ความรักอันแท้จริงคืออะไร?
วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2008 เวลา 05:40-06:05 น. สารจากแม่พระ ฯ
สิ่งที่แม่ให้ความสำคัญมากกว่าก็คือ การกล่อมเกลา อบรมลูกๆทั้งหลายให้รู้จะว่าความรักอันแท้จริงนั้นคืออะไร พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงเมตตาแก่ลูกทั้งหลายอย่างเหลือล้น พระองค์จึงทรงอนุญาตให้แม่ได้มีโอกาสมาพบกับลูกๆของแม่ ซึ่งนับวันจะลุ่มหลงกับความสะดวกสบายและเนื้อหนัง ลูกๆกำลังถูกบดบังจากปีศาจที่มอมเมาลูกๆให้เกลียดชังกันเอง ทำร้ายซึ่งกันและกัน เมื่อความรักไม่มีในโลกนี้พวกลูกๆจะเป็นฉันใด
แล้วความรักอันแท้จริงนั้นคืออะไร?
สิ่งที่แม่ให้ความสำคัญมากกว่าก็คือ การกล่อมเกลา อบรมลูกๆทั้งหลายให้รู้จะว่าความรักอันแท้จริงนั้นคืออะไร พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงเมตตาแก่ลูกทั้งหลายอย่างเหลือล้น พระองค์จึงทรงอนุญาตให้แม่ได้มีโอกาสมาพบกับลูกๆของแม่ ซึ่งนับวันจะลุ่มหลงกับความสะดวกสบายและเนื้อหนัง ลูกๆกำลังถูกบดบังจากปีศาจที่มอมเมาลูกๆให้เกลียดชังกันเอง ทำร้ายซึ่งกันและกัน เมื่อความรักไม่มีในโลกนี้พวกลูกๆจะเป็นฉันใด
แล้วความรักอันแท้จริงนั้นคืออะไร?
1 โครินธ์ 13:4-7
ความรักนั้นก็อดทนนาน เเละกระทำคุณให้
ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว
ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย
ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดี่ยว
ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด
ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด
เเต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ
ความรักทนได้ทุกอย่างเเม้ความผิดของคนอื่น
เเละเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ
เเละมีความหวังอยู่เสมอ
เเละทนต่อทุกอย่าง........................
มนุษย์ในยุคปัจจุบัน มักจะมองความรัก ในรูปเเบบที่ต่างจากพระคัมภีร์ค่ะ
ความรักนั้นก็อดทนนาน เเละกระทำคุณให้
ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว
ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย
ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดี่ยว
ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด
ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด
เเต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ
ความรักทนได้ทุกอย่างเเม้ความผิดของคนอื่น
เเละเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ
เเละมีความหวังอยู่เสมอ
เเละทนต่อทุกอย่าง........................
มนุษย์ในยุคปัจจุบัน มักจะมองความรัก ในรูปเเบบที่ต่างจากพระคัมภีร์ค่ะ
ถูกครับ แต่พระเจ้าไม่ได้ไล่ลูฯออกไปเพราะความเกลยีดชังนะครับsakda88 เขียน: เรื่องของซาตาน ความพึงใจในสง่าราศีแห่งตนและเห็นตนยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า
ต้องการแทนที่พระเจ้า แต่พระเจ้าเพียงขับไล่ซาตานจากสวรรค์
ความเกียดชังมีมาก่อนมีมนุษย์ ?
ความเกลียดชังเกิดขึ้นเมื่อมีการปฎิเสธความรักของพระเจ้าsakda88 เขียน: ความเกียดชังมีมาก่อนมีมนุษย์ ?
-
- โพสต์: 133
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 11:42 am
- ที่อยู่: > <" Xiah Junsu Fightingg g!!!
รักคือดวงจันทร์ รักคือดวงจันทร์
รักคือตะวัน รักคือตะวัน
รักคือไฟอันร้อนแรงไร้จุดหมาย ^^"~
ล้อเล่นค่ะ แหะๆ
รักคือ.... การที่เราให้เกียรติผู้อื่น (มั้งค่ะ)
รักคือตะวัน รักคือตะวัน
รักคือไฟอันร้อนแรงไร้จุดหมาย ^^"~
ล้อเล่นค่ะ แหะๆ
รักคือ.... การที่เราให้เกียรติผู้อื่น (มั้งค่ะ)
รักคือการไม่หวังอะไร
รักคือความสุขที่ยิ่งใหญ่
(อิอิ ลอก Big Ass มาครับ)
รักคือความสุขที่ยิ่งใหญ่
(อิอิ ลอก Big Ass มาครับ)
ไม่เสมอไปนะครับพี่
รัก ก็มีหลายรูปแบบ
อย่างผมเลี้ยงหนูที่บ้าน
ผมก็รักพวกเค้านะ ไม่ได้หวังอะไรจากพวกเค้าด้วย
รัก ก็มีหลายรูปแบบ
อย่างผมเลี้ยงหนูที่บ้าน
ผมก็รักพวกเค้านะ ไม่ได้หวังอะไรจากพวกเค้าด้วย
แก้ไขล่าสุดโดย KuRapiKa เมื่อ พุธ ต.ค. 15, 2008 10:46 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
แล้วความรักของคุณล่ะเป็นแบบไหน...
