ศาสนาคริสต์มีความสัมพันธ์กับวิทยาศาสตร์อย่างไรครับ

คริสตสัมพันธ์ เอกภาพในคริสตศาสนา
Jeremy
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 9:49 am

เสาร์ พ.ค. 21, 2005 3:42 pm

มีตัวอย่างอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง ที่ยืนยันความจริงของบันทึกหลักการในพระคัมภีร์ เมื่อหลายพันปีมาแล้ว สุภาษิต บทที่๑๗ ข้อ๒๒ บอกว่า"จิตใจที่ผ่องใส นั้นดั่งโอสถ " โดยทั่วไปการมองโลกในแง่ดีและมีจิตใจที่ผ่องใส ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี,การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยืนยันความจริงข้อนี้ . มหาวิทยาลัยดุกซ์ ใช้เวลาศึกษา ๒๗ ปี พบว่า"คนที่รายงานว่า...มีความสิ้นหวัง, มีความพอใจในตัวเองต่ำ ,ขาดแรงจูงใจ ......มีความเสี่ยงที่จะหัวใจวาย ๗๐ เปอร์เซนต์ การศึกษาเพิ่มเติม แสดงให้เห็นว่า ความเป็นศัตรูที่ไม่ได้เยียวยาแก้ไขเป็นเวลานาน จะช่วยให้เกิดหัวใจวายอย่างมีนัยยะสำคัญ.

ตัวอย่างคนของพระเจ้าและวิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์แท้และไบเบิลไม่ขัดแย้งกัน ไม่จำเป็นต้องปกป้องฝ่ายใดเพื่อทำสงครามกับอีกฝ่ายหนึ่ง การศึกษาแบบเปิดใจ เผยให้เห็นว่า ไบเบิลและวิทยาศาสตร์ส่งเสริมซึ่งกันและกันและสนับสนุนอีกฝ่ายหนึ่ง

มนุษยชาติต้องการทั้งวิทยาศาสตร์และไบเบิล เราสามารถพบหลักการของความจริงที่แน่นอนเพียงจากการเปิดเผยของพระเจ้าเท่านั้น ,จากไบเบิล .เราควรศึกษาเพิ่มเติมความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงความรู้และความเข้าใจโลกให้ดีขึ้น
Jeremy
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 9:49 am

เสาร์ พ.ค. 21, 2005 3:43 pm

นักวิทยาศาสตร์และนักเทววิทยาบางคนมีความคิดว่า ๒ สาขาวิชานี้ไม่จำเป็นต้องอยู่ตรงข้ามกัน หลายศค.มาแล้วเมื่อวิทยาศาสตร์อยู่ในขั้นทารก และก่อนที่ผู้สนันสนุนที่มีความริษยาจะประกาศสงครามกับไบเบิล. คนที่มีเหตุผลหลายคนเห็นคุณค่าของทั้งสองสาขาวิชา"ผู้สนันสนุนวิทยาศาสตร์อาจโต้แย้งว่าพระเจ้าเปิดเผยพระองค์เองในหนังสือ๒ เล่มคือหนังสือพระคำ,ไบเบิลและหนังสือผลงานของพระองค์(ธรรมชาติ)เมื่อคนหนึ่งมีพันธะต้องศึกษาหนังสือเล่มแรก,ก็ตองมีพันธะที่ต้องศึกษาหนังสือเล่มหลังเช่นกัน"

การศึกษาหนังสือเล่มหนึ่งคือไบเบิลเป็นสิ่ง สำคัญ การศึกษาอีกเล่มก็ช่วยเหลือ,ไบเบิลคนของพระเจ้าจะยกย่องพระคำของพระเจ้าเป็นลำดับแรก แต่พวกเขาก็ไม่กลัววิทยาศาสตร์ พวกเขาทราบว่าการสร้างกฎธรรมชาติคือสิ่งพิสูจน์ผลงานของพระเจ้า

โซโลมอน เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล เป็นผู้มีความรู้ชั้นแนวหน้า ไบเบิลบอกว่าพระองค์มีความสนใจและเข้าใจกฎระเบียบทางวิทยาศาสตร์อย่างดี. โซโลมอนเข้าใจการเคลื่อนที่ของลมบนพื้นโลกและวงจรอุทกวิทยาที่ทำให้เกิดฝน(Eccบทที่๑ข้อ๖-๗)พระองค์เป็นนักพืชกรรม,สร้างไร่องุ่น,สวนและสวนผลไม้(Eccบทที่๒ข้อ๔-๕) บางทีพระองค์เป็นนักพืชศาสตร์และสัตว์ศาสตร์,มีความเข้าใจเรื่องพืช,สัตว์,นกแมลงและปลา(๑พงศ์กษัตริย์๔ข้อ๓๓) พระองค์เป็นผู้ศึกษาจิตวิทยา,สังคมวิทยา,และมนุษยสัมพันธ์. ดังที่ได้แสดงเป็นตัวอย่างในหนังสือสุภาษิต.
Jeremy
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 9:49 am

