คิดยังไงกับคนที่ไม่นับถือศาสนา

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Imagine.
โพสต์: 12
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 01, 2009 1:34 am

อังคาร ธ.ค. 01, 2009 2:54 am

อยากทราบความคิดเห็นของทุกๆท่านครับว่า คิดยังไงกับคนที่ไม่นับถือศาสนา
ท่านมีมุมมองต่อคนเหล่านี้อย่างไร และคิดว่าคนเราจำเป็นจะต้องมีศาสนาหรือไม่ อย่างไร

และคิดยังไงกับจำนวนผู้ไม่นับถือศาสนาในปัจจุบัน ที่มีมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
รองจากผู้ที่นับถือคริสต์และอิสลาม ซึ่งมีมากเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ
และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในอนาคต ท่านมองในจุดนี้ยังไง

และท่านรู้สึกยังไงหากพบผู้ไม่นับถือศาสนาหรือผู้ที่นับถือศาสนาอื่นที่ต่างจากท่าน
วิพากษ์วิจารณ์หรือนำเหตุผลต่างๆมาโจมตีศาสนา ศาสดา และคำสอนของศาสนาที่ท่านนับถืออย่างรุนแรง
และเมื่อท่านได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์หรือสารเหล่านั้น ท่านจะเกิดการตั้งข้อสงสัยในศาสนาที่ท่านนับถือหรือไม่

อยากรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ในมุมมองของแต่ละท่านครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร ธ.ค. 01, 2009 7:18 am

Imagine. เขียน: อยากทราบความคิดเห็นของทุกๆท่านครับว่า คิดยังไงกับคนที่ไม่นับถือศาสนา
ท่านมีมุมมองต่อคนเหล่านี้อย่างไร และคิดว่าคนเราจำเป็นจะต้องมีศาสนาหรือไม่ อย่างไร
เราต้องเข้าใจก่อนว่า "คนไม่นับถือศาสนาใดๆเลย ไม่ได้แปลว่าคนนั้นเลวร้าย หรือไม่มีคุณธรรม หนำซ้ำอาจจะเป็นคนมีคุณธรรมและมโนธรรมอันดีด้วย"
ตามหลักทั่วไป เค้านิยามว่า "ศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ"
ส่วนตัวผมคิดว่า "เรานิยามศาสนาอย่างไร"
ถ้าศาสนาคือกฏหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ "ผมคิดว่าเราควรมีเหมือนกฏหมายบ้านเมืองนั่นแหละ"
แต่เหนือสิ่งอื่นใด "เราทุกคนควรมีพระเยซูเจ้า"
Imagine. เขียน: และคิดยังไงกับจำนวนผู้ไม่นับถือศาสนาในปัจจุบัน ที่มีมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
รองจากผู้ที่นับถือคริสต์และอิสลาม ซึ่งมีมากเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ
และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในอนาคต ท่านมองในจุดนี้ยังไง
การที่คนไม่นับถือศาสนา ส่วนหนึ่งมาจาก การแพร่ธรรมเสื่อม ความเสื่อมของนักบวชและชีวิตศาสนิกตัวอย่าง
ผมคิดว่า "เราควรจะเป็นแบบอย่าง และสำแดงชีวิตที่เรียกว่า 'ชีวิตดี' ให้สังคมได้รับรู้"
ความจริงข้อนึงคือ "มนุษย์ขาดพระเจ้าไม่ได้เลย" แม้ว่าเค้าจะมีวิทยาศาสตร์หรือศาสนาที่ปฏิเสธพระเจ้าก็ตาม
Imagine. เขียน: และท่านรู้สึกยังไงหากพบผู้ไม่นับถือศาสนาหรือผู้ที่นับถือศาสนาอื่นที่ต่างจากท่าน
วิพากษ์วิจารณ์หรือนำเหตุผลต่างๆมาโจมตีศาสนา ศาสดา และคำสอนของศาสนาที่ท่านนับถืออย่างรุนแรง
และเมื่อท่านได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์หรือสารเหล่านั้น ท่านจะเกิดการตั้งข้อสงสัยในศาสนาที่ท่านนับถือหรือไม่
ผมเคยสงสัยในพระเจ้า "แต่ตอนนี้ไม่แล้ว"  : emo045 :
เพราะว่าผมรู้จักพระเจ้าที่ผมเชื่อ : emo045 : และเชื่อว่าทุกคนก็รู้จักพระเจ้ามากขึ้นทุกวันเดือนเหมือนกับผม  : xemo026 :

การก้าวร้าวรุนแรงต่อศาสนาอื่นๆ ไม่ว่าจะจากศาสนาไหนๆไปยังศาสนาไหนๆก็ตาม ล้วนเป็นการกระทำของคนชั่ว
มันอาจจะมีอยู่ครับ ประเภท ด่าศาสนาอื่น ร้ายกับศาสนาอื่น เหมือนคนชั่วร้าย แต่ในศีลบัญญัติศาสนาของตนกับประพฤติชอบธรรม!
แต่มันเป็นไปไม่ได้ ที่คนลักษณะนี้ จะเรียกว่าผู้ชอบธรรม

การเผยแพร่ความรักของพระคริสต์ไปนั้น เราไม่ได้ไปลบล้างศาสดาใดๆ แต่เราบอกความจริงให้โลกได้รู้
ว่า "มีพระเจ้าผู้หนึ่ง พระเจ้าแท้ แห่งความรัก พระองค์สร้างและรอคอยทุกคนให้กลับบ้านที่แท้จริง ...."
เหนือสิ่งอื่นใด เหนือหลักการณ์ใดๆ คือ "พระเจ้าเป็นความรัก และพระองค์ทรงสัตย์จริงเสมอ"  ::031::
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

อังคาร ธ.ค. 01, 2009 9:01 am

ขอยืมโควตพี่ Holy จากกระทู้เก่าๆครับ
Holy เขียน:
มันจะมีประโยชน์อะไรที่เฝ้าฝันถึงทฤษฎีที่ไม่เคยมีใครทำให้มันเป็นจริงได้ ทั้งคาล์มาร์ค สตาลิน เหมาเจอตุง หรือจอห์น เลนนอน ก็ไม่เคยทำให้สังคมที่เขาอยู่มันดีขึ้นได้จริงๆ

