++ ถามกันเล่นๆ จ้า อยากทราบว่าพี่น้องจินตนาการ แดนสวรรค์ ว่ามีลักษณะอย่างไร ++
ขอบคุณที่หลงเข้ามาตอบกันนะจ๊ะ พี่น้องทั้งหลาย เผอิญฟ้าครึ้ม ทำให้อารมณ์ พาไป
เลยอยากจะถามพี่น้องเล่นๆ (แต่จะเอาคำตอบกันจริงๆ นะจ๊ะ หุๆ ) กัน สัก 2 ข้อว่า
1. แดนสวรรค์ วิมานนิรันดร บ้านแท้ของพวกเรานั้น ในจินตนาการของพี่น้อง มีลักษณะอย่างไร?
- ในจินตนาการของผม ผมคิดว่า เป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี กว้างสุดลูกหูลูกตา มีดอกไม้ที่มีความสวยงามหลายหลากสี
ซึ่งเป็นสีที่ไม่เคยเห็นในโลกนี้
2. ถ้าพี่น้องได้รับชีวิตนิรันดรแล้ว นอกจากการสรรเสริญและรักพระเป็นเจ้าแล้ว พี่น้องจะทำกิจกรรมอื่นๆ ใดๆ กันบ้างในสวรรค์ เพราะว่าเรามีเวลาเป็นนิรันดร (กลัวเซ็งหง่ะ จริงๆ ผมกะจะวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้าน่ะ จะเอาไอเดียของแต่ละคนไปใช้ อิๆ )
- ตัวผมเอง อยากจะเหาะไป เหาะมา จะไปสำรวจสวรรค์ให้ทั่วเลย (เป็นความฝันวัยเด็ก อยากเหาะได้แบบ superman มากๆเลย)
เลยอยากจะถามพี่น้องเล่นๆ (แต่จะเอาคำตอบกันจริงๆ นะจ๊ะ หุๆ ) กัน สัก 2 ข้อว่า
1. แดนสวรรค์ วิมานนิรันดร บ้านแท้ของพวกเรานั้น ในจินตนาการของพี่น้อง มีลักษณะอย่างไร?
- ในจินตนาการของผม ผมคิดว่า เป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี กว้างสุดลูกหูลูกตา มีดอกไม้ที่มีความสวยงามหลายหลากสี
ซึ่งเป็นสีที่ไม่เคยเห็นในโลกนี้
2. ถ้าพี่น้องได้รับชีวิตนิรันดรแล้ว นอกจากการสรรเสริญและรักพระเป็นเจ้าแล้ว พี่น้องจะทำกิจกรรมอื่นๆ ใดๆ กันบ้างในสวรรค์ เพราะว่าเรามีเวลาเป็นนิรันดร (กลัวเซ็งหง่ะ จริงๆ ผมกะจะวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้าน่ะ จะเอาไอเดียของแต่ละคนไปใช้ อิๆ )
- ตัวผมเอง อยากจะเหาะไป เหาะมา จะไปสำรวจสวรรค์ให้ทั่วเลย (เป็นความฝันวัยเด็ก อยากเหาะได้แบบ superman มากๆเลย)
- Ecclēsia
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
ตอบเล่นๆ เพ้อๆ
1. ขอทุ่งหญ้า มีลำธาร มีภูเขา บ้านโทรมๆ1หลัง โรงนาเก่าๆอีก1 อาการเดียวกับออสเตรีย
2. เริ่มจากไม่เซ็งก่อนจ่ะ เพราะต้องอยู่ไปอีกนาน...555
เอาจริงๆ
1. คิดว่าจะได้พบพี่น้องที่สิ้นชีพไปก่อนเรา บรรดานักบุญ ทูตสวรรค์ เเละที่สำคัญเจอพระเจ้าองค์จริงๆ ใกล้ๆ
2. ข้อนี้ตอบไม่ได้จริงๆค่ะ ไม่มีอยู่ในสารบบความคิดเลย
1. ขอทุ่งหญ้า มีลำธาร มีภูเขา บ้านโทรมๆ1หลัง โรงนาเก่าๆอีก1 อาการเดียวกับออสเตรีย
2. เริ่มจากไม่เซ็งก่อนจ่ะ เพราะต้องอยู่ไปอีกนาน...555
เอาจริงๆ
1. คิดว่าจะได้พบพี่น้องที่สิ้นชีพไปก่อนเรา บรรดานักบุญ ทูตสวรรค์ เเละที่สำคัญเจอพระเจ้าองค์จริงๆ ใกล้ๆ
2. ข้อนี้ตอบไม่ได้จริงๆค่ะ ไม่มีอยู่ในสารบบความคิดเลย
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ พ.ค. 30, 2009 1:22 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
เด๋วผมตาย จะกลับมาเล่าให้ฟัง
สวรรค์ก็คงแบ่งเป็นชั้นๆละมั้งครับ ชั้นบนสุดสำหรับคงได้อยู่กับพระเจ้าและพระเยซู ชั้นถัดมาอยู่กับพระเยซูและพระเจ้ามาเยี่ยมบ่อยๆ
ชั้นถ้ดมาอีกพระเยซูมาเยี่ยมและสั่งสอนพระคำบ่อยๆและพระเจ้ามาเยี่ยมเป็นบางครั้ง ชั้นถ้ดมาพระเยซูมาเยี่ยมบ้างแต่พระเจ้าไม่สามารถมาเยี่ยมได้
ชั้นถัดมาทูตสวรรค์มาเยี่ยมและสังสอนเกี่ยวกับพระเจ้าแต่พระเจ้าเสด็จมาเยี่ยมไม่ได้ และชั้นถัดๆมาก็ลดลั่นลงไป ก็ตามที่เรารู้ๆครับสิ่งที่ไม่สะอาดย่อมอยู่กับพระเจ้าไม่ได้ ถ้าแสงเีพียงน้อยนิดพระเจ้ามาปรากฎให้เห็นคงได้ใหม้เป็นจุลกันละ ส่วนพวกสมุนซาตานคงอยู่ภายนอกอาณาจักรกับซาตานละครับ ขืนเข้าประตูสวรรคไปมีหวังได้ใหม้เป็นจุลเพราะแสงสว่างนั่นเอง จามีใครเชื่อใหมหว่าเหอๆ
