ความจริง

คริสตสัมพันธ์ เอกภาพในคริสตศาสนา
Jenz
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 9:53 pm

ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 10:10 pm

พระเยซู ผู้ที่ผมนับถือสำคัญกว่า..... แต่ทำไมคาทอลิกจึงให้ความสำคัญกับพระแม่มารี ไม่รู้จักจบสิ้น ท่านก็เป็นเพียงคนๆหนึ่งที่พระเจ้าใช้เท่านั้นเอง แต่พระเยซู พวกคุณกลับให้ความสำคัญน้อยกว่า ทั้งๆที่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ยอมทุกข์ทรมาน รับโทษบาปแทนเรา พวกท่านกลับมองว่าสำคัญน้อยกว่าพระแม่มารี
หากพวกท่านกำลังอ่านอยู่โปรดคิดเสียใหม่  *อีกอย่าง  พระเจ้ามีบัญญํติ10ประการ หนึ่งในนั้นบอกว่า  ห้ามทำรูปเคารพสำหรับตน แต่ทุกวันนี้ ในวัด(วิหาร)ของพวกท่าน มีแต่รูปเคารพ แม้มันจะเป็ฯรูปของพระเยซูก็ตาม แต่ถ้าท่านกราบไหว้ ก็เท่ากับท่านเคารพเพียงรูปปั้น (ซึ่งทำเหมือนกับว่า พระองค์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เหมือน พระพุทธเจ้า....)  **สุดท้าย พวกท่านก็ไม่แต่อะไรกับศาสนาพุทธเลย ที่มีรูปเคารพ และ พิธีเพียงอย่างเดียว ไม่ให้ ความสำคัญกับพระเจ้าจริงๆ
:: ทั่ น เ บ เ น ดิ๊ ก โ ต ::
โพสต์: 574
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 10:31 pm

อ่า เราวอนขอแม่ไง ให้แม่ไปขอลูกเพราะแม่สนิทกะลูก  ลูกก็รักแม่ ที่เลี้ยงดูลูกในโลกมนุษย์ เราก็รักเหมือนแม่เราเหมือนกัน เพราะเป้นแม่พระ...


  รูปเคารพ ก็ เป็นสิ่งประดับเฉยๆ แต่ที่ไหว้นิส่งจิตใจไปถึงพระเจ้า ถ้ากราบ นิ กราบ ศิลมหาสนิท ที่เสกแล้ว เป็นกายาพระเยซู


  อ่า ของคุณ คุณก็แยก ออกมาจากคาทอลิก  ตัวแทนของคุณก็เป็นอดีต พระสงฆ์ คาทอลิกนะครับ

  แล้ว คาทอลิก แม่พระก็แจ้งสารเลยๆ  ต้องให้แม่พระปรากฏแก่ท่านหรอ  แต่ว่า ยังไงเราก็เป็นพี่น้องก็น อย่า ว่ากันเลย


  เรามีพ่อเด๋วกัน  เด๋ว จะเหมือน กาอิน กะ อาแบล นะ


  เลือดคาทอลิกทุกคนก็ ข้น นะครับ  เรารักกันเถอะ
†PricELiFE†
โพสต์: 363
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 12, 2008 10:21 pm
ที่อยู่: World

ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 10:34 pm

สำหรับคาทอลิค ตัวผมเอง ไม่เคยไหว้รูปปั้นนะครับ

เรามีไว้เพื่อเตือนใจเหมือนเวลาห้อยกางเขนนั้นแหละครับบ

อ่า พอดีเลย คุณพ่อเพิ่งพูดเรื่องพระแม่มารีย์ มาหยก ๆ

พระเยซู เป็นผู้ไม่มีบาป เพราะงั้น พระแม่มารีย์พรมมาจารีย์ (ขออภัยหากผมเขียนผิด)

ก็ต้องเป็นผู้ไม่มีบาปด้วย ครับ ถึงแม้ในพระคัมภีร์จะไม่กล่าวถึงท่านมากมายนัก

แต่ผมเชื่อในแม่พระครับ เหมือกับที่ผมเชื่อต่อองค์พระบิดา พระบุตร และ พระจิต

ผมไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าคุณจะคิดยังไง ?

แต่สำหรับผม สารแม่พระผู้เห็นใจ ในบอร์ดนี้ เคยช่วยผมมาหลายครั้งแล้วครับ

แม่พระอบอุ่น คล้ายกับพระบิดา

อยากจะขอโทษ เพราะผมเองก็ไม่อาจจะแบ่งเกณฑ์ ในความรักที่มีได้

แต่ผมเชื่อ ไม่ได้เชื่ออย่างงมงาย แต่เหตุผล มันอยู่ลึกลงไปในจิตใจครับ

ไม่อาจจะอธิบายออกมาเป็นคำใดๆ ได้

ปล.จะเหมือนศาสนาพุทธได้ยังไงกันครับ ? เพราะสำหรับเล้ว พระเป็นเจ้าสถิยต์อยู่กับเรานี่ครับ ^^

หากผมตอบผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย และผมก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะหาเรื่องนะครับ

เพราะ ทั้ง คาทอลิค และ โปรฯ ในบอร์ดนี้เป็นมิตรกันครับ ขออภัยอีกครั้งหากใช้ถ้อยคำรุนแรงไปครับ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 10:44 pm

อันนี้เป็นคำถามน่าเบื่อ จากฝ่ายโปรฯ ที่ขาดความรู้ความเข้าใจ และรีบด่วนวิพากษ์วิจารณ์ และพยายามยืนยันว่าตัวเองเท่านั้น ถูกต้อง :evil:

โห...ทำโพล ขู่ด้วย ถ้าลบ เพราะเขาเบื่อ คุณไง

คุณช่วยศึกษา คำว่า ICON หน่อย
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 10:45 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 11:08 pm

เป็นคำถามที่คลาสสิกมากครับ เบื่อจะอธิบาย ::010::

คาทอลิกนับถือพระเจ้าสูงสุด นักบุญทุกคนแค่มีหน้าที่ช่วยเสนอวิงวอน รวมทั้งพระแม่มารีย์ด้วยครับ