เสาร์ พ.ค. 21, 2005 3:44 pm

แต่โซโลมอน ก็รู้สึกว่าเรื่องวิทยาศาสตร์ของเขา ความรู้เรื่องสิ่งต่างๆไม่ได้นำมาซึ่งความพอใจ ชีวิตของพระองค์เหมือนขาดบางอย่างไปและไม่พบกับความพึงพอใจ,ทำให้ชีวิตของพระองค์ไร้ความหมาย(Eccบทที่๑ข้อ๑๖-๑๘)พระองค์สรุปว่า หลังจากย้อนพินิจใคร่ครวญ,คนเราวางความรอบรู้ที่พระเจ้าเป็นลำดับแรก:นี่คือเรื่องความสิ้นสุด ที่คุณได้ยิน,กลัวพระเจ้าและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ สิ่งนี่ประกอบกันเป็นหน้าที่ของมนุษษชาติ(Ecc๑๒ข้อ๑๓)

( ยังมีต่อ)
ตัวอย่างของโมเสสและดาเนียน
Jeremy
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 9:49 am

พุธ พ.ค. 25, 2005 3:02 pm

โมเสสเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนที่ได้รับการฝึกอบรมในเรื่องวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ แต่ได้รับพระพรด้วยความเข้าใจพระวิญญาณบริสุทธิ์ โมเสสได้รับการศึกษาใน"สำนักการศึกษาของอียิปต์ทุกแห่ง" (กิจการ๗ข้อ๒๒)ด้วยการแนะนำของพระเจ้า เขาสามารถแยกแยะความดีออกจากความชั่วและไม่ต้องสงสัยว่า การศึกษาในตอนแรกของเขาสามารถช่วยเหลือชีวิตของเขาได้อย่างมากใน ตอนที่พระเจ้าเรียกเขาให้นำชนอิสราเอลออกจากความเป็นทาสในอียิปต์ และการปกครองประชาชาติ

คนของพระเจ้าอีกคนหนึ่งที่ได้รับการศึกษาเพื่อแสวงหาความรู้ทางปัญญาในสมัยของเขาอีกคน ผู้พยากรณ์ดาเนียนเป็นนักเรียนที่มีปัญญาเติบโตในสำนักการศึกษาชั้นสูงของชาวบาบิโลเนีย (ดาเนียน ๑ข้อ๔)อาณาจักรบาบิโลเนียในสมัยของ ดาเนียนโดดเด่นที่สุดในโลกและก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องดาราศาสตร์
Jeremy
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 9:49 am

พุธ พ.ค. 25, 2005 3:03 pm

ปรากฎว่าดาเนียนไม่พบความขัดแย้งระหว่างความจริงทางวิทยาศาสตร์และความรู้ของพระเจ้าที่เขามีตั้งแต่ยังหนุ่ม แท้ที่จริง เขาเจริญเติบโตและรับใช้ผู้ปกครองของบาบิโลเนียและเมโด-เปอร์เซีย ในฐานะเจ้าหน้าที่ชั้นสูง การศึกษาของดาเนียนไม่ได้บั่นทอนความเชื่อในพระเจ้า

เขาทราบว่าพระคำของพระเจ้าเป็นความจริง,ไม่สามารถหักล้างได้และไม่ขัดแย้งระหว่างความรู้ทางวิทยาศาสตร์และไบเบิล เราจำต้องศึกษาจารึกเพื่อให้ได้รับชีวิตนิรันดร์(ยอห์น๕ข้อ๓๙)แต่หากเรามีเวลา เราจำต้องศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติด้วย. ด้วยการทำเช่นนั้นเราจะได้รับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเรื่องผู้สร้างเอกภพของเราและเพิ่มความเชื่อและความเข้าใจพระองค์
Jeremy
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 9:49 am

