ขอคำแนะนำของพี่น้องชาวคริสต์กับหนังสือ "แฮร์รี่ พอตเตอร์"

[ขาจร]

ก่อนอื่นขอสวัสดีทุกๆท่านค่ะ ไม่ได้เป็นสมาชิกบอร์ดนี้ เพราะว่าเพิ่งได้ลิงค์มาจากที่อื่น
เราเป็นคริสเตียนค่ะ มีข้อสงสัย อยากจะถามพี่น้องชาวคริสต์ด้วยกัน แต่ไม่รู้จะไปถามที่ไหนดี
(เพราะว่าไม่ได้ไปโบสถ์นานแล้ว) ขออนุญาตถามเลยนะคะ



มีพี่น้องชาวคริสต์ท่านใดเคยอ่านนิยาย "แฮร์รี่ พอตเตอร์" บ้างคะ
อยากทราบว่าเป็นการไม่ถูกต้องหรือเปล่า ที่อ่านนิยายเรื่องนี้
เพราะเราตามอ่านมาตลอด แต่เมื่อหลายวันก่อน ไป Search จาก Search Engine
เจอบทความจากต่างประเทศจำนวนมาก เกี่ยวกับทัศนะของชาวคริสต์ที่มีต่อนิยายเรื่องนี้



ว่านิยายเรื่องนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่เป็นเวทย์มนตร์ และศาสตร์ที่ชาวคริสต์ควรจะอยู่ห่างๆ
และอื่นๆอีกเยอะ ซึ่งเราอ่านแล้วก็ตกใจ นึกไม่ถึงมาก่อนเลย เพราะว่าเราอ่านแล้วสนุก
และเพลิดเพิลนกับนิยายเรื่องนี้มาตลอด แต่พอมาอ่านเจอบทวิเคราะห์ต่างๆแล้วก็เกิดความไม่แน่ใจขึ้นมา




ไม่ทราบว่าพี่น้องชาวคริสต์เคยคุยกันเรื่องนี้มั้ยคะ อย่างเช่นที่โบสถ์ เคยมีการแนะนำอะไร
เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า ยังไงก็รบกวนแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

[Holy]

ถ้ามองในแง่สนุก ก็สนุกครับ แต่ถ้าเรามองในอีกแง่นึง ซึ่งเชื่อว่าคุณขาจรก็คงเคยได้ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ นั่นคือการนิยมลัทธิแม่มด หรือที่เรียกว่า WICCA ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะในหมู่เด็กวัยรุ่นที่อ่านนิยายเรื่องนี้

นี่คือดาบ2คมของหนังสือเล่มนี้ครับ กล่าวคือมีเด็กจำรนวนมากที่แยกแยะนิยายกับโลกแห่งความเป็นจริงไม่ออกโดยเฉพาะเนื้อหานิยายเรื่องนี้ พยายามบอกเราว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดซ้อนอยู่ในโลกความจริงของเรา(มักเกิ้ล)ด้วยแล้ว แถมเนื้อหาพูดราวกับว่าคนธรรมดาเป็นพวกที่กระจอกกว่าพวกพิเศษที่มีเวทย์มนต์ ลองคิดดูว่าเด็กๆจะไฝ่ฝันกันเพียงไรว่าถ้าซักวันชั้นมีเวทย์มนต์ ชั้นจะเท่ห์ขนาดไหน

และประจวบเหมาะกับที่มีผู้ใหญ่ไม่น้อยที่ก็เอาจุดนี้เป้นเครื่องมือ เอาไสยศาสตร์ทั้งที่มีอยู่จริงในสมัยโบราณ และที่คิดขึ้นใหม่ให้ดูดี เอามาปนกันแล้วเผยแพร่กับกลุ่มผู้อ่านหนังสือนี้ที่มีเยอะมากและเป็นเด็กเพื่อทำธุรกิจจับกระแสความดังของหนังสือ แต่ผลที่ตามมาล่ะครับ

ก็คือความจริงที่เราท่านรู้กันว่า มีเด็กจำนวนมาก แทนที่จะพึ่งพระเจ้า(ในต่างประเทศ) หรือพึ่งศาสนาของตน(ใทย) กลับหันไปพึ่งไสยศาสตร์แทนตั้งแต่อายุน้อยมาก