ชั้นถ้ดมาอีกพระเยซูมาเยี่ยมและสั่งสอนพระคำบ่อยๆและพระเจ้ามาเยี่ยมเป็นบางครั้ง ชั้นถ้ดมาพระเยซูมาเยี่ยมบ้างแต่พระเจ้าไม่สามารถมาเยี่ยมได้
ชั้นถัดมาทูตสวรรค์มาเยี่ยมและสังสอนเกี่ยวกับพระเจ้าแต่พระเจ้าเสด็จมาเยี่ยมไม่ได้ และชั้นถัดๆมาก็ลดลั่นลงไป ก็ตามที่เรารู้ๆครับสิ่งที่ไม่สะอาดย่อมอยู่กับพระเจ้าไม่ได้ ถ้าแสงเีพียงน้อยนิดพระเจ้ามาปรากฎให้เห็นคงได้ใหม้เป็นจุลกันละ ส่วนพวกสมุนซาตานคงอยู่ภายนอกอาณาจักรกับซาตานละครับ ขืนเข้าประตูสวรรคไปมีหวังได้ใหม้เป็นจุลเพราะแสงสว่างนั่นเอง จามีใครเชื่อใหมหว่าเหอๆ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
นั่นสินะครับ จินตนาการไม่ออกแฮะ
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
สำหรับผมอืมมมมมม เอาเป็นว่า เป็นสถานที่งดงามมมมมมมมมม ที่สุดว่ามนุษย์จะนึกได้ แล้วอยู่แล้วมีความสุขตลอดกาล อะไรแบบนี้ละกันคับ- -
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
ถ้าเป็นสถานที่ที่ได้พบและอยู่กับคนสำคัญทั้งหมดที่พบและพรากหรืออยู่ห่างไกลกันขณะอยู่บนโลก โดยไม่ต้องทะเลาะเบาะแว้งหรือสู้รบกับใครอื่นอีก ก็ดีแล้ว (จะมีคนเชื่อเรามั้ยเนี่ย)
(แต่ใจจริงมีความปรารถนาอื่น ๆ ด้วยน่ะนะ แต่อยู่ที่พระเจ้าจะยอมให้หรือเปล่านี่สิ แต่บนโลกนี้คงได้สิ่งนั้นยากมาก)
(แต่ใจจริงมีความปรารถนาอื่น ๆ ด้วยน่ะนะ แต่อยู่ที่พระเจ้าจะยอมให้หรือเปล่านี่สิ แต่บนโลกนี้คงได้สิ่งนั้นยากมาก)
บังเอิญมากที่ จขกท ถามเรื่องนี้ เพราะวันนี้ผมได้มีประสบการณ์เดี่ยวกับ"สวรรค์"โดยตรง ขอมาแบ่งปันตรงนี้ละกันนะครับ
(คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
ตัวผมเอง มีความเชื่อเป็นคาทอลิก แต่เมื่อคุณแม่ของผมขอร้องให้ไปเป็นเพื่อน ผมก็ตอบตกลงด้วยความวางใจที่ว่าความเชื่อของเราเข้มแข็งอยู่แล้ว และสนใจที่จะศึกษาวิธีทำสติในแบบต่างๆจากที่เราเคยชิน
พอไปถึงก็ผิดคาด เพราะผมได้พบว่า การฝึกมโนมยิทธินั้น มีจุดมุ่งหลักเพื่อพัฒนาจิตเพื่อให้เห็น สวรรค์ นรก และสิ่งต่างๆนอกเหนือธรรมชาตินั่นเอง
ระหว่างที่ฝึก จะมี"อาจารย์" ที่จะคอยพูดนำทาง (เหมือนไกด์) ว่าให้ยกจิตของเราขึ้นสวรรค์ ไปดูซิว่าพระพุทธเจ้า หน้าตาเป็นอย่างไร สวรรค์สวยงามอย่างไร และตัวเรามีร่างจิตอย่างไรบน"ภพนิพพาน"
ระหว่างนั่ง เธอจะคอยถามเหล่าผู้ฝึก (มีประมาณหกคนต่อหนึ่งห้องฝึก) เช็คดูว่าพวกเรา "เห็นจริง" รึเปล่า อาธิเช่น:
"มองหน้าพระพุทธเจ้าซิคะ....พระองค์ หน้าตอบผอม หรือ อิ่มเอมเต็มตึงค่ะ?"
"เห็นปราสาทแก้วด้านหน้าของเราไหมคะ?..ปราสาทสวรรค์นี้สวยไหมค่ะ?"
"ยอดปราสาท กลม หรือ แหลม ค่ะ?"
"พระพุทธเจ้าใส่รองเท้าอยู่ไหมค่ะ?....รองเท้าปลายแหลมสง่า หรือบางแบนค่ะ?"
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยได้ไกด์พาเดินทัวร์สวรรค์แบบนี้มาก่อนในชีวิต และมีอารมณ์เหมือนได้ไปเที่ยวปากน้ำ หรือ สระบุรี มากกว่าดินแดนสวรรค์....
ในขณะที่ผมพยายามสงบจิตและทำสมาธิ สวนกระแสการนำทัวร์อันเร้าใจของท่านอาจารย์นั่นเอง....ผมก็ได้อธิฐานขอให้แม่พระอยู่เคียงข้างผม และให้ทุกสิ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์...
ตอนนั่นเอง ผมก็รู้สึกสงบ รู้สึกได้ถึงความอิ่ม ความสุข จนร้องไห้ออกมา...แล้วก็ได้ยินเสียงพูดของสตรีคนหนึ่งว่า "เราคือความเที่ยงแท้"
แค่นี้แหละครับ ผมก็ชัวร์เลยว่า สวรรค์ผมไม่ได้มียอด กลม หรือแบน ไม่จำเป็นต้องดูว่าใส่รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้า ไม่ต้องดูว่าแก้มตอบผอม หรือเต็งตึง...
