Thomas à Kempis ผู้ประพันธ์ “แบบจำลองพระคริสต์
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 26, 2010 7:50 pm
Thomas à Kempis
Thomas à Kempis ผู้ประพันธ์ “แบบจำลองพระคริสต์” เกิดที่ Kempen ในแขวง Cologne ในระหว่างปี คริสตศักราช 1379 ถึง 1380 และได้เสียชีวิตลงในวันที่ 25 กรกฏาคม ปี 1471
บิดามารดาของท่าน คือ John และ Gertrude Haemerken ประกอบอาชีพเกี่ยวกับงานช่างฝีมือ โดยที่สกุล Haemerken หรือ Haemerlein มาจากภาษาลาตินว่า Malleolus อันมีความหมายแปลว่า ค้อนเล็กๆ คู่สามีภรรยา Haemerken ได้มีบุตรชายด้วยกัน 2 คน โดยคนโตคือ John และ คนรอง คือ Thomas ผู้นี้
เมื่ออายุได้ 13 ปี Thomas ก็ได้ออกเดินทางไปศึกษาที่โรงเรียนสอนศาสนา Deventer ใน Holland ขณะที่ก่อนหน้านั้นในช่วง 10 ถึง 12 ขวบปีที่ผ่านมาของ Thomas ได้มีพี่ชายเป็นผู้ให้การศึกษา สอนสั่งเขามาโดยตลอด ในตอนแรกเริ่ม เมื่อมาถึงโรงเรียนแล้ว Thomas คาดหวังว่าจะได้พบกับพี่ชายของตน ณ ที่นี่ แต่เขาก็พบว่าพี่ชายของตนได้จากที่นี่ไปได้ร่วม 2 ปีแล้ว ร่วมกันกับคนอื่นๆ ของ Brothers of the Common Life เพื่อไปสร้างชุมชนใหม่ที่ Windesheim ซึ่งห่างออกไป 20 ไมล์ จาก Deventer
Thomas ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Deventer แห่งนี้ ด้วยจดหมายแนะนำตัวที่ได้รับมาจากพี่ชาย โดยเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก Florentius Radewyn อธิการผู้ใหญ่ของ Deventer ผู้ซึ่งให้ที่พักอันอบอุ่น พร้อมด้วยการดูแลอย่างดี
เนื้อหาเหล่านี้ เราได้รู้ผ่านปลายปากกาของ Thomas เอง ซึ่งเขาได้บันทึกประวัติของเขาไว้ในยามอันชราภาพ และจากชีวประวัติที่เขาได้บันทึกเอาไว้นี่เอง ทำให้เราทราบได้ว่า ตลอด 7 ปีที่เขาอยู่ใน Deventer นั้น Thomas ได้อยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุดของ Redewyn และได้รับการเอาใจใส่อย่างดีมาโดยตลอด จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกล่าวว่า ช่วงเวลาหลายปีนั้น Thomas จะไม่ได้รับอิทธิพล ลักษณะนิสัยหลายๆ อย่างมาจากการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น
“New Devotion” ที่เป็นศูนย์กลางแนวคิดและหัวใจหลักสำคัญของโรงเรียน Deventer คือความพยายามในการรื้อฟื้น หลักข้อความเชื่อของคริสต์ศาสนาแบบดั้งเดิม ขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 14 ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ การวางรากฐานของสังฆานุกร Gerard Groote และการสืบสานงานต่อของ Florentius Radewyn ที่ทำให้เกิดคณะ “Brothers and Sisters of the Common Life” นี้ขึ้นมาได้