แต่ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ คุณแม่เทเรซ่า ทิ้งบ้านเกิดจากอัลบาเนีย ไปอุทิศชีวิตช่วยเหลือคนอินเดียในกัลกัตตา ที่ไม่ได้เป็นชนร่วมชาติซะด้วยซ้ำ ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ไม่เคยโอ้อวดตัวเองว่ายิ่งใหญ่ เป็นผู้นำ ต้องเคารพฉันนะ ทุกอย่างที่เธอทำยกให้พระเยซูเจ้าหมด เธอไม่ได้มีสาวๆลุ่มหลงจำนวนมากมากรี๊ดๆเป็นโหงพรายแบบนักร้องโด่งดัง แต่เธอมีแต่คำอวยพรให้คนอื่น และมีแต่ให้ความรักทุกคนรอบข้างเธอ

เจ้าของทฤษฎีแห่งความเที่ยงธรรมมีคนเดียวในโลก และทฤษฏีของเขาคือ "อาณาจักรสวรรค์มาถึงแล้ว"

และมีทฤษฏีของเขาคนเดียวที่พิสูจน์แล้วว่าหากปฏิบัติตามจริง สลัมก็กลายเป็นสวรรค์ และคนธรรมดาก็กลายเป็นนักบุญเดินดิน

เรามีแม่ชีเทเรซ่าแค่คนเดียวมาในโลก คนจนนับล้าน และคนที่ถูกละเมิดสิทธินับล้าน ได้รับการเยียวยา ถ้าเรามีคนแบบแม่ชีเทเรซ่ามากๆโลกจะดีขึ้นอีกเพียงไร้ คนจนคนด้อยโอกาส จะได้รับสิ่งที่เขาขาดอีกขนาดไหน แต่ถ้าเรามีคนแบบจอห์น เลนนอน หรือสตาลินมากๆ ผมก็ไม่รู้ว่าโลกมันจะดีขึ้นยังไง อาจมีเพลงฟังมากขึ้น มีอัลบัมติดท๊อปชาร์ตมากขึ้น  อาจมีอนุสาวรีย์ทั่นผู้นำมากขึ้น แล้ว...ยังไง

จอห์น เลนนอน เคยหลงตัวเองจนให้สัมภาษณ์ว่า

Lennon said, "Christianity will go. It will vanish and shrink. ... We're more popular than Jesus now; I don't know which will go first-rock 'n' roll or Christianity. Jesus was all right but his disciples were thick and ordinary."

คริสตศาสนาจะหายไป มันจะอัตรธานและจมลง ตอนนี้ เรา(วง4เต่า)ยังโด่งดังกว่าพระเยซูซะอีก ผมไม่รู้ว่าอะไรจะหายไปจากโลกก่อนกัน ระหว่างร็อคแอนโรลกับศาสนาคริสต์ พระเยซูก็พอไหว แต่พวกศิษย์ของเขา ออกจะทึ่ม แล้วก็พื้นๆ


หลังจากนั้นทั่วอเมริกาก็ออกมาประท้วงวงนี้ และสถานนีวิทยุต่างๆก็เลิกเปิดเพลงเขาอยู่พักนึง เลยออกมาขอโทษใหญ่เลย แล้วก็ฟื้นกลับมาดังใหม่

ผมอยากจะบอกว่า ถ้าคุณจอห์นอยากจะให้สิ่งที่อยู่ในเพลงอิมเมจินมันเป็นจริง ไม่ต้องเพ้อไปไกลขนาดให้ทั้งโลกไม่มีประเทศไม่มีศาสนาอะไรหรอก แค่เลิกหลงตัวเอง และเลิกปากเสีย โลกมันก็สงบขึ้นเยอะแล้ว

1คร 4:19
ถ้าเป็นพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะมาพบท่านในเร็ววันนี้ เมื่อนั้นข้าพเจ้าจะรู้ว่าคนที่หยิ่งผยองซึ่งพูดมากนั้นทำอะไรได้บ้าง พระอาณาจักรของพระเจ้าไม่อยู่ในคำพูด แต่อยู่ในการกระทำซึ่งแสดงพระอานุภาพของพระจิตเจ้า  

สำหรับผมแล้วทั้งโลกนี้ผมศึกษานักคิดทฤษฏีมามากมาย เป็นการง่ายที่จะพูดหรือสอนเรื่องหรูหราดูดี แต่ยากมากที่จะทำ ผมเห็นคนเดียวที่พิสูจน์คำพูดคำสอนของตัวเองได้จนหยดสุดท้ายของชีวิตคือพระเยซูเจ้า


ยน 18:37

ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นกษัตริย์ใช่ไหม” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์นั้นถูกต้องแล้ว เราเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์ เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา” 



ไม่มีศาสดาคนไหนในโลกใช้เวลาแพร่ธรรมแค่3ปี แต่อยู่ยาวนานถึงกว่า2000ปี และมีผู้เชื่อเป็นล้านล้าน ไม่มีมนุษย์คนไหนประสบความสำเร็จเท่านี้ เพราะผู้ที่ทำนี้คือพระเจ้า ยังคงสำแดงความจริงและยังทรงดำรงอยู่

ฟป 2:9
เพราะเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงเทิดทูนพระองค์ขึ้นสูงส่ง
และประทานพระนามให้แก่พระองค์
พระนามนี้ประเสริฐกว่านามอื่นใดทั้งสิ้น
เพื่อทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดิน
รวมทั้งใต้พื้นพิภพ
จะย่อเข่าลงนมัสการพระนาม “เยซู” นี้

ส่วนตัวผม คนไหนดำเนินชีวิตตามกระแสโลกมากเกินไป คนนั้นก็จะกลายเป็นคนไม่มีศาสนาไปในที่สุดล่ะครับ
แต่ผมไม่ค่อยใส่ใจกับคนที่ไม่ได้นับถือศาสนาสักเท่าไหร่ เพราะตราบเท่าที่เค้าเป็นคนดีนั่นก็โอเคสำหรับผมแล้วล่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ต้นไม้แห่งเจสซี
โพสต์: 343
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 3:33 pm
ที่อยู่: หลุมที่4 สุสานวัดพระราชินีแห่งสันติภาพ อรัญประเทศ
ติดต่อ:

อังคาร ธ.ค. 01, 2009 5:49 pm

อาหารเป็นสิ่งจำเป็นในร่างกายฉันใด  ศาสนาก็เป็นสิ่งจำเป็นของจิตวิญญาณฉันนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeanne d'Arc
โพสต์: 235
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm

อังคาร ธ.ค. 01, 2009 6:21 pm

เฉยๆครับ แต่ผมมองว่าเขายึดในทางโลกมากเกินไปครับ


แต่ในทางจิตใจและวิญญาณพวกเขาโดยมากล้วนล้มเหลว  : xemo016 :
kulnwnut2
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 01, 2009 6:22 pm

อังคาร ธ.ค. 01, 2009 6:47 pm

ผมก็ไม่นับถือศาสนา แต่ไม่ได้ไปทำร้ายหรือทำลายใคร ก็ไม่มีไรเกิดขึ้น
ในประเทศไทยคนส่วนใหญ่จะมีศาสนาคนที่กล้าประกาศว่าตัวเองไม่นับถือศาสนาจะถูกมองทันทีว่าคนนี้เป้นคนแปลก
แต่ถ้าไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อนเขาจะเข้าใจเอง  ตรงกันข้ามกับจีน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่นับถือ ศาสนา แต่มีคนนับถือศาสนาจะมองว่าคนนั้นเป็นนักอนุกรักษ์นิยม ผมได้คำตอบมาจากคนจีนโดยตรง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร ธ.ค. 01, 2009 6:53 pm

kulnwnut2 เขียน: ผมก็ไม่นับถือศาสนา แต่ไม่ได้ไปทำร้ายหรือทำลายใคร ก็ไม่มีไรเกิดขึ้น
ในประเทศไทยคนส่วนใหญ่จะมีศาสนาคนที่กล้าประกาศว่าตัวเองไม่นับถือศาสนาจะถูกมองทันทีว่าคนนี้เป้นคนแปลก
แต่ถ้าไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อนเขาจะเข้าใจเอง  ตรงกันข้ามกับจีน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่นับถือ ศาสนา แต่มีคนนับถือศาสนาจะมองว่าคนนั้นเป็นนักอนุกรักษ์นิยม ผมได้คำตอบมาจากคนจีนโดยตรง
: emo045 : ไม่แปลกหรอก  : emo045 :

เชิญชวนมาสัมผัสสิ่งดีๆไหม จิตใจจะได้ชุ่มฉ่ำไง  : emo027 :

จริงๆ การนับถือศาสนา ไม่ใช่การเอา หมวกศาสนา มาครอบงำเรานะ  : emo073 :

บางที ถ้าเราเข้าใจ อาจปรับมุมมองใหม่ก็ได้ ทำให้ส่งผลดีต่อจิตใจไง  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อังคาร ธ.ค. 01, 2009 9:13 pm

ไม่เชื่อไม่นับถือแบบเรานี่ยังไม่ว่าอะไรหรอก

แต่ถ้าถือว่าตัวเองคิดงั้นแล้วมาโจมตีพวกเรานี่สิ ถือว่าหาเรื่องตั้งตัวเป็นอริกันเห็น ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

พุธ ธ.ค. 02, 2009 12:22 am

Imagine. เขียน: อยากทราบความคิดเห็นของทุกๆท่านครับว่า คิดยังไงกับคนที่ไม่นับถือศาสนา
ท่านมีมุมมองต่อคนเหล่านี้อย่างไร และคิดว่าคนเราจำเป็นจะต้องมีศาสนาหรือไม่ อย่างไร
ศาสนาคือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่พระเจ้าไม่ใช่ศาสนาแต่เป็นพระผู้สร้างทุกสิ่ง รวมถึงสร้างมนุษย์ผู้ที่สร้างศาสนาขึ้นมา
ดังนั้นมนุษย์จำเป็นต้องรู้จักพระเจ้า และการรู้จักพระเจ้าก็เป็นการเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องรู้จักศาสนาใดๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นอีก
เพราะสิ่งนี้จะทำให้ไม่รู้จักพระเจ้าพระผู้สร้างที่แท้จริง

ส่วนคนที่บอกว่าไม่รู้จักพระเจ้ารวมถึงไม่นับถือสิ่งที่มนุษย์เรียกว่าศาสนาเลยก็เป็นไปไม่ได้
เพราะแม้เขาจะไม่รับเอาพระเจ้าหรือพระใดๆ เข้ามาในชีวิตเลย แต่เขาก็ยังมีสิ่งที่นับถืออยู่ดี
ซึ่งอาจจะเป็นพระเจ้าแห่งวิทยาศาสตร์ พระเจ้าแห่งเงินตรา พระเจ้าแห่งตัวตนของเขาเอง(นับถือตัวเอง) ฯลฯ
Imagine. เขียน: และคิดยังไงกับจำนวนผู้ไม่นับถือศาสนาในปัจจุบัน ที่มีมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
รองจากผู้ที่นับถือคริสต์และอิสลาม ซึ่งมีมากเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ
และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในอนาคต ท่านมองในจุดนี้ยังไง
สืบเนื่องมาจากข้างบน ผู้ที่นับถือศาสนาที่มนุษย์สร้างขึ้นเหมือนกับผู้ที่นับถือ
พระเจ้าแห่งวิทยาศาสตร์ พระเจ้าแห่งเงินตรา พระเจ้าแห่งตัวตนของเขาเอง(นับถือตัวเอง) ฯลฯ
ตรงที่คนเหล่านี้ต่างไม่รู้จัก และมีความจำเป็นต้องรู้จักพระเจ้าพระผู้สร้างสรรพสิ่ง

