โปรแตสแตนท์และคาทอลิคต่างกันอย่างไร...
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 3:42 am
นิกายใหญ่ ของคริสต์ มี 3 นิกาย คือ....เริ่มแรก บรรพชน ของพวกเราก็รวมกันมาไม่ได้มีการแยกนิกายอะไร ต่อมา ศตวรรษที่ 11 มีความขัดแย้ง ระหว่างพระศาสนจักรตะวันออก และโรม(พระศาสนจักรตะวันตก) จึงแยก ตัวออกไป เกิดเป็นนิกายออเทออดอกซ์ในปีค.ศ. 1054
และ ต่อมา ในศตวรรษที่16 ในพระศาสนจักร ได้ประสบปัญหาต่างๆมากมาย ทั้งจากระบบ และความประพฤติของบรรดาบาทหลวง
มีอดีตบาทหลวงมาร์ติน ลูเธอร์ ยื่นประท้วง 95 ข้อ เพื่อขอให้แก้ไข(ปฏิรูป) แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากสมเด็จพระสันตะปาปา
ลูเธอร์ถูกขับออก และสั่งลงโทษ ( ยุคนั้น พระศาสนจักร มีอำนาจเหนืออาณาจักร ) เขาเลยประท้วง จึงเกิดนิกายโปรเตสแตนต์ขึ้นมา
ดังนั้นสรุปนิกายใหญ่ๆของคริสตศาสนาได้ดังนี้
1.โรมันคาทอลิก
2.ออเทอดอกซ์ แยกออกไป เมื่อ ปี ค.ศ. 1054
3.โปรเตสแตนต์ แยกออกไป เมื่อ ปี 1517 โดยอดีตบาทหลวง มาร์ติน ลูเธอร์
++++++++++++++++++++++++++++++
+โรมันคาทอลิก+
มีพระสันตะปาปาเป็นประมุข โดยสืบทอดมาตั้งแต่สมัยอัครสาวกกลุ่มแรก โดยถือว่า นักบุญ เปโตร หรือ เซนต์ปีเตอร์ คือพระสันตะปาปาพระองค์แรก และสืบทอดมาถึงพระสันตะปาปาเบนนิดิกที่ 16 องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่265
ผู้นับถือคริสตศาสนาทุกนิกายทั่วโลก เรียกเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกันว่า คริสเตียน แปลเป็นภาษาไทยคือคริสตชน แต่สำหรับประเทศไทยเรานั้น นิกายโรมันคาทอลิกถูกนำเข้ามาก่อนสมัยพระนารายณ์มหาราชโดยบาดหลวงชาวโปรตุเกส ดังนั้นการออกเสียงคำว่า คริสเตียนในภาษาโปรตุเกส ออกเสียงว่า "คริสตัง" อย่างจีซัส ก็ออกเสียงว่า "เยซู" จึงทำให้คาทอลิคเรียกผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิคว่า คริสตัง ส่วนโปรแตสแตนท์เข้ามาสมัยหมดบลัดเลย์ซึ่งเป็นอเมริกา ดังนั้น โปรแตสแตนท์ไทยจึงเรียกตัวเองว่า คริสเตียน ตามแบบภาษาอังกฤษ สำเนียงอเมริกา แต่คำว่า"เยซู"ก็ใช้ตามที่คาทอลิกและคนไทยได้คุ้นเคยแล้ว
กลับมาที่ลักษณะของคาทอลิกต่อ
คาทอลิกนั้นจะมีนักบวช ที่เรียกว่า บาดหลวง หรือซิสเตอร์
คาทอลิกจะมีการให้เกียรติพระนางมารีย์ แม่ของพระเยซูเป็นพิเศษ เรียกพระนางว่า "แม่พระ" มาจากคำว่า มารดาของพระเจ้า
ซึ่งพี่น้องโปรเตสแตนต์มักสงสัยว่าได้บันทึกในพระคัมภีร์ไหม ดูจาก พระวรสาร ลูกา 1.43 ที่นางเอลีซาเบธ กล่าวว่า
"เป็นไฉนข้าพเจ้าจึงได้ความโปรดปรานเช่นนี้ คือ มารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าได้มาหาข้าพเจ้า"