คณะนี้ไม่ได้ ถือสัตย์สาบานตน หากแต่ดำเนินชีวิตในความพอเพียง สมถะ ความบริสุทธิ์ และการนบนอบเชื่อฟัง โดยครองตนอย่างดังกล่าว ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามสภาวะและฐานันดรภาพของแต่ละบุคคล บางคนทำสิ่งนี้ในบ้านตนเอง ขณะที่บางคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพวกนักบวช จะทำร่วมกับชุมชนที่ตนอยู่ แต่กระนั้นก็ดี พวกเขาถูกห้ามไม่ให้เรี่ยไรบริจาค และจำต้องหาเลี้ยงชีพตนเองจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ซึ่งสำหรับบรรดานักบวชแล้ว คือการสอนสั่งพระคัมภีร์ให้กับบรรดาเด็กๆ ผู้เยาว์วัย โดยรายได้ทั้งหมดจะรวมไว้ในกองทุนกลาง เพื่อให้อธิการผู้ใหญ่สามารถจัดสรร แบ่งปันและใช้ได้ตามความเหมาะสม ขณะที่หัวใจหลักของคณะนี้ คือการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณงามความดี ให้เป็นคริสตชนตัวอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องความรักต่อพระเจ้า และต่อเพื่อนบ้าน หรือกล่าวสรุปง่ายๆ ออกมาได้ 2 คำ คือ ถ่อมตน และ อุทิศตน
Gerard Groote ได้แนวคิดในการก่อตั้งสาขาแห่งภาคีคริสตจักร เพื่อคอยเกื้อหนุนอย่างใกล้ชิดกับผู้อุทิศตนใหม่ แผนการนี้ถูกนำไปต่อยอดหลังท่านเสียชีวิตไปแล้ว โดยกลุ่ม Windesheim ซึ่งเนื้อหาที่เกี่ยวข้องนี้ ทำให้เราเข้าใจชีวิตและลักษณะนิสัยของ Kempis ได้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยว่าท่านเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในคริสตจักรพรตนี้
ที่ Deventer นี่เอง Thomas แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักเรียนตัวอย่างยอดเยี่ยม ทั้งในเรื่องการจัดการทุกอย่างได้อย่างหมดจด และทักษะในการถอดความพระคัมภีร์ ซึ่งนั่นคือพันธะกิจแห่งความรักตลอดชีวิตของท่านนั่นเอง นอกเหนือไปจากนั้น เขายังคัดลอกหนังสือและบทความมากมาย จากคุณพ่อท่านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานของ St. Bernard อย่าง บทมิสซา สำหรับใช้ในที่ชุมชน รวมถึงหนังสือพระคัมภีร์อีก 4 เล่มใหญ่ด้วย
หลังสำเร็จการศึกษาที่ Deventer แล้ว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 1399 Thomas ได้เดินทางต่อไปยัง Windesheim ที่ภูเขา St. Agnes ใกล้ๆ กับ Zwolle ตามคำแนะนำของอธิการผู้ใหญ่ Florentius Radewyn ที่ได้แนะนำให้ Thomas ไปศึกษาต่อที่นั่น ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่ John พี่ชายของตน เคยมาก่อนหน้านี้นี่เอง สถานที่แห่งนี้พึ่งถูกก่อตั้งได้เพียงไม่กี่ปี และแม้แต่อาคารสำนักสงฆ์ก็ยังไม่ได้ถูกก่อสร้างขึ้นมาเลย และแน่นอน นั่นรวมถึง สวนหย่อม เงินทุน และ ผู้อุปถัมภ์ ที่ยังขาดแคลน ยังไม่มีไปด้วย
ในช่วงที่เข้าพำนักที่นี่เป็นเวลา 9 ปี John à Kempis ได้สร้างสำนักสงฆ์ และเริ่มต้นกิจการของโบสถ์ขึ้น ขณะที่ Thomas เอง ก็ไม่ได้แต่งองค์เป็นนวกชน จนกระทั่งถึงปี 1406 ซึ่งเขตพรตถูกสร้างอย่างเสร็จสมบูรณ์ แต่เขาก็ยังไม่ได้ออกบวชเป็นพระสงฆ์อย่างเต็มตัว จนกระทั่งถึงปี 1413 อันเป็นช่วงเวลาที่โบสถ์พึ่งถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์