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=821.0
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=821.0
แต่ผมว่า ใช้คำว่า "หวังชมเชย" นี่ ไม่ถูกนะครับ
แต่แรก เราซื้อมันมา เพราะมันน่ารัก มันน่าเอ็นดู เราถึง "ชอบ" มัน
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปมันย่อมกลายเป็นความ "ผูกพัน" และ "ความรัก"
เพียงแค่ได้เห็น ได้เลี้ยง ได้ให้อาหาร เห็นมันเติบโต เราก็มีความสุข
ไม่ได้หวังว่า มันจะต้องมาตอบแทนอะไรเรา แม้จะด้วยความน่ารักของมันก็ตาม
เกิดสักวัน หนึ่ง มันพิการไป มันก็ไม่ได้ทำให้ความรักที่เรามีต่อมันลดลง
มีแต่จะดูแลทะนุถนอมมากขึ้นครับผม
ปล. หวงแหน ไม่เกี่ยวกับหวังนะครับผม
แต่แรก เราซื้อมันมา เพราะมันน่ารัก มันน่าเอ็นดู เราถึง "ชอบ" มัน
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปมันย่อมกลายเป็นความ "ผูกพัน" และ "ความรัก"
เพียงแค่ได้เห็น ได้เลี้ยง ได้ให้อาหาร เห็นมันเติบโต เราก็มีความสุข
ไม่ได้หวังว่า มันจะต้องมาตอบแทนอะไรเรา แม้จะด้วยความน่ารักของมันก็ตาม
เกิดสักวัน หนึ่ง มันพิการไป มันก็ไม่ได้ทำให้ความรักที่เรามีต่อมันลดลง
มีแต่จะดูแลทะนุถนอมมากขึ้นครับผม
ปล. หวงแหน ไม่เกี่ยวกับหวังนะครับผม
และต้อง "แบ่งปัน" ด้วยค่ะHuman เขียน: ความรักของผม ผมรัก และ หวงแหน สิ่งที่พระเจ้าประทานให้ผมครับ.
ไม่งั้นจะเป็น "ความรัก" ได้ไง จริงไหมคะ
พระพรที่พระองค์มอบให้เรา ไม่ใช่เพื่อตนเองนะคะ แต่เพื่อผู้อื่นค่ะ
"พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว กิจการมีหลายอย่าง แต่มีพระเจ้าพระองค์เดียวผู้ทรงกระทำทุกอย่างในทุกคน พระจิตเจ้าทรงแสดงพระองค์ในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม " (1โครินธ์ 12:4-7)
"ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาของท่าน นี่คือบทบัญญัติเอกและเป็นบทบัญญัติแรก บทบัญญัติประการที่สองก็เช่นเดียวกัน คือท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง ธรรมบัญญัติและคำสอนของบรรดาประกาศกก็ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติสองประการนี้" (มัทธิว 22:37-40)
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ พุธ ต.ค. 15, 2008 11:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
สำหรับทัศนะส่วนตัวของข้าพเจ้า...
"รักแท้" คือ "การตายต่อตัวเอง"
ส่วนตัวได้มีโอกาสอ่านหนังสือรวมบทความเล่มหนึ่งชื่อ "เมื่อรักคือ" เขียนโดย บ.สันติสุข ของศูนย์วรรณกรรมซาเลเซียน
มีเนื้อหาเกี่ยวกับมุมมองของผู้แต่งเกี่ยวกับความรัก...ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าคิดอะไรได้หลายๆ อย่าง...
ต่อไปนี้ คือ ข้อความบางตอนที่สะกิดใจข้าพเจ้าจากหนังสือเล่มนี้...
หากเราชอบใคร เราให้บางสิ่งบางอย่างเป็นเครื่องแทนความชอบพอ...ก็ดูจะเกินพอ
แต่หากรักใคร เราจะให้แค่บางสิ่งบางอย่างไม่ได้ เพราะความรักเรียกร้องมากไปกว่านั้นเป็นไหนๆ
จนกว่าเราจะให้ตัวเราทั้งครบ...ชีวิตจิตใจ ทั้งหมด...นั่นแหละ ความรักจึงจะสาสม
ให้สิ่งของนั้นง่าย แต่ให้ตัวเองนี้สิยาก
และเพราะเหตุนี้เอง ความรักแท้จึงเป็นสิ่งที่ยาก
ตราบใดที่คุณยังไม่พร้อมที่จะทุกข์
ตราบนั้นจงอย่าริอาจที่จะรัก!