แต่ สวรรค์ สถิตย์อยู่กับผม นั่นก็เพราะร่างกายของผมคือพระวิหารของพระเจ้า
ความศักดิ์สิทธิ์ และสันติสุขกำลังลุกโชนดั่งเปลวไฟเดชะพระจิต
และความอบอุ่นเกินบรรยายที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องนั่งทางใน เดชะการวอนขอของพระแม่มารีย์
ทำให้ผมนึกได้ว่า ชีวิตในพระหรรษทานของพระเจ้า ก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
พอรู้สึกได้แค่นี้ ผมก็ไม่เคยจะกังวลถึงชีวิตหลังความตายอีกเลย....เพราะผมมั่นใจว่า พระองค์จะดูแลวิญญาณของผมอย่างดี และสวรรค์บนฟ้ามันจะสันติสุขมากกว่าสวรรค์บนดินเป็นร้อยพันเท่าทวี
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ")
ทำไงได้ครับ ผมมันพวกชอบแตกแถวทัวร์...อีกอย่าง คนนำผมเขาสวย น่าเชื่อถือกว่าครูเยอะนะครับ เฮอๆ
แบ่งปันกันสนุกๆครับ อย่างให่ทุกคนลองสัมผัสสวรรค์บนดินในตัวเราดูนะครับ แล้วจะวางใจเรื่องสวรรค์บนฟ้าหลังชิวิตเนรเทศนี้ได้อีกมากเลยครับ
...ก็บังเอิญดีที่ได้มีโอกาสไป...เลยเรียนรู้อะไรมา ได้แบ่งปันกับพวกเรา...บังเอิญที่มีกระทู้พูดถึงเรื่องนี้ด้วย..
...แต่จริงๆแล้ว ผมเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เป็นเรื่อง "บังเอิญ" หรอกครับ
ขอพระอวยพรทุกคนครับ
(คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
ตัวผมเอง มีความเชื่อเป็นคาทอลิก แต่เมื่อคุณแม่ของผมขอร้องให้ไปเป็นเพื่อน ผมก็ตอบตกลงด้วยความวางใจที่ว่าความเชื่อของเราเข้มแข็งอยู่แล้ว และสนใจที่จะศึกษาวิธีทำสติในแบบต่างๆจากที่เราเคยชิน
พอไปถึงก็ผิดคาด เพราะผมได้พบว่า การฝึกมโนมยิทธินั้น มีจุดมุ่งหลักเพื่อพัฒนาจิตเพื่อให้เห็น สวรรค์ นรก และสิ่งต่างๆนอกเหนือธรรมชาตินั่นเอง
ระหว่างที่ฝึก จะมี"อาจารย์" ที่จะคอยพูดนำทาง (เหมือนไกด์) ว่าให้ยกจิตของเราขึ้นสวรรค์ ไปดูซิว่าพระพุทธเจ้า หน้าตาเป็นอย่างไร สวรรค์สวยงามอย่างไร และตัวเรามีร่างจิตอย่างไรบน"ภพนิพพาน"
ระหว่างนั่ง เธอจะคอยถามเหล่าผู้ฝึก (มีประมาณหกคนต่อหนึ่งห้องฝึก) เช็คดูว่าพวกเรา "เห็นจริง" รึเปล่า อาธิเช่น:
"มองหน้าพระพุทธเจ้าซิคะ....พระองค์ หน้าตอบผอม หรือ อิ่มเอมเต็มตึงค่ะ?"
"เห็นปราสาทแก้วด้านหน้าของเราไหมคะ?..ปราสาทสวรรค์นี้สวยไหมค่ะ?"
"ยอดปราสาท กลม หรือ แหลม ค่ะ?"
"พระพุทธเจ้าใส่รองเท้าอยู่ไหมค่ะ?....รองเท้าปลายแหลมสง่า หรือบางแบนค่ะ?"
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยได้ไกด์พาเดินทัวร์สวรรค์แบบนี้มาก่อนในชีวิต และมีอารมณ์เหมือนได้ไปเที่ยวปากน้ำ หรือ สระบุรี มากกว่าดินแดนสวรรค์....
ในขณะที่ผมพยายามสงบจิตและทำสมาธิ สวนกระแสการนำทัวร์อันเร้าใจของท่านอาจารย์นั่นเอง....ผมก็ได้อธิฐานขอให้แม่พระอยู่เคียงข้างผม และให้ทุกสิ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์...
ตอนนั่นเอง ผมก็รู้สึกสงบ รู้สึกได้ถึงความอิ่ม ความสุข จนร้องไห้ออกมา...แล้วก็ได้ยินเสียงพูดของสตรีคนหนึ่งว่า "เราคือความเที่ยงแท้"
แค่นี้แหละครับ ผมก็ชัวร์เลยว่า สวรรค์ผมไม่ได้มียอด กลม หรือแบน ไม่จำเป็นต้องดูว่าใส่รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้า ไม่ต้องดูว่าแก้มตอบผอม หรือเต็งตึง...
แต่ สวรรค์ สถิตย์อยู่กับผม นั่นก็เพราะร่างกายของผมคือพระวิหารของพระเจ้า
ความศักดิ์สิทธิ์ และสันติสุขกำลังลุกโชนดั่งเปลวไฟเดชะพระจิต
และความอบอุ่นเกินบรรยายที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องนั่งทางใน เดชะการวอนขอของพระแม่มารีย์
ทำให้ผมนึกได้ว่า ชีวิตในพระหรรษทานของพระเจ้า ก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
พอรู้สึกได้แค่นี้ ผมก็ไม่เคยจะกังวลถึงชีวิตหลังความตายอีกเลย....เพราะผมมั่นใจว่า พระองค์จะดูแลวิญญาณของผมอย่างดี และสวรรค์บนฟ้ามันจะสันติสุขมากกว่าสวรรค์บนดินเป็นร้อยพันเท่าทวี
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ")
ทำไงได้ครับ ผมมันพวกชอบแตกแถวทัวร์...อีกอย่าง คนนำผมเขาสวย น่าเชื่อถือกว่าครูเยอะนะครับ เฮอๆ
แบ่งปันกันสนุกๆครับ อย่างให่ทุกคนลองสัมผัสสวรรค์บนดินในตัวเราดูนะครับ แล้วจะวางใจเรื่องสวรรค์บนฟ้าหลังชิวิตเนรเทศนี้ได้อีกมากเลยครับ
...ก็บังเอิญดีที่ได้มีโอกาสไป...เลยเรียนรู้อะไรมา ได้แบ่งปันกับพวกเรา...บังเอิญที่มีกระทู้พูดถึงเรื่องนี้ด้วย..
...แต่จริงๆแล้ว ผมเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เป็นเรื่อง "บังเอิญ" หรอกครับ
ขอพระอวยพรทุกคนครับ
Ot@ เขียน:
ในขณะที่ผมพยายามสงบจิตและทำสมาธิ สวนกระแสการนำทัวร์อันเร้าใจของท่านอาจารย์นั่นเอง....ผมก็ได้อธิฐานขอให้แม่พระอยู่เคียงข้างผม และให้ทุกสิ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์...