และนั่นคือสิ่งที่เราสามารถมองเห้นหายนะ

เพราะไสยศาสตร์ไม่ได้สอนเรื่องศีลธรรมแบบศาสนา แต่สอนเฉพาะเรื่องมหัศจรรย์ และอำนาจเหนือธรรมชาติ ที่ใครไม่ว่าจะดีเลวแค่ไหน ขัดน้ำพระทัยพระหรือไม่ก็สามารถเอาไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนได้ แถมยังมีการพูดถึงการพึ่งเทพโบราณมากมายในศาสนาโบราณที่ไม่มีคนนับถือไปนานแล้ว ก็เอามารื้อฟื้นกัน และลุกลามไปถึงการบูชาปีศาจ ผี หรือแม้แต่ซาตาน

ดังนั้น ถ้าผู้ใหญ่อ่านและแยกแยะได้ มันไม่มีปัญหาอะไร แต่เด็กๆแบบที่เราเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์แยกแยะไม่ได้ และมันเกิดขึ้นจริงแล้วทั่วโลก

ดังนั้นโดยพื้นฐานตัวนิยายไม่ได้เลวร้าย แต่เป็นเหมือนการเชื้อเชิญ เป็นพรีเซนเตอร์ไปสู่ศาสตร์ที่เลวร้ายได้ครับ

ลองอ่านจากพระคัมภีร์ครับสิ่งนี้มีทำนายล่วงหน้าแล้ว

2ทธ 4:1-5
ข้าพเจ้าขอกำชับท่านเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า และเฉพาะพระพักตร์ของพระคริสตเยซูผู้จะทรงพิพากษาทั้งผู้เป็นและผู้ตาย โดยอ้างถึงการแสดงพระองค์และพระอาณาจักรของพระองค์ จงประกาศพระวาจา จงพร้อมสรรพทั้งเมื่อมีโอกาสและเมื่อไม่มีโอกาส จงว่ากล่าว จงตักเตือน จงให้กำลังใจ โดยพร่ำสอนด้วยความพากเพียรอย่างเต็มที่ จะถึงเวลาหนึ่งที่พวกเขาจะไม่ต้องการฟังคำสอนที่ถูกต้อง แต่จะแสวงหาครูจำนวนมากมาอยู่ร่วมกัน เพื่อจะได้สอนสิ่งที่ตนอยากฟัง พวกเขาจะไม่ยอมฟังความจริง แต่จะเปลี่ยนไปฟังเทพนิยาย ส่วนท่านจงหนักแน่นมั่นคงในทุกกรณี จงอดทนต่อความทุกข์ยาก จงทำงานของผู้ประกาศข่าวดี จงปฏิบัติศาสนบริการให้สำเร็จ

----ขอพระเจ้าปกปัองลูกแกะของพระองค์จากสิ่งชั่วร้าย อาเมน

[พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ]

แปลกแต่จริง มีคน 2 คนคนแรกพูดถึงเรื่องพระเจ้าและอัศจรรย์ของพระเจ้าแต่กลายเป็นว่าโดนหัวเราะเยาะหาว่าเพ้อเจ้อ แต่คนที่สองพูดเรื่องเวทย์มนตร์กลับมีคนสนใจและลองทำตาม ตรงตามในพระคำภีร์ทำนายใว้เป๊ะๆๆๆๆ

[Anonymous]

อย่างที่พี่โฮลี่พูดคะ

ถ้าอ่านแล้วแยกแยะได้ว่ามันแค่นิยาย
อ่านเอามัน ก็อ่านไปเถอะคะ

แต่ถ้าอ่านแล้วหลง
อ่านแล้วเอาเป็นจริงเป็นจัง ก็อย่าอ่านเลยคะ
เพราะเกรงว่าจะทำให้ความเชื่อสั่นคลอนได้

ขอพระจิตเจ้า (พระวิญญาณบริสุทธิ์ ) นำทางคุณนะคะ :D

[Ot@]