แต่ต่างกันตรงที่ผู้ที่นับถือศาสนาที่มนุษย์สร้างขึ้นจะมีแนวโน้มทางศีลธรรมที่ดีกว่า
ผู้ที่นับถือพระเจ้าแห่งวิทยาศาสตร์ พระเจ้าแห่งเงินตรา หรือนับถือตัวเอง
Imagine. เขียน: และท่านรู้สึกยังไงหากพบผู้ไม่นับถือศาสนาหรือผู้ที่นับถือศาสนาอื่นที่ต่างจากท่าน
วิพากษ์วิจารณ์หรือนำเหตุผลต่างๆมาโจมตีศาสนา ศาสดา และคำสอนของศาสนาที่ท่านนับถืออย่างรุนแรง
เป็นสิทธิของเขาที่จะวิจารณ์ ส่วนข้าพเจ้าก็รู้สึกเฉยๆ เพราะรู้อยู่แล้วจากที่พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่าจะมีคนไม่รู้จักพระเจ้า
มีคนได้ยินเรื่องพระเจ้าแต่ไม่เชื่อ มีการกดขี่ข่มเหง ฯลฯ และรู้สึกสงสารที่พวกเขาไม่รู้จักพระเจ้า แถมยังหมิ่นประมาทพระองค์อีก
Imagine. เขียน: และเมื่อท่านได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์หรือสารเหล่านั้น ท่านจะเกิดการตั้งข้อสงสัยในศาสนาที่ท่านนับถือหรือไม่
ไม่แน่นอนเพราะคำพูดของมนุษย์ไม่อาจทำลายพระวจนะของพระเจ้าได้



ปล. คำตอบทั้งหมดเป็นความเชื่อส่วนตัวนะคะ  : emo045 :
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ธ.ค. 02, 2009 12:25 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ ธ.ค. 02, 2009 2:21 am

Imagine. เขียน: อยากทราบความคิดเห็นของทุกๆท่านครับว่า คิดยังไงกับคนที่ไม่นับถือศาสนา
ท่านมีมุมมองต่อคนเหล่านี้อย่างไร และคิดว่าคนเราจำเป็นจะต้องมีศาสนาหรือไม่ อย่างไร

และคิดยังไงกับจำนวนผู้ไม่นับถือศาสนาในปัจจุบัน ที่มีมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
รองจากผู้ที่นับถือคริสต์และอิสลาม ซึ่งมีมากเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ
และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในอนาคต ท่านมองในจุดนี้ยังไง
อันนี้น่ะเหรอครับ
1. Christianity                                          2.1 billion
2. Islam                                                  1.5 billion
3. Secular/Nonreligious/Agnostic/Atheist    1.1 billion
4. Hinduism                                            900 million
5. Chinese traditional religion                    394 million
6. Buddhism                                            376 million
7. primal-indigenous                                300 million
8. African Traditional & Diasporic              100 million
9. Sikhism                                              23 million
10. Juche                                                19 million
11. Spiritism                                            15 million
12 Judaism                                              14 million
13. Baha'i                                                  7 million
14.Jainism                                                4.2 million
15. Shinto                                                4 million
16. Cao Dai                                              4 million
17. Zoroastrianism                                    2.6 million
18.Tenrikyo                                              2 million
19. Neo-Paganism                                    1 million
20. Unitarian-Universalism                          800 thousand
21. Rastafarianism                                    600 thousand
22 Scientology                                          500 thousand
ความจริงคุณ Deo Gratias ตอบไว้ชัดเจนนะครับ คนที่อยู่ใน 1.1 ล้านนั้น เกินครึ่งน่าจะเห็นเงินเป็นพระเจ้า ตามประสาโลก แม้แต่ในคนนับถือศาสนาต่างๆ ก็ยังอาจเห็นเงินเป็นพระเจ้าได้ เรียกว่าพวกยังตัดกิเลสไม่ขาดนั่นเอง แต่มามองดีๆ อันดับสาม ไม่ใช่ว่ามีจำนวน1ใน3นะครับ

รูปภาพ

จำนวน 16 % ก็ราว 1 ใน 6 ต่อให้เพิ่มเป็นเท่าตัว เป็น 1 ใน3 ได้ คงใช้เวลาหลายร้อยปีหลายพันปีอยู่ แต่ในขณะเดียวกันศาสนาอื่นๆเขาก็คงไม่ได้อยู่เฉยๆ แต่ก็คงเพิ่มจำนวนไปด้วยเหมือนกัน ดังนั้น ไม่แน่ว่า มันอาจลดลงก็ได้ อนาคตไม่มีใึครทราบ


ส่วนคำถามที่ว่าคิดอย่างไร อันนี้ต้องถามกลับครับว่ากลุ่มไหน เพราะกลุ่มคนไม่มีศาสนายังจัดเป็น2จำพวกคือ

1.พวกไม่มีศาสนาเพราะไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติใดๆเลย คิดว่าคนก็ไม่ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นในโลก เกิดมา กิน ขี้ ปี้ นอน แล้วตายไป ไม่มีจุดหมายของชีวิตหลังความตาย ไม่มีจิต ไม่มีวิญญาณ ไม่มีสวรรค์ ไม่มีนรก ไม่มีชาติหน้า จะว่าไป เขาคงมองคนเหมือนคอมพิวเตอร์เดินได้เท่านั้น พังก็จบ คนพวกนี้ก็พึงแสวงหาความสุขทางโลกเท่านั้น กอบโกยความสุขในโลกให้มากที่สุด เพราะถ้าตายเมื่อไหร่ เวลากอบโกยสุขก็จะหมดแล้ว ว่าแต่ว่า จะมีคนแบบนี้จริงๆเหรอ

คุณคิดว่าเขาจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรถ้าคิดแบบนี้จริงๆ ถ้าพ่อแม่หรือคนที่เขารักตาย เขาคงตายตามได้ทางเดียว เพราะเขาพลัดพรากจากกันตลอดกาลจริงๆไม่ได้มีความหวังว่าจะพบกันอีกในชีวิตหน้าแต่อย่างใด หรือพอถึงเวลาเขาเองจะตาย เขาคงกลัวมาก เพราะเขาจะหายไปจากจักรวาลนี้โดยถาวรแล้ว งานศพก็คงไม่ต้องมี ไม่ต้องมีใครมาเยี่ยมหลุมศพก็ได้ เพราะไม่มีวิญญาณ ย่อมไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นหลังจากนั้น ชีวิตอันแสนสั้นของมนุษย์กลายเป็นความหดหู่อันแสนเศร้า