จากบันทึกแห่ง Agentenberg ทำให้เราทราบถึงอุปสรรคในการใช้ชีวิตทางโลกของผู้คนที่อยู่ที่นี่ (The Chronicle of the Canons Regular of Mount St. Agnes", London, 1906) ชีวิตอันเต็มไปด้วยอุปสรรค และความยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับ Thomas ในการดำรงวิถีชิวิตแบบเรียบง่ายพอเพียง และชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ เขาเคยถูกเลือกเป็นรองอธิการถึง 2 ครั้ง และเคยขึ้นเป็นตัวแทนได้ครั้งหนึ่งอีกด้วย ซึ่งการที่เค้าได้รับตำแหน่ง ได้รับการยกย่องให้เกียรติเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะ เขาคอยรักและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภาวะยากไร้เป็นประจำ สม่ำเสมอนั่นเอง ขณะที่แม้จะมีภาระหน้าที่การงาน และความรับผิดชอบที่หนักหน่วง ประดาประดังเข้ามาใส่เขา แต่สิ่งที่ดูเหมือนเป็นเครื่องผ่อนคลาย และให้ประสบการณ์ที่น่าจดจำของเขา มาจากตำรา ที่มีเนื้อหาฝ่ายจิตอย่าง "De fideli dispensatore"
หน้าที่ของ Thomas ในฐานะรองอธิการ มีอันต้องยุติลง หลังพวกเขาถูกขับไล่ออกจากชุมชน ออกไปจาก Agnetenberg ในปี 1429 จากบทบัญญัติข้อห้ามที่ถูกบังคับใช้ในประเทศ โดย Martin V. ได้เกิดปัญหาข้อพิพาทขึ้นระหว่างทาง Utrecht และบทข้อบังคับใช้ ที่มีต่อดินแดนแห่งนี้ ขณะที่ทางกลุ่มคริสตจักร มีอันต้องถูกขับออกไป จวบจนปัญหาทั้งหมดได้ยุติลงในปี 1432 ชุมชนแห่งภูเขา St. Agnes ในขณะนั้น ได้พักอาศัยอยู่ร่วมกับคริสตจักรแห่ง Lunenkerk ซึ่งพวกเขาก่อร้างสร้างตัวขึ้นมาใหม่ที่นั่น เป็นเวลากว่าปีที่ Thomas ได้ใช้เวลาร่วมไปกับ John ผู้พี่ อยู่ในอารามแห่ง Bethany ใกล้ๆ กับ Arnheim โดย Thomas ได้ถูกส่งตัวมาที่นี่ เพื่อให้ความช่วยเหลือและหนุนใจ John ผู้พี่ ผู้กำลังป่วยหนักอยู่ ณ ขณะนั้นนั่นเอง
Thomas à Kempis ผู้ประพันธ์ “แบบจำลองพระคริสต์” เกิดที่ Kempen ในแขวง Cologne ในระหว่างปี คริสตศักราช 1379 ถึง 1380 และได้เสียชีวิตลงในวันที่ 25 กรกฏาคม ปี 1471
บิดามารดาของท่าน คือ John และ Gertrude Haemerken ประกอบอาชีพเกี่ยวกับงานช่างฝีมือ โดยที่สกุล Haemerken หรือ Haemerlein มาจากภาษาลาตินว่า Malleolus อันมีความหมายแปลว่า ค้อนเล็กๆ คู่สามีภรรยา Haemerken ได้มีบุตรชายด้วยกัน 2 คน โดยคนโตคือ John และ คนรอง คือ Thomas ผู้นี้
เมื่ออายุได้ 13 ปี Thomas ก็ได้ออกเดินทางไปศึกษาที่โรงเรียนสอนศาสนา Deventer ใน Holland ขณะที่ก่อนหน้านั้นในช่วง 10 ถึง 12 ขวบปีที่ผ่านมาของ Thomas ได้มีพี่ชายเป็นผู้ให้การศึกษา สอนสั่งเขามาโดยตลอด ในตอนแรกเริ่ม เมื่อมาถึงโรงเรียนแล้ว Thomas คาดหวังว่าจะได้พบกับพี่ชายของตน ณ ที่นี่ แต่เขาก็พบว่าพี่ชายของตนได้จากที่นี่ไปได้ร่วม 2 ปีแล้ว ร่วมกันกับคนอื่นๆ ของ Brothers of the Common Life เพื่อไปสร้างชุมชนใหม่ที่ Windesheim ซึ่งห่างออกไป 20 ไมล์ จาก Deventer
Thomas ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Deventer แห่งนี้ ด้วยจดหมายแนะนำตัวที่ได้รับมาจากพี่ชาย โดยเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก Florentius Radewyn อธิการผู้ใหญ่ของ Deventer ผู้ซึ่งให้ที่พักอันอบอุ่น พร้อมด้วยการดูแลอย่างดี