คาทอลิกจะมีการยกย่องวีรบุรุษ หรือวีรสตรีทางศาสนา หรือเรียกง่ายๆว่า บุคคลที่ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระเยซูอย่างดีมากจนเรามั่นใจว่าเขาได้ไปสวรรค์แน่นอน(คล้ายๆกรณีพระอรหันต์ในศาสนาพุทธ) เราจะเรียกคนเหล่านี้ ว่าเป็น นักบุญ
ดังนั้นหากเปรียบให้เข้าใจง่าย เรามองว่าพระเยซูคือกษัตริย์ ส่วนแม่พระก็เป็นพระราชชนนี(แบบสมเด็จย่า) เหล่านักบุญก็เหมือนขุนนาง ที่ใกล้ชิดกษัตริย์
คาทอลิกมีความเชื่อว่า ในพิธีมิซซา(พิธีนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์) เมื่อขนมปัง และเหล้าองุ่นถูกเสกในพิธี ก็คือเนื้อ และพระโลหิต เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย
โบสถ์คาทอลิกทุกแห่ง ถือเป็น1เดียวกัน ขึ้นตรงต่อกรุงวาติกัน และองค์พระสันตะปาปา ดังนั้น หากคุณเป็นคาทอลิกคุณสามารถไปวัดไหนก็ได้ที่ใกล้บ้าน สามารถเปลี่ยนวัดที่ไปได้ตามแต่สะดวก
+โปรเตสแตนต์+
โปรเตสแตนต์นั้น หลังจากการแยกนิกายในสมัยอดีตบาทหลวง มาตินลูเธอร์ หลังจากนั้นได้มีการแยกนิกายย่อยอีกหลายนิกาย
ดังนั้นโบสถ์หรือคริสตจักรต่างๆ จะไม่ได้ขึ้นกับวาติกันหรือพระสันตะปาปาแต่อย่างใด
แต่สำหรับในประเทศไทย โปรเตสแตนต์ที่ได้จดทะเบียนกับกรมศาสนา แบ่งเป็น 4 สายใหญ่ๆ คือ
1)สายสภาคริสตจักรในประเทศไทย
2) สายสหกิจคริสตจักร
3)สายสหแบ๊บติสท์
4) เซเวนเดย์แอดเวนทิสท์
นอกจากนั้นมีคริสตชนที่ไม่มีสังกัด กับ 4องค์กรที่กล่าว แต่ก็ตั้งคริสตจักร เรียกตัวเองว่าคริสตจักรอิสระ อีกมากมาย
เท่าที่ทราบมานั้น โบสถ์ใน 4 สายหลักนี้ จะมีโยงใยถึงกัน และมีการตั้งที่เป็นระบบระเบียบ มีการควบคุมดูแลความสอดคล้องในหลักข้อความเชื่อให้ถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็มีคริสตจักรที่ไม่มีที่มาที่ไปที่ตั้งขึ้นเอง ซึ่งก็ต้องระมัดระวังในหลักความถูกต้องต่างๆด้วยตัวเอง ทั้งผู้สอนและผู้เชื่อ
โปรแตสแตนต์ ไม่มีนักบวช แต่มีผู้ถวายตัวรับใช้พระเจ้า เรียกว่า ศาสนจารย์ /ศิษยาภิบาล และผู้ประกาศ ซึ่งอาจแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ การเรียกคำนำหน้าบุคคลเหล่านี้ จะเรียกว่า อาจารย์
โปรแตสแตนต์(โดยทั่วๆไป)จะไม่ให้ความสำคัญพิเศษกับพระนางมารีย์ หรือนักบุญ จะเน้นการเข้าถึงพระเยซูเจ้าโดยตรงด้วยตนเอง แต่สำหรับบางกลุ่มที่สนใจในเรื่องศาสนศาสตร์สตรี จะให้ความสำคัญกับพระนางมารีย์มากขึ้น ในฐานะแบบอย่างของสตรีคริสตชนที่ดี
สถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาของโปรแตสแตนต์เรียกว่าคริสตจักร ซึ่งคาทอลิคจะเรียกวัด
โดยทั่วไป โปรแตสแตนท์เมื่อรับเชื่อที่คริสตจักร ไหน ก็ต้องร่วมนมัสการที่คริสตจักรนั้น
พิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์เรียกว่าพิธีนมัสการ