ตราบใดที่คุณยังไม่พร้อมที่จะตาย...ตายไปจากตัวเอง
ตราบนั้นจงอย่าเพิ่งพูดว่า "ฉันรักเธอ"
เพราะเหตุนี้อีกเหมือนกัน ที่คนเรายังไม่กล้าที่จะรักกันจริง
(ที่มา : ส่วนหนึ่งของบทความเรื่อง "วาเลนไทน์" http://www.salit.org/ความรัก/1_วาเลนไทน์.html)
"จริงๆ แล้วความรักไม่ได้มุ่งเป็นเจ้าของแต่มุ่งที่จะให้
เพราะนั่นคือธรรมชาติของความรัก รักใครก็อยากจะให้เค้าทุกอย่าง แม้ชีวิตก็ไม่คิดเสียดาย
ดังนั้นพูดว่า 'ฉันรักเธอ' จึงเท่ากับพูดว่า 'ฉันให้เธอ' นั่นเอง
เรารักกันและกันจึงน่าจะเป็น 'ฉันให้เธอ เธอให้ฉัน'
มากกว่าจะเป็น 'เธอเป็นของฉัน ฉันเป็นของเธอ'
ที่จริงแล้ว การให้ไม่ก่อให้เกิดทุกข์ ตรงข้ามมีแต่นำความสุขยินดี
และแม้ว่าการให้นั้นต้องมีการเสียสละ การเสียสละก็ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกขาด แต่กลับให้รู้สึกอิ่มเอม
การครอบครองต่างหากที่นำความทุกข์ ทันทีที่ต้องสูญเสียแม้เล็กน้อย ก็เกิดความรู้สึกขาด
และความขาดก่อให้เกิดความทุกข์
แม้แต่ความคิดว่าจะต้องสูญเสีย ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สูญเสียอะไร ก็ก่อให้เกิดความทุกข์มหันต์แล้ว
.......................
.......................
รักไม่น่าจะต้องทุกข์ ที่ทุกข์ก็เพราะไม่รู้จักรักต่างหาก"
(ที่มา : ส่วนหนึ่งของบทความเรื่อง "รักไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย" http://www.salit.org/ความรัก/2_รักไม่ยา ... ม่ง่าย.htm)
"การรักใครอย่างที่ตนเองต้องการจะรักมันง่าย
แต่รักเขาอย่างที่เขาต้องการให้รักนี่สิยาก"
(ที่มา : ส่วนหนึ่งของบทความเรื่อง "ปลายทางรัก" http://www.salit.org/ความรัก/12_ปลายทางรัก.htm)
ป.ล. ใครสนใจอยากอ่านหนังสือ "เมื่อรักคือ" ฉบับเต็ม
ทางศูนย์วรรณกรรมซาเลเซียนได้ทำเป็นหนังสือออนไลน์ไว้ที่นี่ค่ะ
http://www.salit.org/ความรัก/เนื้อหาคำนำ.html
หรือสามารถหาซื้อได้ ที่ศูนย์คาทอลิก ร้านขายศาสนภัณฑ์ วัดอัสสัมชัญ ค่ะ
(รู้แต่วัดตัวเองอะค่ะ ที่อื่นมีรึเปล่า อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ )
"รักแท้" คือ "การตายต่อตัวเอง"
ส่วนตัวได้มีโอกาสอ่านหนังสือรวมบทความเล่มหนึ่งชื่อ "เมื่อรักคือ" เขียนโดย บ.สันติสุข ของศูนย์วรรณกรรมซาเลเซียน
มีเนื้อหาเกี่ยวกับมุมมองของผู้แต่งเกี่ยวกับความรัก...ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าคิดอะไรได้หลายๆ อย่าง...
ต่อไปนี้ คือ ข้อความบางตอนที่สะกิดใจข้าพเจ้าจากหนังสือเล่มนี้...
หากเราชอบใคร เราให้บางสิ่งบางอย่างเป็นเครื่องแทนความชอบพอ...ก็ดูจะเกินพอ
แต่หากรักใคร เราจะให้แค่บางสิ่งบางอย่างไม่ได้ เพราะความรักเรียกร้องมากไปกว่านั้นเป็นไหนๆ
จนกว่าเราจะให้ตัวเราทั้งครบ...ชีวิตจิตใจ ทั้งหมด...นั่นแหละ ความรักจึงจะสาสม
ให้สิ่งของนั้นง่าย แต่ให้ตัวเองนี้สิยาก
และเพราะเหตุนี้เอง ความรักแท้จึงเป็นสิ่งที่ยาก
ตราบใดที่คุณยังไม่พร้อมที่จะทุกข์
ตราบนั้นจงอย่าริอาจที่จะรัก!
