++เกี่ยวกับพระพรพิเศษ++

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2005 12:24 am

พระพรพิเศษเช่น
พระพรรักษา
พระพรไล่ผี
อะไรแบบนี้เท่าที่มีมามีพระพรอะไรบ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2005 1:44 am

ลองดูในพระคัมภีร์สิจ๊ะ
พระเยซูเจ้าทรงทำอะไรบ้าง
และหลังจากศานุศิษย์ได้รับพระจิตเจ้าแล้ว
เขาได้พระพรอะไรบ้าง *no1
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2005 3:29 am

1คร 12:4-11 พระพรพิเศษมีจุดประสงค์เดียวกัน
พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว กิจการมีหลายอย่าง แต่มีพระเจ้าพระองค์เดียวผู้ทรงกระทำทุกอย่างในทุกคน พระจิตเจ้าทรงแสดงพระองค์ในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
พระจิตเจ้าประทานถ้อยคำที่ปรีชาแก่คนหนึ่ง พระจิตเจ้าประทานถ้อยคำที่รอบรู้แก่อีกคนหนึ่ง พระจิตเจ้าพระองค์เดียวกัน ประทานความเชื่อแก่อีกคนหนึ่ง พระจิตเจ้าพระองค์เดียวกันประทานพระพรบำบัดรักษาโรค ประทานอำนาจทำอัศจรรย์ให้อีกคนหนึ่ง ประทานให้อีกคนหนึ่งประกาศพระวาจา ให้อีกคนหนึ่งรู้จักจำแนกจิตต่าง ๆ ให้อีกคนหนึ่งพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ และให้อีกคนหนึ่งตีความอธิบายความหมายของภาษานั้นได้ พระพรพิเศษทั้งมวลเป็นผลงานจากพระจิตเจ้าพระองค์เดียว ผู้ทรงแจกจ่ายพระพรต่าง ๆ ให้แต่ละคนตามที่พอพระทัย

1คร 12:28
พระเจ้าทรงแต่งตั้งบางคนให้ทำหน้าที่ต่าง ๆ ในพระศาสนจักร คือ หนึ่งให้เป็นอัครสาวก สองให้เป็นประกาศก และสามให้เป็นครูอาจารย์ ต่อจากนั้น คือผู้มีอำนาจทำอัศจรรย์ ผู้รักษาโรค ผู้ช่วยเหลือ ผู้ปกครอง และผู้พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ ทุกคนเป็นอัครสาวกหรือ ทุกคนเป็นประกาศกหรือ ทุกคนเป็นครูอาจารย์หรือ ทุกคนเป็นผู้ทำอัศจรรย์หรือ ทุกคนบำบัดโรคได้หรือ ทุกคนพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจหรือ ทุกคนเป็นผู้ตีความอธิบายความหมายของภาษานั้นหรือ ท่านทั้งหลายจงพยายามแสวงหาพระพรพิเศษที่ประเสริฐยิ่งกว่านี้เถิด ข้าพเจ้าจะขอชี้ทางที่ดีกว่าให้ท่าน

แม้ข้าพเจ้าพูดภาษาของมนุษย์และของทูตสวรรค์ได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็เป็นแต่เพียงฉาบหรือฉิ่งที่ส่งเสียงอึกทึก แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อ และมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด แม้ข้าพเจ้าจะแจกจ่ายทรัพย์สินทั้งปวงให้แก่คนยากจน หรือยอมมอบตนเองให้นำไปเผาไฟเสีย ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็มิได้รับประโยชน์ใด
ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง ความรักไม่มีสิ้นสุด แม้การประกาศพระวาจาจะถูกยกเลิก แม้การพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจจะยุติ แม้ความรู้จะหมดสิ้น เพราะเรารู้อย่างไม่สมบูรณ์ และประกาศพระวาจาอย่างไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อสิ่งที่สมบูรณ์มาถึง ความไม่สมบูรณ์จะสูญสิ้นไป เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าก็พูดจาเหมือนเด็ก ๆ คิดเหมือนเด็ก ๆ ใช้เหตุผลเหมือนเด็ก ๆ แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกประพฤติเหมือนเด็ก ในเวลานี้ เราเห็นพระเจ้าเพียงราง ๆ เหมือนเห็นในกระจกเงา แต่เมื่อถึงเวลานั้น เราจะเห็นพระองค์เหมือนพระองค์ทรงอยู่ต่อหน้าเรา เวลานี้ ข้าพเจ้ารู้อย่างไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อถึงเวลานั้น ข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนที่พระองค์ทรงรู้จักข้าพเจ้า ขณะนี้ยังมีความเชื่อ ความหวังและความรักอยู่ทั้งสามประการ แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมดคือ ความรัก