5 องค์กรคริสตศาสนา ที่ กรมศาสนารับรอง
1.โรมันคาทอลิก
2.สภาคริสตจักรในประเทศไทย
3.สหกิจคริสเตียน (รวมทั้งแองกลกัน ลูเธอรัน ออร์โธดอกซ์)
4.สหกิจคริสตจักรแบ๊บติสต์
5.เซเว่นเดย์แอดเวนติส
และ ต่อมา ในศตวรรษที่16 ในพระศาสนจักร ได้ประสบปัญหาต่างๆมากมาย ทั้งจากระบบ และความประพฤติของบรรดาบาทหลวง
มีอดีตบาทหลวงมาร์ติน ลูเธอร์ ยื่นประท้วง 95 ข้อ เพื่อขอให้แก้ไข(ปฏิรูป) แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากสมเด็จพระสันตะปาปา
ลูเธอร์ถูกขับออก และสั่งลงโทษ ( ยุคนั้น พระศาสนจักร มีอำนาจเหนืออาณาจักร ) เขาเลยประท้วง จึงเกิดนิกายโปรเตสแตนต์ขึ้นมา
ดังนั้นสรุปนิกายใหญ่ๆของคริสตศาสนาได้ดังนี้
1.โรมันคาทอลิก
2.ออเทอดอกซ์ แยกออกไป เมื่อ ปี ค.ศ. 1054
3.โปรเตสแตนต์ แยกออกไป เมื่อ ปี 1517 โดยอดีตบาทหลวง มาร์ติน ลูเธอร์
++++++++++++++++++++++++++++++
+โรมันคาทอลิก+
มีพระสันตะปาปาเป็นประมุข โดยสืบทอดมาตั้งแต่สมัยอัครสาวกกลุ่มแรก โดยถือว่า นักบุญ เปโตร หรือ เซนต์ปีเตอร์ คือพระสันตะปาปาพระองค์แรก และสืบทอดมาถึงพระสันตะปาปาเบนนิดิกที่ 16 องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่265
ผู้นับถือคริสตศาสนาทุกนิกายทั่วโลก เรียกเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกันว่า คริสเตียน แปลเป็นภาษาไทยคือคริสตชน แต่สำหรับประเทศไทยเรานั้น นิกายโรมันคาทอลิกถูกนำเข้ามาก่อนสมัยพระนารายณ์มหาราชโดยบาดหลวงชาวโปรตุเกส ดังนั้นการออกเสียงคำว่า คริสเตียนในภาษาโปรตุเกส ออกเสียงว่า "คริสตัง" อย่างจีซัส ก็ออกเสียงว่า "เยซู" จึงทำให้คาทอลิคเรียกผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิคว่า คริสตัง ส่วนโปรแตสแตนท์เข้ามาสมัยหมดบลัดเลย์ซึ่งเป็นอเมริกา ดังนั้น โปรแตสแตนท์ไทยจึงเรียกตัวเองว่า คริสเตียน ตามแบบภาษาอังกฤษ สำเนียงอเมริกา แต่คำว่า"เยซู"ก็ใช้ตามที่คาทอลิกและคนไทยได้คุ้นเคยแล้ว
กลับมาที่ลักษณะของคาทอลิกต่อ
คาทอลิกนั้นจะมีนักบวช ที่เรียกว่า บาดหลวง หรือซิสเตอร์
คาทอลิกจะมีการให้เกียรติพระนางมารีย์ แม่ของพระเยซูเป็นพิเศษ เรียกพระนางว่า "แม่พระ" มาจากคำว่า มารดาของพระเจ้า
ซึ่งพี่น้องโปรเตสแตนต์มักสงสัยว่าได้บันทึกในพระคัมภีร์ไหม ดูจาก พระวรสาร ลูกา 1.43 ที่นางเอลีซาเบธ กล่าวว่า
"เป็นไฉนข้าพเจ้าจึงได้ความโปรดปรานเช่นนี้ คือ มารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าได้มาหาข้าพเจ้า"
คาทอลิกจะมีการยกย่องวีรบุรุษ หรือวีรสตรีทางศาสนา หรือเรียกง่ายๆว่า บุคคลที่ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระเยซูอย่างดีมากจนเรามั่นใจว่าเขาได้ไปสวรรค์แน่นอน(คล้ายๆกรณีพระอรหันต์ในศาสนาพุทธ) เราจะเรียกคนเหล่านี้ ว่าเป็น นักบุญ