ศึกษาแล้วก็งั้นๆแหละ
เรื่องเวทย์มนต์หรือพลังจิตนี่ เป็นดาบสองคมที่แหลมๆมากๆนะฮะ
ใครๆที่สนใจก็ขอให้ระวังตัวละกัน :-X
แต่ผมว่า(จากการที่เคยผ่านการศึกษาและลองปฏบัติอย่างสำเร็จผลดูแล้ว) รับใช้พระเจ้าดีที่สุด :D

[claustrophobia]

เราไม่มีเวทย์มนต์นะคับเเล้วก็ทำนายดวง ;)
เชื่อเเละวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

[fizzy vippie]

เวลาอ่าน อยากให้แยกแยะให้ออกว่าอะไรเป็นจริงและอะไรเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น
ทางพวกฝรั่งเขาค่อนข้างมีประสบการณ์เลวร้ายกับพวกลัทธิพ่อมดหมอผีในประวัติศาสตร์
เขาก็เลยเน้นว่านิยายที่เป็นแบบนี้มันเป็นเรื่องที่อาจจะชักนำเด็กของเขาไปในทางที่ไม่ดีได้

แต่พี่เองอยากจะบอกในฐานะคนที่เรียนมาทางจิตวิทยาว่า
เรื่องทุกอย่างในสังคมบ้านเรา ทั้งนิยายทุกเรื่อง ละคร รวมทั้งข่าวสารประจำวันด้วย
สำหรับเด็กเล็กๆที่เป็นเหมือนผ้าขาวนั้น ผู้ใหญ่ควรจะทำหน้าที่เหมือน
เป็นเครื่องกรองให้เขาด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เขาอ่านเอง หาคำตอบเองแบบไม่ดูแล
เด็กๆ จะมีพฤติกรรมแบบเลียนแบบสิ่งรอบข้างตัวพวกเขา
ถ้าเขาทำอะไรผิดไป พี่อยากจะบอกเลยว่า ผู้ใหญ่อย่าได้ไปโทษสื่อซะเต็ม 100%
สื่อต่างๆเป็นเพียง เหมือนแค่คำเชิญ อย่างที่ น้อง HOLY ว่า
แต่คนที่จะสอนให้เด็กๆรู้ว่า เราจะตอบรับคำเชื้อเชิญนั้นๆหรือไม่
ก็คือผู้ใหญ่ ที่อยู่รอบๆตัวเขา สอนให้เขารู้เลยว่าอะไรควรหรือไม่ควร

ส่วนเรื่องหนังสือ อย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ พีว่าถ้าเราจะอ่านมันก็อ่านได้
อ่านแล้วกรุณาสอนเด็กๆของท่านให้มองในแง่ของความดีงามของตัวละคร
ผลจากการทำชั่วร้ายของตัวละคร การปกป้องคนดีๆให้สามารถทำดีต่อไปได้

พี่เองได้อ่านหนังสือที่เขียนโดยคุณพ่อชาวอังกฤษท่านนึง (ไว้มีโอกาสแล้วจะแปลมาให้อ่านกัน)
คนอังกฤษเติบโตมากับ วรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่อย่าง The Lord of The Rings
และ The Chronicles of Narnia ซึ่งเป็นวรรณกรรมแนวแฟนตาซี
มีพวกตัวละครเป็นเทวดานางฟ้า พ่อมดหมอผี สัตว์ร้าย และปีศาจ
คุณพ่อท่านนั้นได้อธิบายว่าถึงเนื่อเรื่องจะแสดงออกด้วยตัวละครที่ดูจะต่อต้านศาสนา
แต่เนื้อเรื่องแสดงถึงความรักความรักของพระเจ้า (The Chronicles of Narnia) ในแบบที่เด็กเล็กจะเข้าใจได้ง่าย
แสดงถึงความล่มสลายของสิ่งชั่วร้ายต่อความเชื่อมั่นในคุณความดีของมนุษย์ (LOTR + Narnia)
ท่านบอกอีกว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็เหมือนกัน อยากให้อ่านและจับประเด็นที่เนื้อเรื่อง
ดูว่าตัวละครมีพัฒนาการแบบไหน ความดีเอาชนะความชั่วร้ายได้อย่างไร
ไม่ใช่สิ่งประกอบเรื่องที่เป็นเรื่องพ่อมดหมอผี ที่หาสาระไม่ได้

