งจากระบบการปกครอง และความประพฤติของบรรดาบาทหลวง ทางอดีตบาทหลวงมาร์ติน ลูเธอร์ ได้ยื่นคำขอร้อง 95 ข้อเพื่อขอให้แก้ไขหลักการปฏิบัติ  แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากสมเด็จพระสันตะปาปา เลยถูกขับ และสั่งลงโทษ(ในสมัยนั้นพระศาสนจักร มีอำนาจเหนืออาณาจักร) และได้เกิดนิกายโปรแตสแตนท์ขึ้นมา โดยหลังจากเหตุการ์ณนั้นก็ได้มีการพิจารณาและปรับเปลี่ยนหลักการใหม่ ปรับปรุงข้อที่ผิดพลาด และกำหนดหลักการใหม่จนมาถึงปัจจุบัน




Q: นิกายใหญ่ๆทั้ง 3 นิกายที่ประกอบด้วย โรมันคาทอลิค โปรแตสแตนท์ และ กรีกออโธดอกซ์ มีข้อเหมือนหรือหลักการอย่างไรบ้าง?

A: โรมันคาทอลิกและออโธดอกซ์แทบจะไม่แตกต่างกันเลยในเรื่องของหลักการจะแตกต่างกันเพียงออโธดอกซ์จะมีพระอัยการเป็นผู้นำส่วนคาทอลิคมีพระสันตะปาปาเป็นประมุข โดยสืบทอดมาตั้งแต่สมัยอัครสาวกกลุ่มแรก โดยถือว่า นักบุญ เปโตร หรือ เซนต์ปีเตอร์ คือพระสันตะปาปาพระองค์แรก และสืบทอดมาถึงพระสันตะปาปาเบนนิดิกที่ 16 องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่265 คาทอลิกนั้นจะมีนักบวช ที่เรียกว่า บาดหลวง หรือซิสเตอร์ และจะมีการให้เกียรติพระนางมารีย์ แม่ของพระเยซูเป็นพิเศษ เรียกพระนางว่า "แม่พระ" มาจากคำว่า มารดาของพระเจ้า

คาทอลิกจะมีการยกย่องวีรบุรุษ หรือวีรสตรีทางศาสนา หรือเรียกง่ายๆว่า บุคคลที่ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระเยซูอย่างดีมากจนเรามั่นใจว่าเขาได้ไปสวรรค์แน่นอน(คล้ายๆกรณีพระอรหันต์ในศาสนาพุทธ) เราจะเรียกคนเหล่านี้ ว่าเป็น นักบุญ

ดังนั้นหากเปรียบให้เข้าใจง่าย เรามองว่าพระเยซูคือกษัตริย์ ส่วนพระแม่มารีย์ก็เป็นพระราชชนนี(แบบกรณีสมเด็จย่า) เหล่านักบุญก็เหมือนขุนนาง ที่ใกล้ชิดกษัตริย์

โบสถ์คาทอลิกทุกแห่ง ถือเป็น1เดียวกัน ขึ้นตรงต่อกรุงวาติกัน และองค์พระสันตะปาปา


ส่วนโปรแตสแตนทต์นั้น หลังจากการแยกนิกายในสมัยมาตินลูเธอร์ หลังจากนั้นได้มีการแยกนิกายย่อยอีกหลายนิกาย ดังนั้นโบสถ์หรือคริสตจักรต่างๆ จะไม่ได้ขึ้นกับวาติกันหรือพระสันตะปาปาแต่อย่างใด

โปรแตสแตนต์ ไม่มีนักบวช แต่มีผู้ถวายตัวรับใช้พระเจ้า เรียกว่า ศาสนจารย์ /ศิษยาภิบาล และผู้ประกาศ ซึ่งอาจแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ การเรียกคำนำหน้าบุคคลเหล่านี้ จะเรียกว่า อาจารย์

โปรแตสแตนต์(โดยทั่วๆไป)จะไม่ให้ความสำคัญพิเศษกับพระนางมารีย์ หรือนักบุญ จะเน้นการเข้าถึงพระเยซูเจ้าโดยตรงด้วยตนเอง แต่สำหรับบางกลุ่มที่สนใจในเรื่องศาสนศาสตร์สตรี จะให้ความสำคัญกับพระนางมารีย์มากขึ้น ในฐานะแบบอย่างของสตรีคริสตชนที่ดี

สถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาของโปรแตสแตนต์เรียกว่าคริสตจักร ซึ่งคาทอลิคจะเรียกวัด มีพิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์เรียกว่าพิธีนมัสการ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 4:20 am

สรุป...................