ตราบใดที่คุณยังไม่พร้อมที่จะตาย...ตายไปจากตัวเอง
ตราบนั้นจงอย่าเพิ่งพูดว่า "ฉันรักเธอ"
เพราะเหตุนี้อีกเหมือนกัน ที่คนเรายังไม่กล้าที่จะรักกันจริง
(ที่มา : ส่วนหนึ่งของบทความเรื่อง "วาเลนไทน์" http://www.salit.org/ความรัก/1_วาเลนไทน์.html)
"จริงๆ แล้วความรักไม่ได้มุ่งเป็นเจ้าของแต่มุ่งที่จะให้
เพราะนั่นคือธรรมชาติของความรัก รักใครก็อยากจะให้เค้าทุกอย่าง แม้ชีวิตก็ไม่คิดเสียดาย
ดังนั้นพูดว่า 'ฉันรักเธอ' จึงเท่ากับพูดว่า 'ฉันให้เธอ' นั่นเอง
เรารักกันและกันจึงน่าจะเป็น 'ฉันให้เธอ เธอให้ฉัน'
มากกว่าจะเป็น 'เธอเป็นของฉัน ฉันเป็นของเธอ'
ที่จริงแล้ว การให้ไม่ก่อให้เกิดทุกข์ ตรงข้ามมีแต่นำความสุขยินดี
และแม้ว่าการให้นั้นต้องมีการเสียสละ การเสียสละก็ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกขาด แต่กลับให้รู้สึกอิ่มเอม
การครอบครองต่างหากที่นำความทุกข์ ทันทีที่ต้องสูญเสียแม้เล็กน้อย ก็เกิดความรู้สึกขาด
และความขาดก่อให้เกิดความทุกข์
แม้แต่ความคิดว่าจะต้องสูญเสีย ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สูญเสียอะไร ก็ก่อให้เกิดความทุกข์มหันต์แล้ว
.......................
.......................
รักไม่น่าจะต้องทุกข์ ที่ทุกข์ก็เพราะไม่รู้จักรักต่างหาก"
(ที่มา : ส่วนหนึ่งของบทความเรื่อง "รักไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย" http://www.salit.org/ความรัก/2_รักไม่ยา ... ม่ง่าย.htm)
"การรักใครอย่างที่ตนเองต้องการจะรักมันง่าย
แต่รักเขาอย่างที่เขาต้องการให้รักนี่สิยาก"
(ที่มา : ส่วนหนึ่งของบทความเรื่อง "ปลายทางรัก" http://www.salit.org/ความรัก/12_ปลายทางรัก.htm)
ป.ล. ใครสนใจอยากอ่านหนังสือ "เมื่อรักคือ" ฉบับเต็ม
ทางศูนย์วรรณกรรมซาเลเซียนได้ทำเป็นหนังสือออนไลน์ไว้ที่นี่ค่ะ
http://www.salit.org/ความรัก/เนื้อหาคำนำ.html
หรือสามารถหาซื้อได้ ที่ศูนย์คาทอลิก ร้านขายศาสนภัณฑ์ วัดอัสสัมชัญ ค่ะ
(รู้แต่วัดตัวเองอะค่ะ ที่อื่นมีรึเปล่า อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ค่ะ )
วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2008 สารแม่พระ ฯ
ด้วยความรักต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายซึ่งเป็นพี่น้องของลูกๆเอง ขอให้ลูกๆจงแสดงออกด้วยการคิดดี พูดดีและกระทำดีต่อเขาทั้งหลายด้วยความเมตตา ดั่งเช่นที่องค์พระบุตรสุดที่รักของแม่ได้ทรงแสดงไว้เป็นแบบอย่างเถิด ไม่มีความสุขใดจะเทียบได้เมื่อเห็นคนที่ลูกๆรักเป็นสุข หากลูกได้ทำจากหัวใจอันแท้จริงของลูกแล้วไซร้ การนั้นๆลูกไม่ได้หวังสิ่งใดเป็นการตอบแทน จงเป็นผู้ให้อย่างแท้จริงมากกว่าการเป็นผู้รับเถิด แล้วลูกจะเข้าใจใจว่าความสุขทั้งหลายนั้นเริ่มตนที่หัวใจของลูกๆนั่นเอง ไม่ต้องไปแสวงหา ณ ที่แห่งใดจงเริ่มตนกับบุคคลที่ลูกใกล้ชิดในครอบครัวของลูกเองก่อนเถิด ไม่ต้องออกไปแสวงหาที่ไหน วันนี้ลูกได้คิดีดกับทุกๆคนในครอบครัวของลูกแล้วหรือยัง