แต่เคารพรักพระแม่มารีย์เป็นพิเศษเพราะว่าเป็น "แม่ของพระ" และเป็นผู้ที่ปฏิบัติตามน้ำพระทัยอย่างครบถ้วนครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Batholomew เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 11:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 11:11 pm

ส่วนตัวถือว่าเป็นกระทู้ไม่สร้างสรรค์ในห้วงเวลาปัจจุบันครับ

คำชี้แจงคือ

1. เนื้อหาในกระทู้เป็นเรื่องของศาสนาคริสต์ แต่เจ้าของกระทู้พาดพิงถึงศาสนาอื่นในลักษณะกระทบกระเทียด ตำหนิติเตียน ซึ่งไม่สมควรเป็นที่ยิ่ง
2. เนื้อหาส่วนอื่นๆ ค่อนข้างแสดงอารณ์ ความรู้สึกอย่างถือดี ค่อนข้างใจแคบในบอร์ดที่เปิดกว้างสำหรับคริสตชนทุกหมู่เหล่า ไม่เหมาะสมที่จะให้เกิดความขัดแย้งต่อไป
3. สถานการณ์บ้านเมืองกำลังเกิดความวุ่นวายอันเกี่ยวข้องกับการเคารพรูปสักการะในศาสนาอื่น ซึ่งหากมีผู้พบเห็น อาจทำให้เวบบอร์ดดีๆ ถูกปิดลงอย่างน่าเสียดายครับ
†PricELiFE†
โพสต์: 363
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 12, 2008 10:21 pm
ที่อยู่: World

ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 11:29 pm

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=7989.0

คงคล้าย ๆ กับ กระทู้นี้ล่ะมั้งครับ

ลองเข้าไปดูสิครับ

เครดิต : พี่ Holy (คนตั้งกระทู้นั้น )
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ ส.ค. 01, 2008 11:44 pm

Jenz เขียน: พระเยซู ผู้ที่ผมนับถือสำคัญกว่า..... แต่ทำไมคาทอลิกจึงให้ความสำคัญกับพระแม่มารี ไม่รู้จักจบสิ้น ท่านก็เป็นเพียงคนๆหนึ่งที่พระเจ้าใช้เท่านั้นเอง แต่พระเยซู พวกคุณกลับให้ความสำคัญน้อยกว่า ทั้งๆที่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ยอมทุกข์ทรมาน รับโทษบาปแทนเรา พวกท่านกลับมองว่าสำคัญน้อยกว่าพระแม่มารี
หากพวกท่านกำลังอ่านอยู่โปรดคิดเสียใหม่  *อีกอย่าง  พระเจ้ามีบัญญํติ10ประการ หนึ่งในนั้นบอกว่า  ห้ามทำรูปเคารพสำหรับตน แต่ทุกวันนี้ ในวัด(วิหาร)ของพวกท่าน มีแต่รูปเคารพ แม้มันจะเป็ฯรูปของพระเยซูก็ตาม แต่ถ้าท่านกราบไหว้ ก็เท่ากับท่านเคารพเพียงรูปปั้น (ซึ่งทำเหมือนกับว่า พระองค์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เหมือน พระพุทธเจ้า....)  **สุดท้าย พวกท่านก็ไม่แต่อะไรกับศาสนาพุทธเลย ที่มีรูปเคารพ และ พิธีเพียงอย่างเดียว ไม่ให้ ความสำคัญกับพระเจ้าจริงๆ
(1)หลายคนตอบไว้ชัดเจนแล้วนะครับ เรื่องให้ความสำคัญใครกับใครมากกว่ากัน อย่างไร
(2)เรื่องการทำรูปเคารพ พระศาสนจักรโดยการนำของนายชุมพาบาลที่สืบต่อจากนักบุญเปโตรอาศัยพระจิตเจ้าทรงนำ ได้พัฒนาและทำงานให้พระอย่างเหมาะสมที่สุดเท่าที่พวกเราเครื่องมืออันบกพร่องจะทำได้ รวมถึงการสร้างสัญญะ(ลักษณ์)ด้วย
(3)สำหรับการพาดพิงกับศาสนาอื่น พระศาสนจักรเรามีการศึกษาอย่างลึกซึ้งเรื่อง เทววิทยาด้วยพิธีกรรมกับวัฒนธรรมครับ

ผมแนะนำด้วยความเคารพ ก่อนจะพิมพ์อะไรเช่นนี้
รวบรวมหนังสือ ทางเทววิทยาของคาทอลิก และประวัติศาสตร์พระศาสนจักรมาอ่านก่อนดีมั้ยครับ
เรื่องแม่พระ ผมแนะนำพระสมณสาส์นของพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ที่ทำการยกเกียรติซึ่งยาวมาก
ได้ระบุเหตุผลไว้ชัดเจนแล้วครับ

และจริงๆแล้วในการประชุม ราวปี 2005 (ไม่แน่ใจ) ของนิกายต่างๆในศาสนาคริสต์ เช่น คาทอลิก หรือ โปรแตสแตนส์ ก็ได้มีการยอมรับ ในเรื่องราวเกี่ยวกับ สายประคำและเหตุผลแห่งการภาวนานั้นแล้วนิ่ครับ

???หรือว่ามีนิกายย่อยอันใหม่ครับ!!!
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

เสาร์ ส.ค. 02, 2008 12:53 am

งั้นคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะอธิษฐานเผื่อให้คนอื่น?
คุณเป็นพระเยซูหรือ ที่จะภาวนาต่อพระบิดาได้? (ปฎิปุจฉา)

หลักข้อเชื่อพื้นฐานในการอธิษฐานคุณอธิบายได้อย่างไร เราคาทอลิกก็อธิบายการขอแม่พระและนักบุญทั้งหลาย แบบนั้น

ดั่งที่อธิบายไว้ในพระคัมภีร์
คำอ้อนวอนของผู้ชอบธรรมมีพลังทำให้เกิดผลมากมาย
ยากอบ5:16


ในเรื่องของรูปปั้นในพระวิหาร เป็นการกระทำตามพระวาจาของพระเจ้า
ดั่งที่ทรงเคยตรัสแก่โมเสสให้สร้างงูสำริด ในกันดารวิถี
และยังทรงตรัสแก่ กษัตริย์ซาโลมอน ในการสร้างพระวิหารที่เยรูซาเลม ลองอ่านใน พงศ์กษัตริย์เล่ม1บทที่6ดูนะครับ :cool:

อนึ่ง
แล้วไม้กางเขนที่คริสตจักรของพวกคุณโปรแตสแตนท์ ถือเป็นรูปเคารพรึเปล่าละ? :rolleyes:

รูปเคารพที่พระเจ้าห้าม หมายถึงการอุปโลกน์สิ่งใดสิ่งหนึ่งมาแทนที่พระเจ้า
ซึ่งพระองค์มิได้ห้ามสิงสร้างที่ มีไว้เพื่อระลึกถึงพระองค์ครับ

(และนี่ก้คือความต่าง ของรูปวัวทองคำกับงูสำริด) :angel:
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ส.ค. 02, 2008 1:08 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ ส.ค. 02, 2008 1:16 am

ความจริงก็คือ

ผมรักพระเยซูมากกว่าคุณอีก


เรื่องความเข้าใจผิดเรื่องรูปปั้นอ่านที่นี่

โลกตะลึง"รูปเคารพ"ในมุมมองของยิวที่ต่างจากอิสลามและfundamentalist Christian 
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=5830.0
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ส.ค. 02, 2008 1:18 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ ส.ค. 02, 2008 1:19 am

ถ้าเราอ่านพระคัมภีร์อพยพจริงๆ เราจะรู้ว่า คำว่ารูปเคารพนั้น  หมายถึงเทวรูปพระเทียมเท็จที่ไม่มีจริงที่คนโบราณอุปโลกษณ์ขึ้น ไม่ได้หมายถึงปฏิมากรรม หรือจิตรกรรมในศาสนาตัวเอง เพราะพระเจ้าให้เหตุผลในการห้ามไว้ว่า "เพราะเราเป็นพระเจ้าที่หวงแหน" คือไม่อยากให้อิสราเอลเอาใจออกห่างไปไหว้พระอื่น แต่พอตีความตามตัวอักษร ในสมัยใหม่ ก้กลัวกันเกินไป กลายเป้นพระเจ้าเป้นพวกเกลียดงานศิลปะไปซะได้ ทั้งที่จริง นอกจากรูปงู พระเจ้ายังสั่งให้สร้างสิ่งที่ใช้แสดงถึงการทรงสถิตย์ของพระองค์ ในรูปแบบรูปปั้น คือหีบพันธสัญญาที่มีรูปเทวดากางปีก2องค์ แถมทรงระบุว่า เวลาเสด็จมา จะสถิตย์ตรงรูปเทวดาทั้ง2นั้นด้วย

ดังนั้นแม้อิสราเอลจะสอนว่าพระเจ้าอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ได้อาศัยในกระโจมที่มือมนุษย์สร้าง แต่พระองค์ก็เข้าใจมนุษย์ที่ไม่ได้มีตาทูตสวรรค์ แต่มีตาเนื้อที่มองเห็นได้เฉพาะสิ่งของในโลกนี้ พระองค์จึงสั่งอย่างละเอียดถึงการสร้างหีบพันธสัญญา และให้สิ่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ ห้ามคนทั่วไปสัมผัสนอกจากสมณะ ห้ามสิ่งที่มีมลทินไปโดน เรียกง่ายๆคือเป็นวัตถุสิ่งของที่พระเจ้ากระทำให้ศักดิ์สิทธิ์

---เราคงจำได้ว่าหินบัญญัติแผ่นแรกถูกทุ่มแตกตั้งแต่ตอนโมเสสเห็นอิสราเอลนมัสการรูปวัวทอง ดังนั้น แน่ใจได้เลยว่าการห้ามทำรูปเคารพในที่นี้ พระเจ้าหมายถึงรูปเคารพในศาสนาอื่นหรือรูปเคารพของพระเจ้าที่ไม่มีจริงเช่นในกรณีวัวทองคำนั้น และหมายถึงรูปที่เอามานมัสการเทียบเท่าพระเจ้า เหมือนในศาสนาโบราณสมัยก่อนที่มีการบูชายัญต่อเทวรูปไม่ได้หมายถึงรูปของพระองค์หรือเหล่าช่าวสวรรค์เลย เพราะพระเจ้าเองทรงสั่งให้สร้างหีบพันธสัญญาที่มีรูปเครูป(เทวดาชั้นหนึ่งในสวรรค์)กางปีกอย่างชัดเจน

Exodus 25:18
พระโอวาทที่เราจะให้แก่เจ้าจงเก็บไว้ในหีบนั้น แล้วจงทำพระที่นั่งกรุณา(หรือ  ฝา  (หีบ)) ด้วยทองคำบริสุทธิ์ยาวสองศอกคืบ  กว้างศอกคืบ จงทำเครูบทองคำสองรูป  โดยใช้ฝีค้อนทำตั้งไว้ที่ปลายพระที่นั่งกรุณาทั้งสองข้าง ทำเครูบไว้ที่ปลายพระที่นั่งกรุณาข้างละรูป  ทำเครูบนั้น  และให้ตอนปลายทั้งสองข้างติดเป็นเนื้อเดียวกับพระที่นั่งกรุณา ให้เครูบกางปีกออกไว้เบื้องบนปกพระที่นั่งกรุณา ไว้ด้วยปีก  และให้หันหน้าเข้าหากัน  ให้เครูบหันหน้ามาตรงพระที่นั่งกรุณา แล้วจงตั้งพระที่นั่งกรุณานั้นไว้บนหีบ  จงบรรจุพระโอวาทซึ่งเราจะให้ไว้แก่เจ้าไว้ในหีบนั้น ณ ที่นั้น  เราจะอยู่ให้เจ้าเข้าเฝ้า  และจะสนทนากับเจ้า  จากเหนือพระที่นั่งกรุณาระหว่างกลางเครูบ  ซึ่งตั้งอยู่บน หีบพระโอวาท  เราจะสนทนากับเจ้าทุกเรื่อง

รูปภาพ

---นั่นชัดเจนว่า ทั้งโมเสส อาโรน รวมทั้งอิสราเอลทั้งหมด ก็ต้องก้มหน้านมัสการไปที่หีบที่มีรูปปั้นเทวดาทำด้วยทอง