2.พวกไม่นับถือศาสนา แต่เชื่อว่ามีวิญญาณ ในสิ่งมีชีวิต มีชีวิตหลังความตาย มีโลกมิติของจิตวิญญาณอยู่ หรือแม้แต่อาจจะเชื่อว่ามีสถานะของสิ่งที่สูงกว่าตัวเองอย่างพระเจ้าอยู่ด้วยซ้ำคนกุล่มนี้ อาจมองศาสนาทั่วไปเหมือนสังกัด และเรื่องของระบบระเบียบที่ตัวเองไม่ชอบ เลยไม่ขอเข้าสังกัดศาสนานั้นนี้ คนกลุ่มนี้ อาจผันตัวกลายเป็นพวกนับถือศาสนาทุกศาสนาไปหมด คืออะไรดีก็รับไว้แต่ไม่ยึดว่าตัวเองอยู่สังกัดใดสังกัดหนึ่ง คนพวกนี้ ยังคงมีความกลัวบาปบุญคุณโทษ ยังมีความหวังว่า การทำดีในโลก แม้แต่ยอมสละความสุขทางโลกบ้างเพื่อทำความดี จะไม่สูญเปล่า เพราะยังหวังว่า แม้จะไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในชีวิตนี้ แต่ก็จะส่งผลดีแก่เขาในชีวิตหลังความตายได้

รม 2:114
ดังนั้น เมื่อคนต่างชาติซึ่งไม่รู้จักธรรมบัญญัติ และประพฤติตามข้อกำหนดของธรรมบัญญัติจากสามัญสำนึก แม้พวกเขาจะไม่รู้จักธรรมบัญญัติ พวกเขาก็เป็นธรรมบัญญัติสำหรับตนเอง  พวกเขาแสดงให้เห็นสิ่งที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ในใจตามมโนธรรมและบางครั้งความคิดตามเหตุผลที่กล่าวโทษก็ป้องกันพวกเขา  ในวันที่พระเจ้าทรงตัดสินพิพากษาความคิดที่เร้นลับของมนุษย์ทุกคนด้วยเดชะพระเยซูคริสตเจ้า ตามข่าวดีที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้ 


ดังนั้นถ้าเป็นแบบที่2 ก็คงเรียกว่ามีศาสนาในแบบตัวเอง ได้เหมือนกัน สุดท้ายก็เข้าข่ายที่ว่า ไม่มีใครหรอกที่ไม่นับถืออะไรเลยจริงๆ



และท่านรู้สึกยังไงหากพบผู้ไม่นับถือศาสนาหรือผู้ที่นับถือศาสนาอื่นที่ต่างจากท่าน
วิพากษ์วิจารณ์หรือนำเหตุผลต่างๆมาโจมตีศาสนา ศาสดา และคำสอนของศาสนาที่ท่านนับถืออย่างรุนแรง
และเมื่อท่านได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์หรือสารเหล่านั้น ท่านจะเกิดการตั้งข้อสงสัยในศาสนาที่ท่านนับถือหรือไม่

อยากรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ในมุมมองของแต่ละท่านครับ

การพูดจาด้วยเหตุและผลหรือการถกเถียงทักถามทางศาสนาด้วยเหตุและผลไม่ใช่ปัญหา แต่คำว่า รุนแรง นี่แหละปัญหา ต่อให้ไม่ใช่เรื่องศาสนา เป็นเรื่องเกมส์ เรื่องการเมือง เรื่องนักร้องที่ชอบ แต่คุยกันด้วยความรุนแรง เราเรียกว่าพวกไม่มีมารยาททางสังคม การพูดตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำรุนแรงก็สามารถทำได้ และไม่ว่าเรื่องอะไร ผู้มีวุฒิภาวะก็สามารถสนทนาหรือเสวนาด้วยได้ แต่นิสัยชอบใช้อารมณ์ ชอบใช้ถ้อยคำหยาบหยามดูถูกรุนแรง เป็นเรื่องที่คนมีการศึกษา หรือมีวิฒิภาวะไม่ควรทำ มันก็แค่เรื่องมารยาทสังคมพื้นฐานที่คนใช้อินเตอร์เนทควรเรียนรู้และปฏิบัติ ไม่ว่าจะมีศาสนาไหม

แต่ถ้าถามว่า จะทำให้เกิดสงสัยในศาสนาตนไหมเนี่ย ต้องบอกว่า เวบบอร์ดนี้ผ่านเรื่องแบบนี้บ่อยมากนะครับ คนเข้ามาป่วน มาด่า มาหาเรื่อง แบบเกรียน จนไปถึงคนที่เข้ามาต้องการถกเถียงเอาความเข้าใจจริงๆแบบอารยชน จนบัดนี้ ยังไม่มีอะไรที่ผม และเพื่อนสมาชิกอีกหลายท่าน ให้คำตอบไม่ได้ ในสิ่งที่ตนเองเชื่อและนับถือ นอกจากกรณีจับเจตนาได้ว่าต้องการมาหาเรื่อง และมาก่อกวน ซึ่งเป็นการเสียเวลา และเปลืองทรัพยากรในการเสวนาด้วย ก็ลบกระทู้ทิ้ง และเชิญไปคุยกับคนอื่น ที่อื่น หรือให้ไปบำบัดจิตใจและอารมณ์ให้ปรกติซะก่อน

ถ้าถามจริงๆ สมัยก่อนที่นับถือศาสนาตามพ่อแม่ ยังไม่รู้และยังไม่เข้าใจในศาสนาตัวเองเท่าไหร่ เวลาโดนโจมตีก็สับสนมึนงง สงสัยไปเหมือนกัน แต่ปัจจุบัน ผมได้พบกับสิ่งที่เกินความรู้ซะด้วยซ้ำ ผมได้รับการพิสูจน์ด้วยเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตจริงหลายครั้ง จน มันไม่ใช่คำว่าเชื่อแล้ว แต่มันเป็นการ ยอมรับความจริง ว่า พระเจ้าทรงมีจริง ทรงดูแลเราจริงๆ จากประสบการณ์ชีวิตจริงๆ ทำให้คนที่อดีตช่างสงสัย บ้าเหตุผล ถึงขั้นเคยพูดออกมาว่าตัวเองจะเป็นคนนับถือทุกศาสนาเลย ต้องยอมจำนนต่อความจริงที่ปรากฎกับชีวิต และยอมรับพระเจ้าแท้จริงเพียงพระองค์เดียวที่รักและเมตตาเราอย่างแท้จริง ผมล้างบาปตัั้งแต่เด็ก แต่พึ่งซึ้งกับพระวาจาบทนี้ได้ไม่กี่ปี เมื่อได้เจอกับตัวเอง