ตอนนั่นเอง ผมก็รู้สึกสงบ รู้สึกได้ถึงความอิ่ม ความสุข จนร้องไห้ออกมา...แล้วก็ได้ยินเสียงพูดของสตรีคนหนึ่งว่า "เราคือความเที่ยงแท้"
แค่นี้แหละครับ ผมก็ชัวร์เลยว่า สวรรค์ผมไม่ได้มียอด กลม หรือแบน ไม่จำเป็นต้องดูว่าใส่รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้า ไม่ต้องดูว่าแก้มตอบผอม หรือเต็งตึง...
แต่ สวรรค์ สถิตย์อยู่กับผม นั่นก็เพราะร่างกายของผมคือพระวิหารของพระเจ้า
ความศักดิ์สิทธิ์ และสันติสุขกำลังลุกโชนดั่งเปลวไฟเดชะพระจิต
และความอบอุ่นเกินบรรยายที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องนั่งทางใน เดชะการวอนขอของพระแม่มารีย์
ทำให้ผมนึกได้ว่า ชีวิตในพระหรรษทานของพระเจ้า ก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
พอรู้สึกได้แค่นี้ ผมก็ไม่เคยจะกังวลถึงชีวิตหลังความตายอีกเลย....เพราะผมมั่นใจว่า พระองค์จะดูแลวิญญาณของผมอย่างดี และสวรรค์บนฟ้ามันจะสันติสุขมากกว่าสวรรค์บนดินเป็นร้อยพันเท่าทวี
ขอพระนามพระเจ้าทรงได้รับการสรรเสริญ
-
- โพสต์: 31
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 3:10 pm
1. ที่ๆสีขาวไปหมด แล้วได้เข้าเฝ้าโป๊ปและพระเป็นเจ้า
2. อ่านหนังสือค่า
2. อ่านหนังสือค่า
รู้สึกว่าพระภิกษุที่้เป็นเจ้าสำนักนี้ เขาเคยอ้างว่า เคยพบพระเยซูที่สวรรค์ชั้นดุสิตนี่น่ะครับ ผมอ่านแล้วเคืองมากเลยOt@ เขียน: บังเอิญมากที่ จขกท ถามเรื่องนี้ เพราะวันนี้ผมได้มีประสบการณ์เดี่ยวกับ"สวรรค์"โดยตรง ขอมาแบ่งปันตรงนี้ละกันนะครับ
(คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
ตัวผมเอง มีความเชื่อเป็นคาทอลิก แต่เมื่อคุณแม่ของผมขอร้องให้ไปเป็นเพื่อน ผมก็ตอบตกลงด้วยความวางใจที่ว่าความเชื่อของเราเข้มแข็งอยู่แล้ว และสนใจที่จะศึกษาวิธีทำสติในแบบต่างๆจากที่เราเคยชิน
พอไปถึงก็ผิดคาด เพราะผมได้พบว่า การฝึกมโนมยิทธินั้น มีจุดมุ่งหลักเพื่อพัฒนาจิตเพื่อให้เห็น สวรรค์ นรก และสิ่งต่างๆนอกเหนือธรรมชาตินั่นเอง
ระหว่างที่ฝึก จะมี"อาจารย์" ที่จะคอยพูดนำทาง (เหมือนไกด์) ว่าให้ยกจิตของเราขึ้นสวรรค์ ไปดูซิว่าพระพุทธเจ้า หน้าตาเป็นอย่างไร สวรรค์สวยงามอย่างไร และตัวเรามีร่างจิตอย่างไรบน"ภพนิพพาน"
ระหว่างนั่ง เธอจะคอยถามเหล่าผู้ฝึก (มีประมาณหกคนต่อหนึ่งห้องฝึก) เช็คดูว่าพวกเรา "เห็นจริง" รึเปล่า อาธิเช่น:
"มองหน้าพระพุทธเจ้าซิคะ....พระองค์ หน้าตอบผอม หรือ อิ่มเอมเต็มตึงค่ะ?"
"เห็นปราสาทแก้วด้านหน้าของเราไหมคะ?..ปราสาทสวรรค์นี้สวยไหมค่ะ?"
"ยอดปราสาท กลม หรือ แหลม ค่ะ?"
"พระพุทธเจ้าใส่รองเท้าอยู่ไหมค่ะ?....รองเท้าปลายแหลมสง่า หรือบางแบนค่ะ?"
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยได้ไกด์พาเดินทัวร์สวรรค์แบบนี้มาก่อนในชีวิต และมีอารมณ์เหมือนได้ไปเที่ยวปากน้ำ หรือ สระบุรี มากกว่าดินแดนสวรรค์....
ในขณะที่ผมพยายามสงบจิตและทำสมาธิ สวนกระแสการนำทัวร์อันเร้าใจของท่านอาจารย์นั่นเอง....ผมก็ได้อธิฐานขอให้แม่พระอยู่เคียงข้างผม และให้ทุกสิ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์...
ตอนนั่นเอง ผมก็รู้สึกสงบ รู้สึกได้ถึงความอิ่ม ความสุข จนร้องไห้ออกมา...แล้วก็ได้ยินเสียงพูดของสตรีคนหนึ่งว่า "เราคือความเที่ยงแท้"
แค่นี้แหละครับ ผมก็ชัวร์เลยว่า สวรรค์ผมไม่ได้มียอด กลม หรือแบน ไม่จำเป็นต้องดูว่าใส่รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้า ไม่ต้องดูว่าแก้มตอบผอม หรือเต็งตึง...
