นี่แหละ.... ความรักของพ่อ

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

อาทิตย์ พ.ค. 24, 2009 7:10 pm

มีเรื่องสั้นดีๆ มาฝากครับ...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

รักนั้นนิรันดร - Unconditional love

โดย มักดาเลนา

วันสิ้นพิภพและการพิพากษาครั้งสุดท้ายเพิ่งจะผ่านพ้นไป ทุกสรรพสิ่งถูกจัดวางไว้ในที่ที่เหมาะสม ผู้ได้รับการไถ่ให้รอดถูกนำขึ้นเข้าสู่สวรรค์ เพื่อชื่นชมกับความสุขตลอดนิรันดร์ ส่วนคนชั่วถูกทิ้งไว้ข้างนอกที่มีแต่ความมืดมิด มีแต่เสียงร่ำไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ผู้ตายถูกปลุกให้คืนชีพ กิจการทั้งสิ้นของพวกเขาได้รับการพิพากษาเรียบร้อยทุกประการ

แต่พระเป็นเจ้าของเราก็ยังไม่รู้สึกเป็นสุขนัก โดยเฉพาะพระบิดา พระองค์คิดถึงพวกลูก ๆ ที่มีน้ำใจอิสระในการเลือกทำดีทำชั่ว แต่กลับดื้อด้านไม่ยอมกลับใจ เลยต้องถูกโยนออกไปอยู่ในความมืดข้างนอกโน่น พระบุตรกับพระจิตก็ทุกข์ใจไม่แพ้กันเลย แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อทั้งสองได้ทำหน้าที่ในการไถ่กู้ของตนสำเร็จไปแล้ว ทั้งสองจึงทำได้แต่นั่งดูทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามทางของมัน แต่กับพระบิดาไม่ได้เป็นเช่นนั้น พระองค์ยังทรงดำเนินตามแผนการของตนต่อไป เพื่อหาบทสรุปที่น่าพึงใจที่สุด วันหนึ่งพระองค์เกิดมีความคิดดี ๆ ขึ้นมา จึงเอาไปบอกต่อแก่พระบุตรและพระจิตในทันที เพราะทั้งสามพระองค์ทรงอยู่ใกล้ชิดกันมาก

"เราจะปล่อยให้ชาวสวรรค์ชื่นชมยินดีได้อย่างไร ในเมื่อลูก ๆ ของเราหลายคนยังตกอยู่ในสภาพที่ทุกข์ยากอย่างนั้น เราต้องทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว"

"ตกลงครับ แต่เราจะทำออย่างไรกันดีละ?" พระบุตรถาม

"ใช่ เราจะทำอย่างไรกันดี?" พระจิตผู้เป็นเสมือนเสียงสะท้อนของพระบุตรถามขึ้นบ้าง

"เธอทั้งสองได้ทำการไถ่กู้พวกเขาด้วยการลงไปเกิดเป็นมนุษย์และการนำทางในศาสนจักรแล้ว คราวนี้ถึงคราวของฉันบ้างละ หลังจากนั่งคิดมาหลายเพลาฉันตัดสินใจแล้วว่าถึงคราวที่จะต้องออกโรงบ้าง"

ทั้งพระบุตรและพระจิตคอยฟังอย่างตั้งใจ

"ฉันจะออกไปหาพวกเขาข้างนอก และจะพยายามจูงใจพวกเขาให้เข้ามาอยู่กับพวกเราที่นี่ให้ได้" พระบิดาว่า

"ถ้าได้เห็นพระองค์ท่ามกลางสิริรุ่งโรจน์เช่นนี้แล้ว เขาจะต้องเข้ามาถึงสวรรค์ได้แน่นอน แต่พวกเขาจะไม่ได้ใช้เสรีภาพในการเลือกของตนเลยนะครับ" พระจิตท้วงขึ้น ท่านเป็นนักปฏิบัติที่ละเอียดถี่ถ้วนเช่นนี้เสมอ "เราเคยบอกกันไว้ตั้งนานมาแล้วว่า จะเคารพในเสรีภาพของพวกเขามากที่สุด พระองค์คงไม่คิดจะริบเอาเสรีภาพนั่นมาจากพวกเขากระมัง?"