จงแสวงหาความรักเถิด จงปรารถนาพระพรของพระจิตเจ้า โดยเฉพาะพระพรการประกาศพระวาจา คนที่พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ ไม่พูดสำหรับมนุษย์เพราะไม่มีผู้ใดเข้าใจ แต่พูดสำหรับพระเจ้า พระจิตเจ้าทรงดลใจเขาให้พูดถึงเรื่องลึกล้ำ ส่วนผู้ประกาศพระวาจานั้นพูดให้มนุษย์ฟัง เพื่อเสริมสร้าง ตักเตือนและให้กำลังใจ ผู้พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจเสริมสร้างตนเอง ส่วนผู้ประกาศพระวาจาเสริมสร้างพระศาสนจักร ข้าพเจ้าต้องการให้ทุกท่านพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจนี้ แต่ความต้องการที่มากกว่านั้นคือให้ท่านทั้งหลายประกาศพระวาจาได้ เพราะผู้ประกาศพระวาจามีความสำคัญมากกว่าผู้พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ เว้นแต่ว่าผู้พูดภาษาดังกล่าวจะอธิบายข้อความที่เขาพูดได้ เพื่อเสริมสร้างพระศาสนจักร


------------------------------------------------
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ot@
~@
โพสต์: 989
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:44 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2005 8:27 am

เห็นหัวข้อกระทู้แล้วนึกถึงพระคำภีร์บทที่เปิดได้บ่อยๆนั้นก็คือ เรื่องพระพรยองพระจิตเจ้าอะครับ (ทอโมธีช่วงต้นๆไปอ่านดูละกัน^_^)

จริงๆแล้วได้รับความรักขนาดนี้ก็น่าจะดีใจมากๆแล้ว หากจะได้รับพระพรหรือของประทานสิ่งใดก็แล้วแต่น้ำพระทัยละกัน^_^
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2005 10:01 pm

แต๊งกิ้วครับ คือผมมีปัญหาอีกอย่างก็คือบางทีผมก็รักพระมากๆ แต่บางทีจิตใจก็แข็งเป็นหิน พออ่านจากคำบอกเล่าของพระเยวูผ่านทางวาสุล่าก็ได้ว่า
"เราได้นำความรักของเจ้าที่มีต่อเราไปให้คนอื่นได้รู้สึกรักเรา" ผมก็ใจชื้น แต่พออ่านเรื่องวิญญานในไฟชำระบอกขาพเจ้า ก็ได้อีกว่า"วิญญานส่วนให็ก็เป็นพวกที่มีใจเฉื่ยฉาต่อพระเป็นเจ้า" ก็ทำให้ผมสับสนได้เหมือนกัน หรือว่าอันหลังจะเป็นเกี่ยวกับพวกที่มีใจเฉื่ยฉาตลอดไม่แม้แต่จะแสวงหา ผมเข้าใจถูกไหมครับ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ค. 27, 2005 2:02 am

ใจเฉื่อยชา คือพวกรู้จักพระเจ้าแล้ว
แต่ไม่แสวงหา
เหมือนเป็นคริสต์ทะเบียนบ้านอ่ะจ๊ะ

เข้าใจความหมายพี่อ่ะเปล่า


ปล.
เจ๊ทาสับสนเรื่องอะไร? พี่เห็นเราเขียนว่าสับสน
แต่เขียนวนๆจนพี่ก็สับสนว่าเราสับสนเรื่องอะไรกันแน่..........ง่า
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ พ.ค. 29, 2005 6:20 am

เฮีย เจ๊ทา ฮับ ต้องคิดถึงผลฝ่ายวิญญาน ด้วยฮะ

กาลาเทีย

5:22 ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความปลาบปลื้มใจ สันติสุข ความอดกลั้นใจ ความปรานี ความดี ความสัตย์ซื่อ
5:23 ความสุภาพอ่อนน้อม การรู้จักบังคับตน
เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย
ตอบกลับโพส