แต่ สวรรค์ สถิตย์อยู่กับผม นั่นก็เพราะร่างกายของผมคือพระวิหารของพระเจ้า
ความศักดิ์สิทธิ์ และสันติสุขกำลังลุกโชนดั่งเปลวไฟเดชะพระจิต
และความอบอุ่นเกินบรรยายที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องนั่งทางใน เดชะการวอนขอของพระแม่มารีย์
ทำให้ผมนึกได้ว่า ชีวิตในพระหรรษทานของพระเจ้า ก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
พอรู้สึกได้แค่นี้ ผมก็ไม่เคยจะกังวลถึงชีวิตหลังความตายอีกเลย....เพราะผมมั่นใจว่า พระองค์จะดูแลวิญญาณของผมอย่างดี และสวรรค์บนฟ้ามันจะสันติสุขมากกว่าสวรรค์บนดินเป็นร้อยพันเท่าทวี
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ")
ทำไงได้ครับ ผมมันพวกชอบแตกแถวทัวร์...อีกอย่าง คนนำผมเขาสวย น่าเชื่อถือกว่าครูเยอะนะครับ เฮอๆ
แบ่งปันกันสนุกๆครับ อย่างให่ทุกคนลองสัมผัสสวรรค์บนดินในตัวเราดูนะครับ แล้วจะวางใจเรื่องสวรรค์บนฟ้าหลังชิวิตเนรเทศนี้ได้อีกมากเลยครับ
...ก็บังเอิญดีที่ได้มีโอกาสไป...เลยเรียนรู้อะไรมา ได้แบ่งปันกับพวกเรา...บังเอิญที่มีกระทู้พูดถึงเรื่องนี้ด้วย..
...แต่จริงๆแล้ว ผมเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เป็นเรื่อง "บังเอิญ" หรอกครับ
ขอพระอวยพรทุกคนครับ
http://www.luangporruesi.com/681.html
แก้ไขล่าสุดโดย Cho เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 31, 2009 9:54 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เกรียนมากCho เขียน:รู้สึกว่าพระภิกษุที่้เป็นเจ้าสำนักนี้ เขาเคยอ้างว่า เคยพบพระเยซูที่สวรรค์ชั้นดุสิตนี่น่ะครับ ผมอ่านแล้วเคืองมากเลยOt@ เขียน: บังเอิญมากที่ จขกท ถามเรื่องนี้ เพราะวันนี้ผมได้มีประสบการณ์เดี่ยวกับ"สวรรค์"โดยตรง ขอมาแบ่งปันตรงนี้ละกันนะครับ
(คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
ตัวผมเอง มีความเชื่อเป็นคาทอลิก แต่เมื่อคุณแม่ของผมขอร้องให้ไปเป็นเพื่อน ผมก็ตอบตกลงด้วยความวางใจที่ว่าความเชื่อของเราเข้มแข็งอยู่แล้ว และสนใจที่จะศึกษาวิธีทำสติในแบบต่างๆจากที่เราเคยชิน
พอไปถึงก็ผิดคาด เพราะผมได้พบว่า การฝึกมโนมยิทธินั้น มีจุดมุ่งหลักเพื่อพัฒนาจิตเพื่อให้เห็น สวรรค์ นรก และสิ่งต่างๆนอกเหนือธรรมชาตินั่นเอง
ระหว่างที่ฝึก จะมี"อาจารย์" ที่จะคอยพูดนำทาง (เหมือนไกด์) ว่าให้ยกจิตของเราขึ้นสวรรค์ ไปดูซิว่าพระพุทธเจ้า หน้าตาเป็นอย่างไร สวรรค์สวยงามอย่างไร และตัวเรามีร่างจิตอย่างไรบน"ภพนิพพาน"
ระหว่างนั่ง เธอจะคอยถามเหล่าผู้ฝึก (มีประมาณหกคนต่อหนึ่งห้องฝึก) เช็คดูว่าพวกเรา "เห็นจริง" รึเปล่า อาธิเช่น:
"มองหน้าพระพุทธเจ้าซิคะ....พระองค์ หน้าตอบผอม หรือ อิ่มเอมเต็มตึงค่ะ?"
"เห็นปราสาทแก้วด้านหน้าของเราไหมคะ?..ปราสาทสวรรค์นี้สวยไหมค่ะ?"
"ยอดปราสาท กลม หรือ แหลม ค่ะ?"
"พระพุทธเจ้าใส่รองเท้าอยู่ไหมค่ะ?....รองเท้าปลายแหลมสง่า หรือบางแบนค่ะ?"
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยได้ไกด์พาเดินทัวร์สวรรค์แบบนี้มาก่อนในชีวิต และมีอารมณ์เหมือนได้ไปเที่ยวปากน้ำ หรือ สระบุรี มากกว่าดินแดนสวรรค์....
ในขณะที่ผมพยายามสงบจิตและทำสมาธิ สวนกระแสการนำทัวร์อันเร้าใจของท่านอาจารย์นั่นเอง....ผมก็ได้อธิฐานขอให้แม่พระอยู่เคียงข้างผม และให้ทุกสิ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์...
ตอนนั่นเอง ผมก็รู้สึกสงบ รู้สึกได้ถึงความอิ่ม ความสุข จนร้องไห้ออกมา...แล้วก็ได้ยินเสียงพูดของสตรีคนหนึ่งว่า "เราคือความเที่ยงแท้"
แค่นี้แหละครับ ผมก็ชัวร์เลยว่า สวรรค์ผมไม่ได้มียอด กลม หรือแบน ไม่จำเป็นต้องดูว่าใส่รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้า ไม่ต้องดูว่าแก้มตอบผอม หรือเต็งตึง...
แต่ สวรรค์ สถิตย์อยู่กับผม นั่นก็เพราะร่างกายของผมคือพระวิหารของพระเจ้า
ความศักดิ์สิทธิ์ และสันติสุขกำลังลุกโชนดั่งเปลวไฟเดชะพระจิต
และความอบอุ่นเกินบรรยายที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องนั่งทางใน เดชะการวอนขอของพระแม่มารีย์
ทำให้ผมนึกได้ว่า ชีวิตในพระหรรษทานของพระเจ้า ก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
พอรู้สึกได้แค่นี้ ผมก็ไม่เคยจะกังวลถึงชีวิตหลังความตายอีกเลย....เพราะผมมั่นใจว่า พระองค์จะดูแลวิญญาณของผมอย่างดี และสวรรค์บนฟ้ามันจะสันติสุขมากกว่าสวรรค์บนดินเป็นร้อยพันเท่าทวี
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ")
ทำไงได้ครับ ผมมันพวกชอบแตกแถวทัวร์...อีกอย่าง คนนำผมเขาสวย น่าเชื่อถือกว่าครูเยอะนะครับ เฮอๆ
แบ่งปันกันสนุกๆครับ อย่างให่ทุกคนลองสัมผัสสวรรค์บนดินในตัวเราดูนะครับ แล้วจะวางใจเรื่องสวรรค์บนฟ้าหลังชิวิตเนรเทศนี้ได้อีกมากเลยครับ
...ก็บังเอิญดีที่ได้มีโอกาสไป...เลยเรียนรู้อะไรมา ได้แบ่งปันกับพวกเรา...บังเอิญที่มีกระทู้พูดถึงเรื่องนี้ด้วย..