ดังนั้นหากเปรียบให้เข้าใจง่าย เรามองว่าพระเยซูคือกษัตริย์ ส่วนแม่พระก็เป็นพระราชชนนี(แบบสมเด็จย่า) เหล่านักบุญก็เหมือนขุนนาง ที่ใกล้ชิดกษัตริย์
คาทอลิกมีความเชื่อว่า ในพิธีมิซซา(พิธีนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์) เมื่อขนมปัง และเหล้าองุ่นถูกเสกในพิธี ก็คือเนื้อ และพระโลหิต เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำในอาหารค่ำมื้อสุดท้าย
โบสถ์คาทอลิกทุกแห่ง ถือเป็น1เดียวกัน ขึ้นตรงต่อกรุงวาติกัน และองค์พระสันตะปาปา ดังนั้น หากคุณเป็นคาทอลิกคุณสามารถไปวัดไหนก็ได้ที่ใกล้บ้าน สามารถเปลี่ยนวัดที่ไปได้ตามแต่สะดวก
+โปรเตสแตนต์+
โปรเตสแตนต์นั้น หลังจากการแยกนิกายในสมัยอดีตบาทหลวง มาตินลูเธอร์ หลังจากนั้นได้มีการแยกนิกายย่อยอีกหลายนิกาย
ดังนั้นโบสถ์หรือคริสตจักรต่างๆ จะไม่ได้ขึ้นกับวาติกันหรือพระสันตะปาปาแต่อย่างใด
แต่สำหรับในประเทศไทย โปรเตสแตนต์ที่ได้จดทะเบียนกับกรมศาสนา แบ่งเป็น 4 สายใหญ่ๆ คือ
1)สายสภาคริสตจักรในประเทศไทย
2) สายสหกิจคริสตจักร
3)สายสหแบ๊บติสท์
4) เซเวนเดย์แอดเวนทิสท์
นอกจากนั้นมีคริสตชนที่ไม่มีสังกัด กับ 4องค์กรที่กล่าว แต่ก็ตั้งคริสตจักร เรียกตัวเองว่าคริสตจักรอิสระ อีกมากมาย
เท่าที่ทราบมานั้น โบสถ์ใน 4 สายหลักนี้ จะมีโยงใยถึงกัน และมีการตั้งที่เป็นระบบระเบียบ มีการควบคุมดูแลความสอดคล้องในหลักข้อความเชื่อให้ถูกต้อง แต่ในขณะเดียวกันก็มีคริสตจักรที่ไม่มีที่มาที่ไปที่ตั้งขึ้นเอง ซึ่งก็ต้องระมัดระวังในหลักความถูกต้องต่างๆด้วยตัวเอง ทั้งผู้สอนและผู้เชื่อ
โปรแตสแตนต์ ไม่มีนักบวช แต่มีผู้ถวายตัวรับใช้พระเจ้า เรียกว่า ศาสนจารย์ /ศิษยาภิบาล และผู้ประกาศ ซึ่งอาจแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ การเรียกคำนำหน้าบุคคลเหล่านี้ จะเรียกว่า อาจารย์
โปรแตสแตนต์(โดยทั่วๆไป)จะไม่ให้ความสำคัญพิเศษกับพระนางมารีย์ หรือนักบุญ จะเน้นการเข้าถึงพระเยซูเจ้าโดยตรงด้วยตนเอง แต่สำหรับบางกลุ่มที่สนใจในเรื่องศาสนศาสตร์สตรี จะให้ความสำคัญกับพระนางมารีย์มากขึ้น ในฐานะแบบอย่างของสตรีคริสตชนที่ดี
สถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาของโปรแตสแตนต์เรียกว่าคริสตจักร ซึ่งคาทอลิคจะเรียกวัด
โดยทั่วไป โปรแตสแตนท์เมื่อรับเชื่อที่คริสตจักร ไหน ก็ต้องร่วมนมัสการที่คริสตจักรนั้น
พิธีทางศาสนาในวันอาทิตย์เรียกว่าพิธีนมัสการ
5 องค์กรคริสตศาสนา ที่ กรมศาสนารับรอง
1.โรมันคาทอลิก
2.สภาคริสตจักรในประเทศไทย
3.สหกิจคริสเตียน (รวมทั้งแองกลกัน ลูเธอรัน ออร์โธดอกซ์)
4.สหกิจคริสตจักรแบ๊บติสต์
5.เซเว่นเดย์แอดเวนติส