แล้วถามว่า มันต่างกับวัวทองตรงไหน ต่างกันก็ตรงที่

1.การนมัสการวัวทองนั้นชัดแจ้งว่า นมัสการพระเท็จเทียม เป็นพระเจ้าอื่นที่สร้างขึ้นเอง จิตนาการขึ้นเองไม่มีจริง แล้วยกขึ้นแทนที่พระเจ้า
2.แต่การนมัสการพระเจ้าในจุดที่มีรูปปั้นเครูปนั้น แม้จะมีรูปปั้นเครูปกางปีกทนโท่เราก็รู้อยู่ดีวว่าเรากำลังคุยกับใคร และพระเจ้าของเราคือใคร พระเจ้าคือพระจิตที่ลงมาตรงจุดนั้นไม่ใช่ตัวรูปปั้นหรือตัวหีบนั้น เรารู้ดีว่าเครูบคือชาวสวรรค์ที่รับใช้พระเจ้า

รูปภาพ
(อิสราเอลเดินแห่หีบ แถมถวายกำยานให้ด้วย ทั้งที่หีบ เครูบ หรือแผ่นบัญญัติ โดยตัวมันเองก็ไม่ใช่พระเจ้าซะหน่อย)

---ดังนั้น แปลง่ายๆว่า ถ้าเราไหว้กางเขน หรือไหว้ไปทางรูปพระเยซู เราไม่ได้ไหว้วัสดุนั้น เรารู้ตัวว่าเราไหว้พระเยซูเจ้าผู้มีตัวตนจริงและเป็นพระเจ้า และเราต้องมีทิศที่ทำการนมัสการไปตรงกันไม่ใช่หันคนละทิศละทางมั่วไปหมด ก็ต้องมีรูปกางเขน หรือพระรูปพระเยซู อันเป็นสิ่งสร้างที่มีอยู่ในโลกเป็นเสมือนตัวแทน ประหนึ่งว่าพระองค์ลงมาอยู่ตรงนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ ส.ค. 02, 2008 1:20 am

ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับการตัดรูปปั้นของโปรแตสแตนท์นะครับ ในโปรแตสแตนท์ตัดรูปปั้นออก แต่คงกางเขนไว้ ในความเป็นจริง ถ้าจะบอกว่าตีความตามตัวอักษรจากเฉลยธรรมบัญญัติทำให้ต้องตัดรูปปั้นที่เป็นรูปตัวคนออกไป ความจริง ไม้กางเขนนี่ก็ยังเข้าข่ายนะครับ เพราะในนั้นเขียนว่า

เฉลยธรรมบัญญัติ5:8 'อย่าทำรูปเคารพสำหรับตนเป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใด  ซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน  หรือซึ่งมีอยู่ที่แผ่นดินเบื้องล่าง  หรือซึ่งมีอยู่ในน้ำใต้แผ่นดิน

ไม้กางเขนเองยังเป็นรูปของสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีอยู่ในแผ่นดินนะครับ มิหนำซ้ำคนที่ตายบนไม้กางเขนยังไม่ได้มีพระเยซูคนเดียว โจรทั่วไปสมัยนั้นก็โดนตรึงกางเขนเหมือนกัน การมีไม้กางเขนเปล่าๆไม่มีรูปที่ระบุว่าเป็นของพระเยซู จะแน่ใจได้ไงว่าเราหมายถึงไม้กางเขนของพระองค์ ไม่ใช่กางเขนทั่วไปของพวกโจร นั่นเป็นสิ่งที่อิสลามเองยังนับไม้กางเขนของคริสเตียนว่าเป็นรูปเคารพอยู่ ถ้าจะว่าไปอิสลามตีความประโยคนี้เคร่งครัดว่าโปรแตสแตนท์มาก คือตีเป๊ะตามคำพูดจริงๆ เพราะเขาจะไม่มีรูปอะไรทั้งสิ้นเลย นอกจากตัวอักษรในสุเหร่า สรุปคือถ้าโปรแตสแตนท์ยังมีรูปกางเขนในโบสถ์ แม้จะตัดรูปปั้นที่เป็นคนออกไปก็ยังนับว่าไม่ได้เคร่งเป๊ะตามตัวอักษรนี้จริงๆนะครับ
Dis volentibus

เสาร์ ส.ค. 02, 2008 2:09 am

"หากว่ารับไม่ได้และลบกระทู้นี้ก็แสดงว่าคุณเชื่อในสิ่งที่ผิดอยู่ "

ขอบพระคุณที่ช่วยตัดสินพวกเราเเทนพระเจ้าค่ะ  : emo038 :
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

เสาร์ ส.ค. 02, 2008 6:38 am

แบบว่า ผมก็เป็นโปรฯนะครับคุณ จขกท.  แต่ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องเลยนะครับที่เราจะมาแตกความสามัคคีกับพี่น้องนิกายอื่นกันแบบนี้ (ถึงตัวผมจะยังงงๆเรื่องหลักของคาทอลิกอยู่ก็เหอะ) แต่เชื่อว่าพระเจ้ามีแผนการณ์สำหรับคริสตชนทุกคนครับ

ปล. เผอิญไปอ่านแบบเรียนของน้อง (น้องเรียนอยู่โรงเรียนคาทอลิก แต่ยังนับถือพุทธ(แบบไม่จริงจัง)อยู่) เขาบอกว่า "พระแม่มารีย์ถือเป็ยบุคคลที่บริสุทธิ์ปราศาจากบาปผิดใดๆ จึงให้กำเหนิดพระเยซูคริสต์ได้" << จริงรึเปล่าครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

เสาร์ ส.ค. 02, 2008 7:48 am

กรุณาลองใช้เมนูคำว่า ค้นหา ก่อนตั้งกระทู้แบบนี้นะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ส.ค. 02, 2008 7:51 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

เสาร์ ส.ค. 02, 2008 8:59 am

In the name of father เขียน: เขาบอกว่า "พระแม่มารีย์ถือเป็นบุคคลที่บริสุทธิ์ปราศจากบาปผิดใดๆ จึงให้กำเนิดพระเยซูคริสต์ได้" << จริงรึเปล่าครับ?
เรื่องพรหมจารีย์เสมอของแม่พระนั้น เป็นไปตามคำประกาศกครับ