เนื้อหาเหล่านี้ เราได้รู้ผ่านปลายปากกาของ Thomas เอง ซึ่งเขาได้บันทึกประวัติของเขาไว้ในยามอันชราภาพ และจากชีวประวัติที่เขาได้บันทึกเอาไว้นี่เอง ทำให้เราทราบได้ว่า ตลอด 7 ปีที่เขาอยู่ใน Deventer นั้น Thomas ได้อยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุดของ Redewyn และได้รับการเอาใจใส่อย่างดีมาโดยตลอด จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกล่าวว่า ช่วงเวลาหลายปีนั้น Thomas จะไม่ได้รับอิทธิพล ลักษณะนิสัยหลายๆ อย่างมาจากการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น
“New Devotion” ที่เป็นศูนย์กลางแนวคิดและหัวใจหลักสำคัญของโรงเรียน Deventer คือความพยายามในการรื้อฟื้น หลักข้อความเชื่อของคริสต์ศาสนาแบบดั้งเดิม ขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 14 ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ การวางรากฐานของสังฆานุกร Gerard Groote และการสืบสานงานต่อของ Florentius Radewyn ที่ทำให้เกิดคณะ “Brothers and Sisters of the Common Life” นี้ขึ้นมาได้
คณะนี้ไม่ได้ ถือสัตย์สาบานตน หากแต่ดำเนินชีวิตในความพอเพียง สมถะ ความบริสุทธิ์ และการนบนอบเชื่อฟัง โดยครองตนอย่างดังกล่าว ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามสภาวะและฐานันดรภาพของแต่ละบุคคล บางคนทำสิ่งนี้ในบ้านตนเอง ขณะที่บางคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพวกนักบวช จะทำร่วมกับชุมชนที่ตนอยู่ แต่กระนั้นก็ดี พวกเขาถูกห้ามไม่ให้เรี่ยไรบริจาค และจำต้องหาเลี้ยงชีพตนเองจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ซึ่งสำหรับบรรดานักบวชแล้ว คือการสอนสั่งพระคัมภีร์ให้กับบรรดาเด็กๆ ผู้เยาว์วัย โดยรายได้ทั้งหมดจะรวมไว้ในกองทุนกลาง เพื่อให้อธิการผู้ใหญ่สามารถจัดสรร แบ่งปันและใช้ได้ตามความเหมาะสม ขณะที่หัวใจหลักของคณะนี้ คือการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณงามความดี ให้เป็นคริสตชนตัวอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องความรักต่อพระเจ้า และต่อเพื่อนบ้าน หรือกล่าวสรุปง่ายๆ ออกมาได้ 2 คำ คือ ถ่อมตน และ อุทิศตน
Gerard Groote ได้แนวคิดในการก่อตั้งสาขาแห่งภาคีคริสตจักร เพื่อคอยเกื้อหนุนอย่างใกล้ชิดกับผู้อุทิศตนใหม่ แผนการนี้ถูกนำไปต่อยอดหลังท่านเสียชีวิตไปแล้ว โดยกลุ่ม Windesheim ซึ่งเนื้อหาที่เกี่ยวข้องนี้ ทำให้เราเข้าใจชีวิตและลักษณะนิสัยของ Kempis ได้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยว่าท่านเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในคริสตจักรพรตนี้
ที่ Deventer นี่เอง Thomas แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักเรียนตัวอย่างยอดเยี่ยม ทั้งในเรื่องการจัดการทุกอย่างได้อย่างหมดจด และทักษะในการถอดความพระคัมภีร์ ซึ่งนั่นคือพันธะกิจแห่งความรักตลอดชีวิตของท่านนั่นเอง นอกเหนือไปจากนั้น เขายังคัดลอกหนังสือและบทความมากมาย จากคุณพ่อท่านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานของ St. Bernard อย่าง บทมิสซา สำหรับใช้ในที่ชุมชน รวมถึงหนังสือพระคัมภีร์อีก 4 เล่มใหญ่ด้วย
