โป๊ปชี้พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์แต่เป็นการดลใจจากพระจิต
--------------------------------------------------------------------------------
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงชี้ชัด คนที่อ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและมองว่านี่เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ เป็นการสรุปที่ไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริง นี่คือการดลใจจากพระจิตซึ่งทำให้เราได้ยินเสียงของพระเจ้าและรับรู้การประทับอยู่ของพระองค์ ย้ำชัด คริสตชนไม่ใช่คนต่างด้าว แต่เป็นเพื่อนร่วมชาติกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ฮาแตกปิดท้าย เมื่อพระสันตะบิดาเจ้ากล้าๆกลัวๆจับลูกสิงโต ที่คณะละครสัตว์นำมาถวาย
เมื่อช่วงสายของวันพุธที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงออกมาพบปะเทศน์สอนสัตบุรุษกว่า 8,000 คน ระหว่างการเข้าเฝ้าทั่วไป ซึ่งจัดขึ้นภายในหอประชุมเปาโล ที่ 6 นครรัฐวาติกัน โดยใจความสำคัญของการสอนเทวศาสตร์ประจำวันนี้ พระสันตะบิดาเจ้าทรงย้ำว่า เราต้องไม่อ่านพระคัมภีร์แบบหนังสือประวัติศาสตร์ แต่ต้องอ่านด้วยความเชื่อว่านี่คือการดลใจจากพระจิต ซึ่งจะทำให้เราได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า พร้อมกันนี้ ทรงยืนยันหนักแน่น คริสตชนคือสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า และเป็นเพื่อนร่วมชาติกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวล
สัปดาห์นี้ พระสันตะปาปายังคงหยิบยกเรื่องราวเกี่ยวกับนักบุญเปาโลมาประกอบการสอน โดยเป็นเนื้อหาในจดหมายถึงทิโมธีและทิตัส พระองค์ตรัสว่า "จดหมายสองฉบับนี้ พูดถึงเหตุการณ์การสอนความเชื่อแบบผิดๆ อาทิ การสอนเรื่องเทพนิยาย การสอนว่าห้ามแต่งงานและห้ามกินอาหาร คำสอนผิดๆเหล่านี้ ยังคงปรากฏให้เห็นเป็นระยะในยุคปัจจุบัน ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะพวกเขา (ผู้สอนผิด) อ่านพระคัมภีร์ประหนึ่งเหตุการณ์แปลกประหลาดทางประวัติศาสตร์ พวกเขาไม่ยอมอ่านพระคัมภีร์เป็นถ้อยคำที่เกิดจากการดลใจของพระจิต ซึ่งทำให้เราสามารถได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า และรับรู้ถึงการประทับอยู่ของพระองค์"
"เพื่อเป็นการต่อต้านผู้สอนความเชื่อแบบผิดๆ นักบุญเปาโลยืนยันว่า เราจำเป็นต้องอ่านพระคัมภีร์ประหนึ่งการดลใจจากพระจิต เช่นเดียวกับ การรักษาของมีค่าซึ่งเราได้รับมอบจากเดชะพระจิตผู้สถิตในตัวเรา (2 ทิโมธี 1:14) ของมีค่าที่นักบุญเปาโลกล่าวไว้หมายถึงความเชื่อที่ต้องได้รับการปกป้อง และนี่คือวิถีทางที่ผู้มีความเชื่อจะใช้ในการประกาศพระวรสาร ทั้งนี้ เพราะพระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดและรู้ความจริงที่สมบูรณ์ (1 ทิโมธี 2:4)" พระสันตะปาปา ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดนักเทวศาสตร์ของพระศาสนจักร กล่าวอย่างหนักแน่น
ในจดหมายถึงทิโมธีและทิตัส นักบุญเปาโลได้ทำการแบ่งระดับการปกครองภายในพระศาสนจักรออกเป็น 3 ขั้น ได้แก่ พระสังฆราช (ในพระคัมภีร์ใช้คำว่า "Episcopate" แปลว่า ผู้ดูแล) พระสงฆ์ และสังฆานุกร พระสันตะปาปาจึงแบ่งปันเรื่องนี้ว่า "เราได้เห็นโครงสร้างและการมอบหมายงานของพระศาสนจักรเป็นครั้งแรกในจดหมายเหล่านี้ กระนั้น นี่เป็นโครงสร้างตามหลักการ เราจึงต้องเพิ่มโครงสร้างในตัวบุคคล ด้วยการเป็นประจักษ์พยานยืนยันถึงความเชื่อลงไปด้วย"
พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ยังได้ตรัสถึงตำแหน่ง "ผู้ดูแล" (1 ทิโมธี 3:1) ซึ่งปัจจุบัน เปรียบได้กับพระสังฆราชปกครองสังฆมณฑลต่างๆ โดยชี้ว่า ผู้ที่ทำหน้าที่นี้ ต้องมีความเอาใจใส่ ความสุภาพ และความเข้มแข็งเป็นสำคัญ "ในจดหมายถึงทิโมธี นักบุญเปาโลพูดถึงผู้ดูแลว่า ต้องเป็นผู้ที่รู้จักปกครองบ้านของตนซึ่งก็คือพระศาสนจักร (1 ทิโมธี 3:1-7) แนวคิดที่ว่าพระศาสนจักรคือบ้านของพระเจ้า มาจากพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม แนวคิดนี้ ได้รับการกล่าวซ้ำอีกครั้งในจดหมายถึงชาวฮีบรู ขณะที่จดหมายถึงชาวเอเฟซัส นักบุญเปาโลก็ระบุว่า คริสตชนไม่ใช่คนต่างด้าว แต่เป็นเพื่อนร่วมชาติกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า (เอเฟซัส 2:19)"
"ดังนั้น ขอให้เราวิงวอนพระเจ้า โปรดประทานให้เราเป็นคริสตชนที่เปี่ยมด้วยลักษณะดังกล่าวครบสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเคารพต่อสังคมที่เราอยู่อาศัย หรือเคารพต่อสมาชิกครอบครัวของพระเจ้า นอกจากนี้ เราทุกคนยังภาวนาให้ผู้อภิบาลของพระศาสนจักร มีความรักและเอาใจใส่ต่อสมาชิกเพิ่มขึ้น รวมไปถึงมีความสุภาพถ่อมตนและมีความเข้มแข็งที่จะเป็นผู้ดูแลบ้านของพระเจ้า ซึ่งก็คือ พระศาสนจักรนั่นเอง" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย
หลังการเทศน์สอนและแบ่งปันเรื่องต่างๆจบลง ได้มีการแสดงจากคณะละครสัตว์ "เมดราโน่" ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะและชอบใจจากพระสันตะปาปาและทุกคนเป็นอย่างมาก เฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่พระสันตะปาปาทรงมีอาการกล้าๆกลัวๆที่จะจับ "ลูกสิงโต" ซึ่งทางผู้แสดงนำมาให้สัมผัสแบบใกล้ชิด
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!4855.entry
---โป๊ปชี้พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์แต่เป็นการดลใจจากพระจิต----
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
ลูกสิงโตท่าทางไม่เป็นมิตรกับพระองค์เลยนะนั่น
สมควรกล้าๆกลัวๆอยู่หรอกค่ะ ดูจากที่มันเเยกเขี้ยวใส่พระองค์เเล้ว
พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์
พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์
พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์
ท่องไว้ให้ได้จำ ค่ะ
พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์
พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์
พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์
ท่องไว้ให้ได้จำ ค่ะ
- เด็ก น้อย ผู้ หลง ทาง
- โพสต์: 89
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 10, 2009 2:20 pm
รับทราบคร้บผม .... แต่ไอ่สิงโตน้อย มันก้อน่ากลัวจริงๆแหละ
†Ecclēsia เขียน:555Edwardius เขียน: โป๊ปไม่ใช่ดาเนียลนี่
ท่านก็กลัวเป็น
555+
แอบอมยิ้ม
อยากให้พวกที่ชอบอ้างว่า Bible คือผลงานมนุษย์แต่งกันเองตามประวัติศาสสตร์ ได้สำนึกได้จัง
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
อาแมนHoly เขียน: "ดังนั้น ขอให้เราวิงวอนพระเจ้า โปรดประทานให้เราเป็นคริสตชนที่เปี่ยมด้วยลักษณะดังกล่าวครบสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเคารพต่อสังคมที่เราอยู่อาศัย หรือเคารพต่อสมาชิกครอบครัวของพระเจ้า นอกจากนี้ เราทุกคนยังภาวนาให้ผู้อภิบาลของพระศาสนจักร มีความรักและเอาใจใส่ต่อสมาชิกเพิ่มขึ้น รวมไปถึงมีความสุภาพถ่อมตนและมีความเข้มแข็งที่จะเป็นผู้ดูแลบ้านของพระเจ้า ซึ่งก็คือ พระศาสนจักรนั่นเอง" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย
ทำไมข้าพเจ้าถึงมองว่าลูกสิงโตในรูปนี้กำลังหาวมากกว่าแยกเขี้ยวก็ไม่รู้สิ†Ecclēsia เขียน: สมควรกล้าๆกลัวๆอยู่หรอกค่ะ ดูจากที่มันเเยกเขี้ยวใส่พระองค์เเล้ว
เลยไม่รู้สึกกลัวน่ะ ถ้ามันหุบปาก มันก็คงจะน่ารักน่ะนะ (คิดในทางที่ดี)