...แต่จริงๆแล้ว ผมเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เป็นเรื่อง "บังเอิญ" หรอกครับ
ขอพระอวยพรทุกคนครับ
http://www.luangporruesi.com/681.html
หรืออีกทีก็ จิตปรุงแต่งขั้นรุนแรง
มาดูคนเจอพระเยซูตัวจริง ทรงยิ่งกว่าการยืนยันยกบาป แต่ทรงยืนยันว่าทรงยกบาปคนทั้งโลก และมีซิสเตอร์ตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่ถ่อมสุภาพ ไม่โอ้อวดตัวเอง รับการประจักษ์แบบไม่ต้องนั่งทางในสะกดจิตตัวเอง
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=1331.0
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบใจน้อง Ot@ ที่แบ่งปันนะครับ
ปล.
ปล.
ทุเรศสุด ๆCho เขียน:
รู้สึกว่าพระภิกษุที่้เป็นเจ้าสำนักนี้ เขาเคยอ้างว่า เคยพบพระเยซูที่สวรรค์ชั้นดุสิตนี่น่ะครับ ผมอ่านแล้วเคืองมากเลย
http://www.luangporruesi.com/681.html
-
- โพสต์: 133
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 11:42 am
- ที่อยู่: > <" Xiah Junsu Fightingg g!!!
Batholomew เขียน: ขอบใจน้อง Ot@ ที่แบ่งปันนะครับ
ปล.ทุเรศสุด ๆCho เขียน:
รู้สึกว่าพระภิกษุที่้เป็นเจ้าสำนักนี้ เขาเคยอ้างว่า เคยพบพระเยซูที่สวรรค์ชั้นดุสิตนี่น่ะครับ ผมอ่านแล้วเคืองมากเลย
http://www.luangporruesi.com/681.html
เจ็บตัวไม่เท่าไหร่ แต่ เจ็บใจนี่สิ สุดจาท๊นนนนน~~~
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
สำหรับผมเหรอ??
อืม...มม
สวรรค์คงเหมือนเกาะมัลดีฟอ่ะครับ
ถ้าได้ชีวิตนิรันดร์ ผมจะไปคารวะท่านน.มัทธิวก่อนเลยครับ (ท่านเปนผู้พิทักษ์ผมนิเนอะ อิๆ) แล้วคงชวนคุยเรื่องวิชาชีพสนุกๆ
หลังจากนั้นคงออกไปคารวะท่านน.องค์อื่นๆ แล้วก้อชวนคุยเรื่องต่างๆสมัยท่านอยู่บนโลก การได้ฟังจากปากท่านผมว่าน่าสนุกดีจริงๆ
ช่วยแม่พระภาวนาให้คนบนโลกและไฟชำระ
ที่สำคัญคือ รอพ่อ แม่ น้องชาย น้องสาว เพื่อน แฟน และคนรู้จักผมได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ครับ
อืม...มม
สวรรค์คงเหมือนเกาะมัลดีฟอ่ะครับ
ถ้าได้ชีวิตนิรันดร์ ผมจะไปคารวะท่านน.มัทธิวก่อนเลยครับ (ท่านเปนผู้พิทักษ์ผมนิเนอะ อิๆ) แล้วคงชวนคุยเรื่องวิชาชีพสนุกๆ
หลังจากนั้นคงออกไปคารวะท่านน.องค์อื่นๆ แล้วก้อชวนคุยเรื่องต่างๆสมัยท่านอยู่บนโลก การได้ฟังจากปากท่านผมว่าน่าสนุกดีจริงๆ
ช่วยแม่พระภาวนาให้คนบนโลกและไฟชำระ
ที่สำคัญคือ รอพ่อ แม่ น้องชาย น้องสาว เพื่อน แฟน และคนรู้จักผมได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ครับ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
นึกๆไป เราคงจะได้อดขึ้นสวรรค์ก็งานนี้Cho เขียน:
รู้สึกว่าพระภิกษุที่้เป็นเจ้าสำนักนี้ เขาเคยอ้างว่า เคยพบพระเยซูที่สวรรค์ชั้นดุสิตนี่น่ะครับ ผมอ่านแล้วเคืองมากเลย
http://www.luangporruesi.com/681.html
เพราะถ้าขอจากพระเจ้าได้ เราอยากลงไปกระทืบพระท่านนี้และพวกแอนตี้คริสต์คนอื่น ๆ ให้ไม่เหลือซากสักชิ้นเดียวน่ะสิ
(วันนี้หงุดหงิดบอกไม่ถูก)
อธิษฐานสุ่มเปิดพระคัมภีร์แล้วได้บทเหล่านี้
กท 1:7
อันที่จริงแล้ว ข่าวดีอื่นนั้นไม่มี แต่มีบางคนก่อความวุ่นวายในหมู่ท่านทั้งหลาย และประสงค์จะบิดเบือนข่าวดีของพระคริสตเจ้า แต่ถ้าเรา หรือทูตสวรรค์ประกาศข่าวดีขัดแย้งกับที่เราเคยประกาศแก่ท่าน ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้าขอพูดย้ำสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยพูดไว้ก่อนอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าใครประกาศข่าวดีแก่ท่านขัดแย้งกับข่าวดีที่ท่านเคยรับไว้ ก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์หรือพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามเอาใจมนุษย์กระนั้นหรือ หากข้าพเจ้ายังเอาใจมนุษย์ ข้าพเจ้าก็คงไม่เป็นผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้า
2คร 11:3
ข้าพเจ้าเกรงว่างูหลอกลวงนางเอวาด้วยกลอุบายของมันฉันใด ความคิดของท่านอาจถูกหลอกลวงให้หันไปจากความซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ ต่อพระคริสตเจ้าฉันนั้น เพราะถ้าผู้ใดมาประกาศพระเยซูเจ้าอีกองค์หนึ่ง แตกต่างไปจากองค์ที่เราได้ประกาศ หรือถ้าท่านได้รับพระจิตเจ้าอีกองค์หนึ่งซึ่งต่างไปจากองค์ที่ท่านได้รับ หรือรับข่าวดีแตกต่างไปจากข่าวดีที่ท่านได้รับ