ยังมีใครบ้างในครอบครัวเมื่อลูกนึกถึงเขาก็มีแต่ข้อตำหนิและสิ่งที่ลูกขัด ข้องใจกับเขา หากเป็นเช่นนี้แล้วลูกยังไม่ต้องทำกิจการอื่นใดหรอกแม่ขอให้ลูกใช้หัวใจของลูก ตรองดูเถิด หากเป็นองค์พระบุตรสุดที่รักแล้วพระองค์จะทรงคิดเช่นลูกหรือไม่ และเหตุใดที่พระองค์ไม่ต้องการให้ลูกๆตัดสินผู้อื่นด้วยเล่า แม้เป็นเพียงความคิดที่ไม่ดีต่อผู้อื่นเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้จิตวิญญาณของลูกต้องแปดเปื้อน ลูกๆกำลังลังเอาไฟแห่งโมหะจริตเข้าสุมดวงใจของลูกๆเอง ทำให้ลูกๆนี้ร้อนรุมในดวงใจไม่สามารถหาความร่มเย็นได้ แม่จึงขอเตือนลูกๆว่าหากลูกมีความคิดเยี่ยงนี้ ขอให้ลูกตระหนักใจเถิดว่าลูกๆกำลังทำร้ายจิตวิญญาณของตัวลูกเองอยู่ และลูกก็เป็นผู้นำมลทินนี้เขามาด้วยตัวของลูกเอง จะมีประโยชน์อันใดที่มือลูกถือสายประคำ ปากสวดภาวนา แต่ใจของลูกยังมืดบอดด้วยมลทินนี้อยู่อีกเล่า คำภาวนาทั้งหลายของลูกๆจะไม่สัมฤทธิ์ผลลงได้เลยหากลูกๆไม่สามารถชะล้างมลทิน นี้เองไปจากดวงใจของลูกได้ แม่ไม่ได้พูดสิ่งใดใหม่หรอกลูก แต่เป็นสิ่งที่ลูกๆมองข้ามไปต่างหาก สิ่งที่ง่ายที่สุดที่ลูกๆสามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่ลูกๆก็ยังไม่สามรถควบคุมความคิดจากน้ำใจแห่งตนได้นั้น แล้วลูกๆจะพูดดีและกระทำดีต่อเพื่อนพี้องอย่างแท้จริงได้อย่างไร
ด้วยความรักต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายซึ่งเป็นพี่น้องของลูกๆเอง ขอให้ลูกๆจงแสดงออกด้วยการคิดดี พูดดีและกระทำดีต่อเขาทั้งหลายด้วยความเมตตา ดั่งเช่นที่องค์พระบุตรสุดที่รักของแม่ได้ทรงแสดงไว้เป็นแบบอย่างเถิด ไม่มีความสุขใดจะเทียบได้เมื่อเห็นคนที่ลูกๆรักเป็นสุข หากลูกได้ทำจากหัวใจอันแท้จริงของลูกแล้วไซร้ การนั้นๆลูกไม่ได้หวังสิ่งใดเป็นการตอบแทน จงเป็นผู้ให้อย่างแท้จริงมากกว่าการเป็นผู้รับเถิด แล้วลูกจะเข้าใจใจว่าความสุขทั้งหลายนั้นเริ่มตนที่หัวใจของลูกๆนั่นเอง ไม่ต้องไปแสวงหา ณ ที่แห่งใดจงเริ่มตนกับบุคคลที่ลูกใกล้ชิดในครอบครัวของลูกเองก่อนเถิด ไม่ต้องออกไปแสวงหาที่ไหน วันนี้ลูกได้คิดีดกับทุกๆคนในครอบครัวของลูกแล้วหรือยัง ยังมีใครบ้างในครอบครัวเมื่อลูกนึกถึงเขาก็มีแต่ข้อตำหนิและสิ่งที่ลูกขัด ข้องใจกับเขา หากเป็นเช่นนี้แล้วลูกยังไม่ต้องทำกิจการอื่นใดหรอกแม่ขอให้ลูกใช้หัวใจของลูก ตรองดูเถิด หากเป็นองค์พระบุตรสุดที่รักแล้วพระองค์จะทรงคิดเช่นลูกหรือไม่ และเหตุใดที่พระองค์ไม่ต้องการให้ลูกๆตัดสินผู้อื่นด้วยเล่า แม้เป็นเพียงความคิดที่ไม่ดีต่อผู้อื่นเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้จิตวิญญาณของลูกต้องแปดเปื้อน ลูกๆกำลังลังเอาไฟแห่งโมหะจริตเข้าสุมดวงใจของลูกๆเอง ทำให้ลูกๆนี้ร้อนรุมในดวงใจไม่สามารถหาความร่มเย็นได้ แม่จึงขอเตือนลูกๆว่าหากลูกมีความคิดเยี่ยงนี้ ขอให้ลูกตระหนักใจเถิดว่าลูกๆกำลังทำร้ายจิตวิญญาณของตัวลูกเองอยู่ และลูกก็เป็นผู้นำมลทินนี้เขามาด้วยตัวของลูกเอง จะมีประโยชน์อันใดที่มือลูกถือสายประคำ ปากสวดภาวนา แต่ใจของลูกยังมืดบอดด้วยมลทินนี้อยู่อีกเล่า คำภาวนาทั้งหลายของลูกๆจะไม่สัมฤทธิ์ผลลงได้เลยหากลูกๆไม่สามารถชะล้างมลทิน นี้เองไปจากดวงใจของลูกได้ แม่ไม่ได้พูดสิ่งใดใหม่หรอกลูก แต่เป็นสิ่งที่ลูกๆมองข้ามไปต่างหาก สิ่งที่ง่ายที่สุดที่ลูกๆสามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่ลูกๆก็ยังไม่สามรถควบคุมความคิดจากน้ำใจแห่งตนได้นั้น แล้วลูกๆจะพูดดีและกระทำดีต่อเพื่อนพี้องอย่างแท้จริงได้อย่างไร
ณ เวลาเช่นนี้ แม่คงต้องให้ลูกกลับมาพิจารณาตนเองดูอีกสักครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่รู้จักกับความรักอย่างแท้จริง
จงกำหนดจิตใจของลูกให้มั่นเถิด เพราะทุกๆวินาทีของลูกนั้นมีค่ายิ่งนัก หากลูกตระหนักใจได้ดั่งนี้ เวลาในปัจจุบันของลูกจักไม่สูญเปล่า
เหตุว่าลูกได้เลือกทำสิ่งที่ดีที่สุดต่อเพื่อนพี่น้องทั้งหลาย ด้วยกิจการแห่งความรักในฐานะลูกเป็นลูกแห่งพระบิดาเจ้าสวรรค์
เพียงชั่ววินาทีนี้ หากลูกทุกคนพร้อมใจกัน ก็จะไม่มีที่ว่างให้จิตชั่วร้ายเข้ามาแทรกแซงในสันติสุขของลูกได้เลย จงจำไว้เถิด
วินาทีนี้แหละคือปัจจุบันของลูก สิ่งใดที่ลูกได้กระทำในช่วงวินาทีนี้ก็จะส่งผลต่อไปยังวินาทีข้างหน้าซึ่งเป็นอนาคตของลูก
ดังนั้น จงเริ่มต้นวินาทีนี้ด้วยการคิดดีเถิด
(สารแม่พระ ฯ 16 พย 2551)
จงกำหนดจิตใจของลูกให้มั่นเถิด เพราะทุกๆวินาทีของลูกนั้นมีค่ายิ่งนัก หากลูกตระหนักใจได้ดั่งนี้ เวลาในปัจจุบันของลูกจักไม่สูญเปล่า
เหตุว่าลูกได้เลือกทำสิ่งที่ดีที่สุดต่อเพื่อนพี่น้องทั้งหลาย ด้วยกิจการแห่งความรักในฐานะลูกเป็นลูกแห่งพระบิดาเจ้าสวรรค์
เพียงชั่ววินาทีนี้ หากลูกทุกคนพร้อมใจกัน ก็จะไม่มีที่ว่างให้จิตชั่วร้ายเข้ามาแทรกแซงในสันติสุขของลูกได้เลย จงจำไว้เถิด
วินาทีนี้แหละคือปัจจุบันของลูก สิ่งใดที่ลูกได้กระทำในช่วงวินาทีนี้ก็จะส่งผลต่อไปยังวินาทีข้างหน้าซึ่งเป็นอนาคตของลูก
ดังนั้น จงเริ่มต้นวินาทีนี้ด้วยการคิดดีเถิด
(สารแม่พระ ฯ 16 พย 2551)
สารแม่พระ ฯ~@Little lamb@~ เขียน: ภาวนาเพื่อบ้านเมือง
หน้าถ้ำแม่พระ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลำไทร
วันสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2008 เวลา 16:20-16:59 น.
ลูกที่รักทั้งหลาย คำที่แม่สอนนั้นยังคงเป็นปัจจุบันและทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ ณ วันนี้ เวลานี้ และวินาทีนี้ ลูกได้คิดดี ลูกได้พูดดี และลูกได้ทำดีต่อตนเอง และเพื่อนพี่น้องทั้งหลายของลูกๆแล้วหรือยัง ไม่มีการแบ่งแยกในหมู่ประชากรของพระบิดาเจ้าสวรรค์ เพราะทุกๆคนคือพี่น้องกัน และสิ่งที่ลูกต้องเฝ้าระวังมากที่สุดในเวลานี้ก็คือน้ำใจแห่งลูกนั่นเอง
แก้ไขล่าสุดโดย sakda88 เมื่อ อังคาร ธ.ค. 16, 2008 12:01 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
[quote="~@Little lamb@~"]
คุณพ่อทางฝ่ายวิญญาณ
วันเสาร์ที่ 21พฤษภาคม 2548 เวลา 22.43-23.05น.
....