พุธ พ.ค. 25, 2005 3:03 pm

เปาโลเข้าใจว่า คนอยู่เพื่อเรียนรู้ความเข้าใจเรื่องผู้สร้างโดยการสังเกตุการสร้างของพระองค์"นับแต่สร้างโลก ธรรมชาติที่มองไม่เห็นของพระองค์-อำนาจนิรันดร์ของพระองค์และลักษณะของพระเจ้า-สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนผ่านสิ่งที่พระองค์กระทำ ดังนั้น พวกเขาแก้ตัวไม่ได้เลย วอลสตีท เจอร์นัล เขียนว่า "ถ้าวิทยาศาสตร์เล็กๆนำคนออกห่างจากพระองค์ วิทยาศาสตร์ใหญ่ๆจะนำคนกลับไปหาพระองค์(๑๐ ตุลาคม ๑๙๙๔)
Jeremy
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 9:49 am

พุธ พ.ค. 25, 2005 3:04 pm

เมื่อไบเบิลดูเหมือนจะขัดแย้งกับวิทยาศาสตร์

เราควรทำอะไรเมื่อปรากฎว่าไบเบิลขัดแย้งกับวิทยาศาสตร์

เมื่อไม่ที่ศค.ที่ผ่านมา ความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของมนุษย์ ก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นซึ่งความสามารถในการบันทึก,วิเคราะห์และมอบสิ่งที่เขาได้เรียนรู้,ผลคือการเพิ่มขึ้นซึ่งความรู้อย่างน่าพิศวง น่าแปลกใจ ไบเบิลบอกการเกิดขึ้นซึ่งความรู้อันโดดเด่นที่สุดของสังคมสมัยใหม่ ก่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่และการค้นพบทางวิทยาศาสตร์จะได้จินตนาการ

บางคนเชื่อว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ได้มาในสมัยนี้ ขัดแย้งกับไบเบิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องชีววิทยา,มานุษยวิทยา,ธรณีวิทยาและดาราศาสตร์ มันเป็นความจริงกับการรับรู้นี้-วิทยาศาสตร์ขัดแย้งกับไบเบิล-นั่นทำให้คนจำนวนมากสงสัยความถูกต้องและสิทธิอำนาจของคัมภีร์
Jeremy
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 9:49 am

พุธ พ.ค. 25, 2005 3:04 pm

เมื่อดูครั้งแรกเราเห็นว่ามีความขัดแย้งระหว่างการเปิดเผยของวิทยาศาสตร์.เราคิดว่าเราจำต้องเลือกระหว่างหลักฐานทางฟิสิกส์,วิทยาศาสตร์และจารึกคัมภีร์ ผลของความลังเลใจของเราอาจทำให้เราไม่สบายใจ แต่ไบเบิลเองก็หนุนใจเราให้ค้นหาคำตอบ เพื่อทบทวนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด ก่อนสรุป(สุภาษิต๑๘ข้อ๑๓) เราพบว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์แท้ไม่ขัดแย้งกับไบเบิล ทั้งไบเบิลก็ไม่ขัดแย้งกับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ด้วย

แม้ว่าพระคำของพระเจ้า หนุนใจเราให้ศึกษาและค้นหาความจริง.พระคำของพระเจ้ายังหนุนให้เราเปิดใจกว้าง.หลายคนด่วนตัดสินใจว่าไบเบิลกล่าวถึงสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นจริงตามที่เขียน คนอื่นก็รีบเร่งด่วนตัดสินใจต่อไบเบิลว่ามีหลักฐานข้อขัดแย้งมากมายที่ขัดต่อคัมภีร์
Jeremy
โพสต์: 211
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ม.ค. 20, 2005 9:49 am

พุธ พ.ค. 25, 2005 3:05 pm

น่าเศร้า, มันเป็นการยากสำหรับคนเหล่านั้นที่จะรับฟังไบเบิลอย่างยุติธรรม แต่พวกเขาควรทำตามอย่างชนชั้นสูงและเปิดใจอย่างชาวเมืองเบโรอา ตามที่บันทึกในกิจการ.ชาวเบโรอาได้คำพระคำด้วยใจยุติธรรม,และค้นหาจารึกทุกวันเพื่อหาว่าสิ่งนั้นกล่าวเป็นจริงเพียงไร(กิจการ๑๗ ข้อ๑๑)

เราหวังว่าคุณจะแสวงหาความจริงที่คล้ายกัน ตรวจสอบอย่างมีจุดประสงค์ถึงหลักฐานต่างๆเพื่อดูว่าความจริงที่ไบเบิล บอกว่าที่จริงแล้วเป็น"พระคำของพระเจ้า"

----------------------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2005 1:43 am

ขอบคุณ คุณ W นะคะ :D
ตอบกลับโพส