"จริงอย่างเธอว่า" พระบิดาว่า "แต่ถ้าไม่ทำเช่นนั้นก็คงเป็นเรื่องยากไม่น้อยเลย เอาอย่างนี้แล้วกันในเมื่อพระบุตรเคยซ่อนสภาพพระเจ้าในรูปกายของมนุษย์ พระจิตก็ซ่อนสภาพพระเจ้าในรูปของเปลวไฟ ฉันก็จะซ่อนสภาพพระเจ้าของฉันในรูปของชายแก่แล้วกัน"

ว่าแล้วชายชราท่าทางสูงสง่าและน่านับถือท่านนั้นก็เดินท่อม ๆ ออกจากสวรรค์ไปตามหาลูก ๆ ที่หลงทางของตน

คนบาปเหล่านั้นกระจัดกระจายอยู่ตามมุมมืดต่าง ๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนสลดหดหู่ ส่วนใหญ่นั่งจับกลุ่มกันอยู่รอบกองไฟที่ส่งควันคลุ้ง (พระเป็นเจ้าไม่ปล่อยให้ตกให้พวกเขาตกอยู่ในความมืดเสียทีเดียว ยังทรงเมตตาประทานเชื้อไฟให้ได้ใช้กันบ้าง)

เมื่อชายชราท่าทางสูงสง่าและน่านับถือเดินเข้ามา พวกเขาก็จำได้ทันทีว่าเป็นพระบิดานั่นเอง ชายชราเดินเข้าไปหาคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งล้อมรอบกองไฟกันอยู่

"ว่าไง พระองค์เบื่อปาร์ตี้ในสวรรค์แล้วเรอะ ถึงได้ถ่อมาถึงที่นี่?" คนหนึ่งแดกเข้าให้

"ไม่ใช่อย่างนั้น" พระบิดาตอบ "ฉันจะมาชวนพวกเธอเข้าไปที่สวรรค์ด้วยกัน เธอก็รู้ไม่ใช่หรือว่า สำหรับฉันแล้วไม่มีคำว่าสายไปหรอก"

"ทำไมเราจะต้องเข้าไปด้วย?" คนหนึ่งสอดขึ้นอย่างอวดดี "เราไม่อยากไปยืนแหกปากร้องเพลงบ้า ๆ สรรเสริญพระองค์ตลอดกาลหรอก อย่ามาหลอกเสียให้ยากเลย"

"เอาเถอะ เธอไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้ ถ้าเธอไม่อยากทำ" พระบิดาตรัสด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ที่ลูก ๆ ของฉันในสวรรค์ร้องเพลงสรรเสริญอย่างนั้น ก็เพราะพวกเขาอยากจะร้องเอง จำไว้เถิดว่า : ในสวรรค์นั้นมีงานเลี้ยง คนที่ไปงานเลี้ยงจะไม่ถูกบังคับให้ร้องเพลงหรือเต้นรำถ้าเขาไม่ต้องการ เขาร้องเพลงเพราะมันทำให้เขามีความสุขก็เท่านั้นเอง"

"ให้ตายเหอะ คนพวกนั้นจะมีความสุขได้ไง ถ้าพวกเขาต้องยืนกุมมือโค้งหลังอยู่ต่อหน้าพระองค์ไปตลอดนิรันดร?" อีกคนถามขึ้น

พระบิดายิ้มแย้มพลางตรัสว่า
"ต้องบอกพวกเธอไว้ก่อนนะว่า ลูก ๆ ของฉันในสวรรค์ร้องเพลงให้ฉัน เพราะเขารู้สึกสุขใจที่ได้ทำเช่นนั้น ฉันขอรับประกันว่า ที่นั่นจะไม่มีใครถูกบังคับให้ทำอะไรในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ ถ้าเธอจะเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างและเป็นเงื่อนไขเพื่อติดตามฉันไป ถึงจะต้องสละบัลลังก์จอมกษัตริย์แห่งสวรรค์ให้พวกเธอขึ้นไปนั่ง ฉันก็อนุญาต ถ้าพวกเธอต้องการเช่นนั้น"

ขณะที่พระองค์สนทนากับพวกเขาอยู่นั้น ผู้คนที่อยู่ห่างออกไปรอบนอกเมื่อเหลือบเห็นชายชราท่าทางน่าเคารพเข้า ก็จำได้ว่าเป็นพระบิดา จึงเดินเข้ามาร่วมวงด้วย ไม่ช้านักกลุ่มคนแห่งความมืดก็รวมตัวกันจนกลายเป็นฝูงชนขนาดใหญ่