เราจะเทวิญญาณแห่งความเมตตาเอ็นดูและการวิงวอนบนราชวงศ์ดาวิดและชาวเยรูซาเล็ม
ดังนั้นเมื่อเขาทั้งหลายมองดูเรา ผู้ซึ่งเขาเองได้แทง
เขาจะไว้ทุกข์เพื่อท่าน เหมือนคนไว้ทุกข์เพื่อบุตรคนเดียวของตน
และร้องไห้อย่างขมขื่นเพื่อท่าน เหมือนอย่างคนร้องไห้เพื่อบุตรหัวปีของตน
ศคย 12:10



1. ผู้ให้กำเนิดพระเยซูจะต้องมาจากเชื้อสายของดาวิด
ซึ่งก็คือพระแม่มารีย์ ผู้สืบเชื้อสายประกาศกนาธัน(ลก 3:31)
2. "บุตรคนเดียว" แปลว่า แม่พระจะไม่ให้กำเนิดใครหลังจากพระเยซู
ซึ่งเจาะต่างหากจาก
3."บุตรหัวปี/บุตรคนแรก" ครับ


"เลือด...จากเลือดของแม่
เนื้อ...จากเนื้อของแม่

ลูกรัก แม่ขอตายพร้อมลูก ::008::"

รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ส.ค. 02, 2008 9:40 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

เสาร์ ส.ค. 02, 2008 8:47 pm

จะเป็นกระทู้ไข่แล้วทิ้งอีก 1 กระทู้ไหมนะ มาตั้งกระทู้หาเรื่อง ไม่ได้หวังเอาคำตอบ มาตั้งแล้วไป เฮ้ออออ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:19 am

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: จะเป็นกระทู้ไข่แล้วทิ้งอีก 1 กระทู้ไหมนะ มาตั้งกระทู้หาเรื่อง ไม่ได้หวังเอาคำตอบ มาตั้งแล้วไป เฮ้ออออ
เฮ้อ..อ...!! ด้วยคน  ::010::  ::010::
แต่ก็ทำให้เรารู้ว่าทุกคนในบอร์ดนี้ ยังคงมีความเชื่อที่เข้มแข็ง
และจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนสมาชิกที่เข้าใหม่ด้วยนะคะ
เพราะเราประกาศและยืนยันความเชื่อของเราด้วยชีวิต ด้วยคำพูด ด้วยการกระทำทั้งหมด
ถวายเป็นเกียรติมงคลแด่พระเป็นเจ้าในทุกกรณี  : xemo026 : : emo107 : : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
BloodyCross
โพสต์: 413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 10, 2008 9:49 pm
ที่อยู่: หน้าจอคอม

อาทิตย์ ส.ค. 24, 2008 9:51 pm

เห้ย !! กดผิด ไปกดพระแม่ซะงั้น
Dis volentibus

อาทิตย์ ส.ค. 24, 2008 10:25 pm

baskingdom เขียน: เห้ย !! กดผิด ไปกดพระแม่ซะงั้น
อะเฮ้ออออออออ
tan
โพสต์: 390
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 13, 2008 8:47 pm
ติดต่อ:

อังคาร ส.ค. 26, 2008 12:17 pm

ผู้ที่ปิดใจตนเองแล้วแม้พระเจ้าก็เข้าหาเขาไม่ได้ เราอย่าเอามาเป็นอารมณ์เลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

อังคาร ส.ค. 26, 2008 1:30 pm

หากเชื่อในเรื่องความรัก(ที่ถูกต้อง) ความดี ความชั่ว ความสว่าง ความมืดแล้วล่ะก็
เราสามารถที่จะยอมรับและรัก  ทุกศาสนา ภาษา ศาสนา เชื้อชาติ และเพศได้

.... พร้อมกันนั้นก็ทำหน้าที่ที่ตนเองอยู่ให้ดีที่สุด "ก็คือศาสนาที่ตนนับถือ"

แม่พระเป็นบุคคลที่น่ารักยิ่ง เราจะไม่รักท่านด้วยเชียวหรือ ...
เรารักคนดีทุกศาสนาด้วย แม้แต่คนไม่ค่อยจะดีเราก็รักและให้อภัย (แต่จะไม่สนับสนุนและเห็นด้วย กับความชั่วที่เขาทำ)

เราเห็นใครดีเราก็รัก เราเห็นใครไม่ดีเราก็รักและให้อภัย .... ความรักนั้นสำคัญที่สุด ยิ่งใหญ่ และสากลมากๆ
†mommomza†
โพสต์: 207
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 17, 2008 2:13 pm

อังคาร ก.ย. 16, 2008 10:38 am

Jenz เขียน: พระเยซู ผู้ที่ผมนับถือสำคัญกว่า..... แต่ทำไมคาทอลิกจึงให้ความสำคัญกับพระแม่มารี ไม่รู้จักจบสิ้น ท่านก็เป็นเพียงคนๆหนึ่งที่พระเจ้าใช้เท่านั้นเอง แต่พระเยซู พวกคุณกลับให้ความสำคัญน้อยกว่า ทั้งๆที่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ยอมทุกข์ทรมาน รับโทษบาปแทนเรา พวกท่านกลับมองว่าสำคัญน้อยกว่าพระแม่มารี
หากพวกท่านกำลังอ่านอยู่โปรดคิดเสียใหม่  *อีกอย่าง  พระเจ้ามีบัญญํติ10ประการ หนึ่งในนั้นบอกว่า  ห้ามทำรูปเคารพสำหรับตน แต่ทุกวันนี้ ในวัด(วิหาร)ของพวกท่าน มีแต่รูปเคารพ แม้มันจะเป็ฯรูปของพระเยซูก็ตาม แต่ถ้าท่านกราบไหว้ ก็เท่ากับท่านเคารพเพียงรูปปั้น (ซึ่งทำเหมือนกับว่า พระองค์สิ้นพระชนม์ไปแล้ว เหมือน พระพุทธเจ้า....)  **สุดท้าย พวกท่านก็ไม่แต่อะไรกับศาสนาพุทธเลย ที่มีรูปเคารพ และ พิธีเพียงอย่างเดียว ไม่ให้ ความสำคัญกับพระเจ้าจริงๆ
คำถามนี้แรงแฮะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
honeypor
โพสต์: 49
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 26, 2007 5:31 am