ยน 6:68
ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระเจ้าข้า พวกเราจะไปหาใครเล่า พระองค์มีพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร  พวกเราเชื่อ และรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
 

ซึ่งผมก็ยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีประสบการณ์แบบเรา คนหลายๆคน ยังเหมือนเราในสมัยก่อนที่พระเจ้ายังไม่ไขแสดงพระองค์อย่างพิเศษ อาจยังสงสัย อาจยังไม่แน่ใจ ดังนั้นถ้าถามเอาจากความคิดเห็นส่วนตัวของผม ก็ขอตอบเลยว่า สำหรับตัวผมในเวลานี้ ต่อให้ใครใช้คำหยาบถ่อยสถุนแค่ไหน ก็ไม่ระคายจุดความศรัทธาเราได้เลย มีแต่ระคายหูกับระคายตา และเสียเวลาคอยลบคอยไล่เท่านั้นเอง


ขอพระเจ้าอวยพรครับ
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

พุธ ธ.ค. 02, 2009 7:36 am

ที่บ้านน้องสาวคนเล็กก็ประกาศตัวว่าเป็นคนไม่มีศาสนา

เธอไม่เข้าวัด เธอทำแต่งานๆๆๆ ชอปปิ๊ง ซื้อๆๆๆๆ แล้วชีวิตก็ไม่เห็นมีความสุขตรงไหนเลย

คอยมองมาตลอด เพียงแต่นั่งรอเวลาที่เค้าต้องการศาสนาเท่านั้นเอง

ตอนนี้คงยังมีความทุกข์ไม่ถึงขั้น + ยังมีเงินซื้อของเพื่อกลบทุกข์ไปเรื่อยๆ

คิดว่าถึงเวลาที่เค้าหิวก็ค่อยให้เค้า คงไม่ไปยัดเยียดให้กินค่ะ : xemo016 :
Apostolic`See
โพสต์: 472
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 23, 2009 5:22 am
ที่อยู่: 361/77 หมู่ 6 ซ.พหลโยธิน 55 ถ.พหลโยธิน อนุสาวรีย์ บางเขน กรุงเทพมหานคร

พุธ ธ.ค. 02, 2009 8:57 am

หลักแหลมมากครับ อิอิ  : xemo016 : : xemo016 :

 ::021:: ::021::
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ธ.ค. 02, 2009 9:00 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ ธ.ค. 02, 2009 9:06 am

sinner เขียน: ที่บ้านน้องสาวคนเล็กก็ประกาศตัวว่าเป็นคนไม่มีศาสนา

เธอไม่เข้าวัด เธอทำแต่งานๆๆๆ ชอปปิ๊ง ซื้อๆๆๆๆ แล้วชีวิตก็ไม่เห็นมีความสุขตรงไหนเลย

คอยมองมาตลอด เพียงแต่นั่งรอเวลาที่เค้าต้องการศาสนาเท่านั้นเอง

ตอนนี้คงยังมีความทุกข์ไม่ถึงขั้น + ยังมีเงินซื้อของเพื่อกลบทุกข์ไปเรื่อยๆ

คิดว่าถึงเวลาที่เค้าหิวก็ค่อยให้เค้า คงไม่ไปยัดเยียดให้กินค่ะ : xemo016 :
ขอวาระแห่งการคืนดีกับพระเจ้า มาถึงเร็วๆๆเทอญ  : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeanne d'Arc
โพสต์: 235
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm

พุธ ธ.ค. 02, 2009 5:33 pm

Holy เขียน:
1.พวกไม่มีศาสนาเพราะไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติใดๆเลย คิดว่าคนก็ไม่ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นในโลก เกิดมา กิน ขี้ ปี้ นอน แล้วตายไป ไม่มีจุดหมายของชีวิตหลังความตาย ไม่มีจิต ไม่มีวิญญาณ ไม่มีสวรรค์ ไม่มีนรก ไม่มีชาติหน้า จะว่าไป เขาคงมองคนเหมือนคอมพิวเตอร์เดินได้เท่านั้น พังก็จบ คนพวกนี้ก็พึงแสวงหาความสุขทางโลกเท่านั้น กอบโกยความสุขในโลกให้มากที่สุด เพราะถ้าตายเมื่อไหร่ เวลากอบโกยสุขก็จะหมดแล้ว ว่าแต่ว่า จะมีคนแบบนี้จริงๆเหรอ

คุณคิดว่าเขาจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรถ้าคิดแบบนี้จริงๆ ถ้าพ่อแม่หรือคนที่เขารักตาย เขาคงตายตามได้ทางเดียว เพราะเขาพลัดพรากจากกันตลอดกาลจริงๆไม่ได้มีความหวังว่าจะพบกันอีกในชีวิตหน้าแต่อย่างใด หรือพอถึงเวลาเขาเองจะตาย เขาคงกลัวมาก เพราะเขาจะหายไปจากจักรวาลนี้โดยถาวรแล้ว งานศพก็คงไม่ต้องมี ไม่ต้องมีใครมาเยี่ยมหลุมศพก็ได้ เพราะไม่มีวิญญาณ ย่อมไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นหลังจากนั้น ชีวิตอันแสนสั้นของมนุษย์กลายเป็นความหดหู่อันแสนเศร้า
นิยายเรื่อง Brave New World ไงครับ

พวกนี้แหละ ที่จะล้มเหลวทางจิตใจ ไร้ที่พึ่ง ไร้อาหารทางจิตวิญญาณ  ต่อสู้ในชีวิตได้ยากกว่าคนมีศาสนา  บางคนพ่ายแพ้ต่อความจริงไปเลย

: xemo016 :

P$. บางทีคนไม่มีศาสนาส่วนใหญ่ อาจจะเป็นเพียงพวก "ซึนเดเระ" ก็ได้มั้งครับ  ไม่งั้นเขาคงไม่สำนึกว่าสิ่งใดชั่วดี ไม่รู้จักความรัก ฯลฯ ไปแล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ธ.ค. 02, 2009 5:35 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ecclēsia
โพสต์: 976
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ติดต่อ:

พุธ ธ.ค. 02, 2009 8:05 pm

คิดว่าเขานับถืออย่างอื่น เเต่ไม่ใช่ศาสนา

ถ้าตรงกับคำสอนที่ดีของศาสนา ก็ดีไป
ถ้าตรงกันข้าม ก็เเย่หน่อย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Imagine.
โพสต์: 12
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ธ.ค. 01, 2009 1:34 am

พุธ ธ.ค. 02, 2009 8:36 pm

ขอขอบคุณทุกความเห็นครับ

ส่วนใหญ่ที่นี่เป็นคริสต์ใช่ไหมครับ
อยากได้ความเห็นจากผู้นับถือศาสนาอื่นๆบ้างครับ
เช่น พุทธ อิสลาม และอื่นๆ รวมถึงคนที่ไม่นับถือบ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ ธ.ค. 02, 2009 8:36 pm

Imagine. เขียน: ขอขอบคุณทุกความเห็นครับ

ส่วนใหญ่ที่นี่เป็นคริสต์ใช่ไหมครับ
อยากได้ความเห็นจากผู้นับถือศาสนาอื่นๆบ้างครับ
เช่น พุทธ อิสลาม และอื่นๆ รวมถึงคนที่ไม่นับถือบ้างครับ
ลองไปถามที่บอร์ดประมูลสิ จะเห็นภาพ  : xemo028 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zaliaus
โพสต์: 640
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 07, 2007 1:03 am
ที่อยู่: ...

พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 12:25 am

ในความสัมพันธ์ทางด้านสังคม

การที่คนจะมีศาสนาหรือไม่ ก็ไม่เห็นจะสำคัญ

เป็นเรื่องของปัจเจก

เขาอาจจะเป็นคนดี ประสบการณ์ความสำเร็จ เงินทอง เกียรติยศ ฯลฯ

ดีกว่าคนที่มีศาสนา หรือ เคร่งศาสนา ในหลายๆเรื่องด้วยซ้ำไป

แต่จิตวิญญาณภายในนั้น......ก้ไม่อาจรู้สินะ 

ในบั้นปลายคนที่ไม่มีศาสนาอาจมีทุกสิ่งครบ บ้าน รถ เงินทอง ลูกหลาน ความอบอุ่น ซื่อเสียง ความนับหน้าถือตา ทุกสิ่่งที่จะหาได้ในทางโลก

แต่มันจะต้องมีสักอย่างที่เรารู้สึกว่ามันขาดไป อะไรสักอย่าง......... เหมือนกันเราเล่นเกมส์ใกล้จะเคลียร์ แต่มันก็ไม่เคลียร์สักที

หวังว่ามันคงไม่สายเกินไปที่จะพบ
HARUHI[ism]
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 1:16 am

พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 1:36 am

ศาสนาย่อมเสื่อมโทรมลงไปพร้อมกับการวิวัฒนาการของวิทยาศาสตร์

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ยิ่งวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าขึ้นเท่าไหร่ มนุษย์ยิ่งต้องการคำอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ มากขึ้นเท่านั้น

อย่างเช่นเมื่อก่อนฝ้าผ่าที เราก็ตกใจกราบไหว้

ตอนนี้เราอธิบายได้แล้วว่าเกิดจากอะไร

ต่อไปเหตุการณ์ที่ปัจจุบันบอกไม่ได้ อาจสามารถอธิบายได้ทั้งหมด

แล้วศาสนาจะกลายเป็นสิ่งเตือนใจเท่านั้น

การจัดอันดับในอีกสิบปีข้างหน้า ที่หนึ่งอาจเป็นกลุ่มคน " ไร้ศาสนา " ก็ได้ ใครจะรู้ ?
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 1:47 am

BoYz - The Series เขียน: ลองไปถามที่บอร์ดประมูลสิ จะเห็นภาพ  : xemo028 :
พูดถึงประมูล ประมูลก็มา... : xemo028 :
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 2:40 am

คนไม่มีแก่นในการดำเนินชีวิต
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 5:48 am

sasuke เขียน:
BoYz - The Series เขียน: ลองไปถามที่บอร์ดประมูลสิ จะเห็นภาพ  : xemo028 :
พูดถึงประมูล ประมูลก็มา... : xemo028 :
: xemo028 : : xemo028 : : xemo028 : 555+
Little Boy
โพสต์: 250
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 3:33 am

พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 10:14 am

ผมคิดว่าคนที่ไม่นับถือศาสนาคือคนที่ไม่สามารถวางแผนชีวิตหลังความตายได้อ่ะครับ
ซึ่งเค้าอาจจะคิดว่าชีวิตหลังความตายไม่มีก็ได้... หรือไม่งั้นเค้าก็ไม่รู้ว่าจะหาความจริงได้จากใหน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ecclēsia
โพสต์: 976
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 10:17 am

BoYz - The Series เขียน:
sasuke เขียน:
BoYz - The Series เขียน: ลองไปถามที่บอร์ดประมูลสิ จะเห็นภาพ  : xemo028 :
พูดถึงประมูล ประมูลก็มา... : xemo028 :
: xemo028 : : xemo028 : : xemo028 : 555+
๕๕๕๕๕๕  : xemo017 : : xemo028 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ธ.ค. 03, 2009 6:46 pm

ศาสนาเป็นสิ่งที่จำเป็นของชีวิตอันสั้นของมนุษย์นะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 1:37 am

ผมมีญาติเป็นชาวอังกฤษ และวัยรุ่นอังกฤษบางคนรับแนวคิด ไม่มีศาสนา ทั้งที่จริงไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติหรืออะไร แต่เพียงแค่เข้าใจไปเองว่าศาสนาเป้นเรื่องของคนแก่ และคิดเอาว่า ศาสนามีข้อบังคับมาก บอกว่าไม่มีศาสนาจะได้ไม่ต้องไปโบสถ์ และแน่นอนว่าลูกพี่ลูกน้องของผมคนนี้ก็เป็นแบบเดียวกัน คือแค่คิดว่าการมีศาสนามันน่าเบื่อข้อบังคับเยอะ ต้องไปโบสถ์ แต่งตัวโป๊ หรือกุ๊กกิ๊กกับเพื่อนชายก็ไม่ได้