คุณพ่อสรุปไว้ว่า ถ้า แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นวรรณกรรมแห่งความชั่วร้ายแล้ว
The Lord of The Rings หรือ The Chronicles of Narnia ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันหรอก
เราต้องจับประด็นให้ได้ว่าเนื้อเรื่องเขาสื่ออะไร สอนอะไร อะไรควรเก็บมาคิด และอะไรควร ignore

อ้อ ... ถ้าสงสัยว่า Narnia เป็นเรื่องแบบไหน ลองไปหาหนังสืออ่านกันได้
มี 7 เล่มจบ size ประมาณ Lemony Snicket เล่มต้นๆเอง
แต่ version ภาษาไทยเคยจัดพิมพ์เมื่อนานมากแล้วและพิมพ์ไม่จบ
ปัจจุบันมีการแปล+จัดพิมพ์ใหม่เพิ่งออกมาได้ 5 เล่มเอง (รอจนรำคาญมากแล้ว)
และหนังของ Narnia ถ่ายทำเสร็จแล้ว มีกำหนดจะเข้าฉายประมาณสิ้นปีนี้

[ขาจร]

พอเข้าใจแล้วค่ะ แล้วก็นึกภาพออกเลยว่าเด็กๆจะเข้าใจเรื่องนี้ได้อย่างไร
ขนาดเราเองรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร แต่ในขณะที่อ่านอยู่ ก็มีถึงขั้นเพลิดเพลินจนลืมตัวไปบ้าง (แหะๆ แต่นิดเดียวเอง)
คิดว่าคงมีเด็กๆจำนวนมาก อาจรู้สึกว่ารายละเอียดเนื้อเรื่องต่างๆในนิยายจะเป็นจริงเป็นจัง
จะมีเวทย์มนตร์จริง ไปจนถึงขั้นขวนขวาย ศึกษาค้นคว้าเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวเอง


แต่ก็ดีค่ะที่รู้ว่ายังพออ่านได้ (เพื่อความเพลิดเพลิน) เพราะว่าชอบนิยายเรื่องนี้มากเลยค่ะ
ตรงที่การให้กำลังใจ (เรื่องการเรียน ตัวละครแต่ละตัวเรียนหนักมาก แต่ก็ยังเรียนผ่านกันไปได้ 555)
ในเรื่องคุณธรรม แล้วก็เนื้อหาดีๆอื่นๆที่สอดแทรกในหนังสือน่ะค่ะ


ขอบคุณทุกคำตอบอีกครั้งนะคะ

[B^o^w]

ชอบอ่านแฮรี่เหมือนกันค่ะ เจเค เขียนเก่งมาก
เล่นเอาเราติดงอมแงมเลย
เคยแอบคิดเหมือนกันว่าอาจจะมีพ่อมด-แม่มดปนอยู่
ส่วนเราก้อเป็นแค่มักเกิ้ลที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง
คิดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะแยกเเยะได้นะคะ
ว่านั่นเป็นโลกของจินตนาการเท่านั้น
(แต่ก็เป็นจินตนาการที่ยอดเยี่ยมจิงๆ ;))

[Ot@]

ที่นี่ยินดีที่จะตอบและร่วมแสดงความเห็นอย่างสันติครับ :D

ขอบคุณที่แวะมาคุยครับ มาตั้งกระทู้อีกน๊ะจ๊ะ :)

[Prod Pran]

อืมม์ มาฟังน้องๆ พูด คุย

ก่อนอื่น ขอให้น้องขาจร กลับไปโบสถ์ ได้แล้ว ล่องลอย ไปเรื่อยๆ ทำให้มารฉวยโอกาส โจมตีความเชื่อ
ของน้องได้อย่างง่ายดาย และการอ่านหนังสือ แบบนั้น เป็น โอกาสให้มารชักจูงคุณห่างจากพระเจ้า
ออกไปทุกๆวันค่ะ

ข้อพระคัมภีร์ ที่คุณโฮลี่ นะชัดเจนมากค่ะ ;D