หลังสำเร็จการศึกษาที่ Deventer แล้ว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 1399 Thomas ได้เดินทางต่อไปยัง Windesheim ที่ภูเขา St. Agnes ใกล้ๆ กับ Zwolle ตามคำแนะนำของอธิการผู้ใหญ่ Florentius Radewyn ที่ได้แนะนำให้ Thomas ไปศึกษาต่อที่นั่น ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่ John พี่ชายของตน เคยมาก่อนหน้านี้นี่เอง สถานที่แห่งนี้พึ่งถูกก่อตั้งได้เพียงไม่กี่ปี และแม้แต่อาคารสำนักสงฆ์ก็ยังไม่ได้ถูกก่อสร้างขึ้นมาเลย และแน่นอน นั่นรวมถึง สวนหย่อม เงินทุน และ ผู้อุปถัมภ์ ที่ยังขาดแคลน ยังไม่มีไปด้วย
ในช่วงที่เข้าพำนักที่นี่เป็นเวลา 9 ปี John à Kempis ได้สร้างสำนักสงฆ์ และเริ่มต้นกิจการของโบสถ์ขึ้น ขณะที่ Thomas เอง ก็ไม่ได้แต่งองค์เป็นนวกชน จนกระทั่งถึงปี 1406 ซึ่งเขตพรตถูกสร้างอย่างเสร็จสมบูรณ์ แต่เขาก็ยังไม่ได้ออกบวชเป็นพระสงฆ์อย่างเต็มตัว จนกระทั่งถึงปี 1413 อันเป็นช่วงเวลาที่โบสถ์พึ่งถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์
จากบันทึกแห่ง Agentenberg ทำให้เราทราบถึงอุปสรรคในการใช้ชีวิตทางโลกของผู้คนที่อยู่ที่นี่ (The Chronicle of the Canons Regular of Mount St. Agnes", London, 1906) ชีวิตอันเต็มไปด้วยอุปสรรค และความยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับ Thomas ในการดำรงวิถีชิวิตแบบเรียบง่ายพอเพียง และชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ เขาเคยถูกเลือกเป็นรองอธิการถึง 2 ครั้ง และเคยขึ้นเป็นตัวแทนได้ครั้งหนึ่งอีกด้วย ซึ่งการที่เค้าได้รับตำแหน่ง ได้รับการยกย่องให้เกียรติเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะ เขาคอยรักและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภาวะยากไร้เป็นประจำ สม่ำเสมอนั่นเอง ขณะที่แม้จะมีภาระหน้าที่การงาน และความรับผิดชอบที่หนักหน่วง ประดาประดังเข้ามาใส่เขา แต่สิ่งที่ดูเหมือนเป็นเครื่องผ่อนคลาย และให้ประสบการณ์ที่น่าจดจำของเขา มาจากตำรา ที่มีเนื้อหาฝ่ายจิตอย่าง "De fideli dispensatore"
หน้าที่ของ Thomas ในฐานะรองอธิการ มีอันต้องยุติลง หลังพวกเขาถูกขับไล่ออกจากชุมชน ออกไปจาก Agnetenberg ในปี 1429 จากบทบัญญัติข้อห้ามที่ถูกบังคับใช้ในประเทศ โดย Martin V. ได้เกิดปัญหาข้อพิพาทขึ้นระหว่างทาง Utrecht และบทข้อบังคับใช้ ที่มีต่อดินแดนแห่งนี้ ขณะที่ทางกลุ่มคริสตจักร มีอันต้องถูกขับออกไป จวบจนปัญหาทั้งหมดได้ยุติลงในปี 1432 ชุมชนแห่งภูเขา St. Agnes ในขณะนั้น ได้พักอาศัยอยู่ร่วมกับคริสตจักรแห่ง Lunenkerk ซึ่งพวกเขาก่อร้างสร้างตัวขึ้นมาใหม่ที่นั่น เป็นเวลากว่าปีที่ Thomas ได้ใช้เวลาร่วมไปกับ John ผู้พี่ อยู่ในอารามแห่ง Bethany ใกล้ๆ กับ Arnheim โดย Thomas ได้ถูกส่งตัวมาที่นี่ เพื่อให้ความช่วยเหลือและหนุนใจ John ผู้พี่ ผู้กำลังป่วยหนักอยู่ ณ ขณะนั้นนั่นเอง