แต่มันดันเป็นคนที่ขี้กลัวผีมาก ตอนมาค้างบ้านผมช่วงมาเที่ยวเมืองไทย ไม่กล้าเดินไปโน่นนี่คนเดียวตอนกลางคืน ก็ตลกดี ปากบอกไม่เชื่อพระเจ้า แต่ดันเชื่อว่ามีผี แต่ครอบครัวผมก็ยังยืนยันและพากเพียรพูดความจริงเรื่องพระเจ้ากับเธอ และผมบอกเธอเสมอว่า ไอไม่กลัวผี เพราะไอเป็นลูกจีซัส จีซัสจะไล่ผีให้ไอ ถ้ายูกลัวผี เรียกจีซัสเลย

จนวันที่ขึ้นเครื่องบินกลับ แม่ผมให้ของขวัญเป็นสร้อยห้อยไม้กางเขน พอกลับถึงลอนดอน เธอโทรกลับมาเล่าด้วยเสียงตื่นเต้นว่า ระหว่างทางเครื่องบินตกหลุมอากาศ เธอกลัวมาก จับกางเขนอธิษฐานตลอดเลยว่า Jesus help me พอกลับได้ปลอดภัยก็ ขอบคุณพระเจ้าแล้วโทรมาเล่าใหญ่ แม้ว่าเธอจะยังชอบปาร์ตี้ กับไม่ค่อยชอบไปโบสถ์ แต่มันก็คือข้อพิสูจน์ว่าจริงๆแล้ว คนที่บอกว่าตัวเองไม่เชื่ออะไร หรือไม่มีศาสนา จริงๆอาจไม่ใช่ก็ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nihil
~@
โพสต์: 1763
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 4:36 pm
ที่อยู่: Pax
ติดต่อ:

ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 10:44 am

Holy เขียน: ผมมีญาติเป็นชาวอังกฤษ และวัยรุ่นอังกฤษบางคนรับแนวคิด ไม่มีศาสนา ทั้งที่จริงไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติหรืออะไร แต่เพียงแค่เข้าใจไปเองว่าศาสนาเป้นเรื่องของคนแก่ และคิดเอาว่า ศาสนามีข้อบังคับมาก บอกว่าไม่มีศาสนาจะได้ไม่ต้องไปโบสถ์ และแน่นอนว่าลูกพี่ลูกน้องของผมคนนี้ก็เป็นแบบเดียวกัน คือแค่คิดว่าการมีศาสนามันน่าเบื่อข้อบังคับเยอะ ต้องไปโบสถ์ แต่งตัวโป๊ หรือกุ๊กกิ๊กกับเพื่อนชายก็ไม่ได้

แต่มันดันเป็นคนที่ขี้กลัวผีมาก ตอนมาค้างบ้านผมช่วงมาเที่ยวเมืองไทย ไม่กล้าเดินไปโน่นนี่คนเดียวตอนกลางคืน ก็ตลกดี ปากบอกไม่เชื่อพระเจ้า แต่ดันเชื่อว่ามีผี แต่ครอบครัวผมก็ยังยืนยันและพากเพียรพูดความจริงเรื่องพระเจ้ากับเธอ และผมบอกเธอเสมอว่า ไอไม่กลัวผี เพราะไอเป็นลูกจีซัส จีซัสจะไล่ผีให้ไอ ถ้ายูกลัวผี เรียกจีซัสเลย

จนวันที่ขึ้นเครื่องบินกลับ แม่ผมให้ของขวัญเป็นสร้อยห้อยไม้กางเขน พอกลับถึงลอนดอน เธอโทรกลับมาเล่าด้วยเสียงตื่นเต้นว่า ระหว่างทางเครื่องบินตกหลุมอากาศ เธอกลัวมาก จับกางเขนอธิษฐานตลอดเลยว่า Jesus help me พอกลับได้ปลอดภัยก็ ขอบคุณพระเจ้าแล้วโทรมาเล่าใหญ่ แม้ว่าเธอจะยังชอบปาร์ตี้ กับไม่ค่อยชอบไปโบสถ์ แต่มันก็คือข้อพิสูจน์ว่าจริงๆแล้ว คนที่บอกว่าตัวเองไม่เชื่ออะไร หรือไม่มีศาสนา จริงๆอาจไม่ใช่ก็ได้

vอ่านแล้วยิ้มเลยครับ  : emo045 :
Little Boy
โพสต์: 250
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 27, 2009 3:33 am

ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 10:46 am

บางคนเขาก็คิดว่าศาสนาเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้สังคมสงบสุขอ่ะครับ
เขาก็เลยคิดว่าถ้าเราไม่ไปทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่นก็ใช้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีศาสนา
(อันนี้คือความคิดผมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนไม่มีศาสนาครับ)
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 2:42 pm

จริงๆ แล้ว ผมว่าลึกๆ ในใจของแต่ละคน เชื่อว่าพระเป็นเจ้าทรงดำรงอยู่จริง

เพียงแต่ว่า ภาพลักษณ์ของพระองค์ไม่ตรงกับจินตนาการ ความคิดของเขา

เขาก็เลยไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง

ตัวอย่างเช่น 

พระเจ้าไม่มีจริงหรอก ทำไมไม่สร้างให้ทุกคนเป็นคนดีหมดเลยล่ะ

ทำไมบางคนพิการ ทำไมคนนี้หล่อ คนนั้นสวย คนนั้นรวย

ทำไมยังมีสงคราม บลาๆๆๆ  (ยาวไปถึงดาวเสาร์)

สิ่งที่เราพอจะทำได้ ก็คงต้องสวดภาวนาเพื่อพวกเค้าครับ  : emo031 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeanne d'Arc
โพสต์: 235
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm

ศุกร์ ธ.ค. 04, 2009 11:05 pm

sasuke เขียน:
BoYz - The Series เขียน: ลองไปถามที่บอร์ดประมูลสิ จะเห็นภาพ  : xemo028 :
พูดถึงประมูล ประมูลก็มา... : xemo028 :
ไปพูดถึงเขาเชิงสองแง่สองง่าม ระวังเขายกพลมาบุกอีกนะครับ เห็นแล้วปวดตับ
ตอบกลับโพส