เมื่อได้ยินว่าพระบิดาจะยอมยกบัลลังก์กษัตริย์แห่งสวรรค์ให้ถ้าใครต้องการ คนโฉดคนหนึ่งก็ขว้างหินใส่พระองค์ทันที หินนั้นลอยผ่านหน้าพระองค์ไปไม่กี่นิ้วเท่านั้น

"เฮ้ย" หลายคนโห่ลั่น "นั่นเอ็งกำลังหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนะโว้ย! ระวังตัวให้ดีเถอะ เดี๋ยวพระองค์ก็เล่นเอ็งให้หมอบซะหรอก"

"ฮะฮ่า ข้าก็ว่างั้นแหละ" คนที่ขว้างหินใส่หัวเราะเยาะ แล้วหันไปบอกพระบิดาว่า "เอาสิ เล่นงานข้าด้วยสายฟ้าฟาดของพระองค์ก็ได้ อย่างน้อยก็ทำให้มีอะไร ๆ น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นที่นี่บ้าง"

พระบิดามองหน้าเขา แล้วถอนใจใหญ่
"ฉันจะทำร้ายเธอได้อย่างไร ในเมื่อฉันรักเธอมากขนาดนั้น?" พระองค์กล่าวเสียงเศร้า

"เฮ่ย แต่ข้าขว้างหินใส่พระองค์นะ?" ชายคนนั้นร้องอย่างขุ่นเคือง

"แล้วไงเล่า" พระบิดาว่า

"พระองค์จะไม่ทำอะไรเพื่อรักษาเกียรติของพระองค์เลยเรอะ?" ชายหนุ่มเริ่มจริงจัง

"ไม่เห็นมีเกียรติอะไรให้ต้องรักษาเลย"

"ดีละ งั้นขอถามหน่อย ถ้าพระองค์รักพวกเราจริง ไหงโยนพวกเราให้ออกมาอยู่ข้างนอกนี้ล่ะ?"

พระบิดาถอนใจอีกครั้ง
"ฉันรักพวกเธอโดยมิได้หวังอะไรเลย เพราะนามของฉันคือความรัก"

พวกนั้นส่งเสียงฟิดฟัดเหมือนไม่ค่อยอยากเชื่อ
"พระองค์หมายความว่า พระองค์รักพวกเราต่อไปก็ได้ทั้ง ๆ ที่พวกเราไม่รักพระองค์เลยหรือ?" คนหนึ่งถามขึ้น

"ใช่" พระบิดาตอบ "ฉันจะยังคงรักพวกเธอเรื่อยไป แม้พวกเธอจะปฏิเสธความรักนิรันดรของฉันก็ตาม นี่แหละวิธีการแสดงความรักของฉัน"

"เราไม่เชื่อ" มีบางคนตะโกนขึ้นมาจากด้านหลัง แล้วพวกเขาก็เริ่มขว้างก้อนหินใส่พระองค์ คราวนี้มีหินก้อนหนึ่งถูกศีรษะของพระองค์เข้าอย่างจัง ทำเอาพระองค์ถึงกับเซไปตามแรงปะทะ พระโลหิตไหลออกมาจากบาดแผลรินอาบพระพักตร์ หลายคนเริ่มก้มหยิบก้อนหินขึ้นมาขว้างใส่พระองค์บ้าง เสียงร้องขับไล่ทำให้พระองค์ต้องล่าถอยออกมา พระบิดาในร่างของชายชราถูกทอดทิ้งไว้ที่มุมหนึ่ง ไม่มีใครสนใจพระองค์เลย ตามเนื้อตัวมีบาดแผลอยู่หลายแห่ง คนพวกนั้นตะโกนด่าทอให้พระองค์รีบออกไปจากดินแดนของพวกเขาโดยเร็วที่สุด

"ลูกรัก ลองใคร่ครวญอีกครั้งหนึ่งเถิด ฉันยังให้โอกาสพวกเธอเสมอ ครั้งนี้ฉันจำต้องไปจากพวกเธอ เพราะฉันเห็นว่าพวกเธอยังไม่พร้อมยอมรับความรักที่ฉันมีให้ แต่ฉันจะกลับมาอีกครั้ง เผื่อว่าบางทีพวกเธออาจจะเปลี่ยนใจไปกับฉัน และเราจะได้มีความสุขด้วยกัน"