พระศาสนจักรคาทอลิค เกิดก่อนพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่

พระศาสนจักรคาทอลิคเป็นผู้ เลือก คัดแยก และ รับรอง สาระบบพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ซึ่งคริสตศาสนาทุกนิกายในปัจจุบัน ก็เอาของคาทอลิคมาใช้

พระศาสนจักรคาทอลิค ตั้งโดยพระเยซูคริสต์ และมีพระสัญญากำกับไว้

มธ 16:17
พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 4:31 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 4:29 am

คำว่าJehovah ยะโฮวาห์

มาจากคำว่า YHWH (ยาเวห์)  จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชาวยิวพยายามที่จะใส่สระจากคำฮีบรูว่า adonai(องค์พระผู้เป็นเจ้า) ใส่ลงในชื่อ YHWH ผลของการผสมนี้กลายเป็น YaHoWaH

โดยหลักฐานบ่งชี้ว่าคำที่ถูกสร้างขึ้นใหม่นี้มีวัตถุประสงค์ให้ผู้อ่านระลึกว่าพระนามของพระผู้เป็นเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์เกินกว่าจะเปล่งเป็นเสียงพูดออกมาได้ ดังนั้นจึงนำคำว่า adonai มาใช้แทนที่เข้าไป และเมื่อคำว่า YaHoWah ถูกเปลี่ยนเป็นรูปภาษาลาติน ตัว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 4:59 am

ในส่วนคำถามอื่นๆ ผมคิดว่าในเมื่อทางคุณได้แปลคัมภีร์ใหม่ ซึ่งแตกต่างจากของที่คริสตชนทุกนิกายใช้เป็นมาตรฐาน ก็คงคุยกันยากครับ เพราะพระคัมภีร์ต่อให้ไปคุ้ยต้นฉบับเก่าแค่ไหน ก็ไม่มีเก่าเกินที่พระศาสนจักรคาทอลิคทมี และที่สำคัญ พระคัมภีร์เหล่านั้นถ้าเป็นต้นฉบับพระคัมภีร์ในสาระบบ และแปลถูกต้อง ย่อมเป็นสมบัติของพระศานจักรคาทอลิคทั้งสิ้น และถ้าเรา แปลมรดกที่เรามี ได้ไม่ดีเท่ากับพระศาสนจักรของคุณ ซึ่งเพิ่งเกิดใหม่ไม่ถึง200ปี และยืมสาระบบ และต้นฉบับเราไปใช้ ผมก็ว่าเป็นการสรุปที่ขัดสามัญสำนึกอยู่มากครับ

กรณีเดียวที่ของคุณจะไม่เหมือนของเรา คือต้องไม่ได้มาจากต้นฉบับแท้ที่ถูกรวบรวมและจัดสาระบบโดยนักบุญเยโรม ภายใต้การรับรองของ ประสันตปาปาดามาซัส ในปีค.ศ 384 อันนั้น แต่ถ้าคุณอ้างว่ามาจากอันนั้น แล้วเกิดแปลไม่เหมือนเราในปัจจุบัน ผมก็รับประกันได้ว่าคงไม่ใช่ทางคาทอลิคที่แปลผิดหรือแปลตกหล่นแน่ๆครับ เพราะทางโปรแตสแตนท์ และออโธดอก เอาไปแปลเอง ก็ออกมาคล้ายๆกัน แต่ที่เอาไปแปลแล้วไม่เหมือนใครเลยคือทางหอประกาศ ดังนั้น สบายใจได้ครับว่า ทางต้นกำเนิดนั้น ไม่มีทางผิดมากไปกว่าที่ก่อตั้งใหม่แน่นอนครับ
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 5:11 am

มีคนมาชี้แจงแล้วละ แจ่มแจ้งแดงแจ๋ เลยละ ขอบคุณพี่Holyด้วยครับ  ::011::
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 7:09 am