อังคาร ธ.ค. 30, 2008 7:32 am

เราขอแสดงความคิดเห็นนะ เราเองก็งงอ่ะ

อพยพ 20:4 อย่าทำรูปเคารพสลักสำหรับตนเป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือซึ่งมีอยู่ที่แผ่นดินเบื้องล่าง หรือซึ่งมีอยู่ในน้ำใต้แผ่นดิน
20:5 อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าเป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษเพราะความชั่วช้าของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน

เลวีนิติ 26:1 "เจ้าทั้งหลายอย่ากระทำรูปเคารพหรือรูปแกะสลักสำหรับตัว หรือตั้งเสาศักดิ์สิทธิ์ และเจ้าทั้งหลายอย่าตั้งสิ่งใดๆที่เป็นรูปสัณฐานสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยศิลาไว้ในแผ่นดินของเจ้า เพื่อแก่การกราบไหว้ เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า

โครินท์ 6:16 วิหารของพระเจ้าจะตกลงอะไรกับรูปเคารพได้ เพราะว่าท่านเป็นวิหารของพระเจ้าผู้ทรงดำรงพระชนม์ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า `เราจะอยู่ในเขาทั้งหลาย และจะดำเนินในหมู่พวกเขา และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นประชาชนของเรา'

1 จอห์น 5:21 ลูกเล็กๆทั้งหลายเอ๋ย จงระวังรักษาตัวไว้ให้พ้นจากรูปเคารพ เอเมน




May images be used simply as aids in worship of the true God?

จอห์น 4:23 แต่เวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อผู้ที่นมัสการอย่างถูกต้อง จะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นนมัสการพระองค์

2โครินท์ 5:7 (เพราะเราดำเนินโดยความเชื่อ มิใช่ตามที่ตามองเห็น)

อิสยาห์ 40:18 ท่านจะเปรียบพระเจ้าเหมือนผู้ใด หรือเปรียบพระองค์คล้ายกับอะไร

กิจการ 17:29 เหตุฉะนั้นเมื่อเราเป็นเชื้อสายของพระเจ้าแล้ว เราก็ไม่ควรถือว่าพระเจ้าทรงเป็นเหมือนทอง เงิน หรือหิน ซึ่งได้แกะสลักด้วยศิลปะและความคิดของมนุษย์

อิสยาห์ 42:8 เราคือเยโฮวาห์ นั่นเป็นนามของเรา สง่าราศีของเรา เรามิได้ให้แก่ผู้อื่น หรือให้คำที่สรรเสริญเราแก่รูปแกะสลัก


Should we venerate "saints" as intercessors with God, perhaps using images of them as aids in our worship?

กิจการ 10:25 ครั้นเปโตรเข้าไป โครเนลิอัสก็ต้อนรับเปโตร และหมอบที่เท้ากราบไหว้ท่าน
10:26 ฝ่ายเปโตรจึงจับตัวโครเนลิอัสให้ลุกขึ้นและกล่าวว่า "จงยืนขึ้นเถิด ข้าพเจ้าก็เป็นแต่มนุษย์เหมือนกัน"

ยอห์น 14:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา, 14:14 ถ้าท่านจะขอสิ่งใดในนามของเรา เราจะกระทำสิ่งนั้น

1 ทิโมธี 2:5 ด้วยเหตุว่า มีพระเจ้าองค์เดียวและมีคนกลางแต่ผู้เดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรงสภาพเป็นมนุษย์

How does God view images that are objects of worship?

เยเรมีย์ 10:14 มนุษย์ทุกคนโฉดในทางความรู้ของตน ช่างทองทุกคนจะได้อายเพราะรูปเคารพสลักของตน เพราะรูปเคารพหล่อของเขาเป็นของเท็จ และไม่มีลมหายใจในรูปเคารพนั้น
10:15 มันเป็นของไร้ค่า และเป็นผลงานแห่งความผิดพลาด มันจะต้องพินาศเมื่อถึงเวลาการลงโทษ

อิสยาห์ 44:13 ช่างไม้ขึงเชือกวัด เขาเอาดินสอขีดไว้ เขาแต่งมันด้วยกบ และขีดไว้ด้วยวงเวียน เขาแต่งรูปนั้นให้เป็นรูปคน ตามความงามของคน ให้อยู่ในเรือน
44:14 เขาตัดต้นสนสีดาร์ลง เขาเลือกต้นสนจีนและต้นโอ๊ก และปล่อยให้มันงอกขึ้นอย่างแข็งแรงท่ามกลางต้นไม้ในป่า เขาปลูกต้นแอชและฝนก็เลี้ยงมัน
44:15 แล้วมนุษย์จะเอาไปเผาเสีย เขาเอามันมาส่วนหนึ่งและให้อบอุ่นตัวเขา เออ เขาก่อไฟและปิ้งขนมปัง และเขาเอามาทำพระองค์หนึ่งและนมัสการมันด้วย เออ เขาทำเป็นรูปแกะสลักและกราบรูปนั้น
44:16 เขาเผาในกองไฟครึ่งหนึ่ง บนครึ่งนี้เขาได้กินเนื้อ เขาย่างเนื้อและกินอิ่ม และเขาอบอุ่นตัวของเขาด้วย แล้วว่า "อ้าฮา ข้าอุ่นจัง ข้าเห็นไฟแล้ว"
44:17 และที่เหลือนั้นเขาทำเป็นพระองค์หนึ่ง เป็นรูปเคารพสลักของเขา และกราบลงนมัสการรูปนั้น และอธิษฐานต่อรูปนั้นและว่า "ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้น เพราะพระองค์เป็นพระของข้าพระองค์"
44:18 เขาทั้งหลายไม่รู้ หรือเขาทั้งหลายไม่เข้าใจ เพราะตาของเขาถูกปิด เขาจึงเห็นอะไรไม่ได้ และจิตใจของเขาเล่าก็ถูกปิด เขาจึงเข้าใจไม่ได้
44:19 ไม่มีใครพินิจพิเคราะห์ในใจของตนเลย และไม่มีความรู้หรือความเข้าใจ ที่จะกล่าวว่า "ข้าได้เผามันเสียส่วนหนึ่งในกองไฟ และข้าก็เอาถ่านมันมาปิ้งขนมปัง ข้าย่างเนื้อกินแล้ว และควรหรือที่ข้าจะทำส่วนที่เหลือให้เป็นสิ่งน่าเกลียดน่าชัง ควรหรือที่ข้าจะกราบลงต่อท่อนไม้ท่อนหนึ่ง"

เอเสเคียล 14:6 เพราะฉะนั้นจงกล่าวแก่วงศ์วานอิสราเอลว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงกลับใจและหันกลับจากรูปเคารพของเจ้าเสีย และจงหันหน้าของเจ้าเสียจากบรรดาสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนของเจ้า

เอเสเคียล 7:20 เขานำความงดงามแห่งเครื่องประดับของเขามาแสดงออกถึงความสง่าผ่าเผย และเขาสร้างรูปเคารพด้วยสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนและน่าเกลียดน่าชังของเขาไว้ภายในเครื่องประดับนั้น เพราะฉะนั้นเราจะกระทำให้สิ่งนี้อยู่ห่างไกลจากเขา

How should we feel about any images that we may formerly have venerated?

พระราชบัญญัติ 7:25 ท่านทั้งหลายจงเผารูปแกะสลักอันเป็นรูปพระทั้งหลายของเขาเสียด้วยไฟ ท่านทั้งหลายอย่าปรารถนาอยากได้เงินหรือทองซึ่งปิดรูปพระอยู่นั้น หรือนำไปเป็นของท่าน เกรงว่าท่านจะติดกับดักอยู่ภายในนั้นเอง เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน
7:26 พวกท่านอย่านำสิ่งพึงรังเกียจเข้าไปในเรือนของท่าน กลัวว่าท่านจะเป็นที่ต้องห้ามเหมือนของนั้น พวกท่านจงรังเกียจและเกลียดมันอย่างที่สุด ด้วยเป็นของที่ต้องห้าม"

เอเสเคียล 37:23 เขาจะไม่กระทำตัวให้เป็นมลทินด้วยรูปเคารพและสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนของเขา หรือด้วยการละเมิดใดๆของเขาต่อไปอีก แต่เราจะช่วยเขาให้พ้นจากบรรดาที่อาศัยซึ่งเขากระทำบาปนั้น และจะชำระเขา และเขาจะเป็นประชาชนของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา


What effect could use of images in worship have on our own future?

พระราชบัญญัติ 4:25 เมื่อพวกท่านมีลูกและมีหลานและได้อยู่ในแผ่นดินนั้นมาช้านาน และท่านกระทำตัวให้เสื่อมทรามโดยการทำรูปเคารพสลักเป็นสัณฐานสิ่งใด และกระทำชั่วในสายพระเนตรพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย ซึ่งเป็นการยั่วยุให้พระองค์ทรงกริ้วโกรธ
4:26 ข้าพเจ้าขออัญเชิญฟ้าและดินมาเป็นพยานกล่าวโทษท่านในวันนี้ว่า ท่านทั้งหลายจะพินาศอย่างสิ้นเชิงจากแผ่นดิน ซึ่งท่านทั้งหลายกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครองนั้น ท่านจะไม่ได้อยู่ในแผ่นดินนั้นนาน แต่ท่านจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง

1 โครินท์ 10:14 พวกที่รักของข้าพเจ้า เหตุฉะนั้นท่านจงหลีกเลี่ยงเสียจากการนับถือรูปเคารพ

วิวรณ์ 21:8 แต่คนขลาด คนไม่เชื่อ คนที่น่าสะอิดสะเอียน ฆาตกร คนล่วงประเวณี คนใช้เวทมนตร์ คนไหว้รูปเคารพ และคนทั้งปวงที่พูดมุสานั้น จะได้รับส่วนของตนในบึงที่เผาไหม้ด้วยไฟและกำมะถัน นั่นคือความตายครั้งที่สอง

เพลงสดุดี 115:4 รูปเคารพของคนเหล่านั้นเป็นเงินและทองคำ เป็นหัตถกรรมของมนุษย์
115:5 รูปเหล่านั้นมีปาก แต่พูดไม่ได้ มีตา แต่ดูไม่ได้
115:6 มีหู แต่ฟังไม่ได้ยิน มีจมูก แต่ดมไม่ได้
115:7 มีมือ แต่คลำไม่ได้ มีเท้า แต่เดินไม่ได้ รูปเหล่านั้นทำเสียงในคอไม่ได้
115:8 ผู้ที่ทำรูปเหล่านั้นจะเป็นเหมือนรูปเหล่านั้น เออ บรรดาผู้ที่วางใจในรูปเหล่านั้นก็เช่นกัน


เราอ่านยังไงๆ ก็ตีความว่าพระเจ้าห้ามรูปเคารพ  เราตีความตามสติปัญญาของมนุษย์ ขอพระเจ้าอภัยในความผิดพลาด อาเมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
honeypor
โพสต์: 49
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 26, 2007 5:31 am

อังคาร ธ.ค. 30, 2008 7:39 am

คนในยุคนี้ที่ทะเลาะกันก็เรื่องความเชื่อ เมื่อถึงความจริงเมื่อไหร่ความเชื่อก็หายไป ผู้ที่เข้าถึงความจริงที่แท้จริงย่อมไม่มีการขัดแย้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ธ.ค. 30, 2008 3:57 pm

honeypor เขียน: เราขอแสดงความคิดเห็นนะ เราเองก็งงอ่ะ



เราอ่านยังไงๆ ก็ตีความว่าพระเจ้าห้ามรูปเคารพ  เราตีความตามสติปัญญาของมนุษย์ ขอพระเจ้าอภัยในความผิดพลาด อาเมน





แสดงว่าไม่ได้อ่านรีพลายที่ผมโพสเลยสินะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

อังคาร ธ.ค. 30, 2008 4:31 pm

Holy เขียน:
honeypor เขียน: เราขอแสดงความคิดเห็นนะ เราเองก็งงอ่ะ



เราอ่านยังไงๆ ก็ตีความว่าพระเจ้าห้ามรูปเคารพ  เราตีความตามสติปัญญาของมนุษย์ ขอพระเจ้าอภัยในความผิดพลาด อาเมน





แสดงว่าไม่ได้อ่านรีพลายที่ผมโพสเลยสินะ
Icon กับ Idol มีรูปร่างภายนอก คือ เป็น manmade เหมือนกัน