ว่าแล้วพระบิดาในร่างของชายชราจึงเดินไปซ่อนตัวอยู่หลังเนินเขาแห่งหนึ่ง ขณะที่มีเสียงด่าทอเยาะเย้ยตามหลังมาเป็นระยะ คนพวกนี้ยังเย่อหยิ่งจองหองเหมือนเคย คนบาปใจดื้อด้านทั้งหลายยังคงปฏิเสธที่จะกลับไปหาพ่อที่รักของพวกเขาเหมือนที่เป็นมา

อย่างไรก็ดี มีหลายคนเริ่มใจอ่อนเมื่อเห็นว่า แม้แต่ในห้วงเหวน้ำตาเช่นนี้พระบิดาอุตส่าห์ออกมาตามพวกเขาไปอยู่ด้วยกัน บางคนถึงกับนิ่งอึ้งไป พูดอะไรไม่ออก บางคนแอบเดินออกไปหาพระองค์ และพบว่าพระองค์ทรงพำนักอยู่หลังเนินเขาไม่ไกลจากสถานที่พวกเขานั่งชุมนุมกันนั่นเอง เมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามา พระองค์ก็รีบวิ่งออกไปสวมกอดพวกเขาด้วยดวงใจที่โลดเต้นยินดี

เวลานี้พระองค์ทราบแล้วว่า การที่พระองค์ออกมาจากสวรรค์ครั้งนี้ไม่ได้เปล่าประโยชน์เสียทีเดียว พระองค์ทรงหวังอยู่ลึก ๆ ว่า สักวันหนึ่งลูก ๆ ทุกคนจะกลับใจหันหน้ามาหาพระองค์

ต่อให้ใช้เวลาตลอดนิรันดรก็เถอะ พระองค์คอยได้.

credit : อิสระ.com
แก้ไขล่าสุดโดย Cho เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 24, 2009 7:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 24, 2009 11:32 pm

ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ  หายไปนานเชียวพี่โชว์
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ พ.ค. 25, 2009 12:01 am

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ครับ : xemo017 :
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

จันทร์ พ.ค. 25, 2009 1:17 pm

~@Little lamb@~ เขียน: ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ  หายไปนานเชียวพี่โชว์
แฮะๆ  : xemo017 : หวัดดีครับ น้องจิง สบายดีมั้ยเอ่ย  ใช่แล้วหายไปนานเลย พอดีเปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่อยู่บ่อยน่ะครับ
ส่วนใหญ่ พี่จะเข้ามาอ่านๆ ไม่ค่อยได้ post จ้า
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

จันทร์ พ.ค. 25, 2009 6:51 pm

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ค่ะ ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ พ.ค. 25, 2009 10:37 pm

Cho เขียน:

แฮะๆ  : xemo017 : หวัดดีครับ น้องจิง สบายดีมั้ยเอ่ย  ใช่แล้วหายไปนานเลย พอดีเปลี่ยนงาน เปลี่ยนที่อยู่บ่อยน่ะครับ
ส่วนใหญ่ พี่จะเข้ามาอ่านๆ ไม่ค่อยได้ post จ้า

ก็เข้ามาโพสบ่อย ๆ นะจ้า
จะได้รู้ว่า ยังอยู๋~~~~~~~~ 

::046::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อังคาร มิ.ย. 09, 2009 12:34 am

ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ  : emo045 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

จันทร์ มิ.ย. 29, 2009 6:24 am

ผมว่าคนที่เขียนเรื่องนี้ เค้าคงเข้าใจความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้งมากเลยน่ะครับ ถึงเขียนได้แบบนี้
พระเจ้าน่ารักจิงๆ อ่านล่ะซึ้งคร้าบบบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Happiiloo
โพสต์: 181
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 27, 2009 11:35 pm

จันทร์ มิ.ย. 29, 2009 5:41 pm

อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค

อยากตะโกนออกมาเป็นคำสรรเสริญ
พระน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ(ไม้ยมกต่อไปอีกพันล้านปีแสง)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Léon
โพสต์: 766
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 13, 2009 8:43 pm
ที่อยู่: แผ่นดินโลก
ติดต่อ:

จันทร์ มิ.ย. 29, 2009 5:50 pm

อยากร้องไห้จัง ซึ้งนะ พระเจ้าเราช่างแสนดี
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

อังคาร มิ.ย. 30, 2009 11:11 am

billa-bong เขียน: ผมว่าคนที่เขียนเรื่องนี้ เค้าคงเข้าใจความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้งมากเลยน่ะครับ ถึงเขียนได้แบบนี้
พระเจ้าน่ารักจิงๆ อ่านล่ะซึ้งคร้าบบบ
พระวรสารนักบุญลูกา บทที่ 15

11พระองค์ยังตรัสอีกว่า 'ชายผู้หนึ่งมีบุตรสองคน

12บุตรคนเล็กพูดกับบิดาว่า"คุณพ่อครับ โปรดให้ทรัพย์สมบัติส่วนที่เป็นมรดกแก่ลูกเถิด" บิดาก็แบ่งทรัพย์สมบัติให้แก่ลูกทั้งสองคน

13ต่อมาไม่นาน บุตรคนเล็กได้รวบรวมทุกสิ่งที่มีแล้วเดินทางไปยังประเทศห่างไกลที่นั่นเขาได้ประพฤติเสเพลผลาญ เงินทองจนหมดสิ้น

14'เมื่อเขาผลาญเงินหมดแล้ว บังเอิญประเทศนั้นเกิดความอดอยากครั้งใหญ่ และเขาเริ่มขาดแคลน

15จึงไปรับจ้าง อยู่กับชาวเมืองนั้นคนหนึ่ง ซึ่งใช้เขาไปเลี้ยงหมูในไร่

16เขาอยากกินฝักถั่วที่หมูกินเพื่อระงับความหิว แต่ไม่มีใครให้

17เขาจึงรู้สำนึกและคิดว่า "ผู้รับใช้หลายคนของพ่อฉันมีอาหารกินอย่างอุดมสมบูรณ์ ส่วนฉันอยู่ที่นี่ หิวจะตายอยู่แล้ว!

18ฉันจะกลับไปหาพ่อ พูดกับพ่อว่า "คุณพ่อครับ ลูกได้ทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อคุณพ่อ

19ลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของคุณพ่ออีก โปรดถือว่าลูกเป็นผู้รับใช้คนหนึ่งของคุณพ่อเถิด"

20เขาก็กลับไปหาบิดา
'ขณะที่เขายังอยู่แต่ไกล บิดามองเห็นเขา รู้สึกสงสาร จึงวิ่งไปสวมกอดและจูบเขา

21บุตรจึงกล่าวแก่บิดาว่า "คุณพ่อครับ ลูกได้ทำบาปผิดต่อสวรรค์และต่อคุณพ่อลูกไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นลูกของคุณพ่ออีก"

22แต่บิดาพูดกับผู้รับใช้ว่า "เร็วเข้า! จงไปเอาเสื้อสวยที่สุดมาสวมให้ลูกเรา เอาแหวนมาสวมนิ้ว เอารองเท้ามาใส่ให้

23จงเอาลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วไปฆ่า แล้วกินเลี้ยงฉลองกันเถิด

24เพราะลูกของเราผู้นี้ตายไปแล้วได้กลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก" แล้วการฉลองก็เริ่มขึ้น
Te Deum
โพสต์: 387
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 02, 2009 7:20 pm

อังคาร มิ.ย. 30, 2009 8:20 pm

ขอบคุณมากมากนะคะ
แบ่งปันได้ดีมากเลย
::022:: พระบิดาน่ารักยิ่ง
oata_kung
~@
โพสต์: 75
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.พ. 16, 2005 10:36 pm
ที่อยู่: Bangkok, Thailand

เสาร์ ก.ค. 04, 2009 12:27 pm

ข้าพเจ้ายอมแล้วพระเจ้าข้า ข้าพเจ้ายินดีทำตามน้ำพระทัย : xemo026 : : xemo023 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
King Zadin
โพสต์: 419
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 3:53 am
ติดต่อ:

เสาร์ ก.ค. 04, 2009 12:29 pm

ขอบคุณครับ

" ต่กระนั้นข้ามีความไว้ใจ ในองค์ทรงชัยทรงพระนามว่าบิดา เข้ามากราบวิงวอนพระองค์ ขอทรงเมตตา เมตตา เมตตา "
ตอบกลับโพส