ขอคุณพี่ผู้สนใจศึกษาตามไปดูลิงก์นี้นะครับ นี่คือคำตอบของโปรเตสแตนต์ ฮะ

http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... 58#p106358

ปล.1 เจี๊ยบเองก็เคยเป็นพุทธมาก่อน ศึกษาผ่านกลุ่มที่คริสต์โปรฯเรียกว่าเทียมเท็จ (คือเหมือนจริง แต่ไม่จริง ) และในที่สุด ก็มาพบกับพระเยซูเจ้า (บุคคลที่ 2 พระตรีเอกภาพ )จึงตัดสินใจ
เป็นสาวกของพระเยซูเจ้าในกรอบโปรเตสแตนต์ ซึ่งเหมาะกับตัวเองมากที่สุด

ปล.2. มีพี่คนหนึ่ง อยู่ทางปักษ์ใต้ ได้เป็นคริสต์ พยานพระยะโฮวาห์ มาก่อน เมื่อมาศึกษา กับพวกเรา กลุ่มคริสเตียน-คริสตัง เดี๋ยวนี้เขาตัดสินใจ เป็นคริสเตียน แล้วครับ

ปล.3 กำลังจะไปโบสถ์แล้ว

ปล.4 โบสถ์ของพยานพระยะโฮวาห์ ที่สุขุมวิท 2 ใกล้ๆ คริสตจักร Calvary งามล้ำอลังการ มากๆ ฮะ
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 11:59 am

โบสถ์ ตรง ซอย สันติคาม ใช่ของพยาน รึป่าว แต่ถ้าดูจากป้ายชื่อ ใช่เลย
ผู้สนใจศึกษา
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 05, 2008 7:16 pm

อาทิตย์ ม.ค. 06, 2008 9:00 pm

  ขอบคุณคุณholyมากๆครับกับตำตอบที่จุใจพอสมควร ได้ความรู้และให้ประโยชน์เยอะเลย(ยังอ่านไม่จบเลยครับแต่ขอขอบคุณก่อน แฮ่ะๆ)เดี๋ยวผมอ่านจบจะขอใช้เวลาพิจารณาและเอามาบอกอีกทีนะครับ(หวังว่ายังไม่ถูกแบนไปซะก่อนนะ) ::014::
*ปล.ช่วงนี้อ่านตัวหนังสือในคอมฯนานๆแล้วมันปวดลูกตาและทำให้อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องหนะครับ มีใครแนะนำร้านแว่นดีๆให้ได้บ้างครับ
ืืnoomo

ศุกร์ ม.ค. 11, 2008 12:02 am

อ่าสวัสดีคะดีใจจังเหมือนเจอเพื่อนเลยตอนนี้ก็กำลังศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพยานเหมือนกันยินดีที่ได้
รู้จักนะคะยังไงขอเป็นเพื่อนพูดคุยด้วยคนนะคะ
ผู้สนใจศึกษา
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 05, 2008 7:16 pm

ศุกร์ ม.ค. 11, 2008 1:43 am

ตั้งใจศึกษาต่อไปนะจ๊ะหางอึ่งอย่างผมพูดได้เท่านี้แหละครับ (เสียใจด้วยนะผมมาโพสครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วครับ)ถ้ายังอยากคุยกันต่อก็ทิ้งอีเมลไว้ในกระทู้
นี้แล้วกันนะครับวันหลังจะเมลไปคุยด้วยจ้ะ  bye
หนู

ศุกร์ ม.ค. 11, 2008 11:07 am

ว้าไมอ่ะไมรีบไปซะละไม่คุยกันต่อแล้วเหรอ T T
อายุ17

พุธ พ.ค. 07, 2008 10:09 pm

ผู้สนใจศึกษา
เพื่อนใหม่

Offline

Posts: 10


  Re: ผมศึกษากับพยานพระยะโฮวาครับอยากแลกเปลี่ยนความรู้หน่อยครับ
« Reply #3 on: January 06, 2008, 06:00:49 am » Quote  

--------------------------------------------------------------------------------
     ขอบคุณที่ตอบครับผมยังอยากรู้เกี่ยวกับคาทอลิกรวมถึงนิกายใหญ่ๆอีกครับว่าแต่ละนิกายต่างกันอย่างไรบ้างและทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกเป็นคาทอลิก
ละ่ครับ ช่วยอธิบายเรื่องต่างๆดังนี้ด้วยครับ
-ความเชื่อเรื่องพระแม่มาเรีย
-ที่มาของพระคัมภีร์ที่ชาวคาทอลิกใช้(ที่จริงแล้วผมเชื่อว่าที่มาน่าจะมาจากแหล่งเดียวกันนะครับ)
-ตามที่เราทราบกันว่าพระเจ้าทรงเป็นความรักนั้น เป็นเรื่องสมเหตุสมผลหรือไม่ที่เราจะถูกทรมานตลอดกาลในนรกหากเราทำบาป
เอาเท่านี้ก่อนแล้วกันนะครับ ดึกแล้วขอไปนอนก่อนครับ



- การอธิษฐานต่อแม่พระ........ไม่ได้ให้แม่พระอวยพระพร  แต่เป็นการให้พระองค์ช่วยวิงวอน พระเป็นเจ้าให้ คล้ายกับการที่พยานพระยะโฮวา  อธิษฐานให้กับ ตนเองหรือญาติพี่น้องหรือคนที่เข้ามาศึกษาใหม่
- พระคัมภีร์ของคาทอลิก  ไม่เคยถูกเปลี่ยน เหมือนกับที่พยานพระยะโฮวาเปลี่ยน ...ตอบง่ายๆ  เพราะผมเคยศึกษากับพยาน จนใกล้จะบัพติศมาแต่ไม่ได้ศึกษาต่อ ด้วยเหตุบางประการ
- นรกของคุณอยู่ใน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของคำว่า เกเฮนนา  ฮาเดส  หรือเชลโอนก็แล้วแต่.....ซึ่งคุณแปลตามรากศัพท์ แล้วจะหมายถึงแค่ที่ทิ้งขยะหรืออะไรก็ตาม (ถ้าคุณกำลังศึกษาอยู่จริงคุณจะรู้ผมหมายถึงอะไร) เหล่านี้ เขาเหล่านั้นพยายามบิดเบือนคำสอนให้คิดว่านรกไม่มีจริง

===ถามหน่อย  พระยะโฮวา ห้ามร้องเพลงชาติด้วยเหตุใด ...มีระบุในคัมภีร์ไบเบิ้ลหรอว่าห้ามร้องเพลง   " หึๆ เรื่องนี้คุณคงรู้ดี "  แล้วอยากทราบอีกอย่างว่า ชนหนึ่งแสนสี่หมื่นสี่พันคนที่ยังมีชีวิตอยู่ที่คุณอ้างว่า เขาเริ่มนับใหม่นะ......ในไบเบิ้ลบอกเหรอครับว่าให้นับใหม่ ?? แล้วเขาเหล่านั้นพูดภาษาแปลกๆโดยที่ไม่เรียนได้จริงหรือ ....ผมเองคือคนหนึ่งที่ได้เจอกับชนแสนสี่.....แต่ผมไม่เห็นว่าเขาจะต่างกับมนุษย์ธรรมดาตรงไหน .......