แต่สาระของ Icon กับ Idol ต่างกัน

Icon

หมายถึง รูปภาพ ปูนปั้น งานศิลป์ หรือสิ่งใดๆ ที่ทำให้ "ระลึกถึง" ฟังอีกครั้งนะครับ "ระลึกถึง"

ระลึกถึงไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งนั้นๆ เป็นเป็น reminder หรือ link ไปสู่สิ่งนั้นๆ

อาทิ เวลาเรา click ที่ ICON ของ IE บน MENUBAR มัน "เชื่อมโยง" เราเข้าสู่โปรแกรม IE แต่มันไม่ได้เป็น IE ด้วยตัวของมันเอง

Idol

หมายถึง รูปเคารพ หรือสิ่งใดๆ ที่เชื่อว่ามีฤทธิ์ด้วยตัวของมันเอง

ตามหลักเทววิทยาแบบโบราณนั้นถือว่า รูปเคารพคือ งานใดๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นแล้วให้ความเคารพด้วยเชื่อว่ามีฤทธิ์เดช

ผู้ที่ประพฤติตนเป็นพวกเคารพงานเหล่านี้ถือว่าเป็น Idolatry
:: ทั่ น เ บ เ น ดิ๊ ก โ ต ::
โพสต์: 574
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 30, 2008 5:09 pm

ถามแม่พระเลยดีก่า ^^
ภาพประจำตัวสมาชิก
honeypor
โพสต์: 49
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 26, 2007 5:31 am

อังคาร ธ.ค. 30, 2008 6:03 pm

Edwardius เขียน:
Holy เขียน:
honeypor เขียน: เราขอแสดงความคิดเห็นนะ เราเองก็งงอ่ะ



เราอ่านยังไงๆ ก็ตีความว่าพระเจ้าห้ามรูปเคารพ  เราตีความตามสติปัญญาของมนุษย์ ขอพระเจ้าอภัยในความผิดพลาด อาเมน





แสดงว่าไม่ได้อ่านรีพลายที่ผมโพสเลยสินะ
Icon กับ Idol มีรูปร่างภายนอก คือ เป็น manmade เหมือนกัน

แต่สาระของ Icon กับ Idol ต่างกัน

Icon

หมายถึง รูปภาพ ปูนปั้น งานศิลป์ หรือสิ่งใดๆ ที่ทำให้ "ระลึกถึง" ฟังอีกครั้งนะครับ "ระลึกถึง"

ระลึกถึงไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งนั้นๆ เป็นเป็น reminder หรือ link ไปสู่สิ่งนั้นๆ

อาทิ เวลาเรา click ที่ ICON ของ IE บน MENUBAR มัน "เชื่อมโยง" เราเข้าสู่โปรแกรม IE แต่มันไม่ได้เป็น IE ด้วยตัวของมันเอง

Idol

หมายถึง รูปเคารพ หรือสิ่งใดๆ ที่เชื่อว่ามีฤทธิ์ด้วยตัวของมันเอง

ตามหลักเทววิทยาแบบโบราณนั้นถือว่า รูปเคารพคือ งานใดๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นแล้วให้ความเคารพด้วยเชื่อว่ามีฤทธิ์เดช

ผู้ที่ประพฤติตนเป็นพวกเคารพงานเหล่านี้ถือว่าเป็น Idolatry

จริงๆแล้วต้องบอกก่อนนะว่าในเรื่องนี้เราไม่คิดว่าผิดหรือถูก เพราะบ้านเราก็มีรูปพระแม่มาเรียเยอะ รูปไม้กางเขนก็เยอะ รูปพระเยซูอีก เราเคยไปวัดมอนเซอราทที่สเปนมีคนมากมายบนขอพระแม่มาเรีย พอสมหวังเค้าก็เอาของมาถวาย (คล้ายๆพุทธเลย) เราก็ยังขอพรท่านสมหวังไปแล้ว เรื่องความศักดิ์สิทธิ์และการมีอยู่จริงของท่านเราแน่ใจว่ามีจริงแน่

มีคนพูดว่าเราเชื่อสิ่งใดก็เป็นความจริงสำหรับเรา แต่ถ้าเขาไม่เชื่อแม้แต่สิ่งที่มีอยู่จริงก็ไม่เป็นจริงสำหรับเขา อาจจะใช้ได้กับกรณีนี้ไหมคะ และบางทีประสบการณ์ก็สร้างความเชื่อได้เหมือนกัน เพราะคุณประสบกับมันคุณจึงเชื่อ

สำหรับตัวเรานะ เชื่ออย่างไรก็ได้ ตราบใดที่เป็ทำให้จิตวิญญาณคุณเติบโต ขอให้เชื่อด้วยความรักเป็นพื้นฐาน


ตอบคุณ holy  เราอ่านแล้วค่ะ แต่เราฟังจากหลายมุมมอง ทั้งจากคุณที่เป็นcatholic และนิกายอื่นๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 30, 2008 6:29 pm

ถ้าตีความพระคัมภีร์แค่ตามตัวอักษร
honeypor เขียน: อพยพ 20:4 อย่าทำรูปเคารพสลักสำหรับตนเป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือซึ่งมีอยู่ที่แผ่นดินเบื้องล่าง หรือซึ่งมีอยู่ในน้ำใต้แผ่นดิน
20:5 อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าเป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษเพราะความชั่วช้าของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราจนถึงสามชั่วสี่ชั่วอายุคน
ไม้กางเขน ก็คือสิ่งที่ปรากฎอยู่ในโลกตามพระคัมภีร์ข้อนี้กล่าว
พระคัมภีร์ข้อนี้ไม่ได้ตำหนิแค่การไหว้นะครับ แต่ยังรวมถึงการทำด้วย!!!

งั้นการที่ ทุกคริสตจักร(ซึ่งก็คิดว่าทุกนิกาย)มีกางเขนประดับไว้ ก็แปลว่า.....
คริสต์ทุกนิกายกำลังทำผิดพระคัมภีร์หมดเลย  :shocked: :shocked: :shocked:

รึเปล่า? :grin: :grin: :grin:
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ธ.ค. 30, 2008 7:10 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตอบกลับโพส