การขยายความ:การเสวนาและการประกาศพระวรสาร

คริสตสัมพันธ์ เอกภาพในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 25, 2008 11:21 pm

เทียบเอกสาร

การเสวนาและการประกาศพระวรสาร

(i)ลักษณะ 2 ด้านของการเผยแผ่พระวรสารของพระศาสนจักร
โดย พระคาร์ดินัล ฟรังซิส อะรินเซ(Francis Arinze)
ประธานสมณสภาเพื่อการเสวนาระหว่างศาสนา
(President of the pontifical Council for Interreligious Dialogue)

(ii)ความสัมพันธ์ที่มีต่อพระสมณสาส์นพระพันธกิจขององค์พระผู้ไถ่"Redemptoris Missio"โดย พระคาร์ดินัล โยเซฟ ทอมโก(Jozef Tomko)
สมณมนตรีสมณกระทรวงประกาศพระวรสารสู่นานาชาติ
(Prefect of the Congregation for the Evangelization of Peoples)

คำนำ

(i)พระศาสนจักรภายหลังการสังคายนาวาติกันที่ 2 มีเอกสารและคำอธิบายเพื่อให้ความกระจ่างเป็นหลัก
และแนวทางในเรื่องการแพร่ธรรม ศาสนสัมพันธ์ ทั้งจากที่ประชุมสภาสังคายนาวาติกัน 2 เช่น


(1)Nostra Aetate(NA)
คำแถลงของสภาสังคายนา เรื่อง ความสัมพันธ์แห่งพระศาสนจักรกับบรรดาศาสนาที่มิใช่คริสตศาสนา(1965)

(2)Ad Gentes(AG)
พระสมณกฤษฎีกาแห่งสภาสังคายนา ว่าด้วย งานธรรมทูตแห่งพระศาสนจักร(1965)

(ii)พระสมณสาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 เช่น

(1)Ecclesiam Suam(ES)
พระสมณสาส์นสากลเรื่อง พระศาสนจักรของพระองค์
(2)Evangelii Nuntiand(EN)
พระสมณสาส์นการประกาศพระวรสารในโลกปัจจุบัน

(iii)พระสมณสาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 เช่น

(1)Redemptoris Missio(RM)
พระสมณสาส์น พระพันธกิจขององค์พระผู้ไถ่(1990)

(iv)หน่วยงานของพระศาสนจักร

(1)โดยสมณสภาเพื่อการเสวนาระหว่างศาสนา:
ทัศนคติของพระศาสนจักรคาทอลิกต่อผู้นับถือศาสนาอื่นๆ(the Attitude of the chuech toward Followers of the other Religions)
(2)โดยสมณสภาเพื่อการเสวนาระหว่างศาสนาและสมณกระทรวงประกาศพระวรสารสู่นานาชาติ:
การเสวนาและการประกาศพระวรสาร(Dialogue and Proclamation)


(มีต่อ-แต่น่าจะไม่ใช่วันนี้)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อังคาร พ.ค. 27, 2008 9:25 am

เทียบ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=8158.0

(1991)
สมณสาส์นเกี่ยวกับการไถ่กู้
Lettera enciclica Redemptoris missio
โดยสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่2

เนื้อหาของพระสมณสาส์นนี้เน้นให้เราเห็นถึง
ความจำเป็นของการแพร่ธรรมผ่านทางการเสวนา และ ตอบคำถามที่ว่า

"การเสวนาระหว่างศาสนาและการประกาศพระวรสารไปด้วยกันได้อย่างไร ในเมื่อการประกาศพระวรสาร มีเพื่อเชื้อเชิญให้ผู้คนยอมรับและเข้ามาในพระศาสนจักรผ่านศีลล้างบาปมิใช่หรือ?"ซึ่งคำตอบที่ได้ทำให้เรามีการเริ่มต้นการทำศาสนสัมพันธ์ในเวลาต่อมามากขึ้น

สรุปคร่าวๆถึงเนื้อความในพระสมณสาส์น
ขั้นแรกเริ่มเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ"ตัวเรา"ในฐานะผู้นำสาร(แพร่ธรรม)

(1)สำหรับผู้ที่เป็นคาทอลิกมานานหรือสักพักแล้ว เราต้องรู้ข้อเท็จจริงว่า"การแพร่ธรรม"เป็นอย่างไร?

ตอบการแพร่ธรรม คือ การเผยแสดงองค์พระเยซูคริสตเจ้า พระผู้ดำรงพระเมตตาล้นเหลือผ่านการกระทำของเรา นั่นคือ เราต้องแสดงออกซึ่งความใจกว้างสำหรับสิ่งที่ดี และมีวิธีการที่เยี่ยมยอดมากๆสำหรับบอกกับผู้คนที่ทำไม่ดีว่า "นี่มันไม่ดีนะ!" โดยเรายึดเอาพระเยซูเจ้าที่ปรากฎผ่านพระวรสารเป็นศูนย์กลาง ทรงมี Case Study มากมายที่เราสามารถนำมาใช้ได้เสมอๆ

ข้อความหนุนใจ
"การเป็นพระสงฆ์เป็นสิ่งล้ำเลิศ แต่การดำรงเป็นคริสตังที่ดี ก็หาใช่ว่าเป็นสิ่งต่ำต้อยไม่"
(วาทะพระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชีย,หนังสืออนุสรณ์หิรัญสมโภช 25 ปี บรรพชาของพระคาร์ดินัล)

(2)เราต้องรู้ว่า"การแพร่ธรรม"ที่ยึดเอาพระเยซูเจ้าเป็นแบบอย่างเป็นอย่างไร

ตอบเราต้องทราบว่า องค์พระเยซูนั้นทรงสุภาพมาก ทรงเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของมนุษย์ โดยแสดงออกถึงความเกรงใจ(ลูกา 24:28) ทั้งที่เป็นถึงบุตรพระเจ้า(แต่ก็ทรงยอมรับพระธรรมชาติมนุษย์) ทรงมีพระธรรมชาติร่วมกับพระบิดาและพระบุตร เป็นสามพระบุคคลยิ่งใหญ่เสมอกัน แต่ก็ทรงถ่อมพระองค์ลงเสมอ ดังที่พระองค์ตรัสว่า "ทำไมเรียกเราว่าพระผู้ประเสริฐ เพราะมีแต่พระบิดาเท่านั้นที่ประเสริฐ"(มาระโก 10:18)

จุดนี้ จะทำให้ท่านเห็นว่า "การแพร่ธรรม ต้องมี ความสุภาพ การเสียสละ และ ความถ่อมตัวและใจลง เพื่อยกจิตให้สูงขึ้น" ในทางปฏิบัติแล้วการแพร่ธรรมยังมีอีกสิ่งคือเราต้องคำนึงถึง"ความเกรงใจ" (เมื่อเราเกรงใจเราจะพิจารณาคำพูดมากขึ้น)

(3)หากท่านคิดจะเริ่มต้นการแพร่ธรรม ท่านควรเริ่มด้วยการสวดภาวนา

ตอบในพระสมณสาส์นเกี่ยวกับการไถ่กู้นี้บอกเราว่า"ชีวิตจิตคือรากฐานของกิจการแพร่ธรรมทุกอย่าง"ดังนั้น เราเองแม้จะไม่มีความกลัวเพราะความเชื่อเต็มเปี่ยม แต่เรายังต้องภาวนา ในที่นี้ ผมแนะนำให้คริสตังเราสวดสายประคำ เพราะเราจะได้ทุกสิ่งทั้งครบ ทั้งพระจิตนำทาง(บทอัญเชิญพระจิต) พระหรรษทาน พระเมตตา ความรักของพระเป็นเจ้าที่หลั่งมายังเรา(และเกื้อให้ฤทธิ์กุศลที่เหลือทำงาน) เป็นการทำให้ร่างกายเราเป็นพระวิหารของพระเจ้า(Sedes Dei)จึงผลักดันให้มโนธรรม(Vox Dei)ในใจกระจ่าง

ข้อความหนุนใจ
"การสวดสายประคำคือการเรียนรู้ที่จะมองพระเยซูเจ้าด้วยสายตาของแม่พระ และรักพระเยซูเจ้าด้วยหัวใจของแม่พระ"
(สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2)

(มีต่อ)
ตอบกลับโพส