2คร 11:12
ข้าพเจ้าทำเช่นนี้และจะทำต่อไป เพื่อตัดโอกาสผู้ที่ต้องการโอ้อวดแสดงตนว่าเท่าเทียมกับเรา คนเหล่านี้เป็นอัครสาวกปลอม เป็นผู้ทำงานหลอกลวงที่ปลอมตนเป็นอัครสาวกของพระคริสตเจ้า ไม่ต้องแปลกใจ ซาตานก็ยังปลอมเป็นทูตแห่งแสงสว่างได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ถ้าคนใช้ของมันจะปลอมเป็นผู้รับใช้ความชอบธรรม จุดจบของเขาจะเป็นไปตามกิจการที่เขากระทำ
กท 1:7
อันที่จริงแล้ว ข่าวดีอื่นนั้นไม่มี แต่มีบางคนก่อความวุ่นวายในหมู่ท่านทั้งหลาย และประสงค์จะบิดเบือนข่าวดีของพระคริสตเจ้า แต่ถ้าเรา หรือทูตสวรรค์ประกาศข่าวดีขัดแย้งกับที่เราเคยประกาศแก่ท่าน ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้าขอพูดย้ำสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยพูดไว้ก่อนอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าใครประกาศข่าวดีแก่ท่านขัดแย้งกับข่าวดีที่ท่านเคยรับไว้ ก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์หรือพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามเอาใจมนุษย์กระนั้นหรือ หากข้าพเจ้ายังเอาใจมนุษย์ ข้าพเจ้าก็คงไม่เป็นผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้า
2คร 11:3
ข้าพเจ้าเกรงว่างูหลอกลวงนางเอวาด้วยกลอุบายของมันฉันใด ความคิดของท่านอาจถูกหลอกลวงให้หันไปจากความซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ ต่อพระคริสตเจ้าฉันนั้น เพราะถ้าผู้ใดมาประกาศพระเยซูเจ้าอีกองค์หนึ่ง แตกต่างไปจากองค์ที่เราได้ประกาศ หรือถ้าท่านได้รับพระจิตเจ้าอีกองค์หนึ่งซึ่งต่างไปจากองค์ที่ท่านได้รับ หรือรับข่าวดีแตกต่างไปจากข่าวดีที่ท่านได้รับ
2คร 11:12
ข้าพเจ้าทำเช่นนี้และจะทำต่อไป เพื่อตัดโอกาสผู้ที่ต้องการโอ้อวดแสดงตนว่าเท่าเทียมกับเรา คนเหล่านี้เป็นอัครสาวกปลอม เป็นผู้ทำงานหลอกลวงที่ปลอมตนเป็นอัครสาวกของพระคริสตเจ้า ไม่ต้องแปลกใจ ซาตานก็ยังปลอมเป็นทูตแห่งแสงสว่างได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ถ้าคนใช้ของมันจะปลอมเป็นผู้รับใช้ความชอบธรรม จุดจบของเขาจะเป็นไปตามกิจการที่เขากระทำ
เคยได้ยินเหมือนกัน เรื่องอยู่ชั้นดุสิตเนี่ย และเคยเชื่อด้วย ตอนเด็กๆ มีพระมาพาฝึกสมาธิที่โรงเรียน ก็บอกแบบนี้แหละBatholomew เขียน: ขอบใจน้อง Ot@ ที่แบ่งปันนะครับ
ปล.ทุเรศสุด ๆCho เขียน:
รู้สึกว่าพระภิกษุที่้เป็นเจ้าสำนักนี้ เขาเคยอ้างว่า เคยพบพระเยซูที่สวรรค์ชั้นดุสิตนี่น่ะครับ ผมอ่านแล้วเคืองมากเลย
http://www.luangporruesi.com/681.html
แต่เค้าก็เจ๋งที่ว่า เค้ารู้นะว่า เราไม่ได้ไปกับเค้าOt@ เขียน:
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ")
คงเป็นเพราะผมไม่ได้ตอบ สีแดง สีเหลืองอะไรตามเขา มากกว่ามั้งครับพี่....Buddy เขียน:เคยได้ยินเหมือนกัน เรื่องอยู่ชั้นดุสิตเนี่ย และเคยเชื่อด้วย ตอนเด็กๆ มีพระมาพาฝึกสมาธิที่โรงเรียน ก็บอกแบบนี้แหละBatholomew เขียน: ขอบใจน้อง Ot@ ที่แบ่งปันนะครับ
ปล.ทุเรศสุด ๆCho เขียน:
รู้สึกว่าพระภิกษุที่้เป็นเจ้าสำนักนี้ เขาเคยอ้างว่า เคยพบพระเยซูที่สวรรค์ชั้นดุสิตนี่น่ะครับ ผมอ่านแล้วเคืองมากเลย
http://www.luangporruesi.com/681.html
แต่เค้าก็เจ๋งที่ว่า เค้ารู้นะว่า เราไม่ได้ไปกับเค้า : xemo017 :Ot@ เขียน:
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ")
- dark-kanita
- โพสต์: 317
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 18, 2007 2:37 pm
แฮะแฮะ อณาจักรแห่งสวรรค์เป็นยังไงก็สุดปัญญามนุษนย์จะเดาได้คะ แต่ในความดิคของหนูนะ หนูว่าต้องเป็นสถานที่สวยๆ ไฮโซ......(แบบในเกม L2 กับ GE มั้ง อุอุ) และที่สำคัญที่นั่นหนูจะได้พบพระเจ้า เหล่านักบุญ และทูตศวรรค์(หล่อๆ)มากมาย
แบบว่าตอนนี้แอบหวังมากมายเลยคะว่า ถ้าชาตินี้มีปัญญาผ่านไฟชำระได้ละก็ อุอุ หนูตาจะขอลายเซน ท่านอัครเทวดา ทั้ง7 ให้ได้เลยละคะ แอบปลื้มมาน้าน นาน: emo010 : โดยเฉพาะท่าน
มิคาเอล และท่านราฟาเอล หนูจะขอฝากตัวเป็นลูกสิทให้ได้ละ ก็คิดไว้แบบนี้อะนะ คิคิ
