พระสันตะปาปาเตือนสติอย่าตีความพระคัมภีร์ตามใจตนเอง

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ เม.ย. 27, 2009 6:57 pm

พระสันตะปาปาเตือนสติอย่าตีความพระคัมภีร์ตามใจตนเอง

สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเตือนสติ อย่าบังอาจตีความพระคัมภีร์ตามใจตัวเอง เพราะนี่คือผลงานที่พระเจ้าทรงเขียนขึ้น ฉะนั้น คนตีความต้องทำให้ถูกตามหลักคำสอนพระศาสนจักร ย้ำชัด พระวาจาของพระเจ้าคือหัวใจสำคัญของเทวศาสตร์ และเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตคริสตชน

รูปภาพ

สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุของค์ที่ 265 แห่งพระศาสนจักรคาทอลิก ทรงต้อนรับ พระคาร์ดินัล โจเซฟ เลเวด้า ประธานสมณกระทรวงพระสัจธรรม และสมาชิกคณะกรรมาธิการพระคัมภีร์ที่เดินทางมาเข้าเฝ้าภายหลังเสร็จสิ้นการ สัมมนาภายใต้หัวข้อ "การดลใจและความจริงในพระคัมภีร์" โอกาสนี้ พระสันตะบิดาเจ้าทรงให้ข้อคิดกับพวกเขาว่า อย่าตีความพระคัมภีร์ตามความคิดตนเองเป็นอันขาด แต่จงตีความโดยยึดคำสอนของพระศาสนจักรเป็นสำคัญ

พระสันตะปาปาทรงเริ่มต้นตรัสว่า "พระวาจาของพระเจ้าไม่ได้สำคัญกับคริสตชนผู้มีความเชื่อเท่านั้น แต่ยังสำคัญกับตัวพระศาสนจักรด้วย เพราะชีวิตและพันธกิจของพระศาสนจักรถือกำเนิดขึ้นบนพระวาจาของพระเจ้าซึ่ง เป็นจิตวิญญาณของเทวศาสตร์ ทำนองเดียวกัน พระวาจายังเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตคริสตชนทุกคนด้วย"

"การตีความพระคัมภีร์เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับความเชื่อคริสตชนและ ชีวิตของพระศาสนจักร ธรรมนูญการเผยความจริงของพระเจ้า (Dei Verbum) ระบุอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าคือผู้เขียนพระคัมภีร์ทั้งพันธสัญญาเก่าและใหม่ ธรรมนูญนี้เตือนใจเราว่า พระเจ้าตรัสกับเราเป็นภาษามนุษย์ ดังนั้น การตีความพระคัมภีร์ที่ถูก เราต้องพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบว่า ผู้นิพนธ์พระคัมภีร์ต้องการจะบอกอะไร และพระเจ้าทรงพอพระทัยจะเผยแสดงอะไรให้เราทราบ"

จากนั้น พระสันตะปาปาผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเทวศาสตร์ที่เก่งสุดของพระ ศาสนจักร ทรงหยิบยกรายละเอียดของสังคยานาวาติกัน ครั้งที่ 2 ซึ่งบอกกล่าวแนวทางการตีความพระคัมภีร์ที่ถูกต้องไว้ 3 ประการ ได้แก่ "อันดับแรก ต้องเอาใจใส่อย่างจริงจังต่อเนื้อหาและเอกภาพของหนังสือ(พระคัมภีร์)ทุกเล่ม อย่างไรก็ตาม การที่หนังสือเหล่านี้มีหลายเล่มและมีความแตกต่างกัน เราถือว่าทั้งหมดรวมเป็นหนึ่งตามพระประสงค์ของพระเจ้าซึ่งมีพระเยซูคริสต เจ้าเป็นศูนย์กลางและเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่ง"

"อันดับสอง พระคัมภีร์ต้องถูกอ่านในบริบทของสิ่งที่กระทำสืบต่อกันมาในพระศาสนจักร เมื่อพระเจ้าคือผู้เขียนพระคัมภีร์ พระจิตก็คือผู้ดลใจให้เกิดการถ่ายทอดพระวาจาออกมาเป็นภาษามนุษย์ ส่วนอันดับสาม นักวิชการต้องให้ความสำคัญกับความเป็นหนึ่งเดียวกันทางความเชื่อ ทั้งกับผู้อื่นและแผนความรอดของพระเจ้า" ผู้นำชาวคาทอลิกทั่วโลก ตรัสอธิบาย

ในตอนท้าย พระสันตะปาปายังเตือนสตินักวิชาการพระคัมภีร์ทุกคนว่า ถ้าหวังจะพบความจริงในพระคัมภีร์ ต้องศึกษาด้วยความเชื่อเท่านั้น ถ้าศึกษาแบบวิชาการ อาจไม่พบสิ่งที่แสวงหาก็ได้ "มันคงเป็นเรื่องไร้ประสิทธิภาพ ถ้าจะศึกษาพระคัมภีร์ด้วยหลักวิชาการเพียงอย่างเดียว ถ้าทำแบบนั้น พระคัมภีร์ก็คงไม่ต่างจากหนังสือวรรณกรรมทั่วไป อย่าลืมว่า พระคัมภีร์คือพระวาจาของพระเจ้า มนุษย์เขียนขึ้นโดยอาศัยการดลใจจากพระจิต ฉะนั้น เราต้องศึกษาด้วยความเชื่อและตีความตามบริบทของพระศาสนจักร"

ดูคลิปวีดีโอที่  http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!6644.entry

ที่มา http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!6644.entry
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

จันทร์ เม.ย. 27, 2009 8:27 pm

ถูกต้องแล้วคร้าบบบ ::012::

ขอบคุณพี่มิวมากค่ะ ::004::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

จันทร์ เม.ย. 27, 2009 9:28 pm

Amen and Amen
Dis volentibus

จันทร์ เม.ย. 27, 2009 10:09 pm

รีบไปอบรมJOD ดีกว่า  :grin:

ป.ล. ขอบพระคุณพี่มิวค่ะ  : emo038 :
ตอบกลับโพส