อยากจะบอกให้ฟังเรื่อง = ที่คิดว่า พระเยซูเป็นนายชั่งใหญ่ของพระเจ้าและถูกพระยะโฮวาสร้างขึ้น.......ในพระธรรมยอห์น 16:28 พระเยซูตรัสว่า พระบดาเป็นใหญ่กว่าเราก็จริง .....แต่ในทางกลับกันพระองค์ เคยตรัสว่า "เราอยู่ในพระบิดาและพระบิดาอยู่ในเรา" , "ใครได้เห็นเราก็เหมือนเห็นพระบิดา"  คุณอ้างว่าพระองค์เป็นถาพฉายของพระยะโฮวาพระบิดาเจ้าก็จริง.....แต่ถามว่าคุณแน่ใจได้อย่างไรว่า คุณตีความถูก ...เพราะที่พระองค์ตรัสว่า " พระบิดาเป็นใหญ่กว่าเรา " ตอนนั้นพระองค์อยู่ในฐานะกายเนื้อหนังเพียงเท่านั้น .....ในเรื่องพระตรีเอกภาพก็เช่นกัน  ถ้าพระเจ้าปราศจาก พระจิต(พระวิญญานบริสุทธิ์ หรือที่ใครบางคนเรียกว่าพลังปฏิบัติการ ) แล้วพระเจ้าจะยังเป็นพระเจ้าอยู่หรือไม่....ด้วยเหตุว่าไร้ซึ่งสรพพานุภาพ ...  ด้วยเหตุนี้ พระบิดา พระบุตรและพระจิต  .....จึงถูกเรียกรวมกันว่า GOD เพราะJesus ไม่ใช่ GOD , Our Father ไม่ใช่ GOD , Holy Spirit ไม่ใช่GOD   แต่หากเป็น   Our father Jesus and Holy spirit เป็น GOD ต่างหาก .....
ปล ...นิกายนี้ไม่มีไม้กางเขนด้วยเหตุว่าเชื่อกันว่า แปลจากรากศัพท์ ของคำว่า สเตารอส (ภาษาฮิบรู) หรือซีล่อน (ภาษากรีก) ในทั้งพระคัมภีร์เดิมและพระคัมภีร์ใหม่ว่าหมายถึงไม้ท่อนเดียว จึงมีความเชื่อที่ความพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้ท่อนเดียว ......ถามหน่อยว่า เห็นพูดอย่างนี้กันหลายคน ไม่ทราบว่า มีนักภาษาศาสตร์มาแปลอย่างจริงจังหรือไม่  แล้ว ในพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงความหมายรงนี้มีแค่สองตอน แต่หากตอนอื่นๆใช้คำว่ากางเขน.....อีกมากมาย ทำไมถึงเอามาอ้าง.....(เพราะอยากทำให้เกิดความแตกต่างงั้นหรือ???หรือว่าด้วยเหตุผลใด)
ขอพระกุมารพระทานพร เดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต     (หวังว่าข้อความของเด็กอายุ 17คนนี้จะเปลี่ยนใจใครหลายๆคนที่หลงผิดได้)
Isolation
โพสต์: 1042
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
ที่อยู่: Ether23@hotmail.com

พุธ พ.ค. 07, 2008 10:31 pm

ศาสนจักรเริ่มเเรกก็คือโรมันคาทอลิก เเล้วที่เเตกเเยก ออกไปเเต่ก่อนก็อยู่กับ คาทอลิก ทั้งหมด
saroonram
โพสต์: 160
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 16, 2007 3:20 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 08, 2008 12:57 pm

ขอเสริม  ห้ามบริจาคเลือด  ด้วยและบอกว่าพระเยซูกับมีคาแอลเป็นองค์เดืยวกัน  ยังไงครับ
Isolation
โพสต์: 1042
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
ที่อยู่: Ether23@hotmail.com

พฤหัสฯ. พ.ค. 08, 2008 1:02 pm

เทวดาก็เทวดา พระเยซูก็เป็นพระเยซู สิ
saroonram
โพสต์: 160
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 16, 2007 3:20 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 08, 2008 1:21 pm

เคยด้วยตนเอง  ที่ว่าพระเยซูเป็นเทวดามีคาแอลลงมาจุตินั้นเอง  จากคำสอนของพี่น้องพยานฯที่ขอนแก่นที่เคยสอนผมผมก็งงนะแต่ก็ขอความกระจ่างว่าพี่น้องพยานฯได้สอนแบบนี้ไหม 
Isolation
โพสต์: 1042
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
ที่อยู่: Ether23@hotmail.com

พฤหัสฯ. พ.ค. 08, 2008 1:30 pm

งง เลย พระเยซู เป็นเทวดามีคาแอล คนละคนเรยคร้าบบพี่น้องคับ  :grin:
:: ทั่ น เ บ เ น ดิ๊ ก โ ต ::
โพสต์: 574
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 08, 2008 1:47 pm

อานะครับ พระเยซูก็เป็นพระบุตร เป็น หนึ่งในพระตรีเอกภาพ


ส่วน มีคาเอล เป็นเทวดา  ที่รับใช้ พระเจ้าและปกป้องพระศาสนจักรครับ ไม่ใช่ คนๆเดี่ยวกานคร้าบ :afro:
Isolation
โพสต์: 1042
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
ที่อยู่: Ether23@hotmail.com

พฤหัสฯ. พ.ค. 08, 2008 1:53 pm

ฮีบรู 1:14
ทูตสวรรค์ทั้งปวงเป็นแต่เพียงวิญญาณผู้ปรนนิบัติ
ที่พระองค์ทรงส่งไปช่วยเหลือบรรดาผู้ที่จะได้รับความรอดเป็นมรดกมิใช่หรือ
ความทุกข์ทรมานของพระคริสต์

สุดยอดเลยคับ
ตอบกลับโพส