จงให้ความรักโดยไมมีเงื่อนไข โดยไม่หวังผลตอบแทน หลายคนซึ่งลูกแม้จะรู้ว่าเขาเหล่านั้นจะทอดทิ้งน้ำใจของลูก จงอย่าละความพยายามสวดขอภาวนาต่อพระเป็นเจ้า พลังแห่งความรักจะแผ่ทั่วไปจากตัวลูกไปถึงคนรอบข้าง จากคนรอบข้างจะกระเถิบกว้างออกไป พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงมีความรักที่ยิ่งใหญ่แก่มนุษย์ทุกคน จงพยายามเปิดใจต้อนรับพระผู้เป็นเจ้า ให้เข้ามาสถิตย์ในดวงใจของลูก ลูกจะได้พบกับสันติสุขอย่างแท้จริง
วันนี้ลูกจำได้ไหมที่คุณพ่อบอกว่า จงขอเถิดแล้วลูกจะได้รับ จงแสวงหาเถิดแล้วลูกจะพบ จงเคาะประตูเถิดแล้วเขาจะเปิดประตูรับลูก นี่เป็นแผนการของพระองค์ ให้พวกลูกทั้งหลายได้มีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันนี้ ขอให้วางใจในพระองค์ จงมอบชีวิตและจิตใจของลูกถวายแด่พระองค์ ในกิจการแต่ละวันจงกระทำเพื่อสรรเสริญพระองค์ ขอให้ลูกแต่ละคนกลับไปทบทวนดูว่า วันนี้ลูกได้เรียนรู้อะไรบ้าง จงฟังเสียงในหัวใจของลูกแล้วจงกระทำตามนั้นเถิด
ขอบใจ แม่ได้ยินเสียงพูดของลูก[/b] (วันนี้แม่ผมพูดเปรย ๆ ขึ้นมาว่า อยากถูก ล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ ๆ สักครั้ง เพื่อจะได้เอาเงินไปทำบุญต่อเติมหลังคาวัดที่ยังสร้างค้างทิ้งไว้อยู่) แม่ไม่ได้หวังเงินทองหรือสิ่งของอันใด ทุกอย่างจะเป็นไปตามแต่พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ขอให้เพียงแต่ใจของลูกอยู่กับพระองค์ สิ่งที่ลูกพูดถึงในวันนี้ ลองกลับไปทบทวนใหม่ว่าลูกอยากได้เงินไปเพื่ออะไร
จงพอใจในสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่ลูกและครอบครัวของลูก เงินแม้เพียงน้อยนิด แต่ถ้ามาจากหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา ให้ด้วยจิตใจที่แท้จริงของลูก แม่ก็พอใจแล้ว จงเหลียวดูคนอื่นที่อยู่รอบข้างลูกว่าเขาลำบากกว่าลูกเพียงใด พวกลูกได้พระพรของพระผู้เป็นเจ้า ให้มีความสงบสุขยังไม่พอใจอีกหรือ ขอให้คิดดูให้ดี ๆ คิดเสียใหม่ พระผู้เป็นเจ้าต้องการแต่วิญญาณที่บริสุทธิ์ของพวกลูกเท่านั้น ไม่ได้หวังเงินทอง ขอให้รักพระองค์ด้วยสิ้นสุดหัวใจของลูกเท่านั้น ลูกเข้าใจคำที่แม่พูดหรือไม่ จงพอใจในสิ่งที่พระองค์ประทานให้ลูก
คุณพ่อทางฝ่ายวิญญาณ
วันเสาร์ที่ 21พฤษภาคม 2548 เวลา 22.43-23.05น.
....
จงให้ความรักโดยไมมีเงื่อนไข โดยไม่หวังผลตอบแทน หลายคนซึ่งลูกแม้จะรู้ว่าเขาเหล่านั้นจะทอดทิ้งน้ำใจของลูก จงอย่าละความพยายามสวดขอภาวนาต่อพระเป็นเจ้า พลังแห่งความรักจะแผ่ทั่วไปจากตัวลูกไปถึงคนรอบข้าง จากคนรอบข้างจะกระเถิบกว้างออกไป พระบิดาเจ้าสวรรค์ทรงมีความรักที่ยิ่งใหญ่แก่มนุษย์ทุกคน จงพยายามเปิดใจต้อนรับพระผู้เป็นเจ้า ให้เข้ามาสถิตย์ในดวงใจของลูก ลูกจะได้พบกับสันติสุขอย่างแท้จริง
วันนี้ลูกจำได้ไหมที่คุณพ่อบอกว่า จงขอเถิดแล้วลูกจะได้รับ จงแสวงหาเถิดแล้วลูกจะพบ จงเคาะประตูเถิดแล้วเขาจะเปิดประตูรับลูก นี่เป็นแผนการของพระองค์ ให้พวกลูกทั้งหลายได้มีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์วันนี้ ขอให้วางใจในพระองค์ จงมอบชีวิตและจิตใจของลูกถวายแด่พระองค์ ในกิจการแต่ละวันจงกระทำเพื่อสรรเสริญพระองค์ ขอให้ลูกแต่ละคนกลับไปทบทวนดูว่า วันนี้ลูกได้เรียนรู้อะไรบ้าง จงฟังเสียงในหัวใจของลูกแล้วจงกระทำตามนั้นเถิด
ขอบใจ แม่ได้ยินเสียงพูดของลูก[/b] (วันนี้แม่ผมพูดเปรย ๆ ขึ้นมาว่า อยากถูก ล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ ๆ สักครั้ง เพื่อจะได้เอาเงินไปทำบุญต่อเติมหลังคาวัดที่ยังสร้างค้างทิ้งไว้อยู่) แม่ไม่ได้หวังเงินทองหรือสิ่งของอันใด ทุกอย่างจะเป็นไปตามแต่พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ขอให้เพียงแต่ใจของลูกอยู่กับพระองค์ สิ่งที่ลูกพูดถึงในวันนี้ ลองกลับไปทบทวนใหม่ว่าลูกอยากได้เงินไปเพื่ออะไร
จงพอใจในสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่ลูกและครอบครัวของลูก เงินแม้เพียงน้อยนิด แต่ถ้ามาจากหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา ให้ด้วยจิตใจที่แท้จริงของลูก แม่ก็พอใจแล้ว จงเหลียวดูคนอื่นที่อยู่รอบข้างลูกว่าเขาลำบากกว่าลูกเพียงใด พวกลูกได้พระพรของพระผู้เป็นเจ้า ให้มีความสงบสุขยังไม่พอใจอีกหรือ ขอให้คิดดูให้ดี ๆ คิดเสียใหม่ พระผู้เป็นเจ้าต้องการแต่วิญญาณที่บริสุทธิ์ของพวกลูกเท่านั้น ไม่ได้หวังเงินทอง ขอให้รักพระองค์ด้วยสิ้นสุดหัวใจของลูกเท่านั้น ลูกเข้าใจคำที่แม่พูดหรือไม่ จงพอใจในสิ่งที่พระองค์ประทานให้ลูก
แก้ไขล่าสุดโดย sakda88 เมื่อ จันทร์ ก.พ. 16, 2009 2:22 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอบคุณคุณศักดาและพระแม่มากเลยค่ะ ปอได้พิจารณาและเป็นทุกข์เกี่ยวกับเรื่องมาหลายวันแล้ว ปอนั่งคิดว่าที่แท้จริงความรักคืออะไรกันแน่ ปอเป็นคนที่โชคดี ปอไม่เคยขาดความรักและคนที่รักปอ ปอไม่เคยร้องขอและไม่เคยต้องประพฤติตนเพื่อขอความรักจากใคร แต่ในความโชคดีก็มีความโชคร้าย ด้วยความที่ได้ความรักมาง่าย ปอเลยไม่รู้วิธีที่จะรักผู้อื่น แม้หัวใจปอมีความรัก แต่ปอแสดงออกไม่เป็น
จนกระทั่งวันหนึ่งต้องมาเจอในสิ่งที่ตรงข้ามกับความรัก คือความเลือดเย็น ความโกรธ ความเกลียดชัง ความไม่ใส่ใจ การเอาแต่ใจตนเอง ปอถึงได้เข้าใจว่าความรักคืออะไร และจะกระทำอย่างไร ก็คือกระทำอะไรที่ตรงข้ามกับสิ่งที่เราประสบมาทั้งหมด
ทั้งนี้ขอขอบคุณพระเจ้าที่ให้บทเรียนนี้ พระองค์ทรงรู้ดีที่สุดว่าอะไรจำเป็นสำหรับเรา แม่ต้องผ่านบททดสอบมาอย่างลำบากยากเย็น แต่นี่เป็นสิ่งที่มีค่าต่อจิตวิญญาณมีค่ามากกว่าวัตถุทางโลก
จนกระทั่งวันหนึ่งต้องมาเจอในสิ่งที่ตรงข้ามกับความรัก คือความเลือดเย็น ความโกรธ ความเกลียดชัง ความไม่ใส่ใจ การเอาแต่ใจตนเอง ปอถึงได้เข้าใจว่าความรักคืออะไร และจะกระทำอย่างไร ก็คือกระทำอะไรที่ตรงข้ามกับสิ่งที่เราประสบมาทั้งหมด
ทั้งนี้ขอขอบคุณพระเจ้าที่ให้บทเรียนนี้ พระองค์ทรงรู้ดีที่สุดว่าอะไรจำเป็นสำหรับเรา แม่ต้องผ่านบททดสอบมาอย่างลำบากยากเย็น แต่นี่เป็นสิ่งที่มีค่าต่อจิตวิญญาณมีค่ามากกว่าวัตถุทางโลก
-
- โพสต์: 202
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:23 pm
- ที่อยู่: 1506/504 ซ.7/ม.สราลี เทพารักษ์ สป. // อาสนวิหาอัสสัมชัญ
- ติดต่อ:
†Ecclēsia เขียน: 1 โครินธ์ 13:4-7
ความรักนั้นก็อดทนนาน เเละกระทำคุณให้
ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว
ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย
ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดี่ยว
ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด
ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด
เเต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ
ความรักทนได้ทุกอย่างเเม้ความผิดของคนอื่น
เเละเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ
เเละมีความหวังอยู่เสมอ
เเละทนต่อทุกอย่าง........................
มนุษย์ในยุคปัจจุบัน มักจะมองความรัก ในรูปเเบบที่ต่างจากพระคัมภีร์ค่ะ
จริงค่ะ ไม่งั้นจะมีคนพูดอยู่ตลอดเหรอคะว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"
แต่มันน่าเป็นคำพูดของคนที่ยังไม่รู้จักความรักจริงๆก็ได้มั้งคะ
อยากรู้เห็นถึงตัวอย่างของรักแท้ ก็นี่ไงคะ พระเยซูเจ้าของเรา พ่อแม่ของเรา นั่นแหละค่ะ...
ที่ใดมีรักที่นั่นมีสุขมากกว่าค่ะ.............. หากผู้ใดมีรักแท้ ทุกด้านมืด จะกลับสว่างงงงง (สีชมพูมากไปกลัวตาเบลอเน้อค่ะเน้อ)
55555555555555555555+ อิอิ