แบบว่าตอนนี้แอบหวังมากมายเลยคะว่า ถ้าชาตินี้มีปัญญาผ่านไฟชำระได้ละก็ อุอุ หนูตาจะขอลายเซน ท่านอัครเทวดา ทั้ง7 ให้ได้เลยละคะ แอบปลื้มมาน้าน นาน: emo010 : โดยเฉพาะท่าน
มิคาเอล และท่านราฟาเอล หนูจะขอฝากตัวเป็นลูกสิทให้ได้ละ ก็คิดไว้แบบนี้อะนะ คิคิ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
สวรรค์มีไว้สำหรับผู้ที่ปฏิบัติตามน้ำพระทัยพระองค์ด้วยนะครับวอ เขียน: ตายแล้วเดี๋ยวเราก็จะได้รู้ เหอ เหอ
- Jeanne d'Arc
- โพสต์: 235
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm
ในจินตนาการผมก็เป็นดินแดนคล้ายโลกเราในยุคก่อนๆ แบ่งเป็นเขตย่อยๆหลายๆเขต แต่ละเขตก็อาจจะอยู่ใกล้กันหรือไกลก็เป็นไปตามพระประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นท้องทะเลทรายที่แสดงความสวยงามของพื้นดิน หุบเขาและผาสูงที่งดงามอันแสดงความยิ่งใหญ่แห่งการสร้างสรรค์ของพระเป็นเจ้า เมืองลอยฟ้า(?)อันวิจิตร รวมไปถึงท้องทะเล เกาะ ป่า ฯลฯ
รวมไปถึง อาณาจักรย่อยในอาณาจักรสวรรค์มากมายที่สถาปัตยกรรมแตกต่างกันไป ทั้งแบบที่เห็นได้บนโลก และแบบที่ไม่เคยมีบนโลก ทุกๆอาณาจักรล้วนรักและปรองดองกันฉันพี่น้องไม่แตกแยก ไม่แย่งชิง เพราะล้วนแต่อยู่ในอาณาจักรสวรรค์อันมีพระเจ้าเป็นผู้ปกครองเช่นเดียวกัน
ที่ผมชอบมากที่สุดในจินตนาการคงเป็น เนินเขาที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและมีเมืองเล็กๆอยู่กระจัดกระจาย มีแม่น้ำไหลผ่าน พืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์ สายลมพัดพามาซึ่งอากาศบริสุทธิ์ ผู้คนในเมืองย่อย อาณาจักรย่อยต่างร่วมกันสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า ทุกๆคนต่างได้รับพระพรและบำเหน็จจากพระเจ้าตามความชอบธรรมของเขา ทุกคนรักกัน ไม่มีการหลั่งน้ำตา ไม่มีการหลั่งเลือด ไม่มีความบาปทั้งหลายอยู่ในมนุษย์อีกต่อไป
สิ่งที่อยากทำ ก็คงจะเป็นการท่องเที่ยวไปในอาณาจักรสวรรค์เรื่อยๆกระมังครับ เพราะอาณาจักรสวรรค์นั้นสวยงาม การสร้างของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่และงดงามยิ่ง ที่สำคัญคือ นมัสการพระเจ้าร่วมกับผู้ได้รับการช่วยให้รอดบนสวรรค์ครับผม
รวมไปถึง อาณาจักรย่อยในอาณาจักรสวรรค์มากมายที่สถาปัตยกรรมแตกต่างกันไป ทั้งแบบที่เห็นได้บนโลก และแบบที่ไม่เคยมีบนโลก ทุกๆอาณาจักรล้วนรักและปรองดองกันฉันพี่น้องไม่แตกแยก ไม่แย่งชิง เพราะล้วนแต่อยู่ในอาณาจักรสวรรค์อันมีพระเจ้าเป็นผู้ปกครองเช่นเดียวกัน
ที่ผมชอบมากที่สุดในจินตนาการคงเป็น เนินเขาที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและมีเมืองเล็กๆอยู่กระจัดกระจาย มีแม่น้ำไหลผ่าน พืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์ สายลมพัดพามาซึ่งอากาศบริสุทธิ์ ผู้คนในเมืองย่อย อาณาจักรย่อยต่างร่วมกันสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า ทุกๆคนต่างได้รับพระพรและบำเหน็จจากพระเจ้าตามความชอบธรรมของเขา ทุกคนรักกัน ไม่มีการหลั่งน้ำตา ไม่มีการหลั่งเลือด ไม่มีความบาปทั้งหลายอยู่ในมนุษย์อีกต่อไป
สิ่งที่อยากทำ ก็คงจะเป็นการท่องเที่ยวไปในอาณาจักรสวรรค์เรื่อยๆกระมังครับ เพราะอาณาจักรสวรรค์นั้นสวยงาม การสร้างของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่และงดงามยิ่ง ที่สำคัญคือ นมัสการพระเจ้าร่วมกับผู้ได้รับการช่วยให้รอดบนสวรรค์ครับผม
- billa-bong
- ~@
- โพสต์: 668
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
- ที่อยู่: thailand
ผมสวรรค์คงใหญ่มาก คนเยอะน่าดู คำนวนจากคนที่ตายไปก่อนเรา นักบุญดังๆสงสัย คงต้องคอยวิงวอนขอพรที่พวกเราขอเค้า กับพระเยซูทั้งวันเลยมั่ง ได้นอนมั่งไม๊เนี่ย เทวดาคงบินกันไปมาให้ว่อน แล้วเราจะโป้เหมือนตอนอาดัมไม๊เนี่ย อายน่ะดู ฮะๆๆ อยากให้มีเกม มีฟิทเนส สระว่ายน้ำ แล้วก็ของอร่อยๆๆ กินเยอะๆ เวลาซื้อของก็จ่ายกันเป็นคำภาวนา ซื้อไอโฟนนี่สวดกันกี่สายเนี่ย ฮ่าๆๆๆ คงจะมีสวดแบบผ่อนน่ะ น่าสนุกดีแฮะ อีกอย่างที่นั้นคงมีแต่คนรักกัน คุยกัน ไปมิสซา ด้วยกัน ไปชอบปิ้งด้วย ฟุ้งมากไปไม๊เนี่ยยยย เย้ยยยยยย
พระเจ้าอวยพรครับบ
พระเจ้าอวยพรครับบ
"สวรรค์" ก็คือ สถานที่ๆ เป็นสุข ...และอยู่บนพื้นฐานเดียวกันกับผู้ที่มีสิทธิได้อยู่บนสวรรค์-คนอื่นๆ